“พี่วินท์ พี่วินท์คะ”
อลินดาพยายามเขย่าและพลิกร่างของเขา ที่กำลังอยู่ในสภาพนอนคว่ำหน้ากับพื้นขึ้นมา แต่ทว่า แรงน้อยนิด ไม่อาจทำแบบนั้นได้เลย ตัวของเขาใหญ่มาก ‘ทำยังไงดี หรือจะเรียกแม่บ้านมาช่วยดีนะ’
“...” ทุกอย่างอยู่ในความเงียบสงบ มือบางยื่นเข้าไปแตะที่ปลายจมูกของเขา เพื่อพิสูจน์ว่าเขายังมีลมหายใจอยู่หรือไม่
“พี่วินท์ พี่ตื่นเถอะค่ะ พี่มานอนแบบนี้ทำไมคะ”
อลินดาพยายามเรียกให้เขาตื่น ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ เขาอาจจะเป็นอะไรไปก็ได้นะ
“อืม...ไป! อย่ายุ่ง!”
เสียงพึมพำออกมาจากร่างใหญ่ มือของเขาเริ่มที่จะขยับไขว่คว้าแบบสะเปะสะปะไปทั่ว
“พี่วินท์...พี่ขึ้นไปนอนบนบ้านเถอะนะคะ”
อลินดาต้องทำให้เขาได้สติ เมื่อก่อนเธอกับเขา เคยถึงเนื้อถึงตัวกันมากกว่านี้ เพราะฉะนั้นตอนนี้ อลินดาไม่คิดอะไรมาก และไม่กลัวว่าเขาจะกล่าวหาว่าเธอล่วงเกินเขาเลย ช่วยเขา มันก็เป็นแค่การช่วยเหลือของพี่น้องธรรมดาเท่านั้นเอง
“อา-ราย ฉันบอก! ว่าอย่ายุ่งไง ไม่เข้าใจใช่มั้ย!”
ร่างสูงใหญ่พลิกตัวกลับมาให้อยู่ในสภาพนอนหงาย เขาพยายามลืมตา มองภาพตรงหน้า ราวกับความฝัน ใบหน้าอันงดงามของใครบางคนลอยอยู่ไม่ไกล แค่เอื้อม...
“น้ำตาล...”
เสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยเรียก มือใหญ่ค่อยๆ เอื้อมไปที่แก้มนวล ลำคอของเขาแห้งผาก ความร้อนในร่างกายกลับพลุ้งพล่าน ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้กายกำยำร้อนระอุ
“พี่วินท์...เอ่อ...พี่เมานะคะ”
อลินดาชะงัก เมื่อได้ยินเสียงเขาเรียกชื่อเธอ ‘เมื่อก่อน พี่วินท์ก็เรียกเรา ด้วยน้ำเสียงแบบนี้’
“เธอชอบพี่มากมั้ย” กวินท์ยังคงเพ้อต่อ จิตใต้สำนึกบางอย่างมันสั่งให้เขาพูดออกไป มือของเขาไล้ไปที่แก้มนวล
“เอ่อ...พี่วินท์เมาค่ะ พี่ขึ้นไปนอนดีกว่านะคะ มาค่ะน้ำตาลจะช่วยพยุงพี่ไปค่ะ”
อลินดาพยายามพูดเตือนให้เขามีสติอีกครั้ง เพราะพิษของแอลกอฮอล์ มันทำให้เขาพูดอะไรออกมาแบบไม่รู้ตัว อลินดาไม่ถือสาเขาหรอก
“ตอบพี่มาสิ! เธอชอบพี่ใช่มั้ย!”
น้ำเสียงเข้มตะคอกออกมาอีกครั้ง มือใหญ่คว้าแขนของเธอเอาไว้แน่น
“พี่วินท์เมานะคะ พี่ปล่อยน้ำตาลเถอะค่ะ”
อลินดาพยายามขืนตัวเอง แกะมือเขาออกจากแขนของเธอ
“ทำไม! ก็เธอชอบพี่ไม่ใช่เหรอ อยากเป็นของพี่หรือเปล่าล่ะ อยากให้พี่ทำอะไรกับเธอมั้ย...”
