Beranda / รักโบราณ / บุปผางามในมือโจร / บทที่ 4 เด็กสาวดวงซวย

Share

บทที่ 4 เด็กสาวดวงซวย

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-09 12:24:57

ยามนี้หนิงซือซือกำลังนั่งอ่านตำราอย่างเบื่อหน่าย ระยะนี้คนในจวนค่อนข้างจับตาทุกการกระทำของนาง ทำให้นางไม่สามารถทำตามใจในสิ่งที่ตนชอบได้ 

ทุก ๆ วันยามเช้า หนิงซือซือมักจะแอบไปที่ท้ายจวนเพื่อฝึกยิงธนูและฟันดาบ รวมถึงการใช้มีดสั้นนางเองก็คล่องมือไม่ใช่น้อย หนิงซือซือเป็นสตรีที่ฉลาดมีไหวพริบ เพียงแค่แอบดูท่านพ่อฝึกฝนเหล่าทหารไม่กี่ครา นางก็จำได้แม่นแล้ว 

ไม่นานมานี้นางถูกแม่ทัพใหญ่หนิง ซึ่งก็คือบิดาของนางดุด่า เพราะว่ามาพบนางยามที่กำลังฝึกฝนอาวุธเหล่านี้เข้าพอดี 

เป็นสตรีควรจะเก็บตัวอยู่แต่ในเรือน เรียนเย็บปักถักร้อย ไม่ใช่มาใส่ใจเรื่องของบุรุษเช่นนี้ แต่ไหนแต่ไรมาดวงชะตาของเจ้าก็เป็นอัปมงคลมาตั้งแต่เกิด ไต้ซือชราเคยกำชับข้าเอาไว้ ว่าห้ามให้เจ้าออกจากจวนไปพบหน้าผู้ใดเด็ดขาด ห้ามแต่งงาน มิเช่นนั้นเจ้าจะนำความหายนะมาสู่ตระกูลหนิงของข้า!!!

คำพูดเหล่านี้หนิงซือซือจำได้จนแทบขึ้นใจ บางครานางเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน ท่านพ่อบอกว่านางเป็นบุตรสาวจากอนุนอกเรือน มารดาเป็นสตรีบ้านป่า ท่านพ่ออุ้มนางกลับเข้าจวนมาด้วยตนเอง แต่เหตุใด นางจึงไม่เคยรู้สึกถึงความผูกพันระหว่างพ่อลูกเลยแม้แต่น้อย นางไม่เคยรับรู้ถึงความรักของท่านพ่อเลยสักครา

ท่านพ่อรักและทะนุถนอมหนิงเซียนพี่สาวของนางราวกับหยกล้ำค่ามาโดยตลอด หากไม่มีท่านย่าคอยปกป้อง ยามนี้นางคงไม่ได้อ่านเขียนเรียนตำราเฉกเช่นคุณหนูบ้านอื่นแล้ว 

แต่ช่างเถิด ใครใช้ให้นางเกิดมาเป็นได้แค่บุตรอนุกันเล่า ถึงนางจะสู้หนิงเซียนไม่ได้ แต่นางก็ไม่ยอมให้ผู้ใดมารังแกได้โดยง่ายเป็นแน่ 

หนิงซือซือรู้สึกเบื่อหน่ายแล้ว นางจึงเดินกลับมาที่นอกเรือน เช้านี้ท่านย่าบอกให้นางไปรับสำรับยามเช้าที่เรือนใหญ่ด้วยกัน นางจึงรีบตรงไปที่เรือนใหญ่ในทันที 

จวนตระกูลหนิงมีเรือนมากมาย เรือนใหญ่จะเป็นที่อยู่ของท่านพ่อ หนิงฮูหยิน และหนิงเซียน ส่วนเรือนดอกกุ้ยฮวาจะเป็นเรือนใหญ่อีกหลังซึ่งท่านย่าของนางอาศัยอยู่ ส่วนนางนั้นจะอาศัยอยู่ที่เรือนเล็ก ติดกับโรงครัว เนื่องจากหนิงเซียนไม่ชอบเห็นหน้านาง ท่านพ่อจึงให้นางมาอยู่ที่เรือนเล็กแห่งนี้ แต่นางก็ชอบมันไม่น้อย นอกจากจะไม่ต้องทนเห็นหน้าหนิงเซียนแล้ว นางยังชอบที่เรือนเล็กหลังนี้ร่มรื่นและเป็นส่วนตัว

