แต่คิดไม่ถึงว่าฉู่เฉินจะเป็นยอดฝีมือระดับสร้างรากฐาน “นะ...นายเป็นยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานเหรอ? ไอ้หนู ต่อให้นายอยู่ระดับสร้างรากฐานแล้วยังไง? สำนักอวี้ซือของฉันก็มีผู้อาวุโสระดับสร้างรากฐานอยู่สามคน!”“ถ้าเกิดนายกล้าแตะต้องฉันแม้เพียงเส้นผม สำนักอวี้ซือของฉันจะสู้กับนายให้ตายไปข้างหนึ่งแน่นอน!”เวลานี้อาจารย์จื่อหยางก็ตื่นตระหนกนิดหน่อยเช่นกันถึงอย่างไรเขาเป็นเพียงคนที่อยู่ระดับฝึกปราณขั้นแปดตัวเล็ก ๆ เท่านั้น เมื่อเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งระดับสร้างรากฐาน เขาย่อมต้องตายอย่างแน่นอนตอนนี้ทำได้เพียงอ้างสำนักของตัวเองมากดดันฉู่เฉินเท่านั้น โชคดีที่ฉู่เฉินรู้ถึงการมีอยู่ของสำนักอวี้ซือ เช่นนั้นน่าจะทราบดีว่าสำนักอวี้ซือก็มียอดฝีมือระดับสร้างรากฐานคอยรักษาการณ์อยู่สามคนหนึ่งต่อสาม ต่อให้ฉู่เฉินแข็งแกร่งอีกแค่ไหนก็ต้องตายสถานเดียว ตราบใดที่ฉู่เฉินไม่อยากตาย ก็ทำได้เพียงปล่อยเขาให้รอดไปได้ครบสามสิบสอง“ขอบอกข่าวร้ายอย่างยิ่งให้คุณฟังสักเรื่อง ต่อให้ไม่ฆ่าคุณ ผมก็มีความแค้นกับสำนักอวี้ซือของพวกคุณอยู่ดี”ฉู่เฉินหัวเราะหยัน ค่อย ๆ ชักกระบี่อ่อนออกมาจากเอวแล้วเอ่ยอย่างเรียบนิ่งว
“ไอ้หนู นายยังกล้าใช้ความรุนแรงขัดขืนอีกเหรอ?”ชายวัยกลางคนที่โดนเลือดสาดเต็มตัวถือโอกาสล้วงเอกสารรับรองออกมาโบกต่อหน้าฉู่เฉิน ชี้ไปที่คำว่าแก๊งมังกรด้านบนพลางกล่าวว่า “นายกล้าทำร้ายใครสักคน นายก็จะเป็นศัตรูกับทั้งประเทศ!”“ไม่ใช่แค่วงการต่อสู้เท่านั้น ยังมีวงการบำเพ็ญเพียรอีกด้วย ไม่ว่าใครก็มีสิทธิ์ฆ่านายได้!”เมื่อคำพูดนี้ออกมา กู้รั่วเสวี่ยก็รีบดึงแขนของฉู่เฉินไว้แล้วพูดว่า “ฉู่เฉิน อย่าวู่วามเด็ดขาดนะคะ พวกเขาเป็นคนของแก๊งมังกร!” “เรื่องนี้จะต้องได้รับการคลี่คลายแน่นอนค่ะ ตระกูลกู้ของพวกเราก็จะไม่นิ่งดูดายเหมือนกัน พี่อย่า...”กู้รั่วเสวี่ยตกใจกลัวจนหน้าซีดเผือดไปหมดแล้ว ขอเพียงฉู่เฉินฟันกระบี่ออกไป สมาชิกแก๊งมังกรสี่คนตรงหน้านี้ไม่พอให้เขาฆ่าเลยแต่ถ้าเป็นแบบนั้น ฉู่เฉินก็จะก่อหายนะครั้งใหญ่ขึ้นมาแล้วจริง ๆ นับตั้งแต่ก่อตั้งแก๊งมังกร ไม่ว่าจะเป็นวงการต่อสู้หรือว่าวงการบำเพ็ญเพียรล้วนยอมรับการปกครองของแก๊งมังกรโดยปริยาย แม้ว่าจะเป็นสำนักบำเพ็ญเพียรที่ยอดเยี่ยมอีกแค่ไหนก็ต้องให้ความเคารพต่อแก๊งมังกรไม่ว่าอย่างไรกู้รั่วเสวี่ยก็ไม่อยากให้ฉู่เฉินก่อปัญหาใหญ่โตแบบนี้เพร
