กองกำลังกบฏชาวนามีชายหนุ่มหนึ่งแสนสองหมื่นคน และยังมีครอบครัวพวกเขาอีกราวหนึ่งแสนคนรวมกันแล้วทั้งหมดสองแสนสองหมื่นคนชาวบ้านที่อยู่ตรงประตูเมืองจะส่งน้ำและโจ๊กให้อีกมากเพียงใด ก็ไม่พอให้ทุกคนกินจ้านเฉิงอิ้นบอกกับเฉินขุยว่า “พาทุกคนไปดื่มน้ำก่อน แล้วค่อยไปล้างตัวที่ข้างแม่น้ำ...”เฉินขุยขานรับ “ขอรับท่านแม่ทัพ”“ซ่งตั๋วรับผิดชอบต้มโจ๊ก รีบไปต้มโจ๊กที่พอให้สองแสนสองหมื่นคนกินเสีย”“นายทหารที่เหลือไปจัดแจงที่พักอาศัย หากไม่มีเรือนว่าง ก็ตั้งกระโจมขึ้นมา”นายทหารที่เหลือรับคำสั่ง“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”ครั้นอู๋ลี่เห็นจ้านเฉิงอิ้นรับรองกองกำลังกบฏอย่างดีเช่นนี้ ก็รู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่งก่อนมา เขาได้ยินเฉินอู่เล่าว่าด่านเจิ้นกวนดีเพียงใด...ทีแรกเขาไม่เชื่อ คิดว่าเฉินอู่กำลังหลอกเขาอยู่ภายหลังเฉินอู่ล้วงข้าวออกมา เม็ดขาวใสสะอาด ไม่มีเม็ดหินหรือโคลนเจือปนเขาก็เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อคำพูดของเฉินอู่หลังจากนั้นอีก เฉินอู่ล้วงขนมปังแข็ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป บะหมี่แห้ง...ออกมาให้แต่พวกเขารวมถึงเด็กคนแก่และสตรีมีทั้งหมดสองแสนกว่าคน อาหารเพียงน้อยนิดแค่นี้จะไปพออะไรไม่คิดเลยว่าเ
ด่านเจิ้นกวนไม่ได้มีเพียงแค่น้ำ และอาหารเท่านั้น...ยังเพาะปลูกได้อีกด้วย!พวกเขาเดินทางจากดินแดนภาคกลางมาหนึ่งเดือนกว่า เดินทางยาวนานจนท้ายที่สุดก็มาถึงด่านเจิ้นกวนทุกที่ที่เห็นล้วนเป็นดินแดง ทุกอย่างเหี่ยวเฉาและเป็นสีเหลืองไปหมดบางที่ไม่มีกระทั่งหญ้าเหี่ยวและต้นไม้เฉา ถูกคนกินจนเกลี้ยงมีเพียงด่านเจิ้นกวนที่มีสีเขียวขจีพวกเขาไม่ได้เห็นสีเขียวขจีมาเกือบครึ่งปีแล้วมีคนแก่คุกเข่าลงไปตรงนั้นเลย นัยน์ตาสีขุ่นทั้งสองข้างน้ำตาไหลพราก พลางหมอบกราบฟ้าดิน“ในที่สุดข้าก็ได้เห็นผืนดินที่เพาะปลูกได้แล้ว”“ฟ้ามีตา...!”ครั้นอู๋ลี่เห็นพื้นที่เพาะปลูกขนาดใหญ่ กวาดสายตาไปปราดเดียวมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด เขาก็คุกเข่าโขกศีรษะไปทางจ้านเฉิงอิ้นโดยตรง“ขอท่านแม่ทัพรับเราไว้ด้วยเถิด ท่านให้เราไปต่อสู้ พวกเราก็จะไปต่อสู้ ท่านจะให้เราเพาะปลูก เราก็จะเพาะปลูก...”“ขอเพียงให้น้ำดื่ม มีโจ๊กชนิดจางให้กิน เรายอมทำงานให้ท่าน แม้ร่างกายจะแหลกลาญก็จะสู้ไม่มีวันถอย!”จ้านเฉิงอิ้นและเฉินอู่รีบประคองอู่ลี่ขึ้นมาจ้านเฉิงอิ้นเอ่ย “กองกำลังกบฏชาวนากองกำลังนี้ของเจ้ามีเด็กหนุ่มเยอะ ข้าหวังว่าพวกเขาจะเข้าร่ว
