Home / รักโบราณ / บุปผาเยียวยาใจ / บทที่ ๖ จะทนเห็นนางเจ็บปวดได้อย่างไร

Share

บทที่ ๖ จะทนเห็นนางเจ็บปวดได้อย่างไร

last update Last Updated: 2025-05-26 14:44:53

บทที่ ๖

จะทนเห็นนางเจ็บปวดได้อย่างไร

วันต่อมายามซื่อ

ก๊อก! ก๊อก!

“เข้ามา”

ร่างสมส่วนวัยกลางคนของพ่อบ้านใหญ่จวนเสนาบดีกรมพิธีการก้าวเข้าไปด้านในห้องหนังสืออย่างรีบร้อน

“นายท่านขอรับ นายท่านสามมาถึงแล้วขอรับ”

ไช่ซิ๋งซ่านแปลกใจเล็กน้อยที่บุตรชายคนเล็กถึงเร็วกว่าทุกครั้ง กระนั้นก็ยังให้พ่อบ้านรีบเชิญเขาเข้ามา

ไม่นานร่างสูงใหญ่ของไช่เฟิงหยูก็เดินเข้ามาในครรลองสายตา ไม่ได้พบบุตรชายสามเดือน แต่เขาสัมผัสได้เลยว่าบรรยากาศรอบตัวไช่เฟิงหยูเปลี่ยนไป

“คารวะท่านพ่อขอรับ”

ไช่เฟิงหยูคำนับบิดาอย่างนอบน้อม ไช่ซิ่๋งช่านผายมือไปทางโต๊ะหนังสือเพื่อจะถามสารทุกข์สุกดิบ

“พ่อสัมผัสได้ว่าบรรยากาศรอบตัวเจ้าดูเปลี่ยนไป ระดับพลังเพิ่มขึ้นหรือ”

“เมื่อไม่กี่วันมานี่เองขอรับ”

ไช่เฟิงหยูตอบด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มประดับอยู่ที่มุมปากเล็กน้อย ยามเวลาที่สนทนากับคนในครอบครัวเขาจะอ่อนโยนเป็นพิเศษ คนเครื่องหน้าอบอุ่น เพียงยกมุมปากสูงขึ้นบรรยากาศรอบกายก็ดูน่าเข้าใกล้แล้ว

“อาจารย์ที่เจ้าเชิญมาสอนเซียงฮวามาถึงแล้วเมื่อวาน ตงเฟยเฟยก็ทาบทามอาจารย์มาสอนปิงฮวาเอง เห็นทีเสนาบดีเช่นข้าจะไม่มีความสามารถพอจะหาอาจารย์เก่ง ๆ ให้หลานสาวสักคน”

คำพูดตัดพ้อถูกกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ คล้ายไม่ได้จริงจัง แต่ไช่เฟิงหยูสัมผัสอารมณ์น้อยใจได้

“เห็นทีท่านพ่อจะต้องตัดพ้อข้าอีกครั้ง อาจารย์ที่ข้าทาบทามให้มาสอนพลังธาตุสายฟ้าของฮั่วฮวากำลังเดินทางมาขอรับ”

“ลำบากเจ้าเป็นธุระให้แล้ว”

เสนาบดีเฒ่าตบไหล่บุตรชายเบา ๆ แล้วกล่าวอีกหนึ่งประโยค

“ดีที่พรรคหยิ๋นมี่เป็นพรรคธรรมะ มิเช่นนั้นพวกขุนนางเจ้าเล่ห์ทั้งหลายไม่ปล่อยตระกูลเราไว้แน่”

“ลำบากท่านพ่อรับมือแล้ว”

“ไม่ลำบาก นี่คือเส้นทางที่เราเลือกเอง อย่างไรก็ต้องอยู่ชดใช้กรรมกันไป”

ไช่เฟิงหยูหัวเราะในลำคอแล้วถามถึงคุณหนูทั้งสาม

“เด็ก ๆ กำลังเรียนศาสตร์ของสตรีอยู่หรือ”

