ภายในงานยังคงดำเนินการไปจนถึงดึก ทินกรให้การต้อนรับแก่นายอพทย์คนใหม่เป็นอย่างดี แต่ระหว่างที่พูดคุยทักทายกันนั้น สายตาก็พยายามที่จะมองหาพิพิมอยู่ตลอดเวลา
“หมอทีมมองหาใครหรือครับ” นพดล นายแพทย์คนใหม่ถามขึ้นมา เมื่อคุยอยู่กับเขาแต่สายตาของทินกรกลับเอาแต่มองหาใครบางคนอยู่ตลอดเวลา
“เปล่าหรอกครับ...หมอนพดื่มได้เลยน่ะครับ พอดีผมขับรถมาเอง ดื่มไม่ได้ครับ” ทินกรตอบกลับไป และพยายามปฏิเสธรับเครื่องดื่มทุกชนิดที่ทุกคนยื่นให้
“พยาบาลที่นี่...มีแต่สาวสวยๆกันทั้งนั้นเลยนะครับ แบบนี้พอจะมีคนไหนว่าง ที่พอจะเข้าตาผมบ้างไหม หรือว่าหมอทีมมีใครที่อยากจะแนะนำผมเป็นพิเศษบ้างหรือเปล่าครับ” นพดลพูดแซวขึ้นมา พร้อมกับสายตาที่กวาดมองดูเหล่าบรรดาพยาบาลสาวสวยที่อยู่ภายในงานนี้
“เรื่องนี้...ผมขอปฏิเสธก่อนเลยครับ” ทินกรพูดขึ้น พร้อมกับสายตาที่ไปสะดุดเข้ากับหญิงสาวรายหนึ่งที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี ซึ่งก็เป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากพิพิม ที่กำลังเดินออกไปทางด้านนอก
“...” นพดลไม่ได้เอ่ยอะไรต่อ แต่กลับยกเครื่องดื่มขึ้นจิบเพียงเล็กน้อย พอให้เป็นพิธี
“ผมขอตัวก่อนนะครับ...” ทินกรรีบขอตัวลาทันที เมื่อสายตาเห็นพิพิมเดินออกไปทางด้านนอกแล้วไกลออกไปแล้ว
เท้ายาวรีบก้าวเดินตามหญิงสาวออกไปอย่างรีบร้อนทันที ที่ปลีกตัวออกมาได้ และเดินไปตามทางที่หญิงสาวเดินไป ซึ่งก็คือน่าจะเป็นห้องน้ำ
“พิม...จะไปไหน พี่สั่งไว้ไม่ใช่เหรอว่าห้ามเดินไปไหนมาไหนคนเดียว” ร่างสูงรีบคว้าแขนของหญิงสาวไว้ แล้วต่อว่าขึ้นมาทันที
“พิม...จะไปเข้าห้องน้ำ พี่มาก็ดีแล้วถือไว้ค่ะ” หญิงสาวเอ่ยบอก พร้อมกับโยนกระเป๋าที่เธอถือมาให้ร่างสูงทันที แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ
ไม่นานหญิงสาวก็เดินออกจากห้องน้ำ ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ และเดินมาหาร่างสูงที่ยืนรออยู่ด้านนอกประตูของทางออก
“อยากกลับยัง” ทินกรเอ่ยถามขึ้นมา เมื่อหญิงสาวเดินออกมาจากห้องน้ำแล้ว
“ค่ะ พิมอยากกลับไปอาบน้ำ รู้สึกเหนียวตัวร้อนมากเลย” หญิงสาวเอ่ยรับ แล้วยกมือขึ้นมาพัดหน้าไปมา
