Home / โรแมนติก / ปวีญา...ฉันรักเธอ / ตอนพิเศษ 1 : ความสุขที่รอคอย

Share

ตอนพิเศษ 1 : ความสุขที่รอคอย

Author: NATO87
last update Last Updated: 2025-05-30 23:37:14

พาดหัวข่าวตัวไม้บนหน้าหนังสือพิมพ์บันเทิงหลายฉบับ และฟีดข่าวที่ร้อนแรงในโลกโซเชียลมีเดีย ต่างประโคมข่าว ‘วิวาห์หวานชื่น…ทนายดังต่างวัยคว้าลูกสาวเพื่อนสนิทเข้าประตูวิวาห์’ ภาพของเจนรบ ทนายความชื่อดังขวัญใจคนยากจน วัย 54 ปี ในชุดสูทสีขาวสะอาดตา ยืนเคียงข้าง ปวีณา เจ้าสาวแสนสวยวัย 22 ปี ทายาทคนเล็กของนักธุรกิจรีสอร์ตหรูแห่งเชียงเหนือ ในชุดไทยล้านนาประยุกต์อันงดงาม กลายเป็นประเด็นทอล์คออฟเดอะทาวน์เพียงชั่วข้ามคืน

คอมเมนต์หลั่งไหลเข้ามามากมายราวกับสายน้ำหลาก บ้างแสดงความยินดี บ้างตั้งคำถามถึงความเหมาะสม บ้างก็อดอิจฉาเจ้าบ่าวสูงวัยที่ได้ภรรยาสาวสวยราวกับนางฟ้ามาครองไม่ได้

“อิจฉาคนแก่ว่ะ! มีดีอะไร สาวสวยถึงได้ยอมแต่งด้วย?”

“สายเปย์รึเปล่า? แต่บ้านฝ่ายหญิงก็รวยนะ”

“ไม่แน่...ฝ่ายชายอาจจะเกาะฝ่ายหญิงก็ได้ ใครจะรู้”

“หรือว่าเขารักกันจริงๆ ความรักมันไม่เกี่ยวกับอายุหรอกน่า อย่าคิดอกุศลเลย”

เจนรบและปวีณาเตรียมใจรับมือกับกระแสสังคมเหล่านี้ไว้แล้ว ทั้งคู่เลือกให้สัมภาษณ์กับสื่อเพียงไม่กี่แห่งเท่าที่จำเป็น โดยเน้นย้ำถึงความรักความเข้าใจที่ทั้งสองมีให้กัน และการยอมรับจากครอบครัวทั้งสองฝ่าย พวกเขาไม่ได้เปิดเผยเรื่องราวความสัมพันธ์อันซับซ้อนในอดีต หรือการเผชิญหน้าอันตึงเครียดที่เกือบจะลงเอยด้วยโศกนาฏกรรม ปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ และให้ผู้คนเริ่มลืมเลือนข่าวคราวความรักต่างวัยของพวกเขาไปเองตามกาลเวลา

หลายเดือนผ่านไปนับจากวันวิวาห์ ปวีณาย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหญ่ย่านบางกะปิของเจนรบอย่างเต็มตัว ในฐานะภรรยาตามกฎหมายและพฤตินัย ชีวิตคู่บทใหม่เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับการปรับตัวครั้งใหญ่ของคนสองวัย

เจนรบ ชายผู้เคยชินกับความเงียบเหงาและความเป็นระเบียบแบบแผนในชีวิตการทำงาน ต้องเรียนรู้ที่จะผ่อนคลายและเปิดรับสีสันใหม่ๆ ที่ปวีณานำเข้ามา เธอเปรียบเสมือนสายลมสดชื่นที่พัดพาความหม่นหมองในบ้านและในหัวใจของเขาให้จางหายไป เขาเริ่มยิ้มง่ายขึ้น หัวเราะบ่อยขึ้น และที่สำคัญ เขาเริ่ม “กลับบ้าน” เร็วขึ้น ไม่ใช่เพียงเพื่อพักผ่อน แต่เพื่อใช้เวลากับภรรยาสาวที่รอคอยอยู่

ปวีณาเองก็ต้องปรับตัวไม่น้อย จากนักศึกษาสู่บทบาทภรรยาและเลขานุการส่วนตัวของทนายความชื่อดัง เธอต้องเรียนรู้งานเอกสาร การจัดการตารางนัดหมายที่ซับซ้อน การวางตัวเมื่อต้องติดตามสามีไปพบปะลูกความหรือออกงานสังคม ตอนแรกก็มีผิดพลาดบ้าง แต่ด้วยความฉลาด หัวไว และความใส่ใจในรายละเอียด เธอก็สามารถทำหน้าที่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง จนเจนรบชื่นชมในความสามารถของเธอไม่ได้

“แม่เก่งมากเลยนะรู้ไหม” เจนรบเอ่ยชม ขณะมองปวีณาที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดตารางงานของเขาในเช้าวันหนึ่ง พวกเขาตกลงเปลี่ยนสรรพนามเรียกขานกันจาก “ลุง-หนู” เป็น “พ่อ-แม่” เพื่อสร้างความรู้สึกของครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ แม้จะยังไม่มีโซ่ทองคล้องใจก็ตามที “ถ้าไม่ได้แม่ พ่อคงหัวหมุน จัดการอะไรไม่ถูกแน่ๆ”

