Share

6 โจรร้ายในหออิงถง (3)

Author: I-KYEOM
last update Last Updated: 2025-07-14 19:07:17

“ว่าอย่างไรพี่ชาย” เสียงของเสวี่ยเหมยเรียกสติชายหนุ่มที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ขึ้นมา

“น้องชายเข้าใจผิดแล้ว พี่ชายเพียงเห็นว่าลูกแมวพวกนี้น่าสนใจนัก จึงอยากจะลองเข้ามาจับดูเท่านั้น ผู้ใดจะคิดว่าจะเจอหนุ่มน้อยมาชี้กล่าวหาว่าข้าเป็นโจรเสียได้” เขากล่าวเสร็จก็ปลดพันธนาการบนข้อมือนางออก ให้นางได้เป็นอิสระสักครู่

“แมว?” นางก้มมองดูด้านล่าง ในส่วนลึกติดผนังของซอกบันไดมีลูกแมวอยู่ประมาณสามสี่ตัว ที่กำลังเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างสบายอารมณ์อยู่

ฉับพลันนั้นนางก็ร้อง อ้อ ออกมาคำนึง

“นับว่าเข้าใจพี่ชายผิดแล้ว ผู้น้อยขออภัย” นางยกมือคารวะเขาทำท่าทางเลียนแบบประสานมือเคารพเหมือนอย่างที่เคยเห็นบุรุษนอกบ้านทำกัน จนชายหนุ่มที่ได้เห็นเปลี่ยนสีหน้าเป็นแดงคล้ำเพราะจะกลั้นอารมณ์ขันออกมาไม่ไหว

ยามที่นางกล่าวเสร็จและจะสะบัดหน้าเดินออกมานั้น ‘พี่ชาย’ ตรงหน้ากลับดันนางเข้าไปข้างในจนลึกชิดตัวผนัง ข้างเท้าของนางมีลูกแมวสี่ตัวนอนเรียงกันอยู่ กลายเป็นว่านางต้องมาอยู่ใต้ร่างสูงอีกครั้ง มือน้อยๆ สองข้างถูกแขวนตรึงเหนือหัว และร่างใหญ่ค่อยๆ เขยิบหน้าเข้ามาใกล้ๆ นางเห็นท่าจะไม่ดีขึ้นมาแล้ว มิใช่ว่าบุรุษตรงหน้านี้ชอบตัดแขนเสื้อ4รักเพศเดียวกันหรอกนะ!

“จะ จะทำอันใด”

ชายหนุ่มเห็นร่างน้อยตรงหน้าสั่นไหวเบาๆ จึงอดยิ้มออกมาไม่ได้ ตอนนี้คนทั้งสองอยู่ลึกใต้บันได นับว่ามืดมากทำให้เขานึกเสียดายที่ไม่ได้เห็นดวงหน้าของนางยามนี้

“ไม่ต้องให้ข้าบอก เจ้าก็น่าจะรู้” เสียงกระซิบแหบพร่าแผ่วเบาดังอยู่ข้างหูนาง ทำให้ขนน้อยๆ ที่น่าสงสารทั่วเนื้อผิวนวลเนียนลุกชันขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ เดิมทีเขาแค่จะเย้าแหย่นางเล่นเท่านั้น แต่ก็นึกอยากจะเอาจริงขึ้นมาเสียได้

ไม่ได้...ตอนนี้คนงามน้อยของเขาอายุเท่าไหร่กันเชียว

ดังสวรรค์ได้ยินคำถามของเขา ถัดจากนั้นก็ได้ยินหญิงสาวเอ่ยเสียงใสอย่างสั่นเครือออกมา “มะ ไม่ดีกระมังพี่ชาย ผู้น้อยเพิ่งอายุสิบสี่ ทั้งยัง... ทั้งยัง...”

เสวี่ยเหมยพูดเสียงตะกุกตะกักจะให้นางกล่าวออกไปจริงใช่หรือไม่ มันจะน่าขายหน้าเกินไปหรือไม่ แต่หากพูดออกมาแล้ว เขาอาจจะใจอ่อนยอมปล่อยนางไปก็ได้!