ผ่านไปหนึ่งเดือนกว่า บริษัทไลฟ์ช่วยเหลือเกษตรกรของเย่มู่มู่ก็เริ่มไลฟ์สดแล้วผู้จัดการบ้านพักตากอากาศเป็นคนช่วยเธอจัดการแม้ผู้จัดการท่านนี้จะไม่ชำนาญไลฟ์สดขายของ แต่ก็ชำนาญเรื่องการตลาดเป็นอย่างยิ่ง!ตอนบ้านพักตากอากาศเซียนหยวนเปิดกิจการในช่วงแรก เขาก็เป็นคนโน้มน้าวให้แม่ทุ่มเงินจำนวนมากหาเน็ตไอดอลมาถ่ายภาพ ทุ่มเงินซื้อการเข้าชมโฆษณา หานักเขียนที่คิดคำโฆษณาสวย ๆบ้านพักตากอากาศเซียนหยวนถึงได้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศเริ่มการไลฟ์ขายของช่วยเหลือเกษตรกร เขาก็ซื้อการเข้าชมและหานักเขียนมาเขียนคำอธิบายความหมายช่วยเหลือเกษตรกรเขียนความเจ็บปวดที่เกษตรกรผู้ปลูกผลผลิตถูกพ่อค้ากดราคา ทว่าก็ต้องขายให้กับพ่อค้าแม้ว่าทนไม่ไหวที่จะต้องรับการขาดทุนก็ตาม...กระทั่งตัดคลิปภาพด้านหลังที่หญิงชราร้องไห้อยู่บนคันนาออกมาด้วยซื้อการเข้าชมเป็นจำนวนมาก เมื่อแฮชแท็กขึ้นมา ก็เป็นกระแสในสื่อมีเดียทันทีระหว่างการไลฟ์ คนนับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้ามาซื้อสินค้าช่วยเกษตรกรไลฟ์สดแรกเพื่อเปิดยอดขายและชื่อเสียง ผลิตผลพลอยได้ทางการเกษตรที่ขายไม่ออกของบริเวณรอบ ๆ ก็จะเอามาให้ทีมไลฟ์สดขายของที่บ้านพักตากอากาศ
อีกหกเดือนก็จะกักเก็บเสบียงอาหาร เพื่อนำไปใช้ในภัยหิมะอีกสองปีข้างหน้าได้หลังเย่มู่มู่ส่งปลายข้าวหลายล้านชั่งมา จ้านเฉิงอิ้นก็ไม่ได้ขอเสบียงอาหารอีกเนื่องจากเถามันเทศกินได้แล้วเถาฟักทองก็นำมาผัดได้แล้วอีกไม่กี่วันแตงกวา พริก มะเขือเทศ มะเขือม่วงก็จะเก็บเกี่ยวได้แล้ว...ไม่นานชาวบ้านที่ด่านเจิ้นกวนก็จะเลี้ยงดูตัวเองได้ ไม่จำเป็นต้องให้เย่มู่มู่คอยให้อาหารอย่างต่อเนื่องแล้วพูดตามตรง เมื่อไม่ต้องให้ส่งเสบียงอาหารมาอีก เย่มู่มู่จิตตกมากทีเดียวเพราะการมอบให้ทำให้คนเสพติดได้ง่าย!ความรู้สึกถูกคนต้องการ ทำให้เย่มู่มู่พึงพอใจเป็นอย่างมากตอนนี้เธออารมณ์คงที่ ภาวะซึมเศร้าหายไปหมดแล้วนี่เป็นเรื่องที่วินวินกันทั้งคู่เรื่องหนึ่งตอนนี้เธอกับจ้านเฉิงอิ้นต่างกำลังขยันขันแข็งเพื่อรวมหัวเซี่ยเป็นหนึ่งเดียวก้าวต่อไป จ้านเฉิงอิ้นอยากจะสร้างโรงเรียน และส่งเด็ก ๆ ไปเรียนเรียนความรู้ในยุคปัจจุบันของเย่มู่มู่ไปด้วย และเรียนความรู้ของลัทธิขงจื๊อที่จวงเหลียงสอนไปด้วยยังมีเรื่องที่น่ายินดีมากอีกเรื่องหนึ่ง นักพรตที่นามว่าซื่อเมิ่งคนนั้น แก้ปัญหาเรื่องสัดส่วนของดินปืนได้แล้วเขาหาวัตถุด
สองมือจ้านเฉิงอิ้นกำเป็นหมัด เส้นเอ็นหลังมือปูดขึ้นมาฮ่องเต้น้อยกำลังข่มขู่เขาสมคบคิดกับเสนาบดีซู บีบบังคับเขากับเฉินขุยให้กลับเมืองหลวงวันนี้เฉินขุยกำลังมีชื่อเสียงในกองทัพตระกูลจ้านถ้าวางแผนลอบสังหารระหว่างทางสองสามครั้งแล้วฆ่าพวกเขาสำเร็จกองทัพตระกูลจ้านจะเสมือนเรือขาดหางเสือ หลังจากนั้นถูกฮ่องเต้น้อยเข้าควบคุม!