Mag-log in“แม่ไม่เป็นไร”
พอเงียบไปซักพักพิมพาก็พูดเสียงเบา แต่ก็นิ่งจนอลิซจับสังเกตได้ “เฮ้อ” อลิซถอนหายใจเบา แม่ก็เป็นซะแบบนี้ ชอบโทษตัวเองว่าที่พี่โกรธ เพราะตัวเองทิ้งพี่ไว้กับพ่อ “กินส้มหน่อยนะคะ หนูปอกให้” แม่รับส้มไปกินเงียบๆ และไม่พูดอะไรอีก “อ้าว อลิซมานานแล้วเหรอ” ป้าพรเปิดประตูห้องน้ำออกมาพอดี “ค่ะป้า แค่แวะมาดูแม่ว่าจะกลับแล้วค่ะ เดี๋ยวต้องไปทำงานต่อ” ป้าพรจับไหล่เล็กเบาๆเพื่อปลอบใจ “อย่าหักโหมนักนะ เดี๋ยวจะไม่สบายใจเอา” อลิซพยักหน้ารับ แต่จะไม่หักโหมได้ไง ไหนจะค้างค่าเทอมเพื่อน ไหนจะต้องหาเงินมาจ่ายค่ารักษาแม่ เงินเป็นล้านจะไปหามาจากไหนยังคิดไม่ออกเลย “งั้นหนูไปนะคะป้าพร หนูไปแล้วนะคะแม่” •ภูวินทร์ “น้าเล็ก!!!สวัสดีค่ะ” หลังเลิกงานพอกลับมาถึงบ้าน ก็ได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วคุ้นหูดังขึ้นจากห้องรับแขก ภูวินทร์หยุดเดินแล้วหันกลับมาช้าๆ ใบหน้าเขายังเรียบนิ่งเป็นปกติ ก่อนเอ่ยถามหลานสาวอย่างใจเย็น ”มีอะไร “ ”นี่ค่ะ เอกสารขอฝึกงานของทิมกับเพื่อน“ ทับทิมยิ้มกว้างพร้อมส่งเรซูเม่ให้อาเล็ก น้องชายผู้เป็นพ่อ ภูวินทร์รับมาอย่างไม่ได้สนใจนัก เพราะที่รับเพื่อนทับทิมด้วย เพราะจำใจ ”เอ้า!!น้าเล็กจะไม่ดูประวัติเพื่อนทิมซักหน่อยเหรอ เพื่อนทิมเรียนเก่งมากนะ“ ภูวินทร์ถอนหายใจแผ่วเบา หลานเขาตื้อสุดๆ ”จะดูทำไม ในเมื่อต่อให้เรียนเก่งหรือไม่เก่ง อามีสิทธิ์ปฏิเสธด้วยเหรอ “ ทับทิมยิ้มแห้งๆ เมื่อสิ่งที่อาพูดคือเรื่องจริง “แหม อาเล็กอ่า ก็เพื่อนทิมคนนี้ทั้งเรียนเก่งทั้งนิสัยดี และที่สำคัญสวยมากๆด้วย” ภูวินทร์ได้แต่ส่ายหัว ”พอเลย ปล่อยได้แล้ว ไว้ว่างเดี๋ยวจะดู ” พอทับทิมยอมปล่อย เขาก็เดินขึ้นห้องไป พรึบ!!! เขาโยนเรซูเม่ที่ทับทิมยื่นให้ใว้บนโต๊ะทำงานอย่างไม่สนใจ และเดินเข้าห้องน้ำนอนแช่น้ำอุ่นเพื่อผ่อนคลายอยู่ครึ่งชั่วโมง ครืด ครืด เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขณะที่ภูวินทร์กำลังจัดเอกสารบนโต๊ะทำงาน “ว่าไง” [ ไอ้ภู วันนี้มึงมาผับไอ้ศิวารึเปล่าวะ? ] เสียงราเมศดังผ่านสายอย่างอารมณ์ดี “วันนี้กูมีงานต้องเคลียร์ เอาไว้วันหลัง” เขาตอบเสียงเรียบ ห้วนสั้น [ เฮ้ย! มาหน่อยน่า วันนี้ไอ้วาคิมมันไม่มา กูเหงา ไม่มีเพื่อน ] เสียงเพื่อนสนิทยังไม่ลดความพยายาม “มึงก็เรียกไอ้ศิวามาดื่มสิวะ กูจะทำงาน” เขาเริ่มหงุดหงิด น้ำเสียงเริ่มติดรำคาญ [ เออๆ งั้นก็ตามใจมึง เดี๋ยวกูเรียกน้องอลิซมานั่งเป็นเพื่อนก็ได้ ] ประโยคทิ้งท้ายของราเมศทำเอาภูวินทร์นิ่งไปชั่วขณะ “มึงจะเรียกใครมานั่งเป็นเพื่อนก็เรื่องของมึง แค่นี้นะ” เขาตัดบท แล้วกดวางสายไปทันทีโดยไม่รอฟังคำตอบ มือหนาขยี้เส้นผมตัวเองเบาๆอย่างหงุดหงิด แล้วเดินไปทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวใหญ่ตรงหน้าทีวี ข่าวในจอไม่สามารถดึงความสนใจเขาไว้ได้ เท่ากับเสียงในหัวที่ยังวนเวียนกับชื่ออลิซ เขายกแก้วเหล้าขึ้นจิบ รสชาติร้อนแรงแตะปลายลิ้น แต่กลับไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้น กลับกัน มันยิ่งทำให้ใจเขาวูบวาบแปลกๆ ภาพใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นลอยขึ้นมาแบบไม่ให้ทันตั้งตัว เขานั่งนิ่งอยู่พักใหญ่ ก่อนจะถอนหายใจแรงๆ อย่างยอมแพ้กับตัวเอง ในที่สุดก็วางแก้วลงบนโต๊ะ แล้วเดินไปในห้องแต่งตัว หยิบเสื้อเชิ้ตสีดำกางเกงสแลชสีเดียวกันเนื้อผ้าอย่างดีมาสวมใส่ นาฬิกาเรื่อนหรูราคาหลักสิบล้าน ฉีดน้ำหอมราคาแพงจากประเทศฝรั่งเศษ หยิบกุญแจรถหรูคันละสี่สิบกว่าล้าน แล้วเดินไปขึ้นรถ “ไอ้ราเมศ เพื่อนเวร“ เสียงสบถในลำคอดังขึ้นเบาๆ ก่อนที่เท้าหนาจะกดน้ำหนักไปที่คันเร่ง ภูวินทร์มุ่งหน้าไปยังผับของศิวาโดยไม่แม้แต่จะโทรบอกเพื่อน —อลิซ— ”อลิซจ๊ะ เดี๋ยวไปดูแลคุณราเมศนะ vip6“ แค่ได้ยินชื่อนี้อลิซก็จำได้ว่าคือเพื่อนเจ้านาย ”คนเดียวเหรอคะ แล้วพี่พราวหละ“ ”ใช่จ๊ะ วันนี้คุณราเมศมาคนเดียว ส่วนพราวต้องไปvip10“ อลิซพยักหน้าเข้าใจ แต่มีอีกคนที่ไม่เข้าใจนั่นก็คือเอมมี่ เบอร์1ของผับนี้ในเย็นของวันนี้เลิกงานแล้วฉันก็ไปเลือกชุดตามที่เขาบอก เดินดูไปสักพักก็ได้ตัวที่สวยสุภาพมา2ชุด ราคาก็แพงเอาเรื่องเหมือนกันนะเนี่ย แต่ไม่เป็นไรคุณภูวินทร์ให้งบมาเพียบ เลือกเสร็จฉันก็เดินไปจ่ายเงิน และดูของที่จำเป็นต้องใช้อีกนิดหน่อย ก่อนที่จะกลับคอนโด ”ป้าพรคะวันนี้หนูอยากกินแกงเขียวหวานฝีมือป้าค่ะ หนูซื้อของมาให้ครบหมดแล้วป้าทำให้กินหน่อยนะคะ“ ฉันเดินเข้าไปในครัวแล้ววางวัตถุดิบ และอุปกรณ์ทั้งหมดลงโต๊ะ ”ได้ลูก เดี๋ยวป้าทำให้กินนะจ๊ะ“ ป้าพรยิ้มแล้วเดินไปล้างมือเตรียมที่จะทำอาหาร ”เอ่อ…คือ ป้าคะหนูต้องไปต่างจังหวัดสัก3-4วันนะคะ“ ฉันลังเลที่จะบอกป้า กลัวแกเป็นห่วงไม่อยากให้ไป ”อื้อ ไปสิลูก“ ป้าไม่ว่าอะไรแล้วถามต่อ ”ไปกับบริษัทใช่มั้ย“ ”ใช่ค่ะป้า เดี๋ยวหนูจะทำตัวดีๆแล้วรีบกลับมานะคะ“ ฉันดีใจมากคิดว่าจะไม่ได้ไปแล้วซะอีก เมื่อก่อนป้ากับแม่เป็นห่วงฉันมาก แต่เดี๋ยวนี้แกเริ่มปล่อย เห็นว่าฉันโตแล้วมั้ง ฮ่าๆๆ แล้วฉันก็ไปนั่งดูทีวีที่โซฟาราคาแพง สักพักก็เริ่มได้กลิ่นหอมลอยมาจากในครัว ”โห หอมขนาดนี้ถ้าป้าทำขายคงจะขายดีมากแน่เลยค่ะ“ ฉันแซวป้าไปจากโซนน้่งเล่น ”ป้าก็คิดว่าจะเปิดร้านขายอาหารตาม
17.00น. “อลิซ ขึ้นรถไปกับฉันเลยมั้ย เดี๋ยวเมลล์จะไปรอที่ร้าน” ทับทิมเดินมาถาม หลังจากเลิกงานตึก ตึก ตึก ”จะไปไหนกัน“ ได้ยินเสียงเดินมาจากด้านหลังทั้งสองคนก็หันไปมองพร้อมกัน พรึบ ”ก็ไปกินข้าวไงคะอาภู จะไปด้วยกันมั้ยคะ“ ทับทิมถามอาอย่างกวนๆ ส่วนอลิซหลบหน้าไม่กล้าสบตาเขา”ไร้สาระ“ เขาพูดแล้วเดินไปยังลิฟต์ ติ๊ง ”ป้ะ ฉันไปกับแกนี่แหละ“ อลิซตัดสินใจ แล้วตกลงกับทับทิม”โอเค ไปกัน“ ทับทิมยิ้มสดใสแล้วลากแขนอลิซลงไป อลิซที่วิ่งตามอย่างช้าๆก็ยิ้มออกมาเบาๆณ ร้านชาบู“นั่นไงเมลล์“ อลิซเห็นเพื่อนนั่งอยู่ในร้านเลยบอกทับทิม”โอเคไปกันเถอะ“ ทั้งคู่เดินไปยังโต๊ะที่เมลล์จองไว้ก่อนหน้านี้แล้ว”โอ้ย ไม่เจอพวกแกนานคิดถึงมาก“ เมลล์ยิ้มทักทายขึ้น”วันนี้ใครมีเรื่องจะเล่าป้ะ“ อลิซถามเพื่อนทั้งสองคนอย่างรู้กัน”ฉันมี/ฉันมี!!“ เมลล์และทับทิมพูดขึ้นพร้อมกัน โดยไม่ได้นัดหมาย ”ฮ่า ฮ่า ฮ่า“ ทั้งสามสาวหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุขเมื่อชาบูมาเสริฟ ทั้งสามคนก็ได้กลิ่นหอมที่ลอยออกมาจากหม้อชาบู “หื้มม หอมจัง” อลิซสูดดมแล้วหันไปหัวเราะกับเพื่อน“โอ้ย หอมมากแก ไม่ได้กินนานเลยแหละ ช่วงนี้ไม่ว่างเลย” ทับทิมพูดเชิงดราม
ภูวินทร์ให้เฟยหนูชอบถุงกระโปรงตามตัวเองขึ้นมายังห้องทำงาน ผ่านโต๊ะที่ทำงานของแพรววา “บอสคะ ถุงอะไรหรอคะทำไมมันของเยอะขนาดนั้น ให้พี่ช่วยมั้ย“ ”อ๋อไม่ต้องครับ จะถึงแล้ว“เขาเลี่ยงที่จะตอบคำถามว่าในถุงนั้นคืออะไร ”วางไว้ตรงนี้แหละ เดี๋ยวฉันถือเข้าไปเอง“เขากลัวว่าคนอื่นจะเห็นอลิซในสภาพนั้น เปิดประตูเข้าไปในห้อง ”โห คุณซื้ออะไรมาเยอะแยะขนาดนี้คะ“ อลิซถามด้วยความตกใจ ”ก็ผมไม่รู้นิ่ ว่าคุณให้ซื้อแบบไหน เอาไปให้หมดนี่เลย” เขาวางถุงไว้ที่โซฟาแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานต่อ -ซื้อมาเยอะขนาดนี้กะจะให้ฉันใส่ถึงปีหน้าเลยหรอ- แล้วเธอก็เปิดถุงออกดู หยิบดูตัวนั้นตัวนี้ “โห ตัวนี้สวยจัง” เธอเลือกดูไปมา “ตัวนี้สวยมาก ตัวนี้คอลเลคชั่นใหม่นิ่ ตัวนี้แพงมาก คุณซื้อหมดกี่บาทเนี่ย“ เธอเลือกไปยิ้มไป ด้วยความตื่นเต้น แล้วหันไปถามเขา ทั้งคู่ก็สบตากันพอดี เธอเห็นเขายิ้มมุมปากเล็กๆ ก่อนจะหุบยิ้มลงเมื่อเธอจับได้ ”อ๋อก็ไม่เท่าไหร่หรอก แค่นี้เองเธอชอบฉันซื้อให้ได้อีกเป็นสิบ“ แล้วหน้าหล่อก็ก้มลงเขียนงานต่อ ”คุณภูวินทร์คะ ตัวนี้สวยมั้ย“ เธอใส่แล้วยืนขึ้นให้เขาดู -โหสวยมาก ตัวนี้เหมาะกับเธอจริงๆ- ”ก็งั้นๆ
”รู้สึกยังไง เมื่อวานดื้อนักไม่ใช่หรอ ทำไมต้อนนี้ทำท่าเหมือนคนจะตา-“ ภูวินทร์สะใจที่วันนี้แกล้งเธอสำเร็จ หัวเราะแล้วกำลังหันไปมอง พบว่าเธอกำลังปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออกอย่างลุกลี้ลุกลน “เอ้า อย่าทำแบบนี้” เขารีบวิ่งไปห้ามเธอไว้ แต่ก็ห้ามไม่อยู่ เมื่อยาออกฤทธิ์แล้วไม่มีอะไรแก้ได้ นอกจากหาคู่นอนเท่านั้น ”ช่วยฉันแก้พิษยาหน่อยนะคะ คุณภูวินทร์“ เธอทำเสียงออดอ้อน แล้วปลดเสื้อตัวเองออกจนหมด มองเห็นแต่เต้าอวบนั่นที่ล้นทะลักออกมาจากชุดชั้นในราคาแพงตัวสีดำ แล้วอลิซก็โน้มตัวเข้ามาจูบภูวินทร์ ชายหนุ่มตกใจเล็กน้อย ก่อนที่ตัวเองก็เคลิบเคลิ้มตามอารมณ์ แล้วจูบตอบเธออย่างเร่าร้อน อลิซผละเขาออก ”หืมมม~ คุณวางยาอลิซเองนะคะ วันนี้คุณต้องรับผิดชอบ” ก่อนจะจูบต่ออย่างดูดดื่ม ทั้งคู่แลกลิ้นกันครั้งแรก -ทำไมลิ้นของเธอมันหวานจัง- สองมือของชายหนุ่มจับไปที่ท้ายทอยของเธอ ล็อกไว้ไม่ให้ขยับหัวออกไปไหน หลังจากทั้งคู่หลุดจากพันธะแล้ว อลิซก็ถอดกางเกงภูวินทร์ออก แล้วคุกเข่าลงไป รวบผมตัวเองไว้อย่างหลวมๆ แล้วยื่นให้ภูวินทร์เป็นคนจับไว้ “จับไว้ค่ะ” จากนั้นเธอก็อ้าปากเล็ก งับเอาแท่งเอ็นลำใหญ่ แทงลึกลงไปจนสุดลำ
