공유

ปฐมบท 1 สวีหลิงเยี่ยน 4

작가: LiHong
last update 최신 업데이트: 2025-07-24 22:35:28

ตามทางเดินทอดยาว ไกลออกมาจากผู้คนเรื่อยๆ กระทั่งมาถึงชายป่าชานเมือง

สวีหลิงเยี่ยนไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าเดินมานานเท่าใด ครั้นเงยหน้าขึ้น ยกมือปาดน้ำตาที่เอ่อล้นอาบสองข้างแก้ม จึงเห็นเป็นชายป่าห่างจากตัวเมืองออกมาค่อนข้างไกล ริมทางเป็นคู่น้ำกว้างที่โขดหินถูกกัดเซาะจนเป็นตลิ่งสูงชัน หญิงสาวไม่รู้ว่าควรเดินต่อไปทางไหน จะกลับบ้านก็ไม่กล้า จะเดินต่อไปข้างหน้าก็ไม่มีที่ไป จึงออกอาการงก ๆ เงิ่น ๆ ยืนประหม่าตัวสั่นจนทำอะไรไม่ถูก

จังหวะนั้น เด็กชายสองคนเดินมาชนนางดังพลั่ก   

สวีหลิงเยี่ยนถึงกับลื่นพรืด ไถลลงไหล่ทาง “อ๊ะ!” นางพยายามหาที่ยึดแต่ไม่มี ยื่นมือไปหวังว่าจะมีใครจับ          แต่กลับไม่มีเช่นกัน ได้ยินเพียงเสียงจากเด็กเหล่านั้น

“อ้าว? เจ้าเดินอย่างไรไปชนพี่สาวนั่น” 

“ช่วยมิได้ นางยืนเกะกะเอง”

“ทางกว้างปานนี้ เจ้ามองไม่เห็นนางรึ?”

“เห็นน่ะเห็น แต่นางยืนทื่อ ไม่ยอมหลบเอง”

ท่ามกลางเสียงถกเถียงที่ห่างออกไปอย่างไม่ไยนั้น สวีหลิงเยี่ยนพลันได้ยินเสียงปึกดังที่ข้างขมับขวา 

ความเย็นวาบแล่นลามไปทั่วสรรพางค์กาย ตามด้วยความเจ็บแปลบสายหนึ่ง และกลิ่นคาวเลือดที่เริ่มได้กลิ่น จากทิศทางที่มันรินไหลตรงหางตาด้านขวา หญิงสาวไถลลื่นตกตลิ่งชันลงมาจนศีรษะกระแทกหินอย่างจัง 

นางแน่นิ่งไป

“ตายหรือไม่?” 

ภายใต้ภาวะสะลึมสะลือเสียงเด็กยังคงดังให้ได้ยินบนตลิ่งชันนั้น

“เจ้าลงไปช่วยสิ นางจมน้ำแล้วน่ะ”

“ไม่! นางโง่ยืนบื้อให้ข้าชนเอง”

“ทำแบบนี้เจ้าจะถูกทางการจับหรือไม่”

“เฮอะ! คงไม่! เจ้าดูนางสิ ท่าทางไม่ได้ความแบบนี้ไม่มีใครออกตามหาหรือแจ้งทางการหรอกกระมัง พวกเรารีบหนีดีกว่า”

ช่างไร้ค่าไม่อยู่ในสายตาใครต่อใคร...

สวีหลิงเยี่ยนกลืนก้อนสะอึกลงลำคอ ปล่อยตัวจมน้ำ เห็นเพียงท้องน้ำที่มืดมิดว่างเปล่า ปล่อยน้ำตาให้หายไปกับความว่างเปล่านั้นอย่างหมดกำลังใจ ไร้เรี่ยวแรงฝืนลุกขึ้นยืน 

บางที การตายทั้งอย่างนี้คงดี ไม่อยากมีชีวิตอีกแล้ว

หวังเพียงเกิดใหม่ ได้เป็นใครสักคน ที่ไม่ใช่นาง...

*

*

*

ภายใต้ท้องธาราไหลวนเวิ้งว้าง

วาจาคำนึง รำพึงจากสติอันไร้ความคิด สิ้นหนทาง 

บุปผาวารี[1]ผลิบาน งดงามบาดตา ผสานคำภาวนา

*

*

*

*

 


[1]บุปผาวารี คือดอกไม้ที่อยู่ในน้ำ ซึ่งดอกไม้ที่อยู่ในน้ำนั้นมักมีสีสันสวยงามและส่วนใหญ่ล้วนมีพิษสงร้ายกาจ เราจึงเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า 'ดอกไม้พิษ'

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • บุปผาวารีสลับวิญญาณสยบมังกร   ตอนที่ 3 สหายร่วมเรียน3