“หืม?” ชายหนุ่มร่างใหญ่ส่งเสียงถามอย่างสนอกสนใจ

ก็ได้ ในเมื่อบีบคั้นนางเช่นนี้ นางจะไม่เกรงใจสวรรค์แล้ว “...ทั้งยังไม่เคยเปิดก้นให้ใครดู!!”

นางพูดออกไปแล้ว!

เสวี่ยเหมยรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว และบัดนี้ก็รับรู้ได้ว่าชายตรงหน้านางเองก็ชะงักค้างไปพร้อมๆ กันด้วย แรงที่กักขังข้อมือน้อยจึงอ่อนแรงลงไป นางที่พยายามดิ้นสะบัดมือให้หลุดอยู่ตลอดเวลานั้นจึงได้พลันร่วงหล่นลงมาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว

ไม่จริงกระมัง... ตอนนี้เจ้ามือไม่รักดีดันทำเรื่องน่าอับอายเสียยิ่งกว่าแล้ว มือนวลขาวของเสวี่ยเหมยไปกระทบโดนสิ่งหวงแหนของพี่ชายตรงหน้าเสียเต็มแรง นางยิ่งไม่กล้าชักมือกลับคืนมา เนื่องจากตกใจจนทำตัวไม่ถูก นางเพียงได้ยินเสียงคนบนร่างครางแผ่วออกมาเบาๆ เท่านั้น ทันใดนั้นนางก็รับรู้ถึงสิ่งเปลี่ยนแปลงที่ค่อยๆ เติบโตขึ้นอย่างช้าๆ ใต้นิ้วมือเล็กๆ แทน ระหว่างที่ตกใจเพราะมันเปลี่ยนไปนั้น นางตั้งใจจะชักมือกลับเขากลับคว้าข้อมือนางไว้ค้างนิ่ง

“อย่าขยับ” เขาโน้มกายลงมากระซิบเสียงออดอ้อน พอได้ยินเขาขอร้องเช่นนี้สองแก้มก็ร้อนผ่าวขึ้นดั่งไฟสุม หากนางวิ่งออกไปยามนี้ ผู้ใดพบใบหน้านางเช่นนี้เข้าคงจะคิดเป็นเรื่องดีๆ ไม่ได้

นางเห็นว่าสถานการณ์ยุ่งเหยิงไปหมดอดขยับปากบางเล็กเอ่ยขึ้นมาอย่างรีบร้อน “พี่ชาย...ผู้น้อยไม่ได้นิยมตัดแขนเสื้อ!”

เขาหัวเราะเบาๆ แล้วตอบกลับมาเสียงราบเรียบ “พี่ชายเช่นข้าจดจำไว้แล้ว” มุมปากชายหนุ่มยิ้มขึ้นอย่างลำพอง พร้อมกับเสียงถอนหายใจโล่งอกของคนใต้ร่าง จึงอดกล่าวต่อไปไม่ได้ว่า “...น้องสาว”

นางแทบจะหยุดหายใจอีกครั้ง เขารู้! และน่าจะรู้ตั้งแต่แรก แต่กลับกล้าล่วงเกินนางเช่นนี้ บุรุษสตรีมิควรอยู่กันตามลำพังหากยังไม่ได้ออกเรือน ใบหน้านางแดงขึ้นมาอีกครั้ง แต่ไม่ได้แดงขึ้นมาเพราะความขวยเขิน มันเต็มไปด้วยอารมณ์บางอย่างที่อัดแน่นจวนจะระเบิดอยู่แล้ว

เพียะ!

