Home / โรแมนติก / ปวีญา...ฉันรักเธอ / ตอนพิเศษ 3 : บททดสอบของหัวใจ

Share

ตอนพิเศษ 3 : บททดสอบของหัวใจ

Author: NATO87
last update Last Updated: 2025-05-30 23:37:22

เวลาผ่านไปอีกราวสองปี น้องอุ้มบุญ กันยกร ในวัยสามขวบ กำลังอยู่ในช่วงวัยแห่งการเรียนรู้และพลังงานอันล้นเหลือ บ้านหลังใหญ่ของเจนรบและปวีณาที่เคยมีแต่ความสงบ (หรือความหวานชื่นของคู่รัก) บัดนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เสียงร้องไห้ เสียงเรียก “พ่อจ๋า” “แม่จ๋า” และเสียงวิ่งตึงตังของเจ้าตัวเล็กที่พร้อมจะสำรวจโลกกว้างตลอดเวลา

เช้าวันเสาร์ เจนรบในวัยใกล้จะเกษียณอายุราชการ ถ้าหากเขารับราชการ แต่ในความเป็นจริงคือทนายความอาวุโสชื่อดังวัย 56 ปี ตื่นขึ้นมาด้วยเสียงเล็กๆ ที่ดังอยู่ข้างเตียง

“พ่อจ๋า...ตื่น...เล่น...” น้องอุ้มบุญในชุดนอนลายการ์ตูน กำลังใช้มือป้อมๆ เขย่าแขนพ่อปลุก ดวงตากลมใสแป๋วแหววไร้เดียงสา

“อุ้มบุญเหรอลูก?” เจนรบลืมตาขึ้น ปากก็ยิ้มรับลูกสาว แต่ร่างกายกลับประท้วงเบาๆ ด้วยความปวดเมื่อยหลังจากโหมงานเอกสารและเตรียมตัวสำหรับรายการทีวีมาทั้งสัปดาห์ “จ๊ะลูก...พ่อตื่นแล้ว...แต่อุ้มบุญให้พ่อพักอีกแป๊บได้ไหมจ๊ะ?”

“ม่ายอาววว...เล่นเยย...” เด็กน้อยไม่ยอมง่ายๆ เริ่มปีนขึ้นมาบนเตียง ทิ้งตัวลงบนอกพ่ออย่างแรง

“โอ๊ย!! จุกนะลูก!!” เจนรบร้องเบาๆ แต่ก็อดหัวเราะไม่ได้ คว้าตัวลูกสาวมากอดฟัด จั๊กจี้จนเสียงหัวเราะใสๆ ดังลั่นห้อง

“อะไรกันคะสองพ่อลูก” ปวีณาเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี เห็นภาพพ่อลูกหยอกล้อกันก็ยิ้มออกมา “ตื่นกันแล้วเหรอคะสองพ่อลูก แม่เตรียมอาหารเช้าไว้แล้วนะ” เธอในวัย 25 ปี ยังคงดูสดใส แต่ก็มีร่องรอยความเหนื่อยล้าจากการดูแลลูกน้อยอยู่บ้าง

“แม่จ๋า...หม่ำๆ” อุ้มบุญพอได้ยินคำว่าอาหารเช้า ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันที พยายามจะลงจากเตียงไปหาแม่

“ดูซิลูกเรา เห็นแก่กินเหมือนใครนะแม่” เจนรบแซวภรรยา พลางพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง รู้สึกถึงอาการปวดหลังเล็กน้อยที่มักจะมาทักทายบ่อยขึ้นตามวัย

ตลอดทั้งวันนั้น เจนรบพยายามใช้พลังงานทั้งหมดเล่นกับลูกสาว ทั้งต่อบล็อกไม้ อ่านนิทาน วิ่งไล่จับในสวนหลังบ้าน แต่พอถึงช่วงบ่าย เขาก็เริ่มรู้สึกหมดแรง ต้องขอนั่งพักอยู่บ่อยๆ ปล่อยให้ปวีณาเข้ามาทำหน้าที่แม่ฟูลไทม์รับช่วงต่อได้อย่างคล่องแคล่ว เธอยังคงมีพลังงานเหลือเฟือที่จะวิ่งเล่นกับลูก หรือคิดกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำได้อย่างไม่มีเบื่อ

“พ่อพักก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวแม่เล่นกับอุ้มบุญเอง” ปวีณาบอกสามีอย่างเข้าใจ เมื่อเห็นเขานั่งหอบอยู่บนเก้าอี้สนาม

