ตกบ่ายอันธิยาจัดแจงยัดคุณสามีขึ้นรถ..เพื่อเตรียมไปช็อปปิ้งที่ห้าง..เดิมรามิลเองก็คร้านจะไปไหน..เขายังไม่อยากไปเจอผู้คน..แต่คนตัวเล็กแต่แรงเยอะขู่ว่า
'ถ้าพี่มิลไม่ไป..อัญเลือกเสื้อกับกางเกงมาไม่ถูกใจ..จะมาบ่นกันไม่ได้นะ'
นั่นแหละคือเหตุผลที่คนตัวโตยอมขึ้นรถมากับยัยกระเปี๊ยก..ส่วนลูกสาวคนสวยกลับส่งสายตาเห็นใจมาให้..ทำให้เริ่มตะหงิดใจว่า...ที่ตามมาด้วยนะ..คิดถูกใช่มั้ย
ห้างสรรพสินค้าชื่อดังประจำจังหวัด..ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่..ถูกจูงโดยหญิงสาวตัวเล็กที่พลังงานไม่เล็กตาม..รามิลเริ่มเข้าใจแล้วทำไมลูกสาวคนสวยถึงส่งสายตาเห็นใจมาให้
เพราะแม่คุณเล่นลากเขาเข้าทุกร้านขายเสื้อผ้าผู้ชายที่เจอ
"ตัวนี้ก็สวยนะ..พี่ชอบมั้ย?"
เสื้อที่เธอยื่นมาให้เป็นเสื้อกล้ามลายม้าลายสุดเฉียบ..ที่ทำเอาเขาพูดไม่ออก..ไอ้แสบโยนใส่ตะกร้าโดยไม่รอคำตอบ..ทั้งยังไปคว้าเสื้อยืดสีเขียวสะท้อนแสง..แล้วก็โยนลงตะกร้าไปอีกตัว ตามด้วยเสื้อแขนยาวสีเขียวหม่น..กางเกงขาเดฟ
"..."
'ดูๆไปสไตล์มันชักยังไงไม่รู้'
"พี่ช่วยถือตะกร้านะ"น้ำเสียงคนพูดประจบ..พร้อมรอยยิ้มหล่อเหลา..ทำคนเป็นเมียใจละลาย พอแม่คุณแม่ทูนหัวเผลอ..เขาจัดแจงนำเสื้อผ้าในตะกร้ากลับคืนที่เดิม
อันธิยาเตรียมจะยัดเสื้อสีชมพูเรืองแสงลงตะกร้าอีกตัว..ก่อนที่จะพบว่าของในนั้นว่างเปล่า
"อ้าว..เสื้อผ้าหายไปไหนหมดแล้วอะ"น้ำเสียงคนพูดงงงวย ก่อนที่เขาจะดึงเสื้อในมือเธอไปไว้ที่ราวเดิม..แล้วลากยัยตัวเล็กออกจากร้าน
"ไปร้านอื่นกันเถอะแบน..เดี๋ยวพี่เลือกเอง"น้ำเสียงเข้มแหบพร่า..น้องสาวข้างบ้านมุ่ยหน้าทันที..เธออุตส่าห์เลือกตั้งนาน
"โหยย..มีแต่ตัวสวยทั้งนั้นเลยเสียดาย"แต่ไอ้ต้าวตัวเล็กก็ยังยอมตามใจ..ดวงตาคมมีความลังเล..แท้จริงแล้วการที่ต้องมาใช้เงินผู้หญิงมันให้ความรู้สึก..เสียศักดิ์ศรีชะมัด
"หนูมีงบให้พี่เท่าไร"
"สำหรับลูกกับผัวได้หมดจ๊ะพี่"น้ำเสียงคนพูดสบายๆ ทั้งส่งยิ้มสดใสมาให้ รามิลได้แต่มองสำรวจไอ้ตัวแสบตั้งแต่หัวจรดเท้า
