พลั่ก! ร่างอรชรเซถลาเกือบล้ม เมื่อโดนแรงสะบัดของอีกฝ่าย
“อย่ายุ่ง! ออกไป!”
กวินท์ตวาดใส่ทันที เขาผุดลุกขึ้นยืนเต็มความสูง 189 เซ็นต์ มองร่างบอบบางที่ก่อกวน ทำให้อารมณ์ของเขาขุ่นมัว
“พี่วินท์ น้ำตาลแค่จะชวนพี่ ออกไปทำกิจกรรมที่รุ่นพี่บอกค่ะ น้ำตาลไม่คิดที่จะล่วงเกินพี่เลยนะคะ”
อลินดาหน้าเสีย เธอรีบอธิบายให้เขารู้ เธอกลัวเขาจะโกรธขึ้นมาอีก อลินดาจะทำอย่างไรดี ไม่ทำกิจกรรมนี้ก็ไม่ได้
“เธอ! ทำไมต้องมาวุ่นวายกับพี่! ไม่ได้ยินหรือไง พี่บอกว่า อย่ายุ่ง! ได้ยินมั้ย”
กวินท์ตะคอกเสียงดังอีกครั้ง ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์บวกผสมกับความโกรธ และหงุดหงิดใจ
“พี่วินท์ไปทำกิจกรรมกับน้ำตาลก่อนได้มั้ยคะ น้ำตาลขอร้องนะคะ ตอนนี้เวลากำลังจะหมดแล้ว ถ้าเราไม่ทำ พี่วินท์กับน้ำตาลก็จะโดนทำ...อุ้ย!”
อลินดาพูดยังไม่ทันจบประโยค เรือนร่างของเธอก็ปลิวตามแรงกระชากของคนตัวใหญ่ ข้อมือบางถูกมือใหญ่จับเอาไว้แน่น พร้อมกับที่ขายาวๆ ของเขาก้าวออกไป จุดมุ่งหมายคือบนเวที
“อยากทำมากใช่มั้ย! ได้! ทำให้มันเสร็จๆ ไป! จะได้เลิกวุ่นวายกับพี่ซะที!”
สันกรามของชายหนุ่มขบกันแน่น เขาหายใจลึกเพื่อลดความหงุดหงิดที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
“อุ้ย! พี่วินท์ น้ำตาลเจ็บนะคะ”
อลินดาจับไปที่ข้อมือของตัวเอง ที่ถูกเขาจับเอาไว้แน่น แรงบีบจากฝ่ามือใหญ่ ทำให้อลินดาเจ็บปวด ราวกับข้อมือของเธอต้องแตกหักออกจากกัน
“ทำไม! แค่นี้ทนไม่ได้หรือไง!”
ในขณะที่ความชุลมุนวุ่นวายนี้กำลังจะจบลง เสียงของ MC รุ่นพี่ก็ดังขึ้นแทรก...
“หมดเวลา! เอาล่ะครับ ทุกคนจับคู่เรียบร้อยแล้วนะครับ ใครที่หาพี่รหัสน้องรหัสไม่เจอบ้างเอ่ย ทีมงานช่วยเช็คหน่อยครับ จดชื่อไว้ด้วยนะครับ”
“และเมื่อทุกคนพร้อมแล้ว เราจะเริ่มเต้นรำกับหนึ่งบทเพลงนะคะ วันนี้ เรามาร่วมสนุก สานสัมพันธ์พี่น้องชาวคณะวิศวกรรมเครื่องกลของเรานะคะ! เอาล่ะค่ะ...เดี๋ยวพี่จะให้สัญญาณเปิดเพลงนะคะ คู่ไหนเต้นสวย พลิ้ว มีรางวัลนะคะทุกคน”
“พร้อมนะครับ...Music!”
เสียงดนตรีทำนองลีลาศสากลดังขึ้น ทุกคู่ ไม่ว่าจะเป็นชายหญิง ชายกับชาย หรือหญิงกับหญิง พี่รหัสน้องรหัสต่างก็เริ่มบรรเลงตามท่วงทำนองของเสียงเพลง
เตชินทร์กับเกวลิน...
