ในที่สุดเมธาวีก็เดินทางมาถึงบ้านคุณหญิงแก้วฤดี บ้านที่เธอต้องมาอาศัยอยู่ชั่วคราว โดยมีสาวใช้มารอรับเธออยู่ก่อนแล้ว เมื่อมาถึงหนูนาสาวใช้รุ่นราวคราวเดียวกับเธอก็พาเดินเข้าไปด้านในอย่างสุภาพ
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังเดินเข้ามาภายในบริเวณบ้าน มีรถสปอตคันหรูขับแล่นตามเข้ามา ทันทีที่คนขับเห็นแผ่นหลังของผู้หญิงที่ลากกระเป๋ากำลังเดินเข้าบ้าน เขารู้สึกคุ้น ไม่นานก็นึกออก ทั้งรูปร่าง หน้าตา ท่าเดินรวมถึงกระเป๋าเดินทางใบนั้นใช่เลยเป็นเธอแน่ ๆ
“ยัยเม่น”
เสียงอุทานดังขึ้นพร้อมกับเสียงแตรที่ดังสนั่นจนทั้งสองสาวต้องหันไปมองและต้องตกใจที่ รถคันดังกล่าวตั้งใจขับเฉี่ยวปาดหน้าทั้งสองคนไป
“ว้ายย ตายแล้วคุณเมย์เป็นอะไรมั้ยคะ” หนูนาร้องด้วยความตกใจเมื่อเห็นหญิงสาวที่เดินมาด้วยกัน ล้มก้นจ้ำเบ้าอยู่ที่พื้น
“เมย์ไม่เป็นอะไร แล้วหนูนาละ”
“หนูนาก็ไม่เป็นอะไรค่ะ” รถสปอร์ตคันหรูจอดนิ่งสนิทดูเหมือนคนขับจะไม่ยอมลงจากรถ ด้วยความโมโหเมธาวีรีบก้าวขาสั้น ๆเข้าไปหาทันที
“นี่ลงมาเดี๋ยวนี้เลยนะ ขับรถประสาอะไร ไม่เห็นคนเดิน อยู่หรือไง”
เมธาวีร้องโวยวายต่อว่าพร้อมกับเคาะกระจกรถรัวๆ อย่างเอาเรื่อง หนูนาที่เห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งเข้ามาห้าม
“คุณเมย์ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ”
แต่ดูเหมือนหญิงสาวจะไม่ฟังคำห้าม ส่วนคนในรถลอบมองเธอจากด้านในพินิจมองใบหน้างามที่ขึงตาใส่เขาอย่างอารมณ์ดี ปกติเขาไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้นเช่นนี้ แต่กับเธอคนนี้ไม่รู้ทำไมเหมือนกันเขาถึงไม่อยากยอม อาจเพราะสายตาที่สู้คนของเธอถึงตัวจะเล็กกว่ามาก แต่ก็ไม่ยอมหากเธอถูกกระทำ
กรวัฒน์เปิดประตูลงรถยืนขึ้นเต็มความสูง ก่อนหลุบตามองเธอที่อยู่ต่ำกว่า
ใบหน้านวลใสจิ้มลิ้มโกรธจัดราวกับจะกินคนได้ทันทีที่เห็นหน้ารกรุงรังของคนตรงหน้าชัดๆ อารมณ์เธอขุ่นมัวเพิ่มขึ้นอีกไม่คิดว่าโลกจะกลมเช่นนี้
“อ้อที่แท้ก็คุณนี่เองไอ้ลุงโรคจิต”
“หยุดเรียกผมแบบนั้นสักทีได้มั้ย”
“ไม่ได้ ก็คุณมันโรคจิต ไม่งั้นจะตามฉันมาที่นี่ทำไม”