“ใช่ พ่อเกรงว่าจะเสียมารยาทต่ออาจารย์เกินไป หากให้พวกนางมาต้อนรับเจ้า หวังว่าเจ้าจะไม่ถือสา”

“ข้าไม่ถือสา”

ไช่ซิ๋งช่านเงียบไปครู่หนึ่ง ชั่งใจว่าจะพูดเรื่องนี้ดีหรือไม่ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจพูด

“เซียงฮวาแปดหนาวแล้ว โตพอจะทราบเรื่องราวของผู้ใหญ่ เจ้าตัดใจจะบอกนางเมื่อไร”

“ลูก…” เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ไช่เฟิงหยูก็หดหู่จนต้องถอนหายใจ “ลูกคิดว่าจะปิดบังนางไปทั้งชีวิต”

ไช่ซิ๋งช่านได้ยินเช่นนั้นก็ส่ายหน้าเป็นเชิงไม่เข้าใจ

“ด้วยเหตุใด”

“ลูกจะทนเห็นนางเจ็บปวดได้อย่างไร หากนางรู้ว่ามารดาไม่อยู่แล้ว”

หนึ่งเค่อต่อมา…

ไช่เฟิงหยูเดินทางมาที่จวนอย่างเร่งรีบเพราะอยากเจอไช่เซียงฮวาเร็วขึ้น หลังจากที่ออกมาจากห้องหนังสือของไช่ซิ๋งช่าน สถานที่แรกที่เขามาก็คือสวนดอกไม้ใกล้เรือนส่วนตัวของไช่เซียงฮวา

ยิ่งเดินเข้าใกล้เรือนของนางมากเท่าไร ยิ่งได้กลิ่นหอมจรุงจมูกของบุปผาชัดขึ้นเท่านั้น

สวนดอกไม้ในภาพจำของคนทั่วไปคือดอกไม้ที่ถูกเหล่าภมรดูดกินน้ำหวาน

ทว่าสิ่งที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้าไม่ใช่! 

ยามนี้เด็กสาวตัวเล็กเป็นจุดสนใจของเหล่าผีเสื้อที่กำลังบินวนล้อมรอบ บางตัวอาจหาญ เกาะตามร่างกายของนางไม่เว้นแม้แต่ใบหน้า

เหมือนมารดาของเจ้าไม่มีผิด

“ทำไมผีเสื้อไม่ไปตรงที่ดอกไม้อยู่เล่าอาเมี่ยว องค์ประกอบไม่สมบูรณ์สุด ๆ”

ไช่เซียงฮวาที่กำลังวาดภาพดอกไม้อยู่กล่าวกับซูเมี่ยวที่กำลังกางร่มให้ด้วยน้ำเสียงเจือความหงุดหงิด

“นั่นสิเจ้าคะ”

ซูเมี่ยวกวาดสายตามองไปรอบ ๆ จังหวะนั้นเองที่ดวงตาสะดุดอยู่ที่ร่างสูงของไช่เฟิงหยู

นางกำลังจะส่งเสียงเรียกแล้ว หากไม่ได้รับสัญญาณจากไช่เฟิงหยูเสียก่อน 

ร่างสูงลงน้ำหนักเท้าแผ่วเบาเดินมาทางด้านหลังไช่เซียงฮวา มือหนาถือร่มแทนซูเมี่ยวแล้วโบกมือให้นางถอยห่าง ซูเมี่ยวที่รู้สถานการณ์จึงถอยห่างจากบริเวณนี้ ให้อาหลานได้ใช้เวลาร่วมกัน

ส่วนไช่เซียงฮวาที่รู้สึกว่าบรรยากกาศรอบตัวดูแปลกไปจึงละสายตาจากภาพวาด เงยหน้ามองคนที่กางร่มให้ตน

ดวงตากระจ่างใสสบเข้ากับดวงตาคู่คมมีประกายความอ่อนโยนอยู่ในนั้น ริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้มค่อย ๆ ฉีกกว้างขึ้นตามสภาพอารมณ์ 

“ท่านอา~”

