LOGINในตอนนี้จึงเหลือเพียง เมย์ กับ ริสา ที่ยังคงยืนอยู่ด้วยกันอย่างงง ๆ โดยที่ไม่รู้เลยว่าการจากไปของจี๊ดกำลังจะนำพาพวกเธอไปสู่สถานการณ์ที่คาดไม่ถึง
ณ มุมหนึ่งของเคาน์เตอร์บาร์ วายุ เจ้าของคลับที่ดูเคร่งเครียดกำลังพูดคุยอย่างดุเดือดกับพนักงานคนหนึ่ง ปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นในค่ำคืนเปิดตัวก็คือ พนักงานต้อนรับ (PR) หรือพนักงานสาว ๆ ที่จ้างมาเกิดมีปัญหาและขาดงานไปอย่างกะทันหัน ทำให้บรรยากาศของคลับดูไม่สมบูรณ์
วายุถอนหายใจอย่างหงุดหงิดพลางกวาดสายตาไปรอบ ๆ ทันใดนั้น สายตาของเขาก็ปะทะเข้ากับ เมย์ และ ริสา ที่กำลังยืนพูดคุยกันอย่างโดดเด่นท่ามกลางผู้คน
"ใช่แล้ว! พวกเธอนี่แหละ!" วายุนึกไอเดียขึ้นมาได้ทันที สองสาวสวยสดใส แถมยังเป็นน้องสาวเพื่อนสนิท (เมฆ) และเป็นคนรู้จัก จะง่ายกว่าการหาคนแปลกหน้ามาแทน
วายุเดินตรงเข้ามาหาทั้งสองสาวด้วยรอยยิ้มที่ดูเคร่งเครียด
"เมย์! ริสา! พี่มีเรื่องจะขอความช่วยเหลือด่วนมาก ๆ เลย"
เมย์มองหน้าวายุอย่างสงสัย "มีอะไรเหรอคะพี่วายุ ดูเครียดจัง?"
"คือ... ตอนนี้พนักงาน PR ของพี่มีปัญหาขาดไปกะทันหันหลายคนเลย... พี่ขอให้พวกเราสองคนช่วยสวมบทบาท พนักงานต้อนรับพิเศษ ให้หน่อยได้ไหมคืนนี้? แค่ไม่กี่ชั่วโมงเองนะ..."
ริสารีบปฏิเสธทันที "ไม่ค่ะพี่วายุ! พวกเรา..."
วายุรีบพูดตัดบทก่อนริสาจะพูดต่อ "พี่รู้! แต่พี่จำเป็นจริง ๆ! พี่ให้ค่าตอบแทนพิเศษอย่างงามเลยนะ... ถือว่าช่วยพี่ชายคนนี้หน่อยไม่ได้เหรอ? แค่ใส่ชุดยูนิฟอร์มที่พี่เตรียมไว้ให้ พวกเธอสวยอยู่แล้วสบายมากเลย"
เมย์หันไปมองริสาด้วยแววตาลังเล เธอไม่ได้อยากปฏิเสธเพื้อนของพี่ชาย แต่ก็กลัวว่าริสาจะไม่ยอม...
"ชุดยูนิฟอร์ม... อะไรเหรอคะ?" เมย์ถามอย่างไม่แน่ใจ
วายุยิ้มเจ้าเล่ห์เล็กน้อย "ชุดหูกระต่าย... มันเป็นธีมของคลับเราคืนนี้แหละ! สวยน่ารักแน่นอน! นะ ๆ ๆ ถือว่าช่วยพี่หน่อยนะริสา! พี่ไม่รู้จะพึ่งใครแล้วจริง ๆ"
แม้จะไม่อยากทำ แต่การปฏิเสธวายุซึ่งเป็นเจ้าของงานตรง ๆ ก็เป็นเรื่องยาก... สุดท้ายเธอกับเมย์ก็จำใจต้องพยักหน้ารับข้อเสนอนั้นไปอย่างเลี่ยงไม่ได้...
กระต่ายสาวแห่งรัตติกาล
เพียงครึ่งชั่วโมงต่อมา ริสา และ เมย์ ก็ปรากฏตัวในคลับด้วยลุคที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ทั้งสองสวมชุดสีดำที่เผยให้เห็นรูปร่างสวยงาม พร้อมกับที่คาดผมหูกระต่ายสีดำวาววับ
ริสากัดฟันทำงานอย่างไม่เต็มใจ ขณะที่เมย์ดูสนุกกับบทบาทใหม่ที่ได้รับ...
