Home / โรแมนติก / ปวีญา...ฉันรักเธอ / ตอนพิเศษ 2 : หนึ่งปีแห่งความสุข

Share

ตอนพิเศษ 2 : หนึ่งปีแห่งความสุข

Author: NATO87
last update Last Updated: 2025-05-30 23:37:18

เวลาหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านไปอย่างรวดเร็ว เผลอเพียงชั่วพริบตาเดียว นางฟ้าตัวน้อยของบ้านทนายเจนรบและปวีณา—เด็กหญิงกันยกร หรือน้องอุ้มบุญ—ก็อายุครบหนึ่งขวบพอดิบพอดี จากทารกน้อยที่นอนร้องไห้จ้าอยู่ในอ้อมแขน วันนี้กลายเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่เริ่มตั้งไข่ หัดเดินเตาะแตะ และส่งเสียงอ้อแอ้เรียก “ป้อ” “แม่” ได้เป็นคำๆ สร้างความสุขและความมีชีวิตชีวาให้กับบ้านหลังใหญ่ที่เคยเงียบเหงาได้อย่างน่าอัศจรรย์

“ป้อ!! ป้อ!! แม่!!”

“น่ารักน่าชังจริง ๆ ลูกพ่อ!!”

“หนึ่งขวบแล้วน๊า น้องอุ้มบุญ!!”

เช้าวันเกิดขวบปีแรกของน้องอุ้มบุญอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของแพนเค้กฟักทองเนื้อนุ่มที่ปวีณาตั้งใจทำให้ลูกสาวเป็นมื้อพิเศษ เจนรบนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร สายตาจับจ้องมองสองแม่ลูกด้วยแววตาที่เปี่ยมสุข หนึ่งปีที่ผ่านมา เขาแทบไม่เชื่อว่าชีวิตของตัวเองจะเปลี่ยนแปลงไปได้มากขนาดนี้ จากทนายความผู้เคยใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว มีแต่งานเป็นเพื่อน ตอนนี้เขากลายเป็น “พ่อ” เต็มตัว เป็นสามีของหญิงสาวที่เขารักสุดหัวใจ และเป็นโลกทั้งใบของเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังใช้มือเล็กๆ พยายามหยิบแพนเค้กเข้าปากอย่างเงอะงะ

“ค่อย ๆ ซิจ๊ะลูกแม่ เลอะหมดแล้วเห็นไหม” ปวีณาหัวเราะเบาๆ ใช้ผ้ากันเปื้อนผืนจิ๋วเช็ดปากให้ลูกสาวอย่างอ่อนโยน “อ้าม!!”

“เหมือนใครก็ไม่รู้ กินมูมมาม” เจนรบแกล้งว่า แต่สายตาเต็มไปด้วยความเอ็นดู

“หาเรื่องแต่เช้าเลยนะคะพ่อ!!” ปวีณาหันมาค้อนสามีเบาๆ รอยยิ้มยังไม่จางหายไปจากใบหน้า “ก็เหมือนพ่อนั่นแหละค่ะ ชอบทานเลอะเทอะ”

เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้นขัดจังหวะอาหารเช้าของครอบครัว เจนรบลุกไปเปิดประตูด้วยรอยยิ้มกว้าง เพราะรู้ดีว่าใครมา

“ไอ้ภาคกับเปิ้ลมากันแล้ว”

“อุ้มบุญ!! ตามาแล้วจ๊า!!”

“เกรงใจเจ้าของบ้านด้วยภาค!!”

“สุขสันต์วันเกิดหลานตา!! ตามาแล้วลูกกกก!!” เสียงทุ้มอันคุ้นเคยดังลั่นมาก่อนตัว ภาคภูมิในชุดเสื้อเชิ้ตโปโลแบรนด์หรู ก้าวเข้ามาในบ้านพร้อมกล่องของขวัญขนาดมหึมาที่แทบจะบังตัวเขามิด ตามมาด้วยปิยะวรรณในชุดเดรสผ้าไหมสีหวานที่ส่ายหน้าเบาๆ ให้กับความกระตือรือร้นเกินเบอร์ของสามี

