เวลา 23.00 น.
@ คฤหาสน์เตชะวรากูล
บรรยากาศยามค่ำคืนเงียบสงบ อลินดากำลังเดินขึ้นบันได เพื่อที่จะเข้าห้องนอนของตัวเอง หลังจากที่อลินดาได้เล่าเรื่องเธอกับพี่วินท์ให้เกวลินฟังเสร็จแล้ว อลินดาก็ลงมาข้างล่าง เพื่อหาน้ำดื่ม สายตาของเธอ เหลือบมองไปที่ห้องของเขา ซึ่งอยู่ถัดออกไปจากห้องของเธอ‘พี่วินท์...ออกไปไหนนะ?’ อลินดาเดินมาจนถึงหน้าประตูของเธอ และด้วยความอยากรู้ เธอเลยเดินไปหยุดยืนอยู่ที่ห้องของเขา พร้อมกับแนบหูไปกับบานประตูใหญ่ เพื่อฟังเสียงจากด้านใน
“หรือพี่วินท์ จะออกไปเมานะ”
อลินดาพึมพำกับตัวเอง พร้อมกับเดินกลับไปที่ห้องของเธอ วันนี้ สิ่งที่เขากับเธอทะเลาะกัน พออลินดากลับไปคิด บวกกับ สิ่งที่เกวลินพูด มันทำให้อลินดาเข้าใจพี่วินท์มากขึ้น แต่ ไม่ว่าจะยังไง อลินดาก็ปฏิเสธเรื่องนี้อยู่ดี เธอจะทำให้ทุกคนผิดหวังในตัวเธอไม่ได้เด็ดขาด ยิ่งทุกคนดีกับเธอมากแค่ไหน อลินดาก็ยิ่งรู้สึกผิดขึ้นไปอีกเท่าตัว มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว...
แกร๊ก! ประตูห้องนอนถูกเปิด ร่างอวบอิ่มเดินเข้าไปด้านใน เธอกำลังคิดถึงเรื่องราวระหว่างเธอกับเขา ‘ตอนที่พี่วินท์โกรธ เขาขู่ว่า จะบอกกับทุกคน เราจะทำไงดีนะ’
“เฮ้อ...” อลินดาถอนหายใจ พร้อมกับคลานขึ้นไปบนที่นอน โดยที่ตัวเองไม่ได้สังเกตถึงความผิดปกติใดๆ เลยสักนิด
แต่! ในขณะที่เธอกำลังจะล้มตัวลงนอน สายตาของเธอก็พลัน! เหลือบเห็นอะไรบางอย่าง ที่อยู่ใต้ผ้าห่มของเธอ
“อุ้ย!!!” อลินดาตะลึง เมื่อเธอกระชากผ้าห่มออกมา และพบกับใครบางคนที่กำลังอยู่ในวังวนความคิดของเธอ เขากำลังนอนอยู่ในท่าเอามือทั้งสองข้างหนุนหัวไว้อย่างสบายอารมณ์ อยู่บนที่นอนของเธอ!
“เธอบ่นอะไร...นักหนา...หืม...บ่นถึงพี่อยู่หรือเปล่า?”
“พี่วินท์!!! พี่มาอยู่นี่ได้ยังไง แล้วพี่เข้ามาตอนไหน แล้ว...”
อลินดาตกใจสุดขีด เธอรัวคำถามใส่เขาทันที วันทั้งวัน เธอคิดถึงเรื่องเขามาตลอด ปัญหาร้อยแปดที่เธอกำลังคิดไม่ตก แล้วจู่ๆ เขากลับมานอนสบายอยู่บนเตียงเธอเนี่ยนะ
“พี่มารอเธอไง...ทำไมลงไปนานจัง...”
ร่างสูงใหญ่พลิกตัวเองให้อยู่ในสภาพนอนตะแคง เอียงหน้ามองเธอ ราวกับไม่ทุกข์ไม่ร้อนเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“พี่วินท์ออกไปนะคะ! นี่มันห้องน้ำตาล...อุ้ย!”
