เฮ้อ! สวรรค์ ท่านจะให้โผล่มาตอนไหนไม่โผล่ กลับให้ข้าโผล่มาหลังจากทำความผิดร้ายแรงแล้ว’ นางคร่ำครวญกับตนเองก่อนจะเดินเข้าห้องของตน
‘แต่จะทำอันใดได้ ในเมื่อข้าทำมันไปแล้ว แต่เอ๊ะ! หรือว่าการที่สวรรค์ให้นางย้อนกลับมาเช่นนี้เพื่อให้ข้าแก้ไข’ หากเป็นเช่นนั้นนางควรจะทำดีกับพี่ชายเพื่อลบล้างเรื่องราวเลวร้ายที่จะเกิดขึ้นในตระกูลหมิงใช่หรือไม่
จะว่าไปยามนั้นหมิงเซียวเหยาน้องสาวที่น่ารักของนางมีอายุเพียงเก้าหนาว อาจจะเป็นนางก็ได้ที่วิงวอนขอกลับมามีชีวิต และหากนั่นเป็นความปรารถนาของเซียวเหยานางก็ยินดีที่จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาให้ตระกูลหมิงรอดพ้นจากเงื้อมมือของพี่ชายต่างมารดา การโดนแทงตายและเห็นคนที่รักต้องตายซ้ำ ๆ มันไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีเลย หากนางสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้นางก็จะรีบลงมือทำ
‘ยามนี้เหยาเอ๋อร์ก็อายุเจ็ดหนาวแล้ว เท่ากับว่าข้ามีเวลาที่จะลดความคับแค้นในใจพี่ใหญ่อีกสองปีใช่หรือไม่’ นอกจากจะลดความแค้นที่พี่ใหญ่มีต่อคนตระกูลหมิงแล้ว นางคิดว่าการหาบุรุษที่มีอำนาจมากพอจะปกป้องนางและทุกคนได้น่าจะเป็นสิ่งที่สมควรทำเช่นกัน
“คุณหนูเจ้าคะ คุณชายใหญ่ไล่ท่านหมอออกมา ไม่ยอมให้ท่านหมอเข้ารักษาเจ้าค่ะ” ท่าทางกระหืดกระหอบของหลินถงทำให้นางผุดลุกขึ้นยืนในทันที
“แล้วเจ้าให้ท่านหมอกลับไปแล้วหรือ”
“ยังเจ้าค่ะ บ่าวให้ท่านหมอรออยู่หน้าเรือนของคุณชายใหญ่”
“เช่นนั้นรีบไปกันเถิด อย่างไรวันนี้พี่ชายต้องได้รับการรักษา มิเช่นนั้นหากแผลถูกโบยเน่าขึ้นมา ท่านแม่อาจจะเดือดร้อน” จริง ๆ ไม่ใช่แค่ท่านแม่หรอกที่เดือดร้อน เรียกได้ว่าสิ้นตระกูลหมิงเลยก็ว่าได้
หมิงเจียวซือก้าวเท้าเดินเร็วคล้ายคนร้อนใจไปยังเรือนท้ายจวนของพี่ชายต่างมารดา
“คารวะคุณหนู” แม้จะไม่ชอบคุณหนูผู้นี้เท่าใดแต่บ่าวรับใช้คนสนิทของหมิงเลี่ยงรุ่ยก็จำต้องแสดงความเคารพต่อคนที่มีฐานะสูงกว่า
‘พี่ใหญ่ไปหาซื้อบ่าวเหล่านี้มาจากที่ใดกัน เหตุใดถึงดูแข็งแกร่งเช่นนี้’ คงเป็นเพราะเมื่อก่อนนางมัวคิดแต่จะวางแผนการร้ายกาจจึงไม่เคยเพ่งมองผู้คนอย่างพิจารณา
“เป็นพวกเจ้าหรือที่ไม่อนุญาตให้ท่านหมอเข้าไปรักษาพี่ใหญ่” นางแสร้งกอดอกมองคนทั้งสองอย่างไม่พอใจ หากจู่ ๆ กลายเป็นคนดีคงมีคนคิดว่านางถูกผีเข้า ดังนั้นนางควรทำตัวเช่นเดิม แค่ลด ละ เลิก การกลั่นแกล้ง ใส่ร้ายผู้อื่นก็คงมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตตนเองและตระกูลหมิงได้
“คุณหนูขอรับ คุณชายกำลังบาดเจ็บอยู่ คุณหนูได้โปรดอย่าคิดกลั่นแกล้งคุณชายอีกเลยขอรับ” บ่าวรับใช้ที่มองอย่างไรก็ไม่ธรรมดากำลังคุกเข่าโขกหัวอ้อนวอน แต่แววตากลับแข็งกร้าวสวนทาง
‘บ่าวรับใช้ของพี่ใหญ่ก็คงจะไม่ธรรมดาเช่นกัน’ ยิ่งเพ่งพิศคนรอบตัวให้นานขึ้นยิ่งได้เห็นว่าชาติก่อนนางโง่งมเพียงใด ไม่แปลกเลยที่จะถูกฆ่าตาย
“พวกเจ้าคิดมากไปแล้ว ครั้งนี้ข้าให้คนตามท่านหมอมารักษาพี่ใหญ่จริง ๆ”
“แต่ที่ผ่านมาคุณหนู...”