แต่สิ่งที่ริสาไม่รู้ก็คือ การที่เธอต้องกลายมาเป็น 'สาวน้อยหูกระต่าย' ในค่ำคืนนี้ จะทำให้เธอได้เผชิญหน้ากับคนที่เธอพยายามหลีกเลี่ยงมากที่สุดในสถานการณ์ที่เธอไม่ต้องการ...
หลังจากถูกวายุขอร้องแกมบังคับ ริสา และ เมย์ ก็ถูกส่งตัวไปปฏิบัติหน้าที่เป็น พนักงานเสิร์ฟพิเศษ ในชุดยูนิฟอร์มที่วายุเตรียมไว้ให้ — ชุดหูกระต่ายที่ทำให้พวกเธอโดดเด่นสะดุดตาที่สุดในคลับ
ด้วยชุดที่สั้นรัดรูปและที่คาดผมหูกระต่ายสีดำวาววับ ทั้งริสาและเมย์ต้องเดินถือถาดเครื่องดื่มไปตามโต๊ะต่าง ๆ ท่ามกลางเสียงเพลงที่เร้าใจและการจ้องมองที่ไม่ขาดสายจากแขกเหรื่อ
เมย์ ดูจะปรับตัวได้เร็ว เธอโยกย้ายส่ายสะโพกตามจังหวะเพลงเล็กน้อย ยิ้มแย้มรับทิปจากหนุ่ม ๆ ที่พยายามจะขอชนแก้วด้วย
"ยิ้มหน่อยสิริสา! ดูสิหนุ่ม ๆ มองกันเป็นแถว! ถือซะว่าเป็นประสบการณ์สนุก ๆ ละกัน!" เมย์กระซิบอย่างอารมณ์ดี
แต่สำหรับ ริสา การเดินท่ามกลางผู้คนที่สายตาเต็มไปด้วยความสนใจ มันคือความทรมานอย่างแท้จริง ทุกย่างก้าวรู้สึกหนักอึ้ง เธอพยายามหลีกเลี่ยงการสบตาใครต่อใคร ก้มหน้าก้มตาเสิร์ฟเครื่องดื่มอย่างเดียวราวกับกำลังทำภารกิจลับ
"คุณกระต่ายน้อย... แก้วนี้ให้ผมเหรอครับ? ขอบคุณนะครับ" เสียงแหบพร่าของชายคนหนึ่งดังขึ้นข้างหู ริสาทำเพียงพยักหน้า ก่อนจะรีบหมุนตัวเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
ในจังหวะที่ริสากำลังเดินสวนทางกับฝูงชนเพื่อนำแก้วเปล่าไปเก็บที่บาร์ สายตาของเธอก็พลันไปปะทะเข้ากับโต๊ะ โซนวีไอพี ที่อยู่ชั้นบนซึ่งมีรั้วกั้น ธนาไม่ได้เดินตามเพื่อนเข้าไปนั่งด้านใน แต่เขายืนอยู่ตรงขอบราวระเบียง ที่ที่สามารถมองเห็นเธอได้อย่างชัดเจน...
ธนา ไม่ได้สบตาเธออย่างเกรี้ยวกราดเหมือนเมื่อครู่ แต่เขากำลังมองด้วยสายตาที่เย็นชาและหนักอึ้ง ราวกับกำลังตัดสินและประเมินค่า
มันไม่ใช่สายตาของความปรารถนา... แต่มันคือสายตาของความผิดหวังและไม่พอใจอย่างรุนแรง
ริสารู้สึกเหมือนถูกแช่แข็งภายใต้แสงไฟนีออน ดวงตาของเธอกับเขาประสานกันเพียงเสี้ยววินาที แต่ความรู้สึกที่ถูกถ่ายทอดมานั้นทำให้หัวใจเธอเต้นรัวอย่างเจ็บปวด
เธอรีบก้มหน้าลงต่ำทันที ก้าวเดินอย่างรวดเร็วราวกับถูกไล่ล่า พยายามทำเป็นไม่เห็นว่ามีสายตาของใครก็ตามที่กำลังตามติดเธออยู่
ขณะที่ริสากำลังจะวางถาดที่บาร์เบา ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ วายุ ซึ่งเดินมาดูความเรียบร้อยของงาน " เหนื่อยไหมครับน้องริสา พี่ขอบคุณมากๆเลยนะครับ พี่นี่แย่จริงๆเลย เชิญน้องๆมาเที่ยว แต่ดันเอามาใช้งาน งั้นช่วยต่ออีกนิดนะครับ"วายุพูดต่อ
"ช่วยไปเสิร์ฟเครื่องดื่มที่โต๊ะ V1 หน่อยนะ เป็นแขกสำคัญของพี่เลย" วายุเร่ง
ริสาเงยหน้าขึ้นอย่างตกใจ โต๊ะ V1 คือ โต๊ะที่ธนาและเพื่อน ๆ ของเขานั่งอยู่!