“คุณพ่อ! คุณแม่! สวัสดีค่ะ” ปวีณารีบอุ้มลูกสาวมายกมือไหว้

“ไหว้คุณตาคุณยายซิลูก” เธอกระซิบกับน้องอุ้มบุญที่มองหน้าคุณตาตาแป๋ว

“ไหว้จ๊ะๆ หลานรักของตา!” ภาคภูมิแทบจะไม่ได้สนใจคำทักทายของลูกสาวหรือลูกเขย เขาวางกล่องของขวัญ (ซึ่งข้างในคือตุ๊กตาหมีตัวเท่าเด็ก!) ลงบนพื้น แล้วตรงเข้าไปช้อนอุ้มหลานสาวขึ้นมากอดฟัดด้วยความหมั่นเขี้ยวทันที “โอ้โฮ! ตัวหนักขึ้นนะเราเนี่ย! แก้มยุ้ยเชียว! ไหนเรียกตาสิลูก...ตา...ตาภาค...”

“คุณคะ เบาๆ หน่อยค่ะ เดี๋ยวหลานก็ตกใจหมด” ปิยะวรรณเดินเข้ามายิ้มอ่อนโยน ลูบหัวหลานสาวเบาๆ “สุขสันต์วันเกิดนะจ๊ะน้องอุ้มบุญ ยายมีของขวัญมาให้ด้วยนะ” เธอยื่นถุงของขวัญเล็กๆ ที่ดูน่ารักกว่ากองทัพตุ๊กตาหมีของสามีให้ปวีณา

“ขอบคุณค่ะคุณแม่” ปวีณารับมาพลางเหลือบมองพ่อที่ยังคงฟัดหลานไม่หยุด

“ไอ้ภาค มึงอุ้มลูกกูจนช้ำหมดแล้ว” เจนรบอดใจแซวไม่ไหว เดินเข้าไปสมทบ “เบาๆ หน่อยก็ได้มั้ง นั่นลูกกู ไม่ใช่ลูกโป่งนะเว้ย!!”

เจนรบมองภาพเพื่อนรักอุ้มลูกสาวเขาฟัดแก้มยุ้ยด้วยรอยยิ้ม ไม่น่าเชื่อว่าคนที่เคยเกือบจะยิงเขาทิ้งวันนั้น จะกลายมาเป็นคุณตาที่เห่อหลานได้ขนาดนี้... เขารู้สึกขอบคุณโชคชะตาและขอบคุณภาคภูมิกับเปิ้ลอีกครั้ง ที่สุดท้ายก็ยอมเปิดใจให้โอกาสความรักของเขากับปลา จนมีวันนี้ได้

“ทำไม? หวงเหรอ? ลูกมึงก็หลานกูนั่นแหละว่ะ!!” ภาคภูมิหันมาแยกเขี้ยวใส่เพื่อนรัก แต่แววตาเต็มไปด้วยความสุข “มึงน่ะยืนดูเฉยๆ ไปเลย เดี๋ยวกูเลี้ยงหลานของกูเอง!!”

ว่าแล้วภาคภูมิก็อุ้มหลานเดินสำรวจไปทั่วบ้านราวกับเป็นเจ้าของบ้านเสียเอง ทิ้งให้เจนรบ ปวีณา และปิยะวรรณได้แต่ส่ายหน้าขำๆ

ปวีณามองภาพพ่อกับสามีหยอกล้อกันแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้ ใครจะคิดว่าจะมีวันที่พ่อของเธอกับลุงจอมจะกลับมาคุยกันดีๆ แบบนี้ได้อีก... แถมยังมีเธอและน้องอุ้มบุญเป็นสายใยเชื่อมความสัมพันธ์ของทุกคนในครอบครัว เธอรู้สึกขอบคุณจากหัวใจจริงๆ ที่ทุกอย่างลงเอยด้วยดี

“ตั้งแต่มีหลานนี่ ภาคเขาก็เป็นแบบนี้แหละจ๊ะจอม” ปิยะวรรณหันมายิ้มให้ลูกเขย “เห่อเสียยิ่งกว่าอะไรดี ตอนอยู่เชียงใหม่นะ สั่งทำป้ายไวนิลรูปน้องอุ้มบุญติดหน้าบ้าน ยังดีที่เปิ้ลห้ามไว้ทัน”

“จริงเหรอเปิ้ล?” เจนรบหัวเราะ “เป็นเอามากแล้วนะ ไอ้ภาคเนี่ย!!”