    “เอาล่ะ! ข้าต้องไปแล้ว ขอตัวก่อนนะเจ้าคะ”ในศาลา เหยาซื่อยังคงนั่งมองตามแผ่นหลังเล็กๆ ของบุตรสาวอย่างเงียบงัน ดรุณีน้อยผู้นั้นเดินจากไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงพลังอำนาจบางอย่างจากวาจาอันแสนธรรมดา ใช่แล้ว สิ่งที่สวีหลิงเยี่ยนพูดนั้นถูกต้องทั้งหมด และเป็นสิ่งที่นางเองก็ขบคิดมานานแล้วแต่ไม่ลงมือเสียที อาจเพราะไม่มีความกล้ามากพอ แต่นับจากวันนี้...‘ต่อไปข้าจะช่วยท่านแม่เอง...’ประโยคยาวเหยียดทั้งหมดของบุตรสาว มีเพียงวาจาสั้นๆ เพียงแค่นี้เท่านั้น ที่สามารถปลุกความกล้าในใจทว่าจู่ๆ น้ำตาหยดหนึ่งพลันเอ่อล้นขึ้นมาตรงขอบตา เหยาซื่อรู้สึกโศกเศร้าอยู่ในอกลึกๆ อย่างไม่ทราบสาเหตุสายลมพัดโชยเบาๆพากลีบดอกไม้เล็กๆที่หลุดจากขั้วม้วนตัวหมุนวนอยู่ด้านนอกศาลา พาความเย็นจัดชนิดหนึ่งผ่านวูบเข้าสู่ใบหน้าของผู้ที่นั่งอยู่ด้านในศาลาดวงตาเหยาซื่อสั่นไหวเล็กน้อย แม้รู้สึกดีที่บุตรสาวเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทว่า...นางกลับรู้สึกเหมือนตัวเองได้สูญเสียสิ่งสำคัญในชีวิตไปแล้ว ตลอดกาล...สำนักศึกษาชิ่นหลันหลิ่งหลินเดินเข้าประตูสำนักศึกษามาอย่างคุ้นเคยตามความทรงจำจากร่างเก่า พอเข้ามาถึงสวนหย่อมต้องเลี้ยวขวาผ

  • บุปผาวารีสลับวิญญาณสยบมังกร   ตอนที่ 3 สหายร่วมเรียน2

    หลิ่งหลินรินชาให้ตัวเองขณะเอ่ย “ใช่แล้ว ข้าไม่ใช่คนเดิม ไม่ใช่เยี่ยนเอ๋อร์ของท่าน ที่วันๆ เอาแต่หดหัวตัวสั่น ยอมถูกอนุกับน้องชายต่างมารดาดูแคลนสารพัดไม่เว้นวัน บิดาไม่ใส่ใจก็แล้วไปเถิด ทว่าแม้แต่แม่ตัวเอง” แววตานางช้อนขึ้นเผยรอยเหยียดขณะมองเหยาซื่อ “ไม่ปกป้องลูกตนนั่นว่าแย่แล้ว ยังขับไล่ไสส่งเหมือนหมูสกปรกตัวหนึ่ง”ทั้งที่วันนั้นเป็นวันที่สวีหลิงเยี่ยนอ่อนแอจนถึงที่สุด ถูกชายคนรักกับสหายหักหลัง สหายร่วมเรียนชิงชังทั้งชั้น กลับบ้านยังเจอมารดาไล่ตะเพิดอีกหลิ่งหลินยกนิ้วเรียวขาวของร่างนี้ขึ้นลูบข้างแก้มตรงตำแหน่งที่มีแผลเป็นอ่อนจาง “รอยนี่เกิดจากถ้วยชาวันนั้น ท่านจำได้หรือไม่?”เหยาซื่อชะงัก ค่อยจำได้ว่าวันนั้นนางเขวี้ยงถ้วยชาใส่หน้าบุตรสาว หญิงวัยกลางคนให้รู้สึกผิดขึ้นมา“เยี่ยนเอ๋อร์ แม่...” คำขอโทษติดอยู่ที่ริมฝีปาก มิอาจกล่าวออกมา ด้วยไม่รู้ว่าต้องเอ่ยเช่นไร อาจเป็นเพราะเรื่องที่ทำมิใช่ครั้งแรกและครั้งเดียว ทุกครั้งที่ถูกสามีกับอนุผู้นั้นทำให้เจ็บช้ำน้ำใจจนโมโห นางมักระบายโทสะกับบุตรสาวตลอดนางอ่อนแอเกินไปหากเข้มแข็งกว่านี้จะดีสักเพียงใด เหยาซื่อกำมือที่สั่นเทา แววตาเศร้า