“พี่วินท์! ปล่อยน้ำตาลนะคะ งั้นพี่ก็นอนตรงนี้เถอะค่ะ ปล่อยนะคะ พี่...อุ้ย!!”
ยังไม่ทันที่อลินดาจะพูดจบ ร่างของเธอก็ปลิวไปตามแรงกระชากจากมือของเขา จนเธอล้มลง ทับไปบนตัวของเขา
“เธอชอบพี่...ก็เป็นของพี่สิ เธอจะได้เก็บความรู้สึกชอบพี่ไว้ตลอดไปไง! ไม่ดีเหรอ?”
พูดจบ ร่างกำยำก็พลิกขึ้นมาทับทาบบนร่างเล็กทันที ใบหน้าคมโฉบวูบไปที่ปากบาง
“พี่วินท์ พี่...อุ๊บ!!”
ปากบางโดนกระแทกอย่างแรง ริมฝีปากแนบชิดติดกัน โดยที่ลิ้นใหญ่ไล้ไปตามรอยแยกเพื่อเปิดทางให้ลิ้นอุ่นๆรุกล้ำเข้าไปด้านใน
“อึ้มม์” จูบของเขาหนักแน่นและเร่าร้อน ราวกับเปลวไฟที่เผาผลาญทุกความรู้สึกให้ลุกโชน จังหวะจู่โจมหนักหน่วง ลมหายใจปัดผ่านข้างใบหน้าใกล้ชิด มือใหญ่บีบบังคับปลายคางเล็กให้รับจูบร้อนนั้นได้อย่างถนัดถนี่
“อื้อ…!!”
เสียงอู้อี้ในลำคอไม่สามารถส่งผ่านออกมาได้ ปากของเขายังคงตะโบมจูบอย่างหนักหน่วง ปลายลิ้นหนาเกี่ยวพันลิ้นเล็กอย่างดุเดือด กลิ่นแอลกอฮอล์เจือในลมหายใจ
มือของเธอยกขึ้นดันแผงอกกว้างให้ออกห่าง แต่แรงอันน้อยนิดก็ไม่สามารถทำได้สำเร็จ เมื่อเทียบกับพละกำลังที่แกร่งกว่า ‘พี่วินท์เมา ถ้าเขามีสติ จะต้องไม่ทำแบบนี้แน่’
“น้ำตาล...”
เสียงแหบพร่าเรียกชื่อคนใต้ร่างซ้ำๆ ความหอมหวานและความเย้ายวนของกายสาว ทำให้เรือนร่างกำยำเกิดความกระสันซ่านแล่นพล่าน ความร้อนระอุวูบวาบไปทั้งร่าง
“พะ-พี่วินท์ ปล่อยน้ำตาลนะคะ พี่เมานะ!”
เด็กสาวพยายามตะโกนร้องเรียกผู้เป็นพี่ เพื่อให้ตื่นจากภวังค์ อลินดารู้ว่าคําพูดของพี่วินท์นั้น ในยามมีสติจะไม่มีทางหลุดจากปากเขาอย่างแน่นอน มือเล็กยกขึ้น ดันอกแกร่งของคนตัวใหญ่เอาไว้ แต่มันก็เหมือนกับการดันหินผา ที่ไม่มีวี่แววว่าจะขยับเลยสักนิดเดียว...