วันนั้นทั้งวัน บ้านของเจนรบแทบจะกลายเป็นสนามเด็กเล่นส่วนตัวของคุณตาภาคภูมิไปโดยปริยาย เขาแทบไม่ยอมวางหลานลงจากอก น้องอุ้มบุญเองก็ดูจะชอบใจคุณตาเป็นพิเศษ ส่งเสียงอ้อแอ้ตอบรับ แถมยังพยายามชี้นิ้วป้อมๆ ไปที่แก้วน้ำ ทำท่าเหมือนอยากจะลองดื่มเองบ้างตามประสาเด็กวัยหัดเลียนแบบ” หรือ “น้องอุ้มบุญที่เพิ่งจะเริ่มตั้งไข่ได้ไม่นาน นั่งโยกตัวไปมาบนเก้าอี้เด็กอย่างอารมณ์ดี บางครั้งก็พยายามเปล่งเสียงเรียก 'ป้อ' 'แม่' ออกมาให้พ่อแม่และตายายได้ชื่นใจ”

“แม่ แม่ปลา พ่อถามหน่อยซิ

“มีอะไรเหรอคะพ่อ?”

“ไอ้ภาคน่ะ พ่อเราเขาเคยเป็นแบบนี้กับเราตอนเด็กๆ ไหมแม่?”

“ไม่เคยเลยค่ะพ่อ” เจนรบยิงคำถามใส่ จนปวีณาต้องกลั้นขำ “ตอนนั้นคุณพ่อแต่ทำงาน ไม่ค่อยมีเวลาเล่นกับพวกเราเท่าไหร่ สงสัยจะมาเก็บกดเอาตอนมีหลานนี่แหละค่ะ”

ช่วงบ่าย ขณะที่น้องอุ้มบุญกำลังหลับปุ๋ยจากการเล่นสนุกกับคุณตาจนหมดแรง สี่ผู้ใหญ่จึงได้มีเวลานั่งพักผ่อนพูดคุยกันที่ห้องรับแขก

“เป็นไงบ้างวะไอ้จอม หนึ่งปีกับการเป็นพ่อคน?” ภาคภูมิเอนหลังพิงโซฟา จิบกาแฟที่ปวีณาชงมาให้ “เหนื่อยไหมล่ะมึง?”

“เหนื่อยแต่มีความสุขว่ะเพื่อน” เจนรบยอมรับตามตรง เขามองไปยังห้องนอนที่ลูกสาวหลับอยู่ด้วยแววตาอ่อนโยน “มันเป็นความสุขที่กูไม่เคยคิดว่าจะได้เจอ กูต้องขอบคุณมึงกับเปิ้ลจริงๆ นะ ที่ยอมให้โอกาสกู”

“เออๆ เรื่องเก่าไม่ต้องพูดถึงแล้ว” ภาคภูมิตอบ แม้จะยังรู้สึกกระดากใจอยู่บ้าง “แต่กูจะบอกอะไรให้นะไอ้จอม ในฐานะที่กูเป็นพ่อตามึง...” เขาเน้นคำว่าพ่อตา “มึงต้องดูแลลูกสาวกับหลานสาวกูให้ดีที่สุดนะเว้ย!!”  

“กูรู้แล้วครับ!!” หนุ่มใหญ่ส่ายหน้า ก่อนหันไปมองหน้าภรรยารุ่นลูกพร้อมกับยิ้มละมุน

“ปลา!! ฟังพ่อนะ ถ้ามีอะไรขาดเหลือ” นักธุรกิจรุ่นใหญ่หันไปพูดกับลูกสาว แต่สายตากลับจ้องมาที่เจนรบอย่างมีความหมาย “หรือไอ้จอมมันดูแลไม่ดี แอบหนีไปทำงานจนไม่มีเวลาให้ บอกพ่อมาได้เลยนะปลา เดี๋ยวพ่อจัดการให้!”

“โธ่ คุณพ่อก็...” หญิงสาวยิ้มแหยๆ

“นี่มึงจะมาสั่งลูกเขย หรือจะมาหาเรื่องเพื่อนวะไอ้ภาค?” เจนรบแกล้งทำหน้ายุ่ง “ถึงมึงจะเป็นพ่อตา แต่กูก็เพื่อนมึงนะเว้ย อย่าลืมซิว่าตอนเรียนใครช่วยมึงให้เรียนจบซิวะ!!”