เจนรบมองปวีณาและลูกสาว เห็นแม่เขากับลูกเล่นกันแล้วก็อดยิ้มไม่ได้...แต่ก็แอบน้อยใจสังขารตัวเองเหมือนกันนะ อยากจะวิ่งเล่นกับอุ้มบุญให้นานกว่านี้...โชคดีจริงๆ ที่มีแม่เขาคอยอยู่เคียงข้าง ไม่เคยบ่นสักคำ...เราต้องดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้ จะได้ไม่เป็นภาระให้แม่เขากับลูก

“พ่อ...ไม่ได้เรื่องเลยเนอะ” เจนรบยิ้มแหยๆ รู้สึกผิดที่สังขารและร่างกายไม่เอื้ออำนวยเหมือนใจคิด “แก่แล้วก็แบบนี้แหละลูก”

หนุ่มใหญ่หันไปพูดกับลูกสาวตัวน้อยที่วิ่งมาเกาะขา

“พ่อจ๋า ม่ายแก่!” อุ้มบุญส่ายหน้า ทำตาโต

“จ๊ะๆ พ่อไม่แก่ก็ได้” เจนรบหัวเราะ ลูบหัวลูกสาวเบาๆ แต่ในใจก็อดคิดไม่ได้ว่า เขากำลังจะเป็นภาระให้ปวีณาดูแลทั้งลูกและสามีสูงวัย คนนี้หรือไม่นะ?

ในช่วงหลังมานี่ เจนรบพยายามลดงานลงแล้ว เขามอบหมายงานให้ทนายความที่เป็นลูกศิษย์ของเขาสองคนขึ้นมาทำหน้าที่แทนเขาในหลายเรื่อง แต่ชื่อเสียงและภาระหน้าที่ของ “ทนายเจนรบ” ก็ยังคงตามติดตัวเขาอยู่เสมอ เย็นวันหนึ่งขณะที่ครอบครัวกำลังทานอาหารเย็นกันพร้อมหน้า เสียงโทรศัพท์ของเจนรบก็ดังขึ้น เป็นสายด่วนจากลูกความคนสำคัญที่ต้องการคำปรึกษาเรื่องคดีเร่งด่วน

“ขอโทษนะแม่ พ่อต้องคุยงานจริงๆ” เจนรบมองหน้าภรรยาอย่างขอโทษ ก่อนจะลุกไปคุยโทรศัพท์ที่มุมห้อง

ปวีณามองตามแผ่นหลังสามีเงียบๆ ตักข้าวป้อนลูกสาวต่อไป เธอเข้าใจดีในบทบาทและหน้าที่ของเขา แต่บางครั้งก็อดรู้สึกน้อยใจไม่ได้ที่เวลาของครอบครัวมักจะถูกเบียดบังไปด้วยเรื่องงานเสมอ

เมื่อเจนรบกลับมานั่งที่โต๊ะ สีหน้าเขาดูเคร่งเครียดเล็กน้อย

“มีอะไรรึเปล่าคะพ่อ?” ปวีณาถามอย่างเป็นห่วง

“คดีเก่าน่ะ มีปัญหาต้องรีบแก้ไขนิดหน่อย พรุ่งนี้พ่ออาจจะต้องเข้าออฟฟิศแต่เช้าเลยนะ” เขาตอบ พลางตักกับข้าวเข้าปาก แต่ดูเหมือนความคิดจะยังวนเวียนอยู่กับเรื่องงาน

“แต่พรุ่งนี้วันอาทิตย์ไม่ใช่เหรอคะ เราตกลงกันแล้วว่าจะพาอุ้มบุญไปเที่ยวสวนสัตว์...” ปวีณาเตือนเบาๆ

เจนรบชะงัก เงยหน้ามองภรรยาและลูกสาวที่มองมาตาแป๋ว “เอ่อ...พ่อลืมไปเลย ขอโทษทีนะแม่ พ่อ...”

“ไม่เป็นไรค่ะ” ปวีณาดักคอ ยิ้มบางๆ “เรื่องงานสำคัญกว่า แม่เข้าใจค่ะ เอาไว้เราค่อยไปวันหลังก็ได้เนอะอุ้มบุญเนอะ” เธอหันไปพูดกับลูกสาวที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์นัก

ปวีณาเองก็เข้าใจ แต่ก็อดเสียดายไม่ได้เหมือนกันนะ อุตส่าห์ตั้งใจว่าจะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้า... แต่ไม่เป็นไรหรอก งานของพ่อก็สำคัญจริงๆ นั่นแหละ...

