เมื่อจบประโยค เขาหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาแล้วเดินจากไปอย่างเงียบๆทันทีมาเดลีนมองไปที่ด้านหลังของเฟลิเป้ขณะที่เขากำลังจะจากไปแสงสว่างในดวงตาของเธอก็ดับลงทีละนิด ท้ายที่สุดไม่มีอะไรเหลือนอกจากความสิ้นหวังในดวงตาของเธอเธอไม่รู้ว่าเจเรมี่จะจัดการกับเธออย่างไร เธอรู้เพียงแค่ว่าวิธีการของเขาจะโหดร้ายมากเธอจะไม่มีวันลืมว่าเขาเป็นเหมือนปีศาจจากขุมนรก เขาขุดหลุมฝังศพอีกทั้งยังปล่อยให้ขี้เถ้าของลูกสาวของเขาถูกพัดพาไปตามลมและหิมะ และเขายิ้มออกมาอย่างไม่ไยดีกับสิ่งนั้นเมื่อเห็นดวงตาสีแดงของมาเดลีนจ้องมองไปยังทิศทางการจากไปของเฟลิเป้ เจเรมี่เริ่มโกรธขึ้นมากกว่าเก่า“เธอเสียใจมากไหมที่เขากลับไป? มาเดลีน ครอว์ฟอร์ด เธอทำกับผมราวกับว่าผมตายไปแล้วหรือไง? ผมคือคนที่เป็นสามีของเธอ”เขาผลักมาเดลีนออกจากอ้อมแขนด้วยความโกรธมาเดลีนเดินโซเซและล้มลงข้างโซฟา แก้มที่ได้รับบาดเจ็บของเธอถูกับมุมโซฟาทำให้เธอกัดฟันจนสั่นด้วยความเจ็บปวด“ทำความสะอาดสถานที่นี้ ไม่ว่าเธอจะทำอะไรให้ผู้ชายคนนั้นกิน ทำมันให้ผมใหม่เดี๋ยวนี้!!”มาเดลีนลดสายตาลงและยิ้มอย่างขมขื่น “โอเค ตราบใดที่เธอมีความสุข สามีของฉัน เธอสามารถให้ฉั
ทันใดนั้นมาเดลีนรู้สึกว่าร่างกายของเธอเย็นลง เลือดในร่างกายของเธอดูเหมือนจะถูกแช่แข็งเธอจ้องมองชายที่เยาะเย้ยคนนี้ด้วยความงุนงง เขาเหมือนกับซาตานในคืนที่มืดมิด ทั้งตัวของเขาเป็นสีดำปรากฎว่าเขาอยากเห็นเธอตายจริงๆ 'เจเรมี่ เร็วๆนี้มันจะเป็นไปตามที่คุณต้องการ'‘ขอให้คุณยังคงสงบเหมือนในช่วงเวลานี้เมื่อวันนั้นมาถึง’แต่นั้น แม้ว่าเมื่อเธอเริ่มมีความคิดที่จะจากโลกนี้ไปอย่างไม่หวนกลับและลืมผู้ชายคนนี้ไปตลอดกาล ถึงอย่างนั้น เธอ ยังคงรู้สึกไม่สบายใจอย่างมากในส่วนลึกในใจจนถึงทุกวันนี้ เธอยังคงมีความรู้สึกบางอย่างให้กับเขาน้ำตาของเธอเริ่มร่วงหล่นในทันที แต่ไม่ว่าน้ำตาของเธอจะร้อนแรงแค่ไหน มันก็ไม่สามารถทำให้หัวใจของเธออบอุ่นได้“ร้องไห้ทำไม? พยายามที่จะแกล้งทำเป็นน่าสงสารอักแล้วเหรอ?”เจเรมี่หัวเราะเยาะ ความอบอุ่นนั่นคือ นิ้วเรียวอันอบอุ่นของเขาบีบคางเล็กนั่น เพื่อบังคับให้เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา“คิดว่าฉันจะตกหลุมพรางของเธอเหมือนผู้ชายพวกนั้นเหรอ? ใบหน้าก็หายเป็นปกติแล้วทำไมยังเอาผ้าก๊อซมาพันอยู่อีกล่ะ? ไม่ต้องใช้กลอุบายนี้ต่อหน้าผม ผมกำลังรู้สึกขยะเเขยงเท่าที่ผมรู้สึกได้เลย!”เขาพู