“หนอย!! หัวหมอนะมึง!! เป็นนักกฎหมายแล้วเหลี่ยมเยอะนะ!! ยังจะมาทวงบุญคุณ!!” ภาคภูมิตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้ “แต่ตอนนี้สถานะมันเปลี่ยนแล้วโว้ย มึงน่ะลูกเขย ต้องฟังพ่อตา เข้าใจบ่?”

“คุณคะ!! พอได้แล้วทั้งคู่เลย!” ปิยะวรรณต้องออกโรงห้ามทัพ “เดี๋ยวหลานก็ตื่นพอดี ทะเลาะกันเป็นเด็กๆ ไปได้”

ทั้งเจนรบและภาคภูมิต่างหัวเราะออกมาพร้อมกัน บรรยากาศตึงเครียดจางหายไป เหลือเพียงความรู้สึกอบอุ่นของมิตรภาพและความผูกพันในครอบครัว

“ว่าแต่...หนึ่งปีที่ผ่านมา ชีวิตในกรุงเทพเป็นไงบ้างลูก?” ปิยะวรรณหันมาถามปวีณาด้วยความเป็นห่วง “เรื่องงาน เรื่องส่วนตัว โอเคไหม?”

“ก็โอเคค่ะแม่ สนุกดีค่ะ” ปวีณาเล่าเรื่องการปรับตัว การทำงานในฐานะเลขาฯ และการทำช่องยูทูบของเธอให้ฟัง “แม่อาจจะไม่เชื่อ แต่ตอนนี้ช่องของหนูมีคนติดตามเป็นแสนแล้วนะคะ”

“จริงเหรอ! เก่งมากเลยลูกแม่!” ปิยะวรรณชมอย่างภูมิใจ “แล้วจอมล่ะ งานเยอะเหมือนเดิมไหม?”

“ก็เรื่อยๆ นะเปิ้ล” เจนรบตอบ “จอมพยายามแบ่งเวลาให้ครอบครัวมากขึ้น งานไหนไม่จำเป็นก็ปฏิเสธไปบ้าง” เขามองปวีณาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก “ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าปลาและลูกอีกแล้ว”

“ดีแล้วจ๊ะ” ปิยะวรรณยิ้มอย่างพอใจ “ชีวิตคนเรามันต้องมีสมดุลนะจอม”

เพื่อเป็นการฉลองวันเกิดขวบแรกของหลานสาวสุดที่รัก และฉลองการมาเยือนของคุณตาคุณยาย ภาคภูมิจึงจองดินเนอร์มื้อค่ำสุดหรู ณ ห้องอาหารบนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมห้าดาวใจกลางกรุงเทพฯ

บรรยากาศยามค่ำคืน แสงไฟระยิบระยับของเมืองหลวง และอาหารเลิศรส ทำให้ทุกคนรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขเป็นพิเศษ น้องอุ้มบุญในชุดเดรสฟูฟ่องสีชมพูหวาน นั่งตาแป๋วอยู่บนเก้าอี้เด็ก โดยมีคุณตาภาคภูมิคอยป้อนอาหารเสริมให้ (หลังจากผ่านการอนุมัติจากปวีณาแล้ว) อย่างเอาอกเอาใจ

“อ้ามมม เก่งมากลูกหลานตา” ภาคภูมิพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน ซึ่งเป็นภาพที่เจนรบไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต

“ดูคุณตาเขาสิคะ” ปวีณากระซิบกับเจนรบ “เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย”

“นั่นสิ พ่อก็เพิ่งเคยเห็น” เจนรบยิ้ม

พวกเขาทานอาหาร พูดคุย และหัวเราะกันอย่างมีความสุข ภาคภูมิเล่าเรื่องธุรกิจที่เชียงใหม่ ปิยะวรรณเล่าเรื่องเพื่อนเก่าๆ ที่ได้เจอ เจนรบเล่าเรื่องคดีที่น่าสนใจ โดยเป็นคดีที่ไม่ได้ซีเรียสมากนัก ส่วนปวีณาก็คอยดูแลลูกและร่วมวงสนทนาอย่างออกรส

