Home / รักโบราณ / ปริศนาชะตาชายารัก / บทที่7 ในที่สุดคุณหนูสี่ก็ได้สติแล้ว

Share

บทที่7 ในที่สุดคุณหนูสี่ก็ได้สติแล้ว

last update Last Updated: 2025-12-19 12:03:41

หลิวรุ่ยหลินวางกระโถนลงอย่างเชื่องช้า ดวงตาที่เย็นชาของนางกวาดมองไปทั่วห้องที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย จากนั้นนางก็ทรุดตัวลงนั่งบนเตียงอีกครั้ง เนื่องจากร่างกายของเหยาหลิงเจินในตอนนี้ยังไม่สามารถทนต่อการใช้งานที่หนักหน่วงขนาดนั้นได้นาน

การลงโทษสาวใช้ตัวดีทั้งสองสำเร็จอย่างงดงาม แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ร่างกายนี้ต้องถูกพวกนางเหยียดหยามมาถึงเจ็ดปีเต็ม สิ่งโสโครกเพียงกระโถนเดียวคงไม่พอให้วิญญาณของเหยาหลิงเจินตัวจริงพอใจแน่

เสียงกรีดร้องและเสียงโครมครามที่ดังมาจากห้องนอนด้านใน จนทำให้เหยาปิงที่กำลังจัดข้าวของอยู่ในห้องเก็บของด้านหลังเรือนได้ยิน นางพลันตื่นตระหนก คิดว่าเหยาซานกับเหยาซื่อรังแกคุณหนูอีก นางจึงรีบวิ่งมาที่ห้องของนอนของเหยาหลิงเจินทันที

แต่พอนางเปิดประตูเข้าไป ภาพแรกที่เห็นคือเหยาหลิงเจินนั่งอยู่บนเตียงอย่างสงบ แต่สภาพรอบห้องนั้นเลวร้ายอย่างที่สุด กลิ่นฉุนของปัสสาวะและสิ่งปฏิกูลแทบทำให้นางหายใจไม่ออก

“คุณหนู ท่านถูกสองคนนั้นรังแกหรือ” เหยาปิงรีบวิ่งเข้ามาดู แต่เนื้อตัวของคุณหนูนั้นสะอาดสะอาด นางจึงมองไปรอบๆ ห้องอีกครั้ง จนเห็นร่องรอยน้ำเปียกโชกที่ลากเป็นทางออกไปจากห้อง นางจึงเดินตามไปดู ก็เห็นแผ่นหลังของสาวใช้สองคนวิ่งออกไป

พวกนางทะเลาะกัน เลยเอากระโถนของคุณหนูมาสาดใส่กันหรือ

ไม่ใช่! ต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่

ทันใดนั้น เหยาปิงก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ นางหันกลับมาหาเหยาหลิงเจินที่นั่งมองตนเองตาแป๊วอยู่บนเตียง

“สวรรค์! คุณหนูสี่ ท่าน... ท่านลุกขึ้นนั่งเองหรือ แล้ว...” เหยาปิงชี้นิ้วไปทางที่สาวใช้ทั้งสองจากไป “นั่นคือฝีมือคุณหนูหรือเจ้าคะ” เหยาปิงหัวใจเต้นแรง รู้สึกเหมือนกำลังจะเป็นลมให้ได้

หลิวรุ่ยหลินหันมามองเหยาปิงแล้วพยักหน้าน้อยๆ นัยน์ตาของนางไม่ได้เหม่อลอย แต่กลับฉายแววของความสงบและอำนาจชั่วครู่ ก่อนที่นางจะเผยรอยยิ้มออกมา

รอยยิ้มที่สว่างไสวและเต็มไปด้วยสติปัญญา ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่ไม่เคยปรากฏบนใบหน้าของเหยาหลิงเจินมานานกว่าเจ็ดปี