นางเรียกท่านอาเสียงใส ละทิ้งทุกอย่างที่ทำอยู่แล้วกระโดดกอดไช่เฟิงหยูที่ถึงกับหัวเราะในท่าทางร่าเริงเหมือนหมาเด็กของนาง

“เซียงฮวา ห้อยโหนเป็นลิงเป็นค่างไปได้”

เสียงทุ้มของเฟิงหยูหัวเราะออกมาเบา ๆ มือหนาข้างหนึ่งที่กำลังถือร่มอยู่ทิ้งลงที่พื้นทันทีที่เซียงฮวาน้อยกระโดดเกาะขาตน สองมือแกร่งแกะลิงน้อยออกมาจากขา แล้วอุ้มนางมาไว้ในอ้อมอกอ้อมแขนประหนึ่งแม้ให้นมลูก

ไช่เฟิงหยูกลั้วหัวเราะในลำคอ เขายอมทิ้งร่มเลือกประคองไช่เซียงฮวาที่กระโดดเกาะขา เพราะกลัวนางจะเผลอปล่อยมือจนได้รับอันตราย

“คิดถึงท่านอาที่สุด ไม่เจอกันสามเดือนเหมือนสามปี” เสียงใสฉอเลาะท่านอาไม่หยุด ใบหน้าน้อยถูไถไปมาบนร่างของไช่เฟิงหยู

คนถูกอ้อนมีหรือจะไม่ใจละลาย เปลี่ยนเป็นอุ้มนางแล้วพาเดินไปนั่งศาลาเพราะกลัวแสงแดดจะทำอันตรายผิวอ่อน

“ท่านอามาถึงนานแล้วหรือเจ้าคะ”

“คารวะท่านปู่เสร็จก็ตรงมาหาเจ้าทันที”

“ชื่นใจ” 

ว่าแล้วนางก็ซบอกอุ่นต่อ แต่เมื่อคิดได้ว่ามีเรื่องต้องบอกท่านอาก็เงยหน้าสบตาเขา

“ลืมไปเลยเจ้าค่ะ เช้านี้ข้าต้องส่งภาพวาดพู่กันให้อาจารย์หลิว หลังจากรับมื้อเที่ยงแล้วท่านอาจารย์หวางจะมารับไปฝึกวิชาพลังธาตุ ไม่เกินยามโหย่วถึงจะมาส่งข้าที่จวนเจ้าค่ะ แพลนของท่านอาวันนี้คืออันใดบ้างเจ้าคะ”

เฟิงหยูที่ได้ยินคำว่า ‘แพลน’ ของเซียงฮวาบ่อยเสียจนบางทีหลงลืมแล้วนำไปใช้กับลูกน้องได้บอกแพลนของตัวเองให้นางฟัง

“เวลาของอาทั้งหมดเป็นของเจ้าผู้เดียว ดีหรือไม่”

ไช่เซียงฮวาดวงตาเบิกกว้าง ตกใจยิ่งกว่าตอนที่ได้เงินก้อนโต

“จะไม่ดีได้อย่างไรกันเจ้าคะ ค่าตัวท่านอาแพงถึงเพียงนี้ ดียิ่งเจ้าค่ะ” พยักหน้ารัว ๆ ตรงคำว่าดียิ่ง

“เจ้าลิงน้อย”

ไช่เฟิงหยูก้มลงมองไช่เซียงฮวาด้วยแววตาอ่อนโยน แม้ว่าเวลาส่วนใหญ่ทั้งหมดในชีวิตของเขาคือการทุ่มเทฝึกยุทธ์และพลังธาตุ

แต่ถ้ามีเวลาเพียงนิด เขาจะไม่พลาดที่จะมาให้เห็นถึงช่วงเวลาสำคัญในชีวิตของนาง

ตั้งแต่นางลืมตาดูโลก เริ่มคลาน ตั้งไข่ เดินไปไหนมาไหนได้ จวบจนตอนนี้ที่มานั่งต่อปากต่อคำกับเขาก็เป็นเวลาแปดปีแล้ว

แปดปีมาแล้วอีกเช่นกันที่นางจากข้าไป

“ท่านอาดูนิ้วของข้าสิเจ้าคะ วันก่อนเรียนดีดพิณกับท่านอาจารย์จนนิ้วแดงไปหมดเลยเจ้าค่ะ”

นิ้วไม่แดงแล้ว แต่คนอยากอ้อน อยากแดงก็ต้องแดง

ไช่เฟิงหยูเองก็รู้แกวแล้ว ยกมือเล็กขึ้นมาแล้วเป่า 

“เพรี้ยง~หาย!” ตามที่นางเคยสอนไว้ 

เรียกเสียงหัวเราะคิกคักจากนางได้ทันที!