สมาชิกแก๊งมังกรหลายคนถึงขนาดไม่มองฉู่เฉินอีกเลย ก่อนจะหันกายเดินออกจากห้องสอบสวน ฉู่เฉินลองขยับมือและเท้าหลังจากที่พวกเขาเดินจากไป แต่ว่าตอนนี้เองฉู่เฉินถึงค่อยพบว่าเก้าอี้สอบสวนของแก๊งมังกรเมืองหมอตูเป็นเก้าอี้ที่สร้างขึ้นมาเป็นพิเศษทั้งนั้นเลย นอกจากนี้ยังเป็นรุ่นพิเศษที่สร้างขึ้นเพื่อนักสู้และผู้บำเพ็ญเพียรโดยเฉพาะ ยิ่งเขาขยับมือและเท้า ตัวล็อกบนเก้าอี้ก็จะล็อกแน่นขึ้นยิ่งไปกว่านั้น ห่วงเหล็กยังถูกเคลือบด้วยวัสดุพิเศษหนึ่งชั้น ต่อให้เป็นฉู่เฉินก็ไม่สามารถฝืนหักมันได้เลย ซี้ด!ฉู่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ก้มหน้ามองใต้เท้าแวบหนึ่งแม้ว่าเก้าอี้ตัวนี้จะไม่ได้ยึดไว้อย่างแน่นหนามาก แต่ว่าตราบใดที่ฉู่เฉินไม่สามารถสลัดหลุดออกจากพันธนาการของเก้าอี้ตัวนี้ได้ ต่อให้เขาดึงเก้าอี้ทั้งตัวออกมาจากพื้นซีเมนต์ก็ไม่มีประโยชน์.....เวลานี้เอง ด้านนอกห้องสอบสวน ชายวัยกลางคนที่พาฉู่เฉินกลับมาเมื่อครู่นี้เช็ดคราบเลือดบนใบหน้าพลางเอ่ยว่า “หัวหน้าเสิ่นครับ ไอ้หมอนี่รับมือไม่ง่ายเลย”“เมื่อกี้ตอนที่พวกเราเพิ่งเข้าไปในห้องก็เห็นกับตาว่าเขาเอากระบี่ฟันอาจารย์จื่อหยาง คุณชายหลี่ก็บาดเจ็บไม่น้อยด้ว
อีกทางด้านหนึ่ง ทันทีที่กู้รั่วเสวี่ยออกจากตึกเถิงหลง เธอก็โทรศัพท์หานายท่านใหญ่กู้ทันที หลังจากที่เล่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเมืองหมอตูออกมาตามความเป็นจริง กู้รั่วเสวี่ยถึงค่อยเอ่ยด้วยความร้อนใจว่า “คุณปู่คะ ฉู่เฉินถูกคนของแก๊งมังกรพาตัวไปเพราะช่วยหนูไว้ ไม่ว่ายังไงก็ต้องช่วยเขาออกมาให้ได้นะคะ”ปลายสายโทรศัพท์มีเสียงถอนหายใจของชายชราดังเข้ามาก่อนจะเอ่ยว่า “ถ้าเกิดอยู่ที่เมืองหลวง ทุกอย่างคงจัดการได้ง่าย แต่ว่าเมืองหมอตูเป็นเขตอิทธิพลของตระกูลหลี่ อยากช่วยเหลือคนไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น”“แต่ในเมื่อเขาทำเพื่อช่วยเหลือตระกูลกู้ของพวกเรา ปู่จะยอมเสียหน้าแก่ ๆ นี้ลองขอร้องหลาย ๆ คนดูละกัน”นายท่านใหญ่กู้กล่าวจบก็วางสายโทรศัพท์ หลังจากวางสายโทรศัพท์ กู้รั่วเสวี่ยโทรศัพท์ติดต่อกันอีกหลายสาย เดิมทีอยากจะขอความช่วยเหลือจากพวกเพื่อน ๆ ทางฝั่งเมืองหมอตู แต่เมื่ออีกฝ่ายได้ยินว่าล่วงเกินตระกูลหลี่ พวกเขาก็วางสายโทรศัพท์ทันทีเกือบทุกคนเลย ตระกูลหลี่! นั่นเป็นหนึ่งในสองตระกูลใหญ่ของเมืองหมอตูเลยนะอย่าว่าแต่คนตัวเล็ก ๆ อย่างพวกเขาเลย ต่อให้เป็นตระกูลใหญ่บางตระกูลในเมืองหลวงก็ไม่ห
“โดยเฉพาะคุณหนูใหญ่กู้ ทำให้ผมต้องมองใหม่แล้วจริง ๆ” เมื่อได้ยินคำพูดที่แฝงไปด้วยการทิ่มแทงของหลี่เจี้ยนกั๋ว นายท่านใหญ่กู้ก็เอ่ยขอโทษติดต่อกันว่า “ประธานหลี่ ความจริงเรื่องนี้เกิดจากความเข้าใจผิดทั้งนั้น ขอเพียงประธานหลี่ให้ทางแก๊งมังกรของเมืองหมอตูปล่อยตัวคนได้ ตระกูลกู้ของผมยินดี...” “ปล่อยตัวคน? ฮ่า ๆๆ!”