“เดี๋ยว...นี้อย่าบอกน่ะว่าเมา ดื่มไปเยอะเท่าไหร่” ร่างสูงคว้าแขนของหญิงสาวเอาไว้ แล้วถามกลับไปทันที
“รีบกลับเถอะค่ะ...พิมร้อน” หญิงสาวไม่เอ่ยตอบ และกลับพัดหน้าต่อ แล้วเดินนำหน้าร่างสูงออกไปทันที
บนรถ
“พิมร้อน” หญิงสาวยังคงบ่นว่าร้อนเมื่อขึ้นมาภายในยังรถหรูของทินกร
“เดี๋ยวพิม...นี้มันในรถนะ” ร่างสูงรีบเอ่ยห้าม เมื่อเห็นหญิงสาวข้างกายทำท่าทางกำลังจะถอกเสื้อผ้าออก
“ก็คนมันร้อนอ่ะ...” หญิงสาวเริ่มงอแงโวยวายขึ้นมา เมื่อถูกร่างสูงเอ่ยห้าม
“พิม...ไปดื่มอะไรมา” ร่างสูงเอ่ยถามพร้อมกับมือที่เร่งเครื่องปรับอากาศภายในรถไปจนเย็นสุด และเร่งเหยียบคันเร่งขึ้นมา
“พี่ทีม...พิมไม่ไหวแล้ว ชะ ช่วยพิมด้วย” เสียงกระเส่าเอ่ยบอก พร้อมกับมือที่ลูบไล้ไปตามลำตัวของตัวเอง อย่างยั่วยวน
“พิมใจเย็นก่อน...เดี๋ยวก็ถึงแล้ว” ร่างสูงพยายามเอ่ยบอก พร้อมกับเรื่องเครื่องยนต์ให้เร็วขึ้นมากว่าเดิม แต่สายตากับชำเรืองคอยมองหญิงสาวอยู่เป็นระยะ
คอนโดหรู(ทินกร)
“คลุมไว้...ไม่อย่างนั้นยามไม่ให้เราขึ้นไปแน่ ไม่ดื้อสิครับ” เสียงนุ่มเอ่ยบอกเมื่อถอดเสื้อให้หญิงสาวคลุม เมื่อรถจอดสนิท
“...” พิพิมนิ่งไม่ตอบ แต่พยายามจะเอาเสื้อออก แต่ร่างสูงไม่ได้สนใจรีบช้อนอุ้มหญิงสาวออกมาจากรถ ตรงดิ่งไปยังลิฟต์ทันที
“แฟนผมเองครับ พอดีเธอเมามาก” เสียงทุ้มเอ่ยตอบ เมื่อเห็นรปภ.เฝ้าหน้าลิฟต์ส่งสายตามองมาอย่างสงสัย
“ไม่มาว...ใครเมาฮ่ะ ม่ายมี” หญิงสาวพูดเสียงยานสวนขึ้นมาทันที
“เชิญครับ...” รปภ.คนดังกล่าวหัวเราะออกมา พร้อมกับช่วยกดลิฟต์ให้กับร่างสูงอีกที
“ขอบคุณครับ...” ทินกรเอ่ยขอบคุณ และอุ้มหญิงสาวเข้าไปในภายลิฟต์
“อื้อ...ร้อน” ทันทีที่เข้ามาถึงภายในห้อง หญิงสาวรีบถอด และโยนเสื้อผ้าทิ้งทันที พร้อมกับลูบไล้ไปตามลำตัว พร้อมกับใบหน้าที่แดงขึ้นมาเรื่อยๆ
“พิม...นี้ไปโดนยามาเหรอ ใครมันกล้าหยามกูว่ะ” ทินกรยืนอึ้งไปสักพัก เมื่อคิดว่าอาการที่หญิงสาวเป็นอยู่ตอนนี้ไม่น่าจะใช้อาการของคนเมาแน่ๆ แล้วสบถคำหยาบออกมาทันที ที่นึกออกว่าหญิงสาวโดนอะไรมา
“พิมร้อน...อื้อ” หญิงสาวพูดอยู่แค่คำเดียว แล้วดึงร่างสูงตรงหน้าเข้ามาจูบทันที และมือบางลูบไปทั่วตามร่างของร่างสูง