“หยกที่ฝากเฮยหลงมาให้เจ้าล่ะ”

ไช่เซียงฮวาตอบอ้อมแอ้มเมื่อนึกถึงหยกสีนิลอันนั้น

“เอ่อ ข้ากลัวทำหายจึงเก็บไว้ในเรือนนอนเจ้าค่ะ ขออภัยที่ไม่ได้พกติดตัวไว้”

“ไม่ต้องขอโทษ แต่ต่อไปนี้ห้ามห่างกายเป็นอันขาด เข้าใจหรือไม่”

“เจ้าค่ะ ท่านอา”

ไช่เฟิงหยูพยักหน้าพอใจ นึกถึงหยกสีนิลอันนั้น ของวิเศษจากแดนสวรรค์ที่เขาเพิ่งได้มา สามารถปกปิดซ่อนพลังเร้นลับได้ แม้คนผู้นั้นจะมีพลังธาตุระดับสิบก็ตาม 

คิดมาถึงตรงนี้ ดวงตาคู่คมก็หลุบมองข้อมือเล็ก ยามนี้ปานสีฟ้าชัดเจนยิ่งกว่าแปดปีที่แล้ว

ข้าเริ่มหวั่นใจแล้วสิ

เขามองเห็นปานบุปผาของไช่เซียงฮวา!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บุปผาเยียวยาใจ   บทที่ ๒๐ ต้องทำถึงเพียงนี้เชียวหรือ

    บทที่ ๒๐ต้องทำถึงเพียงนี้เชียวหรือณ โรงเตี๊ยมซงชู่หนึ่งในสถานที่ยอดนิยมของเมืองหลวงแคว้นเหลียง“เจ้าว่าสองแสบจะทำสำเร็จหรือไม่”จื่อหลีเฮยที่ตอนนี้นั่งอยู่ชั้นบนสุดของโรงเตี๊ยมเอ่ยถามคนสนิท สายตาสอดส่องลงไปยังชั้นล่างสุดเพื่อมองหาคนที่ตนกำลังรออยู่“ไม่เกินความสามารถของคุณหนูกับท่านประมุขน้อยแน่นอนขอรับ”คนสนิทจื่อหลีเฮยตอบกลับด้วยความหวังที่คิดว่าต้องใช่ สืบเนื่องจากว่าก่อนหน้านี้มีคำสั่งจากท่านประมุขให้ออกตามหาคน เบาะแสมีอยู่แค่ว่าใช้พลังที่เกี่ยวกับบุปผาได้ เป็นเด็กสาวชุดขาว มีหมวกปิดบังใบหน้าไว้และอายุไม่เกิน 12 หนาวประทานโทษเถิด! เบาะแสเพียงเท่านี้ต่อให้พวกเขาจะมีความสามารถมากกว่านี้อีกกี่เท่า ก็ต้องขอกล่าวว่าแทบไม่มีทางเป็นไปได้เลยเพราะสิ่งเดียวที่ยังพอใช้การได้อย่างพลังบุปผา ซึ่งหากว่าเป็นพลังที่แปลกกว่าผู้อื่นจริง ๆ แล้วผู้ใดจะใช้ออกมาให้เห็นกันพร่ำเพรื่อดังนั้นแม้ก่อนหน้านี้เขาและท่านประมุขจะไม่เชื่อคำกล่าวที่ออกมาจากปากของคุณหนูตัวแสบนัก แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าพวกเขาก็ขอให้เป็นนางจริง ๆ ทางด้านเซียงฮวา…“โรงเตี๊ยมซงชู่มีทั้งหมดสี่ชั้น แอบกระซิบบอกเจ้าก็ได้ว่าที่นี่เป็นขอ