จิตสังหารพลุ่งพล่านในดวงตาสองข้างของหลี่เจี้ยนกั๋ว ก่อนที่เขาจะกัดฟันกล่าวว่า “กู้ฉางเหอ ตาแก่ใกล้ลงโลงอย่างคุณให้คนมาทำร้ายลูกชายผมจนใช้การไม่ได้ คุณแม่งยังจะให้ผมปล่อยตัวคนอีกเหรอ?!” “ตระกูลกู้ของพวกคุณรอจัดงานศพให้ไอ้เด็กนั่นเถอะ!” “อีกอย่าง หลานสาวของคุณก็อย่าหวังว่าจะรอดออกจากเมืองหมอตูไปได้เลย!”หลังจากที่ตวาดด้วยความโกรธเกรี้ยว หลี่เจี้ยนกั๋วก็วางสายโทรศัพท์ทันทีแล้วตะโกนไปทางด้านนอกประตูว่า “ใครก็ได้มานี่!”“ครับ!” ชายสวมชุดดำปราดเปรียวที่ดูเฉลียวฉลาดมากความสามารถผลักประตูเดินเข้ามาในห้องผู้ป่วย ก่อนจะเอ่ยอย่างนอบน้อมว่า “คุณหลี่!” “ให้เวลาพวกนายแค่หนึ่งชั่วโมง จับตัวยัยเด็กแซ่กู้คนนั้นไปที่วิลล่าอวิ๋นเชวี่ย!” หลี่เจี้ยนกั๋วกัดฟันตวาดอย่างเกรี้ยวกราด ใบหน้
บ้าไปแล้ว!ไอ้หมอนี่บ้าไปแล้วใช่ไหม?! สมาชิกชายสองคนของแก๊งมังกรที่อยู่ทางด้านข้างได้ยินคำพูดนี้ของฉู่เฉินก็พากันกลืนน้ำลายหนัก ๆ พวกเขาเห็นคนร้ายบ้าคลั่งที่ชั่วช้าเลวทรามมามากมาย แต่ยังไม่เคยเห็นใครกล้ายั่วยุเหลิ่งหนิงซวงในสถานการณ์แบบนี้เลย อย่าเห็นว่ารูปลักษณ์ภายนอกของเธอดูเซ็กซี่น่าหลงใหล แต่พอยัยนี่ลงมือขึ้นมากลับโหดเหี้ยมมากเลยนะ!ไม่นานมานี้ อาชญากรข้ามชาติคนหนึ่งก็ไม่เห็นเหลิ่งหนิงซวงอยู่ในสายตาเหมือนกับฉู่เฉิน ผลคือไม่ถึงสิบนาที เขาถึงขนาดร้องเรียกแม่คุณทูนหัวอ้อนวอนขอชีวิตแล้ว ต่อมา อาชญากรรมข้ามชาติคนนั้นก็ถูกหามขึ้นเปลออกไป ทั่วทั้งร่างแทบจะหากระดูกที่ครบสมบูรณ์ไม่เจอเลยสักชิ้น“คุณพูดว่าอะไรนะ?” เหลิ่งหนิงซวงหรี่ตาสวย ๆ เล็กน้อย จ้องมองฉู่เฉินอย่างคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม เดินอยู่บนรองเท้าส้นสูง ก้าวเรียวขายาวที่ขาวนวลดุจหิมะเดินไปหาฉู่เฉินอย่างช้า ๆ “คนสวย ขาคู่นี้ของคุณอย่างน้อยก็มีค่าห้าร้อยล้านเลยนะ”ฉู่เฉินมองเรียวขางามสุดขีดคู่นั้นของเหลิ่งหนิงซวงแล้วเอ่ยประเมินค่าด้วยความจริงใจ “จริงเหรอ?” รอยยิ้มของเหลิ่งหนิงซวงพลันแข็งทื่อ วินาทีต่อมา เธอก็ฟาดขาล
แส้หนังเส้นนี้ย่อมเป็นของวิเศษ เพียงแต่ฉู่เฉินยังมองระดับของมันไม่ออกอยู่ชั่วขณะ ถ้าเกิดโจมตีมาอีกครั้ง ฉู่เฉินไม่มีอะไรป้องกันได้แล้วหากโดนฟาดเข้าไปเต็ม ๆ นั่นก็คงได้ไม่คุ้มเสียแล้ว“อาชญากรฆ่าคนแย่งชิงทรัพย์อย่างคุณ ใกล้จะตายอยู่แล้วยังกล้าปากแข็งอีก!” เหลิ่งหนิงซวงกัดฟันกรอด ตะโกนด่าทอด้วยเสียงเย็นชา“คนสวย พูดจาต้องมีหลักฐานด้วยนะครับ ผมยังบอกได้เลยว่าคุณยั่วยวนผม แล้วคุณจะอธิบายว่ายังไง?”ฉู่เฉินมองเหลิ่งหนิงซวงอย่างเย็นชา เบ้ปากกล่าว “บังอาจ!” เหลิ่งหนิงซวงโกรธจนเจ็บหน้าอก จ้องมองฉู่เฉินอย่างเย็นชาพลางกล่าวว่า “กลางวันแสก ๆ ยังฆ่าคนมากมายในตึกเถิงหลง แถมทำร้ายคุณชายใหญ่ตระกูลหลี่อีก นี่ถ้าคุณไม่ได้ฆ่าคนแย่งชิงทรัพย์แล้วจะเป็นอะไร!”