เมื่อมาถึงนางก็พบว่าคนอื่น ๆ ล้วนมากันครบหมดแล้ว หนิงซือซือทำความเคารพเหล่าผู้อาวุโส ก่อนจะเงยหน้าไปมองหนิงฮูหยิน และหนิงเซียนที่ปรายตามองนางด้วยแววตาที่ดูแคลน

"ไสหัวไปที่ใดมา ให้ผู้ใหญ่รอเช่นนี้ใช้ได้หรือ?" 

แม่ทัพใหญ่หนิงตวาดใส่หนิงซือซืออย่างไม่ไว้หน้า ก่อนจะปรายตามองนางขึ้นลงคราหนึ่ง 

หนิงเซียนที่เห็นเช่นนั้น จึงรีบเอ่ยขึ้นมาทันที 

"อุ๊ยตาย! ท่านพ่อดูสิเจ้าคะ เสื้อผ้าน้องเล็กเลอะเทอะยิ่งนัก ไปเล่นสกปรกที่ใดมากัน ข้ากินข้าวไม่ลงแล้วเช่นนี้" 

หนิงซือซือก้มมองดูเสื้อผ้าของตนเองคราหนึ่งก่อนจะเอ่ยตอบ 

"แค่เปื้อนเศษหญ้า เพราะข้าไปที่สวนท้ายจวนมาเมื่อครู่ เพื่อเก็บดอกไม้มาปักแจกัน คุณหนูใหญ่กินไม่ลง ก็ไม่ต้องกินสิเจ้าคะ" 

"นี่เจ้า!!!" 

เพล้ง

แม่ทัพใหญ่หนิงที่โมโหจนสะกดกลั้นโทสะเอาไว้ไม่อยู่ จึงคว้าจอกชาร้อนเขวี้ยงใส่หนิงซือซือในทันที แม้นางจะหลบได้ทัน แต่ทว่าความร้อนของชาในถ้วยก็ราดรดถูกแขนของนางเข้าอย่างจัง หนิงซือซือเม้มริมฝีปากแน่น พยายามสะกดกลั้นความปวดแสบปวดร้อนเอาไว้ ไม่แสดงท่าทีใดใดออกมาเลยแม้แต่น้อย 

"เจ้ากล้าเถียงพี่หญิงของเจ้าหรือ เจ้ากล้าเถียงนางได้เช่นใดกัน วันหน้านางจะได้เป็นถึงมารดาของแผ่นดิน เจ้าเองที่จะต้องนอบน้อมนางให้มาก เพื่อให้นางคอยคุ้มครองเจ้าในวันหน้า" 

"ท่านพ่อแน่ใจหรือเจ้าคะว่าพี่หญิงจะช่วยคุ้มครองข้า มิใช่ว่าพอได้เป็นฮองเฮาแล้ว สิ่งแรกที่คิดจะทำคือการกำจัดข้าให้พ้นสายตาหรอกหรือ?" 

"เจ้า!!!" 

"หยุดได้แล้ว!!! เจ้าใหญ่ เจ้าทำเกินไปแล้ว นางก็เป็นบุตรสาวเจ้าคนหนึ่งนะ!!!" 

"ท่านแม่!!!"

"ข้าไม่อยากกินข้าวกับพวกเจ้าแล้ว ซือเอ๋อร์พยุงย่ากลับเรือนดอกกุ้ยฮวาเร็วเข้า ส่วนผิงผิง เจ้าไปที่ห้องครัว ให้บ่าวไพร่นำสำรับใหม่ไปให้ข้ากับคุณหนูรองที่เรือนดอกกุ้ยฮวา" 

"เจ้าค่ะไท่ฮูหยิน"

ไท่ฮูหยินปรายตามองแม่ทัพใหญ่หนิงคราหนึ่ง ก่อนจะให้หนิงซือซือช่วยพยุงตนเองกลับเรือน 

หลังจากรับสำรับยามเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว หนิงซือซือก็ขอกลับจวนเพื่อมาทำแผล ผิงผิงที่ช่วยทำแผลให้นางก็รู้สึกสงสารเจ้านายของตนยิ่งนัก 

ผู้ใดกันจะรู้ ตามร่างกายของคุณหนูมีแต่บาดแผลไปทั้งตัว!!! 