รอยยิ้มนั้นเป็นสิ่งที่ยืนยันทุกอย่าง

เหยาปิงสูดหายเข้าใจลึก พลางประคองสติไว้ นางก้มลงคุกเข่าต่อหน้าเหยาหลิงเจินอย่างรวดเร็วด้วยความจงรักภักดีอย่างเต็มเปี่ยม

“คุณหนู! นี่เป็นปาฏิหาริย์สินะเจ้าคะ บ่าว... บ่าวจะรีบไปแจ้งท่านโหวและฮูหยินเดี๋ยวนี้” เหยาปิงร้องออกมาด้วยความตื้นตันจนน้ำตาไหลอาบแก้ม นางรีบผุดลุกขึ้นและวิ่งออกไปอย่างไม่คิดชีวิต

ในขณะเดียวกัน เหยาซานและเหยาซื่อในสภาพที่เปียกโชกไปด้วยปัสสาวะและโคลนส่งกลิ่นเหม็นรุนแรงไปทั่วร่าง ก็วิ่งไปถึงเรือนใหญ่ก่อนอย่างขาดสติ

“ท่านโหว ฮูหยิน ผีสิงแล้วเจ้าค่ะ คุณหนูสี่โดนผีร้ายเข้าสิง!” เหยาซื่อตะโกนโหวกเหวกด้วยความหวาดกลัว ขณะที่กลิ่นเหม็นฉุนจากตัวนางคละคลุ้งไปทั่วลานหน้าเรือน เพราะบ่าวที่เฝ้าอยู่ด้านหน้า ไม่ยอมให้พวกนางเข้าไปด้านใน

เหอเหมี่ยวลี่กำลังดื่มชากับเหยาจิ้นทงอยู่ในห้องโถง ครั้นได้ยินเสียงเอะอะก็พากันลุกขึ้นออกมาหน้าเรือน เมื่อเห็นสาวใช้สองคนมีสภาพทั้งเลอะเทอะทั้งเปียกปอน และยังส่งกลิ่นเหม็นจนแทบอาเจียน นางก็ตกใจอย่างมาก

“เกิดอะไรขึ้นกับพวกเจ้า กลิ่นนี่มัน...อะไรเนี่ย” ท่านโหวตะโกนด้วยความรำคาญใจ

“คุณหนูสี่เจ้าค่ะ นางลุกขึ้นยืน แล้วมองพวกเราด้วยตาสายตาน่ากลัว จากนั้น นางก็ราด... ราดกระโถนใส่พวกบ่าวเจ้าค่ะ” เหยาซานร้องไห้ไปเล่าไป พยายามกราบกรานเพื่อขอความช่วยเหลือ

“เหลวไหล! คุณหนูสี่จะลุกขึ้นยืนได้อย่างไร พูดปดมดเท็จเยี่ยงนี้ ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือไง” เหยาจิ้นทงรู้สึกกรุ่นโกรธ คิดว่าสาวใช้พวกนี้คงทำอะไรผิดพลาดกับบุตรสาวของเขา แล้วพยายามแต่งเรื่องมาหลอกลวง เพื่อให้รอดพ้นจากการถูกลงโทษมากกว่า แต่ถึงกลับราดกระโถนใส่ตนเองแบบนี้ ก็ออกจะเกินไปหน่อย

“ท่านโหว บ่าวพูดจริงๆ นะเจ้าคะ คุณหนูสี่ลุกมาอาละวาดพวกบ่าวจริงๆ” เหยาซื่อพยายามอธิบาย

แต่กลิ่นเหม็นชวนให้อาเจียนทำให้เหยาจิ้นทงไม่อยากฟังพวกนาง

ทันใดนั้นเอง เหยาปิงก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาอีกคน ด้วยใบหน้าเปื้อนน้ำตา แต่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข นางวิ่งมาหยุดอยู่ตรงท่านโหวและฮูหยินด้วยท่าทีเร่งร้อนที่สุด