“พิม...เป็นยังไงบ้าง” ร่างสูงถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วงเมื่อหญิงสาวถอนจูบออก เพราะไม่รู้ปริมาณตัวยาที่หญิงสาวโดนเข้าไปว่ามากน้อยแค่ไหน
“พะ พิม...ไม่ไหวแล้ว ชะ ช่วยพิมด้วย” เสียงกระเส่าเอ่ยขอ พร้อมกับมือที่ลูบไปยังแก่นกายของร่างสูง ตรงหน้า พร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอนขอ อย่างน่าสงสาร
“สัญญาก่อนนะ...ว่าตื่นขึ้นมาจะไม่โกรธพี่ไปมากว่านี้อีก” ร่างสูงพยายามควบคุมอารมณ์เอาไว้ก่อน แล้วถามหญิงสาวกลับ
“พิมสัญญา...ช่วยพิม อื้อ...” หญิงสาวตอบรับ และพยักหน้ารับอีกที โดยร่างสูงไม่ได้ให้โอกาสหญิงสาวได้เอ่ยจบเลย อุ้มหญิงสาวตรงหน้าขึ้นมาในท่าอุ้มแตง แล้วมอบจูบกลับไปให้ทันที
“เป็นแฟนกันน่ะ...มาสร้างครอบครัวใหม่ไปด้วยกัน เรามาทำน้องให้อาเธอร์กันนะที่รัก” เสียงนุ่มถามขึ้นต่อหน้าของหญิงสาว เมื่อถอนจูบออก พร้อมกับส่งสายตามองอย่างรอคำตอบ
“...” หญิงสาวไม่ได้เอ่ยตอบ แต่กลับพยักหน้ารับ พร้อมกับหัวใจที่เต้นขึ้นมาแรงกว่าเดิมเท่าตัว เพราะควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว
ร่างสูงอุ้มหญิงสาว พาเดินเข้าไปในห้องน้ำ วางร่างบางยืนอยู่ใต้ฝักบัว เปิดให้น้ำไหลทันที เพื่อที่จะได้ใช้น้ำชโลมร่างกาย เพื่อช่วยบรรเทาอาการของหญิงสาวได้เย็นลงมาบ้าง
หญิงสาวไม่อาจทนรอได้รีบช่วยร่างสูงถอดเสื้อผ้าออกจนหมด แล้วจับแก่นกายของร่างสูงชักสาว พร้อมกับส่งสายตามองร่างสูงตรงหน้าอย่างอ้อนวอนขอ
“เข้ามาในตัวพิมสิค่ะ พิมต้องการพี่” เสียงหวานอ้อนวอนขอ
“ไปที่เตียงเนอะ...พิมจะได้ไม่เจ็บ” ร่างสูงเอ่ยบอก พร้อมกับอุ้มหญิงสาวพาเดินออกไปที่ห้องนอนต่อ วางหญิงสาวลงบนเตียง
“...” หญิงสาวดึงร่างสูง กอดไว้แน่ไม่ยอมปล่อยแขนออก เมื่อร่างสูงวางเธอลง
“เดี๋ยวพี่ทำให้ครับ...” เสียงนุ่มเอ่ยบอก พร้อมกับจับแก่นกายจ่อเข้าที่ ช่องทางคับแคบนั้นของหญิงสาวทันที แล้วดันเข้าไปทีเดียวจนสุด
สวบ
“อ่าห์...เมียจ๋า” เสียงกระเส่าของร่างสูงพ่นออกมาทันที ที่แก่นกายเข้าไปในตัวของหญิงสาว
“อ้ายยย...ขยับเลยค่ะ” ร่างบางจิกเล็บลงกลางหลังของร่างสูงอย่างแรง พร้อมกับเอ่ยขึ้นเร่งร่างสูงตรงหน้านั้นทันที เพราะทนรอไม่ไหว
ตับ ตับ ตับ
ร่างสูงไม่อาจทนรอได้เหมือนกัน รีบขยับโยกสะโพกสวนใส่ทันที ที่หญิงสาวร้องขอ พร้อมกับคอยส่งสายตามองหญิงสาวอยู่ตลอดเวลาด้วยความเป็นห่วง