อลินดากำลังจะเอี้ยวตัวลงจากเตียง แต่ทว่า ยังไม่ทันกับมือของเขาที่เอื้อม มากระชากแขนของเธอเบาๆ จนเธอล้มลงนอนอยู่ข้างกายเขา ทั้งสองอยู่ในสภาพนอนตะแคงประจัญหน้ากัน มือข้างหนึ่งของเขาจับไหล่บอบบางเอาไว้
“พี่...ไม่ออก...เราจะทำไม”
สายตาคมจ้องลึกเข้าไปในตาของเธอ และก่อนที่จะหลุบมองปากอวบอิ่มชมพูเย้ายวนตรงหน้า
“งั้น น้ำตาลจะออกไปเองค่ะ ปล่อยน้ำตาลค่ะ!”
อลินดาพยายามแกะมือของเขาออก แต่มันก็ไม่เป็นผล
“จะไปไหน...พี่มาหาเธอนะ” เสียงทุ้มเอ่ยถาม
“มาหาทำไมคะ เราคุยกันจบไปแล้ว”
“เราจบ แต่พี่ไม่จบไง”
กวินท์ดึงร่างอวบอิ่มเข้ามาแนบอกแกร่ง โดยที่ร่างอรชรกลับดิ้นต่อต้าน แต่ แรงอันน้อยนิด ไหนเลยจะสู้แรงมหาศาลได้
“ปล่อยนะ! น้ำตาลจะร้องให้คนช่วยนะ!”
“ร้องสิ...ร้องเลย ทุกคนจะได้รู้”
อ้อมแขนอันแข็งแกร่งกลับกระชับและรัดร่างอวบอิ่มเอาไว้ ความร้อนภายในเรือนกายกำยำ ส่งผ่านเรือนร่างอวบอิ่ม ปลายคางของเขาเกยอยู่บนศีรษะของเธอ
“พี่วินท์ พี่จะทำแบบนี้ไม่ได้นะ!”
อลินดายังคงดิ้นอยู่ในอ้อมกอดของเขา เธอพยายามเงยหน้าขึ้นมองเขา แต่ทว่า ก็ถูกแรงกดจากปลายคางของเขาตามเดิม
“ทำไมพี่จะทำไม่ได้...เราเป็นเมียพี่นะ”
“พี่วินท์เป็นบ้าไปแล้วเหรอคะ น้ำตาลไม่ใช่...”
“ใช่สิ...เราคือเมียพี่ เธอจำไม่ได้เหรอ ว่าเราสองคนเอา...”
“หยุดนะคะ!” อลินดารีบยกมือขึ้นปิดปากของเขา
เขาดึงมือเธอออก...
“งั้น...เรามาพิสูจน์กันมั้ย ว่าใช่ หรือไม่ใช่...”
ใบหน้าคมโฉบวูบลงมา แต่ก็โดนมือเล็กดันเอาไว้ก่อน...
“พี่วินท์ปล่อยน้ำตาลนะคะ พี่ทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง เราเป็นพี่น้องกัน ถ้าพ่อแม่ พี่วิชญ์ พี่เวนิสรู้ จะทำยังไงคะ”
อลินดาพยายามงัดเหตุผลข้ออ้างขึ้นมาพูดกับเขา
“รู้แล้วยังไง...ก็พี่บอกแล้ว ว่าเรื่องป๊ากับม๊า พี่เคลียร์เอง เธอกลัวอะไร ส่วนไอ้รุ่นพี่ ที่เธอบอกว่ากำลังคบกันอยู่ พี่ก็จัดการมันไปแล้ว”
กวินท์ใช้อำนาจการเป็นรองประธานบริษัท ย้ายแผนกให้ไปอยู่ทีมซ่อมบำรุง คู่กับชนกันต์เพื่อนของเขา โดยมีตำแหน่งสูงขึ้นกว่าเดิมอีก แต่ขอไปให้พ้นจากคนของเขาก็พอ
“พี่วินท์! พี่ทำอะไรพี่โมทย์คะ พี่เขาไม่ได้เกี่ยวเรื่องนี้เลยนะคะ ทำไมพี่ถึงวุ่นวายไปหมดคะเนี่ย”
“ก็เธอบีบพี่เอง...หรือเธอโกหกพี่ จริงๆ แล้วเธอกับไอ้หมอนั่น ไม่ได้เป็นอะไรกันใช่มั้ย”
“ก็พี่วินท์ พูดไม่รู้เรื่องเองนี่คะ น้ำตาลก็เลย...”