  • บุปผาเยียวยาใจ   บทที่ ๑๙ มันถ่ายทอดผ่านดีเอ็นเอได้

    บทที่ ๑๙มันถ่ายทอดผ่านดีเอ็นเอได้ณ พรรคมารจื่อถาน“หนีผู้อารักขาไปเล่นซนที่ใดกันมาเจ้าตัวแสบ!”เสียงกัมปนาททำแฝดชายหญิงที่กำลังเดินย่องเข้าเขตรั้วพรรคมารจื่อถานชะงักกึก ประมุขพรรคยังไม่ได้ไต่สวน โจรย่องเบาทั้งสองก็รับสารภาพเสียแล้ว“เสี่ยวเฉิงสำนึกผิดแล้วขอรับท่านพ่อ/เสี่ยวเหมยสำนึกผิดแล้วเจ้าค่ะท่านพ่อ” จื่อเจี่ยนเฉิงและจื่อเหมยฮวาเป็นความผิดพลาดของจื่อหลีเฮยเมื่อสิบปีก่อนโดยความตั้งใจของจื่อหลีป๋าย มารดาของทั้งคู่ลาลับโลกนี้ไปแล้ว เด็กแฝดถูกเลี้ยงดูสั่งสอนโดยแม่นม จื่อหลีเฮยไม่มีเวลาดูแลทั้งสองมากนักจึงประเคนทุกสิ่งที่เด็กแฝดต้องการ หวังว่าการตามใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ จะเติมเต็มสิ่งที่เขาบกพร่องไป และเพราะการตามใจที่ไร้ขีดจำกัดนี้ ทั้งสองจึงมักก่อเรื่องเป็นประจำ อย่างเช่นเรื่องในวันนี้ในระหว่างที่เขาเพิ่งกลับมาจากการทำธุระก็ได้รับรายงานมาจากผู้อารักขาประจำตัวของเด็กแฝดว่าออกไปเล่นซุกซนกันที่อื่นแต่ไปเล่นที่ใดไม่เล่น กลับไปเล่นในพื้นที่ใกล้เขตของพรรคหยิ๋นมี่ จากบิดาที่ไม่ดุด่าว่าบุตร วันนี้กลับทำเสียงแข็งใส่ทั้งสองถึงขั้นเป็นตวาด“เข้าไปคุยกันในเรือน”“ขอรับ/เจ้าค่ะท่านพ่อ”ใน

  • บุปผาเยียวยาใจ   บทที่ ๑๘ เอามากำไว้ดั่งเป็นลูกไก่

    บทที่ ๑๘เอามากำไว้ดั่งเป็นลูกไก่“I love the way you make me feel, I love it, l love it, I love the way you make me feel, I love it , l love it”เซียงฮวาร้องเพลงบนหลังม้า มือข้างซ้ายยกขึ้นทำมินิฮาร์ทตรงคำว่า ‘love’ ให้เฮยหลงแม้เฮยหลงจะไม่เข้าใจท่าทางนี้ แต่บรรยากาศรอบกายนางทำให้เขาหน้าเห่อร้อนขึ้นจนเผลอยกมือแตะใบหน้า ไม่ไหวจริง ๆ ก็เบือนหน้าไปทางอื่นเพราะไม่อยากให้นางเห็นว่าตนเสียอาการ‘เซียงฮวา…’เจ้าของนามหยุดร้องเพลงเมื่อได้ยินเสียงเฮยหลิง‘พบเป้าหมายอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ทางทิศตะวันตก’เซียงฮวาลอบถอนหายใจเบา ๆ ดีว่ากล่อมตัวเองเก่งถึงได้เข้าโหมดทำงานได้อย่างรวดเร็ว‘ทางทิศตะวันตกคือนอกเขตแดนของพรรคหยิ๋นมี่มิใช่หรือ’‘ใช่ เจ้ารีบไปช่วยเถิด!’‘แล้วเฮยหลงเล่า ข้าไม่มีทางทิ้งบุรุษของข้าให้ต้องอยู่คนเดียวเปล่าเปลี่ยวกายาแน่…เอาแบบนี้แล้วกัน!’“เฮยหลง ทางทิศตะวันตกคือจุดสิ้นสุดของเขตแดนใช่หรือไม่” เซียงฮวาแสร้งถามเหมือนไม่รู้“ใช่ เมื่อออกจากเขตแดนทางทิศตะวันตกแล้ว มีเส้นทางหนึ่งที่ผู้คนไม่ค่อยใช้กันนัก แต่สามารถเข้าตลาดได้”เซียงฮวาได้ยินเช่นนั้นก็ตาลุกวาว…เข้าทางแล้ว!“อยู่ ๆ ข้าก็อย