เมื่ออาหารจานหลักถูกเก็บไป ภาคภูมิก็ยกแก้วไวน์ขึ้น “เอ้า!! ชนแก้วหน่อยทุกคน” เขากล่าว “ฉลองวันเกิดครบหนึ่งขวบให้หลานอุ้มบุญของตา และฉลองให้กับครอบครัวของเรา...ที่ถึงแม้จะเริ่มต้นแบบทุลักทุเลไปบ้าง แต่สุดท้ายเราก็ผ่านมันมาได้ด้วยดี” เขามองหน้าเจนรบอย่างมีความหมาย “ไอ้จอม กูดีใจนะ ที่เห็นมึงมีความสุขแบบนี้จริงๆ เสียที”

“กูก็ดีใจเพื่อน...ที่มีวันนี้” เจนรบยกแก้วขึ้นชน

“ขอให้ครอบครัวของจอมกับน้องปลามีแต่ความสุขนะจ๊ะ” ปิยะวรรณอวยพรด้วยรอยยิ้มจริงใจ

“ขอบคุณครับแม่/ขอบคุณค่ะคุณแม่”

พวกเขานั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศ พูดคุยเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงเวลาอันสมควร น้องอุ้มบุญเริ่มงอแงเพราะง่วงนอนเต็มที

“กลับก่อนนะไอ้ภาค เปิ้ล น้องอุ้มบุญจะหลับแล้ว”

“ขับรถดีๆ นะไอ้จอม”

“ถึงบ้านแล้วโทรหาพ่อกับแม่ด้วยนะลูก”

“สวัสดีค่ะ คุณพ่อคุณแม่” ปวีณาเอ่ยปากร่ำลาบุพการีทั้งสอง ก่อนที่รถยนต์ของเจนรบจะแล่นออกมาจากภัตตาคารหรูใจกลางเมือง เมื่อกลับมาถึงบ้าน สองสามีภรรยาช่วยกันกล่อมลูกสาวตัวน้อยจนหลับไปในเปลเด็กข้างเตียงนอนของพวกเขา

“วันนี้พ่อมีความสุขมากเลยนะแม่” เจนรบโอบกอดปวีณาจากด้านหลังขณะที่เธอกำลังยืนมองลูกสาวหลับปุ๋ย

“แม่ก็มีความสุขค่ะ” ปวีณาซบศีรษะกับอกอุ่นของสามี “ไม่คิดเลยนะคะว่าชีวิตเราจะเดินทางมาถึงจุดนี้ได้”

“พ่อก็ไม่คิดเหมือนกัน” เจนรบก้มลงหอมกลุ่มผมของเธอ “แต่พ่อดีใจที่สุด...ที่ได้มีแม่กับลูก”

ทั้งคู่ยืนกอดกันเงียบๆ มองดูใบหน้ายามหลับของแก้วตาดวงใจ สัมผัสถึงความสุขและความอบอุ่นที่เติมเต็มชีวิต แม้จะรู้ดีว่าเส้นทางการเป็นพ่อแม่ของคู่รักต่างวัยเช่นพวกเขายังมีเรื่องราวและบททดสอบรออยู่อีกมากในอนาคต แต่ ณ วินาทีนี้ พวกเขาก็พร้อมจับมือกันเผชิญหน้ากับทุกสิ่ง...ไปด้วยกัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ปวีญา...ฉันรักเธอ   ตอนพิเศษ 3 : บททดสอบของหัวใจ