อลินดาไม่คิดว่าเขาจะบ้าดีเดือดอะไรขนาดนี้
“งั้น พี่ต้องทำโทษเธอแล้วนะ...”
เสียงทุ้มแหบพร่าคาดโทษ ใบหน้าคมก้มลงมา เป้าหมายคือปากอิ่มอันเย้ายวน
“อย่านะ! พี่ทำแบบนี้ไม่ได้นะ!” อลินดาดิ้นพล่าน พยายามเอามือปัดป่ายไปที่ใบหน้าของเขา
“ทำได้สิ...พี่เคยทำกับเธอตั้งหลายครั้ง เมื่อก่อน เราทำให้พี่มีความสุขมากนะรู้มั้ย...น้ำตาล...วันนี้ พี่ขอแบบนั้นอีกได้ไหม?”
เสียงทุ้มพร่าเอ่ยเว้าวอน
“ไม่ค่ะ!”
อลินดาปฏิเสธเสียงแข็ง เธอพยายามดันร่างของเธอออกจากตัวเขา ลำแขนอันแข็งแกร่งรัดร่างอวบอิ่มแน่น จนเธอไม่สามารถที่จะขยับเขยื้อนได้อีกต่อไป
“พี่จะเอา...”
เสียงพร่าโต้กลับ มือหนาลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังของเธอ ในขณะที่กำลังซุกหน้าตัวเองไปที่ซอกคอขาวผ่อง
“พี่วินท์...”
“หืม...”
“พี่อย่าทำแบบนี้นะคะ น้ำตาลขอร้อง”
อลินดาตั้งสติ พยายามพูดกับเขาดีๆ
“ทำไมจะทำไม่ได้...ตอนนี้...พี่ไม่ไหวแล้ว...เธอรู้มั้ย...”
น้ำเสียงแหบพร่าโอดครวญ กายกำยำสั่นสะท้าน ชายหนุ่มคว้ามือเล็กลงไปยังเบื้องล่าง
“อุ้ย! พี่วินท์!”
อลินดาชักมือกลับทันที เมื่อเจอเข้ากับบางสิ่งบางอย่าง ที่กำลังดึงดันอยู่ในเป้ากางเกงของเขา ใบหน้าเนียนร้อนผ่าว ‘พี่วินท์หน้าไม่อายจริงๆ’
“เห็นหรือยัง ว่าพี่ต้องการเธอแค่ไหน...น้ำตาล”
“แต่มันไม่ถูกต้องนะคะพี่วินท์ เราสองคน...”
“เป็นพี่น้องกัน...ใช่มั้ย...แต่เราไม่ใช่สายเลือดกันจริงๆ เธอก็รู้นี่...ทำไมจะต้องให้พี่พูดซ้ำๆ ด้วย”
“งั้น...น้ำตาลขอเวลาสักหน่อยได้มั้ยคะ ถ้าพี่วินท์บอกว่าจะคบกับน้ำตาล...เรามาศึกษากันก่อนดีมั้ยคะ ตอนนี้ น้ำตาลปรับตัวไม่ทัน ที่พี่วินท์เป็นแบบนี้ เมื่อก่อนพี่วินท์ เกลียดน้ำตาล ไล่ให้น้ำตาลไปไกลๆ แล้วอยู่ดีๆ พี่วินท์ก็จะมาทำแบบนี้...เรามาลองทบทวนกันใหม่ดีมั้ยคะ...”
อลินดาพยายามงัดเหตุผลทุกอย่างขึ้นมาพูดกับเขา
“ไม่...”