ส่วนเจนรบเองก็รู้สึกผิดจับใจ เขารู้ว่าเขาทำให้ภรรยาและลูกผิดหวังอีกแล้ว การเป็นทั้งทนายความชื่อดัง สามี และพ่อในวัยนี้ มันช่างเป็นการจัดสรรเวลาที่ท้าทายเหลือเกิน เขากำลังพยายามอย่างดีที่สุด แต่บางครั้งมันก็ยากจะทำทุกบทบาทให้สมบูรณ์แบบได้พร้อมกัน

เพื่อชดเชยที่ตนไม่สามารถพาลูกเมียไปเที่ยวสวนสัตว์ได้ ไม่กี่วันต่อมา เจนรบและปวีณาพาอุ้มบุญไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน เป็นช่วงเวลาสบายๆ ที่ครอบครัวจะได้ใช้เวลาร่วมกัน ขณะที่เจนรบกำลังก้มลงผูกเชือกรองเท้าให้น้องอุ้มบุญที่หน้าห้าง ก็มีเสียงทักทายดังขึ้นจากด้านหลัง

“อ้าว! คุณทนายเจนรบใช่ไหมคะ? สวัสดีค่ะ ติดตามผลงานอยู่ตลอดเลยค่ะ” หญิงวัยกลางคนสองคนเดินเข้ามาทักทายด้วยท่าทางตื่นเต้น

“อ๋อ ครับ สวัสดีครับ” เจนรบยิ้มรับตามมารยาท

“มากับครอบครัวเหรอคะเนี่ย...โอ้โห!! คุณภรรยายังสาวสวยปิ๊งอยู่เลยนะคะ ส่วนนี่...หลานสาวเหรอคะ? น่ารักจังเลย” หนึ่งในนั้นพูดขึ้นอย่างเป็นกันเอง แต่คำว่า “หลานสาว” ทำให้บรรยากาศชะงักไปเล็กน้อย

“ลูกสาวค่ะ” ปวีณาหน้าเจื่อนลงนิดหน่อย แต่ก็ฝืนยิ้ม

“อ๊ะ! ขอโทษทีค่ะ! แหม คุณทนายยังดูหนุ่มอยู่เลย นึกว่ามากับลูกสาวซะอีก ขอโทษจริงๆ นะคะ” หญิงคนนั้นรีบแก้ตัว แต่ก็ไม่วายส่งสายตาอยากรู้อยากเห็นมาที่ปวีณา

“ไม่เป็นไรครับ พอดีเรารีบ” เจนรบรีบตัดบท “ขอตัวก่อนนะครับ” ว่าแล้วก็จูงมือภรรยาและลูกสาวเดินเลี่ยงออกมา

แม้จะเป็นเพียงบทสนทนาสั้นๆ และคำพูดที่อาจไม่ได้มีเจตนาร้าย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันสะกิดความรู้สึกของทั้งคู่ได้ไม่น้อย มันเป็นเหมือนเครื่องย้ำเตือนถึงความแตกต่างที่พวกเขามี และสายตาของสังคมที่ยังคงจับจ้องอยู่เสมอ

“อย่าใส่ใจเลยนะแม่” เจนรบกุมมือปวีณาแน่นขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในห้างแล้ว “ใครจะคิดยังไงก็ช่างเขา เรารู้ดีที่สุดว่าความสุขของเราคืออะไร”

“ค่ะพ่อ แม่เข้าใจ” ปวีณายิ้มตอบ แต่ในใจก็อดรู้สึกวูบไหวไม่ได้เล็กน้อย

คืนนั้น หลังจากส่งน้องอุ้มบุญเข้านอนเรียบร้อยแล้ว เจนรบและปวีณาก็มีเวลาส่วนตัวอยู่ด้วยกันตามลำพังบนระเบียงบ้าน แสงจันทร์นวลสาดส่องลงมาอาบไล้ร่างของคนทั้งคู่ที่นั่งพิงกันอยู่สองต่อสอง

“พ่อขอโทษนะแม่ เรื่องเมื่อกลางวัน...แล้วก็เรื่องที่พ่อต้องผิดนัดไปสวนสัตว์” เจนรบเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แม่เข้าใจ” ปวีณาวางแก้วไวน์ลง ซบหน้ากับไหล่กว้างของสามี “ชีวิตมันก็แบบนี้แหละค่ะพ่อ มีเรื่องให้ต้องจัดการอยู่ตลอดเวลา แม่แค่...บางทีก็รู้สึกเหนื่อยบ้างนิดหน่อย”