"คือ... ให้เมย์ไปแทนได้ไหมคะ?" ริสาถามอย่างอ้อนวอน
"ไม่ได้หรอก! เมย์กำลังยุ่งกับโต๊ะโน้นอยู่ อีกอย่างโต๊าะนี้มีแต่คนกันเอง ไอ้ธนาก็นั่งโต๊าะนั่น รีบไปหน่อยนะ" วายุเร่ง โดยไม่รู้เลยว่ากำลังส่งริสาไปสู่สถานการณ์ที่น่าอึดอัด
ริสาไม่มีทางเลือก เธอหายใจเข้าลึก ๆ พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี แล้วเดินถือถาดที่เต็มไปด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ราคาแพงมุ่งหน้าไปยังโต๊ะ V1 อย่างจำใจ
ริสาเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นบนสุดของโซน V1 ด้วยหัวใจที่เต้นรัวเหมือนกลอง ใบหน้าของเธอซีดเผือดภายใต้แสงไฟสลัว แต่เธอก็ยังคงพยายามรักษาท่าทางที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถาดเครื่องดื่มในมือหนักอึ้งราวกับบรรจุความอึดอัดทั้งหมดของค่ำคืนนี้
เมื่อเธอเดินไปถึงโต๊ะ ธนาและกลุ่มเพื่อนรวม 4-5 คน ซึ่งเป็นชายหนุ่มรูปงามและดูดีตามแบบฉบับ ลูกหลานนักธุรกิจ กำลังนั่งอยู่ล้อมวง ทุกคนหยุดบทสนทนาและหันมามองเธอเป็นตาเดียว... สายตาที่จ้องมองมานั้นเต็มไปด้วยความสนใจที่เปิดเผย รูปร่างที่น่าหลงใหลและใบหน้าที่งดงาม ของริสาในชุดหูกระต่ายทำให้พวกเขาลืมเรื่องอื่นไปชั่วขณะ
"ว้าว... คุณกระต่ายคนนี้ของจริงว่ะ" หนึ่งในเพื่อนของธนาที่ชื่อ วิน ผิวปากเบา ๆ ขณะที่ริสาวางถาดลง
"มานี่เลยน้องสาว... ช่วยพี่ชงเหล้าหน่อยสิ" ปกรณ์ อีกคนที่มีรอยยิ้มกรุ่มกริ่ม ผายมือเชิญ
ริสาพยายามควบคุมมือไม่ให้สั่น เธอรินเครื่องดื่มใส่แก้วอย่างรวดเร็วและระมัดระวัง พยายามหลีกเลี่ยงการสบตาใคร แม้แต่กับธนาที่นั่งอยู่ใกล้ที่สุด
"ขอเติมหน่อยครับคนสวย" วิน ยื่นแก้วให้เธอใกล้ใบหน้า พร้อมกับพยายามเอื้อมมือมาแตะแขนของเธอ
ริสาเบี่ยงตัวหนีอย่างแนบเนียน "เดี๋ยวริสาจัดการให้ค่ะ" เธอใช้สรรพนามตัวเองโดยไม่ได้ตั้งใจ
"ริสาเหรอ? ชื่อน่ารักจัง" ปกรณ์ กล่าวอย่างติดใจ ก่อนจะหันไปสั่งเครื่องดื่มอื่น ๆ อีกมากมาย
ธนา นั่งอยู่ตรงข้ามกับเธอ ขาไขว่ห้าง พิงพนักโซฟาด้วยท่าทีผ่อนคลาย แต่ดวงตาของเขายังคงจดจ้องอยู่ที่ริสาอย่างไม่ลดละ มันเป็นสายตาที่ เย็นชาและหนักอึ้ง ไม่ได้มีร่องรอยของความสนุกสนานเหมือนเพื่อน ๆ ของเขา เขาไม่ได้พูดอะไรสักคำ แต่แรงกดดันจากสายตานั้นทำให้หลังของริสาเย็นวาบ