@ คฤหาสน์เตชะวรากูล...@ ห้องรับแขก... “วันนี้เป็นวันพิเศษอะไรคะพี่วินท์ ทำไมต้องมานั่งรวมตัวกันพร้อมหน้าแบบนี้ล่ะคะ...แต่ว่า...เอ๊ะ ยังขาดน้ำตาลนะคะ เดี๋ยวเวนิสตามเองค่ะ” “ไม่ต้องตามหรอกลูก พี่เรานัดกันมาแค่นี้น่ะถูกแล้ว”คุณหญิงเจนเนตรพอรู้เรื่องมาบ้างแล้ว วันนี้ ลูกชายคนกลางของเธอ นัดครอบครัวเพื่อจะบอกเรื่องราวบางอย่าง ลูกชายของเธอไม่เคยมีสีหน้าจริงจังขนาดนี้มาก่อน และผู้ที่ถูกนัด ก็ไม่มีบุตรสาวบุญธรรมของเธอด้วย คงไม่มีเรื่องอะไร นอกจากเรื่องของเขาทั้งสองคน แน่นอน “มีอะไรก็พูดมาเถอะลูก ป๊าก็อยากจะรู้แล้วเหมือนกัน ลูกชายป๊ามีปัญหาอะไร ไหนลองบอกป๊ามาซิ”ทักษ์ดนัยไม่เคยเห็นบุตรชายเขาคนนี้จะมีท่าทีจริงจังขนาดนี้มาก่อน เรื่องราวคงต้องใหญ่พอสมควร ไม่อย่างนั้น คงไม่นัดทุกคนมาเพื่อจะพูดกันภายในครอบครัวแน่นอน “ครับป๊า...”กวินท์มองทุกคนอย่างชั่งใจ เอาเข้าจริงๆ เขาก็รู้สึกประหม่าอยู่เหมือนกัน ปกติเวลาครอบครัวรวมตัวกัน ก็จะเป็นการทานมื้อเย็นด้วยกันเท่านั้น วันนี้ เขานัดทุกคนมา เพื่อจะบอกความจริง เรื่องของเขากับอลินดา “นายคงไม่ไปทำผู้หญิงท้องห
@ บนเตียงใหญ่ขนาดคิงไซส์... หลังจากพายุรักผ่านพ้นไป อ้อมแขนอันแข็งแกร่งล้อมรอบเรือนร่างอวบอิ่มเอาไว้ ฝ่ามือหนาค่อย ๆ ลูบไปตามแผ่นหลังเนียนนุ่มของเธอ สัมผัสนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายซ่อนอยู่... “พี่รักเธอนะ...” เสียงทุ้มกระซิบข้างหู “พี่วินท์รักน้ำตาล...ตอนไหนคะ?”อลินดาถามกลับ พร้อมรีบซุกหน้าของเธอเข้าไปในอกกว้าง ใบหน้าเนียนร้อนผ่าว ‘ปากของเธอปฏิเสธ...แต่ร่างกายของเธอกลับตอบสนองอย่างเต็มใจ ยัยบ้าน้ำตาลเอ้ย...สุดท้ายเธอก็หนีพี่วินท์ไม่พ้นอยู่ดี’ “ตอนพี่เจอเราครั้งแรก...” “หืม...อย่าบอกนะ ว่าตอนน้ำตาลแปดขวบ!” “อืม...แต่ตอนนั้น พี่ก็อายุ 11 แล้วนะ” “เป็นไปไม่ได้ค่ะ...” “มันเป็นไปแล้ว...พี่รักเธอตอนนั้นจริงๆ” “แล้วทำไม...พอน้ำตาลเข้ามหาลัย...พี่วินท์ถึงไม่ชอบน้ำตาลคะ...พี่วินท์ด่าน้ำตาล เกลียดน้ำตาล และไม่อยากให้น้ำตาลเข้าใกล้พี่วินท์อีก” “ตอนนั้น...พี่ยอมรับ ว่าพี่สับสน เราอายุ 18 พี่ก็ 21 เราทั้งคู่ยังเป็นเด็ก พี่คิดว่า เราสองคนไม่ควรรักกัน เพราะเราเป็นพี่น้องกัน” “แต่เ
