공유

บทที่ 297

작가: มู่โร่ว
เย่มู่มู่เห็นคนงานในไซต์ก่อสร้างทำงานจนเหงื่อท่วมตัว เธอจึงเหมาซื้อน้ำและเครื่องดื่มทั้งหมดในตู้แช่ริมถนน

คนงานแต่ละคนได้รับน้ำคนละขวด และไอศกรีมแท่งคนละแท่ง

ในตู้เย็นยังมีของเหลือพอสำหรับรอบที่สองให้พวกเขาดื่มกินอีก

หัวหน้าผู้รับเหมาเห็นว่าเย่มู่มู่เป็นคนพูดคุยง่าย จึงถามขึ้น

“คุณหนูเย่ครับ แผนกบริหารตลาดการค้าเกษตร ท่านคิดจะให้ใครมาดูแลครับ? ได้คนแล้วหรือยัง?”

“ถ้าท่านไม่ได้มาคอยดูเองบ่อย ๆ ก็ต้องหาคนที่ไว้ใจได้มาทำแทนนะครับ!”

เย่มู่มู่ยิ้มแล้วตอบว่า “ไม่ต้องหรอกค่ะ ในเมื่อผู้ใหญ่บ้านแนะนำคุณมาให้ฉันได้ ฉันก็ไว้ใจคนที่เขาแนะนำได้เหมือนกัน!”

หัวหน้าผู้รับเหมาหัวเราะเจื่อน ๆ “ช่วงสองสามปีนี้งานก่อสร้างไม่ค่อยดีเลยครับ อสังหาริมทรัพย์กำลังตกต่ำ งานหลายที่ยังไม่ได้รับค่าจ้าง ผมเองก็คิดอยากเปลี่ยนสายงานเหมือนกัน”

เย่มู่มู่ไม่ได้ไม่เชื่อใจหัวหน้าผู้รับเหมา เพียงแค่ยังรู้จักเขาไม่มากพอ

“พวกเรามาช่วยกันสร้างตลาดให้เสร็จก่อนนะคะ ท่านอยู่แถวนี้รู้จักคนเยอะ...”

เย่มู่มู่ไม่ได้พูดต่อ

แต่หัวหน้าผู้รับเหมาเองก็ไม่ใช่คนซื่อจนไม่เข้าใจ เขาเข้าใจความหมายที่เย่มู่มู่ต้องการสื่อ

ถ้าเขาทำงา
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 298

    “ว้าว~”“ทองคำและเงินสมบัติกว่าหนึ่งร้อยสามสิบหีบ!”เย่มู่มู่แทบจินตนาการไม่ออกเลยว่าถ้าขายออกทั้งหมดจะได้เงินเท่าไร!และยิ่งไปกว่านั้น คฤหาสน์หลังนี้ก็ใกล้จะไม่มีที่เก็บแล้วจริง ๆถ้าส่งสมบัติเหล่านี้มาจริง ๆ คงต้องจัดการห้องโฮมเธียเตอร์ในชั้นใต้ดินชั้นสองออกไปก่อน“สมบัติชุดนี้ฝากไว้ที่เจ้าก่อนนะ ทางข้าไม่มีที่จะวางแล้ว”จากนั้น จ้านเฉิงอิ้นก็ส่งข้อความตอบกลับมาอีก“อืม เดือนหน้า จะมีร้านค้าจากอีกหลายสิบแห่งย้ายเข้ามาที่ด่านเจิ้นกวน พวกเขาก็จะมอบทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เหมือนกัน ตอนนั้นคงมีสมบัติอีกมากเพิ่มเข้ามา!”“ท่านเทพ ข้าจะช่วยท่านเก็บสมบัติไว้ก่อน ท่านจะใช้เมื่อได้ก็ได้!”เย่มู่มู่อ่านข้อความบนกระดาษแล้วหัวเราะออกมาดูสิ~สมกับเป็นแม่ทัพใหญ่ที่เธอเลี้ยงดูมาจริง ๆ! ยอมมอบเงินให้โดยสมัครใจ!ทันใดนั้น เย่มู่มู่ก็นึกขึ้นได้ว่า ก่อนหน้านี้จ้านเฉิงอิ้นเคยฝากหยกเนื้อดีที่ทำจากหยกไขมันแกะไว้กับเธอที่นี่คงถึงเวลาที่ต้องคืนเขาแล้วเธอเดินขึ้นไปหยิบกล่องผ้าที่เก็บไว้ในห้อง ภายในนั้นบรรจุหยกแขวนของจ้านเฉิงอิ้นไว้ระหว่างนั้น ก็ยังนึกถึงของขวัญที่ได้รับวันนี้ในงานเปิดร้านให