“ดีขึ้นมาบ้างไหม อย่ากัดปากตัวเอง จูบพี่ครับ” เสียงนุ่มเอ่ยถามหญิงสาวที่ตอนนี้กัดปากตัวเองอยู่
ร่างสูงก้มลงมอบจูบอันแสนหวานให้แก่หญิงสาว พร้อมกับสะโพกก็ทำหน้าที่ แทบไม่ได้หยุดพักเลย แถมยังเพิ่มน้ำหนักลงมาอย่างหนักหน่วง จนรอบแรกจบลงไป แบบใช้เวลาเพียงไม่นาน
“ทำพิมอีกค่ะ เอาพิมแรงๆเลย พิมต้องการพี่” หญิงสาวเอ่ยบอก ด้วยสายตาที่อ้อนวอนร้องขออย่างน่าสงสาร เมื่อร่างสูงหยุดการกระทำ
“ใครมันบังอาจวางยาเมียพี่ อย่าให้รู้น่ะ พี่จะสั่งย้ายให้หมดเลย” ร่างสูงพูดขึ้นมา พร้อมกับจ้องมองหญิงสาว ที่ต้องการความช่วยเหลืออยู่ตรงหน้าช่างน่าสงสารเสียเหลือเกิน
“...” หญิงสาวไม่ได้เอ่ยคำใดออกมา แต่กลับยกสะโพกขึ้นสวนอย่างต้องการ
ร่างสูงเมื่อหญิงสาวยังมีต้องการ จึงต้องจัดการทำตามที่หญิงสาวร้องขอ จนไม่รู้ว่าจบไปกี่รอบต่อกี่รอบ แบบไม่ได้หยุดพักเลยแทบทั้งคืน หญิงสาวก็ยังไม่ยอมพอ จนเกือบรุ่งเช้า หญิงสาวหมดฤทธิ์หลับลงไปเอง ร่างสูงจึงได้หยุดพัก แล้วทิ้งตัวลงนอนข้างๆหญิงสาวอย่างหมดแรง พร้อมกับดึงร่างบางเข้ามาในอ้อมกอดและหลับไปตามๆกัน กับหญิงสาวในอ้อมกอดอย่างเหน็ดเหนื่อย
คนที่อยากเจอที่สุด“แม่ปิ่น...มาได้ยังไงกันคระ...อาคิม อาพาย เออ. สะ สวัสดีครับ” ทินกรเอ่ยขึ้นถามอย่างตกใจ เมื่อเปิดประตูเข้าไปที่ห้องพักฟื้นของอาเธอร์แต่เจอเข้ากับปิ่นลดา และต้องตกใจไปมากกว่านั้น เมื่อคนที่อยู่ภายในห้องมีทั้งคิมหันต์และพระพาย พ่อแม่ของพิพิมรวมอยู่ด้วย“พิพิม!” สองเสียงของคิมหันต์และพระพายเอ่ยขึ้นมาพร้อมกันทันที เมื่อเจอหน้าของลูกสาวที่เดินเข้ามาตามหลังของทินกร“พ่อจ๋า แม่จ๋า” พิพิมวิ่งเข้าไปสวมกอดท่านทั้งสองทันที หลังจากไม่ได้เจอหน้ากันนานนับ 5 ปี พร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินดั่งสายน้ำ“พิพิมลูกพ่อ” คิมหันต์เอ่ยขึ้นเบาๆ พร้อมกับลูบไปที่ศรีษะของลูกสาวอย่างอ่อนโยน และแสนคิดถึงมานาน“พิมจ๋าของแม่จ๋าไปอยู่ที่ไหนมาคะลูก” พระพายถามขึ้นพร้อมกับน้ำตาที่ห้ามเอาไว้ไม่อยู่ ไหลออกมาอาบทั้งสองแก้ม“พิมขอโทษค่ะ พ่อจ๋าแม่จ๋า พิมขอโทษ” พิพิมได้แต่เอ่ยคำว่าขอโทษเท่านั้น พร้อมกับเสียงสะอื้น“พิมจ๋า” เสียงเล็กของอาเธอร์ดังขึ้นมาจากห้องข้างใน เอ่ยเรียกชื่อของพิพิม ทุกคนจึงหันไปมองเป็นทางเดียวกันและเป็นทินกรเองที่รีบเดินเข้าไปหาอาเธอร์ทันที พิพิมจึงเดินเข้าไปตามหลัง ให้ทุกคนนั่งรอกันอยู่ที่ด้