“อุ๊บ!!” ปากบางถูกปิดอย่างรวดเร็ว เสียงร้องของหญิงสาวขาดหายไปด้วยริมฝีปากหนาบดจูบอย่างหนักหน่วง ปลายลิ้นสากกำลังชอนไชดูดดุน เกี่ยวพันลิ้นเล็ก จูบของเขาหนักแน่นและเร่าร้อน ราวกับเปลวไฟที่เผาผลาญทุกความรู้สึกให้ลุกโชน มือใหญ่จับล็อคศีรษะเล็กของเธอเอาไว้ เพื่อบังคับให้รับจุมพิตจากเขาได้อย่างถนัด “พี่...ต้องการเธอ...”เสียงแหบพร่าพึมพำกับเรียวปากเล็ก มือของเขาลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังของเธอ ภายใต้ชุดนอนเนื้อดีบางเบา จูบของเขาทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้น “มะ-ไม่นะ!” เสียงของหญิงสาวดังอู้อี้ออกมาเพื่อประท้วงคนตัวใหญ่ เรือนร่างของเธอกำลังโดนฟ่อนเฟ้นอย่างหนัก ปากบางถูกบดขยี้อย่างหนักหน่วง สมองของอลินดาขาวโพลน เรี่ยวแรงต่อต้านลดลง มือบางที่พยายามดันอกกว้างเอาไว้นั้น กลับหมดแรงผลักไปโดยปริยาย... “พี่...ขอนะ...” กวินท์อ้อนวอนกับปากนุ่ม ความกระสันแล่นผ่านไปทั่วเรือนกายของเขา อารมณ์ความต้องการของบุรุษเพศสูงขึ้น มือใหญ่ลูบไล้ลงเบื้องล่าง“อื้อ” เสียงครางของหญิงสาวหลุดออกมา ความรู้สึกแปลกใหม่แผ่ซ่านไปทั่วร่างของเธอ มือบางที่ตอนแรกต่อต้าน กลับคว้
เวลา 23.00 น. @ คฤหาสน์เตชะวรากูล บรรยากาศยามค่ำคืนเงียบสงบ อลินดากำลังเดินขึ้นบันได เพื่อที่จะเข้าห้องนอนของตัวเอง หลังจากที่อลินดาได้เล่าเรื่องเธอกับพี่วินท์ให้เกวลินฟังเสร็จแล้ว อลินดาก็ลงมาข้างล่าง เพื่อหาน้ำดื่ม สายตาของเธอ เหลือบมองไปที่ห้องของเขา ซึ่งอยู่ถัดออกไปจากห้องของเธอ ‘พี่วินท์...ออกไปไหนนะ?’ อลินดาเดินมาจนถึงหน้าประตูของเธอ และด้วยความอยากรู้ เธอเลยเดินไปหยุดยืนอยู่ที่ห้องของเขา พร้อมกับแนบหูไปกับบานประตูใหญ่ เพื่อฟังเสียงจากด้านใน “หรือพี่วินท์ จะออกไปเมานะ”อลินดาพึมพำกับตัวเอง พร้อมกับเดินกลับไปที่ห้องของเธอ วันนี้ สิ่งที่เขากับเธอทะเลาะกัน พออลินดากลับไปคิด บวกกับ สิ่งที่เกวลินพูด มันทำให้อลินดาเข้าใจพี่วินท์มากขึ้น แต่ ไม่ว่าจะยังไง อลินดาก็ปฏิเสธเรื่องนี้อยู่ดี เธอจะทำให้ทุกคนผิดหวังในตัวเธอไม่ได้เด็ดขาด ยิ่งทุกคนดีกับเธอมากแค่ไหน อลินดาก็ยิ่งรู้สึกผิดขึ้นไปอีกเท่าตัว มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว... แกร๊ก! ประตูห้องนอนถูกเปิด ร่างอวบอิ่มเดินเข้าไปด้านใน เธอกำลังคิดถึงเรื่องราวระหว่างเธอกับเขา ‘ตอนที่พี่วินท์โกรธ เขาขู