ใบหน้าจิ้มลิ้มไร้เครื่องสำอางใดๆ มากสุดคงครีมบำรุงเล็กน้อย และครีมกันแดด..เสื้อยืดตัวโคร่งใหญ่กับกางเกงขาสั้น ดูยังไงก็ใช้มาหลายปี..ทั้งเนื้อทั้งตัวของหญิงสาวไม่มีของมี 'ราคา' สักชิ้น
ดวงตาคมหลุบลง..เขารู้ทันใด..สำหรับตัวเธอ..เธอประหยัดทุกทาง..แต่กับครอบครัวเธอยอม 'จ่าย' เต็มที่..และ 'เขา' คงถูกนับเป็นคนในครอบครัวไปแล้ว..ความอบอุ่นวาบขึ้นในใจ..การที่โดนโอบกอดด้วยความรัก..มันดีแบบนี้นี่เอง
แต่..คนตัวโตยังคงอดถอนหายใจไม่ได้
"พี่ไม่ต้องซีเรียสนะ อยากได้อะไรก็บอก..บ้านเราจริงๆพอมีเงิน..พี่ชอบตัวไหนซื้อเลย"น้ำเสียงคนพูดกระตือรือร้น มันถูกส่งมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง..ดวงตากลมโตสีน้ำตาลกระจ่างใส..เขาลูบหัวคนตัวเล็กข้างหน้า..ยัยตัวแสบสูงแค่อกเขาเอง
"ถือว่าพี่ยืมเงินเราแล้วกันละนะ..ไว้วันนึงพี่จะคืนให้ และจะเป็นคนพาเธอมาเดินช็อปแทน..พี่สัญญา"น้ำเสียงคนพูดหนักแน่นกว่าทุกครั้งที่เธอเคยฟังมา
อันธิยาได้แต่ก้มหน้าเขินๆ คุณสามี..เวอร์ชันที่เติบโตมากขึ้น..ทำไมมันน่ารักแบบนี้นะ
แม้คนตัวเล็กจะไม่คาดหวังสัญญาครั้งนี้เลยก็ตาม
รามิลเปลี่ยนมากุมมือหญิงสาวแทน..ก่อนจะลากเข้าร้านเสื้อผ้าแบรนด์กลางๆ ที่ราคาหลักร้อย..เขาเลือกเสื้อยืดใส่สบายโทนสีเป็นกลาง เช่นสีเทา..สีดำ..สีขาว
"มีแต่สีเข้มๆทั้งนั้นเลยอะพี่"ยัยตัวแสบเริ่มบ่น..คนตัวโตเลยหยิบเสื้อสีม่วงอ่อน..กับสีฟ้าใส่ลงตะกร้าเพิ่ม
"เสื้อผ้าไม่ต้องซื้อเยอะหรอก..เพียงแต่เพิ่มเงินอีกนิดก็ได้ตัวที่พอใส่ได้..ใช้ทนแล้ว"เสียงเข้มอธิบาย..คนหลงผัวได้แต่พยักหงึกงักเป็นเชิงว่าตามใจ..สามีว่าอะไรเธอเชื่อหมด
แล้วเขาก็หยิบกางเกงยีนขายาวพอดีตัวสองตัว กับกางเกงสามส่วนเพิ่มอีกสองตัว..ลงตะกร้า..ก่อนจะยื่นให้คนตัวเล็กไปจ่ายเงินให้
"เห้ย ไอ้มิลจริงๆด้วย!!!"เสียตกใจปนดีใจมาจากผู้ชายร่างท้วม ใบหน้าหล่อเหลามองกลับไปอย่างว่างเปล่า..ยัยตัวเล็กข้างๆโบกมือหย็อยๆ
"อ้าว..พี่วินมาได้ยังไง"
"พาเมียกับลูกมาเที่ยวนะ"น้ำเสียงคนพูดตื่นเต้น..ดวงตาสองชั้นหลบในเต็มไปด้วยความดีใจ
"กูตาฝาดป่ะเนี่ย..มะ..มึง..รอดมาได้ไงวะ!!"
"..."
