Home / โรแมนติก / ปราถนารัก / น้ำตาของเขา

Share

น้ำตาของเขา

Author: Darann
last update Last Updated: 2025-05-16 15:26:06

“เรื่องอุบัติเหตุ…เธอจำได้มากแค่ไหน?” คนตัวสูงที่คร่อมตัวฉันอยู่ถามออกมาด้วยเสียงแข็ง พร้อมทั้งขมวดคิ้วมองลงมาด้วยสายตาที่ดูเหมือนกำลังสงสัย

คำถามพวกนี้มันหมายความว่ายังไงกันนะ? หมายความว่าคุณคิมหันต์รู้เรื่องอุบัติเหตุวันนั้นอยู่แล้วจริงๆใช่มั้ย? ได้ยังไงกัน…เขารู้เรื่องอุบัติเหตุวันนั้นได้ยังไง? วันนั้นคุณคิมหันต์ไปอยู่ที่นั่นได้ยังไง?

“ฉันมากกว่าที่ต้องถามคุณ ว่าวันนั้น…วันที่ฉันเกิดอุบัติเหตุ คุณ…ไปอยู่ที่นั่นได้ยังไง?”

หมับ!! ดูเหมือนว่าคำถามของฉันจะทำให้คนตัวสูงไม่ค่อยพอใจสักเท่าไร เพราะทันทีที่ฉันถามแบบนั้นออกไปคุณคิมหันต์กลับยกมือขึ้นมาบีบแขนฉันอย่างแรง แรงจนฉันปวดไปทั่วทั้งแขน

“โอ้ย!! คุณคิมหันต์! ฉันเจ็บนะคะ” ฉันร้องออกมาเพื่อหวังจะให้คนตัวสูงหยุดการกระทำที่ไร้เหตุผลของตัวเอง แต่ทันทีที่หันไปสบตาที่เยือกเย็นของเขา ตัวฉันกลับรู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งตัว ขนลุกจนไม่กล้าขยับไปไหนแล้วนิ่งงันอยู่อย่างนั้นไปโดยอัตโนมัติ

อะไรกัน? นี่คำถามของฉัน…ทำเขาโกรธมากขนาดนี้เลยเหรอ? ทำไม…ทำไมเขาต้องโกรธมากขนาดนี้ด้วย?

“ถ้าจะจำได้แค่นั้น ก็ลืมมันไปซะ!!” ลืมเหรอ? เขาคิดว่าการลืมเรื่องที่น่าเจ็บปวดแบบนี้มันง่ายมากรึไง? ถ้าเลือกได้…ฉันก็ไม่อยากจำมันขึ้นมาให้ตัวเองเจ็บปวดแบบนี้อีกครั้งหรอก

“คุณจะให้ฉันลืมมันไปง่ายๆได้ยังไง?”

“ทำไมจะทำไม่ได้!! ในเมื่อที่ผ่านมาเธอก็ลืมมันมาตลอดเลยนี่! ก็แค่ลืม…เหมือนอย่างที่ทำมาตลอด” ท่าทีโกรธเกรี้ยวของคุณคิมหันต์ตอนนี้มันคืออะไรกัน? ทำไมเขาต้องดูอารมณ์เสียขนาดนี้ด้วย เรื่องอุบัติเหตุมันก็เป็นอุบัติเหตุของฉัน ไม่ได้เกี่ยวกับเขาซะหน่อย ทำไมต้องมาสั่งให้ฉันลืมเรื่องราวของตัวเองด้วย

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วยล่ะคะ?! ต่อให้ฉันจะจำได้หรือจำไม่ได้ยังไง แล้วคุณจะมาเดือดร้อนอะไรด้วยล่ะ?”

“…” เสียงตะคอกของฉันทำเอาคนตัวสูงถึงกับนิ่งชะงักไปชั่วขณะเลย

“…ฉันแค่อยากรู้ว่าทำไมตอนนั้นคุณถึงไปอยู่ที่นั่นก็แค่นั้น แต่ถ้าคุณไม่อยากบอกคุณก็ไม่ต้องบอกก็ได้ค่ะ แต่ทำไมคุณต้องมาสั่งให้ฉันลืมเรื่องนั้นด้วย!!”