คนจวนตระกูลหนิงช่างอำมหิตยิ่งนัก!!!

"พอเถิด ข้าไม่เจ็บแล้ว" 

"ได้อย่างไรกันเจ้าคะคุณหนูรอง!!! ดูบาดแผลตามตัวท่านสิเจ้าคะ!!!" 

"ช่างเถิดน่า ข้าง่วงแล้ว อยากนอนพักเสียหน่อย เจ้าจะไปทำสิ่งใดก็ไปเถิด"

เรือนดอกกุ้ยฮวา

"เจ้าใหญ่ เจ้าเมตตานางหน่อยเถิด" 

ไท่ฮูหยินเอ่ยกับบุตรชายด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยล้า แม่ทัพใหญ่หนิงจ้องมองมารดาของตน ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เดือดดาล 

"ท่านแม่จำไม่ได้หรือ คนทางนั้นกำชับนักหนาว่าให้ฆ่านางเสียตั้งแต่เด็ก มิเช่นนั้นนางจะนำภัยมาสู่ตระกูล แต่เพราะความใจอ่อนความสงสารของท่านแม่ ทำให้นางมีชีวิตรอดอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ หากทางนั้นรู้เข้า มิช้ามินานนางก็ต้องตาย!!!" 

"หุบปาก! เจ้าไม่สงสารนางหรือ นางหน้าเหมือน..." 

"ท่านแม่!!! ท่านอยากให้ตระกูลหนิงของพวกเราเดือดร้อนหรือ!!!" 

ไท่ฮูหยินที่ได้ยินเช่นนั้นก็เม้มปากแน่น นางไล่ให้แม่ทัพใหญ่หนิงกลับเรือนตนไปเสียก่อนจะถอนหายใจออกมา 

หนิงซือซือเอ๋ย ยามที่ย่ายังอยู่เจ้าจะยังคงปลอดภัย แต่ยามใดที่ย่าตายจากไป เจ้าจะเป็นเช่นไรย่าก็ไม่อาจรู้ได้!!! ย่าสงสารเจ้าเหลือเกิน

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • บุปผางามในมือโจร   บทที่ 77 บทส่งท้าย

    เสียงบรรเลงดนตรีดังอึกทึกครึกโครม ผู้คนต่างมองดูเต็มสองข้างทาง เกี้ยวสีแดงสดกำลังเคลื่อนออกจากวังหลวงอย่างช้า ๆ โดยมีแม่ทัพใหญ่มู่หรงที่สวมชุดเจ้าบ่าวสีแดงนั่งอยู่บนหลังม้า นำขบวนเจ้าสาวด้วยท่าทีที่สง่างาม ฮ่องเต้หยางเฉวียนและหยางเซียวหลิ่นมองดูเกี้ยวของหยางซือหยวนจากไปจนลับสายตา ก่อนที่หยางเซียวหลิ่นจะหันมาเอ่ยกับผู้เป็นพระบิดา "เสด็จพ่อ น้องหญิงอยู่ใกล้ถึงเพียงนี้ ย่อมเข้าวังมาเยี่ยมเยียนเสด็จพ่อได้ทุกเมื่อพ่ะย่ะค่ะ""อืม เซียวหลิ่น เจ้าสั่งการลงไป ส่งหมอหลวงติดตามซือเอ๋อร์ไปให้มากหน่อย ได้ยินว่าหมอหลวงที่ชื่อจินเย่ว์นั่น สนิทสนมกับนาง ก็ให้ตามไปด้วยไม่ต้องเข้ามารับใช้ในวังหลวงแล้ว""พ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อไม่ต้องทรงกังวล ทั้งหมอฝีมือดี และพ่อครัวที่ทำอาหารเลิศรส ล้วนติดตามน้องหญิงออกจากวังไปรับใช้หมดแล้ว""ดี ดี"หลังจากนั้นไม่กี่วัน ก็เป็นพิธีอภิเษกสมรสขององค์รัชทายาท และคุณหนูตระกูลมู่หรงขบวนสินเดิมยาวนับพันลี้ ผู้คนต่างแซ่ซ้องสรรเสริญไม่จบไม่สิ้น หลายเดือนต่อมา"โอ๊ย ข้าเจ็บจะตายอยู่แล้ว มู่หรงเจวี๋ย!!!""ซือเอ๋อร์เจ้าอดทนเถิด หายใจลึก ๆ""ข้าทำแล้ว แต่มัน โอ๊ย มู่หรงเจวี๋ยเป็นเพร

