@ บนเตียงใหญ่ขนาดคิงไซส์...
หลังจากพายุรักผ่านพ้นไป อ้อมแขนอันแข็งแกร่งล้อมรอบเรือนร่างอวบอิ่มเอาไว้ ฝ่ามือหนาค่อย ๆ ลูบไปตามแผ่นหลังเนียนนุ่มของเธอ สัมผัสนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายซ่อนอยู่...
“พี่รักเธอนะ...” เสียงทุ้มกระซิบข้างหู
“พี่วินท์รักน้ำตาล...ตอนไหนคะ?”
อลินดาถามกลับ พร้อมรีบซุกหน้าของเธอเข้าไปในอกกว้าง ใบหน้าเนียนร้อนผ่าว ‘ปากของเธอปฏิเสธ...แต่ร่างกายของเธอกลับตอบสนองอย่างเต็มใจ ยัยบ้าน้ำตาลเอ้ย...สุดท้ายเธอก็หนีพี่วินท์ไม่พ้นอยู่ดี’
“ตอนพี่เจอเราครั้งแรก...”
“หืม...อย่าบอกนะ ว่าตอนน้ำตาลแปดขวบ!”
“อืม...แต่ตอนนั้น พี่ก็อายุ 11 แล้วนะ”
“เป็นไปไม่ได้ค่ะ...”
“มันเป็นไปแล้ว...พี่รักเธอตอนนั้นจริงๆ”
“แล้วทำไม...พอน้ำตาลเข้ามหาลัย...พี่วินท์ถึงไม่ชอบน้ำตาลคะ...พี่วินท์ด่าน้ำตาล เกลียดน้ำตาล และไม่อยากให้น้ำตาลเข้าใกล้พี่วินท์อีก”
“ตอนนั้น...พี่ยอมรับ ว่าพี่สับสน เราอายุ 18 พี่ก็ 21 เราทั้งคู่ยังเป็นเด็ก พี่คิดว่า เราสองคนไม่ควรรักกัน เพราะเราเป็นพี่น้องกัน”
“แต่เราไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ นี่คะ”
“ใช่...แต่ว่าตอนนั้นพี่มันบ้า คิดอะไรไม่เข้าเรื่องเลย”
“แล้วตอนนี้ล่ะคะ พี่วินท์จะทำยังไงกับ...เรื่องของเรา”
“พรุ่งนี้ พี่จะคุยกับทุกคน...”
“แต่ว่า...”
“ไม่มีอะไรหรอก เชื่อพี่สิ ป๊าม๊า พี่วิชญ์ และเวนิส ทุกคนรักเธอ ทุกคนจะต้องยินดีกับเรื่องของเราแน่นอน วางใจเถอะ พี่จะเคลียร์เรื่องนี้ด้วยตัวเอง”
“น้ำตาลกลัวค่ะ...”
“ไม่มีอะไรน่ากลัวเลย เธอเชื่อใจพี่สิ”
“และถ้าสมมุติ...ว่า ทุกคนไม่โอเคกับเรื่องของเราล่ะคะ พี่วินท์จะทำยังไงคะ”
“พี่ก็ จะพาเธอออกไปอยู่ข้างนอก เราสองคนก็จะออกไปใช้ชีวิตด้วยกันไง แต่เธอ ก็ต้องลำบากไปกับพี่หน่อยนะ...”
“ได้ค่ะ แต่ว่า ถ้าเรายังไม่บอกพวกท่าน รอให้น้ำตาลเรียนจบก่อนก็ได้นี่คะ...พี่วินท์จะได้ไม่ลำบาก”
“อะไรกัน...เธอจะให้พี่แอบเข้าห้องเธอแบบนี้น่ะเหรอ ไม่เอาหรอก พี่เป็นผู้ชายนะ จะมาทำแบบนี้ได้ยังไง เราเปิดเผยเรื่องนี้ไปเลย เชื่อพี่สิ ไม่มีอะไรหรอก ทุกคนเห็นด้วยแน่นอน”
“ถ้าทุกคนโอเค...แล้วพี่วินท์จะทำยังไงต่อคะ?”