  • บุปผาเยียวยาใจ   บทที่ ๑๗ เอาไว้สร้างรังรักของเรา

    บทที่ ๑๗เอาไว้สร้างรังรักของเราพรรคหยิ๋นมี่ขึ้นชื่อเรื่องการฝึกหนัก สมาชิกส่วนมากเข้าพรรคตั้งแต่อายุยังน้อย อย่างเฮยหลงก็ฝากตัวเป็นศิษย์กับไช่เฟิงหยูตั้งแต่อายุ 4 หนาวการเป็นศิษย์ของผู้ที่มีพรสวรรค์อย่างไช่เฟิงหยูไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากจะต้องตั้งใจฝึกซ้อมเพื่อไม่ให้เสียหน้าอาจารย์แล้วยังต้องรักษาหน้าองค์ชายรองแคว้นฝู การฝึกของคนในพรรคที่ว่าหนักแล้ว ยังเทียบไม่ได้กับเขาตั้งแต่เช้ายันบ่าย เขาจะฝึกยุทธ์ร่วมกับสมาชิกพรรครุ่นเยาว์ทั้งหลาย หรือบางทีหากท่านอาจารย์อยากจะถ่ายทอดเคล็ดวิชาใหม่ ๆ ให้เขาก็ต้องแยกไปเรียนเดี่ยวตกดึกก็จะเรียนการใช้พลังธาตุกับท่านประมุขพรรค สลับกับเรียนคาถาลับของพรรคที่ท่านอาจารย์เป็นผู้ที่ถ่ายทอดให้โดยตรงพอจะเข้านอนแล้วก็ควรเป็นเวลาพักผ่อนร่างกาย แต่เขาก็ยังอ่านตำรา ฝึกคัดอักษร เวลานอนในแต่ละวันไม่ถึงสองชั่วยาม แต่เจ้าตัวก็คงคิดว่ายังยุ่งไม่พอ เพราะยังหาเวลาว่างเข้าครัวทำอาหารพิชิตใจสาวน้อยวัยเดียวกันพูดถึงเรื่องเข้าครัวก็ต้องพูดถึงอาหารมื้อเย็น เขาทำอาหารให้เซียงฮวาแล้วให้สาวใช้ในพรรคนำมาส่งให้ถึงเรือน แอบกังวลไม่น้อยว่าจะไม่ถูกปากนางตับ!ฝูเฮยหลงพับตำราเก็