“พ่อรู้...” เจนรบโอบไหล่เธอเข้ามาใกล้ “พ่อรู้ว่าแม่เหนื่อย พ่อเองก็รู้สึกผิดที่บางครั้งก็ดูแลแม่กับลูกได้ไม่ดีพอ พ่อมันแก่แล้วจริงๆ นั่นแหละ” น้ำเสียงของเขาแฝงความน้อยใจในโชคชะตาและสังขาร

“ไม่จริงซะหน่อยค่ะ” ปวีณาเงยหน้าขึ้น สบตาสามีอย่างจริงจัง “พ่ออาจจะไม่ได้มีแรงวิ่งเล่นกับลูกได้ทั้งวันเหมือนพ่อคนอื่น แต่สิ่งที่พ่อมีคือความรัก ความอบอุ่น และความมั่นคงที่พ่อมอบให้แม่กับลูกเสมอมา นั่นต่างหากที่สำคัญที่สุด” เธอยกมือขึ้นลูบแก้มสากของเขาเบาๆ “แม่ไม่เคยเสียใจเลยนะคะที่เลือกพ่อ”

สำหรับปวีณา ถึงแม้มันจะหมายถึงการต้องดูแลสามีสูงวัย และต้องเจอสายตาแปลกๆ จากคนอื่นบ้าง... แต่ความรัก ความอบอุ่นที่พ่อมอบให้ มันคือสิ่งที่ผู้ชายคนอื่นให้แม่ไม่ได้จริงๆ... แค่นี้ก็คุ้มค่าที่สุดแล้ว

“ขอบใจนะแม่” เจนรบซาบซึ้งใจ ดึงเธอเข้ามากอดแน่น “การมีแม่อยู่ข้างๆ มันทำให้พ่อมีแรงสู้กับทุกอย่างจริงๆ”

“เราจะสู้ไปด้วยกันค่ะ” ปวีณากระซิบตอบ

ทั้งคู่นั่งเงียบๆ ปล่อยให้ความรู้สึกอบอุ่นและความเข้าใจไหลผ่านระหว่างกัน ความเหนื่อยล้าจากภาระหน้าที่ของวันค่อยๆ จางหายไป เหลือเพียงความรักและความผูกพันที่ยังคงมั่นคง

“พ่อรู้ไหมคะ” ปวีณาเอ่ยปากพูดขึ้นมาบ้าง “ถึงแม้บางทีมันจะเหนื่อย หรือมีเรื่องให้กังวลใจบ้าง แต่ทุกครั้งที่แม่เห็นหน้าพ่อกับลูก แม่ก็มีความสุขที่สุดแล้วจริงๆ นะ”

“พ่อก็เหมือนกันแม่” เจนรบก้มลงจูบหน้าผากมนของภรรยาอย่างแผ่วเบา “การมีแม่กับอุ้มบุญ คือของขวัญที่ดีที่สุดที่พ่อเคยได้รับมาในชีวิตนี้”

เขามองลึกเข้าไปในดวงตาของปวีณา แววตาที่ยังคงสดใสและเต็มไปด้วยความรักเหมือนวันแรกที่เขารู้สึกตัวว่าตกหลุมรักเธอ “ถึงพ่อจะแก่...แต่พ่อสัญญานะ ว่าพ่อจะพยายามเป็นสามีและพ่อที่ดีที่สุดให้แม่กับลูก จะดูแลเราสองคนให้ดีที่สุด...จนกว่าจะถึงวันสุดท้ายของพ่อ”

“แม่เชื่อค่ะ” ปวีณายิ้มทั้งน้ำตา ซบหน้ากับอกเขาอีกครั้ง “แล้วแม่ก็จะอยู่ดูแลพ่อ...อยู่ข้างๆ พ่อแบบนี้...ตลอดไปเหมือนกันนะคะ”

เจนรบก้มลงจูบหน้าผากมนของภรรยาอีกครั้ง สูดกลิ่นหอมอ่อนๆ จากเรือนผมของเธอเข้าเต็มปอด ความรู้สึกรักและขอบคุณท่วมท้นอยู่ในใจ เขากระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นอีกนิด ราวกับจะยืนยันคำสัญญาของตนด้วยสัมผัส

ปวีณาเงยหน้าขึ้นจากอกอุ่น สบตาสามีในแสงจันทร์ แววตาของเธอที่เคยฉายแววซาบซึ้งเมื่อครู่ ตอนนี้กลับมีประกายขี้เล่นและรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นที่มุมปาก