“เหอะ ความหลงตัวเองของคุณนี่ ไม่เกินใครเลยนะ ผมนั่นแหละที่ควรถามคุณมากกว่า ว่าคุณมาทำอะไรที่นี่”
“ฉันจะมาทำอะไร มันก็เรื่องของฉันไม่เกี่ยวกับคุณ” 'วันซวยของฉันจริง ๆ' ประโยคหลัง เธอบ่นเบา ๆ กับตัวเองแต่เขาได้ยิน
“คุณว่าอะไรนะ ผมต่างหากที่ซวยต้องเจอคุณตั้งสองรอบในวันเดียวกัน”
“นายนั่นแหละไอ้ตัวซวย ไอ้โรคจิต” ด่าเสร็จจะเดินถอยไปตั้งหลัก แต่เขากับคว้าข้อมือเธอไว้ก่อน
“นี่ปล่อยนะ จะทำอะไร”
“ทำไมนึกกลัวขึ้นมาแล้วหรือไง”
ไม่ถามเปล่ามือหนาจับหัวไหล่ทั้งสองข้างของเธอดันชิดกับรถสปอร์ตคันหรู ถึงจะรู้สึกกลัวขึ้นมาบ้าง แต่ด้วยศักดิ์ศรีที่ค้ำคอเธออยู่จะให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ไม่ได้
“ใครจะกลัวคุณไอ้หนวดรุงรัง”
“นี่คุณว่าผมอีกแล้วนะ”
ดวงตาคู่คมจ้องมองแววตาท้าทายของหญิงสาวเบื้องหน้าต่างคนต่างไม่หลบตา กรวัฒน์เผลอบีบข้อมือบางแรงจนเธอทนความเจ็บไม่ไหว
“โอ๊ยนี่ฉันเจ็บ ปล่อยฉันนะไอ้ลุงโรคจิต” หนูนาเมื่อเห็นว่าทั้งสองทะเลาะกันใหญ่แล้วจึงร้องห้าม
“คุณกรปล่อยคุณเมย์ก่อนเถอะค่ะ”
“เธอรู้จักผู้หญิงคนนี้ด้วยเหรอหนูนา เขาเป็นญาติเธอหรือไง”
“ปะ เปล่าค่ะไม่ใช่ญาติของหนูนาแต่...”
“งั้นก็เงียบไป ฉันจะสั่งสอนยัยเด็กเม่นนี่ ให้รู้จักกาลเทศะหน่อย”
“พูดบ้าอะไร น่ารำคาญปล่อยฉันนะ”
เธอบ่นเมื่อเห็นเขาเผลอ จึงใช้โอกาสใส่เข่าเข้าตรงน้องชายเขาหนึ่งที ก่อนเบี่ยงตัวหนี กรวัฒน์ทั้งเจ็บและจุกจนต้องงอตัวไว้ แต่ยังไม่ยอมปล่อยเธอ ส่วนมืออีกข้างจับที่เป้ากางเกงตัวเองเอาไว้
“ยังคุยกันไม่รู้เรื่องเธอจะหนีไปไหน” เขาถามน้ำเสียงเบา
“ดื้อนักนะคุณ จุกขนาดนี้ยังฝืน ปล่อยฉันนะ”
“ไม่ปล่อย”
“ไม่ปล่อยชั้นจะเตะซ้ำนะ” จบคำของเมธาวีเขารีบปล่อยมือเธอทันที
“แล้วอีกอย่างเรื่องเมื่อตอนกลางวัน ฉันก็ขอโทษคุณไปแล้ว ทำไมต้องตามมาหาเรื่องกันถึงที่นี่ด้วย”
“อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย ทำไมผมถึงต้องทำแบบนั้น”
“งั้นก็กลับไปซะแล้วอย่ามาที่นี่อีก”