  • บุปผาเยียวยาใจ   บทที่ ๑๖ อาอยากจะบอกว่า…

    บทที่ ๑๖อาอยากจะบอกว่า…หลังได้รับการช่วยเหลือจากเซียงฮวา เมื่อกลับถึงพรรค จื่อหลีเฮยก็สั่งลูกน้องให้ออกตามหาเด็กสาวชุดขาวอายุไม่เกินสิบสองหนาว ตามหาเอิกเกริกจนรู้ถึงหูไช่เฟิงหยูและพรรคข้างเคียงไช่เฟิงหยูเดินเข้ามาในห้องทำงานชิวเฉินยี่โดยไม่ต้องให้ใครรายงานก่อน ซึ่งเจ้าของห้องเองก็ชินแล้วเช่นกัน“เจ้าได้ยินข่าวที่หลีเฮยให้คนออกตามหาเด็กสาวคนหนึ่งแล้วหรือไม่ ตามหาคนก็ยากอยู่แล้ว ข้อมูลที่ให้มายังมีเพียงสองข้อ ชุดขาวกับอายุ ต่อให้เป็นข้าก็หาไม่เจอ”ไช่เฟิงหยูขบขัน ชิวเฉินยี่เองก็ไม่แพ้กัน แต่เขาเพียงเหยียดยิ้มเท่านั้นไม่ได้กล่าวเสียดสีเช่นทุกที“รายงานผลรายได้จากหอขายข่าว หอสุราและร้านค้าปลีกย่อยในเดือนนี้”ชิวเฉินยี่ยื่นมือมารับสมุดแต่ไม่ได้เปิดอ่านในตอนนั้น ไช่เฟิงหยูจึงกล่าวถามสิ่งที่สงสัย“ว่าแต่เจ้ายังให้คนออกตามหาผู้มีปานดอกไม้อยู่ที่ข้อมืออยู่อีกไม่”ชิวเฉินยี่พยักหน้ารับ ไม่ได้เก็บงำเป็นความลับ แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยเบื้องลึกให้ใครทราบเช่นกัน “เจ้าตามหาทำไม บอกจุดประสงค์ได้หรือไม่”ชิวเฉินยี่ยังคงเงียบ ในหัวเริ่มคิดถึงภาพความจำอันเลือนรางในหลาย ๆ สถานที่หลาย ๆ อิริยาบถระหว่างเขาก

  • บุปผาเยียวยาใจ   บทที่ ๑๕ เขาบอกข้าว่าควรกลับบ้านไปนอนกอดแม่

    บทที่ ๑๕เขาบอกข้าว่าควรกลับบ้านไปนอนกอดแม่เช้าวันต่อมา…“ขอบตาดำเชียว ตื่นเต้นที่จะได้ออกเดินทางจนนอนไม่หลับเลยหรือ!”จางซิ่วลี่เอ่ยกับบุตรสาวด้วยน้ำเสียงเข้มงวด ทว่าไม่อาจปิดความห่วงใยในแววตาได้“ไม่ดึกมากเจ้าค่ะท่านแม่ แต่ร่างกายของคนเราตื่นรู้นัก เมื่อจะเจอเรื่องที่ต่างจากทุกวันจะหลั่งสารอะดรีนาลีนจนตื่นตัว อยากนอนเร็วเหมือนกันเจ้าค่ะ แต่จนใจที่ทำเช่นนั้นมิได้”เซียงฮวาโกหกคำโต ทั้งยังเอาชื่อสารที่หลั่งมาจากต่อมหมวกไตเบี่ยงเบนความสนใจของมารดา “มีสารที่ชื่อนี้ด้วยหรือ ไยฟังดูไม่ใช่ภาษาบ้านเรา” แล้วก็ได้ผล! จางซิ่วลี่ไม่รู้ตัวเลยว่าถูกบุตรสาวเบี่ยงเบนความสนใจ อาจารย์หวางที่จะเดินทางกลับพร้อมกันก็มีความสงสัยเช่นกัน แต่ไม่แสดงออกมากนัก “ได้เวลาต้องออกเดินทางแล้ว”อาจารย์หวางให้โอกาสแม่ลูกได้ร่ำลากันครู่หนึ่ง เมื่อสมควรแก่เวลาแล้วก็เอ่ยชวนเซียงฮวาออกเดินทางไปพรรคหยิ๋นมี่ ทุกสามเดือนไช่เฟิงหยูจะมารับนางไปเที่ยวเล่น แต่หากครั้งใดไม่ได้มารับด้วยตนเองจะส่งองครักษ์ชุดใหญ่ทั้งที่ลับและที่แจ้งมาคุ้มครองระหว่างการเดินทาง ครั้งนี้อาจารย์หวางเดินทางมาด้วย มียอดฝีมืออยู่ในขบวนเช่นนี้ไช่เฟิ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status