ในขณะที่ริสากำลังใช้ที่คีบน้ำแข็งตักก้อนน้ำแข็งใส่แก้วอย่างขะมักเขม้น ปกรณ์ ก็เริ่มออกฤทธิ์ เขาลุกขึ้นจากที่นั่งและเดินอ้อมมาข้างหลังเธอ จากนั้นก็ใช้มือแตะเบา ๆ ที่ไหล่ของริสา
"นี่... มานั่งข้าง ๆ พี่หน่อยสิ ชงไปคุยไปจะได้สนุก ๆ นะ" ปกรณ์พูดเสียงนุ่ม พยายามจะดึงตัวเธอให้ไปนั่งบนโซฟาข้าง ๆ เขา
หัวใจของริสาตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม เธอตัวแข็งทื่อ พยายามจะหาคำปฏิเสธที่สุภาพที่สุด
แต่ก่อนที่เธอจะได้อ้าปากพูด มือเหล็ก ของใครบางคนก็พุ่งมาคว้าแขนของริสาไว้แน่น!
หมับ!...
ริสารู้สึกถึงแรงดึงที่แข็งแกร่งจากด้านหน้า เธอถูกกระชากตัวอย่างรวดเร็วจนถาดเครื่องดื่มเกือบหลุดมือ ธนา ได้คว้าตัวเธอเข้ามาในวงแขนอย่างรวดเร็วและรุนแรง!
ทุกคนที่โต๊ะเงียบกริบ รวมถึงปกรณ์ที่กำลังจะจับตัวเธอด้วย ทันใดนั้น ริสาก็พบว่าตัวเองกำลัง นั่งอยู่บนตักของธนา โดยที่ แขนอันแข็งแกร่ง ของเขารัดโอบรอบเอวของเธอไว้แน่นราวกับเป็น เจ้าของ ของร่างกายนี้
บรรยากาศที่เคยครึกครื้นและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะพลันเปลี่ยนเป็นความตึงเครียด ไม่มีใครเคยเห็นธนาแสดงท่าทีรุ่มร่าม กับผู้หญิง โดยเฉพาะพนักงานในคลับแบบนี้มาก่อน
วิน เบิกตากว้างอย่างตกใจ "เฮ้ย! ไอ้ธนา... แก..."
ธนาไม่ตอบ เขายังคงใช้สายตาที่เย็นชาและไร้อารมณ์มองตรงไปข้างหน้า แต่แขนที่โอบเอวริสาไว้แน่นกลับเป็นคำตอบแทน
ปกรณ์ กลืนน้ำลายอึกใหญ่ ก่อนจะหัวเราะกลบเกลื่อนเสียงดัง
"อ้าว ๆ ๆ พวกเรา! นาน ๆ ทีท่านรองจะมีอารมณ์สนุกไปกับพวกเรา!" ปกรณ์พยายามทำเสียงให้ร่าเริง "อย่าไปแย่งเขาเลย! ถ้าเขาต้องการ... ก็ปล่อยเขาไป! พวกเราเลือกเด็กคนใหม่มาบริการก็ได้!"
คำว่า "เขาต้องการ" กระแทกเข้ากลางใจของริสาอย่างแรง เธอรู้สึกเหมือนตัวเองถูกลดค่าเหลือเพียง สิ่งของ ชิ้นหนึ่งที่ธนา "ต้องการ" จะครอบครองอย่างเห็นแก่ตัว
ริสาดิ้นเบา ๆ พยายามจะลุกหนีจากตักของเขา ".... ปล่อยฉันนะ"
แต่ธนาไม่สนใจเสียงกระซิบของเธอแม้แต่น้อย เขากลับ กระชับวงแขนที่เอวของหญิงสาวแน่นยิ่งขึ้น ไม่ยอมให้เธอขยับไปไหน และ ไม่พูดอะไร ออกมาเลยแม้แต่คำเดียว
ริสารับรู้ถึงความโกรธและความอับอายที่ไหลท่วมร่าง ความใกล้ชิดกับร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาบนตักนี้ภายใต้สายตาของทุกคนคือ การลงโทษ ที่เขาตั้งใจมอบให้เธออย่างเลือดเย็นที่สุด....