ชายหนุ่มหันหน้าไปอีกทางตามแรงฝ่ามือของแม่นางน้อยตรงหน้า เขาทำนางโกรธเสียแล้ว…

เมื่อเสียงตบดังขึ้น เขาก็ได้ยินเสียงใสๆ คล้ายกระดิ่งกระทบลงบนพื้นไปพร้อมกัน เสียงตบดังชัดเจน ทว่า กลับไม่ได้ทำให้ใครได้ยิน ฝ่ามือแม่นางน้อยแรงยิ่งนัก ไม่คิดจะเบามือให้พี่ชายเช่นเขาหน่อยหรือ ซ้ำนางยังลืมว่าก่อนหน้านี้มือที่บอบบางนี้กอบกุมสิ่งใดไว้อยู่ พอนึกถึงตรงนี้เขากลับยิ้มแป้นมีความสุขมองข้ามหน้าตาบูดเบี้ยวของคนงามน้อยไปจนสิ้น

“ขออภัยพี่ชาย... น้องสาวเพียงแค่ปัดไปโดนเท่านั้น ขอตัว”

“รอเดี๋ยว”

เสวี่ยเหมยหยุดนิ่งสักพัก แต่คิดถึงเหตุการณ์ต่างๆ เมื่อครู่นางก็วิ่งสะบัดก้นงอนหนีออกไปอย่างหัวฟัดหัวเหวี่ยง

เขาเดินตามนางออกมาจนพอจะเห็นแสงที่สาดส่อง เมื่อกี้บุรุษหนุ่มก้มหยิบกำไลที่ตกพื้นขึ้นมานึกจะคืนให้นาง แต่นางไม่รอเสียนี่ เขาเพ่งมองจี้หยกสีนิลของกำไลเห็นอักษรที่สลักล้อมรอบว่า ‘เสวี่ย’ และรอบตัวกำไลสอดแทรกไปด้วยกระดิ่งเงินเล็กๆ

“นี่คือการตอบแทนน้ำใจจากแรงตบหรือ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเบาๆ มุมปากบางพลันยิ้มขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ จู่ๆ รอยยิ้มกลับตึงค้าง

โอย...ลืมเสียสนิท เขาเพิ่งถูกตบมาซะแรง แม่นางน้อยไม่ออมมือให้กันขนาดนี้เชียว


4 นิยมตัดแขนเสื้อ คือ ชายรักชาย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ปาฏิหาริย์รัก ชายาข้ามภพ   ตอนพิเศษ ๒

    หลังจากเหตุการณ์นองเลือดในจวนแม่ทัพสือจบลงชินอ๋องก็ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน กำราบชนเผ่าหลาเหม่าจนสิ้น ไม่ให้เหลือรอดมีชีวิตแม้แต่คนเดียว องค์หญิงฝานฮุ่ยเองก็ไม่กลับวังหลวงของแคว้นตัวเองแต่เลือกที่จะอยู่เป็นฮูหยินแม่ทัพอยู่ที่เมืองเหอเถิงชินอ๋องหนุ่มกลับจวนมายามใดเป็นอันต้องกรอกสุราเข้าปากไม่จบไม่สิ้น บางวันถึงขั้นไม่อาบน้ำนอนอยู่ศาลาที่มีหิมะตกลงมาเป็นสาย หมัวมัวและเสี่ยวจูที่ยังร้องจนสองตาปูดบวมอยู่ก็ยิ่งร้องหนักเข้าไปอีกที่ชินอ๋องเป็นเช่นนี้พระชายาจากไปแล้วไม่หวนกลับ นี่คือเรื่องจริง...หลิงหมัวมัวอุ้มเสี่ยวซื่อจื่อน้อยไว้อย่างดี เด็กน้อยไม่รู้สักนิดว่ายามนี้จวนแห่งนี้กำลังอยู่ในบรรยากาศโศกเศร้า ได้แต่หัวเราะคิกคักชี้ดอกเหมยที่ปลิวไปมาตามสายลมดอกเหมยกลีบหนึ่งร่วงลงมาสัมผัสบนใบหน้าชินอ๋องที่กำลังสะลึมสะลืออยู่ ฉับพลันน้ำตาเขาก็ไหลลงมาไม่หยุด ดอกเหมยกลีบนี้เสมือนภรรยาเขาที่กำลังมาปลอบโยนเขาเช่นทุกครั้ง แต่ดอกเหมยกลีบนี้กลับไม่อบอุ่นเหมือนอ้อมกอดของนางสักนิดไม่มีนางเขาอยู่ไม่ได้ ขอแค่คืนนางกลับมา...“คืนนางมาให้ข้า...” เสียงแหบแห้งแทบไม่ได้ศัพท์ร้องบอกเบื้องบนหวังว่าจะมีสักคนที่ไ