“พ่อก็ชมเกินไปค่ะ” ปวีณาเงยหน้าขึ้นจากจอแท็บเล็ต ยิ้มเขิน “แม่ก็แค่ทำหน้าที่ภรรยาที่ดีเท่านั้นเอง ว่าแต่...วันนี้พ่ออยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมคะ เดี๋ยวแม่เข้าครัวทำให้”

“อะไรก็ได้ที่แม่ทำ พ่อกินได้หมดแหละ” เจนรบตอบ เดินเข้าไปสวมกอดเธอจากด้านหลัง หอมแก้มใสฟอดใหญ่ “ขอแค่มีแม่คอยดูแลพ่อแบบนี้ พ่อก็มีความสุขที่สุดแล้ว”

ชีวิตคู่ไม่ได้มีแต่ความหวานชื่นเสมอไป ความแตกต่างด้านวัยก็สร้างช่องว่างเล็กๆ ขึ้นมาบ้างในบางครั้ง เจนรบอาจจะชอบฟังเพลงเก่าหรือดูข่าวสารบ้านเมือง แต่ปวีณากลับชอบฟังเพลง K-Pop หรือดูซีรีส์เกาหลี บางครั้งเจนรบก็รู้สึกเหนื่อยล้าอยากพักผ่อน แต่ปวีณายังคงมีพลังงานเต็มเปี่ยมอยากชวนคุยหรือทำกิจกรรมอื่นๆ แต่ทั้งคู่ก็เรียนรู้เรื่องการประนีประนอม การให้อภัยกัน หาจุดกึ่งกลาง และเติมเต็มความสุขให้กันและกันด้วยความเข้าใจและเสียงหัวเราะ

สำหรับเจนรบเอง บางทีก็แอบเหนื่อยเหมือนกันเวลาแม่เขาเปิดเพลง K-Pop เสียงดังลั่นบ้าน... แต่เห็นเขามีความสุข พ่อก็มีความสุขไปด้วย... ยอมหูชาหน่อยแล้วกัน

ส่วนปวีณาเอง บางทีก็อยากชวนพ่อเขาออกไปทำกิจกรรมสนุกๆ บ้าง แต่ก็เข้าใจว่าพ่อทำงานมาเหนื่อย อยากพักผ่อน... ไม่เป็นไร แค่ได้อยู่ด้วยกัน แม่ก็มีความสุขแล้ว

พอพูดถึงปวีณา เธอไม่ได้ทิ้งความเป็นตัวเอง เธอเริ่มมองหาสิ่งที่ชอบและอยากทำนอกเหนือจากงานเลขาฯ เธอค้นพบว่าตัวเองมีความสุขกับการทำอาหารเพื่อสุขภาพ และเริ่มแบ่งปันสูตรอาหารคลีนผ่านเพจเฟซบุ๊กและช่องยูทูบส่วนตัว ซึ่งได้รับการตอบรับดีเกินคาด มีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเริ่มสร้างรายได้เสริมให้กับเธอ

“ดูซิ เมียพ่อเก่งจริงๆ นอกจากเป็นเลขาฯ คนเก่งแล้ว ยังเป็นยูทูปเบอร์อาหารคลีนชื่อดังอีกต่างหาก” เจนรบเอ่ยแซวอย่างภูมิใจในตัวภรรยา

“พ่อก็พูดไปค่ะ แม่แค่ทำสนุกๆ ไม่ได้คิดว่าจะจริงจังอะไรขนาดนั้น” ปวีณาตอบ แต่รอยยิ้มก็บ่งบอกความสุขและความภูมิใจในสิ่งที่ทำ

“ทำไปเถอะ ทาในสิ่งที่แม่ชอบ ไม่ต้องไปแคร์ว่าจะได้เงินมากหรือน้อย ขอให้แม่มีความสุข พ่อสนับสนุนเต็มที่” เจนรบให้กำลังใจ เขารู้ดีว่าปวีณาเป็นสาวสมัยใหม่ที่มีความฝันและความสามารถ เขาไม่อยากให้เธอต้องละทิ้งตัวตนเพื่อมาเป็นเพียงภรรยาของเขา แต่อยากให้เธอได้เติบโตและเปล่งประกายในเส้นทางของตัวเองด้วย

เวลาผ่านไปเกือบปี ชีวิตคู่ของเจนรบและปวีณาราบรื่นและเต็มไปด้วยความสุข แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงขาดหายไปคือเสียงหัวเราะของเด็กน้อย เจนรบในวัยที่มากขึ้น เริ่มตระหนักถึงความปรารถนาลึกๆ ที่อยากจะมีทายาทสืบสกุล อยากมีใครสักคนมาเติมเต็มคำว่า “ครอบครัว” ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

“แม่...พ่อว่าครอบครัวของเราคงจะสมบูรณ์แบบกว่านี้ ถ้าเรามีเจ้าตัวน้อยด้วยกันนะ” เจนรบเปรยขึ้นในคืนหนึ่งขณะนอนกอดปวีณาอยู่บนเตียง

ปวีณาซบหน้ากับอกสามี “แม่ก็คิดเหมือนกันค่ะพ่อ แต่...” เธอนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง “เราแต่งงานกันมาเกือบปีแล้วนะคะ ถ้าเขายังไม่มา...”