“ท่านโหว ฮูหยิน ปาฏิหาริย์เจ้าคะ เป็นปาฏิหาริย์ ตอนนี้คุณหนูสี่... คุณหนูคืนสติแล้วเจ้าคะ” เหยาปิงร้องประกาศก้องไปทั่วจวน

ท่านโหวและฮูหยินมองสาวใช้สามคนสลับกัน สองคนแรกบอกว่าบุตรสาวเขาลุกขึ้นมาอาละวาดเพราะโดนผีสิง แต่อีกหนึ่งคนบอกว่าบุตรสาวคนเล็กคืนสติแล้ว

ตกลงเรื่องราวมันเป็นอย่างไรกันแน่

หรือว่าบุตรสาวจะฟื้นขึ้นมาแล้วจริงๆ

“เหยาซาน เหยาซื่อ พวกเจ้าไปอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายซะ เสร็จแล้วให้ตามพวกข้าไปที่เรือนคุณหนูสี่ ส่วนเหยาปิง เจ้านำพวกข้าไปเดี๋ยวนี้” ท่านโหวสั่งด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด แล้วหันไปสั่งสาวใช้อีกคนว่า “เจ้าไปตามซื่อจื่อกับคุณชายรองให้ไปที่เรือนคุณหนูสี่ด้วย”

“เจ้าค่ะท่านโหว” สาวใช้รับคำแล้วรีบออกไปทันที

เหยาจิ้นทงหันไปมองเหอเหมียวลี่ที่ยังตกตะลึง แล้วจับมือนางไว้ “ไปกันเถิดฮูหยิน เราต้องไปดูลูกสาวของเราให้เห็นกับตา ไม่ว่าจะเป็นปาฏิหาริย์ หรือผีเข้าสิง”

“เจ้าค่ะท่านพี่” เหอเหมียวลี่น้ำตาคลอ

แล้วเจิ้นหนิงโหวกับฮูหยินก็เดินตามเหยาปิงไปยังเรือนพักของบุตรสาวทันที

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ปริศนาชะตาชายารัก   บทที่10 ก้าวแรกสู่การเป็นคุณหนูจวนโหว

    หลังจากการลงโทษสาวใช้ที่ไม่ซื่อสัตย์ผ่านไป จวนเจิ้นหนิงโหวก็กลับคืนสู่ความสงบ แต่ไม่ใช่ความสงบเงียบเหงาแบบเก่า หากแต่เป็นความสงบที่เต็มไปด้วยความใส่ใจและความรักที่ตื่นขึ้นมาอย่างท่วมท้น ท่านโหวเหยาจิ้นทงและฮูหยินเหอเหมียวลี่แทบจะสลับกันเข้ามาดูแลบุตรสาวคนเล็กด้วยตนเองทุกวันทุกอย่างในเรือนของคุณหนูสี่ถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ผ้าปูที่นอนถูกเปลี่ยนเป็นผ้าไหมเนื้อดีจากซูโจว เครื่องเรือนเก่าๆ ถูกยกออกไปและแทนที่ด้วยของใหม่ที่หรูหรา และที่สำคัญที่สุดคือ กลิ่นเหม็นอับชื้นที่เคยปกคลุมเรือนก็หายไปอย่างสิ้นเชิงท่านหมอจางยังคงเข้ามาตรวจชีพจรของเหยาหลิงเจินวันละสองครั้ง ใบหน้าของท่านหมอเต็มไปด้วยความอิ่มเอมใจ เพราะชีพจรของคุณหนูสี่ไม่เพียงแค่เป็นปกติเท่านั้น แต่ยังแข็งแรงขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าประหลาดใจ ท่านหมอสั่งยาบำรุงหายาก เช่น รังนกหิมะและโสมอายุพันปี ให้นำมาปรุงเป็นอาหารอ่อนๆ ทุกวันเพื่อเร่งการฟื้นฟูร่างกายที่บอบช้ำมานานเหยาปิง ในตำแหน่งสาวใช้คนสนิทและหัวหน้าสาวใช้ส่วนตัว ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย นางจัดการเรื่องในเรือนอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย สาวใช้ที่ถูกคัดเลือกเข้ามาใหม่ก็ตั้งใจทำงา