“อืม...พี่ก็คบกับเราไปแบบนี้ก่อนสิ รอให้เธอเรียนจบ เราค่อยแต่งงานกัน หรือเธอจะแต่งตอนนี้ก็ได้นะ พี่ไม่ติดเลย ดีซะอีก ไอ้พวกผู้ชายในบริษัท ที่มันเล็งเธอไว้ จะได้รู้ซะที ว่าเราเป็นเมียพี่ ใครก็ห้ามแตะเด็ดขาด”
“จะมีใครมาจีบน้ำตาลคะ ยิ่งตอนนี้ คนเขารู้กันทั้งบริษัทแล้วค่ะ พี่วินท์ออกตัวแรงขนาดนั้น”
“เธอเป็นของพี่แล้ว จะไปมีคนอื่นได้ยังไง ดูพี่สิ ตั้งแต่พี่มีเธอพี่ก็ไม่เคยมีใครเลย พี่มีเธอคนเดียวมาตลอด”
“ไม่เชื่อหรอกค่ะ พี่วินท์หล่อขนาดนี้ สาวๆ ก็ต้องมีบ้างแหละค่ะ”
“พี่มีน้ำตาลคนเดียวจริงๆ งั้น เธอก็รอดูก็แล้วกัน พี่จะพิสูจน์ให้เธอได้เห็น ว่าพี่รักเธอจริงๆ”
เสียงทุ้มพร่าหยอดคำหวานข้างหู มือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังขาวเนียน
“อุ้ย...พี่วินท์จะทำอะไรคะ?”
อลินดามองเขาตาโต และรีบคว้ามือใหญ่ที่กำลังเลื่อนมาบนเนินอกของเธอ
“อีกรอบ...นะ” เสียงแหบพร่าร้องขอ
“ไม่เอาค่ะ พี่วินท์ไม่ได้ป้องกันอะไรเลยนะคะ พอเถอะค่ะ”
“ต่อไป เธอต้องกินยาคุมนะ เพราะพี่จะไม่ใส่ถุงแล้ว มันไม่ธรรมชาติ พี่ไม่ชอบ...”
มือเขาคว้ามือเธอลงไปเบื้องล่าง เพื่อพิสูจน์ให้เธอเห็น ว่าธรรมชาติของเขาเป็นอย่างไร แท่งเหล็กร้อนผงาดสู้มือเล็กอย่างจัง
“พี่วินท์! บ้าไปแล้ว ไม่เอาแล้วค่ะ พอแค่นี้เถอะ น้ำตาลไม่มียาคุมฉุกเฉินแล้วนะคะ กว่าจะเช้า ไม่ได้ค่ะ ถ้าน้ำตาลท้องจะทำยังไงคะ”
“ท้องก็ดีสิ พี่จะได้รีบแต่งงานกับเธอเลยไง ป๊ากับม๊าจะต้องดีใจแน่ๆ ที่จะได้อุ้มหลาน”
“น้ำตาลไม่ได้พูดเล่นนะคะพี่วินท์ ไม่เอาแล้วค่ะ พี่กลับห้องพี่ไปเลยค่ะ”
อลินดาพยายามผลักใบหน้าคมที่กำลังลงมาที่ซอกคอของเธอ ริมฝีปากร้อนจูบซับดูดดุนไปทั่วจนทำให้เรือนร่างของเธอสะท้านไปหมด
“ขออีกรอบ...เดี๋ยวพี่กลับ...นะ...ได้หรือเปล่า...” เสียงพร่ายังคงออดอ้อนข้างหู
“อื้อ ≈ พะ-พี่วินท์ ไม่เอาค่ะ พี่...อ๊ะ!” เสียงหวานร้องห้าม แต่ทว่าร่างกายกลับทำตรงกันข้าม มือเล็กๆ สอดเข้าไปยังกลุ่มผมอันดกดำ เธอดึงทึ้งเบาๆ เมื่อความซ่าบซ่านมาเยือนร่างกายของเธออีกครั้ง ไม่ว่าพรุ่งนี้ จะเป็นอย่างไร อลินดาก็พร้อมที่จะผ่านมันไปให้ได้ เธอจะขอทำตามใจตัวเองสักครั้ง...