“ไม่เป็นไรนะแม่” เจนรบกอดเธอแน่นขึ้น “ไม่ต้องกังวลนะ พ่อไม่ได้กดดันแม่เลย แค่รู้สึกว่าถ้ามีลูกก็คงจะดี แต่ถ้าไม่มี...พ่อก็มีความสุขที่สุดแล้วที่มีแม่”

ถึงแม้ปากบอกว่าไม่เป็นไร แต่ในใจลึกๆ เจนรบก็อดที่จะหวังไม่ได้ พวกเขาพากันไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล ผลออกมาว่าร่างกายของทั้งคู่แข็งแรงสมบูรณ์ดี เชื้ออสุจิของเจนรบก็ยังคงแข็งแรงแม้จะอายุมากแล้ว คุณหมอบอกเพียงว่าให้ทำใจให้สบาย อย่าเครียด และ “ถึงเวลา” เขาก็จะมาเอง

หลายเดือนผ่านไป... แล้วก็เป็นปี... ความหวังเริ่มสลับกับความกังวล บางคืนปวีณาก็แอบร้องไห้เงียบๆ กลัวว่าจะทำให้สามีผิดหวัง เจนรบแม้จะพยายามปลอบใจภรรยาและทำใจให้เข้มแข็ง แต่ลึกๆ เขาก็อดหวั่นใจไม่ได้ หรือเราจะไม่มีวาสนาได้เป็นพ่อคนจริงๆ... เขาได้แต่กอดปวีณาแน่นขึ้น

“ไม่เป็นไรนะแม่ ถ้าไม่มีเขา เราก็อยู่กันสองคนตายายแบบนี้ พ่อก็มีความสุขที่สุดแล้ว” เขาพูดปลอบ แต่ในใจก็แอบภาวนา

เวลาผ่านไปอีกปี...สองปี...ก็ยังไม่มีวี่แววของเจ้าตัวน้อย เจนรบเริ่มทำใจและยอมรับในโชคชะตา เขาอาจจะไม่มีวาสนาได้เป็นพ่อคนเหมือนคนอื่น เขาหันกลับไปทุ่มเทให้กับงานเขียนหนังสือและรายการโทรทัศน์มากขึ้น ขณะเดียวกันก็คอยดูแลเอาใจใส่ปวีณาอย่างดีที่สุด ชดเชยความรู้สึกขาดหายด้วยความรักและความอบอุ่นที่มีให้เธออย่างสม่ำเสมอ

“ไม่เป็นไรนะคะพ่อ” ปวีณากุมมือสามีในเช้าวันหนึ่งที่เห็นเขานั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง “ถึงเราจะไม่มีลูก แม่ก็จะอยู่ดูแลพ่อแบบนี้ตลอดไป เราสองคนก็มีความสุขกันดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ?”

เจนรบหันมายิ้มให้ภรรยา บีบมือเธอตอบเบาๆ “ขอบใจนะแม่ พ่อโชคดีจริงๆ ที่มีแม่”

แต่แล้วในคืนหนึ่ง เจนรบก็ฝัน...ฝันเห็นเด็กหญิงตัวเล็ก หน้าตาน่ารักน่าชัง ผมยาวประบ่า สวมชุดกระโปรงสีขาวราวกับนางฟ้าตัวน้อย เดินเข้ามาหาเขาในห้องทำงานที่ว่างเปล่า

“หนูเป็นใครเหรอ? มาหาลุงมีธุระอะไรจ๊ะ?” เจนรบในความฝันเอ่ยถามด้วยความเอ็นดู เด็กน้อยคนนั้นยิ้มหวาน ดวงตาเป็นประกาย

“หนูรู้ว่าคุณลุงเป็นคนใจดี หนูอยากมาอยู่กับคุณลุงค่ะ...ขอหนูมาเกิดเป็นลูกของคุณลุงได้ไหมคะ?”

เจนรบสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก เหงื่อซึมไปทั่วร่าง หัวใจเต้นแรง เขามองไปข้างๆ เห็นปวีณานอนหลับอยู่ เขาลุกไปดื่มน้ำ แต่ภาพเด็กหญิงในชุดขาวยังคงชัดเจนในความคิด มันไม่ใช่แค่ฝันธรรมดา... เขารู้สึกผูกพันกับเด็กคนนั้นอย่างน่าประหลาด... หรือว่านี่จะเป็น... สัญญาณ? ความหวังที่เคยริบหรี่กลับมาจุดประกายขึ้นอีกครั้งในใจเขากลับมานอนกอดภรรยาไว้แน่น เกิดความหวังขึ้นมาในใจ

ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ปวีณาเริ่มมีอาการผิดปกติ เธอรู้สึกอ่อนเพลีย คลื่นไส้ และอยากอาเจียนตลอดเวลา ตอนแรกคิดว่าเป็นเพราะทำงานหนักหรืออาหารเป็นพิษ แต่เมื่ออาการไม่ดีขึ้น และประจำเดือนขาดหายไป ความหวังก็เริ่มก่อตัวขึ้นในใจ

“พ่อคะ...แม่...แม่คิดว่า...” ปวีณาเดินหน้าซีดออกมาจากห้องน้ำในเช้าวันหนึ่ง มือสั่นเทาถืออุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์ยื่นให้เจนรบ

เจนรบรับมาดูด้วยใจที่เต้นระทึก...ขีดสองขีดปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน!

