ตอนที่ 43 แผนการสำหรับอนาคต

ตอนที่ 43

แผนการสำหรับอนาคต

หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายที่ยูริถูกกำจัดไปอย่างเด็ดขาด ชีวิตของคริสเตียนและแพรไหมก็ก้าวเข้าสู่บทใหม่ที่สงบสุขยิ่งขึ้น ภัยคุกคามที่มืดมิดได้จางหายไป ความสัมพันธ์ของพวกเขายิ่งแน่นแฟ้นและลึกซึ้ง แพรไหมใช้เวลาในการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจจากบาดแผลในอดีต โดยมีคริสเตียนคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เขาได้เห็นความเข้มแข็งภายในของเธอ และยิ่งรักเธอมากยิ่งขึ้น

คริสเตียนเองก็เริ่มปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของตระกูลคาร์ดินัลไปในทางที่มั่นคงและโปร่งใสยิ่งขึ้น เขาตัดสินใจลดบทบาทในธุรกิจสีเทาลง และหันมาลงทุนในธุรกิจที่ถูกกฎหมายมากขึ้น เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับอนาคตที่ปราศจากความรุนแรง เขาต้องการให้แพรไหมได้ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยและมีความสุขอย่างแท้จริง

ในคืนหนึ่งที่แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้องนอน แพรไหมนอนหลับอยู่ในอ้อมกอดของคริสเตียนอย่างสงบ คริสเตียนลูบไล้เส้นผมของเธอเบา ๆ และเฝ้ามองใบหน้าอันงดงามที่เขาหวงแหนมาตลอดชีวิต

ความสุขที่เขากำลังสัมผัสอยู่ตอนนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้พบเจอมาก่อน ในอดีต ชีวิตของเขาเต็มไปด้วยความมืดมิด อำนาจ และการต่อสู้ แต่แพรไหมได้นำแสงสว่างเข้ามาในโลกของเขา เธอทำให้เขาได้รู้จักความรัก ความอ่อนโยน และความหมายของการมีชีวิตอยู่เพื่อใครสักคน

ขณะที่เขากำลังครุ่นคิด ภาพในอนาคตก็ผุดขึ้นมาในใจของเขา... ภาพของครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ มีแพรไหมอยู่เคียงข้าง และมีเสียงหัวเราะของเด็กน้อยดังอยู่ในคฤหาสน์แห่งนี้

ความคิดเรื่อง การมีลูก ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับคริสเตียน แต่เป็นสิ่งที่เขาเคยปัดทิ้งไปเพราะคิดว่าชีวิตแบบเขาไม่คู่ควรกับการมีครอบครัวที่อบอุ่น แต่ตอนนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว เขาต้องการสร้างครอบครัวกับแพรไหม เขาอยากเห็นรอยยิ้มของเธอเมื่อเธอได้เป็นแม่ และอยากเห็นเด็กน้อยวิ่งเล่นอยู่ในอ้อมกอดของพวกเขา

เช้าวันรุ่งขึ้น คริสเตียนตัดสินใจที่จะพูดเรื่องนี้กับแพรไหม เขารู้ว่านี่เป็นเรื่องใหญ่ และต้องใช้เวลาในการเตรียมพร้อม

ขณะที่ทั้งคู่นั่งดื่มกาแฟอยู่ริมระเบียง มองดูสวนสวยที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด คริสเตียนก็เอื้อมมือไปกุมมือของแพรไหมไว้

“แพรไหม…ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณ” คริสเตียนเริ่มต้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง

แพรไหมหันมามองเขา “มีอะไรคะคริสเตียน? ดูคุณเครียดจัง”

คริสเตียนยิ้มเล็กน้อย “ไม่เครียดครับ…แค่อยากจะขอความร่วมมือจากคุณในเรื่องที่สำคัญมาก”

“เรื่องอะไรคะ” แพรไหมถามด้วยความสงสัย

คริสเตียนจ้องเข้าไปในดวงตาคู่สวยของแพรไหมอย่างอ่อนโยน “ผมอยากจะสร้างครอบครัวกับคุณแพรไหม…อยากให้เรามีลูกด้วยกัน”

คำพูดของคริสเตียนทำให้แพรไหมนิ่งไปชั่วขณะ ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจและความปิติยินดีปนกัน เธอไม่คิดว่าเขาจะพูดเรื่องนี้เร็วขนาดนี้