  • บุปผาวารีสลับวิญญาณสยบมังกร   ตอนที่ 3 สหายร่วมเรียน1

    หลิ่งหลินหาวิธีกลับเข้าร่างเก่าไม่ได้ ทั้งยังไม่รู้ว่าจะเดินทางไปยังหุบเขาปีศาจอย่างไร มันตั้งอยู่ตรงไหน รู้เพียงมันเป็นเส้นทางลึกลับใจกลางหุบเขาวงกต ภายใต้เทือกเขาสูงชันสลับกับหน้าผาหินแกร่งที่ตั้งตระหง่านซับซ้อนเรียงรายสุดลูกหูลูกตา รอบทิศมีแต่สีเขียวอึมครึม แล้วอย่างไรอีกเล่า? ทุกครั้งที่คิดขึ้นมา นางมักปวดหัว นึกไม่ออก เหมือนน้ำในสระ พอแตะต้องความจำบางส่วนก็กระเพื่อมจนพร่าเบลอ คลับคล้ายสายตาที่เห็นดอกไม้ที่สวยสดงดงามแต่พอมันไหวเอนใต้น้ำกลับมองลวดลายของมันไม่ชัดเจนอาจเป็นเพราะความทรงจำสองร่างมารวมกันทำให้ความทรงจำบางส่วนโดนบดบังหรือสวรรคกลั่นแกล้งไม่ให้ข้าจำได้ ไม่ให้กลับสู่บ้าน ไม่ให้นางกลับไปบงการสมุนมารก่อกรรมทำเข็ญอันใดอีกโอ้! สวรรค์! ท่านควรรู้ไว้ คนที่นางไล่ล่าเข่นฆ่านั้น พวกมันสมควรตายปานใด แต่จะว่าไป นางก็ฆ่าคนเยอะจริงเฮ้อ!เพราะเป็นเช่นนี้ หลายสิ่งยิ่งมิอาจทำตามอำเภอใจเมื่ออาศัยในร่างผู้อื่นนั่นแล ยามนี้หลิ่งหลินจึงมีความคิดว่าใช้ชีวิตให้แนบเนียนเป็นปกติที่สุดไปก่อนทว่าคิดแล้วก็ให้รู้สึกไม่ยินยอม อาจเพราะเจ้าของร่างนี้ต้อยต่ำเกินไป ไร้อำนาจปราศจากบา

  • บุปผาวารีสลับวิญญาณสยบมังกร   ตอนที่ 2 ครอบครัวพบหน้า4

    ยังไม่นับรวมการล้ำเส้นบังอาจอบรมบุตรีภรรยาเอก ผู้อื่นมีแต่ให้ภรรยาเอกช่วยสั่งสอนบุตรอนุ สามตำหนิไปถึงสวีจงสือ เรื่องตำแหน่งที่นั่ง เพราะยามนี้กัวเหมยนั่งใกล้นายท่านใหญ่สวี ในขณะที่ภรรยาเอกนั่งไกลปานนั้น อันที่จริงอนุภรรยามิอาจนั่งร่วมโต๊ะกับเหล่านายท่านนายหญิงด้วยซ้ำมิใช่หรือไร?นี่มันครอบครัวแบบใด?นั่นมิใช่เพียงความคิดของหลิ่งหลินแต่ยังส่งตรงไปถึงอู่ถังเชี่ยวผู้เป็นแขกในวันนี้ด้วยชายหนุ่มถึงขั้นมีสีหน้ากระอักกระอ่วนแล้ว เขาอยากขอปลีกตัวกลับก่อน แต่หาจังหวะเอ่ยแทรกไม่ได้ จึงเพียงมองคนนั้นทีคนนี้ทีและส่งเสียง “เอ่อ ข้า” ได้แค่นั้นกัวเหมยกับสวีหย่งกังแม่ลูกถึงกับบื้อใบ้ไปชั่วขณะด้วยไม่คิดว่าสวีหลิงเยี่ยนที่สงบปากเจียมตนมาแต่ไหนแต่ไรจะกล้าพูดจาสามหาวปานนี้ อันที่จริงพวกเขาไม่รู้แล้วว่านิสัยแท้จริงของนางเป็นเช่นไรในส่วนนี้สวีจงสือเองก็รู้สึกเช่นกัน เขาไม่เคยมองบุตรสาวคนนี้เต็มตา ทว่าเห็นทีวันนี้คงต้องมองนางใหม่ อีกทั้งยังต้องเข้มงวดให้มากขึ้นเสียแล้ว เขาแค่นเสียงเครียด “เจ้าลูกคนนี้ กล้าล่วงเกินผู้อาวุโส ช่างบังอาจนัก”แน่นอนว่าแม้แต่ฮูหยินยังมิอาจทำอันใดกัวเหมยได้ เพราะ