“แม่...นี่มัน...” เจนรบเงยหน้ามองภรรยาด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง

“ค่ะพ่อ...” ปวีณายิ้มทั้งน้ำตา พยักหน้าช้าๆ “เรา...เรากำลังจะมีลูกด้วยกันแล้วจริงๆ ค่ะ!”

“จริงเหรอแม่!!! สำเร็จแล้ว!!!” เจนรบร้องออกมาเสียงดังกว่าที่คิด เขาทรุดตัวลงข้างเตียง ดึงปวีณาเข้ามากอดแน่นจนตัวสั่น น้ำตาแห่งความสุขไหลอาบแก้มอย่างไม่อาจกลั้น “พ่อดีใจ... ดีใจที่สุดในชีวิตเลยแม่! พ่อรอเวลานี้มาทั้งชีวิต! ขอบคุณนะ! ขอบคุณนางฟ้าตัวน้อยของพ่อ!” เขาพูดเสียงเครือ ก้มลงจูบท้องของปวีณาอย่างแผ่วเบา

“แม่ก็ดีใจค่ะพ่อ” ปวีณากอดตอบสามีแน่น “ครอบครัวของเรา...กำลังจะสมบูรณ์แบบแล้วนะคะ”

ข่าวดีแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว ภาคภูมิและปิยะวรรณแทบจองตั๋วบินจากเชียงใหม่มาหาลูกสาวและลูกเขยในทันทีที่ทราบข่าว ทั้งคู่แสดงความยินดีอย่างสุดซึ้ง และแน่นอนว่าภาคภูมิในบทบาทคุณตาเห่อหลานก็ประกาศลั่นว่าจะจัดงานรับขวัญอย่างยิ่งใหญ่ จนปิยะวรรณต้องรีบเบรกด้วยความเอ็นดูระคนอับอาย

“ใจเย็นๆ ก่อนคุณ! รอน้องคลอดก่อนก็ได้!”

“ไม่ได้ซิเปิ้ล! นี่หลานคนแรกของผมเลยนะ! ต้องจัดเต็ม!” ภาคภูมิเถียง แต่แววตาเต็มไปด้วยความสุข

การตั้งครรภ์ของปวีณาดำเนินไปอย่างราบรื่นภายใต้การดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีจากเจนรบ เขาแทบยกเลิกงานที่ไม่จำเป็นทั้งหมดเพื่อมาดูแลภรรยาอย่างใกล้ชิด อ่านหนังสือแม่และเด็ก เปิดเพลงบรรเลงเบาๆ ให้ลูกในท้องฟัง พาไปตรวจครรภ์ตามนัดไม่เคยขาด ปรนนิบัติไม่ให้เธอต้องเหนื่อยหรือเครียดแม้แต่น้อย

ปวีณาเองก็มีความสุขกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ เธอดูเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล และอดทนกับอาการแพ้ท้องต่างๆ ได้อย่างเข้มแข็ง เธอมักจะพูดคุยกับลูกในท้อง เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฟัง และสัมผัสได้ถึงการดิ้นเบาๆ เป็นครั้งคราว สร้างความตื่นเต้นดีใจให้กับทั้งเธอและเจนรบเป็นอย่างมาก

“ดูซิพ่อ ลูกดิ้นอีกแล้ว” ปวีณาวางมือเจนรบลงบนหน้าท้องนูนกลมของเธอ

“จริงด้วย...สงสัยจะแข็งแรงเหมือนพ่อแน่ๆ เลย” เจนรบยิ้มกว้าง ก้มลงไปกระซิบกับหน้าท้องของภรรยา “เป็นเด็กดีนะลูก อย่าดื้อกับแม่เขาล่ะ”

พวกเขาช่วยกันเลือกซื้อข้าวของเครื่องใช้สำหรับเด็ก เตรียมห้องนอนเล็กๆ ที่ตกแต่งอย่างน่ารักไว้รอต้อนรับสมาชิกใหม่ ทุกอย่างเต็มไปด้วยความรักและความคาดหวัง

แล้ววันที่รอคอยก็มาถึง ปวีณาเริ่มเจ็บท้องคลอดในช่วงเช้า เจนรบรีบพาเธอส่งโรงพยาบาลด้วยใจที่เต้นระทึก ภาคภูมิและปิยะวรรณที่ลงมารออยู่ก่อนแล้วก็ตามมาสมทบด้วยความเป็นห่วง

ในห้องคลอด เจนรบได้รับอนุญาตให้เข้าไปอยู่เป็นกำลังใจให้ภรรยา เขาจับมือปวีณาไว้แน่น มองดูเธอที่กำลังต่อสู้กับความเจ็บปวดอย่างสุดกำลังด้วยหัวใจที่ทั้งสงสารและชื่นชมในความเข้มแข็งของเธอ

“อดทนไว้นะแม่! อีกนิดเดียว! พ่ออยู่ตรงนี้นะ!” เขากระซิบให้กำลังใจอยู่ข้างหู เหงื่อของเขาเองก็ไหลซึมไม่แพ้กัน

“โอ้ย!!!!!!” เสียงร้องสุดท้ายของปวีณาดังขึ้นพร้อมกับ...