ความจริงปารกฏ“หนูพิม ทำไมอยู่ที่นี่” หมอโปรดถามขึ้นมา เมื่อเดินมาถึงที่ แล้วเห็นพิพิมยืนอยู่ที่หน้าห้องผ่าตัดด้วยกับลูกสาวเขา เพราะปั้นหยาแค่บอกว่าอาเธอร์เป็นลูกของเพื่อน แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าเพื่อนคนไหน“พ่อโปรดรีบเข้าไปข้างในก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวก็รู้เรื่องทั้งหมดเอง” ปั้นหยารีบเอ่ยบอก เมื่อพ่อทำหน้าสงสัยอยู่ เพราะเธอก็พึ่งจะรู้เมื่อกี้นี้เองว่าอาเธอร์คือลูกของพิพิมกับพี่ชายเธอ“แค่เคสลูกเพื่อนน้องสาว กลับถึงขึ้นต้องโทรตามพ่อมาเลยเหรอ แถมยังให้เลือดเองด้วย” หมอโปรดพูดขึ้นมาทันที ที่ฌดินเข้าไปหาทินกร ที่นั่งให้เลือดอยู่อีกฝั่งหึ่งของห้องผ่าตัด“ลูกชายพิพิมครับ” ทินกรเอ่ยบอก โดยไม่ได้มองหน้าของพ่อ แต่กลับมองไปทางเด็กน้อยที่นอนรออยู่บนเตียง“อะไรน่ะ ลูกชายหนูพิม แล้วที่ให้เลือดนี้ ก็แสดงว่า...” หมอโปรดเลิกคิ้วขึ้นถาม อย่างตกใจ เมื่อรู้ว่าเด็กน้อยที่ปั้นหยาพามาคือลูกชายของพิพิม แล้วก็ต้องตกใจเมื่อนึกขึ้นมาได้ และมองไปยังลูกชายที่ยังอยู่ตรงนี้ อย่างต้องการคำตอบเพื่อความแน่ใจอีกที“ครับ” ทินกรตอบรับเพียงคำเดียว“แล้วทำไม ลูกไม่เป็นคนจัดการเองล่ะ” หมอโปรดถามลูกชายขึ้นมา“ทีมไม่กล้าครับ ก
เลือดเนื้อเชื้อไขช่วงสายของวันร่างสูงตื่นขึ้นมา พร้อมกับเสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นมาไม่หยุด ทินกรลุกขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ มองดูหญิงสาวที่ยังคงหลับสนิท แทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย“ครับพ่อโปรด ทีมจะรีบเข้าไปเดี๋ยวนี้ครับ” ทินกรรับสายเมื่อเห็นว่าเป็นพ่อโทรมา แล้วรีบลุกขึ้นแต่งตัวอย่างรีบร้อน เดินทางออกไปยังโรงพยาบาลทันที เพราะพ่อโทรมาว่ามีเคสด่วน ปล่อยให้หญิงสาวได้พัก เขาจึงไม่ได้ปลุก แต่กลับสวมเสื้อเพียงตัวเดียวไว้ให้เธอโรงพยาบาลโยธินนารัตน์“มีเรื่องอะไรกันครับพ่อโปรด ตัวแสบทำไมอยู่ที่นี่” ทินกรรีบสวมเสื้อกาวน์อย่างรีบร้อน