ตอนที่ 48 หมากเกมรุกและการเปิดโปง

ตอนที่ 48

หมากเกมรุกและการเปิดโปง

เสียงปืนที่ดังขึ้นในสวน ไม่ใช่แค่การข่มขู่ธรรมดา แต่มันคือการประกาศสงครามครั้งใหม่ที่ชัดเจนที่สุด คริสเตียนรู้ดีว่าภัยคุกคามนี้ไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจ แต่พุ่งเป้าไปที่ แพรไหม และ ลูกน้อยในครรภ์ ของเขาโดยตรง ความโกรธที่ปะทุขึ้นมาทำให้เขาตัดสินใจเด็ดขาด เขาจะไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เขาจะลงมือเอง เพื่อปกป้องครอบครัวที่เขารักเหนือสิ่งอื่นใด

คริสเตียนไม่รอช้าแม้แต่วินาทีเดียว หลังจากเหตุการณ์ในสวน เขาเรียก เดฟ เข้ามาพบในห้องทำงานทันที บรรยากาศภายในห้องเต็มไปด้วยความตึงเครียด แสงไฟสลัวๆ สะท้อนแววตาที่แข็งกร้าวของคริสเตียน

“เดฟ… ผมต้องการให้พวกมันรู้ว่าการแตะต้องคนของตระกูลคาร์ดินัลมันมีราคาที่ต้องจ่าย” คริสเตียนกล่าวเสียงเย็น “เริ่มจาก รากฐาน ของพวกมัน”

เดฟพยักหน้า เขารู้ว่านายท่านกำลังจะลงมืออย่างจริงจังที่สุด

แผนของคริสเตียนไม่ได้เริ่มต้นด้วยการใช้กำลังเหมือนในอดีต แต่เป็นการโจมตีที่เฉียบคมและคาดไม่ถึง นั่นคือการ ตัดเส้นทางการเงิน และ ทำลายเครือข่ายธุรกิจสีเทา ของศัตรูอย่างเป็นระบบ

ปฏิบัติการใต้ดิน คริสเตียนใช้เครือข่ายข้อมูลและอิทธิพลที่เขายังคงมีอยู่ในโลกใต้ดิน แทรกซึมเข้าไปในเส้นทางการค้าและแหล่งที่มาของเงินทุนของศัตรูอย่างเงียบเชียบ เขาสั่งให้ลูกน้องที่จงรักภักดีที่สุดดำเนินการ ปั่นป่วนระบบการซื้อขาย ของพวกมัน เช่น การสกัดกั้นการขนส่งสินค้าสำคัญ การปล่อยข่าวลือที่ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจกันเองในหมู่คู่ค้าของศัตรู ทำให้เกิดความสับสนและวุ่นวายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

การโจมตีทางการเงิน ในเวลาเดียวกัน ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินของคริสเตียน ซึ่งตอนนี้ประจำอยู่ในบริษัทธุรกิจที่ถูกกฎหมาย ก็เริ่มปฏิบัติการ “เล่นงาน” หุ้น ของบริษัทหน้าฉากที่ศัตรูใช้ฟอกเงินในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้มูลค่าของบริษัทเหล่านั้นดิ่งลงเหวอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาลและรวดเร็ว

กลุ่มของ มาร์คัส และเครือข่ายของมันถึงกับโกลาหล พวกมันไม่เคยคิดว่าคริสเตียนจะโจมตีด้วยวิธีที่ซับซ้อนและมีประสิทธิภาพถึงเพียงนี้ ราวกับว่าเส้นเลือดใหญ่ของพวกมันกำลังถูกตัดออกอย่างช้าๆ แต่เฉียบขาด

ขณะที่การโจมตีทางเศรษฐกิจกำลังบีบคั้นศัตรู เดฟ และทีมสืบสวนของคริสเตียนก็เร่งรวบรวมข้อมูลและหลักฐานอย่างไม่หยุดหย่อน พวกเขาใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการแกะรอยการสื่อสาร การติดตามความเคลื่อนไหว และการสืบค้นประวัติของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับมาร์คัส

“นายท่านครับ เราพบตัวตนของผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมดแล้วครับ” เดฟรายงานด้วยน้ำเสียงหนักแน่นในเช้าวันรุ่งขึ้น เขากางแผนผังเครือข่ายที่ซับซ้อนบนโต๊ะทำงาน