@ แผนกฝ่ายขาย...
เวลา 09.30 น.
“อร๊ายย์...น้ำตาล! จริงเหรอ!!”
“ข้าวตู! เธอเบาหน่อยสิ! เดี๋ยวใครก็มาได้ยินหรอก ฉันไม่น่ารีบบอกเธอตอนนี้เลย”
“จะบอกตอนไหนก็เหมือนกันแหละ เธอลองเอามือมาวางที่อกฉันดูสิ หัวใจของฉันมันเต้นแรงมากอ่ะ ตื่นเต้นแทนเธอจัง ไม่คิดว่า พี่วินท์จะรุกเธอหนักขนาดนี้อ่ะ”
“เธอแซวฉัน แต่หน้าเธอแดงมากเลยนะข้าวตู”
“เอ๊า...ก็ฉันเขินอ่ะ เมื่อคืนเธอกับพี่วินท์จัดไปกี่ยกล่ะ ^<>^”
“นี่...ข้าวตู เธอชักไปกันใหญ่แล้วนะ จะมาถามเรื่องแบบนี้ทำไม...”
อลินดาหน้าแดง เมื่อคืนเขาบอกว่าแค่รอบเดียว เขาก็จะกลับห้อง แต่ มันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาบอกเธอเลยสักนิด เขานอนห้องเธอจนถึงเช้า และตอนที่เธอออกจากบ้านมาทำงาน เขาก็ยังไม่ตื่นเลยด้วยซ้ำ
“แอ๊ะ!! เธอคิดอะไรอยู่อ่ะ หน้าแดงเชียว แสดงว่าไม่ต่ำกว่าสามแน่นอน...เป็นไง ดีขึ้นมั้ย หลังจากห่างหายไปนานเกือบสามปี มันโอเคมั้ย เล่าให้ฉันฟังมั่งดิ...”
“เธอจะอยากรู้ไปทำไม ข้าวตู”
“ก็อยากรู้ว่า มันจะเจ็บอีกมั้ย หรือว่ามันจะ...”
“จะ...อะไร เธอนี่จริงๆ เลยนะข้าวตู เรื่องแบบนี้ใครเขาจะเล่าให้ฟังกัน”
“เธอเล่าได้ เราเป็นเพื่อนรักกัน ไม่มีอะไรปิดบังอยู่แล้ว เล่ามาเถอะ สรุป ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า ฉันจริงจังนะน้ำตาล อยากรู้อ่ะ”
“เธอก็เคยผ่านมาแล้ว จะมาถามฉันทำไม”
“กับไอ้พี่รหัสนั่นเหรอ ฉันจำอะไรไม่ได้หรอก แต่รู้ว่ามันเจ็บมาก ตื่นมา ร่างฉันระบมไปหมด อย่าพูดถึงไอ้พี่นี่เลย ไม่อยากได้ยิน”
เกวลินไม่สนใจ เธอบล็อกเขาทุกทาง ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เธอถือว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ไม่น่าจดจำเลยสักนิด
“สมมุติ...ว่าพี่เขา จริงจังกับเธอจริงๆ และมาขอคบกับเธอล่ะ ข้าวตู เธอจะยังไง”
“ไม่มีทาง ฉันไม่สน ไม่เอาอ่ะ ฉันเกลียดผู้ชายเจ้าชู้ ฉันไม่ได้ชอบนายนั่นซะหน่อย ต่อให้มาขอยังไง ฉันก็ไม่มีวัน ที่จะไปคบกับผู้ชายบ้าพรรค์นั้นหรอก คุยเรื่องของเธอดีกว่า นะ ^<>^ ”
