Share

บทที่ 11

last update Last Updated: 2025-05-13 15:40:44

๑๐

บนภูเขา

“โอ้โฮ! เห็ดเยอะจริงด้วย แล้วจะรู้ได้อย่างไร อันไหนทานได้อันไหนทานไม่ได้”

จางจงกว่านตบอกตนเองอย่างมั่นใจ

“เชื่อมือเสี่ยวกว่าน เราจะได้ทานเห็ดย่างที่อร่อยที่สุดบนภูเขา”

“เชื่อก็ได้”

ตอนแรกชุนเอ๋อร์คิดว่าจางจงกว่านขี้โม้ ใครจะไปคิดว่าเขาจะช่วยแนะนำพร้อมอธิบายชื่อเห็ดให้ฟังได้ทุกชนิด

เมื่อได้เห็ดมาจำนวนหนึ่งแล้ว หลันเฟิงก็บอกให้ทุกคนพักก่อน เพราะเขาเห็นมารดาดูเหนื่อยมากแล้ว

“ท่านแม่ เราพักทานอาหารเที่ยงก่อนดีหรือไม่ เฟิงเอ๋อร์ได้ยินเสียงลำธาร เดี๋ยวเฟิงเอ๋อร์จะไปจับปลามาให้”

“เช่นนั้นฝากล้างเห็ดด้วยได้หรือไม่”

หลันเฟิงหันไปมองจางจงกว่านแล้วกระดิกนิ้วให้เขาตามมา คนที่กะจะคอยนั่งเป็นคุณชายดูคนอื่นทำเฉย ๆ เป็นต้องเด้งตัวลุกจากที่นั่งเดินตามหลันเฟิงไป

“เหล่าต้า รอด้วยขอรับ!”

ทุกคนนั่งพักบริเวณใต้ต้นไม้ใหญ่ที่รากใหญ่มาก ลำต้นเป็นโพรงสัตว์ป่าสามารถเข้าไปซ่อนตัวในนั้นได้

ใบแตกกิ่งก้านสาขาจนบดบังแสงอาทิตย์ในยามกลางวัน พื้นที่บริเวณนี้จึงดูอึมครึมให้ความรู้สึก ‘แปลก’

“เสี่ยวเหอ เสี่ยวเฉิน รู้สึกว่าบริเวณนี้แปลกหรือไม่”

โจวฉือเหอยิ้มด้วยท่าทางผ่อนคลายเพื่อให้ชุนเอ๋อร์สบายใจ กล่าวเสียงนุ่มว่า...

“เสี่ยวกูกุอย่าได้กังวล เราพักที่นี่ไม่นานขอรับ ทานมื้อกลางวันเสร็จก็จะกลับในทันที”

ชุนเอ๋อร์พยักหน้ารับ จากนั้นก็เดินสำรวจพื้นที่บริเวณนี้ต่อโดยให้ความสนใจรากไม้ใหญ่เป็นพิเศษ นางยื่นมือกำลังจะแตะต้นไม้แต่ก็โดนโจวฉือเหอห้ามเอาไว้

“เสี่ยวกูกุอย่าเพิ่งแตะขอรับ”

เขาห้ามไม่ให้นางแตะรากไม้ ทว่าตนกลับยื่นมือเข้าไปแตะเสียเอง มือหนากำหมัดแล้วเคาะไปที่ต้นไม้เบา ๆ

“เป็นอย่างไรบ้าง มีตัวอะไรซ่อนอยู่ด้านในหรือไม่ อย่างเช่น อาจจะเป็นงูจำนวนมากกำลังยั้วเยี้ยอยู่ในนี้”

โจวฉือเหอหัวเราะเบา ๆ

“ไม่มีขอรับ แต่ถ้ามีจริง ๆ ก็คงโดนจี้เฉินจับไปผัดเผ็ดแล้ว”

ชุนเอ๋อร์หันไปมองเกาจี้เฉินด้วยสีหน้าตกตะลึง

“เสี่ยวเฉิน แบบนี้ก็ไม่ไหวนะ”

ตอนที่นางอยู่บ้านเดิมของอดีตสามี นางเห็นอยู่บ้างว่าลูกน้องของเขามักเอางูมาดองเป็นยา