“นี่น้องข้าวตูจะไม่ให้พี่จับมือ แล้วเราจะเต้นกันยังไงครับ”
เตชินทร์บ่น เมื่อน้องรหัสสุดสวยของเขา ไม่ยอมให้เขาได้แตะเนื้อต้องตัวเธอเลย เตชินทร์ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ‘ยัยสาวห้าว’คนนั้น เวลาแต่งหญิงแบบนี้แล้ว จะสวยมาก ทำไมเขาไม่เคยสังเกตเห็นออร่าความสวยของเธอเลยนะ น่าสนแฮะ^<>^
“ก็แค่โยกเบาๆ พี่จะต้องจับมือกันทำไมคะ”
อารมณ์ของเกวลินเริ่มขึ้น เธอรู้สึกไม่พอใจไอ้พี่รหัสขี้เก๊กหลงตัวเองคนนี้มาก ชอบคิดว่าตัวเองหล่อ สาวๆ ทุกคนจะต้องสยบเลยงั้นสิ
“อะไรของเธอ ถ้าเธอทำให้พี่ต้องโดนทำโทษล่ะก็ เธอต้องรับผิดชอบด้วย ทำให้มันดีๆ สิ! มา แค่จับมือ ไม่มีอะไรเสียหายหรอกครับ คุณผู้หญิง...”
แต่อีกด้านหนึ่ง กวินท์กับอลินดา...
“โอ้ย! พี่วินท์ น้ำตาลเจ็บนะคะ”
อลินดาหน้านิ่วเพราะความเจ็บที่โดนแรงบีบมหาศาลของมือใหญ่ที่กำลังจับมาที่เอวของเธอ ไม่ใช่สิ มันควรจะเป็นการโอบกอดกันมากกว่า แต่เขากลับใช้ฝ่ามือบีบเคล้นไปที่เอวของเธอ จนมันแทบจะหักคามือ
“เลิกโวยวายได้แล้ว!”
กวินท์ก้มมองศีรษะเล็กๆ ความสูงของเธอสำหรับเขาแล้ว เธอก็แค่ปลายคางของเขาเท่านั้น กวินท์สูงเกือบ 190 ส่วนเธอก็น่าจะสัก 170 เห็นจะได้ จากการประมาณดู คงห่างกันสัก 20 เซ็นต์
“พี่วินท์...” อลินดาเงยหน้ามองเขา กลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งจนอลินดาเริ่มมึน สายตาของเธอจับจ้องไปที่ปลายคางของชายหนุ่ม ทำไมพี่วินท์ถึงเกลียดเธอนะ มันเริ่มตั้งแต่ตอนไหน ทำไมอลินดาถึงไม่เคยรู้ตัว ความรักที่อลินดาเคยมอบให้เขา มันทำให้เขาเกลียดเธอได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ
“ขอบอกไว้ก่อน ที่พี่ยอมทำแบบนี้ ก็เพราะพี่อยากทำกิจกรรมให้มันเสร็จๆ ไป ก็แค่นั้นเอง”
“น้ำตาลรู้ค่ะพี่วินท์ แต่...”
อลินดากำลังจะเอ่ยปากถามเขา แต่พอนึกขึ้นได้ ถามไปก็ไม่มีประโยชน์ สุดท้ายเขาก็จะโกรธเธออยู่ดี
“พี่ไม่ได้ชอบเธอ และไม่คิดจะชอบ เธออย่าเอาสิ่งที่พี่ทำ ไปคิดเอง เออเอง”
“แต่เรายังเป็นพี่น้องกันได้นี่คะ ทำไมพี่จะต้องโกรธน้ำตาลด้วยคะ ทั้งๆ ที่น้ำตาลแค่...”
“พอได้แล้ว! พี่ไม่อยากฟัง!” น้ำเสียงเข้มกระชากออกมา เมื่อความขุ่นเคืองเริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง
“ค่ะ น้ำตาลขอโทษค่ะพี่วินท์”
อลินดาก้มหน้า ไม่คิดจะต่อความยาวตรงนี้อีกแล้ว เกลียดคือเกลียด ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ เธอจะต้องการอะไรจากเขาอีก
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป...