ฟึ่บ!! สิ้นเสียงตะคอกของฉัน มือที่บีบแขนฉันเอาไว้ของคนตัวสูงก็คลายออก ก่อนที่เจ้าตัวจะลุกออกจากตัวฉันไป ด้วยสีหน้าที่กลับมาเรียบนิ่งตามเดิม

“เธอ…ไม่เคยรู้อะไรเลยสินะเกวลิน!” คุณคิมหันต์เอ่ยออกมาในขณะที่กำลังหันหลังให้ฉัน แต่ถึงแม้ว่าเขาจะยืนหันหลังให้ฉัน แต่ฉันกลับรับรู้ได้ถึงน้ำเสียงที่ดูเหนื่อยหน่ายของเขา

หมายความว่ายังไงกันแน่? ทั้งน้ำเสียงที่ดูเหนื่อยหน่ายของเขา ทั้งคำพูดที่น่าสงสัยของเขา มันหมายความว่ายังไงกันแน่? ฉัน…ฉันไม่เข้าใจเขาเลยจริงๆ

“ที่คุณพูด…มันหมายความว่ายังไงกันแน่คะ? ถ้าฉันไม่รู้…คุณจะช่วยบอกให้ฉันรู้ได้มั้ยคะ? คุณคิมหันต์” ฉันยืนขึ้นมองแผ่นหลังกว้างของคนตัวสูง ก่อนจะเอ่ยถามสิ่งที่สงสัยอยู่ในใจออกไปด้วยเสียงที่แผ่วเบา

ขวับ!! คนตัวสูงตรงหน้าหันหน้ากลับมาหาฉัน ทันทีที่เขาหันกลับมาฉันก็ได้สบเข้ากับดวงตาของคุณคิมหันต์

ตึกตักๆๆ!! แต่จู่ๆใจฉันมันก็เต้นรัวขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ เมื่อหันไปเห็นน้ำตาที่กำลังไหลออกมาจากดวงตาของคนตัวสูงตรงหน้า แววตาของคุณคิมหันต์แลดูเศร้าสร้อยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทุกครั้งที่ได้มองไปยังหยดน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้มของคุณคิมหันต์ ใจฉันมันรู้สึกโหวงแปลกๆ ฉัน…ไม่ชอบน้ำตาของเขาเลยสักนิด

“0_0!! คุณคิมหันต์ คุณร้องไห้งั้นเหรอ?”

ฟึ่บ!! ฉันเดินเข้าไปใกล้คนตัวสูง ก่อนจะยกมือขึ้นไปซับน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเขาอย่างแผ่วเบา

“ลืมมันซะเกวลิน! ถ้าเธอลืม…ฉันก็จะลืมมันด้วยเหมือนกัน!” อีกแล้ว เขาพูดให้ฉันลืมอีกแล้ว ฉันไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าเขาหมายความว่ายังไงกันแน่?

ฉันควรทำยังไงดี? ต่อให้ตอบตกลงไปว่าจะลืม…ฉันก็คงทำไม่ได้อยู่ดี และมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้ฉันทำแบบนั้นด้วย แต่ถึงอย่างนั้น…ฉันก็…ไม่อยากเห็นน้ำตาของเขาเลย

“จุ๊บ!!” ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ฉันเขย่งเท้าขึ้นไปจุ๊บแก้มคนตรงหน้าอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ฉันหวังแค่ว่าอยากจะช่วยซับน้ำตาและปลอบใจเขาเท่านั้น แต่ก็นึกวิธีไหนไม่ออก นอกจากวิธีนี้

“ทำไม? ทำไมคุณต้องร้องไห้…อุบ!!” คำพูดที่ฉันตั้งใจจะพูดออกมาถูกกลืนกินลงไปโดยริมฝีปากหนาของคนตัวสูงไปซะแล้ว คุณคิมหันต์คว้าเอวฉันเข้าไปไว้ในอ้อมแขนก่อนจะประกบริมฝีปากตัวเองเข้ากับริมฝีปากบางของฉัน แม้จะตกใจที่ถูกจู่โจมกะทันหัน แต่ร่างกายฉันกลับไม่คิดจะปฏิเสธสัมผัสจากคนตรงหน้าเลยสักนิด

ตึกตักๆๆ! เป็นอย่างนี้อีกแล้ว หัวใจของฉันมันเต้นรัวอย่างเอาแต่ใจขึ้นมาอีกแล้ว ทำไมกันนะ? ทำไมร่างกายฉันถึงตอบรับเขาอย่างง่ายดายแบบนี้ทุกทีเลย

“อื้ม~” เสียงครวญครางของเราสองคนดังกระหึ่มไปทั่วทั้งห้อง สัมผัสจากเรียวลิ้นที่เกี่ยวตระหวัดกันอย่างเนิบนาบในปากมันชวนให้รู้สึกดีมากเชียวล่ะ รู้สึกดีจนไม่อยากจะหยุดมันไว้เลย

ตุบ!! ไม่รู้ว่าเราสองคนจูบกันนานแค่ไหนแล้ว แต่รู้แค่ว่ามันนานจนร่างของเราทั้งสองลงมานอนกันอยู่บนเตียงใกล้ตัวเรียบร้อยแล้ว

“จุ๊บ จ๊วบ! อื้มมม~” ทันทีที่ร่างของเราทั้งสองสัมผัสเข้ากับเตียงนุ่ม คนตัวสูงก็ยิ่งเพิ่มรสจูบให้ร้อนแรงมากขึ้นกว่าเดิม ฉันเองก็เผลอตัวเอื้อมมือไปรั้งท้ายทอยคุณคิมหันต์ให้เข้ามาใกล้กันมากกว่าเดิม

เรียวลิ้นของเราทั้งสองเกี่ยวตระหวัดหยอกเย้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร ความรู้สึกรุ่มร้อนมันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับใจฉันที่เต้นรัวกว่าเดิมขึ้นไปไม่หยุด มันเป็นแบบนี้อีกแล้ว ฉัน…ไม่สามารถควบคุมตัวเองต่อไปได้อีกแล้ว

“แฮ่กๆๆๆ!! >///<” เวลาล่วงเลยไปคนตัวสูงยอมผละริมฝีปากออกไป เสียงหอบหายใจของเราสองคนดังลั่นไปทั่วทั้งห้อง ทั้งใบหน้าและบรรยากาศในห้องตอนนี้มันรุ่มร้อนขึ้นอย่างหยุดไม่อยู่แล้วจริงๆ

“เกว…ฉันขอเรียกเธอแบบนี้ได้มั้ย?”

ตึกตักๆๆ!! น้ำเสียงที่นุ่มนวลของคนตัวสูง และคำขอที่ชวนใจเต้นของเขา มันทำฉันหน้าร้อนผ่าวขึ้นมามากกว่าเดิม ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป…ฉันคงจะห้ามใจตัวเองต่อไปไม่ไหวจริงๆ

“ทำไมต้องเรียกฉันแบบนั้นด้วยคะ? >///<” ฉันพูดถามออกไปโดยที่ไม่ได้มองหน้าคนตัวสูงที่คร่อมร่างฉันไว้เลยสักนิด ฉันจะกล้ามองหน้าคุณคิมหันต์ในระยะห่างที่จมูกชิดกันขนาดนี้ได้ยังไง?

“อย่าถามอะไรอีกเลยนะเกว ฉันอยากให้เธอ…ลืมเรื่องนี้ไปจริงๆ” สายตาที่จ้องมองลงมาในตาฉันของคุณคิมหันต์ มันอ่อนโยนอย่างที่ฉันไม่เคยสัมผัสมาก่อน

ทำไมกันนะ? ทำไมท่าทีของเขาถึงเปลี่ยนไปจากปกติได้มากขนาดนี้เชียว เขามักจะมองฉันด้วยสายตาที่เรียบนิ่งและเยือกเย็นในเวลาปกติ แต่ช่วงเวลาที่ร่างกายเราสองแนบชิดกันแบบนี้ สายตาที่จ้องมองลงมาที่ฉันกลับเปลี่ยนไปจากตอนปกติอย่างสิ้นเชิง ถ้าผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปแล้ว…ท่าทีของเขาจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกรึเปล่านะ? ฉันอยากให้คุณคิมหันต์ มองมาที่ฉันด้วยสายตาที่อ่อนโยนแบบนี้ไปตลอดเลยจะได้มั้ยนะ?

“ถ้าอย่างนั้น…อย่าเกลียดฉันเลยได้มั้ยคะ?” ฉันถามออกไปพร้อมๆกับน้ำตาที่ไหลออกมาจากเบ้าซะดื้อๆ

“อะไรนะ?”