  • ปาฏิหาริย์รัก ชายาข้ามภพ   ตอนพิเศษ ๑

    ในฤดูร้อนที่เมืองหมานของอาณาจักรแคว้นฝูหยวนคนต่างเมืองมักจะชอบมาเที่ยวกันจนเมืองหมานที่ใหญ่เกือบเท่าเมืองหลวงแออัดไปในทันที เสวี่ยเหมยที่ยามนี้เพิ่งจะห้าขวบแอบหนีออกมาเที่ยวเล่นครั้งแรกเพื่อเปิดหูเปิดตาบ้าง ผู้ใดใช้ให้จางเหว่ยกับจางเหล่ยทิ้งนางไปฝึกวรยุทธ์กัน ส่วนซิงซิงเองก็ทอดทิ้งนางไปปักผ้าอะไรก็ไม่รู้ เมื่อสาวใช้ผู้นั้นมาส่งนางในห้องแล้วทำเป็นกล่อมนางเข้านอน นางแค่แกล้งหลับตาซิงซิงก็ติดกับแล้ว!เสวี่ยเหมยแอบหยิบถุงเงินที่ท่านตาชอบมอบให้เวลาไปเยี่ยมบ้านนู้นที่นางซุกซ่อนไว้อย่างดีออกมาด้วย นางมองเห็นร้านขนมน้ำตาลปั้นมาแต่ไกล สองตาเล็กก็ลุกวาวด้วยความอยากกินมานาน อยู่ในจวนซิงซิงมักสั่งห้ามนาง บอกว่าเป็นสตรีกินเดือนละครั้งก็พอ ไม่อย่างนั้นสุขภาพฟันจะไม่ดีนางรู้วิธีรักษาหรอก! บังอาจมาบังคับให้เด็กอายุห้าขวบเช่นนางงดกินของโปรดงั้นหรือแต่ใกล้ๆร้านนั้น กลับมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนเหม่อลอยอยู่ สายตาของเขากวาดมองผู้ใดอยู่นางก็ไม่อาจรู้ได้ แต่ก็ยอมมองตามเขาก่อนจะพบว่าเขามองผู้คนถือขนมแล้วกินกันอย่างเอร็ดอร่อยอยู่ช่างน่าสงสารนัก!“ท่านลุงๆ เอาขนมรูปกระต่ายสองไม้เจ้าค่ะ” พ่อค้าขายขนมได้ยินแต่เ

  • ปาฏิหาริย์รัก ชายาข้ามภพ   80 ดอกเหมยหิมะที่บานอยู่กลางใจ END

    เมื่อรถม้าเคลื่อนมาถึงจวนแม่ทัพ เสวี่ยเหมยที่นั่งอยู่ในรถม้าเพียงคนเดียว ก้าวลงมาช้าๆ เหมือนเหตุการณ์เดิมทุกอย่างขาดแค่บุรุษเคียงข้างกายเท่านั้น ยามนี้เขาอยู่ซุ่มรอโจมตีกับพวกทหารในใต้บังคับบัญชา แอบแฝงตัวอยู่รอบจวนแม่ทัพโดยที่ซ่อนตัวอย่างดีไม่ให้ใครได้รู้“เกี้ยวแต่งงานขององค์หญิงฝานฮุ่ยแคว้นชุนไห่เสด็จมาถึงแล้ว!”เสวี่ยเหมยมองไปยังขบวนยาวเหยียด ที่ยามนี้เจ้าสาวในเกี้ยวโผล่หัวออกมามองด้านนอกอย่างกับเด็กซนๆ ผู้หนึ่ง สือหลุนอี้ไม่ได้ผงะให้กับเจ้าสาวของเขาอีกต่อไปแต่ทว่าดวงตาบุรุษฉายแววมีความสุขและความอาลัยจนมากล้น“เซียนข้าว!!” ฝานฮุ่ยเห็นร่างที่คุ้นเคยผ่านผ้าคลุมสีแดงผืนบาง แม้ว่าอีกฝ่ายจะสวมผ้าคลุมอยู่นางก็จำสหายได้ เพราะอยู่ด้วยกันมานานเกือบสามเดือน จึงโบกมือให้นางมาแต่ไกล “ข้าอึดอัดจะแย่!”“กลับเข้าไปซะ!” หญู๋เติ้งข่านบังคับม้ามาข้างเกี้ยว ดันหัวน้องสาวกลับเข้าไปตามเดิม นางอายุสิบเก้าแล้วแท้ๆ ยังดื้อดึงไม่เปลี่ยนเลยสักนิดนางมองเหตุการณ์ที่ดำเนินไปอย่างเหมือนเดิมทุกอย่างเงียบๆ ขอแค่ผ่านตรงนี้ไปได้ทุกคนจะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ขอแค่ผ่านมันไปได้ก็พอหลังจากผ่านพิธีกราบไหว้ฟ้าดินแล