เพียงแต่เรื่องนี้ฮ่องเต้น้อยคิดง่ายไปแม้ว่าจ้านเฉิงอิ้นกับเฉินขุยถูกลอบสังหารระหว่างทางกลับ แต่เฉินอู่ก็จะก้าวออกมานำทางกองทัพตระกูลจ้านเป็นคนต่อไปถ้าเฉินอู่ตายอีกคน ยังมีหลี่หยวนจง เปี้ยนจื่อผิง เหอหง…กองทัพตระกูลจ้านยังไม่ถึงคราวของฮ่องเต้น้อยที่จะเข้ามาควบคุมเสบียงทหารไม่เคยจัดสรรให้สักครั้ง เครื่องแบบทหารรองเท้าฟางก็ไม่เคยส่งให้สักครั้งเพียงอาศัยสถานะการเป็นฮ่องเต้แคว้นต้าฉี่ ก็คิดจะเข้าคุมรวบกองทัพตระกูลจ้านมาอยู่ในมือช่างเป็นความเพ้อฝันของคนปัญญาอ่อนสิ้นดี!ขุนนางราชสำนักสองคนนั่งกระสับส่ายดุจนั่งอยู่บนพรมเข็ม จ้องมองสีหน้าแววตาที่จ้านเฉิงอิ้นกำลังสาดส่องพวกเขารู้สึกเกรงกลัวจากในใจมาถึงด่านเจิ้นกวนนานเช่นนี้ พวกเขาเห็นชัดเป็นอย่างยิ่งว่าในเข
จ้านเฉิงอิ้นถามมั่วฝาน “มู่ฉีซิวผู้นี้มีประวัติอย่างไร?”“กองทัพธงเหลืองตั้งตนขึ้นจากการสนับสนุนของกลุ่มตระกูลผู้มีอำนาจ เขามาจากตระกูลผู้มีอำนาจที่ใหญ่ที่สุดในลั่วจิง เป็นลูกหลานในตระกูลมู่ที่ฉายแววมากที่สุด ได้ยินว่าเป็นคนฉลาดปราดเปรื่องตั้งแต่เกิด ห้าขวบอ่านหนังสือได้อย่างคล่องแคล่ว เจ็ดขวบเริ่มอ่านคัมภีร์ประวัติศาสตร์ คัมภีร์ทางทหารและคัมภีร์สะสมของตระกูลต่าง ๆ”“สิบขวบสอบเข้าสำนักศึกษาที่หนึ่งของเมืองฉางเหอ เป็นข้อสอบที่ออกโดยอาจารย์ของจวงเหลียง เขาสอบได้อันดับหนึ่งในชั้นที่หนึ่ง!”แม้แต่จวงเหลียงยังกล่าว “ท่านอาจารย์เคยกล่าวว่า บุคคลผู้นี้ฉลาดเหนือข้า!”เมื่อฉลาดปราดเปรื่องเพียงนี้และมาจากต้นตระกูลมีชื่อเสียง วงศ์ตระกูลจึงตั้งความหวังไว้ที่เขาสูงมากเขาถึงกระทั่งสามารถสร้างกองทัพธงเหลืองขึ้นมา เสนอแบ่งที่ดินทำกินให้พลเมืองทุกคนเท่ากันและยกเว้นภาษีเป็นเวลาสามปี จนได้รับการสนับสนุนจากผู้คนมากมายสารลับที่ส่งมาครั้งแรก เขายอมยกตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ซือหม่าให้เพียงเท่านั้นสารลับที่ส่งมาครั้งนี้ กล่าวว่าจะปกครองร่วมกันในใต้ฟ้าเขาวาดขนมแป้งใหญ่ให้สัญญาลอย ๆ ไม่เป็นจริงหรือ?ไม่ เ
มั่วฝานสบถเย็นชา “ฝันไปเถอะ!”ผู้ที่ขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งผู้บัญชาการสูงสุดของหนึ่งกองกำลัง ไม่มีใครเป็นคนโง่เขลาอาทิเช่น อู๋ลี่มองแล้วเป็นคนซื่อบื่อโง่เขลาใช่ไหม?ครั้นเข้ามาถึงค่ายทหาร เขาเห็นทหารผ่านศึกทุกคนมีเครื่องแบบทหาร ดาบเหิงเตาราชวงศ์ถัง ดาบม่อเตาราชวงศ์ถัง รวมถึงเสื้อเกราะกันกระสุนที่ให้การป้องกันชั้นสูงและชุดเกราะ…เขาต้องการอุปกรณ์อย่างครบครันเช่นนี้ด้วยเช่นกัน ทหารใหม่จะต้องไม่ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งในค่ายทหารมีการติดตั้งไฟกับพัดลมพลังงานแสงอาทิตย์ เขาต้องการติดตั้งให้เสร็จภายในวันนั้นด้วยเขายังพยายามร้องขอตำแหน่งทางทหารระดับเดียวกับเฉินขุยต่อหน้าจ้านเฉิงอิ้นเขาดูเป็นคนซื่อ แต่เขาไม่โง่เลยสักนิด!