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฉู่เฉินก็หัวเราะเบา ๆ แล้วกล่าวว่า “งั้นคุณไม่ถามหน่อยเหรอว่าผมทำร้ายเขาทำไม? มีคนนับสิบล้านอยู่เต็มท้องถนน ทำไมผมต้องทำร้ายเขาจนพิการด้วย?” “ถ้าเกิดเป็นเพราะว่าตระกูลหลี่ร่ำรวย เขาทำอะไรก็ถูกหมด งั้นผมก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว แต่ผมขอเตือนคุณไว้เลยนะ ถ้ากล้าลงมืออีก ผมจะไม่ออมมือเด็ดขาด!” เมื่อสิ้นเสียงพูด ฉู่เฉินก็ไม่ได
ปัง! ประตูห้องทำงานปิดลงอย่างหนักหน่วงทำให้เสิ่นเหว่ยตกใจจนสะดุ้งโหยง ผ่านไปหลายวินาที เขาถึงค่อยชี้ไปที่เหลิ่งหนิงซวงแล้วเอ่ยว่า “เหลิ่งหนิงซวง หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”“นี่คุณขัดคำสั่งเหรอ ผมให้เวลาคุณหนึ่งนาที รีบกลับมาเดี๋ยวนี้...”เหลิ่งหนิงซวงแค่นเสียงเบาแล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “หัวหน้าเสิ่น ถ้าอยากสอบสวนคุณก็ไปสอบสวนเองเถอะค่ะ”คำพูดต่อต้านประโยคเดียวทำให้เสิ่นเหว่ยถึงกับอึ้งไปแต่ว่าหัวหน้าอย่างเขาล่วงเกินเหลิ่งหนิงซวงไม่ได้จริง ๆ ตระกูลเหลิ่งเป็นตระกูลชั้นสูงในวงการต่อสู้ของเมืองหมอตู อีกทั้งยังมีเส้นสายกับสำนักบำเพ็ญเพียรอีกด้วยคนแบบนี้ไม่ใช่คนที่เขาสามารถจัดการได้ตามใจชอบเรื่องสำคัญที่สุดคือ สิ่งที่เหลิ่งหนิงซวงพูดมาเป็นความจริงทั้งหมดความแค้นระหว่างฉู่เฉินกับตระกูลหลี่ มีคนรายงานให้เขาทราบอย่างละเอียดตั้งแต่แรกแล้ว หากเรื่องนี้บานปลายยกใหญ่ถึงที่สุดละก็ ต่อให้เขาถูกปลดออกจากงานและโดนสอบสวนลงโทษยังถือว่าเบาไปสำหรับเขาเสิ่นเหว่ยสูดลมหายใจลึก ก่อนจะเดินไปมาในห้องทำงานคนอย่างฉู่เฉินไม่ใช่คนที่ส่งคนไปตามใจชอบก็สามารถสอบสวนจนได้ผลลัพธ์ออกมาหากไม่ระวังจนเกิดเรื่องถ
“ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณฉู่”หลินเยว่หรูขอบคุณเป็นล้นพ้นแล้ววางสายไปแต่หลินเจิ้งไท่ที่อยู่ทางด้านข้างกลับมองไปยังฉู่เฉินด้วยความสงสัยเขาอยู่ระดับสร้างรากฐานชั้นเจ็ด แต่หลินเยว่หรูกลับให้ฉู่เฉินช่วยต่อกรกับยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานชั้นเก้าเหรอ?ลูกสาวของเขาคงไม่ได้โดนฉู่เฉินเอาจนโง่งมไปแล้วใช่ไหม?แต่พอขบคิดให้ละเอียด ด้วยสถานะของฉู่เฉินในตอนนี้ ระดับสร้างรากฐานชั้นเก้ายังไม่อยู่ในสายตาเขาจริง ๆ ต่อให้ฉู่เฉินเป็นแค่คนธรรมดา แต่ใครจะกล้าแตะต้องเขาแม้กระทั่งปลายนิ้ว? “หัวหน้าจ้าว เมื่อกี้คุณบอกว่าจะพาผมไปส่งที่เจียงจงเหรอครับ?” ฉู่เฉินวางโทรศัพท์ลง จิบชาแล้วเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “แน่นอนสิครับ ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่คุณฉู่มาที่เมืองชิงหลง ผมกับผู้เฒ่าหลินจะต้องออกมาต้อนรับสิบลี้ ไปส่งสิบลี้อย่างแน่นอน” จ้าวเต๋อฉวนพรูลมหายใจยาวออกมา ในที่สุดก็จะได้ส่งไอ้ตัวซวยคนนี้ออกไปสักทีเมื่อเห็นฉู่เฉินกับหลิงเสวี่ยลุกขึ้น หลินเจิ้งไท่ก็รีบตามไป คนทั้งกลุ่มมุ่งหน้าตรงไปทางทางออกฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเจียงจงทันที ......อีกทางด้านหนึ่ง หลินเยว่หรูเพิ่งจะวางโทรศัพท์ลง ลั่วเทียนเต๋อก็ตบโต๊ะด้วย
“คุณฉู่ ตอนนี้ลูกชายของฉันฟื้นแล้ว หมอบอกว่าพักอีกหน่อยก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ที่ฉันโทรหาคุณครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ แต่...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ หลินเยว่หรูลังเลอยู่นาน ก่อนจะกล่าวต่อ “ไม่ทราบว่าช่วงนี้คุณฉู่พอจะมีเวลาว่างไหมคะ?”“ช่วงนี้... คงไม่มีเวลาไปไปเยี่ยมเยียนเส้นทางที่ร่มรื่นของคุณหรอกครับ”ขณะที่ฉู่เฉินกล่าว ก็หันศีรษะไปมองหลิงเสวี่ยที่อยู่ข้างๆเมื่อเทียบกับหลิงเสวี่ยแล้ว สุดท้ายหลินเยว่หรูก็ยังด้อยกว่าอยู่ระดับหนึ่งไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่ในแง่ของความอดทน แม้ว่าหลิงเสวี่ยจะเป็นมือใหม่ แต่ความอดทนของเธอก็ดีกว่าหลินเยว่หรูไม่น้อยหลังจากศึกหนักเมื่อคืนนี้ หลิงเสวี่ยไม่เพียงแต่ไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง แต่กลับได้รับการพัฒนาอย่างลึกซึ้ง ยิ่งกว่านั้น หลิงเสวี่ยยังมีร่างกายพิเศษซึ่งมีคุณสมบัติในการบำรุงฉู่เฉินไม่น้อยเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว หลินเยว่หรูยังคงมีร่างกายเป็นกระถางรับซึ่งเป็นเพียงการเล่นสนุกเท่านั้นและฉู่เฉินก็ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆหลินเยว่หรูที่ปลายสายเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า “คุณฉู่คะ ฉัน... ฉันมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณค่ะ
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้
เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลหลินกำลังจะลงมือกับฉู่เฉินจริงๆ จ้าวเต๋อฉวนก็แทบจะกระอักเลือดออกมาสมองของกลุ่มคนนี้ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ฆ่าฉู่เฉิน นี่พวกเขาต้องการจะทำลายสำนักชิงอวิ๋นงั้นเหรอ?“พวกคุณตระกูลหลินอยากให้สำนักชิงอวิ๋นของผมจะถูกล้างบางมากนักใช่ไหม?”ครั้งนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจัด คนอื่นมองสถานการณ์ไม่ออก เขายังพอเข้าใจได้ แต่หลินเจิ้งไท่อายุมากแล้ว ยังจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กอีกงั้นเหรอ?