“เธอเข้ามาหาพี่เอง...อยากเหรอ...เดี๋ยวพี่จัดให้”
ดวงตาปรือปรอยมองใบหน้าเรียวเล็กอีกครั้ง วาดรอยยิ้มออกเชื่องช้า พร้อมกับลากไล้นิ้วแกร่งไปที่ริมฝีปากบาง กดหัวแม่มือไปกับกลีบปากนุ่ม ก่อนที่จะโฉบลงมาอย่างรวดเร็ว
“อุ๊บ!!” ดวงตากลมโตเบิกออก เมื่อปากของเธอโดนกดจูบลงมาอีกครั้งอย่างหนักหน่วง ปลายลิ้นอุ่นสอดลึกราวกับจะคว้านให้ทั่วทุกซอกมุม ดูดดึงในปากบางอย่างหิวกระหาย จนทำให้ริมฝีปากของเธอแทบปริแตก มือของเขาลูบไปตามส่วนโค้งเว้าเปราะบางอย่างหนักหน่วงและเต็มไปด้วยแรงปรารถนา กายกำยำร้อนรุ่ม เบื้องล่างปวดหนึบ
“พี่...อยาก...อึ้มม์”
เสียงแหบพร่าพึมพำแนบชิด จมูกโด่งไล้ไปตามซอกคอขาวผ่อง ก่อนจะหยุดตรงแอ่งชีพจร สูดดมความหอมจากลำคอเรียวระหง ก่อนที่จะวกขึ้นไปยังใบหูเล็ก ขบเม้มหยอกเอินที่ติ่งหู แหย่ลิ้นร้อนชื้นเข้าสู่รูหูเล็กอย่างต้องการที่จะปลุกเร้า ร่างบางดิ้นอย่างลนลาน มือไม้ปัดป่ายพัลวัน มือใหญ่ตรึงข้อมือสองข้างของเธอเอาไว้ เพื่อไม่ให้ร่างงามต่อต้านสัมผัสร้อนจากเขา
“ปล่อยน้ำตาลนะคะพี่วินท์ พี่เมานะ”
อลินดาใช้คำพูดเพื่อเตือนสติเขา สิ่งที่เขาทำในตอนนี้เกิดขึ้นเพราะความเมา ไม่ได้เกิดขึ้นจากความรู้สึกจริงๆ ของเขาเลย
“ไม่ปล่อย เธอชอบพี่ ทำไมไม่ให้พี่ล่ะ...” เสียงกระเส่าโต้กลับ
“พี่วินท์...”
มือหนาจาบจ้วงลงมา ลากผ่านหน้าเนินอกอวบที่มีอาภรณ์กั้นอยู่ ร่างบางสะดุ้งสุดตัว เมื่อเจอสัมผัสแปลกใหม่นั้น แรงบีบเคล้นจากฝ่ามือใหญ่สร้างความรู้สึกปั่นป่วนหวามไหวจนท้องน้อยหดเกร็ง ในหัวของเธอขาวโพลน หัวใจเต้นแรงสูบฉีดสั่นสะท้านไปทั้งเรือนร่าง ‘นี่คือความรู้สึกอะไรกัน’ ในใจปั่นป่วนสับสน ด้วยความรู้สึกบางอย่างที่แทรกเข้ามากะทันหัน
พรึ่บ! ชุดสวยของเธอถูกดึงทึ้ง
“ไม่นะคะพี่วินท์! พี่จะทำแบบนี้ไม่ได้นะคะ!”
อลินดาตื่นจากภวังค์หวานทันที เธอรีบเตือนสติชายหนุ่มอีกครั้ง เมื่อเขานั้นเริ่มมาไกลเกินไปแล้ว มือเล็กพยายามดันแผงอกแกร่ง พร้อมกับปิดป้องร่างของตัวเองเอาไว้ แต่ก็ถูกมือใหญ่รวบข้อมือทั้งสองตรึงเอาไว้เหนือศีรษะ มันเลยทำให้เธอหมดหนทางที่จะต่อสู้เขาโดยปริยาย...
“เธอยั่วพี่เอง...แล้วจะให้พี่หยุดได้ยังไง...”
สายตาดุดันคมกริบจับจ้องไปที่ใบหน้างามด้วยเพลิงปรารถนา ผมเผ้าของเธอยุ่งเหยิง รอยแดงๆ ตามคอระหง เรื่อยลงมาตรงเนินหน้าอก สร้างความรู้สึกปวดหนึบแผ่ซ่านไปทั่วเรือนร่างกำยำ
สัญชาตญาณดิบ ไม่อาจหลบซ่อนได้อีกต่อไป ระดับการตัดสินใจติดลบ สติสัมปชัญญะอ่อนไหวดั่งเปลวเทียนที่อยู่ท่ามกลางพายุฝน เรือนกายร้อนระอุวูบวาบเพราะความกระสันต้องการ ความเย้ายวนอ่อนหวานอยู่ตรงหน้านั้น ยิ่งเพิ่มแรงกระตุ้นอารมณ์ทางเพศพุ่งสูงขึ้น!