เสียงนกร้องยามเช้าตรู่ปลุกให้คนที่นอนหลับใหลตื่นขึ้น เช้านี้เขารู้สึกสดชื่น เพราะได้นอนหลับเต็มอิ่ม บรรยากาศยามเช้าฟ้าหลังฝน เขาเปิดหน้าต่างรับลม มองไปยังทะเลกว้างด้านหน้า อากาศสดชื่น ท่ามกลางธรรมชาติ“เมย์ ครับ”“อื้อ”“เช้าแล้ว ตื่นได้แล้ว”“เมย์ขอนอนต่ออีกหน่อยค่ะ”“ไม่ได้นะ เดี๋ยวฝนตกอีก”“ถ้าไม่ตื่น รู้ใช่มั้ยว่าต้องโดนอะไร”“อื้อ...ไม่เอาแล้วค่ะ พอแล้ว ตื่นแล้ว”“ไปอาบน้ำเถอะ จะได้ไปหาอะไรกิน”“รู้แล้วค่า”“ทำไมทำหน้าแบบนั้น”“เมย์ไม่สบายใจที่ทำแบบนี้”“แบบไหน”“ที่เรานอนด้วยกัน เราอยู่ในบ้านเดียวกันนะคะ ถ้าคุณลุงคุณป้ารู้จะเป็นยังไง”“ไม่ต้องคิดมากนะ กลับไปพี่จะจัดการเรื่องนี้เอง”“หมายความว่ายังไงคะ”เมธาวีและกรวัฒน์กลับมาถึงบ้านช่วงบ่าย เพราะเมื่อคืนผ่าน
ร่างบางอ่อนระทวยรู้สึกสายตาพร่ามัว มือที่พยายามดันเขาให้ถอยห่างไร้เรี่ยวแรง ก่อนหน้านี้เขาพยายามอดกลั้นความต้องการของตนเองไม่ให้รักหลับเธอ แต่เธอกับชอบทำตัวน่ารัก ให้เขาอยากสัมผัสอยากอยู่ใกล้ ตอนนี้อารมณ์เขาเตลิดไปถึงไหนต่อไหนแล้วเมธาวีหน้าแดงก่ำเมื่อเขาลากฝ่ามือสอดใต้ชายเสื้อ สัมผัสผิวเนื้อกายสาว ก่อเกิดความรู้สึกบางอย่าง ร่างกายเริ่มร้อนรุ่ม ยิ่งเขาสัมผัสโดนจุดอ่อนไหว เธอยิ่งควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้ ตอนนี้เธอต้องการมากกว่าแค่การสัมผัส เมธาวีกัดริมฝีปากแน่นกดกลั้นความต้องการของตนเองเพราะรู้สึกอายหากแสดงออกไปริมฝีปากหนาผละออกมองใบหน้าสวย ที่ตอนนี้ราวกับลูกแมวตกน้ำรอให้เขาช่วยเหลือ ใบหน้าหล่อเข้มยิ้มอย่างพอใจ“ผมไม่อยากกินบะหมี่ต่อแล้ว แต่อยากกินอย่างอื่นมากกว่า”ไม่ใช่คำขอแต่เป็นคำบอก เพราะเขาไม่รอคำตอบ ปากหนาโน้มลงครอบครองริมฝีปากบางอีกครั้ง ครั้งนี้รุกเร้าร้อนแรง บราลูกไม้สีเนื้อถูกเขาปลดออกอย่างชำนาญ เผยให้เห็นเนินอกอวบอิ่มน่ามอง มือหนาครอบครอง ลูบไล้บีบเคล้นสัมผัสปลุกเร้าให้ร่างน้อยทรมาน เธอแอ่นอกรับอัตโนมัติเมื่อปลายนิ้วสัมผัสปลายยอดอก
“คุณนั่งลงก่อนเดี๋ยวผมทำเอง” เขาบอกปนออกคำสั่ง ก่อนเดินไปปิดหน้าต่างทีละบาน จากนั้นหยิบมือถือขึ้นมาดูพยากรณ์อากาศ“ดูเหมือนว่าพายุจะเข้านะ ผมขอโทษที่ไม่ได้ดูพยากรณ์อากาศก่อนออกมา แถมยังออกมาช้าจนทำให้เรามาถึงนี่เย็น”“ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกค่ะ งั้นเรากลับกันเลยดีมั้ย”“ตอนนี้ฝนตกหนักและลมกระโชกแรงมาก เรารอให้ฝนซาลงก่อนแล้วค่อยกลับดีกว่า”“แบบนั้นก็ได้ค่ะ” เมธาวีเองก็อยากอยู่บ้านนาน ๆหน่อยไม่ได้กลับนาน“งั้นคุณนอนพักเอาแรงก่อนมั้ยคะ เดี๋ยวฝนหยุดฉันจะปลุก” เธอบอกเพราะเห็นเขาทำงานตั้งแต่เช้ายังไม่ได้พัก แถมยังขับรถให้เธออีกตั้งหลายชั่วโมง“ก็ดีเหมือนกันครับ แล้วให้ผมนอนที่ไหน”“นอนที่ห้องนี้ค่ะ เป็นห้องของแม่”“ผมขอนอนที่ห้องคุณได้มั้ย”“ไม่ได้ค่ะนอนห้องนี้แหละ เดี๋ยวเมย์จะไปเก็บของที่ห้องต่ออีกหน่อย จะได้ไม่กวนคุณ” เธออธิบาย“ก็ได้ครับ”“งั้นรอแป๊บหนึ่งนะคะ เดี๋ยวเมย์ไปเอา
เมธาวีรู้สึกตัวตื่นก็รีบควานหาเสื้อผ้าสวมใส่ด้วยความรวดเร็ววิ่งกลับขึ้นห้องก่อนที่ฟ้าสว่างแล้วจะมีคนมาเห็นเข้าเสียก่อน ร่างบางนั่งลงปลายเตียงจับปากตัวเองที่ตอนนี้ยังรู้สึกถึงรสจูบเร่าร้อนของเขาอยู่เลย ยิ่งคิดถึงปลายนิ้วร้อนของเขาตอนสัมผัสตามร่างกาย ยิ่งทำให้ท้องไส้เธอปั่นป่วนเมธาวีเม้มริมฝีปากแน่น ครุ่นคิดอยู่นานจนรู้สึกใบหน้าร้อนเห่อแดงขึ้น ก่อนยิ้มกับตัวเองเมื่อแน่ใจแล้วว่าเธอเองก็รู้สึกไม่ต่างจากเขาจริง ๆ แต่ที่ทำอยู่มันถูกแล้วหรือเธอกำลังรู้สึกผิดที่ปล่อยตัวปล่อยใจให้กับเขาง่าย ๆอย่างนี้วันนี้ธนนท์มาหากรวัฒน์ที่บ้านอย่างเช่นปกติ แต่ที่ผิดปกติคือทั้งเมธาวีและเพื่อนของเขามีอาการที่ผิดแปลกไปจากทุกวัน จนเขาสงสัย“ไงอารมณ์ดีจังนะมึงวันนี้”“....” พอได้ยินเสียงไอ้เพื่อนรักเท่านั้นแหละ กรวัฒน์ถึงกับหุบยิ้ม พร้อมกับเหล่มองทันที“นะ ไม่ตอบซะด้วยแสดงว่าเกิดเรื่องดี ๆขึ้น” ธนนท์แซวต่อ“เสือก!”“อ่าว ไอ้นี่กูอุตส่าห์เป็นห่วง รีบมาดูเห็นว่าเป็นลมเป็นแล้งไป มาด่ากันซะงั้น เดี๋ยวกูเปลี่ยนจากเพื่อนมึงไปเป็นคู่แข่งเลยดีมั้ย”“หยุดคิดเลย”“แหมๆ! หวงก้างซะด้วย..เฮ้ยนั่นเจ้าตัวมาพอดีเลย” ธนนท์บอกอย