เมื่อหลินเจิ้งไท่ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าจ้าว คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ?”ในสายตาของเขา การฆ่าฉู่เฉินจะเป็นยังไง?อย่างไรก็ตาม ว่านโซ่วเซียนเวิงและคนอื่นๆ ต้องการหยกโลหิตกิเลน และไม่เคยบอกว่าจะปกป้อง ฉู่เฉินถ้าพวกเขาไม่แตะหยกโลหิตกิเลนเรื่องก็จบไม่ใช่เหรอ?“พูดแบบนี้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ตราบใดที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับคุณฉู่ในเมืองชิงหลง ในไม่ช้าทางสำนักว่านเซียนก็จะได้รับข่าว เมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะมาก็ไม่ใช่แค่สำนักว่านเซียนแล้ว”“สำนักเสวียนปิง รวมถึงบรรดาสำนักใหญ่ที่โด่งดังพอๆ กับสำนักว่านเซียนต่างจะส่งคนมาที่นี่ ผมขอถามคุณว่าเมื่อถึงเวลานั้นใครจะส
สิ้นเสียง คนในตระกูลหลินต่างก้าวเท้าไปข้างหน้าและล้อมจ้าวเต๋อฉวนไว้ดูเหมือนว่าถ้าพูดไม่ถูกใจก็จะลงมือทันทีจ้าวเต๋อฉวนโกรธจนหัวเราะกับคนตระกูลหลิน มองสำรวจหลินเจิ้งไท่และกล่าวอย่างเย็นชา “ให้คำอธิบายกับคุณน่ะเหรอ? ผมจะอธิบายอะไรให้คุณล่ะ”หลินเจิ้งไท่สีหน้ามืดมน กัดฟันกล่าวว่า “พวกเราดักฆ่าฉู่เฉินที่นี่แล้วผิดอะไร? เจ้าสำนักก็เคยกล่าวไว้ ถ้าได้หยกโลหิตกิเลนมาก็เป็นประโยชน์ต่อสำนักชิงอวิ๋นของเราอย่างยิ่ง หัวหน้าจ้าวไม่รู้เหรอครับ?”“หึ ดักฆ่าฉู่เฉิน?”จ้าวเต๋อฉวนกัดฟันกรอดจนฟันแทบแตก มองหลินเจิ้งไท่อย่างเย็นชาและกล่าวว่า “พวกคุณคิดว่ามีแค่พวกคุณที่ได้รับข่าวว่าฉู่เฉินนำหยกโลหิตกิเลนเข้าสู่โลกแห่งการหยั่งรู้งั้นเหรอ?”“จนถึงตอนนี้ ฉู่เฉินยังคงปลอดภัยดี พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไม?”หมายความว่ายังไง?เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเจิ้งไท่ก็มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนด้วยความไม่เข้าใจ“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสำนักดูถูกพวกคุณตระกูลหลิน พวกคุณสร้างปัญหาให้เจ้าสำนักเก่งจริงๆ”ตอนนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจนอยากจะด่าคน ไม่เคยเจอใครโง่งมขนาดนี้มาก่อน“หัวหน้าจ้าว หวังว่าคุณจะอธิบายให้ชัดเจนครับ”หลินเจิ้งไท่
ในขณะนี้ หลิงเสวี่ยก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยเช่นกันเพราะไม่ใช่แค่หลินเจิ้งไท่เท่านั้น รวมถึงยอดฝีมือของตระกูลหลินทั้งสามที่อยู่เบื้องหลังเขาต่างก็ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวแม้ว่าตอนนี้หลิงเสวี่ยจะอยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นแปด แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเจิ้งไท่อย่างแน่นอนยิ่งกว่านั้น