“คริสเตียน…คุณจริงจังเหรอคะ” แพรไหมถามเสียงสั่น

“จริงจังที่สุดครับ” คริสเตียนตอบ “ผมอยากให้เรามีแสงสว่างเล็ก ๆ ในชีวิตของเรา…อยากให้ลูกของเราได้เติบโตในโลกที่ปลอดภัยและเต็มไปด้วยความรัก”

แพรไหมน้ำตาคลอด้วยความตื้นตัน เธอสวมกอดคริสเตียนแน่น “ฉันก็อยากมีลูกกับคุณค่ะคริสเตียน…อยากเป็นแม่ของลูกคุณ”

คริสเตียนลูบหลังเธอเบา ๆ “ดีใจที่คุณคิดเหมือนกันครับ”

หลังจากนั้น คริสเตียนและแพรไหมก็เริ่มปรึกษาหารือเกี่ยวกับแผนการมีลูกอย่างจริงจัง คริสเตียนสั่งให้ เดฟ และทีมงานจัดเตรียมพื้นที่บางส่วนของคฤหาสน์ให้เป็นสัดส่วนสำหรับเด็ก และเริ่มศึกษาเกี่ยวกับการดูแลเด็กอ่อนอย่างละเอียดถี่ถ้วน

“ผมอยากให้ทุกอย่างพร้อมที่สุดครับแพรไหม” คริสเตียนบอก “ผมอยากให้ลูกของเราได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทั้งความปลอดภัย การดูแล และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม”

แพรไหมประทับใจในความใส่ใจของคริสเตียน เธอช่วยกันเลือกเฟอร์นิเจอร์สำหรับห้องเด็กน้อยที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเตียงเด็กอ่อนที่แข็งแรง ผ้าปูที่นอนที่นุ่มสบาย ของเล่นที่ปลอดภัย และอุปกรณ์ทุกอย่างที่จำเป็น เธอยังศึกษาเรื่องการตั้งครรภ์ การคลอดบุตร และการเลี้ยงดูบุตรอย่างละเอียด ทั้งจากหนังสือ ตำรา และเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ เธอมักจะใช้เวลาหลายชั่วโมงในการอ่านและจดบันทึกข้อมูลสำคัญต่าง ๆ

“คุณแน่ใจนะคะว่าคุณพร้อมที่จะเป็นพ่อ” แพรไหมถามคริสเตียนด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเอ็นดู เมื่อเห็นเขากำลังอ่านคู่มือการเลี้ยงดูเด็กอ่อนด้วยความตั้งใจ

“ผมไม่เคยแน่ใจเรื่องอะไรเท่าเรื่องนี้มาก่อนเลยแพรไหม” คริสเตียนตอบ พลางจูบหน้าผากของเธอ “ผมจะเรียนรู้และทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อคุณและลูกของเรา ผมอยากจะเห็นลูกของเราเติบโตขึ้นมาแข็งแรงและมีความสุข”

เดฟซึ่งเป็นผู้ช่วยคนสนิทของคริสเตียนก็รับทราบแผนการนี้ด้วยความยินดี เขารู้ดีว่าการมีลูกจะทำให้คริสเตียนมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น และจะทำให้ตระกูลคาร์ดินัลมีอนาคตที่สดใส ไม่ใช่เพียงแค่ธุรกิจ แต่เป็นสายเลือดที่จะสืบทอดต่อไป

การวางแผนการมีลูกไม่ได้เป็นเพียงแค่การเตรียมตัวทางกายภาพ แต่ยังเป็นการเตรียมตัวทางจิตใจสำหรับคริสเตียนและแพรไหม พวกเขาได้พูดคุยถึงความคาดหวัง ความกลัว และความฝันที่มีร่วมกันสำหรับอนาคต พวกเขารับรู้ว่าการมีลูกคือความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ แต่ก็เป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่กว่า

แพรไหมรู้สึกถึงความสุขและความมั่นคงที่ไม่เคยมีมาก่อนในชีวิต การได้เห็นคริสเตียนที่เคยเย็นชาและแข็งกระด้าง แสดงออกถึงความปรารถนาที่จะสร้างครอบครัวและเป็นพ่อที่ดี ทำให้เธอรักเขามากขึ้นไปอีก ความกลัวและความเจ็บปวดจากอดีตเริ่มจางหายไป เหลือไว้เพียงความหวังและแสงสว่างของอนาคต