  • ปริศนาชะตาชายารัก   บทที่9 จุดจบของสาวใช้ตัวดี

    เหยาจิ้นทงหันมาให้ความสนใจกับเรื่องที่ค้างคา ซึ่งสร้างความมัวหมองให้กับเรือนคุณหนูสี่ เห็นอยู่ชัดๆ ว่าบุตรสาวของเขาแทบไม่มีแรงจะยืน แล้วจะลุกขึ้นมาทำเรือนเละเทะได้ยังไง“เหยาซาน เหยาซื่อ ไหนบอกว่าคุณหนูสี่อาละวาดทำร้ายคนไง” เขามองไปยังสาวใช้ที่คุกเข่าอยู่สองคนด้วยสายตาเย็นชา “พวกเจ้าสารภาพมาตามตรงดีกว่า ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เห็นอยู่ว่าบุตรสาวของข้าไม่มีทางลุกขึ้นมาทำร้ายพวกเจ้า หรือทำให้เรือนสกปรกเยี่ยงนี้ได้”เหยาซานและเหยาซื่อก้มศีรษะลงต่ำติดพื้น พวกนางร้องห่มร้องไห้คร่ำครวญ“ท่านโหว พวกบ่าวไม่กล้าโกหกหรอกเจ้าค่ะ บ่าวสาบานว่าจู่ๆ คุณหนูก็ฟื้นขึ้นมาเล่นงานพวกบ่าว นางไม่ใช่คุณหนูสี่คนเดิมแล้วเจ้าค่ะ นางต้องโดนผีเข้าแน่ๆ” เหยาซื่อตะโกนด้วยความกลัว นางยังจำสายตาเคียดแค้นของเหยาหลิงเจินได้ดีความเชื่อเรื่องผีสางและปีศาจ รวมไปถึงสัตว์ในตำนานเป็นสิ่งที่คนในแคว้นนี้เชื่อถือกัน ทำให้ท่านโหวและฮูหยินเริ่มแสดงสีหน้าหวาดหวั่นอย่างเห็นได้ชัด แม้จะเห็นว่าบุตรสาวฟื้นคืนสติ และดูสงบดีก็ตามแต่ถ้าที่นางฟื้นเป็นเพราะถูกปีศาจครอบงำเล่า แล้วพวกเขาจะทำยังไงกันดี“ท่านพี่ เราต้องไปเชิญนักพรตมาตรวจสอบหรื

  • ปริศนาชะตาชายารัก   บทที่8 ปาฏิหาริย์เจ็ดปี

    ไม่นานนัก เหยาจิ้นทงและเหอเหมียวลี่ก็มาถึงหน้าเรือนพำนักของเหยาหลิงเจิน ทั้งสองยืนมองประตูด้วยความรู้หลากหลาย แต่ก็ยังไม่เข้าไป จนกระทั่งเหยาฉีและเหยาหมิงมาถึง “ท่านพ่อ ท่านแม่” เหยาหมิงร้องเรียกบิดามารดา แล้วเดินปรี่เข้ามา “เจินเอ๋อร์ คืนสติแล้วจริงหรือขอรับ”“แม่กับพ่อของเจ้าก็หวังให้เป็นเช่นนั้น” เหอเหมียวลี่ตอบบุตรชายเสียงเครือ“ในเมื่อพวกเรามาพร้อมหน้ากันแล้ว ก็เข้าไปดูให้เห็นกับตาเถิดขอรับ” เหยาฉีพูดพลางมองประตูเรือนของน้องสาวคนเล็กอย่างมีความหวังเหยาจิ้นทงพยักหน้าเห็นด้วย แล้วสั่งให้เหยาปิงไปเปิดประตูเรือน จากนั้นพวกเขาทุกคนก็เดินตามนางเขาไปด้านในด้วยหัวใจระทึกพวกเขาหยุดชะงักที่หน้าประตูทันที เมื่อได้กลิ่นเหม็นเปรี้ยวที่รุนแรงจนน่าคลื่นไส้ แต่ไม่มีใครสนใจกลิ่นนั้นอีกต่อไป เมื่อสายตาของทุกคนจับจ้องไปที่บุตรสาวคนเล็กของตระกูลเหยาหลิงเจินยังคงนั่งอยู่บนเตียงอย่างสงบ นางเงยหน้าขึ้นมองครอบครัวด้วยนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวากว่าครั้งใดเหอเหมียวลี่พลันร้องไห้โหออกมาอย่างไม่อาจควบคุมอารมณ์ นางทรุดตัวลงนั่งบนเตียงข้างบุตรสาว ดวงตาเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาแห่งความดีใจและห่วงหา“เจินเอ๋