ในขณะที่ทั้งคู่ที่ยืนสบตากันธนา รุกด้วยท่าทีที่นุ่มนวล "ทำอะไรกันอยู่ครับ ไม่เห็นชวนพี่มาบ้างเลย อุตส่าห์รอให้ชวน ก็ไม่เห็นชวน เลยต้องเดินมากดกริ่ง"ริสาถึงกับเขิน ธนาจับไปที่แก้มสีชมพูของคนตรงหน้า "หน้าแดงใหญ่เลย เขินพี่ขนาดนั้นเลยเหรอ"ริสาที่ยังอึ้งรีบดึงสติแล้วเดินกลับไปนั่งที่โซฟา "ริสาแค่ทำตัวไม่ถูกค่ะ พี่จะกลับมาทำไมไม่บอกล่วงหน้า ยังส่งข้อความคุยกันอยู่เลย กลับมาแล้วน่าจะบอกริสาหน่อย"ธนา เดินตามมานั่งลงตรงข้ามเธอ "ก็พี่ยุ่งๆ กับห้องใหม่อยู่เลยยังไม่เข้าที่เข้าทาง... ทำไม ถ้ารู้ว่าเป็นพี่ย้ายมาอยู่ข้างห้อง จะช่วยพี่จัดของเหรอ"ริสา "เปล่าสักหน่อย ริสาก็แค่... แค่ทำตัวไม่ถูก ที่พี่มาอยู่ตรงหน้าแบบกะทันหันแบบนี้"ธนา เสียงนุ่มนวลและจริงใจ "หลายเดือนที่ผ่านมา พี่ขอโทษริสานะ ที่พี่ไม่ได้อยู่ข้างๆ ริสา"ริสา "จะขอโทษทำไมคะ มันเป็นความต้องการของริสาเอง มันทำให้ริสาทำใจง่าย การที่ไม่เจอหน้าพี่ในช่วงนั้น... ถ้าริสาต้องเจอพี่ในตอนนั้นมันมีแต่ความเจ็บปวดของการสูญเสีย"ธนานั่งนิ่งเงียบ สีหน้าเริ่มเศร้าลงมา พร้อมกับคำถามที่แสนจริงใจ "แล้วตอนนี้... เจอหน้าพี่... แล้วยังเจ็บปวดอยู่ไห
หกเดือนผ่านไป...หลังเหตุการณ์ที่พลิกผันชีวิต ริสา เลือกที่จะย้ายออกจากบ้านตามความต้องการของตัวเอง ทว่าเพื่อคลายความกังวลของของแม่ เธอจึงยอมรับข้อเสนอของพ่อเลี้ยงที่มอบคอนโดมิเนียมให้เป็นที่พักพิง และรอคอยวันที่เธอพร้อมจะกลับมาริสาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายที่คอนโด เธอทำงานรับงานรีวิวบ้าง ขายของออนไลน์บ้าง พยายามดำเนินชีวิตให้กลับสู่ภาวะปกติ ทว่าบาดแผลจากการสูญเสียครั้งใหญ่ยังคงฝังลึกในใจ ไม่มีวันลบเลือนเสียงตะกุกตะกักดังมาจากห้องข้างๆ ริสาเปิดประตูออกไปดูด้วยความแปลกใจ "อ้าว! ห้องนี้มีคนซื้อแล้วเหรอ... เพื่อนบ้านใหม่จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายนะ" เธอพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะปิดประตูและกลับมานั่งดูทีวีต่อหลังจากที่ริสาปิดประตู... ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว คิ้วเข้มคมคาย ก้าวออกมาจากลิฟต์ เขาหยุดยืนอยู่หน้าห้องของตน แต่สายตาและใบหน้ากลับจับจ้องไปยังประตูห้องข้างๆ ที่เพิ่งปิดลง รอยยิ้มเล็กๆ แห่งความหวังฉายชัดบนใบหน้า ก่อนที่เขาจะเดินเข้าสู่ห้องใหม่ที่เพิ่งขนข้าวของเข้ามา เขาเปิดม่านรับแสงแดดยามบ่ายอ่อนๆ ยืนเท้าเอวทอดสายตาไปยังวิวเบื้องหน้าอันกว้างไกล ก่อนจะหันมาพึมพำกับตัวเอง"นี่แหละค