"คืองี้พี่มิล..พี่วินเป็นแก๊งหนุ่มหล่อประจำคณะเกษตร..ระหว่างที่พี่ไม่อยู่พี่วินคอยมาช่วยที่บ้านตลอดเลยค่ะ"
คำอธิบายของยัยตัวเล็กแทบไม่เข้าหัวเขา..ดวงตาคมคู่สวยยังคงว่างเปล่า..วิญญูเองก็ไม่ทันสังเกต..เขาเพียงแต่เข้ามาตบบ่า..เพื่อนที่คิดว่าตายไปสิบปีกลับมาแล้ว
"กูไง..วิญญูผู้หล่อเหลา..ถึงแม้ตอนนี้กูจะอ้วนไปหน่อยก็เถอะ"ชายร่างอวบยิ้มตาหยี
รามิลขยับตัวห่างเล็กน้อยอย่างถือตัว..ใบหน้ายังคงเย็นชา ทำคนเป็นเพื่อนชะงัก..เมียเพื่อนเลยหันมาอธิบาย
"พี่วินคะ..พี่มิลป่วยอยู่ค่ะ..เอ่อ..จะว่ายังไงดี..ความทรงจำพี่เขาหายไป..พี่มิลจำอะไรไม่ได้เลยค่ะ"น้ำเสียงคนพูดแผ่วเบา..ดวงตากลมโตที่ปกติมีประกายหมองลงเล็กน้อย..เพื่อนสามีได้แต่ส่งสายตาแปลกใจปนเห็นใจมาให้
"พี่เข้าใจละ..ถึงว่าทำไมไอ้มิลทำหน้าบอกบุญไม่รับ..มึงไม่ต้องคิดมากนะ..อยู่ๆไปเดี๋ยวก็จำได้เอง..สมัยก่อนมึงกับเมียรักกันจะตาย"คำท้าย..วิญญูหันมาปลอบคนเป็นเพื่อน ก่อนที่เสียงโทรศัพท์ของคนเป็นเมียจะโทรตามให้ไปหา..อดีตเพื่อนรักสามีรับคำ..ทั้งยังหันมาลาคนทั้งคู่
"พี่ไปก่อนนะอัญ..พอดีต้องไปรับแก้วกับน้องขวัญที่บ้านบอลก่อน"
"จ้าพี่"
"ส่วนมึงไอ้มิล..ไว้กูว่างจะไปหาที่บ้าน..เดี๋ยวพาไปกินเหล้ารื้อฟื้นความหลังกัน"
ไม่ทันที่ไอ้ต้าวพี่ข้างบ้านจะทันตอบอะไร ชายร่างอวบก็เดินจ้ำอ้าวไปหาลูกหาเมียแล้ว
"นั่นเพื่อนพี่เหรอ"น้ำเสียงคนพูดติดระอา ยัยตัวเล็กพยักหน้าเป็นเชิงว่าใช่ เขาถอนหายใจหนึ่งที
"มีอะไรหรือเปล่าพี่"
"อื่อ..ช่างมันเหอะ"
รามิลยังคงถอนหายใจซ้ำ..ตัวเขาในอดีตดูจะคบแต่เพื่อนกินเหล้าเมายาโดยแท้..ดูจากผิวพรรณอวบอ้วนหน้าบวมก็รู้..ไอ้วินของเพื่อนคงตั้งวงดื่มทุกวัน
"แบน?"
"หืม..เมื่อไรพี่จะเลิกเรียกหนูว่าแบนซะที"ยัยตัวกระเปี๊ยกบ่นอุบ ผมเปียสองข้างสีน้ำตาลกวัดแกว่งไปมา
"แบนก็น่ารักดีออก"ไอ้ต้าวพี่ชายข้างบ้านยังคงตีหน้าตาย..ดวงตาคมคู่สวยแฝงแววลังเล..ก่อนจะกลั้นใจถามคำถามบางอย่างออกไป
"สมัยก่อนพี่ดื่มเหล้าบ่อยมั้ย"
"อื่อ..ก็ทุกเย็นอะ..ถามทำไมเหรอ"
"ทุกเย็น?"ใบหน้าหล่อเหลาซีดลงเล็กน้อย
"แล้ว..เมามีอาละวาดทุบตีหนูกับลูกมั้ย"คนตัวโตกลืนน้ำลายดังเฮือกโดยไม่รู้ตัว..ถ้าทำเขาก็ใกล้เคียงหน้าตัวเมียเต็มทนละ
เข้าสโลแกน..จน..เครียด..กินเหล้า..เพิ่มเติมคือ..ซ้อมเมีย
อันธิยาเงียบไป รามิลเต็มไปด้วยความเครียด.. ดวงตาสีน้ำตาลคู่โตของคนเป็นเมียครุ่นคิด..ทั้งยังคงพยายามเรียบเรียงคำพูด
"สมัยเรียน พี่มิลได้เป็นเดือนคณะ คบกลุ่มแก๊งพี่วิน..แล้วตั้งวงกินเหล้าทุกวัน..ตอนนั้นอัญเรียนมัธยม..เมื่อไรเลิกเรียนพิเศษก็มาตามพี่กลับบ้าน..ดีอย่างตอนนั้น..พี่มิลไม่ค่อยดื้อ..อัญหมายถึง..ถ้าอัญมาตาม..พี่ก็ตามกลับบ้านทุกรอบจ๊ะ"
"..."