แค่นึกภาพก็ไม่ไหวแล้ว

โจวฉือเหอเห็นท่าทางขยาดของชุนเอ๋อร์จึงได้เอ่ยถาม

“เสี่ยวกูกุกลัวงูมากใช่หรือไม่”

“ใช่ แค่คิดก็ขนลุก”

“แล้วเลี้ยงไก่ได้อย่างไร”

ชุนเอ๋อร์หันไปมองเกาจี้เฉินแต่ไม่ตอบคำถาม เพราะไม่เข้าใจว่ามันเกี่ยวข้องกันอย่างไร

โจวฉือเหอถึงได้เป็นคนอธิบายแทนสหาย

“ที่พวกเราเคยเห็นมา งูเหลือมมักจะชอบมากินไก่ขอรับ เขาก็เลยสงสัยว่าเสี่ยวกูกุไม่เคยพบเจอบ้างเลยหรือ”

ชุนเอ๋อร์คิดทบทวนอดีต

“ถ้าตอนที่อยู่คนเดียวเหมือนจะไม่เคยนะ อย่างเช่นตอนลงเคียวเกี่ยวข้าวก็ไม่เคยเจอ”

“เคยหลุดเข้าเขตเรือนหรือไม่”

“ไม่เคย”

“อ้อ”

โจวฉือเหอรับคำสั้น ๆ ไม่ได้บอกนางไปว่าเมื่อวานเพิ่งเห็นงูผ่านเล้าไก่ไป ดีที่จัดการงูตัวนั้นเรียบร้อยแล้ว

แต่จะเป็นไปได้หรือที่ไม่เคยเจอเลยสักครั้ง ทั้งที่อยู่ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพรเช่นนี้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บุตรชายข้าเป็นประมุขพรรคมาร   บทที่ 103

    บางคนเกิดมาเพื่อทำลายชีวิตของผู้คน แต่สำหรับบางคนนั้นก็เกิดมาเพื่อทำหน้าที่เป็น ‘พี่เลี้ยงเด็ก’ สำหรับจางจงกว่าน ก่อนคลอดเขาปฏิญาณตนไว้แล้วว่าให้ตายอย่างไรก็จะไม่แตะต้องบุตรชายของอี้เฟยเป็นอันขาด (หากเป็นเด็กผู้ชาย) เพราะในใจเขาคิดว่า เด็กผู้ชายคนนี้ก็คงจะน่าชังไม่ต่างจากพ่อของเขา

  • บุตรชายข้าเป็นประมุขพรรคมาร   บทที่ 102

    ๙๒มาได้ถูกจังหวะ แม้จะโดนปฏิเสธแล้ว แต่อี้เฟยก็ไม่คิดจะหนีไปไหน ยังคงคอยตามเฝ้าตามมองชุนเอ๋อร์อยู่ทุกครั้งที่มีโอกาส ครั้งไหนที่เจอหน้ากันตรง ๆ เขาจะตีหน้าเศร้าใช้สายตาอ้อนขอความรักอยู่เช่นนั้นจนคนที่หัวเสียแทนเป็นหลันเฟิง นั่นเพราะว่าเขาตัวกับมารดาตลอด การที่ต้องมาทนมองบ

  • บุตรชายข้าเป็นประมุขพรรคมาร   บทที่ 101

    “เจ้านี่!” ด้วยไม่อยากเป็นฝ่ายดึงแขนมารดา จึงได้ลุกขึ้นยืนแล้วแกะนิ้วของอี้เฟยออกเสียเลย คนในพรรคที่ไม่รู้ความสัมพันธ์ของพวกเขาความคิดเห็นต่างกัน บ้างก็พากันผิวปากแซวอี้เฟย บ้างก็ว่าหลันเฟิงช่างหวงญาติสาวถึงเพียงนี้ แต่สำหรับเกาจี้เฉินและโจวฉือเหอนั้นนิ่งอึ้ง ไม่