ริสาหลับไปได้ราว 3 ชั่วโมง จากความอ่อนเพลียและความเจ็บปวดทั้งทางกายและใจ จนเสียงสะอื้นเงียบลงไปธนานั่งเฝ้าไม่ห่าง ค่อยๆ ขยับเข้าไปมองใบหน้าเธอใกล้ๆ ความรู้สึกเจ็บปวดที่ทิ่มแทงหัวใจเขา... เขาใช้ปลายนิ้วแตะไปที่ผ้าปิดแผลด้วยความรู้สึกผิดและลูบกลุ่มผมของเธอเบาๆ สัมผัสรอยน้ำตาข้างแก้มที่ยังไม่แห้งกรัง ปากเขาพึมพำแต่คำว่า "ขอโทษ" อย่างไม่หยุดหย่อนน้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาอย่างไม่อาจห้ามได้ ยอมรับความรู้สึกผิดอย่างแท้จริงชั่วขณะต่อมา ริสารู้สึกเหมือนมีบางสิ่งสัมผัสกายและใบหน้า เธอสะดุ้งเล็กน้อยแล้วลืมตาขึ้น พบว่าเป็นธนา ชายที่เธอรักมากที่สุด สายตาอ่อนล้าและเจ็บปวดในใจของเธอสบกับเขา เป็นสายตาที่ผสมผสานระหว่างความรักและความทนทุกข์ริสาไม่ได้ถาม ไม่ด่าทอ หรือแม้แต่ไล่เขาไป เธอกลับเงียบสนิทราวกับเขาไม่มีตัวตน ยิ่งทำให้ธนารู้สึกทรมานในหัวใจมากขึ้น"ริสา... ทำไมต้องเงียบแบบนี้ด้วย จะด่า จะว่า จะไล่พี่ก็ยังดี! พูดกับพี่สักคำได้ไหม พี่ขอร้อง พี่ขอโทษนะ อย่าเงียบแบบนี้เลย ให้โอกาสพี่สักครั้ง พี่ยอมรับผิดทุกอย่าง จะว่าพี่ยังไงก็ได้ แต่อย่าเงียบแบบนี้" ธนาอ้อนวอนด้วยเสียงสั่นเครือและใบหน้าเปื้อนน
ทันทีที่ธนาก้าวออกมาจากห้องพักฟื้น เขาเหมือนสูญสิ้นเรี่ยวแรง ร่างสูงใหญ่ทรุดฮวบลงนั่งคุกเข่าต่อหน้ามณีและศักดิ์ชัย ด้วยความรู้สึกผิดที่กัดกินหัวใจจนแทบจะแหลกสลายเมฆที่ยืนอยู่ใกล้ๆ รับรู้ถึงบรรยากาศอันหนักอึ้ง เขาเลือกที่จะเดินเลี่ยงออกไปอย่างเงียบเชียบ ปล่อยให้ครอบครัวได้เผชิญหน้าและสะสางเรื่องราวกันเองธนาก้มหน้าต่ำ ติดพื้นห้องเย็นเฉียบ น้ำตาเอ่อคลอ ก่อนจะเริ่มกล่าวคำขอโทษและสารภาพผิดทั้งหมดออกมาอย่างยากลำบาก"ผมขอโทษครับคุณน้า... ทุกอย่างเป็นความผิดของผมคนเดียว ถ้าผมชัดเจนและทำให้น้องมั่นใจในความสัมพันธ์ของเรามากกว่านี้... เรื่องของเราคงไม่ต้องปิดบังใคร... เป็นเพราะผม... ตั้งแต่แรก..."ธนาหยุดหายใจ พยายามรวบรวมสติ "ทั้งๆ ที่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นตั้งแต่ที่เรายังไม่รู้จักกัน... ผมน่าจะทำให้มันถูกต้องตั้งแต่ทีแรก..."คำว่า 'ความผิดพลาดตั้งแต่ทีแรก' ทำให้มณีที่กำลังปวดร้าวอยู่แล้วยิ่งชะงักงัน"อะไรคือความผิดพลาดตั้งแต่ครั้งแรก... ตั้งแต่ยังไม่รู้จักกัน... น้าไม่เข้าใจ !" มณีเอ่ยถามเสียงสั่นเทาแฝงความประหลาดใจธนาเงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงก่ำ เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้มณีฟังอย่างละเอียดยิบ พ