"ส่วนเรื่องทุบตีไม่มีจ๊ะ..พี่คออ่อน กินไม่กี่แก้วก็หลับละ"
"เห้อ แล้วไป"คนตัวโตถอนหายใจ..เหมือนยกภูเขาออกจากอก
"ตอนหลัง..พอมีน้องอาย..พี่ก็แทบไม่ไปดื่มกับเพื่อนแล้วจ๊ะ"คนตัวเล็กส่งรอยยิ้มรอยกับตะวันมาให้..พร้อมแกว่งมือใหญ่ไปมา..ดวงตาคมยังมีความลังเล..ก่อนจะส่งคำถามที่ค้างคาใจออกไป..ใบหูแดงเล็กน้อย
"แล้ว..สมัยก่อนพี่มีข้อดีอะไรบ้างละ..เธอถึงตามจีบพี่"
"ข้อดีเหรอ?.. แทบไม่มีเลยพี่"
"...."
"แต่มีข้อสำคัญสุดคือ..พี่มิลหล่อที่สุดในโลกเลย"คำตอบที่เต็มไปด้วยความจริงใจ..ทำให้ต้าวตัวโตปล่อยมือ แล้วเดินหนีทันที..ไม่พ้น..ตามมาด้วยเสียงเถียงกันดังลั่น
"ยัยแบนเอ้ยย..เธอไม่รู้จักเลือกผู้ชายหรือไง"
"อ้าว..หนูชอบผู้ชายหล่อมันผิดตรงไหนอะ"ยัยตัวเล็กยังยืนกรานเถียงหน้าตาย..ผู้ชายหล่อสำหรับเธอคือ the best
"ตั้งวงกินเหล้า..งานการไม่รู้จักทำ..ก็ไม่ควรเลือกแล้วมะ..เทสเธอมันผิดปกติละ"
"แล้วพี่มิลจะว่าตัวเองทำไมอะ"
"..."
