ตอนที่ 49 เดิมพันชีวิตและความรัก

ตอนที่ 49 เดิมพันชีวิตและความรัก

แผนการลักพาตัวแพรไหมที่ถูกเปิดเผย ไม่ใช่แค่ข่าวร้ายสำหรับคริสเตียน แต่มันคือโอกาสที่เขาจะได้จบเรื่องทั้งหมดอย่างเด็ดขาด คริสเตียนตัดสินใจใช้แผนการร้ายของมาร์คัสเป็นกับดัก เพื่อกวาดล้างศัตรูที่ยังหลงเหลืออยู่ให้สิ้นซากในคราวเดียว เขาต้องการให้แน่ใจว่าโลกที่กำลังจะสร้างขึ้นเพื่อลูกของเขาจะไม่มีเงามืดใดๆ มาคุกคามอีกต่อไป

วันรุ่งขึ้น แพรไหมมีนัดตรวจครรภ์ตามปกติที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังใจกลางเมือง ซึ่งเป็นไปตามที่มาร์คัสคาดการณ์ไว้ คริสเตียนไม่ได้บอกแพรไหมทั้งหมดเกี่ยวกับแผนการของเขา เขากลัวว่าเธอจะกังวลมากเกินไป แต่ก็ไม่ได้ปิดบังว่าวันนี้จะมีความเสี่ยงสูง และจำเป็นต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ

“คุณอยู่ข้างๆ ฉันนะคะคริสเตียน” แพรไหมจับมือเขาแน่นขณะที่นั่งอยู่ในรถกันกระสุนที่มุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาล เธอมองเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของเขา แม้เขาจะพยายามซ่อนมันไว้ก็ตาม

“แน่นอนครับ” คริสเตียนตอบ เขากระชับมือเธอ “ผมจะอยู่ข้างๆ คุณเสมอ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น”

ทันทีที่รถยนต์มาถึงโรงพยาบาล ทีมรักษาความปลอดภัยของคริสเตียนก็กระจายกำลังคุ้มกันทุกทิศทางอย่างรัดกุมที่สุด พวกเขาไม่ได้แต่งตัวด้วยชุดรักษาความปลอดภัยเต็มรูปแบบ แต่แฝงตัวเป็นบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล หรือแม้กระทั่งผู้ป่วยและญาติที่มารอตรวจ เพื่อไม่ให้ศัตรูระแคะระคาย

เดฟที่คุมทีมอยู่ห่างๆ คอยรายงานสถานการณ์ให้คริสเตียนทราบผ่านหูฟังตลอดเวลา

“นายท่านครับ… ตรวจพบความเคลื่อนไหวผิดปกติที่ชั้นใต้ดิน และบริเวณลานจอดรถครับ” เสียงของเดฟดังขึ้นในหูฟังของคริสเตียน

คริสเตียนพยักหน้าเล็กน้อย เขาดึงแพรไหมเข้าไปใกล้ พลางสอดส่องสายตาไปรอบๆ แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด แต่เขาก็ยังคงกุมมือแพรไหมไว้แน่น เพื่อให้เธอมั่นใจว่าเขาอยู่เคียงข้างเสมอ

ขณะที่คริสเตียนและแพรไหมกำลังเดินผ่านโถงทางเดินที่ดูเหมือนปกติ ทันใดนั้นก็มี กลุ่มชายฉกรรจ์ชุดดำ หลายคนวิ่งกรูออกมาจากมุมตึก พวกมันมีปืนอยู่ในมือ และพุ่งตรงมาที่แพรไหมอย่างรวดเร็ว

“จับตัวเธอ!” เสียงของ มาร์คัส ดังลั่น เขาปรากฏตัวออกมาจากด้านหลังของลูกน้อง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเย้ยหยันและดวงตาที่เต็มไปด้วยความแค้น “คริสเตียน! แกจะได้เห็นคนที่แกรักต้องทรมาน!”

วินาทีที่เห็นมาร์คัส แพรไหมใจหายวาบ แต่เธอก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว สัญชาตญาณของการเป็นแม่ที่ต้องปกป้องลูกทำให้เธอไม่ได้หวาดกลัวจนทำอะไรไม่ถูกเหมือนเมื่อก่อน เธอจำคำสอนของคริสเตียนได้เสมอว่า "เมื่ออยู่ในอันตราย จงหาทางรอดให้ตัวเองให้ได้"

เมื่อกลุ่มชายชุดดำพุ่งเข้ามา แพรไหมไม่รอให้คริสเตียนปกป้องฝ่ายเดียว เธอดึงคริสเตียนเข้าหาตัว พลางใช้จังหวะนั้น เตะเข้าที่หน้าแข้งของชายคนหนึ่ง ที่พุ่งเข้ามาใกล้ที่สุดอย่างรวดเร็ว ทำให้ชายคนนั้นเสียหลัก ก่อนที่คริสเตียนจะใช้จังหวะนั้นผลักเธอไปหลบหลังเสาขนาดใหญ่ และเข้าปะทะกับลูกน้องของมาร์คัส

การปะทะเริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือด เสียงปืนและเสียงต่อสู้ดังสนั่นไปทั่วบริเวณ โถงทางเดินของโรงพยาบาลกลายเป็นสนามรบชั่วคราว บุคลากรโรงพยาบาลและผู้ป่วยต่างพากันวิ่งหนีเอาชีวิตรอดอย่างอลหม่าน