@ คฤหาสน์เตชะวรากูล...@ ห้องรับแขก... “วันนี้เป็นวันพิเศษอะไรคะพี่วินท์ ทำไมต้องมานั่งรวมตัวกันพร้อมหน้าแบบนี้ล่ะคะ...แต่ว่า...เอ๊ะ ยังขาดน้ำตาลนะคะ เดี๋ยวเวนิสตามเองค่ะ” “ไม่ต้องตามหรอกลูก พี่เรานัดกันมาแค่นี้น่ะถูกแล้ว”คุณหญิงเจนเนตรพอรู้เรื่องมาบ้างแล้ว วันนี้ ลูกชายคนกลางของเธอ นัดครอบครัวเพื่อจะบอกเรื่องราวบางอย่าง ลูกชายของเธอไม่เคยมีสีหน้าจริงจังขนาดนี้มาก่อน และผู้ที่ถูกนัด ก็ไม่มีบุตรสาวบุญธรรมของเธอด้วย คงไม่มีเรื่องอะไร นอกจากเรื่องของเขาทั้งสองคน แน่นอน “มีอะไรก็พูดมาเถอะลูก ป๊าก็อยากจะรู้แล้วเหมือนกัน ลูกชายป๊ามีปัญหาอะไร ไหนลองบอกป๊ามาซิ”ทักษ์ดนัยไม่เคยเห็นบุตรชายเขาคนนี้จะมีท่าทีจริงจังขนาดนี้มาก่อน เรื่องราวคงต้องใหญ่พอสมควร ไม่อย่างนั้น คงไม่นัดทุกคนมาเพื่อจะพูดกันภายในครอบครัวแน่นอน “ครับป๊า...”กวินท์มองทุกคนอย่างชั่งใจ เอาเข้าจริงๆ เขาก็รู้สึกประหม่าอยู่เหมือนกัน ปกติเวลาครอบครัวรวมตัวกัน ก็จะเป็นการทานมื้อเย็นด้วยกันเท่านั้น วันนี้ เขานัดทุกคนมา เพื่อจะบอกความจริง เรื่องของเขากับอลินดา “นายคงไม่ไปทำผู้หญิงท้องห
@ บนเตียงใหญ่ขนาดคิงไซส์... หลังจากพายุรักผ่านพ้นไป อ้อมแขนอันแข็งแกร่งล้อมรอบเรือนร่างอวบอิ่มเอาไว้ ฝ่ามือหนาค่อย ๆ ลูบไปตามแผ่นหลังเนียนนุ่มของเธอ สัมผัสนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายซ่อนอยู่... “พี่รักเธอนะ...” เสียงทุ้มกระซิบข้างหู “พี่วินท์รักน้ำตาล...ตอนไหนคะ?”อลินดาถามกลับ พร้อมรีบซุกหน้าของเธอเข้าไปในอกกว้าง ใบหน้าเนียนร้อนผ่าว ‘ปากของเธอปฏิเสธ...แต่ร่างกายของเธอกลับตอบสนองอย่างเต็มใจ ยัยบ้าน้ำตาลเอ้ย...สุดท้ายเธอก็หนีพี่วินท์ไม่พ้นอยู่ดี’ “ตอนพี่เจอเราครั้งแรก...” “หืม...อย่าบอกนะ ว่าตอนน้ำตาลแปดขวบ!” “อืม...แต่ตอนนั้น พี่ก็อายุ 11 แล้วนะ” “เป็นไปไม่ได้ค่ะ...” “มันเป็นไปแล้ว...พี่รักเธอตอนนั้นจริงๆ” “แล้วทำไม...พอน้ำตาลเข้ามหาลัย...พี่วินท์ถึงไม่ชอบน้ำตาลคะ...พี่วินท์ด่าน้ำตาล เกลียดน้ำตาล และไม่อยากให้น้ำตาลเข้าใกล้พี่วินท์อีก” “ตอนนั้น...พี่ยอมรับ ว่าพี่สับสน เราอายุ 18 พี่ก็ 21 เราทั้งคู่ยังเป็นเด็ก พี่คิดว่า เราสองคนไม่ควรรักกัน เพราะเราเป็นพี่น้องกัน” “แต่เ