  • บุตรชายข้าเป็นประมุขพรรคมาร   บทที่ 100

    ๙๑สองแม่ลูกใจอมหิต หลังจากที่หลันเฟิงกล่าวว่า ‘แล้วเจ้าจะเสียใจ’ ลู่จั๋วหรานก็ต้องเสียใจจริง ๆ เมื่อพัดของรักของหวงของหายากในยุทธภพโดนกระชากออกจากมืออย่างง่ายดาย นี่ไม่ใช่การขโมยอาวุธของผู้อื่นเพื่อตัดกำลังเท่านั้น แต่ยังทำลายอาวุธจนไม่เหลือซาก ทีนี้จะจัดการเจ้าของอาวุธก็ไม่ใช่เ

  • บุตรชายข้าเป็นประมุขพรรคมาร   บทที่ 99

    “เหมือนสตรีผู้นั้นจะมีปัญหากับท่านนะขอรับ ให้ข้าไปจัดการให้หรือไม่” อี้เฟยยกนิ้วชี้ไปทางสตรีที่ว่าตรง ๆ ชุนเอ๋อร์มองตามปลายนิ้วยาวไปก็ถึงกับถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย “ฮูหยินคนปัจจุบันของอดีตสามีข้าเอง ไม่รู้จะจับผิดอะไรกันนักหนา ก่อนเข้างานก็ป่าวประกาศกับชาวบ้านว่าข้าเล่นชู้กับพี่

  • บุตรชายข้าเป็นประมุขพรรคมาร   บทที่ 98

    ๙๐อี้เฟยได้เลือด ชุนเอ๋อร์ตกใจกับภาพที่เห็นมาก ยกสองมือขึ้นปิดปาก ตะลึงค้างกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สายตาจับจ้องร่างสูงที่กำลังจะลงจากเวทีประลอง มือสองข้างกดทับแผลห้ามเลือดไว้ ครู่ต่อมาก็มีคนพาเขาแยกไปทางหนึ่ง “ไม่ตามไปหรือ” ชุนเอ๋อร์หันมามองหน้าเฉียนจิ่นหง อย่างขอความมั่น

  • บุตรชายข้าเป็นประมุขพรรคมาร   บทที่ 97

    “ก็...ก็เมื่อครู่เจ้าออกหน้าช่วยข้าไว้ อย่าเพิ่งเข้าใจว่าข้าให้เจ้าผ่านด่านนะ แต่อย่างไรก็ต้องขอบคุณเจ้า” “คู่ที่สองรอบนี้ การแข่งขัน…เริ่มได้!” ชุนเอ๋อร์หันไปสนใจที่เวทีประลองอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้เป็นเกาจี้เฉินที่เป็นคนลงสนามประลอง อาวุธที่ใช้ในรอบนี้คือมีดสั้น ทำให้ชุนเอ

  • บุตรชายข้าเป็นประมุขพรรคมาร   บทที่ 96

    ๘๙การประลอง ทางด้านหลันเฟิงและสมาชิกพรรคมารไฮ้เซินทั้งเก้าคนที่จะต้องประลองยุทธ์กับเก้าสำนักถูกจัดให้นั่งล้อมเป็นวงกลมของเวทีการประลอง ทั้งสิบสำนักจะต้องต่อสู้กันแบบคู่ต่อคู่ ในห้าคู่นี้ สำนักไหนชนะมากกว่ากันสำนักนั้นจะเป็นฝ่ายเข้าสู่รอบต่อไป ฝั่งแพ้ตกรอบ ส่วนห้าสำนักสุดท

  • บุตรชายข้าเป็นประมุขพรรคมาร   บทที่ 95

    “ลู่ฮูหยินกล่าวหนักเกินไปแล้ว ขออธิบายอีกครั้งว่าเราสองคนเป็นเพียงแค่พี่น้องที่สนิทกันมากเท่านั้น ดูเหมือนฮูหยินจะยังเข้าใจความสัมพันธ์ของเราอย่างผิด ๆ” “เหอะ! พี่น้องท้องชนกันสิไม่ว่า” สาวใช้คนสนิทของจิงเหมยกล่าวอย่างเหยียดหยันอีกครั้ง เมื่อก่อนแม่สาวใช้คนนี้ก็ทำเจ็บแสบกับชุนเอ๋อร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status