“อุ๊แว้!!! อุ๊แว้!!!”

เสียงร้องจ้าของทารกแรกเกิดดังก้องไปทั่วห้องคลอด หยาดน้ำตาแห่งความโล่งใจและความปีติยินดีไหลรินจากดวงตาของทั้งเจนรบและปวีณา

“คลอดแล้วค่ะ! ปลอดภัยดี เป็นลูกสาว หน้าตาน่ารักน่าชังมากค่ะ!” เสียงพยาบาลแจ้งข่าวดี

เจนรบก้มลงจูบหน้าผากที่ชุ่มเหงื่อของปวีณา “ขอบคุณนะแม่...ขอบคุณที่อดทน...แม่เก่งที่สุดเลย”

ปวีณายิ้มทั้งน้ำตา มองสามีด้วยความรัก ก่อนจะหันไปมองร่างเล็กๆ ที่พยาบาลกำลังอุ้มมาให้ดูใกล้ๆ...ลูกสาวของพวกเขา...เลือดเนื้อเชื้อไขที่เกิดจากความรัก...

ภาคภูมิและปิยะวรรณเข้ามาเยี่ยมหลานสาวในห้องพักฟื้นหลังจากนั้นไม่นาน คุณตาคุณยายมือใหม่ต่างแย่งกันอุ้มหลานสาวตัวน้อยด้วยความเห่อ

“หลานตา! หน้าเหมือนใครเนี่ยเรา หืม?” ภาคภูมิหยอกเย้าหลานสาวในอ้อมแขน “ต้องหล่อเหมือนตาแน่ๆ เลย!”

“หลานเป็นผู้หญิงค่ะคุณ!” ปิยะวรรณขำ “ต้องสวยเหมือนยายต่างหาก! ดูซิ...น่าเกลียดน่าชังจริงๆ”

เจนรบและปวีณามองภาพนั้นด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ความขัดแย้งในอดีตดูเหมือนจะเลือนหายไปหมดสิ้น เหลือเพียงสายใยแห่งครอบครัวที่แน่นแฟ้นยิ่งกว่าเดิม

“เห็นไหมไอ้จอม หลานกูหน้าเหมือนกูเป๊ะ!!” ภาคภูมิหัวเราะ “ไม่ได้เชื้อเอ็งมาเลยสักนิด!”

“เหรอวะเพื่อน? แต่แววตานี่เหมือนแม่เขาเป๊ะเลยนะ” ส่วนเจนรบเองก็ยิ้มแป้น เมื่อเห็นหน้าลูกสาว “สงสัยโตขึ้นพ่อคงต้องไว้หนวดรอแล้วมั้งเนี่ย”

หลังจากปรึกษากับพระอาจารย์ที่เจนรบเคารพนับถือ พวกเขาก็ได้ชื่อมงคลสำหรับลูกสาวตัวน้อยว่า น้องอุ้มบุญ หรือชื่อจริงก็คือ เด็กหญิงกันยกร ซึ่งหมายถึงผู้สร้างสิริมงคล ผู้นำพาความสุขสมบูรณ์มาสู่ครอบครัว

วันที่เจนรบ ปวีณา และน้องอุ้มบุญกลับมาถึงบ้านหลังเดิม มันไม่ได้เป็นเพียงบ้านอีกต่อไป แต่มันคือ “บ้าน” ที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง เสียงร้องไห้จ้า เสียงหัวเราะเล็กๆ ของทารกน้อยได้เข้ามาเติมเต็มความเงียบเหงาที่เคยมี

เจนรบนั่งมองปวีณาที่กำลังให้นมลูกสาวอยู่บนโซฟา แสงแดดยามบ่ายส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาอาบร่างของสองแม่ลูก เป็นภาพที่งดงามที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมาในชีวิต ชายผู้เคยจมอยู่กับอดีตอันขมขื่นมานานกว่าสามสิบปี บัดนี้ได้ค้นพบความหมายที่แท้จริงของชีวิตแล้ว มันไม่ใช่ชื่อเสียง เงินทอง หรือความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่คือความรัก ความอบอุ่น และสายใยอันมีค่าของคำว่า “ครอบครัว”

เขาเดินเข้าไปนั่งเคียงข้าง โอบไหล่ภรรยาและก้มลงหอมแก้มของลูกสาวตัวน้อยด้วยความรัก

“พ่อรักแม่กับลูกนะ” เขากระซิบเสียงแผ่วเบา

ปวีณาเงยหน้าขึ้นสบตาสามี ดวงตาของเธอเปล่งประกายแห่งความสุข “แม่กับลูกก็รักพ่อค่ะ...รักที่สุด”

“ขอบคุณนะแม่ ที่เข้ามาในชีวิตของพ่อ”

“แม่ก็ต้องขอบคุณพ่อเหมือนกัน ที่ไม่เล่นตัวจนแม่เบื่อไปซะก่อน”

“ยังจำเรื่องนั้นอีกเหรอแม่!!”