หัวใจที่เต้นแรงอันทรงพลังของเขาถูกเธอสัมผัสได้ในขณะนี้แต่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?เธอพยายามใช้ความคิดอย่างหนักกับการจดจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ แต่เธอจำได้ลางๆ เพียงแค่เธอวิ่งหนีออกไปเพราะเธอไม่ต้องการให้เจเรมี่เห็นรูปลักษณ์ที่อัปลักษณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันของเธอ โธ่ เธอดันเป็นลมขณะวิ่งเธอพยายามนึกย้อนถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดอะไรขึ้น แต่ดูเหมือนขณะนี้เจเรมี่เริ่มขยับตัวคล้ายว่าเขากำลังจะตื่นปฎิกริยาดังกล่าวสร้างควมตกใจให้เธอ มาเดลีนรีบหลับตาลงทันที หัวใจของเธอเต้นเร็วมากจนแทบจะพุ่งออกมาทางลำคอเจเรมี่ลืมตาขึ้นมาเขาค่อยๆยกแขนข้างหนึ่งที่โอบรอบเอวของมาเดลีนออกอย่างแผ่วเบาราวกับไม่ต้องการให้ตัวฉันตื่น เขาลงจากเตียงไปในที่สุดมาเดลีนหลงคิดว่าเจเรมี่ออกไปแล้ว แต่จู่ๆเธอรู้สึกถึงลมหายใจของเขาออกมาตรงใบหน้าเธอ ช่วงเวลาต่อมาไม่นาน หน้าผากของเขาแนบชิดของเธอราวกับว่าเขาต้องการรับรู้อุณหภูมิในร่างกายของผู้หญิงที่นอนอยู่ตรงหน้ามาเดลีนไม่คิดจะเชื่อการกระทำของเขาในตอนนี้ ยิ่งไปกว่านั้น เธอไม่กล้าแม้แต่จะเชื่อว่าเขาจะดึงผ้าห่มขึ้นมาห่อหุ้มให้เธออย่างตั้งใจก่อนเดินออกไปมาเดลีนลื
มาเดลีนมั่นใจว่าเจเรมี่รู้แน่นอนว่าเขาคือวิทแมนที่เธอหมายถึงคนนั้นเธอคิดว่าเขาจะแสดงความละอายใจและสำนึกผิดต่อเหตุการณ์นั้น แต่สิ่งที่เธอได้ยินในเวลาต่อมาคือเสียงเยาะเย้ยเหยียดหยันของเขา“มาเดลีน นี่เธอยังคงยืนกรานที่จะยึดติดกับลูกไม่มีพ่อคนนั้นกับชื่อของผมจนถึงทุกวันนี้อีกหรอ ผมจะบอกเธออีกครั้งนะว่าผมคือ เจเรมี่ วิทแมน มีลูกชายคนเดียวเท่านั้นและเขาชื่อ แจ็คสัน วิทแมน” เจเรมี่ตอกกลับเธอหลังจากที่เขาพูดจบและรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าของเขาปรากฎขึ้น เขาก็ปล่อยมือที่เขาจับมาเดลีนออก“ผมหิว ไปหาโจ๊กมาให้หน่อย” เขาพูดมาเดลีนกำหมัดทั้งสองข้างแน่น มองไปที่ชายผู้เย็นชา ไร้ความปรานีตรงหน้าเธอ เธอพูดด้วยน้ำเสียงทื่อๆว่า “คุณวิทแมน ที่ฉันทำไว้มันไม่พอสำหรับคุณ ส่วนนี่มีน้อยเกินไป ได้โปรดกลับไปเถอะ”“มาเดลีน ครอว์ฟอร์ด นี่คือท่าทีที่เธอมีในขณะที่คุยกับฉัผมหรือไง?” เจเรมี่ถาม คิ้วของเขาขมวดเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขากำลังไม่พอใจหัวใจของมาเดลีนเต้นแรงเล็กน้อย แม้ว่าเธอจะพยายามสงบมันให้มั่นคงแล้ว แต่หัวใจของเธอก็ยังไม่เชื่อฟังอยู่ดี“คุณวิทแมนไม่ชอบท่าทีแบบนี้ของฉันหรือไงกัน? แล้วคุณปรารถนาให้ฉัน