@ คฤหาสน์เตชะวรากูล...@ ห้องรับแขก... “วันนี้เป็นวันพิเศษอะไรคะพี่วินท์ ทำไมต้องมานั่งรวมตัวกันพร้อมหน้าแบบนี้ล่ะคะ...แต่ว่า...เอ๊ะ ยังขาดน้ำตาลนะคะ เดี๋ยวเวนิสตามเองค่ะ” “ไม่ต้องตามหรอกลูก พี่เรานัดกันมาแค่นี้น่ะถูกแล้ว”คุณหญิงเจนเนตรพอรู้เรื่องมาบ้างแล้ว วันนี้ ลูกชายคนกลางของเธอ นัดครอบครัวเพื่อจะบอกเรื่องราวบางอย่าง ลูกชายของเธอไม่เคยมีสีหน้าจริงจังขนาดนี้มาก่อน และผู้ที่ถูกนัด ก็ไม่มีบุตรสาวบุญธรรมของเธอด้วย คงไม่มีเรื่องอะไร นอกจากเรื่องของเขาทั้งสองคน แน่นอน “มีอะไรก็พูดมาเถอะลูก ป๊าก็อยากจะรู้แล้วเหมือนกัน ลูกชายป๊ามีปัญหาอะไร ไหนลองบอกป๊ามาซิ”ทักษ์ดนัยไม่เคยเห็นบุตรชายเขาคนนี้จะมีท่าทีจริงจังขนาดนี้มาก่อน เรื่องราวคงต้องใหญ่พอสมควร ไม่อย่างนั้น คงไม่นัดทุกคนมาเพื่อจะพูดกันภายในครอบครัวแน่นอน “ครับป๊า...”กวินท์มองทุกคนอย่างชั่งใจ เอาเข้าจริงๆ เขาก็รู้สึกประหม่าอยู่เหมือนกัน ปกติเวลาครอบครัวรวมตัวกัน ก็จะเป็นการทานมื้อเย็นด้วยกันเท่านั้น วันนี้ เขานัดทุกคนมา เพื่อจะบอกความจริง เรื่องของเขากับอลินดา “นายคงไม่ไปทำผู้หญิงท้องห
@ บนเตียงใหญ่ขนาดคิงไซส์... หลังจากพายุรักผ่านพ้นไป อ้อมแขนอันแข็งแกร่งล้อมรอบเรือนร่างอวบอิ่มเอาไว้ ฝ่ามือหนาค่อย ๆ ลูบไปตามแผ่นหลังเนียนนุ่มของเธอ สัมผัสนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายซ่อนอยู่... “พี่รักเธอนะ...” เสียงทุ้มกระซิบข้างหู “พี่วินท์รักน้ำตาล...ตอนไหนคะ?”อลินดาถามกลับ พร้อมรีบซุกหน้าของเธอเข้าไปในอกกว้าง ใบหน้าเนียนร้อนผ่าว ‘ปากของเธอปฏิเสธ...แต่ร่างกายของเธอกลับตอบสนองอย่างเต็มใจ ยัยบ้าน้ำตาลเอ้ย...สุดท้ายเธอก็หนีพี่วินท์ไม่พ้นอยู่ดี’ “ตอนพี่เจอเราครั้งแรก...” “หืม...อย่าบอกนะ ว่าตอนน้ำตาลแปดขวบ!” “อืม...แต่ตอนนั้น พี่ก็อายุ 11 แล้วนะ” “เป็นไปไม่ได้ค่ะ...” “มันเป็นไปแล้ว...พี่รักเธอตอนนั้นจริงๆ” “แล้วทำไม...พอน้ำตาลเข้ามหาลัย...พี่วินท์ถึงไม่ชอบน้ำตาลคะ...พี่วินท์ด่าน้ำตาล เกลียดน้ำตาล และไม่อยากให้น้ำตาลเข้าใกล้พี่วินท์อีก” “ตอนนั้น...พี่ยอมรับ ว่าพี่สับสน เราอายุ 18 พี่ก็ 21 เราทั้งคู่ยังเป็นเด็ก พี่คิดว่า เราสองคนไม่ควรรักกัน เพราะเราเป็นพี่น้องกัน” “แต่เ