“เรากลับกันเถอะข้าวตู ตอนนี้ไม่มีกิจกรรมอะไรต่อแล้ว”
“ไปสิ ฉันก็อยากกลับจะแย่อยู่แล้ว เฮ้อ เหนื่อยจริงๆ เมื่อไหร่กิจกรรมรุ่นน้องปีหนึ่งจะจบสิ้นไปซะที จะมีอะไรอีกมั้ยเนี่ย”
เกวลินเมื่อยล้าไปทุกส่วนของร่างกาย เมื่อเธอเจอรุ่นพี่บ้าคนนั้นลากไปลากมา เต้นรำอะไรของเขา แกล้งเธอชัดๆ เจ็บใจนัก
“ไปกันเถอะ เราเดินออกไปทางนี้ใกล้กว่า”
อลินดาเหลือบมองไปที่โต๊ะพี่วินท์ กลับไม่พบร่างของเขาแล้ว เพื่อนของเขาก็ไม่มี...วันนี้...มันทำให้อลินดารู้ว่า ‘ไม่มีวัน...ที่พี่วินท์จะกลับมาเหมือนเดิม แม้แต่สถานะพี่ชายน้องสาว ก็ไม่มีวันเช่นกัน’
“เดี๋ยวฉันรอให้เธอขึ้นแท็กซี่ไปก่อนนะน้ำตาล”
“ไม่ต้องหรอก เธอข้ามไปฝั่งโน้นเถอะ เดี๋ยวแท็กซี่ก็มาแล้ว เธอไม่ต้องห่วงนะข้าวตู”
“เอางั้นเหรอ โอเค ก็ได้ งั้น ฉันข้ามไปก่อนนะ แล้วเจอกันวันจันทร์นะ ถึงบ้านแล้วแชทบอกฉันด้วยล่ะ”
“โอเค บาย”
ครึ่งชั่วโมงต่อมา...
@ คฤหาสน์เตชะวรากูล...เวลา 00.40 น.
แกร๊ก! เสียงลูกบิดประตูถูกเปิด
ร่างบอบบางเดินเข้ามาภายในบ้าน บรรยากาศยามดึกเงียบสงบ ทุกคนคงหลับกันหมดแล้ว อลินดามองไปรอบๆ ห้องโถง แสงไฟในห้องรับรองยังคงเปิดอยู่ คิ้วบางขมวดเข้าหากัน ด้วยความสงสัย ‘ทำไมแม่บ้านถึงไปเปิดไฟไว้อย่างนั้นนะ’
อลินดาเดินเข้าไปอย่างช้าๆ ห้องรับรองนี้ เป็นห้องที่ใช้สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งจะมีมุมสำหรับนั่งดื่ม เป็นเหมือนบาร์เล็กๆ ที่มีไว้บริการให้คนในบ้านได้ผ่อนคลาย มีดนตรีเปิด มีแสงไฟหลากสี เหมือนกับยกคลับบาร์ขนาดย่อมมาไว้ในคฤหาสน์หลังใหญ่
แกร๊ก! อลินดาตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป
ภาพที่เธอเห็น มันทำให้อลินดาชะงักไปทันที ชายกำยำร่างสูงใหญ่นอนคว่ำหน้ากับพื้นห้อง นั่นมันพี่วินท์นี่ ทำไมพี่วินท์ถึงลงไปนอนแบบนั้นนะ หรือว่า พี่วินท์จะเมาไม่ได้สติ? พี่วินท์เป็นอะไรหรือเปล่า?