  • บุปผางามในมือโจร   บทที่ 76 สิ้นตระกูลหนิง

    วังหลวงคล้ายจะมีงานมงคลถึงสองงาน งานแรกคืองานแต่งงานของหยางเซียวหลิ่นและมู่หรงหลิน ส่วนอีกงานหนึ่งก็คืองานแต่งของมู่หรงเจวี๋ยและหยางซือหยวน หยางซือหยวนคิดถึงวันนั้นก่อนที่หนิงอวี้หรงจะจากไป เขามาร่ำลานาง ใบหน้ามีแต่ความยินดี เขาบอกกับนางว่า ในที่สุดก็จะได้ทำสิ่งใดตามใจตนเองเสียทีแล้ว หยางซือหยวนยิ้มส่งเขาทั้งน้ำตา พี่ชายที่แสนดีของนาง นางจะรอวันที่เขาได้กลับมาที่ไท่เหลียงอีกคราก่อนจะมีการประหารเพียงหนึ่งวัน หยางซือหยวนให้มู่หรงเจวี๋ยพานางมาที่คุกหลวง เดิมทีแรกเริ่มเสด็จพ่อไม่เห็นด้วย แต่ทนนางทัดทานไม่ไหวจึงสั่งให้มู่หรงเจวี๋ยมาเป็นเพื่อนนาง ภายในคุกหลวงค่อนข้างมืดทึบและอับชื้น เหล่าผู้คุมต่างรีบจุดไฟเมื่อเห็นว่าองค์หญิงเสด็จมา เมื่อเข้ามาด้านใน นางก็จ้องมองไปที่คุกหลวง ในห้องขังหนึ่ง หนิงเซียนถูกขังเอาไว้กับมารดาของนาง ยามนี้สภาพของนางไม่หลงเหลือความเย่อหยิ่งเฉกเช่นแต่ก่อนอีก เมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาที่มองมา หนิงเซียนจึงหันมาสบตากับหยางซือหยวน เมื่อเห็นเช่นนั้นนางก็ดวงตาลุกวาว ก่อนจะเอ่ยอย่างโกรธแค้น "นังน้องชั่ว เหตุใดเจ้าจึงได้ดีกว่าข้า ไม่จริง ข้าต่างหากที่เป็นองค์หญิง ข้าคือจวิ