แล้วเดินออกมาถามพ่อที่อยู่ห้องทำงานทันที พร้อมกับต้องตกใจที่เห็นน้องสาวอยู่ที่นี่ด้วย“ทำไมมาเอาป่านนี้ หน้าตาดูไม่ได้เลย เมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นเหรอ” เสียงทุ้มของหมอโปรดถามขึ้นมาทันที ที่เห็นลูกชายพึ่งจะเข้ามาที่ห้องเอาป่านนี้“มีปัญหานิดหน่อยครับ เดี๋ยวทีมเล่าให้ฟังทีมหลังน่ะ แล้วหยามาที่นี่ได้ยังไง” ทินกรเอ่ยบอกพ่อ แล้วหันหน้าไปถามน้องสาวที่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วย“อาเธอร์เกิดเรื่องค่ะ” ปั้นหยาเอ่ยบอกพี่ชาย และไม่ได้เล่ารายละเอียดให้ฟัง“อาเธอร์เหรอ อ่อ...ตัวแส
โดนเล่นงานNCภายในงานยังคงดำเนินการไปจนถึงดึก ทินกรให้การต้อนรับแก่นายอพทย์คนใหม่เป็นอย่างดี แต่ระหว่างที่พูดคุยทักทายกันนั้น สายตาก็พยายามที่จะมองหาพิพิมอยู่ตลอดเวลา“หมอทีมมองหาใครหรือครับ” นพดล นายแพทย์คนใหม่ถามขึ้นมา เมื่อคุยอยู่กับเขาแต่สายตาของทินกรกลับเอาแต่มองหาใครบางคนอยู่ตลอดเวลา“เปล่าหรอกครับ...หมอนพดื่มได้เลยน่ะครับ พอดีผมขับรถมาเอง ดื่มไม่ได้ครับ” ทินกรตอบกลับไป และพยายามปฏิเสธรับเครื่องดื่มทุกชนิดที่ทุกคนยื่นให้“พยาบาลที่นี่...มีแต่สาวสวยๆกันทั้งนั้นเลยนะครับ แบบนี้พอจะมีคนไหนว่าง ที่พอจะเข้าตาผมบ้างไหม หรือว่าหมอทีมมีใครที่อยากจะแนะนำผมเป็นพิเศษบ้างหรือเปล่าครับ” นพดลพูดแซวขึ้นมา พร้อมกับสายตาที่กวาดมองดูเหล่าบรรดาพยาบาลสาวสวยที่อยู่ภายในงานนี้“เรื่องนี้...ผมขอปฏิเสธก่อนเลยครับ” ทินกรพูดขึ้น พร้อมกับสายตาที่ไปสะดุดเข้ากับหญิงสาวรายหนึ่งที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี ซึ่งก็เป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากพิพิม ที่กำลังเดินออกไปทางด้านนอก“...” นพดลไม่ได้เอ่ยอะไรต่อ แต่กลับยกเครื่องดื่มขึ้นจิบเพียงเล็กน้อย พอให้เป็นพิธี“ผมขอตัวก่อนนะครับ...” ทินกรรีบขอตัวลาทันที เมื่อสายตาเห็นพิพิ