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 299

    ผู้ที่ลงมือวางยาคงคาดไม่ถึงว่า ทะเลสาบเก็บน้ำแห่งนี้มีทหารคอยเฝ้ารักษาการอยู่ตลอดเวลาเส้นทางขึ้นเขาทุกสายล้วนติดตั้งกล้องวงจรปิด หากมีผู้ใดขึ้นเขามา ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน ระบบสัญญาณเตือนภัยที่ติดตั้งไว้จะถูกเปิดใช้งานในทันที เพื่อแจ้งเตือนทหารที่เฝ้าทะเลสาบเสียงของจ้านเฉิงอิ้นเย็นชา “ง้างปากพวกมันให้ได้ ยืนยันให้ได้ว่าคนของเสนาบดีซูเป็นผู้ลงมือวางยา!”“รับทราบ ท่านแม่ทัพ!” เทียนฉินขานรับ ก่อนจะรีบออกจากกระโจมไปในขณะนั้นเอง เหล่าทหารหลายนายเดินเข้ามายังกระโจมของจ้านเฉิงอิ้น ก่อนจะยกมือทำความเคารพเฉินขุยเอ่ยขึ้นก่อนใคร “ท่านแม่ทัพ ข้าน้อยไม่อาจทนกับพวกสามคนนั้นได้อีกแล้ว หากท่านอนุญาต ข้าน้อยขอจัดการพวกมันด้วยดาบ!”จ้านเฉิงอิ้นเงยหน้าขึ้น กวาดมองทุกคนพบว่าหลายคนมีสีหน้าขุ่นเคือง โดยเฉพาะเฉินขุย ที่ดูเหมือนจะโกรธจนหน้าแดงก่ำคิ้วคมของจ้านเฉิงอิ้นขมวดเล็กน้อย ถามเขาว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”หลี่หยวนจงรีบก้าวขึ้นมารายงานก่อน “ท่านแม่ทัพ ขุนนางผู้ตรวจการซ่งจิ้น เพิ่งจะออกไปเดินหาโรงเตี๊ยมตามท้องถนน หวังจะเที่ยวหอนางโลม แต่ที่ด่านเจิ้นกวนของพวกเราจะมีหอนางโลมได้อย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 300

    แล้วทำไมถึงไม่ไปหาท่านแม่ทัพใหญ่?เพราะไม่กล้า!ตอนนี้ จ้านเฉิงอิ้นมีอำนาจสูงส่ง ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเลือกหลบเลี่ยงไม่พบหน้า พวกเขารู้ดีว่าครั้งนี้เกรงว่าจะกลับไปมือเปล่าอีกคนหนึ่งคือ ผู้ช่วยในราชสำนักมั่วหย่ง เขาเป็นคนของไทเฮา และยังมีความเกี่ยวพันทางสายเลือดห่าง ๆ กับมั่วฝานเมื่อมาถึงด่านเจิ้นกวน กลุ่มของเขาเลือกเข้าพักในจวนของรัฐทายาททั้งวันก็มัวแต่ขลุกอยู่ในจวน ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ไม่ยอมออกมาดูเหมือนว่าพวกเขาจะลืมหน้าที่เกลี้ยกล่อมจ้านเฉิงอิ้นให้นำทัพออกศึกไปจนหมดสิ้นแล้วหากทั้งสามคนวางตัวอย่างสงบเรียบร้อยในด่านเจิ้นกวน บรรดาทหารอาจยังพอให้ความเคารพอยู่บ้าง แต่ถ้าต่างคนต่างทำตัวแบบซ่งจิ้น กล้าทำตัวโอหังใส่แม่ทัพ ใครจะไปรู้ว่าวันไหนหัวกับตัวอาจจะแยกจากกันก็ได้ยิ่งไปกว่านั้น ด่านเจิ้นกวนแห่งนี้อยู่ห่างไกลจากอำนาจของฮ่องเต้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคำสั่งของแม่ทัพใหญ่จ้านเฉิงอิ้นถามมั่วฝาน “เขาเป็นคนของเสนาบดีซูใช่หรือไม่?”มั่วฝานพยักหน้า “ใช่แล้ว หลายปีมานี้ เขาและเสนาบดีซูสมคบคิดกันอย่างหน้าไม่อาย ขูดเลือดขูดเนื้อจากราษฎรไปไม่น้อย!”เป็นคนของเสนาบดีซูอย่างนั้นห