มาเดลีนเดินทางไปโรงพยาบาลอีกครั้ง เธอไม่ได้ไปที่นั่นเพื่อทำแผลบนใบหน้า แต่ไปที่นั่นเพื่อไปเยี่ยมเอโลอิสแทนเนื่องจากเป็นช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ บรรยากาศของงานปีใหม่สามารถพบได้ในโรงพยาบาลขณะที่มาเดลีนสวมหน้ากากอนามัยของเธอและมีรถเข็นขายดอกไม้ที่ทางเข้าโรงพยาบาล หลังจากฉุกคิดสักพัก ในที่สุดเธอก็เลือกดอกคาร์เนชั่นสีชมพูเธอคว้าปากกาและกระดาษจากกระเป๋า หลังจากเขียนคำว่า “คุณหญิง เอโลอิส แพตทัล ฉันขอให้คุณหายป่วยโดยเร็ว” เธอนำกระดาษอวยพรวางไว้ตรงกลางช่อดอกไม้มาเดลีนสอบถามเกี่ยวกับที่ห้องพักรักษาเอโลอิสจากแผนกต้อนรับ เธออยู่ในส่วนของห้องวีไอพีถึงอย่างไรก็ตาม มาเดลีนลังเลเมื่อเธอมาถึงหน้าประตูห้องไม่มีใครต้อนรับเธอที่นี่ เธอจะได้รับเพียงความอับอายถ้าเธอเข้าไปแต่อย่างนั้น มีสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้ว่า เธอไม่สามารถหยุดคิดเรื่องเอโลอิสไปจากใจได้ในขณะนี้เสียงหัวเราะดังออกมาจากห้อง“เอโลอิส ดูสิว่าลูกสาวที่รักของเรารักคุณมากแค่ไหน ขอบคุณเลือดที่เธอบริจาค ทำให้คุณสามารถรอดพ้นอันตรายมาได้อย่างปลอดภัย” ฌอนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างภาคภูมิใจมาเดลีนตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด ลูกสาว?
หลังจากได้รับการกระแทก มาเดลีนแนบลำตัวกับกำแพง หัวของเธอได้รับความมึนจากแรงกระทบ เธอไม่ได้สังเกตเห็นจี้ทองคำที่เธอซ่อนไว้ในเสื้อหลุดออกมากระนั้น เมเรดิธสังเกตเห็นมันในทันที!เธอสังเกตเห็นจี้ทองคำรูปผีเสื้อที่หลุดออกมาจากคอเสื้อของมาเดลีน!เธอไม่ลืมว่า เมื่อสามปีก่อน เธอได้ยินมาว่ามาเดลีนอาจเป็นลูกสาวที่เอโลอิสให้กำเนิด เธอพยายามทุกวิธีเพื่อให้ได้แปรงสีฟันส่วนตัวของเอโลอิสจากบริทนีย์ และในขณะเดียวกันเธอก็ขโมยเสื้อผ้าของมาเดลีนที่มีดีเอ็นเอทางเส้นผมของเธอเพื่อทำการตรวจดีเอ็นเอผลการวิจัยระบุว่ามาเดลีนเป็นลูกสาวที่เอโลอิสและฌอน มอนต์โกเมอรีที่พวกเขาตามหามานานกว่า 20 ปีจริงๆ!สิ่งนั้นมันทำให้เมเรดิธรู้สึกอิจฉาอย่างไม่น่าเชื่อแต่นั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดความคิดชั่วร้ายอีกเช่นกัน เธอวางแผนการแสดงจอมปลอมร่วมกับโรสและจอห์นซึ่งทำให้เอโลอิสและฌอนสงสัยว่าเธออาจจะเป็นลูกสาวของพวกเขาที่ถูกพาออกจากโรงพยาบาลเมื่อหลายปีก่อนโดยไม่ได้ตั้งใจเอโลอิสและฌอนพูดถึงจี้รูปผีเสื้อในเวลานั้นและยืนกรานว่าจี้นี้ทำขึ้นเอง มันเป็นจี้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีชื่อ"เอวลีน" สลักอยู่เมเรดิธไม่ลืมว่ามาเ