“เรื่องความจำ ผู้หญิงเก่งนักเชียวละคะพ่อ!!” ปวีณาแกล้งแซวเจนรบ กับภาพเหตุการณ์ในวันวานที่หนุ่มใหญ่มัวแต่คิดเยอะและเล่นตัว จนสาวน้อยอย่างเธอต้องรุกหนัก เพราะไม่อย่างนั้นทั้งคู่คงไม่สมหวังในความรักเหมือนในวันนี้

มันคือฟ้าหลังฝนที่สดใส คือการรอคอยที่คุ้มค่า คือความสุขที่เจนรบไม่เคยคิดฝันว่าจะได้สัมผัส และเขารู้ดีว่า นับจากวินาทีนี้ไป ชีวิตของเขาจะไม่มีวันเดียวดายอีกต่อไป เพราะเขามีนางฟ้าตัวน้อยอย่างปวีณา และของขวัญล้ำค่าที่สุดจากสวรรค์...น้องอุ้มบุญ...อยู่เคียงข้างกายเสมอ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ปวีญา...ฉันรักเธอ   ตอนพิเศษ 3 : บททดสอบของหัวใจ

    เวลาผ่านไปอีกราวสองปี น้องอุ้มบุญ กันยกร ในวัยสามขวบ กำลังอยู่ในช่วงวัยแห่งการเรียนรู้และพลังงานอันล้นเหลือ บ้านหลังใหญ่ของเจนรบและปวีณาที่เคยมีแต่ความสงบ (หรือความหวานชื่นของคู่รัก) บัดนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เสียงร้องไห้ เสียงเรียก “พ่อจ๋า” “แม่จ๋า” และเสียงวิ่งตึงตังของเจ้าตัวเล็กที่พร้อมจะสำรวจโลกกว้างตลอดเวลาเช้าวันเสาร์ เจนรบในวัยใกล้จะเกษียณอายุราชการ ถ้าหากเขารับราชการ แต่ในความเป็นจริงคือทนายความอาวุโสชื่อดังวัย 56 ปี ตื่นขึ้นมาด้วยเสียงเล็กๆ ที่ดังอยู่ข้างเตียง“พ่อจ๋า...ตื่น...เล่น...” น้องอุ้มบุญในชุดนอนลายการ์ตูน กำลังใช้มือป้อมๆ เขย่าแขนพ่อปลุก ดวงตากลมใสแป๋วแหววไร้เดียงสา“อุ้มบุญเหรอลูก?” เจนรบลืมตาขึ้น ปากก็ยิ้มรับลูกสาว แต่ร่างกายกลับประท้วงเบาๆ ด้วยความปวดเมื่อยหลังจากโหมงานเอกสารและเตรียมตัวสำหรับรายการทีวีมาทั้งสัปดาห์ “จ๊ะลูก...พ่อตื่นแล้ว...แต่อุ้มบุญให้พ่อพักอีกแป๊บได้ไหมจ๊ะ?”“ม่ายอาววว...เล่นเยย...” เด็กน้อยไม่ยอมง่ายๆ เริ่มปีนขึ้นมาบนเตียง ทิ้งตัวลงบนอกพ่ออย่างแรง“โอ๊ย!! จุกนะลูก!!” เจนรบร้องเบาๆ แต่ก็อดหัวเราะไม่ได้ คว้าตัวลูกสาวมากอดฟัด จั๊กจี้จนเสียงห

  • ปวีญา...ฉันรักเธอ   ตอนพิเศษ 2 : หนึ่งปีแห่งความสุข

    เวลาหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านไปอย่างรวดเร็ว เผลอเพียงชั่วพริบตาเดียว นางฟ้าตัวน้อยของบ้านทนายเจนรบและปวีณา—เด็กหญิงกันยกร หรือน้องอุ้มบุญ—ก็อายุครบหนึ่งขวบพอดิบพอดี จากทารกน้อยที่นอนร้องไห้จ้าอยู่ในอ้อมแขน วันนี้กลายเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่เริ่มตั้งไข่ หัดเดินเตาะแตะ และส่งเสียงอ้อแอ้เรียก “ป้อ” “แม่” ได้เป็นคำๆ สร้างความสุขและความมีชีวิตชีวาให้กับบ้านหลังใหญ่ที่เคยเงียบเหงาได้อย่างน่าอัศจรรย์“ป้อ!! ป้อ!! แม่!!”“น่ารักน่าชังจริง ๆ ลูกพ่อ!!”“หนึ่งขวบแล้วน๊า น้องอุ้มบุญ!!”เช้าวันเกิดขวบปีแรกของน้องอุ้มบุญอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของแพนเค้กฟักทองเนื้อนุ่มที่ปวีณาตั้งใจทำให้ลูกสาวเป็นมื้อพิเศษ เจนรบนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร สายตาจับจ้องมองสองแม่ลูกด้วยแววตาที่เปี่ยมสุข หนึ่งปีที่ผ่านมา เขาแทบไม่เชื่อว่าชีวิตของตัวเองจะเปลี่ยนแปลงไปได้มากขนาดนี้ จากทนายความผู้เคยใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว มีแต่งานเป็นเพื่อน ตอนนี้เขากลายเป็น “พ่อ” เต็มตัว เป็นสามีของหญิงสาวที่เขารักสุดหัวใจ และเป็นโลกทั้งใบของเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังใช้มือเล็กๆ พยายามหยิบแพนเค้กเข้าปากอย่างเงอะงะ“ค่อย ๆ ซิจ๊ะลูกแม่ เลอะหมดแล้วเห็นไหม” ปวี