หมอคนใหม่วันนี้ทินกรกลับเข้ามาทำงานที่โรงพยาบาลแล้ว หลังจากที่พาพิพิมไปต่างจังหวัดมาสองวัน แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ยังไม่คืบหน้าไปไหน เพราะพิพิมเอาแต่คอยหลบหน้า ส่วนเขาก็พยายามหาโอกาสที่จะอยู่กันตามลำพังกับหญิงสาวทุกครั้งที่มีโอกาส แต่ว่าพิพิมก็ไม่ยอมเอาเพื่อนมาช่วยอ้างตลอด“เป็นยังไงบ้างทีม ไปต่างจังหวัดมา” หมอโปรดถามขึ้นทันที เมื่อเห็นว่าคนที่เปิดประตูเข้ามาภายในห้องคือทินกรนั้นเอง“เฮ้อ...เหมือนเดิมครับ พึ่งจะมารู้ ว่าการที่จะจีบเมียตัวเองนี้ยากเอาเรื่องอยู่เหมือนกันน่ะครับ” เสียงถอนหายใจยาวของทินกร เมื่อทิ้งตัวลงยังโชฟาตัวยาว พร้อมกับเอ่ยออกมาอย่างคนสิ้นหวัง“หึ...แค่นี้ก็หมดหวังแล้ว ไม่มีความอดทนเอาเสียเลย” หมอโปรดพูดแซวขึ้นมา พร้อมกับส่ายหน้าให้เพียงเล็กน้อย ที่ลูกชายไม่มีความอดทน หรือพยายามเอาเสียเลย“แล้วทีมต้องทำยังไงครับ ก็พิพิมไม่ยอมเปิดโอกาสให้ทีมเลย” ทินกรพูดขึ้น พร้อมกับหันหน้าไปขอความเห็นจากคนเป็นพ่อ“แล้วลองพยายามดูยัง” หมอโปรดถามขึ้นมา พร้อมกับจ้องมองหน้านิ่ง“...” ทินกรได้แต่ส่ายหน้า แล้วก้มหน้าไม่พูดไม่จา อะไรใดๆตอบ“วันนี้ ตอนเย็นมีการจัดเลี้ยงต้อนรับหมอคนใหม่ข
ผู้บ่าวมู่(แฟนเพื่อน)ณ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(ภาคอีสาน)ทั้งคู่เดินทางมาถึงที่นี่ ท้องฟ้าก็เกือบจะสว่างแล้ว โดยที่ไม่ได้หยุดพัก หรือแวะกลางทางเลยแม้แต่น้อย เพราะพิพิมเป็นห่วงที่เพื่อนพึ่งจะต้องสูญเสียพ่อกับแม่ไป“มีน...” พิพิมเอ่ยเรียกเพื่อนสาวขึ้นมาทันที ที่เดินทางมาถึงยังวัดตามที่อมีนาได้บอกเอาไว้“พิม...” อมีนาหันกลับไปตามเสียงเรียกของเพื่อนสาว แล้วโผล่เข้าสวมกอดพิพิม แล้วร้องไห้ออกมาทันที โดยไม่อายใครเลยแม้แต่น้อย“มีน...เข้มแข็งไว้เด้อ พ่อกับแม่เลาไปสบายแล้ว เฮาเสียใจนำเด้อ แล้วกะขอโทษนำเด้อที่มาบ่ทันเผา” (มีน...เข้มแข็งไว้นะ พ่อกับแม่ท่านไปสบายแล้ว เราเสียใจด้วยนะ แล้วก็ขอโทษด้วยนะที่มาไม่ทันเผา) พิพิมเอ่ยปลอบเพื่อน พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาเหมือนกัน“ขอบใจโตหลายๆเด้อพิม...แล้วนี้”(ขอบใจเธอมากไปน่ะพิม...แล้วนี้) อมีนาทำท่าทางงงขึ้นมาทันที เมื่อเห็นหนุ่มหล่อร่างสูงที่ยืนอยู่ด้านหลังของพิพิม เพื่อนของเธอ“อ่อ...อ้ายทีม เพิ้นขับรถมาส่งเฮา”(อ๋อ...พี่ทีม เขาขับรถมาส่งเรา) พิพิมเอ่ยบอกเพื่อนสาว แต่ไม่ได้บอกทั้งหมดว่าทินกรนั้นเป็นใคร“สวัสดีจ้า...ซื่อมีนเด้อจ้า เป็นมู่กับพิม”(สวัสดีค่ะ