จี้ทองคำเม็ดนั้นตกลงบนหลังเท้าของมาเดลีนอย่างไม่ทันตั้งตัวแรงกระทบของมันทำให้ตัวจี้นั้นกระเด็นก่อนจะตกลงมาข้างรถเข็นของเอโลอิสมาเดลีนมีอาการไอขณะที่ใบหน้าและลำคอของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง เธอไม่ได้สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในการแสดงออกของเมเรดิธและโรส แต่เธอกลับได้ยินเสียงตะโกนที่ดูประหลาดใจของเอโลอิส“นี่มัน! จี้ทองคำนี้!”เสียงของเอโลอิสดังลั่นมันทั้งสั่น และติดอ่างในเวลาเดียวกันมาเดลีนมองไปทางนั้นด้วยความสงสัยและเธอเห็นเอโลอิสกุมแผลจุดที่เธอได้รับการผ่าตัดก่อนจะลุกขึ้นจากรถเข็นเพื่อหยิบจี้นั้นขึ้นมา“ฌอน! ฌอน!” เอโลอิสร้องหาฌอน ด้วยความรนรานเมื่อฌอนได้ยินเสียงร้องของเอโลอิส เขารีบร้อนที่จะวิ่งไปหาต้นเสียง ในทันทีที่เขาเห็นจี้ในมือของเอโลอิส เขาดูตกใจมาก ราวกับว่าเขาได้พบกับสิ่งที่หายไปนาน“นี่มัน! นี่คือจี้ที่เราสั่งทำเพื่อเอวลีนสุดที่รักของเราเมื่อหลายปีก่อน! ในที่สุดคุณก็หามันเจองั้นเหรอ?”อะไรกัน?มาเดลีนไม่มีเวลาแม้แต่จะจับจังหวะหายใจของตัวเองให้เป็นปกติเธอได้ยินฌอนกล่าวถึงจี้อันนั้น จิตใจของเธอก็ว่างเปล่าในทันทีกับหัวใจของเธอที่เต้นสูงขึ้นแทบพุ่งออกมาจากอก“ม
มาเดลีนมองฌอนที่สวมจี้ที่คอของเมเรดิธอย่างตั้งใจ และดวงตาของเมเรดิธเต็มไปด้วยน้ำตาพร้อมกับสัมผัสที่ใบหน้าของเธอเบาๆ“ช่างวิเศษจริงๆ ในที่สุดจี้ก็กลับมาหาลูกสาวที่เลอค่าของเราแล้ว” เอโลอิสกล่าวอย่างอิ่มเอมใจ สายตาของเธอเต็มไปด้วยความรักของแม่ขณะที่เธอมองไปยังเมเรดิธฉากนั้น ทำให้มาเดลีนอดไม่ได้ที่จะร้องไห้เพราะความเจ็บปวดที่อธิบายไม่ได้กำลังพุ่งผ่านหัวใจของเธอเธอก้าวไปข้างหน้าและพยายามอธิบาย “ฉันไม่ได้ขโมยจี้นั้น ปู่ของฉันทิ้งมันไว้ให้…”“มาเดลีน เธอกำลังพยายามทำอะไร?!” โรสเข้ามาขัดจังหวะเธอทันที ไหล่ของมาเดลีนถูกผลักอย่างแรง “ออกไปจากที่นี่เดี่ยวนี้! อย่าคิดว่าเมเรดิธเป็นเป้าหมายที่ง่ายดาย!”โรสยังคงตะโกนต่อเนื่องในขณะที่เธอดึงมาเดลีนให้ห่างออกไปจากพวกเขามาเดลีนต้องการตอบโต้กลับ แต่ร่างกายของเธออ่อนแอลงมาก ภาพที่เคยมองเห็นของเธอดูมืดสลัวมากขึ้นเมื่อเธอมองไปที่ฉากของครอบครัวที่อยู่ตรงหน้าเธอ ความเจ็บปวดในใจของเธอเพิ่มความรุนแรงขึ้นเมื่อมองไปที่ฌอนและเอโลอิสกำลังสวมกอดเมเรดิธอย่างอ่อนโยนเธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอโลอิสและฌอนจะหันกลับมามองเธอ และในที่สุดเธอก็สมหวัง เอโลอิส ปลายส