“ฮึก! เกวไม่อยากให้คุณคิมเกลียดเกวเลย อย่าเกลียดเกวได้มั้ยคะ? ฮึก! ไม่ต้องทำดีกับเกวมากก็ได้ แต่คุณอย่าเกลียดเกวเลยนะคะ อย่ามองเกวด้วยสายตาที่น่ากลัวแบบเดิมอีก เกวอยากให้คุณ…มองเกวด้วยสายตาที่อ่อนโยนแบบนี้ต่อไปได้มั้ยคะ?” ฉันพรั่งพรูความรู้สึกของตัวเองผ่านคำพูดและน้ำตาออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ฉันไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกที่หน่วงอยู่ในใจตอนนี้มันคืออะไรกันแน่ แต่ฉันแค่ไม่อยากถูกคุณคิมหันต์มองด้วยสายตาที่เกลียดชังแบบเดิมอีกแล้ว แค่นึกถึงแววตาเยือกเย็นตอนที่เขามองฉันในเวลาปกติ มันก็ทำให้ใจฉันบีบตัวจนหน่วงไปหมด ฉันไม่อยากถูกเขามองด้วยสายตาแบบนั้นอีกแล้วจริงๆ

“จุ๊บ!” สิ้นเสียงร้องขอของฉัน คุณคิมหันต์ก็ก้มลงมาประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากของฉันอย่างแผ่วเบา “เข้าใจแล้วเกว ฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีก”

ตึกตักๆๆ!! ใจฉันกลับมาเต้นรัวอีกครั้ง ทั้งคำพูดและสายตา ทุกอย่างมันดูอ่อนโยนไปหมดเลย คุณคิมหันต์ยอมทำตามที่ฉันร้องขอเขาจริงๆด้วย แม้ไม่รู้เลยว่าสายตาและท่าทีที่อ่อนโยนแบบนี้ของคุณคิมหันต์จะเป็นแบบนี้ไปได้อีกนานสักแค่ไหน แต่อย่างน้อยฉันก็ชอบที่ตอนนี้เขากำลังมองลงมาที่ฉันด้วยแววตาที่อ่อนโยนจนใจสั่นขนาดนี้ได้…

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ปราถนารัก   อ่อย nc20+ จบ

    “อ้ะ!” ฉันร้องลั่นขึ้นมาเมื่อคนตัวสูงกระแทกเอวสวนจนรู้สึกจุกไปหมด “แต่ฉันชอบสุดๆไปเลยล่ะ~” เสียงกระซิบบองชอบที่แหบพร่า บวกกับแววตาหื่นกระหายของคนตรงหน้าทำให้ความเขินอายที่มีในตอนแรก เลแปรเปลี่ยนเป็นความร้อนรุ่มที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก “จุ๊บ!! อื้ม~” ฉันก้มลงไปประทับริมฝีปากของตัวเองลงบนริมฝีปากหนา จู่ๆฉันก็เกิดความคิดประหลาดๆขึ้นมา คราวนี้ฉันอยากจะลองเป็นคนเดินเกมส์ดูบ้าง ฉันอยากจะรู้…ว่าฉันสามารถทำให้คนตรงหน้าเสียสติได้มาก เท่ากับที่เขา…ทำให้ฉันเสียสติจวนจะบ้าตายอย่างในตอนนี้รึเปล่านะ? ฉันส่งเรียวลิ้นของตัวเองเข้าไปเกี่ยวตระหวัดดูดเม้มกับเรียวลิ้นของเขาอย่างร้อนแรง เหมือนกันที่เขาทำกับฉัน และช่วงชิมรสหวานจากปากของเขาอย่างหื่นกระหาย เหมือนกันที่เขาทำกับฉัน “อืมมม~” เสียงครวญครางที่ดังออกมาจากในลำคอของคนใต้ร่าง มันทำให้ฉัพอใจมากเลยล่ะ แต่แค่นี้ยังไม่พอหรอก ฉันอยากเห็นเขา…พอใจสัมผัสของฉันมากกว่านี้ “อ่าส์ เกว~” ฉันเปลี่ยนตำแหน่จาริมฝีปากของคนตัวสูง มาซุกไซร้ซอกคอแกร่งของเขาแทน ฉันใช้เรียวลิ้นของตัวเองไล้เลียและดูดเม้มไปตามผิวเนียนของเขาอย่างหื่นกระหาย ให้เหมือนกับที่เข