    เวลาผ่านไปอีกราวสองปี น้องอุ้มบุญ กันยกร ในวัยสามขวบ กำลังอยู่ในช่วงวัยแห่งการเรียนรู้และพลังงานอันล้นเหลือ บ้านหลังใหญ่ของเจนรบและปวีณาที่เคยมีแต่ความสงบ (หรือความหวานชื่นของคู่รัก) บัดนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เสียงร้องไห้ เสียงเรียก “พ่อจ๋า” “แม่จ๋า” และเสียงวิ่งตึงตังของเจ้าตัวเล็กที่พร้อมจะสำรวจโลกกว้างตลอดเวลาเช้าวันเสาร์ เจนรบในวัยใกล้จะเกษียณอายุราชการ ถ้าหากเขารับราชการ แต่ในความเป็นจริงคือทนายความอาวุโสชื่อดังวัย 56 ปี ตื่นขึ้นมาด้วยเสียงเล็กๆ ที่ดังอยู่ข้างเตียง“พ่อจ๋า...ตื่น...เล่น...” น้องอุ้มบุญในชุดนอนลายการ์ตูน กำลังใช้มือป้อมๆ เขย่าแขนพ่อปลุก ดวงตากลมใสแป๋วแหววไร้เดียงสา“อุ้มบุญเหรอลูก?” เจนรบลืมตาขึ้น ปากก็ยิ้มรับลูกสาว แต่ร่างกายกลับประท้วงเบาๆ ด้วยความปวดเมื่อยหลังจากโหมงานเอกสารและเตรียมตัวสำหรับรายการทีวีมาทั้งสัปดาห์ “จ๊ะลูก...พ่อตื่นแล้ว...แต่อุ้มบุญให้พ่อพักอีกแป๊บได้ไหมจ๊ะ?”“ม่ายอาววว...เล่นเยย...” เด็กน้อยไม่ยอมง่ายๆ เริ่มปีนขึ้นมาบนเตียง ทิ้งตัวลงบนอกพ่ออย่างแรง“โอ๊ย!! จุกนะลูก!!” เจนรบร้องเบาๆ แต่ก็อดหัวเราะไม่ได้ คว้าตัวลูกสาวมากอดฟัด จั๊กจี้จนเสียงห

  • ปวีญา...ฉันรักเธอ   ตอนพิเศษ 2 : หนึ่งปีแห่งความสุข

    เวลาหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านไปอย่างรวดเร็ว เผลอเพียงชั่วพริบตาเดียว นางฟ้าตัวน้อยของบ้านทนายเจนรบและปวีณา—เด็กหญิงกันยกร หรือน้องอุ้มบุญ—ก็อายุครบหนึ่งขวบพอดิบพอดี จากทารกน้อยที่นอนร้องไห้จ้าอยู่ในอ้อมแขน วันนี้กลายเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่เริ่มตั้งไข่ หัดเดินเตาะแตะ และส่งเสียงอ้อแอ้เรียก “ป้อ” “แม่” ได้เป็นคำๆ สร้างความสุขและความมีชีวิตชีวาให้กับบ้านหลังใหญ่ที่เคยเงียบเหงาได้อย่างน่าอัศจรรย์“ป้อ!! ป้อ!! แม่!!”“น่ารักน่าชังจริง ๆ ลูกพ่อ!!”“หนึ่งขวบแล้วน๊า น้องอุ้มบุญ!!”เช้าวันเกิดขวบปีแรกของน้องอุ้มบุญอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของแพนเค้กฟักทองเนื้อนุ่มที่ปวีณาตั้งใจทำให้ลูกสาวเป็นมื้อพิเศษ เจนรบนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร สายตาจับจ้องมองสองแม่ลูกด้วยแววตาที่เปี่ยมสุข หนึ่งปีที่ผ่านมา เขาแทบไม่เชื่อว่าชีวิตของตัวเองจะเปลี่ยนแปลงไปได้มากขนาดนี้ จากทนายความผู้เคยใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว มีแต่งานเป็นเพื่อน ตอนนี้เขากลายเป็น “พ่อ” เต็มตัว เป็นสามีของหญิงสาวที่เขารักสุดหัวใจ และเป็นโลกทั้งใบของเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังใช้มือเล็กๆ พยายามหยิบแพนเค้กเข้าปากอย่างเงอะงะ“ค่อย ๆ ซิจ๊ะลูกแม่ เลอะหมดแล้วเห็นไหม” ปวี