  • ปาฏิหาริย์รัก ชายาข้ามภพ   79 ดอกเหมยหิมะที่บานอยู่กลางใจ (1)

    เสวี่ยเหมยพิจารณาชายหนุ่มอย่างละเอียดอีกครั้งแต่ดูแล้วเขาไม่ได้มีท่าทีสนิทกับนางเลยสักนิด อาจจะพูดว่าทำตัวห่างไกลเสียด้วยซ้ำ แถมแววตาก็ดูมีความเคารพนางเสียส่วนใหญ่ไม่ใช่!หากเป็นเขาจะต้องเรียกนางอย่างอ่อนโยนว่าเหมยเอ๋อร์ เขาไม่เคยเรียกชื่อนางลักษณะนี้ด้วยซ้ำนอกจากเวลาโกรธ แววตาคู่นั้นก็ไม่ได้มองมาราวกับรักนางอย่างลึกซึ้งเช่นเขา แต่แล้วพอชายหนุ่มตรงหน้าค่อยๆ ถอดผ้าปิดปากออกเผยให้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยนั้นนางก็แทบจะสลบไปทันที“แม่ทัพสือ”นางจำได้แล้ว! ชายที่ถูกรถชนพร้อมกับนางเป็นเขาย่อมไม่ผิดแน่ ยามนั้นนางเห็นเขาสวมผ้าปิดปากเช่นตอนนี้ แต่ว่าตอนนั้นทั้งคู่ก็สองตาพร่ามัวล้วนจำใบหน้ากันไม่ได้ แต่ยามนี้พอได้เห็นอีกฝ่ายที่เคยพบกันในแคว้นฝูหยวนต่างก็เดาเรื่องราวและจำกันได้ทันทีทั้งสองจึงหาที่นั่งคุยกันพร้อมกับเปิดใจหาคนรักที่โลกอีกโลกหนึ่ง นางได้ยินสือหลุนอี้เล่าว่าเขาเป็นเพียงพ่อครัวคนหนึ่งเท่านั้น แต่ว่ากลับชอบมีแฟนคลับมากมายมาล้อมหน้าล้อมหลังเสมอ จนเขาต้องสวมผ้าปิดปากไว้ไม่ให้เด่นจนเกิดไป พอกลับมาโลกเดิมเขาวิ่งมาที่ขายไอศกรีมเป็นที่แรกแต่พบว่ามันไม่มีเหตุการณ์เหมือนเดิมแล้ว เขาอยากกลับไปห

  • ปาฏิหาริย์รัก ชายาข้ามภพ   78 การพลัดพรากเป็นสิ่งที่ทรมานที่สุด... (3)