“อืม...อย่ายุ่งดีกว่า”
อลินดาคิดว่า ขืนเธอเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับเขา พอเขาตื่นขึ้นมา ก็ต้องมาต่อว่าเธออีก
“แต่ถ้า...พี่วินท์”
ดวงตากลมโตเบิกกว้างออก เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เลวร้ายขึ้นในมโนนึกของเธอ ‘ถ้าพี่วินท์เป็นลม และเสียชีวิตขึ้นมาล่ะ’
เท้าไวเท่าความคิด ร่างบอบบางรีบวิ่งเข้าไปทันที
@ คฤหาสน์เตชะวรากูล...@ ห้องรับแขก... “วันนี้เป็นวันพิเศษอะไรคะพี่วินท์ ทำไมต้องมานั่งรวมตัวกันพร้อมหน้าแบบนี้ล่ะคะ...แต่ว่า...เอ๊ะ ยังขาดน้ำตาลนะคะ เดี๋ยวเวนิสตามเองค่ะ” “ไม่ต้องตามหรอกลูก พี่เรานัดกันมาแค่นี้น่ะถูกแล้ว”คุณหญิงเจนเนตรพอรู้เรื่องมาบ้างแล้ว วันนี้ ลูกชายคนกลางของเธอ นัดครอบครัวเพื่อจะบอกเรื่องราวบางอย่าง ลูกชายของเธอไม่เคยมีสีหน้าจริงจังขนาดนี้มาก่อน และผู้ที่ถูกนัด ก็ไม่มีบุตรสาวบุญธรรมของเธอด้วย คงไม่มีเรื่องอะไร นอกจากเรื่องของเขาทั้งสองคน แน่นอน “มีอะไรก็พูดมาเถอะลูก ป๊าก็อยากจะรู้แล้วเหมือนกัน ลูกชายป๊ามีปัญหาอะไร ไหนลองบอกป๊ามาซิ”ทักษ์ดนัยไม่เคยเห็นบุตรชายเขาคนนี้จะมีท่าทีจริงจังขนาดนี้มาก่อน เรื่องราวคงต้องใหญ่พอสมควร ไม่อย่างนั้น คงไม่นัดทุกคนมาเพื่อจะพูดกันภายในครอบครัวแน่นอน “ครับป๊า...”กวินท์มองทุกคนอย่างชั่งใจ เอาเข้าจริงๆ เขาก็รู้สึกประหม่าอยู่เหมือนกัน ปกติเวลาครอบครัวรวมตัวกัน ก็จะเป็นการทานมื้อเย็นด้วยกันเท่านั้น วันนี้ เขานัดทุกคนมา เพื่อจะบอกความจริง เรื่องของเขากับอลินดา “นายคงไม่ไปทำผู้หญิงท้องห
@ บนเตียงใหญ่ขนาดคิงไซส์... หลังจากพายุรักผ่านพ้นไป อ้อมแขนอันแข็งแกร่งล้อมรอบเรือนร่างอวบอิ่มเอาไว้ ฝ่ามือหนาค่อย ๆ ลูบไปตามแผ่นหลังเนียนนุ่มของเธอ สัมผัสนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายซ่อนอยู่... “พี่รักเธอนะ...” เสียงทุ้มกระซิบข้างหู “พี่วินท์รักน้ำตาล...ตอนไหนคะ?”อลินดาถามกลับ พร้อมรีบซุกหน้าของเธอเข้าไปในอกกว้าง ใบหน้าเนียนร้อนผ่าว ‘ปากของเธอปฏิเสธ...แต่ร่างกายของเธอกลับตอบสนองอย่างเต็มใจ ยัยบ้าน้ำตาลเอ้ย...สุดท้ายเธอก็หนีพี่วินท์ไม่พ้นอยู่ดี’ “ตอนพี่เจอเราครั้งแรก...” “หืม...อย่าบอกนะ ว่าตอนน้ำตาลแปดขวบ!” “อืม...แต่ตอนนั้น พี่ก็อายุ 11 แล้วนะ” “เป็นไปไม่ได้ค่ะ...” “มันเป็นไปแล้ว...พี่รักเธอตอนนั้นจริงๆ” “แล้วทำไม...พอน้ำตาลเข้ามหาลัย...พี่วินท์ถึงไม่ชอบน้ำตาลคะ...พี่วินท์ด่าน้ำตาล เกลียดน้ำตาล และไม่อยากให้น้ำตาลเข้าใกล้พี่วินท์อีก” “ตอนนั้น...พี่ยอมรับ ว่าพี่สับสน เราอายุ 18 พี่ก็ 21 เราทั้งคู่ยังเป็นเด็ก พี่คิดว่า เราสองคนไม่ควรรักกัน เพราะเราเป็นพี่น้องกัน” “แต่เ