ไม่ทราบว่าพวกคุณเป็นญาติของคนไข้หรือเปล่าครับ...ทุกคนเงียบกริบ ธนา, มณี, และศักดิ์ชัย ก้าวเข้าไปหาคุณหมอพร้อมกันด้วยความหวังอันริบหรี่คุณหมอ สีหน้าเคร่งเครียดและเศร้าสร้อย"ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ..."คำพูดนั้น... ทำให้ ธนา ทรุดตัวลงกับพื้น มณีร้องไห้โฮอย่างสุดเสียงธนา เสียงแตกพร่า คุณหมอ... หมายความว่ายังไงครับ! ริสา... !คุณหมอ "คนไข้ปลอดภัยครับ แต่เนื่องจากคนไข้ได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรงจากการตกบันได... ทำให้... เราไม่สามารถช่วยชีวิตเด็กในครรภ์ไว้ได้ครับ คนไข้มีภาวะแท้งคุกคามจากการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง..."ความเงียบเข้าปกคลุมทุกคนศักดิ์ชัยถึงกับกุมขมับอย่างเคร่งเครียด ส่วนธนาคุกเข่าตัวสั่นงันงกลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวดมณีหยุดร้องไห้ชั่วขณะด้วยความสับสนมณี เสียงแหบแห้ง "เด็ก... เด็กอะไรคะ! ลูกสาวฉัน... ริสา... ริสาท้องเหรอคะ...!"ศักดิ์ชัยหันไปมองธนาอย่างไม่เชื่อสายตา "ธนา... นี่แก... เป็นแก...แกทำอะไรลงไป...!"ธนา ไม่สามารถตอบได้ เขาร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างบ้าคลั่ง ความเจ็บปวดจากการสูญเสียที่มาพร้อมกับการรับรู้ถึงการมีอยู่ของลูก! และการสูญเสียครั้งนี้เกิดจ
จีน่า รีบวิ่งตามออกมา "เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งไป!"ริสาไม่สนใจรีบเดินลิ่ว จีน่า รีบวิ่งตามมาคว้าแขนเธอไว้"ฉันบอกว่าหยุด!" นี่เธอมีปัญหากับพี่ชายของเธอเพราะรูปถ่ายใบนั้นเหรอ! ฉันไม่คิดว่าเขาจะยังเก็บไว้อยู่! และอีกอย่างนึง รูปนั้น..."ริสา ไม่ฟังสะบัดแขนจีน่าออกอย่างรวดเร็ว แล้วรีบวิ่งไปที่ลิฟท์ แต่ลิฟท์ไม่เปิด เธอจึงวิ่งไปทาง บันไดหนีไฟ ทันที เพื่อที่จะรีบออกจากที่น่ารังเกียจนี้ให้เร็วที่สุดธนา ที่วิ่งตามมาเห็นคนรักที่ตกบันไดไปต่อหน้าต่อตา หัวใจของเขาร่วงหล่นตามร่างเธอลงไป เขาตกใจจนแทบหยุดหายใจ ริสากลิ้งลงไปจนถึงขั้นสุดท้ายของบันได แล้วเธอก็ แน่นิ่งไปทันทีที่ ธนา วิ่งมาถึงร่างของเธอ เขาไม่สนใจอาการบาดเจ็บที่มือของตัวเอง รีบช้อนร่างบางของเธอขึ้นมา... เลือด ที่ไหลออกมาจากไรผมของเธอ และที่น่าตกใจกว่านั้นคือ เลือดที่ไหลออกมาจากช่วงล่างของเธอ เต็มไปถึงขา"ริสา... ริสา..." เขาพยายามเรียกชื่อเธอและเขย่าเบาๆ แต่เธอก็ไม่ได้สติน้ำตาเขาไหลพรากออกมาอย่างบ้าคลั่งด้วยความเจ็บปวดอย่างที่สุด ราวกับมีดนับพันเล่มกรีดแทงกลางอก เขาไม่มีเวลาเสียใจ ความหวาดกลัวเข้ากัดกินจนไร้สติ รีบอุ้มร่างของเธอขึ้น




![[Bad Loves] บำเรอแค้นศัตรูพี่ชาย (3P)](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)