พยายามร้องขอสิ่งดีมีผลประโยชน์อย่างกระตือรือร้นสมาชิกครอบครัวที่กองกำลังกบฏของเขาพามาด้วยกระตือรือร้นยิ่งกว่า พวกเขาพยายามจนได้นาข้าวที่มีดินอุดมสมบูรณ์ง่ายต่อการเพาะปลูกที่ยังไม่ถูกจัดสรรลูกน้องที่อยู่ใต้ล่างเขา หลายคนที่มีความสามารถโดดเด่น จ้านเฉิงอิ้นมอบตำแหน่งทางทหารให้กับทุกคนมีหกคนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองแม่ทัพ ถูกจัดให้เป็นลูกมือของอู๋ลี่คนเหล่านี้เป็นกองก
ในแคว้นฉี่ เดิมทีกองทัพธงเหลืองเป็นผู้มีชัยเหนือกว่าใคร ถ้ากองทัพลู่เจ๋อเผาพลาญกำลังต่อสู้ของกองทัพธงเหลือง นับว่าเป็นเรื่องดีสำหรับฮ่องเต้และยังช่วยยืดเวลาให้กับจ้านเฉิงอิ้น ทำให้เขามีเวลาว่างไปเพาะปลูกต่อดินแดนแห่งน้ำและหญ้าที่เคยอุดมสมบูรณ์ของชนเผ่าหมาน เขาอยากยึดครองมาไว้เช่นกันถ้ายึดมาได้ ด้วยนิสัยของม่อเป่ยอ๋องหลัวซู่ ย่อมไม่มีทางให้อภัยแน่เขากล้านำกองทัพเปิดศึกอีก…จ้านเฉิงอิ้นก็จะใช้โอกาสนี้จัดการชนเผ่าหมานให้ล่มสลาย!ครั้นคิดถึงตรงนี้ จ้านเฉิงอิ้นจึงถาม “ตรวจพบการเคลื่อนไหวของหลัวซู่บ้างหรือไม่??”“ไม่เลย อากาศยานไร้คนขับของเราไม่สามารถบินไกลขนาดนั้น!”จ้านเฉิงอิ้นเข้าใจดี ในเมื่อหลัวซู่ไม่อยู่ตามเขตชายแดน เช่นนั้นก็ขยายพื้นที่เพาะปลูกไปทางพื้นที่ของชนเผ่าหมานแล้วกันปลูกถึงบริเวณใด บริเวณนั้นจะตกเป็นของด่านเจิ้นกวน!ในเวลานี้ จวงเหลียงพูดขึ้นมาในกาลเวลาที่เหมาะสม “แม่ทัพ ถ้าฮ่องเต้น้อยนำมารดาของท่านรวมถึงบิดามารดาตระกูลเฉินแขวนไว้บนกำแพง ท่านก็จะไม่กลับเมืองหลวงหรือ?”ฮ่องเต้น้อยข่มขู่เขาอย่างเปิดเผยถ้าเขาออกจากเมือง ต้องถูกลอบสังหารด้วยวิธีต่าง ๆ ระหว่างทางก
เค้าโครงหน้าคมคาย ยิ่งดูหล่อเหลาโดดเด่นขึ้นแต่สีหน้ากลับเย็นชามาตลอด กลายเป็นหนุ่มหล่อสุดเย็นชาประจำโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไปแล้วแน่นอนว่า เขาเดินทางด้วยจักรยานสาธารณะ หรือไม่ก็นั่งรถประจำทาง ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีของแบรนด์เนมเลยไม่เหมือนกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่พอเข้าเรียนปุ๊บก็รู้เลยว่า พ่อแม่ทำอาชีพอะไร มาจากตระกูลไหน ตระกูลมีกิจการอะไรบ้างเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ล้วนแต่ร่ำรวยหรือมีฐานะสูงส่งส่วนเขาพื้นเพธรรมดา การแต่งตัวก็สบาย ๆโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน เพื่อนคนอื่น ๆ ใส่แต่แบรนด์หรู หรือไม่ก็ชุดสั่งตัดส่วนเขาใส่เสื้อผ้าแผงลอยข้างทาง!