  • บุปผางามในมือโจร   บทที่ 75 องครักษ์

    มู่หรงเจวี๋ยใช้ชีวิตอยู่ในสนามรบร่วมสามเดือน จึงเดินทางกลับเมืองหลวงแคว้นไท่เหลียง ผู้คนต่างรอต้อนรับเขาเต็มสองข้างทาง แม่ทัพใหญ่มู่หรงผู้นำความสงบสุขมาแก่ราษฎร ฮ่องเต้หยางเฉวียนทรงพอพระทัยเป็นอย่างยิ่ง เมื่อได้ทราบว่าสงครามคราก่อนนั้น เป็นมู่หรงเจวี๋ยอีกเช่นกันที่ทำให้ทัพศัตรูแตกพ่ายไม่เป็นท่า จึงตกรางวัลให้มากมายราวกับสายน้ำ ยามนี้ตระกูลมู่หรงกลับมาคึกคักเช่นแต่ก่อนแล้ว เขาได้พาท่านพ่อท่านแม่กลับจวนอย่างสมเกียรติแล้วข่าวที่น่ายินดีมากกว่านั้นก็คือ มู่หรงหลินได้รับราชโองการให้เข้าวังหลวง และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคู่หมั้นของหยางเซียวหลิ่นองค์รัชทายาทอีกครา ตำแหน่งว่าที่ไท่จื่อเฟยท้ายที่สุดก็ตกเป็นของนางอย่างชอบธรรม "ท่านพี่ ท่านดูสิ ผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวข้าเสร็จแล้ว ช่างงดงามยิ่งนัก ข้าน่ะฝีมือหยาบกร้านไม่อาจปักเองได้อย่างงดงามเท่านางกำนัลฝีมือดีในวังหลวงเลย"มู่หรงหลินเอ่ยด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า มู่หรงเจวี๋ยมองดูน้องสาวของตนด้วยความรักใคร่ ก่อนจะหวนนึกถึงหยางซือหยวนที่ยามนี้อยู่ในวังหลวงขึ้นมาได้ยินมาว่าท้องของนางเริ่มใหญ่โตแล้ว จึงเดินเหินมิค่อยสะดวกนัก เห็นทีเขาคงต้องเข้าวังไปพบฝ่

  • บุปผางามในมือโจร   บทที่ 74 รัก

    ระยะนี้มู่หรงเจวี๋ยมักจะใช้ชีวิตอยู่ที่ค่ายทหารเสียเป็นส่วนใหญ่ นอกจากฝึกฝนทหารแล้ว เขาก็จะแอบไปมองดูหนิงซือซือที่อุทยานหลวง พบว่านางมีชีวิตที่ดีไม่น้อย ใบหน้าดูดีขึ้นมากทีเดียว รวมถึงเหล่านางกำนัลก็ปรนนิบัติดูแลนางเป็นอย่างดี ฮ่องเต้หยางเฉวียนทรงรักพระธิดาองค์นี้เป็นอย่างมาก ทุกอย่างในแผ่นดินสิ่งใดที่นางอยากได้ ขอเพียงนางเอ่ยปาก ผู้เป็นพระบิดาก็หามาให้นางได้ทั้งหมด เพื่อชดใช้สิ่งที่นางขาดไปตั้งแต่วัยเยาว์ วันนี้ก็เช่นกัน เขามองดูนางกำลังนั่งดื่มชาชมสวนอยู่ที่อุทยานหลวง ยามนี้บุปผานานาพรรณเริ่มผลิดอก วังหลวงจึงดูงดงามราวกับแดนสวรรค์ก็ไม่ปาน เขายิ้มให้นางคราหนึ่ง นางยังคงมีนิสัยที่เหมือนเดิม รักสหาย ดีต่อทุกคน จินเย่ว์และโจวเซิงมีชีวิตที่ดีในวังหลวง เด็ก ๆ ในรังโจรได้เรียนหนังสือมีความรู้เพราะนางจัดการให้ ผู้คนที่นั่นก็สามารถเข้าเมืองหลวงมาทำการค้าหาเลี้ยงชีพได้ เขาได้ยินว่านางทูลต่อฝ่าบาทว่าจะขอสร้างสำนักศึกษาสำหรับเด็ก ๆ ที่ยากไร้และกำพร้าบิดามารดา อีกทั้งยังจะสร้างสถานสงเคราะห์ให้แก่เด็ก ๆ ที่ไร้ที่พึ่งพิงอีกด้วย ซึ่งฮ่องเต้หยางเฉวียนก็ไม่ได้คัดค้านนางแต่อย่างใด กลับเห็นด้วยเป็นอ