“เฮ้อ! ที่ผ่านมาข้าขอโทษ การตกน้ำตกท่าจนเกือบไปเยือนปรโลกครั้งนี้ทำให้ข้าคิดได้” หมิงเจียวซือแสร้งทำหน้าเศร้าเล็กน้อย
เอาเถิด...พวกเขาจะระแวงก็ไม่แปลก ในเมื่อแต่ละครั้งที่นางก้าวเท้ามาเหยียบเรือนท้ายจวนแห่งนี้ย่อมไม่เคยมีเรื่องดี คล้ายกับมารร้ายที่มาเยือนเมื่อใดก็นำพาหายนะมาสู่เจ้าของเรือน
“...” บ่าวชายทั้งสองที่คุกเข่าอยู่บนพื้นยังคงจ้องมองคุณหนูของจวนอย่างไม่ไว้วางใจ
“พวกเจ้าไม่เชื่อข้าหรือ” นางก้าวเท้าเข้าไปใกล้ ก่อนจะโน้มตัวยื่นใบหน้าเข้าไปถามคนทั้งสองใกล้ ๆ แล้วส่งยิ้มที่คิดว่าหวานที่สุดปิดท้าย
การทำให้ผู้อื่นไว้ใจนั้นช่างเป็นเรื่องที่ยากจริง ๆ บ่าวยังระแวงนางเช่นนี้ แล้วผู้เป็นนายนางคงต้องลงแรงมากใช่หรือไม่กว่าเขาจะเลิกมองนางเป็นศัตรู
“คะ คุณหนู” เพ่ยตงและฉงซานผงะเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าแล้วลอบสบตากันคล้ายปรึกษา
“เฮ้อ! ข้ารู้ว่าที่ผ่านมาข้าทำตัวร้ายกาจเพียงใด คงยากจะทำให้พวกเจ้าเชื่อใจ แต่ข้าก็มีความจำเป็นที่ต้องให้ท่านหมอรักษาพี่ใหญ่เช่นกัน วันนี้ข้าคงต้องล่วงเกินพวกเจ้าแล้ว” สิ้นเสียงนางก็โบกมือให้ผู้คุ้มกันที่นางสั่งให้รออยู่ด้านนอกนับสิบคนเข้าไปจับตัวคนที่คิดขัดขวาง
“คุณหนู หากท่านคิดจะทำร้ายคุณชายของพวกข้า ต่อให้พวกข้าตายเป็นผีไปแล้วข้าก็จะมาหักคอท่าน” เพ่ยตงที่ถูกชายร่างใหญ่สามคนจับตัวไว้ร้องบอก แววตาเต็มไปด้วยความโกรธที่ตนเองไม่สามารถทำอันใดได้ เพราะคุณชายไม่ยอมให้พวกตนเผยความสามารถยามอยู่ในจวนหมิง มิเช่นนั้นเขาคงหักคอสตรีผู้นี้ไปหลายต่อหลายครั้งที่มาหาเรื่องคุณชายแล้ว
“เชิญ” สิ้นเสียงคุณหนู ท่านหมอผู้นั้นก็ได้แต่ส่ายหัว พลางคิดว่าเนื้อแท้ของคุณหนูผู้นี้ไม่ได้เลวร้ายเช่นที่ผู้คนเล่าลือ เหมือนจะไม่สนใจและต่อว่า แต่แท้จริงก็ห่วงใย “หลินถงชาเล่า?” “นี่เจ้าค่ะ” “ส่งให้เขา” สิ้นเสียงนาง บ่าวคนสนิทของพี่ใหญ่ก็ยังยืนนิ่งคล้ายไม่สนใจ “...” “นี่เป็นชาชั้นดี ที่แบ่งมาจากเรือนข้า เพราะยามมาที่เรือนนี้ข้าจะได้มีชาชั้นดีจิบ” หมิงเจียวซือกล่าวก่อนจะดึงห่อชาจากสาวใช้แล้วยัดใส่มือบ่าวชายตรงหน้า “คุณหนูท่านไม่ควรมา...” เพ่ยตงที่ถูกยัดของใส่มือไม่ทันตั้งตัวรีบคว้ามันเอาไว้ก่อนที่จะตกพื้นแล้วจะเอ่ยห้ามอีกฝ่าย “ข้าเป็นคุณหนูจวนหมิง ข้าจะเดินไปที่ใดก็ได้ในจวนข้า เข้าใจหรือไม่” กล่าวจบนางก็จับข้อมือหลินถงแล้วลากออกมาทันที ‘โอ๊ย! หัวใจจะวาย เหตุใดการไปเยือนเรือนของหมิงเลี่ยงรุ่ยในครานี้ถึงได้น่ากลัว’ ทั้งที่ชาติก่อนนางไม่เคยหวาดกลัวคนผู้นี้เลยสักครั้ง ส่วนบ่าวรับใช้คนสนิทหากเป็นเมื่อก่อนคงถูกสั่งโบยมาแล้วโทษฐานที่ไม่เคารพนาง แต่เหตุใดวันนี้นางสัมผัสได้ถึ