    “ไม่!” เสวี่ยเหมยหายใจเฮือกใหญ่แล้วสะดุ้งตื่นขึ้นมา ทว่าตัวนางในยามนี้กำลังอยู่บนเครื่องบิน! ไม่ถูก นี่มันไม่ถูกต้อง“ลิสา อย่าเสียงดัง ทำไมถึงร้องไห้ล่ะ ฝันร้ายหรือ” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งสะกิดไล่นางเบาๆ แต่ว่าทำไมช่างดูคุ้นตาเหลือเกิน ไม่จริง! นี่มันไม่จริงล่ะมั้ง“ผิง”เสียงเอ่ยตอบเพื่อนสาวแผ่วเบาออกมาจากปากเล็ก รูปร่างหน้าตาทุกอย่างเหมือนกับเสวี่ยเหมยในแคว้นฝูหยวนทุกอย่าง แต่นางไม่เข้าใจว่าทำไมหน้าตาเช่นนี้จึงกลายเป็นโฉมสะคราญในโลกยุคนั้นได้ ทั้งที่ยุคสมัยปัจจุบันนี้คนหน้าตาสวยกว่านางมีมากถมไป“ไม่สบายเหรอ” ขนมผิงรีบเอามือแตะหน้าผากตัวเธอแล้วก็เพื่อนสาวที่ร้องไห้ออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยไปพร้อมกัน “ตัวไม่ร้อนนี่นา”เสวี่ยเหมยได้แต่คิดว่าหรือเรื่องทั้งหมดนางแค่ฝันไป หากแต่ถ้าเป็นความฝันไยต้องร้องไห้ออกมาทันทีที่ตื่น หากเป็นความฝันไยต้องเจ็บหน้าอกที่ถูกธนูยิงผ่านไม่จางหาย หากเป็นความฝันใช่ว่านางจะติดอยู่ยาวนานตั้งแต่เกิดจนอายุยี่สิบปีเชียวหรือ! มันย่อมไม่ใช่ความฝัน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นคือเรื่องจริง เพียงตื่นขึ้นมาก็เกือบจะจำสหายทั้งสามคนไม่ได้แถมนางยังฟังภาษาของนักเรียนแลกเปลี่ยนที่เ

  • ปาฏิหาริย์รัก ชายาข้ามภพ   77 การพลัดพรากเป็นสิ่งที่ทรมานที่สุด... (2)

    เผลอครู่เดียวฤดูเหมันต์จะผ่านไปอีกแล้วเสวี่ยเหมยนั่งอยู่ในรถม้าคันใหญ่พลันคิดเงียบๆ ผู้เดียว เวลาผ่านไปรวดเร็วนัก ทั้งที่เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นมานานแล้ว แต่นางก็รู้สึกว่ามันดำเนินไปเร็วจริงๆเส้นทางคดเคี้ยวไปมาก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงหน้าจวนหลังใหญ่ที่ประดับด้วยผ้าแดงมงคลเต็มไปหมด แม่ทัพสือหลุนอี้แต่งอาภรณ์สีแดงยืนอยู่หน้าจวนแม่ทัพ เวลาผ่านมาเพียงสองปีแต่รูปร่างเขากลับกำยำขึ้นมาไม่น้อยหิมะขาวโพลนตกลงมาไม่หยุด ทั้งที่ปีก่อนปลายเหมันต์หิมะก็เริ่มเบาบางลงมาแล้ว ชินอ๋องหนุ่มนั่งกอดภรรยาที่เหม่อลอยครุ่นคิดสิ่งใดอยู่ไม่รู้ แต่เขาก็ไม่อยากไปรบกวนนางได้แต่ตระกองกอดไว้แนบแน่นให้ความอบอุ่นผ่านกายใหญ่ไปสู่กายเล็กแสนบอบบาง“หรงจวิ้น เราก็ลงกันเถอะ” นางได้สติก่อนจะหันไปหาสามีที่นัยน์ตาเริ่มทอประกายเร่าร้อนขึ้นมา เสวี่ยเหมยจึงรีบตัดความคิดเขาทันที “ลงกันเถอะ!”“เมื่อครู่จะเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่แล้ว แต่ถูกเสี่ยวอี้ขัดขวางเสียได้” เขาพูดพร้อมกับใช้มือใหญ่ล้วงเข้าไปในอาภรณ์ร่างบาง นางสั่นสะท้านน้อยๆ ก่อนจะหันไปหาเขา ให้ชายหนุ่มเปิดผ้าคลุมครึ่งหน้าออกแล้วสอดเรียวลิ้นเย็นเฉียบเข้ามาในโพรงปากควานหาน้ำหวานใน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status