“นอกจาก มาร์คัส ซึ่งเป็นเพียงมือหุ่นเชิดแล้ว ผู้นำที่แท้จริงของกลุ่มนี้คือ ท่านนายพลเอริค วอร์เรน” เดฟชี้ไปที่ภาพของชายชราผู้มีดวงตาเย็นชาและแฝงไว้ด้วยอำนาจ “เขาคืออดีตนายทหารผู้ทรงอิทธิพลที่ผันตัวมาทำธุรกิจมืด เขาเคยมีผลประโยชน์มหาศาลร่วมกับตระกูลคาร์ดินัลมานานหลายสิบปี แต่ถูกนายท่านตัดขาดความสัมพันธ์ทั้งหมดหลังการปฏิรูปธุรกิจ ท่านนายพลวอร์เรนมีความแค้นอย่างรุนแรงที่ถูกนายท่านถอนรากถอนโคนเส้นทางการเงินและอำนาจของเขา”

คริสเตียนจ้องมองภาพของวอร์เรนอย่างไม่วางตา เขารู้จักชายผู้นี้ดี วอร์เรนเป็นคนอันตรายและไม่เคยยอมรับความพ่ายแพ้

“และอีกคนคือ ร็อดเจอร์” เดฟชี้ไปที่ภาพของชายฉกรรจ์ผู้มีรอยแผลเป็นบนใบหน้า “เขาเป็นอดีตลูกน้องเก่าของเรานี่แหละครับ เคยเป็นหนึ่งในหัวหน้ากลุ่มที่คุมพื้นที่ทางใต้ แต่ไม่พอใจที่นายท่านยุบเลิกกิจการที่ผิดกฎหมาย ทำให้เขาสูญเสียทั้งอำนาจและรายได้ไป เขาจึงไปเข้าร่วมกับวอร์เรนเพื่อทวงคืนสิ่งที่คิดว่าเป็นของเขา”

คริสเตียนพยักหน้าเล็กน้อย เขารับรู้ถึงความทะเยอทะยานที่แฝงอยู่ในแววตาของร็อดเจอร์มานานแล้ว แต่ไม่คิดว่าเขาจะกล้าหักหลังถึงเพียงนี้

“พวกมันต้องการที่จะโค่นล้มอำนาจของนายท่านในโลกธุรกิจถูกกฎหมาย และต้องการทวงคืนอิทธิพลในโลกใต้ดินกลับคืนมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกมันต้องการให้ตระกูลคาร์ดินัลกลับมาเป็นสัญลักษณ์ของความมืดมิดอีกครั้ง” เดฟสรุป “และพวกมันก็ใช้ นายหญิง เป็นจุดอ่อนที่สำคัญที่สุด”

เมื่อรู้ตัวตนของศัตรูที่แท้จริงและเครือข่ายที่ซับซ้อนของพวกมัน คริสเตียนก็เปลี่ยนกลยุทธ์จาก "การบีบคั้น" ไปสู่ "การปิดบัญชี" เขาไม่ได้ลงมือด้วยความรุนแรงโดยตรงเหมือนในอดีต แต่ใช้ กฎหมาย เป็นอาวุธที่คมกริบที่สุดในการจัดการกับพวกมัน

หลักฐานมัดตัว คริสเตียนสั่งให้เดฟรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเกี่ยวกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมายของวอร์เรน ร็อดเจอร์ และเครือข่ายของพวกเขา ทั้งหลักฐานการฟอกเงิน การค้าสิ่งผิดกฎหมาย การคอร์รัปชัน รวมถึงหลักฐานการวางแผนก่ออาชญากรรมต่อแพรไหมและตระกูลคาร์ดินัล ข้อมูลเหล่านี้ถูกรวบรวมอย่างละเอียดและเป็นระบบ

การส่งมอบข้อมูลลับ ด้วยอิทธิพลที่เขาสร้างขึ้นในโลกธุรกิจและเครือข่ายความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน คริสเตียนได้ส่งมอบหลักฐานทั้งหมดให้กับ หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายระดับสูง ที่เขาสามารถ "เข้าถึง" ได้อย่างแยบยล หน่วยงานเหล่านี้มีทั้งเจ้าหน้าที่ที่ต้องการสร้างผลงาน และเจ้าหน้าที่ที่ได้รับคำสั่งจากเบื้องบนที่คริสเตียนมีอิทธิพลถึง

ภายในไม่กี่วันต่อมา ข่าวการจับกุม ท่านนายพลเอริค วอร์เรน และ ร็อดเจอร์ พร้อมทั้งลูกน้องคนสำคัญอีกหลายคน ก็กลายเป็นพาดหัวข่าวใหญ่ไปทั่วประเทศ ตำรวจและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานพิเศษบุกเข้าทลายแหล่งซ่องสุมและจับกุมบุคคลสำคัญในเครือข่ายได้อย่างรวดเร็วและไร้การต่อต้าน