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 301

    มั่วฝานสังเกตสีหน้าของจ้านเฉิงอิ้น เขาเป็นกังวลว่าจ้านเฉิงอิ้นจะร่วมมือกับกองทัพธงเหลืองจริง ๆถึงอย่างไร ในกระบวนการทางประวัติศาสตร์จริง ๆ นั้น กองทัพธงเหลืองถึงเป็นฝ่ายที่ชนะในท้ายที่สุดในชายแดนต้าฉี่ กองทัพธงเหลืองส่งเสียงดังกระหึ่มประชาชนนับไม่ถ้วนสนับสนุนกองทัพธงเหลือง โดยหวังว่าพวกเขาจะโค่นล้มการปกครองของต้าฉี่ได้เขาเองก็รู้ดีว่า ราชวงศ์ต้าฉี่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนแม้ไม่มีกองทัพธงเหลือง ก็จะมีกองทัพธงดำ กองทัพธงแดง...ต้าฉี่ล่มลายคือผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นแน่นอนเขาหวังเพียงว่าไทเฮาจะคิดตก และใช้ชีวิตในบั้นปลายชีวิตอย่างสงบสุขจ้านเฉิงอิ้นส่งม้วนไม้ไผ่ให้สวี่หมิง แล้วเอ่ยถามว่า “ยังไม่มีข่าวของเฉินอู่หรือ?”บรรดาทหารพากันส่ายหน้าหน่วยกล้าตายของมั่วฝานแฝงเข้าไปในกองทัพธงเหลืองตั้งนานแล้ว ยังส่งข่าวมาให้อยู่เฉินอู่พาคนสนิทขี่ม้าเร็วไป คำนวณจากระยะทางน่าจะเข้าไปในหัวเมืองที่กองทัพธงเหลืองบุกยึดแล้วเหตุใดยังไม่มีข่าวอีก?มั่วฝานเห็นเขายังไม่ตอบจดหมายที่กองทัพธงเหลืองส่งมา จึงเอ่ยปากถามขึ้นว่า“เรื่องการเชิญของกองทัพธงเหลือง ท่านคิดเห็นว่าอย่างไร?”จ้านเฉิงอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 302