“ว่าแต่...” เธอเอียงคอเล็กน้อย ใช้ปลายนิ้วชี้เขี่ยเบาๆ ที่ปลายคางของเจนรบ “...สัญญาว่าจะอยู่ดูแลกันน่ะ เรื่องนั้นแม่เชื่อค่ะ แต่...เรื่องคืนนี้...พ่อจะไหวแน่นะคะ?” เธอทำเสียงกระซิบ แกล้งทำสายตาสำรวจเขาตั้งแต่ช่วงไหล่ลงไป “เห็นพ่อบ่นปวดหลัง แถมยังต้องดูแลลูกทั้งวันอีก...แม่น่ะ...เอ่อ...” เธอทำท่าทางอ้ำๆ อึ้งๆ แก้มแดงระเรื่อ “...ของขาดมาหลายวันแล้วนะคะ

เจนรบถึงกับหลุดหัวเราะพรืดออกมากับท่าทางและคำพูดที่ทั้งอ้อนทั้งยั่วของภรรยาสาว เขารวบเอวบางเข้ามาใกล้จนแทบไม่มีช่องว่าง “แหม่!! แม่นี่นะ!! เพิ่งจะซึ้งกันอยู่หยกๆ ชวนเข้าเรื่อง 18+ ซะแล้ว” เขาแกล้งทำเสียงดุ แต่ดวงตากลับเป็นประกายระยิบระยับด้วยความปรารถนา “ถามว่าไหวไหมเหรอ?...หึ...” เขากระซิบตอบข้างหูเธอ เสียงแหบพร่าเล็กน้อย “ถึงไม่ไหว...ก็ต้องไหวสิจ๊ะ...ใครใช้ให้พ่อมีเมียทั้งเด็กทั้งสวยแถมยังขี้ยั่วแบบแม่กันล่ะ หื้ม?

สำหรับเจนรบ นี่แหละคือวิธีที่ดีที่สุด ที่พ่อจะแสดงให้แม่รู้ว่า พ่อรักและต้องการแม่มากแค่ไหน... รักมากกว่าความเหนื่อยล้าหรือความแก่ชราใดๆ ทั้งนั้น

“คนแก่ปากแข็ง!!” ปวีณาหัวเราะคิกคัก ตีอกเขาเบาๆ หนึ่งทีแก้เขิน แต่ก็ยอมให้เขาเชยคางขึ้นรับจุมพิตที่ไม่ได้อ่อนโยนเหมือนเมื่อครู่ แต่กลับมีความหมายลึกซึ้งและเร่าร้อนกว่าเดิม

หลังจากผละริมฝีปากออกจากกันอย่างอ้อยอิ่ง ปวีณาก็ขยิบตาให้สามีหนึ่งครั้ง ก่อนจะจับมือใหญ่ที่เริ่มอยู่ไม่สุขของเขาไว้ แล้วลุกขึ้นยืน จูงมือเขาให้เดินตามเข้าไปในบ้าน

ไม่ว่าพรุ่งนี้จะต้องเจอกับอะไร หรือพ่อจะเหนื่อยแค่ไหน แต่คืนนี้... เราจะเติมพลังให้กันและกัน ยืนยันว่าความรักของเรายังแข็งแรงเสมอ

“งั้น...ไปพิสูจน์กันในห้องนอนดีกว่าค่ะพ่อ...” เธอกระซิบเสียงหวาน “...เดี๋ยวแม่ช่วยบำรุงกำลังให้นะคะ”

เจนรบยิ้มกริ่มอย่างรู้ทัน ลุกเดินตามแรงจูงของภรรยาเด็กแต่โดยดี ปล่อยให้แสงจันทร์นวลสาดส่องระเบียงที่ว่างเปล่าเบื้องหลัง ประตูห้องนอนปิดลงเบาๆ ทิ้งความเหนื่อยล้าและปัญหาต่างๆ ของโลกภายนอกไว้ข้างนอก ค่ำคืนนี้เป็นเวลาของพวกเขา...เวลาที่จะเติมเต็มความรักให้แก่กันและกัน ยืนยันว่าแม้ชีวิตคู่จะมีบททดสอบ แต่ความผูกพันและความปรารถนาที่พวกเขามีต่อกันนั้น...ยังคงคุกรุ่นและไม่เคยจางหายไปไหน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ปวีญา...ฉันรักเธอ   ตอนพิเศษ 3 : บททดสอบของหัวใจ