การอายัดทรัพย์สินครั้งใหญ่ ทรัพย์สินและบัญชีธนาคารจำนวนมหาศาลของกลุ่มผู้กระทำผิดถูกอายัดและยึดคืน ทำให้พวกมันแทบไม่เหลืออะไรเลย และไม่อาจใช้เงินทุนในการต่อสู้คดีได้ การเคลื่อนไหวของศัตรูถูกจำกัดลงอย่างรวดเร็วและไม่ทันตั้งตัว เพราะพวกมันไม่คิดว่าคริสเตียนจะสามารถใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการจัดการพวกมันได้อย่างเฉียบขาดถึงเพียงนี้

การกระทำของคริสเตียนเป็นไปอย่างเงียบเชียบและเด็ดขาด ไม่มีเสียงปืนดังสนั่นเหมือนในอดีต แต่ผลลัพธ์กลับรุนแรงและมีประสิทธิภาพมากกว่าที่เคย ความหวาดกลัวเริ่มปกคลุมเครือข่ายที่เหลืออยู่ของศัตรู ทำให้พวกมันไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหวใดๆ อีก

แม้ศัตรูตัวหลักจะถูกจัดการไปแล้ว แต่คริสเตียนก็ยังไม่วางใจ เขาต้องการให้แน่ใจว่าไม่มีภัยคุกคามใดๆ เหลืออยู่ โดยเฉพาะแผนการสุดท้ายที่พวกมันวางไว้สำหรับแพรไหม

ด้วยความสามารถของทีมแฮกเกอร์ระดับโลกของคริสเตียน พวกเขาสามารถเจาะเข้าไปในระบบสื่อสารส่วนตัวของ มาร์คัส ที่ยังคงหลบหนีอยู่และพยายามรวบรวมคนที่เหลือ

จากการถอดรหัสข้อมูลลับ คริสเตียนและเดฟก็ต้องตัวแข็งทื่อเมื่อพบ แผนการที่น่าสะพรึงกลัว ของมาร์คัส

“นายท่านครับ… พวกมันวางแผนที่จะ ลักพาตัวนายหญิง ครับ” เดฟรายงานด้วยสีหน้าซีดเผือด “แผนของพวกมันคือจะโจมตีนายหญิงในระหว่างที่เธอกำลังเดินทางไปตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาลในอีกสามวันข้างหน้าครับ”

คริสเตียนกำหมัดแน่น จนเส้นเลือดปูดโปนบนหน้าผาก เขาแทบจะระเบิดความโกรธออกมา แผนการนี้ไม่ใช่แค่การข่มขู่ แต่เป็นการพยายามทำร้ายแพรไหมและลูกของเขาอย่างจงใจและร้ายกาจที่สุด

“มันต้องการใช้แพรไหมเป็นข้อต่อรองสุดท้าย” คริสเตียนกล่าวเสียงต่ำราวกับคำราม “มันคิดว่าการทำร้ายผู้หญิงที่กำลังตั้งท้อง จะทำให้ผมกลับไปเป็นมาเฟียเลือดเย็นคนเดิม”

เดฟพยักหน้า “ถูกต้องครับนายท่าน พวกมันต้องการบีบนายท่านให้กลับไปสู่โลกเดิม”

แววตาของคริสเตียนเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและอำมหิตที่คุ้นเคย แต่คราวนี้มันเป็นอำมหิตที่เจือด้วยความรักและความห่วงใยอย่างสุดซึ้ง เขาจะไม่ยอมให้พวกมันทำตามแผนสำเร็จเด็ดขาด เขาจะทำให้พวกมันรู้ว่าเขาไม่ได้กลัวที่จะสกปรก หากนั่นคือสิ่งที่จำเป็นเพื่อปกป้องครอบครัวของเขา

“เดฟ… เตรียมทีมให้พร้อม” คริสเตียนสั่ง “เราจะเล่นตามเกมของพวกมัน แต่เราจะเป็นคนกำหนดจุดจบ”

เขาจะใช้แผนการลักพาตัวแพรไหมนี้เป็น กับดัก เพื่อจัดการกับมาร์คัสและผู้เหลือรอดคนสุดท้ายของเครือข่ายนี้อย่างเด็ดขาดและถอนรากถอนโคน เป็นการปิดฉากความขัดแย้งทั้งหมดของตระกูลคาร์ดินัลอย่างแท้จริง เพื่อให้แพรไหมและลูกน้อยของเขา ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและปลอดภัยในโลกที่เขาได้สร้างขึ้นมาใหม่