  • ปราถนารัก   อ่อย nc 20+

    วันต่อมาเมื่อวานหลังจากกลับมาจากห้องของคุณคิมหันต์แล้ว ฉันก็นั่งทำโอทียาวมาจนถึงเช้าเลยล่ะ ยังไม่ได้นอนมาตั้งแต่เมื่อคืนเลย ง่วงจนตาจะปิดอยู่แล้วเนี่ยกริ๊งงง!! ระหว่างที่กำลังนั่งเฝ้าล็อบบี้รอเวลาออกกะอยู่นั้น เสียงมือถือที่วางอยู่หน้าล็อบบี้ก็ดังขึ้นมา รินณ์ที่นั่งทำงานอยู่ใกล้ๆเลยทำหน้าที่รับสายแทน“สวัสดีค่ะ”“อาหารเช้าสองที่เหรอคะ?”“ได้ค่ะ เดี๋ยวทางเราจะเตรียมไว้ให้นะคะ”“ให้ใครไปเสริฟ์นะคะ?”“พนักงานที่ชื่อ…เกวลิน”“ได้ค่ะ อีกสามสิบนาทีเราจะเอาอาหารไปให้นะคะ”ทันทีที่วางสายฉันกับรินณ์หันมาสบตากันอย่างไม่ได้นัดหมาย“มีอะไรเหรอรินณ์?” “ก็แฟน…เอ่อ…คุณคิมหันต์อ่ะ เขาขอให้เกวเอาอาหารเช้าเสริฟ์ให้น่ะสิ” รินณ์มองซ้ายมองขวาก่อนจะเขยิบมากระซิบใกล้ๆฉันคุณคิมหันต์ให้ฉันเอาอาหารไปเสริฟ์ให้เนี่ยนะ? คิดจะแกล้งอะไรฉันอีกล่ะเนี่ย?ห้องพักกริ๊งงง!! ฉันกดออดที่หน้าห้องพักของคุณคิมหันต์ หลังจากที่เข็นรถเข็นอาหารมาส่งให้เขาถึงหน้าห้อง ตามคำสั่งที่สั่งไว้ก่อนหน้านี้แอ๊ดดด!! ผ่านไปเพียงไม่กี่วิ คนตัวสูงก็เปิดประตูห้องออกมา แต่ทันทีที่ฉันเห็นร่างของคนที่อยู่ในห้อง ฉันถึงกับเบิกตาโ

  • ปราถนารัก   เจอกันครั้งแรกในรอบหนึ่งเดือน 18+

    ห้องพักวีไอพีกริ๊งงง!! ฉันตัดสินใจกดออดหน้าประตูห้องพักวีไอพีห้องหนึ่ง หลังจากที่ยืนทำให้อยู่หน้าห้องมาได้สักพักหนึ่งแล้วแอ๊ดดด!! ผ่านไปไม่กี่วินาที ประตูห้องก็ถูกเปิดออกมาช้าๆ ก่อนจะปรากฏร่างของคนตัวสูงที่ยืนยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์อยู่หลังประตู“ฉันเอากระเป๋ามาให้…”หมับ!! ยังไม่ทันที่จะพูดจบ คนตัวสูงก็คว้าร่างฉันเข้าไปในห้องอย่างไม่ทันตั้งตัว พร้อมกับกระเป๋าใบใหญ่ที่ลากเข้ามาในห้องด้วยกันอีกทีปัง!! ฉันสะดุ้งตกใจเสียงปิดประตูที่ดังขึ้นมาซะลั่นห้อง “คุณคิมหันต์! คุณจะทำอะไรเนี่ย?”ตุบ!! คนตัวสูงเตะกระเป๋าใชเดินทางใบใหญ่ของตัวเอทีกันเองมาด้วยออกไป ก่อนจะดันตัวฉันให้ติดกับประตห้องไม่ให้ไปไหน“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะเกวลิน”“นั่นน่ะสิค่ะ เกวก็ไม่คิดว่าจะได้เจอคุณที่นี่ในฐานะแขกวีไอพีด้วยเหมือนกันค่ะ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงและสายตาที่ออกจะดุนิดหน่อย “คุณมาทำอะไรที่นี่คะ?”“ฉันคิดถึงเธอเกว~”ตึกตักๆๆ!! คนตัวสูงเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องเลี่ยงตอบคำถามของฉัน เป็นการกระซิบเบาที่ข้างหูฉันแทน ซึ่งวิธีนี้ก็ถือว่าเป็นวิธีทำให้ฉันใจสั่นขึ้นมาได้ดีเลยล่ะ“เราไม่ได้เจอกันตั้งเดือนนึงเลยนะเก