"อ้าว..นั้นจะเดินหนีหนูไปไหนนนน..รอก๊อนนน"
ณ ศาลาทรงจีน หลังตึกเป่ยวันนั้นเป็นเสาร์เช้าเด็กหญิงดารินนั่งมองดูบ่อบัวที่กำลังบานสะพรั่ง มีผีเสื้อตัวน้อยบินวนรอบ...ในมือมีจดหมายที่คนเป็นทวดเขียนให้..ตั้งแต่วันที่ได้รับมันมา..เธอเองกลับเป็นฝ่ายที่ไม่กล้าจะเปิดมันขึ้นมาอ่าน..ส่วนหนึ่งเธอไม่อยากจะยอมรับว่า หนึ่งในบุคคลที่เธอเคารพรักมากที่สุดในชีวิต..ท่านได้เสียไปแล้วมือน้อยขาวผ่องสั่นเล็กน้อย..เธอสูดหายใจเข้าเพื่อรวบรวมความกล้า ก่อนจะตัดสินใจแกะซองจดหมายออกมาอ่าน‘ถึง จินเยว่..จินจินน้อยของเหล่ากงวันที่จินจินน้อยได้รับจดหมายฉบับนี้ เหล่ากงคงไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว..เหล่ากงรู้ว่าจินจินเองก็คงจะเสียใจไม่น้อย แต่เหล่ากงอยากจะบอกจินจินว่าการลาจากอาจเป็นเรื่องที่ยาก แต่ทุกคนล้วนหนีมันไม่พ้น เหมือนที่จินจินเองสูญเสียพ่อตั้งแต่อายุยังน้อยแต่เหล่ากงก็ยังเชื่ออย่างหนึ่งว่า..เหลนของเหล่ากงเป็นเด็กที่เข้มแข็ง จินจินจะต้องผ่านมันไปได้อย่างแน่นอนถ้าจะมีเรื่องไหนที่เหล่ากงเสียดายมากที่สุด ก็คงเป็นเพราะเราได้ใช้เวลาด้วยกันน้อยเกินไป มันมีหลายสิ่งที่เหล่ากงอยากเล่าให้หนูฟัง อยากดูการเติบโตของหนู อยากอยู่ถึงวันที่หนูมีคู่ชีวิต มีลูก แต่ไม้ใกล้ฝ
ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน..กลางทะเลระหว่างหมู่เกาะกับผืนแผ่นดินใหญ่ร่างผอมสูงค่อยๆ จมลงไปในน้ำทะเล มันทั้งมืดลึก และหนาวเหน็บ เสียงพายุพัดรุนแรงค่อยๆ เลือนหายไปจากโสตประสาท จิตใต้สำนึกพยายามบอกตัวเองให้ว่ายขึ้นไปเหนือน้ำให้ได้ ‘เมียกับลูกน้อย’ยังรอเขาอยู่..แต่..ถึงแม้จะว่ายน้ำเก่งตามประสาลูกทะเลมากแค่ไหนก็ตาม.. ณ เวลานี้...ตอนนี้ เรี่ยวแรงกับค่อยๆ หายไป..และพรากลมหายใจของการดิ้นรนครั้งสุดท้ายไปพร้อมกันด้วยรามิลมารู้สึกตัวอีกที ตอนที่พระอาทิตย์ขึ้นเรียบร้อยแล้ว...ท้องฟ้าดำมืดเมื่อคืนเปลี่ยนเป็นสว่างจ้าฉายแสงสดใส ชายหนุ่มถอนหายใจโล่งอก...โชคดีเขารอดมาได้‘ให้มาตายตอนอายุแค่ยี่สิบสองมันจะใจร้ายไปหน่อยมั้ย!!’ไอ้ต้าวอดีตเดือนเกษตรคิดอย่างอารมณ์ดี แต่พอคิดได้ว่า..เมื่อวานวันเกิดยัยตัวเล็ก..เขากลับบ้านไม่ทัน..แม่เสือตัวจ้อยคงโกรธเขาเป็นแน่ แถมลูกสาวตัวน้อยถ้าไม่ใช่เขากล่อมนอน..ไม่รู้ว่ายัยหนูน้อยจะยอมนอนมั้ยนะคิดได้ดังนั้น ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืน พร้อมสะบัดทรายที่อยู่ตามขากางเกงออกดวงตาคมคู่สวยหันซ้ายแลขวา..สำรวจรอบๆ ไม่รู้ว่าน้ำทะเลพัดเขามาถึงไหน..หมู่บ้านที่อยู่ตรงหน้าเองก็ไม่คุ้นเคยเอาเ