“คุณหนู หากท่านคิดจะทำร้ายคุณชายของพวกข้า ต่อให้พวกข้าตายเป็นผีไปแล้วข้าก็จะมาหักคอท่าน” เพ่ยตงที่ถูกชายร่างใหญ่สามคนจับตัวไว้ร้องบอก แววตาเต็มไปด้วยความโกรธที่ตนเองไม่สามารถทำอันใดได้ เพราะคุณชายไม่ยอมให้พวกตนเผยความสามารถยามอยู่ในจวนหมิง มิเช่นนั้นเขาคงหักคอสตรีผู้นี้ไปหลายต่อหลายครั้งที่มาหาเรื่องคุณชายแล้ว “หากตั้งแต่วันนี้ไปข้ากลั่นแกล้งหรือใส่ร้ายทำให้คุณชายของพวกท่านโดนลงโทษอีก ข้าจะยอมให้พวกท่านหักคอข้า” นางกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังหันไปพยักหน้าให้ท่านหมอที่คล้ายจะยกมือปาดเหงื่อไปแล้วหลายรอบให้เดินตามเข้าเรือนไป แต่เมื่อได้เห็นสายตาของคุณชายใหญ่ที่จับจ้องคุณหนูตระกูลหมิงแล้ว ท่านหมอก็กระจ่างแจ้งในใจว่าแท้จริงคุณหนูวัยใกล้ปักปิ่นผู้นี้คงร้ายกาจมากทีเดียว “ใครอนุญาตให้เจ้าเข้ามา” แม้สีหน้าของคนที่นอนคว่ำบนเตียงจะเรียบเฉย แต่ทว่าแววตาที่จ้องมองนางกลับแฝงความไม่พอใจ “ข้าอนุญาตตนเองเจ้าค่ะ พวกเจ้าลงมือ” สิ้นเสียงคุณหนู ผู้คุ้มกันก็ตรงเข้าไปจับตัวคุณชายให้อยู่นิ่ง “หึ! ไม่คิดว่าเจ้าจะชั่วช้าถึงเพียงนี้” ใส่ร้ายว่าเ
เฮ้อ! สวรรค์ ท่านจะให้โผล่มาตอนไหนไม่โผล่ กลับให้ข้าโผล่มาหลังจากทำความผิดร้ายแรงแล้ว’ นางคร่ำครวญกับตนเองก่อนจะเดินเข้าห้องของตน ‘แต่จะทำอันใดได้ ในเมื่อข้าทำมันไปแล้ว แต่เอ๊ะ! หรือว่าการที่สวรรค์ให้นางย้อนกลับมาเช่นนี้เพื่อให้ข้าแก้ไข’ หากเป็นเช่นนั้นนางควรจะทำดีกับพี่ชายเพื่อลบล้างเรื่องราวเลวร้ายที่จะเกิดขึ้นในตระกูลหมิงใช่หรือไม่ จะว่าไปยามนั้นหมิงเซียวเหยาน้องสาวที่น่ารักของนางมีอายุเพียงเก้าหนาว อาจจะเป็นนางก็ได้ที่วิงวอนขอกลับมามีชีวิต และหากนั่นเป็นความปรารถนาของเซียวเหยานางก็ยินดีที่จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาให้ตระกูลหมิงรอดพ้นจากเงื้อมมือของพี่ชายต่างมารดา การโดนแทงตายและเห็นคนที่รักต้องตายซ้ำ ๆ มันไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีเลย หากนางสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้นางก็จะรีบลงมือทำ ‘ยามนี้เหยาเอ๋อร์ก็อายุเจ็ดหนาวแล้ว เท่ากับว่าข้ามีเวลาที่จะลดความคับแค้นในใจพี่ใหญ่อีกสองปีใช่หรือไม่’ นอกจากจะลดความแค้นที่พี่ใหญ่มีต่อคนตระกูลหมิงแล้ว นางคิดว่าการหาบุรุษที่มีอำนาจมากพอจะปกป้องนางและทุกคนได้น่าจะเป็นสิ่งที่สมควรทำเช่นกัน “คุณหน