อาศัยหน้าตาแบกล้วน ๆพอดูออกว่าที่บ้านไม่มีเงิน ก็ถูกนักเรียนเกเรหมายหัวเพื่อนร่วมชั้นที่มายั่วโมโห หัวเราะอย่างโอหัง “โธ่เอ๊ย กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฉันเหรอ!”“มา ๆ ๆ วันนี้พวกเราสั่งสอนมันหน่อย ลากตัวมันขึ้นรถไปที่นอกเมือง”หลันซีเยว่ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงขวางอยู่ข้างหน้าเขา“พวกนายกล้าเหรอ ถ้าวันนี้พวกนายกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นิดเดียว ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ทันใดนั้นนักเรียนหลายคนก็หัวเราะล
เมื่อรถของเย่มู่มู่และหลูหมิงเคลื่อนตัวออกไป ลู่ฉิงยวนยังคงยืนสง่าอยู่ริมถนน มองส่งจนรถลับสายตาไป ครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยเขาก็ได้ช่องทางการติดต่อของเธอมาเย่มู่มู่ตอนห้าขวบไม่ยอมรับเขา~ไม่นึกเลยว่าพออายุยี่สิบปี เย่มู่มู่ก็ยังคงไม่ชอบเขาเหมือนเดิมผู้หญิงเพียงคนเดียว กลับเป็นคนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ถึงสองครั้งในชีวิตนี้หลังจากขึ้นรถแล้ว ลู่ฉิงยวนก็ถามหัวหน้าบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “บอดี้การ์ดที่อยู่กับเย่มู่มู่คนนั้น เป็นคนของสายไหนกันแน่?”หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดยังนึกถึงชายคนนั้น ออกหมัดฉับไว รุนแรง นั่นไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาแน่นอน“เป็นนักสู้มืออาชีพครับ ที่สำคัญคือเป็นประเภทที่ทุกกระบวนท่าล้วนมุ่งเอาชีวิต! นั่นไม่ใช่ฝีมือของพวกเรียนกังฟูหรือซานต้าวิธีที่เขาลงมือ ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย!”ลู่ฉิงยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่คนเดียวก็สามารถล้มบอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดลงไปกองกับพื้นได้เดิมทีเขายังเป็นห่วงเย่มู่มู่ กลัวว่าเด็กกำพร้าตัวคนเดียวอย่างเธอจะถูกรายล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าและเสือร้ายแต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความกังวลของเขาจะไม่จำเป็นเสียแล้วการที่สามารถอัด
“คุณคู่ควรกับผู้หญิงที่ดีกว่านี้นะคะ ส่วนฉัน... ไม่ได้สนใจเรื่องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์อะไรแบบนั้นเลยค่ะ!”เธอกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่เสียงของลู่ฉิงยวนก็เย็นเยียบลงหลายส่วน เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ทำไม?”เย่มู่มู่หันกลับไปมองเขา“ทำไมถึงปฏิเสธผม คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังจะพลาดอะไรไป?”“คุณไม่ชอบผม หรือคิดว่าเราไม่มีความรู้สึกต่อกันงั้นเหรอ!”