  • ปราถนารัก   แขกวีไอพี

    หนึ่งเดือนผ่านไปวันเวลาผ่านไปเร็วราวกับพลิกหน้ากระดาษ ตอนนี้ก็ผ่านมาเดือนกว่าแล้วที่ฉันมาฝึกงานที่นี่ ทุกๆวันที่อยู่ที่นี่ไม่เคยมีวันไหนที่ฉันจะไม่คิดถึงคนที่ตัวเองรักอย่างคุณคิมหันต์ แต่ถึงอย่างนั้น…ฉันก็ยังสนุกกับการฝึกงานที่นี่อยู่นั่นแหละและดูเหมือนว่าใกล้ถึงเวลาที่ฉันจะกลับไปหาคนที่ตัวเองรักสักที“เอ้า! ทุกคน ใกล้ถึงเวลาที่แขกวีไอพีขอบโรงแรมจะมาแล้ว รีบออกมาต้อนรับกันเร็ว” เสียงของผู้จัดการตะโกนร้องเรียกพนักงานทุกคนที่อยู่ในล็อบบี้โรงแรมเมื่อสองวันก่อนผู้จัดการแจ้งมาว่าในวันนี้จะมีแขกวีไอพีมาพักที่โรงแรม ซึ่งแขกคนนี้เป็นแขกคนสำคัญมากๆเลยล่ะ ลือกันว่าเขาเป็นเพื่อนของท่านประธานคนใหม่ของที่นี่ ดังนั้นเราจึงต้องให้การต้อนรับแขกวีไอพีคนนี้ให้ดีที่สุดและห้ามทำอะไรผิดพลาดโดยเด็ดขาด“ไปกันเถอะเกว” เสียงของรินณ์ที่ยืนอยู่หน้าล็อบบี้เรียกให้ออกไปยืนรอด้วยกัน“อื้อ!” ฉันกันรินณ์ออกไปรอต้อนรับแขกวีไอพีคนดังกล่าวที่หน้าประตูโรงแรม พร้อมกับผู้จัดการและพี่แอนเอี๊ยดดด!! ยืนรอกันได้อยู่พักหนึ่ง ไม่นานก็มีรถหรูคันหนึ่งเข้ามาจอดเทียบที่หน้าประตูโรงแรมพนักงานชายเดินไปเปิดประตูรถ ก่อนท

  • ปราถนารัก   ไม่ว่ายังไงก็จะรอ

    หลังจากได้ฟังคำตอบจากปากของเกวลินแล้ว สิ่งที่ค้างคาใจผมในตอนแรกก็คลายลง ผมตัดสินใจเดินออกมาจากร้านนั้น แล้วก็มาเดินเล่นที่ริมหาดกับไอ้กวินท์แทนระหว่างที่เดินเล่นอยู่ผมก็ทบทวนคำพูดของเกวลินอยู่ตลอดเวลาที่ผ่านมาสิ่งที่เกวลินต้องการมาตลอดก็คืออิสระ เพราะเธอโตมากับตระกูลของผม เลยทำให้เธอคิดว่าตัวเองติดหนี้บุญคุณตระกูลของผม ไอ้สิ่งที่ผูกมัดเกวลินมาตลอดคือ…ตระกูลอัศวนันทร์ และตัวผมนี่แหละผมไม่อยากสูญเสียเกวลินไป ผมอยากให้เกวลินอยู่กับผมไปตลอดเลยด้วยซ้ำ เพราะผมรักเธอ แต่มันคงไม่ง่ายสำหรับเกวลิน แม้เธอจะรักผม แต่เธอก็มีความต้องการเหมือนกัน และสิ่งที่เธอต้องการก็คือ…อิสระ เธอต้องการอิสระมาโดยตลอด เพราะงั้น…ผมตัดสินใจแล้วว่าผม…จะยอมให้อิสระกับเกวลิน อย่างที่เธอต้องการ“ดูเหมือนแกกับเด็กคนนั้นจะรักกันมากเลยนะ” ไอ้กวินท์พูดเหมือนเด็กฝึกงานที่มากับเกวลินไม่มีผิด“ไม่ใช่เรื่องของแก”“ครั้งแรกเลยนะที่ฉันเห็นแกร้อนรนแบบนี้อ่ะ”“อย่ามาทำเป็นรู้ดีหน่อยเหอะ”“นี่! ฉันกำลังเตือนสติแกอยู่นะเว้ย! ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเพราะอะไรน้องเขาถึงหนีมาอยู่ที่นี่ได้อ่ะ แต่จากที่ฟังเมื่อกี้…น้องเขาคงจะรัก

  • ปราถนารัก   ตามกลับมา…สำเร็จมั้ย?