    เวลาผ่านไปอีกราวสองปี น้องอุ้มบุญ กันยกร ในวัยสามขวบ กำลังอยู่ในช่วงวัยแห่งการเรียนรู้และพลังงานอันล้นเหลือ บ้านหลังใหญ่ของเจนรบและปวีณาที่เคยมีแต่ความสงบ (หรือความหวานชื่นของคู่รัก) บัดนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เสียงร้องไห้ เสียงเรียก “พ่อจ๋า” “แม่จ๋า” และเสียงวิ่งตึงตังของเจ้าตัวเล็กที่พร้อมจะสำรวจโลกกว้างตลอดเวลาเช้าวันเสาร์ เจนรบในวัยใกล้จะเกษียณอายุราชการ ถ้าหากเขารับราชการ แต่ในความเป็นจริงคือทนายความอาวุโสชื่อดังวัย 56 ปี ตื่นขึ้นมาด้วยเสียงเล็กๆ ที่ดังอยู่ข้างเตียง“พ่อจ๋า...ตื่น...เล่น...” น้องอุ้มบุญในชุดนอนลายการ์ตูน กำลังใช้มือป้อมๆ เขย่าแขนพ่อปลุก ดวงตากลมใสแป๋วแหววไร้เดียงสา“อุ้มบุญเหรอลูก?” เจนรบลืมตาขึ้น ปากก็ยิ้มรับลูกสาว แต่ร่างกายกลับประท้วงเบาๆ ด้วยความปวดเมื่อยหลังจากโหมงานเอกสารและเตรียมตัวสำหรับรายการทีวีมาทั้งสัปดาห์ “จ๊ะลูก...พ่อตื่นแล้ว...แต่อุ้มบุญให้พ่อพักอีกแป๊บได้ไหมจ๊ะ?”“ม่ายอาววว...เล่นเยย...” เด็กน้อยไม่ยอมง่ายๆ เริ่มปีนขึ้นมาบนเตียง ทิ้งตัวลงบนอกพ่ออย่างแรง“โอ๊ย!! จุกนะลูก!!” เจนรบร้องเบาๆ แต่ก็อดหัวเราะไม่ได้ คว้าตัวลูกสาวมากอดฟัด จั๊กจี้จนเสียงห

  • ปวีญา...ฉันรักเธอ   ตอนพิเศษ 2 : หนึ่งปีแห่งความสุข

    เวลาหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านไปอย่างรวดเร็ว เผลอเพียงชั่วพริบตาเดียว นางฟ้าตัวน้อยของบ้านทนายเจนรบและปวีณา—เด็กหญิงกันยกร หรือน้องอุ้มบุญ—ก็อายุครบหนึ่งขวบพอดิบพอดี จากทารกน้อยที่นอนร้องไห้จ้าอยู่ในอ้อมแขน วันนี้กลายเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่เริ่มตั้งไข่ หัดเดินเตาะแตะ และส่งเสียงอ้อแอ้เรียก “ป้อ” “แม่” ได้เป็นคำๆ สร้างความสุขและความมีชีวิตชีวาให้กับบ้านหลังใหญ่ที่เคยเงียบเหงาได้อย่างน่าอัศจรรย์“ป้อ!! ป้อ!! แม่!!”“น่ารักน่าชังจริง ๆ ลูกพ่อ!!”“หนึ่งขวบแล้วน๊า น้องอุ้มบุญ!!”เช้าวันเกิดขวบปีแรกของน้องอุ้มบุญอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของแพนเค้กฟักทองเนื้อนุ่มที่ปวีณาตั้งใจทำให้ลูกสาวเป็นมื้อพิเศษ เจนรบนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร สายตาจับจ้องมองสองแม่ลูกด้วยแววตาที่เปี่ยมสุข หนึ่งปีที่ผ่านมา เขาแทบไม่เชื่อว่าชีวิตของตัวเองจะเปลี่ยนแปลงไปได้มากขนาดนี้ จากทนายความผู้เคยใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว มีแต่งานเป็นเพื่อน ตอนนี้เขากลายเป็น “พ่อ” เต็มตัว เป็นสามีของหญิงสาวที่เขารักสุดหัวใจ และเป็นโลกทั้งใบของเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังใช้มือเล็กๆ พยายามหยิบแพนเค้กเข้าปากอย่างเงอะงะ“ค่อย ๆ ซิจ๊ะลูกแม่ เลอะหมดแล้วเห็นไหม” ปวี