  • ปวีญา...ฉันรักเธอ   ตอนพิเศษ 1 : ความสุขที่รอคอย

    พาดหัวข่าวตัวไม้บนหน้าหนังสือพิมพ์บันเทิงหลายฉบับ และฟีดข่าวที่ร้อนแรงในโลกโซเชียลมีเดีย ต่างประโคมข่าว ‘วิวาห์หวานชื่น…ทนายดังต่างวัยคว้าลูกสาวเพื่อนสนิทเข้าประตูวิวาห์’ ภาพของเจนรบ ทนายความชื่อดังขวัญใจคนยากจน วัย 54 ปี ในชุดสูทสีขาวสะอาดตา ยืนเคียงข้าง ปวีณา เจ้าสาวแสนสวยวัย 22 ปี ทายาทคนเล็กของนักธุรกิจรีสอร์ตหรูแห่งเชียงเหนือ ในชุดไทยล้านนาประยุกต์อันงดงาม กลายเป็นประเด็นทอล์คออฟเดอะทาวน์เพียงชั่วข้ามคืนคอมเมนต์หลั่งไหลเข้ามามากมายราวกับสายน้ำหลาก บ้างแสดงความยินดี บ้างตั้งคำถามถึงความเหมาะสม บ้างก็อดอิจฉาเจ้าบ่าวสูงวัยที่ได้ภรรยาสาวสวยราวกับนางฟ้ามาครองไม่ได้“อิจฉาคนแก่ว่ะ! มีดีอะไร สาวสวยถึงได้ยอมแต่งด้วย?”“สายเปย์รึเปล่า? แต่บ้านฝ่ายหญิงก็รวยนะ”“ไม่แน่...ฝ่ายชายอาจจะเกาะฝ่ายหญิงก็ได้ ใครจะรู้”“หรือว่าเขารักกันจริงๆ ความรักมันไม่เกี่ยวกับอายุหรอกน่า อย่าคิดอกุศลเลย”เจนรบและปวีณาเตรียมใจรับมือกับกระแสสังคมเหล่านี้ไว้แล้ว ทั้งคู่เลือกให้สัมภาษณ์กับสื่อเพียงไม่กี่แห่งเท่าที่จำเป็น โดยเน้นย้ำถึงความรักความเข้าใจที่ทั้งสองมีให้กัน และการยอมรับจากครอบครัวทั้งสองฝ่าย พวกเขาไม่ได

  • ปวีญา...ฉันรักเธอ   ตอนที่ 10 : เข้าถ้ำเสือ

    “ทำไมหนูไม่บอกพ่อกับแม่ล่ะว่าจะทำงานอยู่กรุงเทพ?” เจนรบเอ่ยปากถามปวีณา“หนูบอกแล้ว แต่พ่อกับแม่ไม่ยอม” ปวีณาตอบ “ลุงจะให้หนูทำยังไงละคะ?”ปวีณาบอกกับเจนรบว่าหลังจากเรียนจบปริญญาตรีแล้ว ภาคภูมิและปิยะวรรณเรียกเธอกลับไป ช่วยงานธุรกิจรีสอร์ตทางบ้านที่เชียงใหม่ระหว่างรอรับปริญญาตรีและไปเรียนต่อปริญญาโทที่ อเมริกา เจนรบเริ่มรู้สึกว่ามันคือแผนการที่เพื่อนรักทั้งสองคิดเอาไว้ คือไม่ปฏิเสธ การคบหากันของเจนรบและปวีณา แต่จะใช้วิธีแยกให้คนทั้งคู่ห่างกันไปเรื่อยๆ จนท้ายที่สุดเจนรบและปวีณาก็ห่างจนต่อกันไม่ติดในวันสุดท้ายก่อนออกเดินทาง ภาคภูมิส่งคนมาช่วยขนของกลับบ้านที่เชียงใหม่ และไม่เปิดโอกาสให้ปวีณาได้ร่ำลาเจนรบ ทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว ช่วงเวลาที่แสนหวานของเจนรบและปวีณากำลังจะจบลง แต่โชคยังดีที่มีสื่อโซเชียล เลยทำให้เจนรบและปวีณาได้พูดคุยกันผ่านทางไลน์ เด็กสาวบอกกับเจนรบว่าพ่อกับแม่ต้องการให้เธอไปช่วยงานธุรกิจที่บ้านระหว่างรอรับปริญญา“ลุงจอม…” ปวีณาไลน์คุยกับเจนรบ “หนูว่าพ่อกับแม่กำลังพยายามกีดกันหนูจากลุง”“ไม่ต้องกลัวนะปลา” เจนรบไลน์ตอบ “ลุงจะขึ้นไปเชียงใหม่อีกครั้ง ไปคุยกับไอ้ภาคและเปิ้ล ลุง