  • ปริศนาชะตาชายารัก   บทที่7 ในที่สุดคุณหนูสี่ก็ได้สติแล้ว

    หลิวรุ่ยหลินวางกระโถนลงอย่างเชื่องช้า ดวงตาที่เย็นชาของนางกวาดมองไปทั่วห้องที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย จากนั้นนางก็ทรุดตัวลงนั่งบนเตียงอีกครั้ง เนื่องจากร่างกายของเหยาหลิงเจินในตอนนี้ยังไม่สามารถทนต่อการใช้งานที่หนักหน่วงขนาดนั้นได้นานการลงโทษสาวใช้ตัวดีทั้งสองสำเร็จอย่างงดงาม แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ร่างกายนี้ต้องถูกพวกนางเหยียดหยามมาถึงเจ็ดปีเต็ม สิ่งโสโครกเพียงกระโถนเดียวคงไม่พอให้วิญญาณของเหยาหลิงเจินตัวจริงพอใจแน่เสียงกรีดร้องและเสียงโครมครามที่ดังมาจากห้องนอนด้านใน จนทำให้เหยาปิงที่กำลังจัดข้าวของอยู่ในห้องเก็บของด้านหลังเรือนได้ยิน นางพลันตื่นตระหนก คิดว่าเหยาซานกับเหยาซื่อรังแกคุณหนูอีก นางจึงรีบวิ่งมาที่ห้องของนอนของเหยาหลิงเจินทันทีแต่พอนางเปิดประตูเข้าไป ภาพแรกที่เห็นคือเหยาหลิงเจินนั่งอยู่บนเตียงอย่างสงบ แต่สภาพรอบห้องนั้นเลวร้ายอย่างที่สุด กลิ่นฉุนของปัสสาวะและสิ่งปฏิกูลแทบทำให้นางหายใจไม่ออก“คุณหนู ท่านถูกสองคนนั้นรังแกหรือ” เหยาปิงรีบวิ่งเข้ามาดู แต่เนื้อตัวของคุณหนูนั้นสะอาดสะอาด นางจึงมองไปรอบๆ ห้องอีกครั้ง จนเห็นร่องรอยน้ำเปียกโชกที่ลากเป็นทางออกไปจากห้อง