  • ปวีญา...ฉันรักเธอ   ตอนพิเศษ 1 : ความสุขที่รอคอย

    พาดหัวข่าวตัวไม้บนหน้าหนังสือพิมพ์บันเทิงหลายฉบับ และฟีดข่าวที่ร้อนแรงในโลกโซเชียลมีเดีย ต่างประโคมข่าว ‘วิวาห์หวานชื่น…ทนายดังต่างวัยคว้าลูกสาวเพื่อนสนิทเข้าประตูวิวาห์’ ภาพของเจนรบ ทนายความชื่อดังขวัญใจคนยากจน วัย 54 ปี ในชุดสูทสีขาวสะอาดตา ยืนเคียงข้าง ปวีณา เจ้าสาวแสนสวยวัย 22 ปี ทายาทคนเล็กของนักธุรกิจรีสอร์ตหรูแห่งเชียงเหนือ ในชุดไทยล้านนาประยุกต์อันงดงาม กลายเป็นประเด็นทอล์คออฟเดอะทาวน์เพียงชั่วข้ามคืนคอมเมนต์หลั่งไหลเข้ามามากมายราวกับสายน้ำหลาก บ้างแสดงความยินดี บ้างตั้งคำถามถึงความเหมาะสม บ้างก็อดอิจฉาเจ้าบ่าวสูงวัยที่ได้ภรรยาสาวสวยราวกับนางฟ้ามาครองไม่ได้“อิจฉาคนแก่ว่ะ! มีดีอะไร สาวสวยถึงได้ยอมแต่งด้วย?”“สายเปย์รึเปล่า? แต่บ้านฝ่ายหญิงก็รวยนะ”“ไม่แน่...ฝ่ายชายอาจจะเกาะฝ่ายหญิงก็ได้ ใครจะรู้”“หรือว่าเขารักกันจริงๆ ความรักมันไม่เกี่ยวกับอายุหรอกน่า อย่าคิดอกุศลเลย”เจนรบและปวีณาเตรียมใจรับมือกับกระแสสังคมเหล่านี้ไว้แล้ว ทั้งคู่เลือกให้สัมภาษณ์กับสื่อเพียงไม่กี่แห่งเท่าที่จำเป็น โดยเน้นย้ำถึงความรักความเข้าใจที่ทั้งสองมีให้กัน และการยอมรับจากครอบครัวทั้งสองฝ่าย พวกเขาไม่ได

  • ปวีญา...ฉันรักเธอ   ตอนที่ 10 : เข้าถ้ำเสือ

    “ทำไมหนูไม่บอกพ่อกับแม่ล่ะว่าจะทำงานอยู่กรุงเทพ?” เจนรบเอ่ยปากถามปวีณา“หนูบอกแล้ว แต่พ่อกับแม่ไม่ยอม” ปวีณาตอบ “ลุงจะให้หนูทำยังไงละคะ?”ปวีณาบอกกับเจนรบว่าหลังจากเรียนจบปริญญาตรีแล้ว ภาคภูมิและปิยะวรรณเรียกเธอกลับไป ช่วยงานธุรกิจรีสอร์ตทางบ้านที่เชียงใหม่ระหว่างรอรับปริญญาตรีและไปเรียนต่อปริญญาโทที่ อเมริกา เจนรบเริ่มรู้สึกว่ามันคือแผนการที่เพื่อนรักทั้งสองคิดเอาไว้ คือไม่ปฏิเสธ การคบหากันของเจนรบและปวีณา แต่จะใช้วิธีแยกให้คนทั้งคู่ห่างกันไปเรื่อยๆ จนท้ายที่สุดเจนรบและปวีณาก็ห่างจนต่อกันไม่ติดในวันสุดท้ายก่อนออกเดินทาง ภาคภูมิส่งคนมาช่วยขนของกลับบ้านที่เชียงใหม่ และไม่เปิดโอกาสให้ปวีณาได้ร่ำลาเจนรบ ทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว ช่วงเวลาที่แสนหวานของเจนรบและปวีณากำลังจะจบลง แต่โชคยังดีที่มีสื่อโซเชียล เลยทำให้เจนรบและปวีณาได้พูดคุยกันผ่านทางไลน์ เด็กสาวบอกกับเจนรบว่าพ่อกับแม่ต้องการให้เธอไปช่วยงานธุรกิจที่บ้านระหว่างรอรับปริญญา“ลุงจอม…” ปวีณาไลน์คุยกับเจนรบ “หนูว่าพ่อกับแม่กำลังพยายามกีดกันหนูจากลุง”“ไม่ต้องกลัวนะปลา” เจนรบไลน์ตอบ “ลุงจะขึ้นไปเชียงใหม่อีกครั้ง ไปคุยกับไอ้ภาคและเปิ้ล ลุง