  • บุปผางามในมือโจร   บทที่ 73 พบสหายอีกครา

    ผ่านไปร่วมหลายวัน ในที่สุดหนิงซือซือก็สามารถมองเห็นได้แล้ว ยามนี้ร่างกายของนางดีขึ้นมาก เพราะได้ยาชั้นดีจากหมอหลวงทำให้ร่างกายของนางฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว "องค์หญิงเพคะ ทรงเสวยโอสถก่อนเถิดเพคะ""อืม"นางกำนัลนามว่าอิงเถา เป็นนางกำนัลที่เสด็จพ่อส่งมาคอยรับใช้นาง อิงเถาเป็นสาวใช้ที่มีอายุไม่น้อยแล้ว นางรู้งานเป็นอย่างดี อีกทั้งยังแนะนำสอนสั่งเรื่องกฎระเบียบในวังหลวงให้แก่นางอย่างตั้งใจอีกด้วย ไม่กี่วันต่อมานางก็ได้พบกับหนิงอวี้หรง เมื่อได้เห็นว่าพี่ชายสบายดี นางก็ดีใจเป็นอย่างมาก แต่เมื่อได้ยินว่าหนิงอวี้หรงจะต้องถูกเนรเทศไปแดนไกล นางก็ทุกข์ใจไม่น้อย หนิงอวี้หรงบอกกับนางว่าไม่ต้องกังวล เขาจะต้องกลับมาพบกับนางอีกอย่างแน่นอนหนิงซือซือยกถ้วยยาขึ้นดื่ม ก่อนจะหันไปเอ่ยกับอิงเถา "ข้าอยากจะเข้าเฝ้าเสด็จพ่อเสียหน่อย ยามนี้คงประชุมยามเช้าเสร็จแล้วกระมัง""เพคะ ยามนี้ฝ่าบาท กำลังพักผ่อนอยู่ที่ห้องทรงอักษร""เช่นนั้นเจ้าช่วยพาข้าไปทีเถิด""เพคะองค์หญิง"หนิงซือซือถูกอิงเถาประคองนางเดินลงมาอย่างระมัดระวัง เมื่อเดินออกมานอกตำหนัก นางก็มองดูไปโดยรอบ ยามนี้อากาศไม่หนาวมากแล้ว อีกทั้งต้นไม้ก็กำลังผ

  • บุปผางามในมือโจร   บทที่ 72 ชีวิตใหม่

    หนิงซือซือลืมตาตื่นขึ้นมาอีกคราในวันที่สาม นางสลบไม่ได้สติไปถึงสามวันเต็ม ๆ เมื่อได้สติฟื้นคืนขึ้นมาจึงรู้สึกว่าดวงตาพร่าเลือน หัวสมองมึนงง อีกทั้งยังอ่อนเพลียมากอีกด้วย "อุแหวะ""องค์หญิง เร็วเข้า องค์หญิงทรงฟื้นแล้ว ตามหมอหลวงเร็วเข้า"หนิงซือซือลุกขึ้นมานั่งก่อนจะอาเจียนออกมาจนหมดท้อง เมื่อนางค่อย ๆ มองไปโดยรอบ ก็เห็นเป็นเพียงภาพพร่าเลือน ใจของนางพลันเต้นตึก ๆ อย่างหวาดหวั่น มิใช่ว่านางตาบอดหรอกนะ แล้วที่นี่คือที่ใดกันนางพยายามจะขยับกายลุก แต่ทว่าราวกับโลกหมุนเคว้งคว้างจนทรงตัวเอาไว้ไม่อยู่ ต้องล้มกายลงนอนไปบนเตียงที่นุ่มนิ่มอีกครา พลันได้ยินเสียงของสตรีนางหนึ่งเอ่ยขึ้น "องค์หญิง อย่าทรงขยับพระวรกายอีกเลยเพคะ ยามนี้ร่างกายพระองค์อ่อนแอนัก"องค์หญิง?หนิงซือซือแค่นเสียงหัวเราะออกมาคราหนึ่ง นี่นางตายแล้วเลอะเลือนหรือไร จึงได้ยินวาจาแปลกประหลาดเช่นนี้"ที่นี่ที่ใด พวกท่านเป็นใครหรือ?"หนิงซือซือเอ่ยถามในขณะที่หลับตานอน นางกำนัลผู้นั้นยิ้มพลางมองนางคราหนึ่ง ก่อนจะหยิบผ้าห่มขึ้นมาห่มให้นางอย่างใส่ใจ"ที่นี่คือวังหลวงเพคะ หม่อมฉันเป็นนางกำนัลขององค์หญิง หากมีสิ่งใดที่ทรงต้องการเรียกใ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status