พวกเขาทั้งคู่ต่างตระหนักดีว่าการมีลูกคืออีกหนึ่งบททดสอบที่ยิ่งใหญ่ แต่พวกเขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมันด้วยกัน ด้วยความรักที่เต็มเปี่ยมและหัวใจที่พร้อมจะโอบอุ้มชีวิตน้อยๆ ที่กำลังจะเข้ามาในโลกของพวกเขา

คริสเตียนไม่ได้เพียงแค่เตรียมพร้อมในเรื่องของการเลี้ยงดูบุตรเท่านั้น แต่เขายังให้ความสำคัญกับการ เสริมสร้างความปลอดภัย ในทุกด้านของคฤหาสน์และธุรกิจของเขาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เขามอบหมายให้เดฟและทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยระดับโลก เข้ามาติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัยที่สุด ตั้งแต่กล้องวงจรปิดที่มีระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวอัจฉริยะ เซ็นเซอร์ตรวจจับผู้บุกรุกไปจนถึงระบบล็อกประตูที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่สุด กำแพงคฤหาสน์ถูกเสริมความแข็งแรงเพิ่มขึ้น และมีการลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมง โดยทีมรักษาความปลอดภัยที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างเข้มข้น

“ผมไม่ต้องการให้มีอะไรผิดพลาดอีกแล้ว” คริสเตียนบอกเดฟด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด “ลูกของเราจะต้องเติบโตขึ้นมาในที่ที่ปลอดภัยที่สุดในโลก”

เดฟเข้าใจดีถึงความกังวลของนายท่าน เขาจึงลงมือดำเนินการตามคำสั่งอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทีมรักษาความปลอดภัยที่ถูกคัดเลือกมาเป็นพิเศษ ถูกฝึกให้ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ มีการซ้อมแผนรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนพร้อมเสมอที่จะปกป้องชีวิตของนายท่านและนายหญิง รวมถึงชีวิตน้อย ๆ ที่กำลังจะมาถึง

นอกจากความปลอดภัยทางกายภาพแล้ว คริสเตียนยังเริ่มตรวจสอบและปรับปรุงโครงสร้างธุรกิจทั้งหมดของตระกูลคาร์ดินัล เขาสั่งให้ยกเลิกธุรกิจที่ผิดกฎหมายทั้งหมด และหันมาลงทุนในอุตสาหกรรมที่สะอาดและโปร่งใสอย่างเต็มตัว เช่น อสังหาริมทรัพย์ เทคโนโลยี และพลังงานสะอาด เขารู้ดีว่าเพื่ออนาคตของลูก เขาจะต้องสร้างรากฐานที่ถูกต้องและมั่นคง เพื่อให้มรดกที่ส่งต่อไปไม่ใช่แค่ความมั่งคั่ง แต่อยู่บนความชอบธรรมและความบริสุทธิ์ใจ

“ผมอยากให้ลูกของเราภูมิใจในสิ่งที่พ่อทำ” คริสเตียนพูดกับแพรไหมในคืนหนึ่ง “ผมไม่ต้องการให้ลูกต้องแบกรับภาระหรือความเสี่ยงจากอดีตของผม”

แพรไหมจับมือคริสเตียนไว้แน่น “ฉันรู้ค่ะคริสเตียน ฉันเชื่อมั่นในตัวคุณเสมอ” เธอสัมผัสได้ถึงความตั้งใจจริงของเขา และรู้สึกซาบซึ้งในความรักที่เขามีให้เธอและอนาคตของครอบครัวพวกเขา

การตัดสินใจเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตัวคริสเตียน เขาไม่ได้เป็นเพียงแค่มาเฟียผู้ทรงอิทธิพลที่เคยเย็นชา แต่เขากำลังกลายเป็นหัวหน้าครอบครัวที่อบอุ่นและรับผิดชอบ เขากำลังสร้างโลกใหม่ให้แพรไหมและลูกของพวกเขา โลกที่เต็มไปด้วยความรัก ความปลอดภัย และความหวังที่ไม่มีที่สิ้นสุด