  • บุปผาวารีสลับวิญญาณสยบมังกร   ตอนที่ 2 ครอบครัวพบหน้า3

    “จ่ะ เจ้า...” แต่สวีหย่งกังถึงขั้นพูดไม่ออกเถียงมิได้ เพราะเขาเป็นสหายร่วมเรียนก็จริง แต่ตอนศึกษาในชั้น ไม่เคยได้เข้าใกล้ท่านอ๋องเลย พระองค์ไม่ชายตาแลด้วยซ้ำ อาจเพราะมีสหายร่วมเรียนมากมายหลายคนจนเกินไปเห็นบุตรชายอึกอัก กัวเหมยจึงเอ่ยกับสวีหลิงเยี่ยน “ตายจริง ข้าไม่คิดว่าคุณหนูใหญ่จะปากคอเราะรายเช่นนี้ เห็นทีฮูหยินใหญ่คงไม่ว่างอบรม มิสู้ให้ข้าช่วยสั่งสอนแทน ดีหรือไม่เจ้าคะ?”แน่นอนว่ามิใช่ความหวังดีปรารถนากล่อมเกลาผู้ใด เพียงต้องการหักหน้าเหยาซื่อที่มิอาจดูแลบุตรสาวตัวเองได้ เช่นนี้ยังเหมาะจะครองตำแหน่งภรรยาเอกหรือไร ไยมิใช่สมควรปลดออกไปแล้วให้นางขึ้นแทนเสียทีหึ! เหยาซื่อมีสกุลบ้านเดิมที่ดีกว่านางแล้วอย่างไร เห็นได้ชัดว่าโง่ทั้งแม่ทั้งลูก ไม่คู่ควรให้สนทนาด้วยซ้ำ คิดพลางหันไปทางสามี บุรุษที่นางใช้เสน่ห์มารยาช่วงชิงอย่างไม่เปลืองแรงผู้นี้ล้วนเชื่อคำนาง “ท่านพี่ดูเถิด หลิงเยี่ยนคงอิจฉาที่หย่งกังได้เรียนที่สำนักศึกษาหลวง มิแน่ว่าอยากเข้าไปเรียนด้วย แต่นางคงลืมไปว่าการเป็นสหายร่วมเรียนกับราชนิกุลไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครก็ทำได้ต้องฝึกฝนร่ำเรียนจนชำนาญแตกฉานและต

  • บุปผาวารีสลับวิญญาณสยบมังกร   ตอนที่ 2 ครอบครัวพบหน้า2

    หลิ่งหลินขมวดคิ้วฉงน นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย แต่มิได้แสดงออกทางสีหน้า ท่าทีกิริยาล้วนถูกต้องเหมาะสมเฉกเจ้าของร่างเก่า เพียงเดินมานั่งลงเก้าอี้ที่ว่างอยู่โดยไม่รอคำอนุญาตจากนายท่านใหญ่ของบ้านจังหวะนั้น เสียงของสวีจงสือพลันดังอย่างขัดเคือง “ช่างไร้มารยาทนัก ผู้อาวุโสบอกให้นั่งแล้วหรือไร?”คำตำหนิติเตียนนี้ทำหลิ่งหลินนิ่วหน้าเล็กน้อย ดวงตาวูบไหวด้วยประกายเย็นชา ทว่าเพียงแวบเดียวเท่านั้นพลันกลับมาเป็นปกติ ก่อนถามด้วยสีหน้าอันใสซื่อว่า “เช่นนั้นท่านพ่อจะให้ข้าย่อกายถึงยามใด คงมิใช่คิดจะทรมานบุตรสาวตัวเองให้แขกดูชมกระมัง?” น้ำเสียงนี้ค่อนข้างสั่นเทาเสมือนถามอย่างโง่เขลาและไม่มั่นใจ ทว่าความหมายกลับไม่ใช่ ทำเอาสวีจงสือถึงกับอึ้ง เงียบไป หลิ่งหลินไม่สนใจตาเฒ่าเจ้าของจวนอีก เพียงหันมาสนใจแขกผู้มาเยือนแทน “คุณชายท่านนี้ ข้าสวีหลิงเยี่ยน เมื่อครู่ต้องขออภัยที่เสียมารยาทแล้วเจ้าค่ะ”บุรุษผู้นั้นมองมาอย่างตะลึงเล็กน้อย แววตานิ่งค้างที่ดวงหน้าของสวีหลิงเยี่ยนเนิ่นนาน ครู่หนึ่งจึงได้สติ เขาแย้มยิ้มประสานมือรับคำนับและทำท่าทักทายแนะนำตัวกลับ “เอ่อ...ข้า”ทว่าสวีหย่งกังกระแอมไอ รีบเอ่ยปากแทรกทันที

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status