มื้อเย็นหญิงสาวไม่ได้ลงมาทานข้าว เอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง เพราะไม่พร้อมเผชิญหน้ากับเขา และทำตัวไม่ถูกเวลาอยู่ต่อหน้าทุกคน เธอเลยเลือกที่จะไม่ลงไป จนดึกทนหิวไม่ไหวต้องลงมาหาอะไรรองท้องไม่อย่างนั้นคืนนี้ นอนไม่หลับเป็นแน่ แต่เมื่อลงมากับพบว่าไฟถูกเปิดสว่างแต่กลับไม่มีคนอยู่“เวลากินไม่ลงมากิน ต้องแอบมาดึก ๆดื่น ๆไม่กลัวผีแล้วหรือไง” กรวัฒน์ที่รออยู่แล้วทักขึ้น“ก็ไฟเปิดโล่งขนาดนี้มีอะไรให้ต้องกลัวคะ”“ทำไมมื้อเย็นไม่ลงมาทานข้าวด้วยกัน”“ฉันทำตัวไม่ถูก ไม่กล้ามองหน้าคุณลุงคุณป้า” เขาได้แต่มองแล้วถอนหายใจ ก่อนจะยื่นจานอาหารที่เตรียมไว้ให้เธอ เพราะรู้ว่ายังไงเธอต้องหิวจนทนไม่ไหว“นี่ ของคุณทานก่อนเถอะ” เมธาวีมองที่จานอาหารสลับกับมองหน้าเขา“ผมรู้ว่าคุณจะต้องแอบลงมากลางดึก”“ขอบคุณค่ะ” เมธาวีรับมาก่อนที่จะทานจนหมด โดยมีเขานั่งมองไม่วางตา จนเธอล้างจานเก็บเข้าที่เรียบร้อยเขาก็ยังไม่ยอมไปไหน“ฉันอิ่มแล้ว ขอบคุณสำหรับอาหาร ฉันขอขึ้นไปข้างบนก่อนนะ”“เมย์! ถ้าคุณเป็นแบบนี้ผมจะไปสารภาพกับคุณพ่อคุณแม่ตอนนี้เลย”“อย่านะคะ อย่าพึ่งบอกฉันยังไม่พร้อมจริง ๆ” แขนแข็งแรงถูกเธอรั้งไว้ “เมย์ คุณฟังผมนะ ผ
“อื้อ! ” ยิ่งยามเขาขยับนิ้วเข้าออกยิ่งทำเธอเสียวสะท้านยกสะโพกขึ้นลงหวังลดความทรมาน ไม่นานอันเดอร์แวร์ตัวจิ๋วถูกเขารูดลงจนถึงข้อเท้า จุดที่อ่อนไหวที่สุดของหญิงสาวถูกเขากดเน้น หยอกล้อหมุนวนจนร่างน้อยบิดเร้าเด้งหนี แต่สะโพกกับแอ่นรับ“อ้า! อือ” เสียงครางอื้ออึงดังขึ้น เมื่อเห็นเธอเริ่มทรมาน ผ้าขนหนูที่ห่อหุ้มกายไว้ถูกกระตุกเบา ๆจนหลุดออก เผยให้เห็นอาวุธร้ายที่ขยายโตเต็มที่สาวน้อยหลับตาปี๋ด้วยความเขินอาย เขาเห็นดังนั้นยิ่งชอบใจ สองขาของเธอถูกยกแยกออกจากกัน ร่างใหญ่ดันกายลุกขึ้นคร่อมระหว่างกลาง สองขาเรียวห่อตัวเข้าหากันอัตโนมัติตามสัญชาตญาณ แต่ถูกเขาจับแยกออกเช่นเดิม“เมย์ผมต้องการคุณ” เขาบอกขณะมืออีกข้างจับอาวุธร้ายถูไถกลีบกุหลาบนุ่มนิ่มไปมา ทำเธอเสียวสะท้านไปทั่วร่าง ริมฝีปากล่างถูกกัดแน่นพยายามควบคุมสติ“ปล่อยตัวตามธรรมชาติ แล้วคุณจะไม่ทรมาน” เขาบอกด้วยความที่เธออ่อนประสบการณ์ ถูกเขาล่อลวงหน่อยเวลานี้เธอก็เตลิดคล้อยตามเขาได้ง่าย น้ำใส ๆไหลออกมาเมื่อร่างกายเธอพร้อมไม่รอช้าเขากดปลายอาวุธค่อย ๆสอดเข้าไปในกายเธออย่างช้า ๆ มือบางยกดันอกเขาออกอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ“อย่าค่ะ อ่า!”“เมย์ผมหยุดไม