“อุ๊บ!!” ปากบางถูกปิดอย่างรวดเร็ว เสียงร้องของหญิงสาวขาดหายไปด้วยริมฝีปากหนาบดจูบอย่างหนักหน่วง ปลายลิ้นสากกำลังชอนไชดูดดุน เกี่ยวพันลิ้นเล็ก จูบของเขาหนักแน่นและเร่าร้อน ราวกับเปลวไฟที่เผาผลาญทุกความรู้สึกให้ลุกโชน มือใหญ่จับล็อคศีรษะเล็กของเธอเอาไว้ เพื่อบังคับให้รับจุมพิตจากเขาได้อย่างถนัด “พี่...ต้องการเธอ...”เสียงแหบพร่าพึมพำกับเรียวปากเล็ก มือของเขาลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังของเธอ ภายใต้ชุดนอนเนื้อดีบางเบา จูบของเขาทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้น “มะ-ไม่นะ!” เสียงของหญิงสาวดังอู้อี้ออกมาเพื่อประท้วงคนตัวใหญ่ เรือนร่างของเธอกำลังโดนฟ่อนเฟ้นอย่างหนัก ปากบางถูกบดขยี้อย่างหนักหน่วง สมองของอลินดาขาวโพลน เรี่ยวแรงต่อต้านลดลง มือบางที่พยายามดันอกกว้างเอาไว้นั้น กลับหมดแรงผลักไปโดยปริยาย... “พี่...ขอนะ...” กวินท์อ้อนวอนกับปากนุ่ม ความกระสันแล่นผ่านไปทั่วเรือนกายของเขา อารมณ์ความต้องการของบุรุษเพศสูงขึ้น มือใหญ่ลูบไล้ลงเบื้องล่าง“อื้อ” เสียงครางของหญิงสาวหลุดออกมา ความรู้สึกแปลกใหม่แผ่ซ่านไปทั่วร่างของเธอ มือบางที่ตอนแรกต่อต้าน กลับคว้
เวลา 23.00 น. @ คฤหาสน์เตชะวรากูล บรรยากาศยามค่ำคืนเงียบสงบ อลินดากำลังเดินขึ้นบันได เพื่อที่จะเข้าห้องนอนของตัวเอง หลังจากที่อลินดาได้เล่าเรื่องเธอกับพี่วินท์ให้เกวลินฟังเสร็จแล้ว อลินดาก็ลงมาข้างล่าง เพื่อหาน้ำดื่ม สายตาของเธอ เหลือบมองไปที่ห้องของเขา ซึ่งอยู่ถัดออกไปจากห้องของเธอ ‘พี่วินท์...ออกไปไหนนะ?’ อลินดาเดินมาจนถึงหน้าประตูของเธอ และด้วยความอยากรู้ เธอเลยเดินไปหยุดยืนอยู่ที่ห้องของเขา พร้อมกับแนบหูไปกับบานประตูใหญ่ เพื่อฟังเสียงจากด้านใน “หรือพี่วินท์ จะออกไปเมานะ”อลินดาพึมพำกับตัวเอง พร้อมกับเดินกลับไปที่ห้องของเธอ วันนี้ สิ่งที่เขากับเธอทะเลาะกัน พออลินดากลับไปคิด บวกกับ สิ่งที่เกวลินพูด มันทำให้อลินดาเข้าใจพี่วินท์มากขึ้น แต่ ไม่ว่าจะยังไง อลินดาก็ปฏิเสธเรื่องนี้อยู่ดี เธอจะทำให้ทุกคนผิดหวังในตัวเธอไม่ได้เด็ดขาด ยิ่งทุกคนดีกับเธอมากแค่ไหน อลินดาก็ยิ่งรู้สึกผิดขึ้นไปอีกเท่าตัว มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว... แกร๊ก! ประตูห้องนอนถูกเปิด ร่างอวบอิ่มเดินเข้าไปด้านใน เธอกำลังคิดถึงเรื่องราวระหว่างเธอกับเขา ‘ตอนที่พี่วินท์โกรธ เขาขู