@ แผนกฝ่ายขาย... เวลา 11.30 น. “ร่างแบบโครงสร้างเป็นรูปสามมิติ พร้อมกับใส่คำอธิบายลงไป เพื่อลูกค้าจะได้เห็นภาพที่ชัดเจน เดี๋ยวพอเสร็จแล้ว เอามาให้พี่ดูหน่อยนะ...น้ำตาล” “ได้ค่ะพี่โมทย์ น้ำตาลขอเวลาสักครึ่งชั่วโมงค่ะ”อลินดากำลังจ้องหน้าจอ มือของเธอกดแป้นคีย์บอร์ด เมื่อรุ่นพี่กำลังบรีฟ (brief) งานเธออยู่ วันนี้ เป็นครั้งแรกที่อลินดาได้ทำงานอย่างเต็มตัว ในฐานะเด็กฝึกงานของบริษัท... แต่ทว่า...ก็มีเสียงหนึ่งดังแทรกเข้ามา... “น้ำตาล! คุณกวินท์ให้เราไปพบที่ห้องนะ”ภาคินตะโกนบอกเด็กฝึกงานในสังกัดของเขา ดูแล้ว น้องฝึกงานคนนี้ น่าจะหนีไม่พ้นท่านรองประธานบริษัทคนนี้เสียแล้ว “ไปทำไมคะพี่คิน?”อลินดาถามกลับด้วยความงุนงง เธอก็ปฏิเสธและพูดกับเขาไปชัดเจนแล้วนะ ว่าอลินดาจะขอฝึกงานแผนกฝ่ายขาย ทำไมเขาจะต้องทำตัววุ่นวายขนาดนี้ “เห็นเลขาคุณกวินท์บอกพี่ว่า คุณกวินท์จะออกไปสำรวจการวางระบบเครื่องจักรอุตสาหกรรมในโรงงานแถวสมุทรปราการ พี่ก็ไม่รู้รายละเอียดมาก...แต่เอ๊ะ! ทำไม ไม่เอาทีมช่างไปล่ะ” “นั่นน่ะสิคะ...งั้น...น้ำตาลรบกวนพี่ค
“อุบัติเหตุงั้นเหรอ? สรุป! เรื่องที่ผ่านมา เธอคิดว่ามันคืออุบัติเหตุไม่ตั้งใจงั้นสิ!”กวินท์ลุกพรวดขึ้นทันที เพราะความโกรธ ที่เขาโดนปฏิเสธอย่างไม่ใยดีจากคนตรงหน้า “แล้วพี่วินท์ คิดว่ามันเป็นอะไรล่ะคะ!”อลินดากระชากเสียงออกมาเช่นกัน พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่ลดละ ‘เขาโมโหได้คนเดียวหรือไง’ “เป็น...ผัวเมียไง! พี่น้องจริงๆ เขาเอากันได้เหรอ!”กวินท์ตะคอกกลับด้วยอารมณ์เดือดอีกครั้ง เมื่อสองปีก่อน เขาอาจจะทำผิดต่อเธอ แต่เขาไม่เคยปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อเธอเลยสักครั้ง เพียงแต่ ในตอนนั้น เธอกับเขายังเป็นเด็กกันทั้งคู่ กวินท์ในวัยนั้น ก็คิดว่า การเป็นพี่น้องกัน ไม่ควรที่จะรักกัน แต่นั่นมันก็เป็นเพราะ ความรู้สึกของเขาที่ไม่ได้คิดรอบด้านก็เท่านั้นเอง... “พี่วินท์!!!”อลินดาพรวดลุกขึ้นยืนทันทีเช่นกัน เธอตกตะลึงกับคำพูดของเขา มือบางกำหมัดแน่น พยายามควบคุมอารมณ์ไม่ให้ระเบิดใส่เขา อลินดาไม่คิดเลยว่า เขาจะกล้าเอาเรื่องน่าอายเช่นนี้มาพูดกับเธอได้ หมับ! มือใหญ่คว้าที่แขนของเธอ พร้อมกับดึงร่างอวบอิ่มเข้ามาประชิด โดยที่ยังมีโต๊ะทำงานกั้นอยู่ ทั้งสองจ