“อุ๊บ!!” ปากบางถูกปิดอย่างรวดเร็ว เสียงร้องของหญิงสาวขาดหายไปด้วยริมฝีปากหนาบดจูบอย่างหนักหน่วง ปลายลิ้นสากกำลังชอนไชดูดดุน เกี่ยวพันลิ้นเล็ก จูบของเขาหนักแน่นและเร่าร้อน ราวกับเปลวไฟที่เผาผลาญทุกความรู้สึกให้ลุกโชน มือใหญ่จับล็อคศีรษะเล็กของเธอเอาไว้ เพื่อบังคับให้รับจุมพิตจากเขาได้อย่างถนัด “พี่...ต้องการเธอ...”เสียงแหบพร่าพึมพำกับเรียวปากเล็ก มือของเขาลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังของเธอ ภายใต้ชุดนอนเนื้อดีบางเบา จูบของเขาทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้น “มะ-ไม่นะ!” เสียงของหญิงสาวดังอู้อี้ออกมาเพื่อประท้วงคนตัวใหญ่ เรือนร่างของเธอกำลังโดนฟ่อนเฟ้นอย่างหนัก ปากบางถูกบดขยี้อย่างหนักหน่วง สมองของอลินดาขาวโพลน เรี่ยวแรงต่อต้านลดลง มือบางที่พยายามดันอกกว้างเอาไว้นั้น กลับหมดแรงผลักไปโดยปริยาย... “พี่...ขอนะ...” กวินท์อ้อนวอนกับปากนุ่ม ความกระสันแล่นผ่านไปทั่วเรือนกายของเขา อารมณ์ความต้องการของบุรุษเพศสูงขึ้น มือใหญ่ลูบไล้ลงเบื้องล่าง“อื้อ” เสียงครางของหญิงสาวหลุดออกมา ความรู้สึกแปลกใหม่แผ่ซ่านไปทั่วร่างของเธอ มือบางที่ตอนแรกต่อต้าน กลับคว้
เวลา 23.00 น. @ คฤหาสน์เตชะวรากูล บรรยากาศยามค่ำคืนเงียบสงบ อลินดากำลังเดินขึ้นบันได เพื่อที่จะเข้าห้องนอนของตัวเอง หลังจากที่อลินดาได้เล่าเรื่องเธอกับพี่วินท์ให้เกวลินฟังเสร็จแล้ว อลินดาก็ลงมาข้างล่าง เพื่อหาน้ำดื่ม สายตาของเธอ เหลือบมองไปที่ห้องของเขา ซึ่งอยู่ถัดออกไปจากห้องของเธอ ‘พี่วินท์...ออกไปไหนนะ?’ อลินดาเดินมาจนถึงหน้าประตูของเธอ และด้วยความอยากรู้ เธอเลยเดินไปหยุดยืนอยู่ที่ห้องของเขา พร้อมกับแนบหูไปกับบานประตูใหญ่ เพื่อฟังเสียงจากด้านใน “หรือพี่วินท์ จะออกไปเมานะ”อลินดาพึมพำกับตัวเอง พร้อมกับเดินกลับไปที่ห้องของเธอ วันนี้ สิ่งที่เขากับเธอทะเลาะกัน พออลินดากลับไปคิด บวกกับ สิ่งที่เกวลินพูด มันทำให้อลินดาเข้าใจพี่วินท์มากขึ้น แต่ ไม่ว่าจะยังไง อลินดาก็ปฏิเสธเรื่องนี้อยู่ดี เธอจะทำให้ทุกคนผิดหวังในตัวเธอไม่ได้เด็ดขาด ยิ่งทุกคนดีกับเธอมากแค่ไหน อลินดาก็ยิ่งรู้สึกผิดขึ้นไปอีกเท่าตัว มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว... แกร๊ก! ประตูห้องนอนถูกเปิด ร่างอวบอิ่มเดินเข้าไปด้านใน เธอกำลังคิดถึงเรื่องราวระหว่างเธอกับเขา ‘ตอนที่พี่วินท์โกรธ เขาขู