ปิดเทอมฤดูร้อนวนมาอีกครั้ง รอบนี้ครอบครัวเล็กๆ ของอันธิยานัดกันไปเที่ยวทะเลทางใต้ โดยภากรเป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดหาที่พัก เรือยอชต์สุดหรู นอกจากนี้ยังมีสมาชิกคนใหม่อยู่ในพุงยัยแบนสะท้านโลก..ตอนชายหนุ่มเห็นผลตรวจครั้งแรก...ความรู้สึกอิ่มเอมฟองฟูขึ้นเต็มหัวใจ..ดวงตาคมมองหน้าท้องแบนราบของไอ้ต้าวตัวเล็ก..เขานึกประหลาดใจเหลือเกินว่าข้างในพุงเล็กๆ นั้นจะมีเด็กน้อยอาศัยอยู่ ขณะเดียวกันเด็กหญิงดารินยิ้มแก้มบานแทบทั้งวัน เธอลากป๊ะป๋ากับม๊ะม๊า ไปหาซื้อเสื้อผ้า..ข้าวของเครื่องใช้..ของเล่นให้น้องน้อยตั้งแต่ยังไม่รู้เพศ ทั้งยังลงมือจัดห้องนอนเล็กให้น้องเอง เพราะห้องเดิมที่คนเป็นแม่ตั้งใจแต่งให้ลูกคนที่สอง กลับยกให้เด็กชายคีรีตัวแสบไปนานแล้ว เด็กหญิงเลือกโทนสีเขียว ซึ่งเป็นสีกลาง ทั้งยังขอห้องด้านล่างที่แต่เดิมเป็นห้องว่างไว้ทำ kid room เพิ่มอีกต่างหากแต่พอทำไปทำมา ก็พึ่งนึกได้...ถ้ามีน้องตอนนี้ เธอกับเด็กน้อยอายุจะห่างเกินหนึ่งรอบ...น้องสุดที่รักของเธอจะเหงา เหมือนที่เธอเคยเหงาในสมัยวัยเยาว์มั้ยนะ? เมื่อสมองของคนเป็นพี่สาวคนโตคิดได้..ใบหน้าสวยหวานแฝงแววเจ้าเล่ห์..วิธีที่เธอนึกออกคงต้องกดดันให้ป๊ะ
พอผ่านเรื่องราวทั้งหมดผ่านพ้นไป ชีวิตของครอบครัวเล็กๆ ก็กลับกลายมามีความสุขเหมือนดั่งเก่า เพิ่มเติมคงจะเป็นการหวงแหนช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันมากยิ่งขึ้น..สิ่งที่ดีที่สุดของเรื่องคราวนี้ คือภากรไม่ต้องทำงานหนัก..เขามีความสุขกับการมีเวลาให้กับครอบครัวมากยิ่งขึ้น..ส่วนใหญ่ชายหนุ่มเลือกจะทำงานที่บ้าน เด็กชายคีรียังคงตามติดเด็กหญิงดารินไม่เปลี่ยน ส่วนเด็กหญิงดารินกลับชอบหนีไปเล่นกับแก๊งพี่ไค พี่ปาลมากกว่า ไม่ว่าจะพูด หรือแกล้งทำตัวใจร้ายไอ้ต้าวเพื่อนชายก็ยังคงติดหนึบราวกับว่ากลัวเธอจะหายไป เล่นเอาจินจินน้อยของเหล่ากงแทบกุมขมับทุกวันในขณะที่คนเป็นแม่กำลังวางแผนกับลูกชายกำมะลอสุดที่รัก ว่าจะไปเรียกร้องพ่อแม่ฝ่ายชายให้มารับผิดชอบ 'หมั้นหมาย' กันไว้ก่อนดีมั้ย? ผู้ชายดีๆ ถ้าไม่รีบจับจองตั้งแต่ต้นๆ เด็กผู้หญิงคนอื่นก็จ้องจะคาบไปกินนะซิ ซึ่งเด็กชายคีรีย่อมเห็นด้วย แววตาสองชั้นดีใจจนปิดไม่มิด แต่คนหนึ่งผู้ใหญ่ คนหนึ่งเด็ก...ยังคิดแผนไม่ออกว่าต้องทำอย่างไรดี ในส่วนของฝั่งครอบครัวคีรีนั้นไม่ติดปัญหาอะไร เพราะคุณหมอกินรี มักจะตามใจลูกๆ อยู่แล้ว ขณะพี่ไคเปลี่ยนแฟนเป็นว่าเล่นทุกเดือน แม่ของเขายังไม่ว่าอ