    ไปต่อไปอีก ก็เป็นอาณาเขตของเผ่าหมานแล้ว!ไปทางตะวันออกเป็นชายแดนแคว้นฉู่ไปทางใต้เป็นชายแดนแคว้นฉี่!ต้าซีเป่ยรกร้าง เป็นพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงที่สุด จึงเกิดความแห้งแล้งเร็วที่สุดกองกำลังกบฏชาวนาไม่ไปแย่งชิงหัวเมืองใหญ่ หรือว่าจะโจมตีแคว้นฉู่และแคว้นฉี?จ้านเฉิงอิ้นมองกระบะทราบ จากนั้นก็จ้องแผนที่ทันใดนั้นเขาก็ถามเฉินขุยขึ้นมาว่า “ยังไม่มีข่าวเฉินอู่หรือ?”เฉินขุยเองก็ไม่รู้ว่าเฉินอู่อยู่ที่ใดคนที่เขาพาไปไม่น้อย ปลอมตัวไปสองร้อยกว่าคน ขี่มาพกน้ำ เสบียงอาหารและอาหารสัตว์ติดตัวไปด้วย ของที่พวกเขาพกไปทั้งหมด หากถูกผู้ลี้ภัยล้อมระหว่างทาง ต้องถูกปล้นอย่างแน่นอนเพียงแต่ล้วนเป็นผู้ที่ฝึกการต่อสู้ และเคยผ่านศึกใหญ่คอขาดบาดตายมาแล้วทั้งนั้นไม่แน่นอนว่าอีกฝ่ายจะสู้พวกเขาได้!ทว่าขาดการติดต่อไปเดือนเศษแล้ว เขาในฐานะพี่ใหญ่เองก็เป็นกังวลเช่นกันเหยี่ยวที่ยืมมั่วฝานไปส่งจดหมายตัวหนึ่ง ก็ยังไม่บินกลับมาเช่นกัน!ไม่ว่าอย่างไร ส่งคนขี่ม้ากลับมารายงานข่าวสักสองสามคนก็ยังดีบัดนี้บิดามารดาถูกขังอยู่ในวังน้องชายก็รู้ที่อยู่ไม่แน่ชัด น้องสะใภ้พาลูกมาร้องไห้ปรับทุกข์ที่จวนทุกวัน จนฮู

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 303

    ทหารผ่านศึกชักดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังออกมา ศีรษะมนุษย์ศีรษะแรกหล่นลงพื้น เลือดพลันกระฉูดทันทีซ่งจิ้นเดือดดาลจนโพล่งด่าขึ้นมาว่า “เฉินขุย ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะกล้าฆ่าคนในเรือนของข้า คิดจะกบฏหรือ?”ศีรษะคนศีรษะที่สองหล่นลงบนพื้นเนื้อบนหน้าซ่งจิ้นกระตุก...กระทั่งศีรษะที่สาม ที่สี่ ที่ห้า...ภายในเรือนมีศพนอนระเกะระกะอยู่เต็มไปหมด ท้ายที่สุดซ่งจิ้นก็กลัวแล้วเขาสมคบคิดกับเสนาบดีที่เมืองหลวง ชอบสังหารหมู่สตรี ในบ่อน้ำแห้งขอดหลังเรือนมีศพของสตรีกองอยู่เต็มไปหมดเขาไม่เคยเห็นชีวิตคนสำคัญเลยในสายตาของเขาชาวบ้านธรรมดาทั่วไปล้วนเป็นทาสชั้นต่ำทั้งสิ้นตอนนี้ไม่คิดเลยว่าเฉินขุยจะกล้าฆ่าคนของเขาจนเกลี้ยง!นี่เขากำลังก่อกบฏอยู่...ก่อกบฏ!เมื่อเห็นเฉินขุยเดินถือดาบมาใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ซ่งจิ้นก็ตกใจจนตัวสั่นงันงกตุบ...ซ่งจิ้นคุกเข่าทั้งสองข้างลง ของเหลวสีเหลืองไหลโซกออกมาจากส่วนเป้า ในนัยน์ตาปรากฏความกลัวที่ไม่เคยมีมาก่อน“เจ้าฆ่าข้าไม่ได้นะ หากฆ่าข้า ก็เท่ากับเป็นศัตรูกับราชสำนัก ราชสำนักไม่ปล่อยเจ้าไปแน่!”เฉินขุยผายผิวดาบเย็นยะเยียบไปที่ใบหน้าของซ่งจิ้น “หึ ตอนนี้รู้จักกลัวแล้วหรือ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 304