1 สวรรค์กลั่นแกล้ง นัยน์ตาเมล็ดซิ่งกำลังลอบมองบุรุษในอาภรณ์ซ่อมซ่อที่ลดอาภรณ์เปิดแผ่นหลังให้คนสนิททายา ‘คนของท่านแม่ลงมือหนักถึงเพียงนี้ แล้วข้าจะแก้ไขมันเช่นไรดี’ นางคิดก่อนจะค่อย ๆ ถอยห่างจากหน้าต่างบานนั้นแล้วรีบกลับจวนของตนเอง สวรรค์! พวกท่านให้ข้าหลุดพ้นแล้วจะส่งข้ากลับมาด้วยเหตุใด ในเมื่อยามที่ตระกูลนางถูกฆ่าล้างตระกูลโดยทำให้เหมือนเป็นการปล้นทรัพย์นางไม่เคยต่อว่าสวรรค์หรือร้องขอที่จะกลับมาแก้ไข นางยอมรับในการกระทำของตนเอง ว่าการกลั่นแกล้งบุตรชายนอกจวนของบิดา จะนำไปสู่การแก้แค้นที่ทำให้ตายตกทั้งตระกูล แม้แต่บิดาของนางก็ยังถูกสังหารไม่เว้น ยามนั้นแม้จะไม่เห็นหน้าแต่นางก็จำแววตาของพี่ชายต่างมารดาได้เป็นอย่างดีว่าคนที่แทงดาบใส่นางคือเขา ในเมื่อนางยอมรับชะตากรรมและเดินทางไปปรโลกแต่โดยดีก่อนจะไปเกิดในโลกใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไป มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายและแม้ชีวิตนั้นจะบัดซบ พ่อแม่ตายตั้
บทนำ “เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อหรือ ว่าแมลงกัดคอเจ้าจนเป็นรอยแดงเช่นนั้น” เขากล่าวก่อนจะรวบสองมือที่ทุบตีเขาเมื่อครู่ขึ้นเหนือหัว ใบหน้าของบุรุษรูปงามเลื่อนเข้าไปใกล้ก่อนจะเอ่ยวาจา ลมหายใจที่เป่ารดดวงหน้าหวานทำให้หัวใจนางเต้นระรัว “ท่านปล่อยข้าก่อนได้หรือไม่เจ้าคะ” “สตรีร้ายกาจเช่นเจ้า สนทนาเช่นนี้น่ะดีแล้ว” หากไม่ร้ายกาจจริง คงไม่ทำให้เขาเกิดโทสะอยู่บ่อยครั้ง “ข้าว่าคนที่ร้ายกาจคือท่านมากกว่า” นางโต้เถียงอย่างไม่เต็มเสียงมากนัก “ในเมื่อเจ้าก็ได้ยินชัดเจนแล้วว่าเราสองคนหาได้มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดไม่ เจ้าจะยอมรับได้หรือยัง ว่าวันนั้นคนที่ช่วยข้าให้หลุดพ้นจากฤทธิ์ของยาปลุกกำหนัดคือเจ้า” “ท่านเอ่ยวาจายาวเหยียดเช่นนี้ได้ด้วยหรือเจ้าคะ” เขาเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ก่อนจะกระแทกหน้าผากของตนลงบนหน้าผากนางเบา ๆ “อย่าเปลี่ยนเรื่อง ตอบข้ามา” “ข้าเจ็บนะเจ้าคะ ในเมื่อท่านมั่นใจไปแล้ว จะถามข้าให้ได้อันใดอีก” นางบ