เย่มู่มู่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอโทษนะคะคุณลู่ มันไม่เกี่ยวกับคุณเลยค่ะ การที่ต้องสร้างครอบครัวกับผู้ชายที่แทบไม่รู้จักกันดี แค่คิด...ฉันก็รับไม่ได้แล้วค่ะ!”“สุดท้ายแล้ว ก็ยังเป็นเพราะคุณไม่ชอบผมใช่ไหม? มู่มู่ อย่าดื้อนักเลย ความรู้สึกน่ะมันสร้างกันได้นะ...”เย่มู่มู่ขมวดคิ้ว มองไปยังลู่ฉิงยวนเขาทั้งหนุ่ม ทั้งรวย อาศัยความสามารถของตัวเองล้วน ๆ สร้างหลิ่วอวิ๋นกรุ๊ปจนยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้เขายอดเยี่ยมมากบางทีในอนาคตเธออาจจะต้องเสียใจ ที่ตัวเองพลาดมหาเศรษฐีโสดผู้เพียบพร้อมทั้งความสามารถและฐานะระดับเพชรยอดมงกุฎคนนี้ไปแต่ ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่เรื่องหาเงิน และเรื่องการช่วยจ้านเฉิงอิ้นรวบรวมใต้หล้าให้เป็นปึกแผ่นในคติประจำใจ
“แน่นอนว่าพวกเธอก็จะไม่บังคับลูก ๆ ถ้าไม่ชอบ ก็ปฏิเสธได้!”“ต่อมา คุณแม่เกิดอุบัติเหตุ ผมถูกบ้านตาไปรับเลี้ยง ไอ้สารเลวนั่นเริ่มฟ้องร้องยาวนานกว่าสิบปี เพียงเพื่อล้มล้างพินัยกรรมของแม่!”“ระหว่างนั้น เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในมือผม ป้าหลินจึงมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ในมือของเธอให้ผมโดยไม่คิดค่าตอบแทน”“ผมเคยถามเธอ ว่าต้องการอะไรเป็นการตอบแทนไหม์”“เธอขอให้ผมดูแลคุณให้ดี หากวันใดวันหนึ่งพวกเขาสามีภรรยาเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องถูกคนตระกูลเย่รังแกแน่ ๆ เธอหวังว่าผมจะรับปากว่าจะดูแลคุณให้ดีไปชั่วชีวิต!”น้ำตาของเย่มู่มู่ร่วงเผาะ ๆเธอไม่คิดเลยว่า คุณแม่ได้วางแผนเพื่อเธอไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วเพื่อเดิมพันกับโอกาสอันน้อยนิดนั้น ใช้หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของลู่ซื่อกรุ๊ป แลกกับคำมั่นสัญญาเพื่อเธอพ่อแม่ของเธอรักเธอมาก“ลู่ฉีหยางตามหาคุณ ข่มขู่คุณ! นอกจากจะหมายตาฟู่ลี่กรุ๊ปที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่แล้ว ยังมีอีกอย่าง พวกเขารู้ว่าแม่ของคุณมีหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์!”“ผมเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นสิบอันดับแรกของบริษัทต่อสาธารณะ พวกเขาก็ยังคงไม่เชื่อ!”“อยากจะยึดหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์นั้นมาเป็นขอ
ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล
คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล
หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล
แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา
ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