    “หารู้ไม่ นอกเมืองยังขุดหญ้าแห้งกับหาเปลือกไม้ได้ ทว่าในเมืองกระทั่งผืนหญ้ารากหญ้ายังถูกขุดจนเกลี้ยง แลกลูกกินกันเป็นอาหารมีให้เห็นไปทั่ว!”“มีเพียงด่านเจิ้นกวนที่เดียวที่ต่างออกไป ชาวบ้านหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส แววตามีชีวิตชีวา พวกเขามีแปลงนาเพาะปลูก มีน้ำดื่ม...มอหนำซ้ำแม่ทัพยังมอบแปลงนาให้ทุกครัวเรือนอีกด้วย ปลูกผักผลไม้มีผลผลิตเลี้ยงตัวเองได้!”“เมื่อเทียบกับโลกภายนอก ด่านเจิ้นกวนคือดินแดนในอุดมคติจริง ๆ! ข้าไม่อยากไปแล้ว!”“พวกนั้นที่ซ่งจิ้นพามาด่านเจิ้นกวน เขาตายก็ตายไปแล้วกัน”“ข้ากับมั่วหย่งส่งสาสน์ให้ราชสำนัก บอกว่าซ่งจิ้นถูกโจรเร่ร่อนฆ่าตาย ไม่เกี่ยวข้องกับด่านเจิ้นกวน”“ส่วนเรื่องส่งกองกำลังไปราบกองทัพธงเหลือง แม่ทัพ เราจะตอบกลับราชสำนักว่าอย่างไรกันดี?”เวลานี้จะยื้อออกไปตลอดไม่ได้ ต้องหาข้ออ้างถูไถไป!เห็นได้ชัดว่าทั้งสองท่านนี้ฉลาดกว่าซ่งจิ้น ตั้งแต่จ้านเฉิงอิ้นไม่รับแขก ก็รู้แล้วว่าเขาจะไม่ส่งกองกำลังไปแน่นอนหากไม่ส่งกองกำลังก็ต้องหาข้ออ้างมาปิดปากพวกคนหมู่มากที่กลับขาวเป็นดำในราชสำนักเอาไว้จ้านเฉิงอิ้นตอบ “เผ่าหมานยังมีกำลังคนอีกสองแสนนาย ยกทัพใหญ่มาบุกประชิดพรม

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 305

    แม่ทัพทุกนายต่างพากันอึ้ง!ไม่กล้าจินตนาการเลยว่า คนพวกนี้คือกองกำลังกบฏชาวนาที่กองทัพธงเหลืองกับกองทัพลู่เจ๋ออยากดึงมาเป็นพวก!ถูกแม่ทัพเฉินอู่พามายังด่านเจิ้นกวนทั้งหมดแล้ว!นี่มันตั้งสองแสนคนเชียว!มาที่ด่านเจิ้นกวนพร้อมกัน ไหนจะมีครอบครัวของพวกเขาอีก ลากถูลู่ถูกังคนทั้งครอบครัวเดินทางไกลบุกป่าฝ่าดงมาถึงด่านเจิ้นกวน!จำนวนคนของด่านเจิ้นกวนเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว กำลังทหารพุ่งถึงสามแสนนาย!ตอนนี้แม้แคว้นฉู่แคว้นฉีเผ่าหมานสามฝ่าย พร้อมร่วมมือกับแคว้นเยี่ยนและแคว้นหย่งมาโจมตีด่านเจิ้นกวนก็ไม่ต้องกลัวอีกต่อไปแล้ว!เนื่องจากด่านเจิ้นกวนไม่ขาดกำลังทหารอีกต่อไป!จ้านเฉิงอิ้นขึ้นควบม้า แล้วเอ่ยกับนายทหารคนอื่น ๆ ว่า “ไป ไปต้อนรับเฉินอู่กลับเมือง!”“ขอรับ แม่ทัพ!”นายทหารหลายนาย พร้อมกับนายกองของสวีหวย ห้อตะบึงม้าไปยังประตูเมืองอย่างรวดเร็วครั้นเหล่าชาวบ้านได้ยินว่าแม่ทัพเฉินอู่กลับมาแล้ว ก็วางงานในมือลง และมาต้อนรับแม่ทัพหวนกลับยังประตูเมืองโดยสัญชาตญาณพวกเขานำน้ำใส่กาน้ำและชามกระเบื้องมาด้วย ชาวบ้านบางคนต้มโจ๊กที่บ้าน และถือโจ๊กมารอที่หน้าประตูเมืองผ่านไปหนึ่งชั่วยาม เมื่อทุก