“อุ๊บ!!” ปากบางถูกปิดอย่างรวดเร็ว เสียงร้องของหญิงสาวขาดหายไปด้วยริมฝีปากหนาบดจูบอย่างหนักหน่วง ปลายลิ้นสากกำลังชอนไชดูดดุน เกี่ยวพันลิ้นเล็ก จูบของเขาหนักแน่นและเร่าร้อน ราวกับเปลวไฟที่เผาผลาญทุกความรู้สึกให้ลุกโชน มือใหญ่จับล็อคศีรษะเล็กของเธอเอาไว้ เพื่อบังคับให้รับจุมพิตจากเขาได้อย่างถนัด “พี่...ต้องการเธอ...”เสียงแหบพร่าพึมพำกับเรียวปากเล็ก มือของเขาลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังของเธอ ภายใต้ชุดนอนเนื้อดีบางเบา จูบของเขาทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้น “มะ-ไม่นะ!” เสียงของหญิงสาวดังอู้อี้ออกมาเพื่อประท้วงคนตัวใหญ่ เรือนร่างของเธอกำลังโดนฟ่อนเฟ้นอย่างหนัก ปากบางถูกบดขยี้อย่างหนักหน่วง สมองของอลินดาขาวโพลน เรี่ยวแรงต่อต้านลดลง มือบางที่พยายามดันอกกว้างเอาไว้นั้น กลับหมดแรงผลักไปโดยปริยาย... “พี่...ขอนะ...” กวินท์อ้อนวอนกับปากนุ่ม ความกระสันแล่นผ่านไปทั่วเรือนกายของเขา อารมณ์ความต้องการของบุรุษเพศสูงขึ้น มือใหญ่ลูบไล้ลงเบื้องล่าง“อื้อ” เสียงครางของหญิงสาวหลุดออกมา ความรู้สึกแปลกใหม่แผ่ซ่านไปทั่วร่างของเธอ มือบางที่ตอนแรกต่อต้าน กลับคว้
เวลา 23.00 น. @ คฤหาสน์เตชะวรากูล บรรยากาศยามค่ำคืนเงียบสงบ อลินดากำลังเดินขึ้นบันได เพื่อที่จะเข้าห้องนอนของตัวเอง หลังจากที่อลินดาได้เล่าเรื่องเธอกับพี่วินท์ให้เกวลินฟังเสร็จแล้ว อลินดาก็ลงมาข้างล่าง เพื่อหาน้ำดื่ม สายตาของเธอ เหลือบมองไปที่ห้องของเขา ซึ่งอยู่ถัดออกไปจากห้องของเธอ ‘พี่วินท์...ออกไปไหนนะ?’ อลินดาเดินมาจนถึงหน้าประตูของเธอ และด้วยความอยากรู้ เธอเลยเดินไปหยุดยืนอยู่ที่ห้องของเขา พร้อมกับแนบหูไปกับบานประตูใหญ่ เพื่อฟังเสียงจากด้านใน “หรือพี่วินท์ จะออกไปเมานะ”อลินดาพึมพำกับตัวเอง พร้อมกับเดินกลับไปที่ห้องของเธอ วันนี้ สิ่งที่เขากับเธอทะเลาะกัน พออลินดากลับไปคิด บวกกับ สิ่งที่เกวลินพูด มันทำให้อลินดาเข้าใจพี่วินท์มากขึ้น แต่ ไม่ว่าจะยังไง อลินดาก็ปฏิเสธเรื่องนี้อยู่ดี เธอจะทำให้ทุกคนผิดหวังในตัวเธอไม่ได้เด็ดขาด ยิ่งทุกคนดีกับเธอมากแค่ไหน อลินดาก็ยิ่งรู้สึกผิดขึ้นไปอีกเท่าตัว มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว... แกร๊ก! ประตูห้องนอนถูกเปิด ร่างอวบอิ่มเดินเข้าไปด้านใน เธอกำลังคิดถึงเรื่องราวระหว่างเธอกับเขา ‘ตอนที่พี่วินท์โกรธ เขาขู