@ แผนกฝ่ายขาย... เวลา 11.30 น. “ร่างแบบโครงสร้างเป็นรูปสามมิติ พร้อมกับใส่คำอธิบายลงไป เพื่อลูกค้าจะได้เห็นภาพที่ชัดเจน เดี๋ยวพอเสร็จแล้ว เอามาให้พี่ดูหน่อยนะ...น้ำตาล” “ได้ค่ะพี่โมทย์ น้ำตาลขอเวลาสักครึ่งชั่วโมงค่ะ”อลินดากำลังจ้องหน้าจอ มือของเธอกดแป้นคีย์บอร์ด เมื่อรุ่นพี่กำลังบรีฟ (brief) งานเธออยู่ วันนี้ เป็นครั้งแรกที่อลินดาได้ทำงานอย่างเต็มตัว ในฐานะเด็กฝึกงานของบริษัท... แต่ทว่า...ก็มีเสียงหนึ่งดังแทรกเข้ามา... “น้ำตาล! คุณกวินท์ให้เราไปพบที่ห้องนะ”ภาคินตะโกนบอกเด็กฝึกงานในสังกัดของเขา ดูแล้ว น้องฝึกงานคนนี้ น่าจะหนีไม่พ้นท่านรองประธานบริษัทคนนี้เสียแล้ว “ไปทำไมคะพี่คิน?”อลินดาถามกลับด้วยความงุนงง เธอก็ปฏิเสธและพูดกับเขาไปชัดเจนแล้วนะ ว่าอลินดาจะขอฝึกงานแผนกฝ่ายขาย ทำไมเขาจะต้องทำตัววุ่นวายขนาดนี้ “เห็นเลขาคุณกวินท์บอกพี่ว่า คุณกวินท์จะออกไปสำรวจการวางระบบเครื่องจักรอุตสาหกรรมในโรงงานแถวสมุทรปราการ พี่ก็ไม่รู้รายละเอียดมาก...แต่เอ๊ะ! ทำไม ไม่เอาทีมช่างไปล่ะ” “นั่นน่ะสิคะ...งั้น...น้ำตาลรบกวนพี่ค
“อุบัติเหตุงั้นเหรอ? สรุป! เรื่องที่ผ่านมา เธอคิดว่ามันคืออุบัติเหตุไม่ตั้งใจงั้นสิ!”กวินท์ลุกพรวดขึ้นทันที เพราะความโกรธ ที่เขาโดนปฏิเสธอย่างไม่ใยดีจากคนตรงหน้า “แล้วพี่วินท์ คิดว่ามันเป็นอะไรล่ะคะ!”อลินดากระชากเสียงออกมาเช่นกัน พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่ลดละ ‘เขาโมโหได้คนเดียวหรือไง’ “เป็น...ผัวเมียไง! พี่น้องจริงๆ เขาเอากันได้เหรอ!”กวินท์ตะคอกกลับด้วยอารมณ์เดือดอีกครั้ง เมื่อสองปีก่อน เขาอาจจะทำผิดต่อเธอ แต่เขาไม่เคยปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อเธอเลยสักครั้ง เพียงแต่ ในตอนนั้น เธอกับเขายังเป็นเด็กกันทั้งคู่ กวินท์ในวัยนั้น ก็คิดว่า การเป็นพี่น้องกัน ไม่ควรที่จะรักกัน แต่นั่นมันก็เป็นเพราะ ความรู้สึกของเขาที่ไม่ได้คิดรอบด้านก็เท่านั้นเอง... “พี่วินท์!!!”อลินดาพรวดลุกขึ้นยืนทันทีเช่นกัน เธอตกตะลึงกับคำพูดของเขา มือบางกำหมัดแน่น พยายามควบคุมอารมณ์ไม่ให้ระเบิดใส่เขา อลินดาไม่คิดเลยว่า เขาจะกล้าเอาเรื่องน่าอายเช่นนี้มาพูดกับเธอได้ หมับ! มือใหญ่คว้าที่แขนของเธอ พร้อมกับดึงร่างอวบอิ่มเข้ามาประชิด โดยที่ยังมีโต๊ะทำงานกั้นอยู่ ทั้งสองจ