    [คิมหันต์]ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่งผมขับรถตามรถของเกวลินมาเรื่อยๆ จนมาถึงที่ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ริมทะเลร้านหนึ่ง เกวลินกันเพื่อนของเธอคงจะมากินอาหารกันที่นี่ ผมไม่อยากให้เกวบินคลาดสายตาผมไป เลยตามเกวลินเข้ามาในร้านด้วยเหมือนกันแต่ผมไม่เข้าใจว่าไอ้กวินท์มันจะตามผมมาถึงที่นี่ด้วยทำไมเนี่ย?“นั่งตรงนี้มั้ยเกว?”“ได้สิ” เกวลินกับเพื่อนของเธอเลือกนั่งลงบนโต๊ะๆหนึ่งในร้านอาหาร ฟุ่บ!! ผมที่เดินตามอยู่ห่างๆ เลยเดินเข้าไปนั่งใกล้กับโต๊ะของเกวลิน ซึ่งระยะห่างระหว่างผมกันเกวลินก็ห่างกันเพียงแค่โต๊ะอาหารคั่นกลางไว้แค่โต๊ะเดียวเท่านั้นตุบ!! ส่วนไอ้กวินท์ที่ตามติดมาด้วยก็ดันเลือกที่จะมานั่งข้างๆผมอีกซะงั้น ที่มีตั้งเยอะแยะจะมานั่งติดผมทำไมเนี่ย?“แกจะตามฉันมาด้วยทำไมเนี่ย?”“ฉันไม่ได้ตามแกมาซะหน่อย ลืมไปแล้วรึไงว่ารถที่แกขับมาน่ะ รถฉันเว้ย!” มันพูดด้วยท่าทีเลิ่กลั่ก ความจริง ผมสังเกตเห็นตั้งแต่ที่โรงแรมล่ะ ไอ้กวินท์เอาแต่ชะเง้อมองตามใครสักคนอยู่ตลอดเวลา ไม่ต่างจากผมเลยสักนิด และผมก็เดาว่าคนที่มันกำลังตามอยู่คงจะเป็นเพื่อนที่อยู่กับเกวลินตอนนี้แน่ๆ“ใครว่ะ? แฟนเหรอ?” ผมเป็นฝ่ายเอ่ยปากถาม

  • ปราถนารัก   ตามกลับมา…สำเร็จมั้ย?

    [คิมหันต์]ณ บริษัท เอ.เอส.เอ็นก๊อกๆๆ!! เสียงเคาะประตูห้องทำงานหน้าห้องของผมดังขึ้น“เข้ามา” ธนินเดินเข้ามาในห้องหลังจากได้รับอนุญาตจากผมแล้ว“เรื่องที่ให้ไปสืบเป็นไงบ้าง?“ ทันทีที่เห็นหน้าของธนินผมก็เอ่ยถามถึงงานที่ผมมอบหมายไปให้เมื่อวานนี้ “ได้ที่อยู่ของคุณเกวลินมาแล้วครับ” ซึ่งก็เป็นเรื่องไหนไม่ได้เลน นอกจากเรื่องของเกวลิน ยัยตัวแสบที่แอบหนีผมไปไงล่ะ เมื่อวานทันทีที่รู้ว่าเกวลินหนีไป ผมก็รีบยกหูโทรหาให้ธนินไปสืบหาที่อยู่ของเกวลินทันที “เกวลินอยู่ไหน?”“คุณเกวลิน ย้ายไปฝึกงานอยู่ที่โรงแรมพาวิลเลียนที่ต่างจังหวัดครับ” ได้ยินชื่อโรงแรมที่ธนินเอ่ยแล้วผมถึงกับต้องขมวดคิ้วขึ้นมาทันที เพราะเหมือนว่าชื่อโรงแรมนี้จะฟังดูคุ้นหูเอามากเลยล่ะ“โรงแรมพาวิลเลียนเหรอ?”“ครับ โรงแรมในเครือตระกูลอัครวานิชครับ” และผมก็อดที่จะยกยิ้มมุมปากขึ้นมาไม่ได้ เมื่อสิ่งที่ผมสงสัยได้รับการยืนยันจากธนินโรงแรมพาวิลเลียน ในเครือตระกูลอัครวานิช คือโรงแรมที่ไอ้กวินท์ เพื่อนสนิทสมัยเรียนมหาลัยของผมบริหารอยู่นี่เอง ตืดๆๆ!! ทันทีที่รู้ว่าเกวลินอยู่ที่นั่น ผมก็ไม่รอช้ารีบยกหูกดโทรออกหาไอ้กวินท์มันอย่า