  • ปริศนาชะตาชายารัก   บทที่6 ความโกลาหลครั้งใหญ่

    ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา หลิวรุ่ยหลินยังคงแสร้งทำเป็นนอนนิ่งและฟื้นฟูร่างกายอย่างลับๆ การไม่มีทางลัดสำหรับการเรียกความแข็งแกร่งกลับคืนสู่กล้ามเนื้อที่อ่อนเปลี้ยของร่างใหม่ มีแต่ต้องอาศัยเวลา และทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปเท่านั้น แม้ตอนนี้พลังปราณภายในจะฟื้นมาเพียงน้อยนิด ทว่าความแข็งแกร่งทางกายที่คืนกลับมาก็เพียงพอให้นางสามารถจัดการกับคนธรรมดาได้แล้วในเมื่อตอนนี้นางสามารถควบคุมร่างกายนี้ได้ดีขึ้นแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องเสแสร้งนอนเป็นผักให้ใครมารังแกง่ายๆ อีกต่อไปได้เวลาที่คุณหนูสี่แห่งจวนเจิ้นหนิงโหวจะมีสติ และลุกขึ้นมาแล้วเช้าวันหนึ่ง หลิวรุ่ยหลินยังคงแสร้งทำเป็นนอนนิ่งและแสดงสีหน้าเหม่อลอย รอคอยให้เหยาซานกับเหยาซื่อ สาวใช้ผู้ประพฤติเลินเล่อเดินเข้ามาในห้องด้วยท่าทีที่ไม่ใส่ใจเช่นเคย“เช้านี้เจ้าต้องระวังตัวให้ดีนะเหยาซื่อ หากคุณหนูสี่ฉี่รดที่นอนอีกรอบ ข้าจะโยนผ้าทั้งหมดให้เจ้าซักคนเดียว” เหยาซานกล่าวด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย“ข้าก็ระวังแล้ว แต่ใครจะไปรู้ว่าคนเขลาไร้สติจะปัสสาวะเมื่อไหร่กันล่ะ” เหยาซื่อตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์ นางหยิบชามโจ๊กข้าวต้มจืดชืดเข้ามา พร้อมกับช้อนทองเหลืองท

  • ปริศนาชะตาชายารัก   บทที่5 สาวใช้ผู้มีคุณธรรม

    ขณะที่เหยาซานและเหยาซื่อกำลังจะเดินออกไปจากห้อง พลันมีร่างของสาวใช้อีกคนหนึ่งก้าวเข้ามา นางมีรูปร่างสมส่วน ท่าทางกระฉับกระเฉง และดวงตาที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลคนผู้นั้นคือ เหยาปิงเหยาปิงหยุดนิ่งทันทีเมื่อสายตาของนางกวาดไปเห็นผ้าห่มและสภาพเตียงนอนที่ดูไม่เรียบร้อย กลิ่นเหม็นอับที่คละคลุ้งไปทั่วห้อง นางหันกลับไปเผชิญหน้ากับสาวใช้ทั้งสองด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราด“เหยาซาน เหยาซื่อ พวกเจ้ากล้าดียังไง” เหยาปิงตวาดเสียงดัง “ข้าบอกให้พวกเจ้าเปลี่ยนที่ผ้าปูที่นอน และรอทำความสะอาดร่างกายของคุณหนูสี่ให้ดีก่อน ไม่ใช่ทำแค่ถูไถไปวัน ๆ แล้วปล่อยให้คุณหนูนอนจมสิ่งโสโครกของตนเองแบบนี้”เหยาซานเบ้ปากอย่างไม่สะทกสะท้าน “เหยาปิง วันนี้เจ้าใจกล้าขึ้นนี่ พวกเราก็ทำตามหน้าที่แล้วไงเล่า คุณหนูสี่ก็เป็นแบบนี้มานานแล้ว ไม่เห็นจะต่างอะไรกัน”เหยาซื่อเองก็หัวเราะเยาะ “ใช่แล้ว คุณหนูสี่ไม่ได้รับรู้อะไรหรอก ไม่ต้องทำตัวเป็นคนดีมีคุณธรรมนักก็ได้ เจ้านายที่ไร้อนาคตแบบนี้ดูแลไปก็ไม่มีทางได้ดี”เหยาปิงเดินเข้าไปหาเตียงด้วยสีหน้าเจ็บปวด นางมองดูสภาพของเหยาหลิงเจินด้วยความสงสาร ก่อนจะหันกลับไปมองเหยาซานและเหยาซื่อด้วยควา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status