@ แผนกฝ่ายขาย... เวลา 11.30 น. “ร่างแบบโครงสร้างเป็นรูปสามมิติ พร้อมกับใส่คำอธิบายลงไป เพื่อลูกค้าจะได้เห็นภาพที่ชัดเจน เดี๋ยวพอเสร็จแล้ว เอามาให้พี่ดูหน่อยนะ...น้ำตาล” “ได้ค่ะพี่โมทย์ น้ำตาลขอเวลาสักครึ่งชั่วโมงค่ะ”อลินดากำลังจ้องหน้าจอ มือของเธอกดแป้นคีย์บอร์ด เมื่อรุ่นพี่กำลังบรีฟ (brief) งานเธออยู่ วันนี้ เป็นครั้งแรกที่อลินดาได้ทำงานอย่างเต็มตัว ในฐานะเด็กฝึกงานของบริษัท... แต่ทว่า...ก็มีเสียงหนึ่งดังแทรกเข้ามา... “น้ำตาล! คุณกวินท์ให้เราไปพบที่ห้องนะ”ภาคินตะโกนบอกเด็กฝึกงานในสังกัดของเขา ดูแล้ว น้องฝึกงานคนนี้ น่าจะหนีไม่พ้นท่านรองประธานบริษัทคนนี้เสียแล้ว “ไปทำไมคะพี่คิน?”อลินดาถามกลับด้วยความงุนงง เธอก็ปฏิเสธและพูดกับเขาไปชัดเจนแล้วนะ ว่าอลินดาจะขอฝึกงานแผนกฝ่ายขาย ทำไมเขาจะต้องทำตัววุ่นวายขนาดนี้ “เห็นเลขาคุณกวินท์บอกพี่ว่า คุณกวินท์จะออกไปสำรวจการวางระบบเครื่องจักรอุตสาหกรรมในโรงงานแถวสมุทรปราการ พี่ก็ไม่รู้รายละเอียดมาก...แต่เอ๊ะ! ทำไม ไม่เอาทีมช่างไปล่ะ” “นั่นน่ะสิคะ...งั้น...น้ำตาลรบกวนพี่ค
“อุบัติเหตุงั้นเหรอ? สรุป! เรื่องที่ผ่านมา เธอคิดว่ามันคืออุบัติเหตุไม่ตั้งใจงั้นสิ!”กวินท์ลุกพรวดขึ้นทันที เพราะความโกรธ ที่เขาโดนปฏิเสธอย่างไม่ใยดีจากคนตรงหน้า “แล้วพี่วินท์ คิดว่ามันเป็นอะไรล่ะคะ!”อลินดากระชากเสียงออกมาเช่นกัน พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่ลดละ ‘เขาโมโหได้คนเดียวหรือไง’ “เป็น...ผัวเมียไง! พี่น้องจริงๆ เขาเอากันได้เหรอ!”กวินท์ตะคอกกลับด้วยอารมณ์เดือดอีกครั้ง เมื่อสองปีก่อน เขาอาจจะทำผิดต่อเธอ แต่เขาไม่เคยปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อเธอเลยสักครั้ง เพียงแต่ ในตอนนั้น เธอกับเขายังเป็นเด็กกันทั้งคู่ กวินท์ในวัยนั้น ก็คิดว่า การเป็นพี่น้องกัน ไม่ควรที่จะรักกัน แต่นั่นมันก็เป็นเพราะ ความรู้สึกของเขาที่ไม่ได้คิดรอบด้านก็เท่านั้นเอง... “พี่วินท์!!!”อลินดาพรวดลุกขึ้นยืนทันทีเช่นกัน เธอตกตะลึงกับคำพูดของเขา มือบางกำหมัดแน่น พยายามควบคุมอารมณ์ไม่ให้ระเบิดใส่เขา อลินดาไม่คิดเลยว่า เขาจะกล้าเอาเรื่องน่าอายเช่นนี้มาพูดกับเธอได้ หมับ! มือใหญ่คว้าที่แขนของเธอ พร้อมกับดึงร่างอวบอิ่มเข้ามาประชิด โดยที่ยังมีโต๊ะทำงานกั้นอยู่ ทั้งสองจ