최신 챕터

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 714

    เค้าโครงหน้าคมคาย ยิ่งดูหล่อเหลาโดดเด่นขึ้นแต่สีหน้ากลับเย็นชามาตลอด กลายเป็นหนุ่มหล่อสุดเย็นชาประจำโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไปแล้วแน่นอนว่า เขาเดินทางด้วยจักรยานสาธารณะ หรือไม่ก็นั่งรถประจำทาง ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีของแบรนด์เนมเลยไม่เหมือนกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่พอเข้าเรียนปุ๊บก็รู้เลยว่า พ่อแม่ทำอาชีพอะไร มาจากตระกูลไหน ตระกูลมีกิจการอะไรบ้างเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ล้วนแต่ร่ำรวยหรือมีฐานะสูงส่งส่วนเขาพื้นเพธรรมดา การแต่งตัวก็สบาย ๆโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน เพื่อนคนอื่น ๆ ใส่แต่แบรนด์หรู หรือไม่ก็ชุดสั่งตัดส่วนเขาใส่เสื้อผ้าแผงลอยข้างทาง!อาศัยหน้าตาแบกล้วน ๆพอดูออกว่าที่บ้านไม่มีเงิน ก็ถูกนักเรียนเกเรหมายหัวเพื่อนร่วมชั้นที่มายั่วโมโห หัวเราะอย่างโอหัง “โธ่เอ๊ย กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฉันเหรอ!”“มา ๆ ๆ วันนี้พวกเราสั่งสอนมันหน่อย ลากตัวมันขึ้นรถไปที่นอกเมือง”หลันซีเยว่ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงขวางอยู่ข้างหน้าเขา“พวกนายกล้าเหรอ ถ้าวันนี้พวกนายกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นิดเดียว ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ทันใดนั้นนักเรียนหลายคนก็หัวเราะล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 713

    เมื่อรถของเย่มู่มู่และหลูหมิงเคลื่อนตัวออกไป ลู่ฉิงยวนยังคงยืนสง่าอยู่ริมถนน มองส่งจนรถลับสายตาไป ครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยเขาก็ได้ช่องทางการติดต่อของเธอมาเย่มู่มู่ตอนห้าขวบไม่ยอมรับเขา~ไม่นึกเลยว่าพออายุยี่สิบปี เย่มู่มู่ก็ยังคงไม่ชอบเขาเหมือนเดิมผู้หญิงเพียงคนเดียว กลับเป็นคนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ถึงสองครั้งในชีวิตนี้หลังจากขึ้นรถแล้ว ลู่ฉิงยวนก็ถามหัวหน้าบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “บอดี้การ์ดที่อยู่กับเย่มู่มู่คนนั้น เป็นคนของสายไหนกันแน่?”หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดยังนึกถึงชายคนนั้น ออกหมัดฉับไว รุนแรง นั่นไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาแน่นอน“เป็นนักสู้มืออาชีพครับ ที่สำคัญคือเป็นประเภทที่ทุกกระบวนท่าล้วนมุ่งเอาชีวิต! นั่นไม่ใช่ฝีมือของพวกเรียนกังฟูหรือซานต้าวิธีที่เขาลงมือ ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย!”ลู่ฉิงยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่คนเดียวก็สามารถล้มบอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดลงไปกองกับพื้นได้เดิมทีเขายังเป็นห่วงเย่มู่มู่ กลัวว่าเด็กกำพร้าตัวคนเดียวอย่างเธอจะถูกรายล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าและเสือร้ายแต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความกังวลของเขาจะไม่จำเป็นเสียแล้วการที่สามารถอัด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 712