  • ปราถนารัก   เหตุผลที่จาก

    [เกวลิน]“ยินดีต้อนรับน้องๆฝึกงานทุกคนเลยนะคะ” เสียงของผู้จัดการโรงแรมเอ่ยขึ้น หลังจากที่พาพวกเราที่เป็นเด็กฝึกงานใหม่ ไปแนะนำสถานที่ต่างๆในโรงแรมเสร็จแล้ว“ต่อไปนี้ก็ตั้งใจทำงาน แล้วก็ขอให้โชคดีกับการฝึกงานนะคะ” พี่แอนพี่พนักงานอีกคนหนึ่งเอ่ยขึ้น“ขอบคุณค่ะ” ฉันและเพื่อนอีกคนที่เป็นเด็กฝึกงานเหมือนกันเอ่ยขอบคุณผู้จัดการและพี่แอนพร้อมๆกัน“วันนี้ก็คงไม่มีอะไรแล้วล่ะ เราสองคนกลับไปพักผ่อนกันก่อนเถอะ แล้วเดี๋ยวค่อยมาเริ่มงานพรุ่งนี้อีกที”“ได้ค่ะ”“งั้นพี่ไปก่อนนะ” ร่ำลากันเสร็จผู้ตัดการกับพี่แอนก็เดินกลับไปทำงานของตัวเองกันต่อ เหลือไว้แค่ฉันกับเพื่อนร่วมฝึกงานกันอยู่สองคน“หวัดดี เราชื่อรินณ์นะ” เพื่อนอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ หันมาทักทายด้วยสีหน้าที่สดใส“หวัดดี เราชื่อเกว”“เกวมาจากกรุงเทพเหรอ?”“อื้อ แล้วรินณ์อ่ะ?”“เราเรียนที่นี่แหละ แล้วก็อยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็กแล้วด้วย” อ่อ เป็นคนที่นี่สินะ“อ่อ อื้ม!”“แล้วนี่…เกวจะกลับเลยรึเปล่า? เราไปกินข้าวกันมั้ย?”“โทษทีนะ พอดีเราเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อวานเองอ่ะ คงต้องขอตัวกลับไปจัดของที่ห้องก่อน” “อ่อ งั้นไม่เป็นไร ไว้ไปกินข้าวกั

  • ปราถนารัก   ความว่างเปล่า

    [คิมหันต์]เช้าวันต่อมา พรึ่บ!! ผมลืมตาขึ้นมาช้าๆ หลังจากที่หลับพักผ่อนจากกิจกรรมอันเหน็ดเหนื่อยเมื่อคืนไปทั้งคืนอย่างเต็มที่แล้ว แสงแดดที่เล็ดลอดผ่านผ้าม่านสีดำในห้องของตัวเองสาดส่องเข้ามา ทำผมถึงกับต้องหรี่ตาลงเพื่อปรับสายตาของตัวเองให้คงที่ขวับ!! เมื่อสายตากลับมาอยู่ในสภาพคงที่แล้ว ผมจึงพลิกตัวมาอีกฝั่งหนึ่งของเตียง ด้วยความหวังที่ว่าจะเจอกันคนตัวเล็กอย่างเกวลินนอนอยู่ข้างๆกาย"..." แต่แล้วสิ่งที่ผมเจอมีเพียงแค่รอยยับของผ้าปูที่ว่างเปล่าและไร้ซึ่งร่างของคนตัวเล็กเกวลินตื่นแล้วเหรอ?ฟุ่บ!! ผมคิดว่าคนตัวเล็กคนจะตื่นก่อนผมไปแล้ว ผมจึงลุกออกจากเตียง ก่อนจะเดินหยิบกางเกงนอนของตัวเองมาใส่ แล้วเดินออกไปจากห้อง ด้วยความหวังที่ว่าเกวลินคงจะอยู่ข้างนอกห้อง หรือที่ไหนสักที่ในบ้านนั่นแหละ"..." แต่ผมกลับต้องขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจมากกว่าเดิม เมื่อลงมาแล้วไม่เจอกับเกวลินอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน ในครัวก็ไม่อยู่ ในห้องรับแขกก็ไม่เจอ "เกวลิน!" ผมลองตะโกนร้องเรียกชื่อของคนตัวเล็ก แต่ก็ไร้ซึ่งเสียงใดๆตอบรับกลับมาใจผมเริ่มสั่นไหวขึ้นมา จู่ๆความคิดที่ไม่ดีก็ดันโผล่เข้ามาในหัว ตอนนี้ผมกำลังคิดว่า

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status