ทนายประจำบ้านยังคงอ่านพินัยกรรมไปเรื่อยๆ สรุปได้ว่า บ้านรองเองก็ได้บริษัทประกันภัย...ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่าใหญ่อันดับสองของตระกูล และถ้าเป็นธุรกิจที่บริหารให้ดีสามารถต่อยอดได้หลายอย่าง ลูกชายคนที่สองมองหน้าคนในครอบครัวด้วยความตกใจไม่แพ้กันส่วนลูกสาวคนสุดท้องได้เงินสดมูลค่าหลายพันล้าน...ชวนให้บรรดาญาติห่างๆ อิจฉาไม่น้อยคฤหาสน์หลังใหญ่มอบให้กับอดิศัยลูกชายคนโต โดยมีหน้าที่ต้องดูแลมารดาจนสิ้นอายุขัย...ส่วนอื่นๆ ในคฤหาสน์ย่อยนั้นถูกเซ็นมอบที่ดินเป็นของลูกๆ หลานๆ นานแล้ว ในขณะที่หลานชายคนโต ที่แต่เดิมคาดว่าจะได้ทรัพย์สมบัติมากที่สุด กับได้เพียงจำนวนหุ้นหลักสิบ ถึงสิบห้าเปอร์เซ็นต์ในธุรกิจต่างๆ กันไป หลายคนส่งรอยยิ้มแสดงความเห็นใจมาให้ แต่ใครจะรู้ว่าภากรดีใจมากแค่...อะไรจะดีเท่ากับการไม่ต้องทำอะไรเลย แต่ได้ส่วนแบ่งกันเล่า!!!ถ้าจะมีคนรู้ทัน ก็คงมีแต่ลูกสาวคนสวยที่เธอหันมายิ้มมุมปาก พร้อมทั้งยั่กคิ้วให้หนึ่งที แน่ละ...ป๊ะป๋าต้องขอบคุณเธอ เพราะเธอเป็นหนึ่งในคนที่เกลี้ยกล่อมเหล่ากง....ในเครือบริษัทมหาชนนั้น เดิมมีการวางรากฐานที่ดีอยู่แล้ว ถ้าไม่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ หรือผู้บริหารโง่เง่า อีโ
คุณวันชายหัวหน้าทนายประจำตระกูลอยู่ในชุดสูทสีเทา บุคลิกเคร่งขรึม..เขาอายุราวๆ ห้าสิบกว่า แต่เดิมเขาคือ เด็กในอุปการะของท่านเจ้าสัวธงชัยนั้นเอง ชายวัยเกษียณขยับแว่นตากลมสีใสเล็กน้อย ก่อนจะเดินมายืนด้านหน้า ในมือมีเอกสารพินัยกรรม..ทุกคนในห้องเงียบพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย"ฮะแฮ่ม...ทุกท่านในตระกูลมากันคบทุกคนแล้วใช่มั้ยครับ?"ทนายพูดพร้อมกวาดตา เช็กจำนวนคน ที่มีสิทธิ์ในพินัยกรรมที่ท่านเจ้าสัวได้จัดทำไว้ พอเห็นว่าผู้มีสิทธิ์คบตามจำนวน จึงพยักหน้าก่อนจะอ่านเอกสารในมือต่อ"เอาละครับ วันนี้ผมจะมาประกาศพินัยกรรมที่ท่านเจ้าสัวได้ทำไว้ อย่างแรกผมอยากทำความเข้าใจกับทุกคนว่า..นี้คือวัตถุประสงค์ของผู้ตาย และเป็นความตั้งใจแน่วแน่ ผมก็หวังว่าทุกคนจะเคารพในการตัดสินใจของท่านเจ้าสัว""...""ถ้าพร้อมแล้ว...ผมขอเริ่มเลยนะครับ""...""ข้าพเจ้า นายธงชัย กิตติวรชัยกุล ในขณะทำพินัยกรรมข้าพเจ้าขอยืนยันว่ามีสติสัมปชัญญะปกติดี โดยเมื่อข้าพเจ้าถึงแก่กรรมให้แบ่งทรัพย์สินต่างๆ ของข้าพเจ้าให้บุคคลดังต่อไปนี้ในส่วนของบริษัท..ข้าพเจ้าขอแบ่งแยกบริษัทออกเป็นดังนี้ ธุรกิจในเครือร้านสะดวกซื้อ..หุ้น 60%ที่ข้าพเจ้าถืออย