แพรไหมที่หลบอยู่หลังเสาพยายามมองหาทางที่จะช่วยคริสเตียน เธอเห็น ถังดับเพลิง ที่วางอยู่ใกล้ๆ ด้วยความรวดเร็ว เธอก็คว้ามันขึ้นมา และเมื่อเห็นช่องว่าง เธอไม่รีรอที่จะ พ่นสารเคมีจากถังดับเพลิงเข้าใส่กลุ่มลูกน้องของมาร์คัส ที่กำลังเข้าล้อมคริสเตียน ทำให้พวกมันแสบตาและเสียจังหวะไปชั่วขณะ

“คริสเตียน!” แพรไหมตะโกนบอกเขา

คริสเตียนหันมามองด้วยความประหลาดใจ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจในตัวแพรไหม เขาใช้จังหวะนั้นจัดการลูกน้องที่เสียหลักไปได้อย่างรวดเร็ว

เมื่อลูกน้องของมาร์คัสถูกจัดการไปหลายคน มาร์คัสก็รู้ว่านี่คือโอกาสสุดท้าย เขารีบชักมีดสั้นออกมา และพุ่งตรงเข้าใส่แพรไหมที่ยังคงหลบอยู่หลังเสา หวังจะจับเธอเป็นตัวประกัน

“ตายซะเถอะ!” มาร์คัสคำราม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

แต่ก่อนที่มาร์คัสจะถึงตัวแพรไหม คริสเตียนก็พุ่งเข้ามาขวาง เขาจัดการกับลูกน้องคนสุดท้ายที่ขวางทางด้วยหมัดเดียว และพุ่งเข้าใส่มาคัสอย่างไม่ลังเล การต่อสู้แบบตัวต่อตัวระหว่างคริสเตียนและมาร์คัสเริ่มต้นขึ้น

มาร์คัสมีความแค้นสะสมมานาน และใช้ความบ้าคลั่งในการต่อสู้ แต่คริสเตียนนั้นเหนือกว่า เขารับการโจมตีของมาร์คัสได้อย่างคล่องแคล่ว และสวนกลับด้วยการโจมตีที่แม่นยำและรุนแรง การเคลื่อนไหวของคริสเตียนเต็มไปด้วยความโกรธ แต่ก็ยังคงควบคุมทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์แบบ

หมัดแล้วหมัดเล่าของคริสเตียนกระหน่ำใส่มาร์คัสอย่างไม่ยั้ง แววตาของคริสเตียนเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะยุติเรื่องทั้งหมดนี้เสียที เขากำลังต่อสู้เพื่อแพรไหม เพื่อลูกของเขา และเพื่ออนาคตที่พวกเขาจะสร้างร่วมกัน

ในที่สุด คริสเตียนก็ใช้จังหวะที่มาร์คัสเปิดช่อง อัดหมัดสุดท้าย เข้าที่ท้องของมาร์คัสอย่างแรง จนมาร์คัสทรุดลงไปกองกับพื้น เขาหายใจรวยริน และไม่อาจขยับตัวได้อีก

คริสเตียนเดินเข้าไปหามาร์คัสที่นอนหมดสภาพอยู่บนพื้น “แกไม่มีทางทำอะไรคนที่ผมรักได้หรอกมาร์คัส” เขาพูดเสียงเย็น ก่อนจะสั่งให้ทีมของเดฟเข้ามาจัดการ มาร์คัสถูกควบคุมตัวและนำส่งตำรวจทันที

หลังจากที่สถานการณ์คลี่คลายลง ทีมรักษาความปลอดภัยของคริสเตียนก็เข้าควบคุมพื้นที่ทั้งหมด และประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เดินทางมาถึง แพรไหมรีบวิ่งเข้าไปสวมกอดคริสเตียนแน่น น้ำตาไหลอาบแก้มด้วยความโล่งอกและความสุข

“คุณปลอดภัยแล้วนะครับ” คริสเตียนกอดเธอแน่น พลางลูบผมของเธอ “ผมขอโทษที่ทำให้คุณต้องตกใจ”

“ฉันไม่เป็นไรค่ะคริสเตียน ขอบคุณนะคะ…ที่ปกป้องฉัน” แพรไหมพูดเสียงสั่น แต่ในใจก็เต็มไปด้วยความภูมิใจที่ได้เห็นความเข้มแข็งของคริสเตียน และความสามารถในการต่อสู้เพื่อคนที่เขารัก

การปะทะที่โรงพยาบาลในวันนี้ไม่เพียงแต่เป็นการจัดการกับมาร์คัสและลูกน้องที่เหลือ แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนไปยังทุกฝ่ายว่า คริสเตียน คาร์ดินัล ไม่ใช่คนที่จะถูกคุกคามได้อีกต่อไป และใครก็ตามที่คิดจะแตะต้องครอบครัวของเขา จะต้องเผชิญหน้ากับผลลัพธ์ที่รุนแรงและเด็ดขาด

หลังจากเหตุการณ์นี้ คริสเตียนได้ใช้โอกาสนี้จัดการกับเครือข่ายสุดท้ายของวอร์เรนและร็อดเจอร์ที่ยังหลงเหลืออยู่ โดยการส่งหลักฐานและข้อมูลที่รวบรวมได้ทั้งหมดให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้ไม่มีใครกล้าที่จะเข้ามาข้องเกี่ยวกับตระกูลคาร์ดินัลในทางที่ผิดอีกต่อไป

คริสเตียนสามารถจัดการกับศัตรูทั้งหมดได้อย่างราบคาบ โดยไม่หวนกลับไปสู่ด้านมืดอย่างถาวร ถือเป็นการปิดฉากปมความขัดแย้งในโลกมาเฟียของตระกูลคาร์ดินัลอย่างแท้จริง และเป็นการเปิดหน้าประวัติศาสตร์บทใหม่ที่สงบสุขและเต็มไปด้วยความหวังสำหรับอนาคตของครอบครัวคาร์ดินัล