@ แผนกฝ่ายขาย... เวลา 11.30 น. “ร่างแบบโครงสร้างเป็นรูปสามมิติ พร้อมกับใส่คำอธิบายลงไป เพื่อลูกค้าจะได้เห็นภาพที่ชัดเจน เดี๋ยวพอเสร็จแล้ว เอามาให้พี่ดูหน่อยนะ...น้ำตาล” “ได้ค่ะพี่โมทย์ น้ำตาลขอเวลาสักครึ่งชั่วโมงค่ะ”อลินดากำลังจ้องหน้าจอ มือของเธอกดแป้นคีย์บอร์ด เมื่อรุ่นพี่กำลังบรีฟ (brief) งานเธออยู่ วันนี้ เป็นครั้งแรกที่อลินดาได้ทำงานอย่างเต็มตัว ในฐานะเด็กฝึกงานของบริษัท... แต่ทว่า...ก็มีเสียงหนึ่งดังแทรกเข้ามา... “น้ำตาล! คุณกวินท์ให้เราไปพบที่ห้องนะ”ภาคินตะโกนบอกเด็กฝึกงานในสังกัดของเขา ดูแล้ว น้องฝึกงานคนนี้ น่าจะหนีไม่พ้นท่านรองประธานบริษัทคนนี้เสียแล้ว “ไปทำไมคะพี่คิน?”อลินดาถามกลับด้วยความงุนงง เธอก็ปฏิเสธและพูดกับเขาไปชัดเจนแล้วนะ ว่าอลินดาจะขอฝึกงานแผนกฝ่ายขาย ทำไมเขาจะต้องทำตัววุ่นวายขนาดนี้ “เห็นเลขาคุณกวินท์บอกพี่ว่า คุณกวินท์จะออกไปสำรวจการวางระบบเครื่องจักรอุตสาหกรรมในโรงงานแถวสมุทรปราการ พี่ก็ไม่รู้รายละเอียดมาก...แต่เอ๊ะ! ทำไม ไม่เอาทีมช่างไปล่ะ” “นั่นน่ะสิคะ...งั้น...น้ำตาลรบกวนพี่ค
“อุบัติเหตุงั้นเหรอ? สรุป! เรื่องที่ผ่านมา เธอคิดว่ามันคืออุบัติเหตุไม่ตั้งใจงั้นสิ!”กวินท์ลุกพรวดขึ้นทันที เพราะความโกรธ ที่เขาโดนปฏิเสธอย่างไม่ใยดีจากคนตรงหน้า “แล้วพี่วินท์ คิดว่ามันเป็นอะไรล่ะคะ!”อลินดากระชากเสียงออกมาเช่นกัน พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่ลดละ ‘เขาโมโหได้คนเดียวหรือไง’ “เป็น...ผัวเมียไง! พี่น้องจริงๆ เขาเอากันได้เหรอ!”กวินท์ตะคอกกลับด้วยอารมณ์เดือดอีกครั้ง เมื่อสองปีก่อน เขาอาจจะทำผิดต่อเธอ แต่เขาไม่เคยปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อเธอเลยสักครั้ง เพียงแต่ ในตอนนั้น เธอกับเขายังเป็นเด็กกันทั้งคู่ กวินท์ในวัยนั้น ก็คิดว่า การเป็นพี่น้องกัน ไม่ควรที่จะรักกัน แต่นั่นมันก็เป็นเพราะ ความรู้สึกของเขาที่ไม่ได้คิดรอบด้านก็เท่านั้นเอง... “พี่วินท์!!!”อลินดาพรวดลุกขึ้นยืนทันทีเช่นกัน เธอตกตะลึงกับคำพูดของเขา มือบางกำหมัดแน่น พยายามควบคุมอารมณ์ไม่ให้ระเบิดใส่เขา อลินดาไม่คิดเลยว่า เขาจะกล้าเอาเรื่องน่าอายเช่นนี้มาพูดกับเธอได้ หมับ! มือใหญ่คว้าที่แขนของเธอ พร้อมกับดึงร่างอวบอิ่มเข้ามาประชิด โดยที่ยังมีโต๊ะทำงานกั้นอยู่ ทั้งสองจ