    “คุณคู่ควรกับผู้หญิงที่ดีกว่านี้นะคะ ส่วนฉัน... ไม่ได้สนใจเรื่องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์อะไรแบบนั้นเลยค่ะ!”เธอกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่เสียงของลู่ฉิงยวนก็เย็นเยียบลงหลายส่วน เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ทำไม?”เย่มู่มู่หันกลับไปมองเขา“ทำไมถึงปฏิเสธผม คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังจะพลาดอะไรไป?”“คุณไม่ชอบผม หรือคิดว่าเราไม่มีความรู้สึกต่อกันงั้นเหรอ!”เย่มู่มู่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอโทษนะคะคุณลู่ มันไม่เกี่ยวกับคุณเลยค่ะ การที่ต้องสร้างครอบครัวกับผู้ชายที่แทบไม่รู้จักกันดี แค่คิด...ฉันก็รับไม่ได้แล้วค่ะ!”“สุดท้ายแล้ว ก็ยังเป็นเพราะคุณไม่ชอบผมใช่ไหม? มู่มู่ อย่าดื้อนักเลย ความรู้สึกน่ะมันสร้างกันได้นะ...”เย่มู่มู่ขมวดคิ้ว มองไปยังลู่ฉิงยวนเขาทั้งหนุ่ม ทั้งรวย อาศัยความสามารถของตัวเองล้วน ๆ สร้างหลิ่วอวิ๋นกรุ๊ปจนยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้เขายอดเยี่ยมมากบางทีในอนาคตเธออาจจะต้องเสียใจ ที่ตัวเองพลาดมหาเศรษฐีโสดผู้เพียบพร้อมทั้งความสามารถและฐานะระดับเพชรยอดมงกุฎคนนี้ไปแต่ ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่เรื่องหาเงิน และเรื่องการช่วยจ้านเฉิงอิ้นรวบรวมใต้หล้าให้เป็นปึกแผ่นในคติประจำใจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 711

    “แน่นอนว่าพวกเธอก็จะไม่บังคับลูก ๆ ถ้าไม่ชอบ ก็ปฏิเสธได้!”“ต่อมา คุณแม่เกิดอุบัติเหตุ ผมถูกบ้านตาไปรับเลี้ยง ไอ้สารเลวนั่นเริ่มฟ้องร้องยาวนานกว่าสิบปี เพียงเพื่อล้มล้างพินัยกรรมของแม่!”“ระหว่างนั้น เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในมือผม ป้าหลินจึงมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ในมือของเธอให้ผมโดยไม่คิดค่าตอบแทน”“ผมเคยถามเธอ ว่าต้องการอะไรเป็นการตอบแทนไหม์”“เธอขอให้ผมดูแลคุณให้ดี หากวันใดวันหนึ่งพวกเขาสามีภรรยาเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องถูกคนตระกูลเย่รังแกแน่ ๆ เธอหวังว่าผมจะรับปากว่าจะดูแลคุณให้ดีไปชั่วชีวิต!”น้ำตาของเย่มู่มู่ร่วงเผาะ ๆเธอไม่คิดเลยว่า คุณแม่ได้วางแผนเพื่อเธอไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วเพื่อเดิมพันกับโอกาสอันน้อยนิดนั้น ใช้หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของลู่ซื่อกรุ๊ป แลกกับคำมั่นสัญญาเพื่อเธอพ่อแม่ของเธอรักเธอมาก“ลู่ฉีหยางตามหาคุณ ข่มขู่คุณ! นอกจากจะหมายตาฟู่ลี่กรุ๊ปที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่แล้ว ยังมีอีกอย่าง พวกเขารู้ว่าแม่ของคุณมีหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์!”“ผมเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นสิบอันดับแรกของบริษัทต่อสาธารณะ พวกเขาก็ยังคงไม่เชื่อ!”“อยากจะยึดหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์นั้นมาเป็นขอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 710

    ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 709

    คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 708

    หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 707

    แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 706

    ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status