  • ปวีญา...ฉันรักเธอ   ตอนพิเศษ 1 : ความสุขที่รอคอย

    พาดหัวข่าวตัวไม้บนหน้าหนังสือพิมพ์บันเทิงหลายฉบับ และฟีดข่าวที่ร้อนแรงในโลกโซเชียลมีเดีย ต่างประโคมข่าว ‘วิวาห์หวานชื่น…ทนายดังต่างวัยคว้าลูกสาวเพื่อนสนิทเข้าประตูวิวาห์’ ภาพของเจนรบ ทนายความชื่อดังขวัญใจคนยากจน วัย 54 ปี ในชุดสูทสีขาวสะอาดตา ยืนเคียงข้าง ปวีณา เจ้าสาวแสนสวยวัย 22 ปี ทายาทคนเล็กของนักธุรกิจรีสอร์ตหรูแห่งเชียงเหนือ ในชุดไทยล้านนาประยุกต์อันงดงาม กลายเป็นประเด็นทอล์คออฟเดอะทาวน์เพียงชั่วข้ามคืนคอมเมนต์หลั่งไหลเข้ามามากมายราวกับสายน้ำหลาก บ้างแสดงความยินดี บ้างตั้งคำถามถึงความเหมาะสม บ้างก็อดอิจฉาเจ้าบ่าวสูงวัยที่ได้ภรรยาสาวสวยราวกับนางฟ้ามาครองไม่ได้“อิจฉาคนแก่ว่ะ! มีดีอะไร สาวสวยถึงได้ยอมแต่งด้วย?”“สายเปย์รึเปล่า? แต่บ้านฝ่ายหญิงก็รวยนะ”“ไม่แน่...ฝ่ายชายอาจจะเกาะฝ่ายหญิงก็ได้ ใครจะรู้”“หรือว่าเขารักกันจริงๆ ความรักมันไม่เกี่ยวกับอายุหรอกน่า อย่าคิดอกุศลเลย”เจนรบและปวีณาเตรียมใจรับมือกับกระแสสังคมเหล่านี้ไว้แล้ว ทั้งคู่เลือกให้สัมภาษณ์กับสื่อเพียงไม่กี่แห่งเท่าที่จำเป็น โดยเน้นย้ำถึงความรักความเข้าใจที่ทั้งสองมีให้กัน และการยอมรับจากครอบครัวทั้งสองฝ่าย พวกเขาไม่ได

  • ปวีญา...ฉันรักเธอ   ตอนที่ 10 : เข้าถ้ำเสือ

    “ทำไมหนูไม่บอกพ่อกับแม่ล่ะว่าจะทำงานอยู่กรุงเทพ?” เจนรบเอ่ยปากถามปวีณา“หนูบอกแล้ว แต่พ่อกับแม่ไม่ยอม” ปวีณาตอบ “ลุงจะให้หนูทำยังไงละคะ?”ปวีณาบอกกับเจนรบว่าหลังจากเรียนจบปริญญาตรีแล้ว ภาคภูมิและปิยะวรรณเรียกเธอกลับไป ช่วยงานธุรกิจรีสอร์ตทางบ้านที่เชียงใหม่ระหว่างรอรับปริญญาตรีและไปเรียนต่อปริญญาโทที่ อเมริกา เจนรบเริ่มรู้สึกว่ามันคือแผนการที่เพื่อนรักทั้งสองคิดเอาไว้ คือไม่ปฏิเสธ การคบหากันของเจนรบและปวีณา แต่จะใช้วิธีแยกให้คนทั้งคู่ห่างกันไปเรื่อยๆ จนท้ายที่สุดเจนรบและปวีณาก็ห่างจนต่อกันไม่ติดในวันสุดท้ายก่อนออกเดินทาง ภาคภูมิส่งคนมาช่วยขนของกลับบ้านที่เชียงใหม่ และไม่เปิดโอกาสให้ปวีณาได้ร่ำลาเจนรบ ทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว ช่วงเวลาที่แสนหวานของเจนรบและปวีณากำลังจะจบลง แต่โชคยังดีที่มีสื่อโซเชียล เลยทำให้เจนรบและปวีณาได้พูดคุยกันผ่านทางไลน์ เด็กสาวบอกกับเจนรบว่าพ่อกับแม่ต้องการให้เธอไปช่วยงานธุรกิจที่บ้านระหว่างรอรับปริญญา“ลุงจอม…” ปวีณาไลน์คุยกับเจนรบ “หนูว่าพ่อกับแม่กำลังพยายามกีดกันหนูจากลุง”“ไม่ต้องกลัวนะปลา” เจนรบไลน์ตอบ “ลุงจะขึ้นไปเชียงใหม่อีกครั้ง ไปคุยกับไอ้ภาคและเปิ้ล ลุง