เช้าวันต่อมา ณ บริษัทภูทัชชัยกรุ๊ป ภูวินทร์ที่ตื่นสายเลยมาช้ากว่าปกติ“สวัสดีค่ะคุณภูวินทร์/สวัสดีครับประธาน” เสียงเอ่ยสวัสดีดังขึ้นตามหลังมาตลอดทางที่เดินเข้าบริษัท ชายหนุ่มที่กำลังเดินไปยังห้องทำงานด้วยความเร่งรีบก็ตกใจมาก“คุณพ่อ!!” เมื่อเห็นว่าชายที่นั่งอยู่บนรถวีลแชร์ในทางที่ไปห้องทำงานคือพ่อของตนเอง ที่มีคนรับใช้หนึ่งคนคอยเข็นให้“ตกใจขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมวันนี้มาสาย ฉันให้แกมาดูแลบริษัทไม่ได้ให้มาทำตัวเหลวไหล” ภูวินทร์ทำหน้าเจื่อนเล็กน้อยก่อนจะกล่าวขอโทษ“ผมขอโทษครับ เมื่อคืนผมแค่…”“ไม่ต้องมาแก้ตัว” ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไร พ่อของเขาก็พูดตัดบทขึ้นมาซะงั้น “ฉันเป็นพ่อแก รู้หมดนั่นแหละว่าแกทำอะไรลงไปบ้าง ไป!! รีบไปเอาแผนงานของบริษัทในเดือนนี้มาอ่านให้พ่อฟัง”– เหมือนจะดุแต่ก็ไม่ใช่ เพราะคนที่เข้าใจผมมากที่สุดก็คือพ่อ“ครับคุณพ่อ ผมจะรีบรายงานเดี๋ยวนี้เลย” เขายิ้มแล้วรีบเดินไปหยิบแผนงานของบริษัทมาพูดให้พ่อฟังแอ๊ด~ เสียงเปิดประตูดังขึ้น“คุณปู่!! คิดถึงหนูมั้ยยย” ทับทิมรีบวิ่งมาแต่ไกลก่อนจะโผล่เข้ากอดปู่ ซึ่งเธอรักปู่ของเธอมากที่สุด เพราะปู่เป็นคนใจดีแล้วตามใจเธอที่สุด“คิดถึงสิ ห
ณ ร้าน Happy NaNa Club “มึงจัดเด็กมาให้ไอ้ภูดิ้” ศิวาเห็นเพื่อนรักอย่างภูวินทร์ทำหน้าเครียด เลยหาเด็กมาให้ “เด็กๆ” ศิวาปรบมือเป็นสัญญาณให้พีอาร์เข้ามาในห้อง VIP3 แล้วผู้หญิงสวยสี่คนก็เดินเข้ามา ทั้งสี่คนเดินไปชงเหล้าอย่างรู้งาน ก่อนจะมาประกบคู่ของตัวเอง -ผู้หญิงพวกนี้ก็สวยอยู่ แต่สู้อลิซไม่ได้สักคน เห้ย กูคิดอะไรอยู่ ยัยนั่นก็แค่เด็กเลี้ยง จะไปรู้สึกอะไรได้ไงวะเนี่ย- ภูวินทร์เถียงกับความคิดตัวเองอยู่ครู่ ก่อนเอ่ยว่า “คือ…ผมไม่ดื่มครับวันนี้” พีอาร์ที่ยื่นแก้วให้ทำหน้าเจื่อนทันที เธอวางแก้วลงก่อนจะขยับเข้ามาซบอก คลอเคลียเขา ทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองเพิ่งโดนปฏิเสธ “พี่ภูวินทร์ขา วันนี้ทำไมอารมณ์ไม่ดีคะ” เธอพูดพร้อมลูบไล้หน้าอกแกร่งของเขา “หงุดหงิดนิดหน่อย” เขาตอบแต่สีหน้าไม่เปลี่ยน สายตาจับจ้องโทรศัพท์ ไม่สนใจคนข้างตัวแม้แต่นิดเดียว “โถ่ไอ้ภู มึงจะเครียดอะไรนักหนาวะ สาวงามก็อยู่ตรงนี้ สนใจน้องเขาหน่อยดิวะ” ราเมศแซวเมื่อเห็นเพื่อนซึม -ไอ้พวกนี้นี่ จะอะไรกันนักหนา ก็บอกว่าไม่ได้อยากสนุก มันก็บังคับอยู่นั่นแหละ ถึงยังไงผมก็รู้ว่ามันหวังดี- “มึงว่างั้นมั้ยคิม” นั่นมันยังหาพรร