  • ปวีญา...ฉันรักเธอ   ตอนที่ 9 : อยากรักก็ต้องเสี่ยง

    ตอนนี้ปวีณากำลังศึกษาอยู่ในคณะนิเทศศาสตร์ สาขาการประชาสัมพันธ์ในชั้นปีที่สี่ อีกแค่เพียงปีเดียวเท่านั้น สาวน้อยก็จะเรียนจบในระดับชั้นปริญญาตรี และเตรียมพร้อมสู่การเดินทางไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกาภาคภูมิและปิยะวรรณตัดสินใจครั้งสำคัญด้วยการยอมเปิดทางให้เจนรบและปวีณาได้คบหากัน พอได้รับไฟเขียวจากเพื่อนรักและอดีตแฟนเก่าเช่นนั้น เจนรบก็รับปากว่าจะขอดูแลลูกปลาเป็นอย่างดี และจะรอคอยจนกว่าเธอจะเรียนจบปริญญาโท เมื่อถึงตอนนั้น คู่สามีภรรยาทั้งสองถึงจะยินยอมให้เจนรบและปวีณาได้ครองคู่กันฟังดูความรักระหว่างเจนรบและปวีณากำลังไปได้สวย แต่ว่าด้วยระยะทางและภาระหน้าที่ของแต่ละคน เจนรบวุ่นวายกับการเดินทางไปถ่ายทำรายการกฎหมายน่ารู้ทางโทรทัศน์ และล่าสุดเจนรบได้เปิดช่องยูทูบเพื่อทำเรื่องราวเกี่ยวกับกฎหมายเพื่อให้ความรู้ผู้คนทั่วไปเพื่อหารายได้เสริม ส่วนหนังสือกฎหมายที่เพิ่งตีพิมพ์ ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากคนอ่าน ด้วยภาษาเขียนที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย ก็เลยทำให้หนังสือกฎหมายของเจนรบได้รับการตีพิมพ์เป็นครั้งที่สองและสามตามลำดับฝ่ายเจนรบเอง ก็ครุ่นคิดว่าช่วงนี้แทบไม่ได้เจอปลาเลย งานของเขาก็ยุ่ง ส

  • ปวีญา...ฉันรักเธอ   ตอนที่ 8 : เงื่อนไขของพ่อกับแม่

    หลังจากสอบเสร็จปลายภาคในช่วงชั้นปีที่สาม เจนรบตัดสินใจแล้วว่าเขาจะไม่รอให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์อีกต่อไป หนุ่มใหญ่ตัดสินใจเดินทางจากกรุงเทพมหานครมุ่งตรงสู่เชียงใหม่ เพื่อพูดคุยกับเพื่อนรักทั้งสองอย่างตรงไปตรงมาเสียที“ลุงจอม? ไหนลุงว่าจะรอให้หนูเรียนจบปริญญาตรีก่อนไง?” ปวีณาที่กลับเชียงใหม่ไปก่อนแล้วถึงกับตกใจ เมื่อทราบข่าวว่าลุงจอมตัดสินใจจะเดินทางตามมาด้วยเพื่อพูดคุยกับภาคภูมิและปิยะวรรณถึงเรื่องขอหมั้นหมายกับเธอก่อน “ถ้าพ่อกับแม่หนูรู้ หนูตายแน่!!”“ไม่ต้องกลัวหรอก ลุงคิดว่าไอ้ภาคกับเปิ้ลน่าจะมีเหตุผลพอ” เจนรบตอบ ขณะกำลังเตรียมขึ้นเครื่องบินที่สนามบินดอนเมือง “แค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวลุงต้องขึ้นเครื่องก่อน แล้วเจอกันที่เชียงใหม่นะคนดีของลุง”สุดท้ายปวีณาก็ไม่อาจทัดทานความต้องการของเจนรบได้ สาวน้อยเลยเอาเรื่องนี้ไปคุยกับปิยะวรรณผู้เป็นแม่ ที่รับรู้ทุกอย่างและมีเหตุผลมากพอที่จะรับฟังเธอ“มีอะไรเหรอจ๊ะปลา?” ปิยะวรรณที่กำลังง่วนอยู่กับการตรวจเอกสารในห้องทำงานของตัวเองเอ่ยปากถามลูกสาว“เอ่อ…หนูมีเรื่องสำคัญจะมาบอกแม่ค่ะ” ปวีณาเดินเข้ามาด้วยท่าทีอ้อยอิ่ง ก่อนทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status