  • ปวีญา...ฉันรักเธอ   ตอนที่ 9 : อยากรักก็ต้องเสี่ยง

    ตอนนี้ปวีณากำลังศึกษาอยู่ในคณะนิเทศศาสตร์ สาขาการประชาสัมพันธ์ในชั้นปีที่สี่ อีกแค่เพียงปีเดียวเท่านั้น สาวน้อยก็จะเรียนจบในระดับชั้นปริญญาตรี และเตรียมพร้อมสู่การเดินทางไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกาภาคภูมิและปิยะวรรณตัดสินใจครั้งสำคัญด้วยการยอมเปิดทางให้เจนรบและปวีณาได้คบหากัน พอได้รับไฟเขียวจากเพื่อนรักและอดีตแฟนเก่าเช่นนั้น เจนรบก็รับปากว่าจะขอดูแลลูกปลาเป็นอย่างดี และจะรอคอยจนกว่าเธอจะเรียนจบปริญญาโท เมื่อถึงตอนนั้น คู่สามีภรรยาทั้งสองถึงจะยินยอมให้เจนรบและปวีณาได้ครองคู่กันฟังดูความรักระหว่างเจนรบและปวีณากำลังไปได้สวย แต่ว่าด้วยระยะทางและภาระหน้าที่ของแต่ละคน เจนรบวุ่นวายกับการเดินทางไปถ่ายทำรายการกฎหมายน่ารู้ทางโทรทัศน์ และล่าสุดเจนรบได้เปิดช่องยูทูบเพื่อทำเรื่องราวเกี่ยวกับกฎหมายเพื่อให้ความรู้ผู้คนทั่วไปเพื่อหารายได้เสริม ส่วนหนังสือกฎหมายที่เพิ่งตีพิมพ์ ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากคนอ่าน ด้วยภาษาเขียนที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย ก็เลยทำให้หนังสือกฎหมายของเจนรบได้รับการตีพิมพ์เป็นครั้งที่สองและสามตามลำดับฝ่ายเจนรบเอง ก็ครุ่นคิดว่าช่วงนี้แทบไม่ได้เจอปลาเลย งานของเขาก็ยุ่ง ส

  • ปวีญา...ฉันรักเธอ   ตอนที่ 8 : เงื่อนไขของพ่อกับแม่

    หลังจากสอบเสร็จปลายภาคในช่วงชั้นปีที่สาม เจนรบตัดสินใจแล้วว่าเขาจะไม่รอให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์อีกต่อไป หนุ่มใหญ่ตัดสินใจเดินทางจากกรุงเทพมหานครมุ่งตรงสู่เชียงใหม่ เพื่อพูดคุยกับเพื่อนรักทั้งสองอย่างตรงไปตรงมาเสียที“ลุงจอม? ไหนลุงว่าจะรอให้หนูเรียนจบปริญญาตรีก่อนไง?” ปวีณาที่กลับเชียงใหม่ไปก่อนแล้วถึงกับตกใจ เมื่อทราบข่าวว่าลุงจอมตัดสินใจจะเดินทางตามมาด้วยเพื่อพูดคุยกับภาคภูมิและปิยะวรรณถึงเรื่องขอหมั้นหมายกับเธอก่อน “ถ้าพ่อกับแม่หนูรู้ หนูตายแน่!!”“ไม่ต้องกลัวหรอก ลุงคิดว่าไอ้ภาคกับเปิ้ลน่าจะมีเหตุผลพอ” เจนรบตอบ ขณะกำลังเตรียมขึ้นเครื่องบินที่สนามบินดอนเมือง “แค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวลุงต้องขึ้นเครื่องก่อน แล้วเจอกันที่เชียงใหม่นะคนดีของลุง”สุดท้ายปวีณาก็ไม่อาจทัดทานความต้องการของเจนรบได้ สาวน้อยเลยเอาเรื่องนี้ไปคุยกับปิยะวรรณผู้เป็นแม่ ที่รับรู้ทุกอย่างและมีเหตุผลมากพอที่จะรับฟังเธอ“มีอะไรเหรอจ๊ะปลา?” ปิยะวรรณที่กำลังง่วนอยู่กับการตรวจเอกสารในห้องทำงานของตัวเองเอ่ยปากถามลูกสาว“เอ่อ…หนูมีเรื่องสำคัญจะมาบอกแม่ค่ะ” ปวีณาเดินเข้ามาด้วยท่าทีอ้อยอิ่ง ก่อนทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status