เหล่าคนที่อยู่เบื้องหลังหลินเจิ้งไท่ก็ล้วนมีพลังระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุด ถ้าลงมือขึ้นมาจริงๆ เธอและฉู่เฉินก็ไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย“ฉู่เฉิน ฉันบอกคุณนานแล้วว่าอย่าอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้นานเกินไป คุณก็ไม่ฟัง”หลิงเสวี่ยกระซิบตำหนิฉู่เฉินไปพลาง มองไปรอบๆ อย่างกระวนกระวายไปพลางเมื่อเห็นว่าหลิงเสวี่ยเริ่มลนลานแล้ว หลินฮ่าวที่กำลังเอามือกุมหน้าก็ปาดเลือดที่มุมปากออก ก้าวไปข้างหน้าและมองสำรวจฉู่เฉินด้วยความดูถูกพลางกล่าวว่า “ไอ้คนแซ่ฉู่ ตอนนี้รู้แล้วหรือยังล่ะ?”ขณะกล่าว ก็กวาดตามองไปยังเหล่ายอดฝีมือของตระกูลหลินและกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนี้ จงส่งหยกโลหิตกิเลนมาซะ และทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้น ตาย!”ทันทีที่คำว่าตายหลุดออกมา คนในตระกูลหลินแทบจะก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกันแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว
ในขณะที่คนในตระกูลหลินกำลังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนแซ่ฉู่คนนี้ช่างมีดวงผู้หญิงของผู้หญิงจริงๆ“ผมเอง มีอะไรเหรอครับ?”ฉู่เฉินเหลือบมองหลินฮ่าวและคนอื่นๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เหอะๆ มีอะไรงั้นเหรอ?”หลินฮ่าวหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกคงไม่รู้ตัวว่าใกล้ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้วสินะ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว มองสำรวจหลินฮ่าวและคนอื่นๆ พร้อมกับสงสัยว่า “ใกล้ถึงวาระสุดท้าย? ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันนะครับ?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินและหลิงเสวี่ยต่างก็มองไปที่สมาชิกตระกูลหลินด้วยความระแวดระวังแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่ในระดับสร้างรากฐานขั้นหกเท่านั้น แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายอดฝีมือจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เมื่อหลินฮ่าวได้ยินเช่นนี้ ก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “คนแซ่ฉู่ แกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปทำไม เจ้าสำนักให้เวลาแกสามวันเพื่อไปรับโทษตายที่สำนักชิงอวิ๋น แกคิดว่าแกซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้แล้วจะไม่มีใครหาแกเจองั้นเหรอ?”“ฉันแนะนำให้แกส่งหยกโลหิตกิเลนมาจะดีที่สุด แล้วทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกให้ตายอย่างไม่เหลือซาก