  • ปวีญา...ฉันรักเธอ   ตอนที่ 9 : อยากรักก็ต้องเสี่ยง

    ตอนนี้ปวีณากำลังศึกษาอยู่ในคณะนิเทศศาสตร์ สาขาการประชาสัมพันธ์ในชั้นปีที่สี่ อีกแค่เพียงปีเดียวเท่านั้น สาวน้อยก็จะเรียนจบในระดับชั้นปริญญาตรี และเตรียมพร้อมสู่การเดินทางไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกาภาคภูมิและปิยะวรรณตัดสินใจครั้งสำคัญด้วยการยอมเปิดทางให้เจนรบและปวีณาได้คบหากัน พอได้รับไฟเขียวจากเพื่อนรักและอดีตแฟนเก่าเช่นนั้น เจนรบก็รับปากว่าจะขอดูแลลูกปลาเป็นอย่างดี และจะรอคอยจนกว่าเธอจะเรียนจบปริญญาโท เมื่อถึงตอนนั้น คู่สามีภรรยาทั้งสองถึงจะยินยอมให้เจนรบและปวีณาได้ครองคู่กันฟังดูความรักระหว่างเจนรบและปวีณากำลังไปได้สวย แต่ว่าด้วยระยะทางและภาระหน้าที่ของแต่ละคน เจนรบวุ่นวายกับการเดินทางไปถ่ายทำรายการกฎหมายน่ารู้ทางโทรทัศน์ และล่าสุดเจนรบได้เปิดช่องยูทูบเพื่อทำเรื่องราวเกี่ยวกับกฎหมายเพื่อให้ความรู้ผู้คนทั่วไปเพื่อหารายได้เสริม ส่วนหนังสือกฎหมายที่เพิ่งตีพิมพ์ ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากคนอ่าน ด้วยภาษาเขียนที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย ก็เลยทำให้หนังสือกฎหมายของเจนรบได้รับการตีพิมพ์เป็นครั้งที่สองและสามตามลำดับฝ่ายเจนรบเอง ก็ครุ่นคิดว่าช่วงนี้แทบไม่ได้เจอปลาเลย งานของเขาก็ยุ่ง ส

  • ปวีญา...ฉันรักเธอ   ตอนที่ 8 : เงื่อนไขของพ่อกับแม่

    หลังจากสอบเสร็จปลายภาคในช่วงชั้นปีที่สาม เจนรบตัดสินใจแล้วว่าเขาจะไม่รอให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์อีกต่อไป หนุ่มใหญ่ตัดสินใจเดินทางจากกรุงเทพมหานครมุ่งตรงสู่เชียงใหม่ เพื่อพูดคุยกับเพื่อนรักทั้งสองอย่างตรงไปตรงมาเสียที“ลุงจอม? ไหนลุงว่าจะรอให้หนูเรียนจบปริญญาตรีก่อนไง?” ปวีณาที่กลับเชียงใหม่ไปก่อนแล้วถึงกับตกใจ เมื่อทราบข่าวว่าลุงจอมตัดสินใจจะเดินทางตามมาด้วยเพื่อพูดคุยกับภาคภูมิและปิยะวรรณถึงเรื่องขอหมั้นหมายกับเธอก่อน “ถ้าพ่อกับแม่หนูรู้ หนูตายแน่!!”“ไม่ต้องกลัวหรอก ลุงคิดว่าไอ้ภาคกับเปิ้ลน่าจะมีเหตุผลพอ” เจนรบตอบ ขณะกำลังเตรียมขึ้นเครื่องบินที่สนามบินดอนเมือง “แค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวลุงต้องขึ้นเครื่องก่อน แล้วเจอกันที่เชียงใหม่นะคนดีของลุง”สุดท้ายปวีณาก็ไม่อาจทัดทานความต้องการของเจนรบได้ สาวน้อยเลยเอาเรื่องนี้ไปคุยกับปิยะวรรณผู้เป็นแม่ ที่รับรู้ทุกอย่างและมีเหตุผลมากพอที่จะรับฟังเธอ“มีอะไรเหรอจ๊ะปลา?” ปิยะวรรณที่กำลังง่วนอยู่กับการตรวจเอกสารในห้องทำงานของตัวเองเอ่ยปากถามลูกสาว“เอ่อ…หนูมีเรื่องสำคัญจะมาบอกแม่ค่ะ” ปวีณาเดินเข้ามาด้วยท่าทีอ้อยอิ่ง ก่อนทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status