big cleaning day..ของเด็กน้อยก็สมเป็นวันทำความสะอาดของบ้านจริงๆ สมาชิกแต่เดิมมีแค่สามคน..เพิ่มเขาอีกคนเป็นสี่..มีเป้าหมายทำความสะอาดบ้านทั้งหลังให้เสร็จก่อนบ่ายสามโมง
เพียงแต่ว่าวันนี้ลูกสาวตัวแสบยังเดินกะเผลก..เถียงให้ตายยังไงคนเป็นแม่ กับยายก็ไม่ยอมให้เธอช่วย
เด็กหญิงดารินหน้ามู่ทู่..แต่ร่างเล็กยังมีแรงเรียกคนเป็นพ่อให้ตามเธอไปหลังบ้าน..ขนไม้กวาด..ไม้ถูพื้น..ถังน้ำ..และเขาเองก็ปฏิเสธไม่ได้..ส่วนคนเป็นเมียกับแม่ยายก็แยกย้ายกันไปทำความสะอาดห้องน้ำชั้นสอง..กับห้องนอนทั้งหมด
รามิลได้แต่ถอนหายใจ..ร่างสูงใหญ่จำใจต้องเดินตามลูกสาว ถือข้าวของพะรุงพะรัง..มาห้องด้านหลังที่เหมือนจะเป็นห้องเก็บของ..ใบหน้าที่ถอดแบบมาจากเขาเป๊ะสั่งการเสียงเย็นชา
"วันนี้คุณต้องทำความสะอาดห้องนี้..แล้วถ้าเกิดว่ามีอะไรก็ไปหาหนูที่ห้องครัวนะ หนูจะเตรียมของสำหรับทำมื้อกลางวันไว้ให้ยายยายก่อน"
"..."
"อ้อ..ต้องทำให้สะอาดด้วยนะ..เดี๋ยวหนูทำอะไรเสร็จหนูจะมาดู"พูดจบร่างเล็กของคนเป็นลูกก็ทิ้งเขาให้ยืนมึน..กับบรรดาสารพัดอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้าน
แล้ว..ต้องทำอะไรก่อนละ?
ร่างสูงใหญ่ทรุดนั่งทันที..พยายามรื้อค้นความทรงจำ..คิดยังไงก็คิดไม่ออก..เขาแทบมั่นใจว่าทั้งชีวิตไม่เคยจับไม้ถูพื้น..แต่..พอมาคิดว่าตัวเองก็เกิดมาอยู่กับยายตั้งแต่เล็ก..จะไม่สามารถช่วยตัวเองได้เลยเหรอ?
แค่ทำความสะอาดบ้านจะยากตรงไหน?
คิดได้ดังนั้นมนุษย์พ่อก็จัดการเอาไม้ถูพื้นชุบน้ำแล้วถูพื้นทันที..เหมือนที่เขาเคยเห็นแม่บ้านที่โรงพยาบาลทำ..แต่ถูรอบแล้วรอบเล่า...ก็ยังคงเป็นคราบ..พื้นก็ดูไม่สะอาดสักที..มันผิดที่ตรงไหนกัน?
ใบหน้าหล่อเหลาเริ่มหงุดหงิด..ปากสุดแสนเซ็กซี่เม้มแน่น..เนื้อแท้ของไอ้คนไม่ยอมแพ้..เริ่มคิดหาวิธี..หรือต้องรื้อของออกมาก่อน..คิดได้ดังนั้น..ไอ้ต้าวตัวโตก็เริ่มรื้อกล่อง..แล้วเอามาผ้ามาปัดจนฝุ่นคลุ้งทั้งห้อง..ไม่ต้องสืบสุดท้ายหัวเห่อของคนทำก็เต็มไปด้วยหยากไย่..เสียงไอค่อกแค่กลั่นห้อง..น้ำหูน้ำตาเริ่มไหล..จนมือไปปัดกล่องขนาดไม่ใหญ่หล่นลงพื้น
แผ่นกระดาษในกล่องนั้นกระจายเต็มพื้น..เขารีบก้มเก็บ..ในนั้นมีภาพวาดของเด็กหญิงดาริน..ตั้งแต่สมัยอนุบาล..ยันประถม..มีหลายภาพเป็นภาพ 'ครอบครัว' เป็นรูปคนสี่คนจับมือกัน..มีเขาอยู่ในนั้นด้วย..ความรู้สึกเจ็บแปลบเข้ากลางใจ
ถ้านี้คือ..'ครอบครัว' แปลว่า เขาได้ทิ้งคนข้างหลังให้อยู่ตามลำพังถึง 10 ปี
ไม่แปลกเลยวันแรกที่คนอ้างว่าเป็น 'เมีย' จะโกรธ..ถ้าตอนนั้นเขายังไม่ตาย..ทำไมเขาไม่รีบกลับมาหาทุกคน
ไหนลูกสาวตัวเล็กที่เฝ้ารอคอยเขากลับบ้านด้วย..ลูกคง 'เกลียด' เขามากใช่มั้ย?
แต่..คนมันจำอะไรไม่ได้นี้..ถ้าจำได้คงกลับมาแล้วมั้ย?
ใบหน้าหล่อเหลาซีดเผือด..ความเจ็บปวดที่หัวเริ่มรุนแรงขึ้น..ภาพบางอย่างแวบเข้ามา..แต่มันรางเลือน..จนเขาจับได้ไม่มั่น..เพราะมันวูบหายไปเร็วเหลือเกิน
"คุณกำลังทำอะไรนะ!!"เสียงเจ้าหญิงของบ้านดังลั่น..เมื่อเห็นสภาพห้องราวกลับเกิดสมรภูมิรบ..แถมคนเป็นพ่อยังนั่งหน้าซีดที่พื้น..เธอลืมไปว่าเขายังป่วยอยู่
เด็กหญิงดารินรีบเข้าบ้าน ตะโกนให้แม่กับยายให้มาช่วย..เพราะเธอขาเจ็บ..ร่างเล็กกลัวจะประคองคนตัวโตไม่ไหว
อันธิยากับคุณนายนกได้ยินเสียงก็รีบลงมาดูผู้ชายคนเดียวของบ้านทันที..เมื่อยัยตัวแสบเห็นผู้ชายตัวโตนั่งหมดสภาพกับกองฝุ่น..หัวมีหยากไย่เต็มผมไปหมด..ก็เกือบจะหลุดหัวเราะออกมา
ติดแต่ว่า..ไอ้ต้าวสามีคงไม่พอใจเป็นแน่..เธอเลยทำได้แต่เพียงเข้าไปประคอง..พอมายืนใกล้ๆถึงรู้ว่าสีหน้าของสุดที่รักไม่ดีเอาซะเลย..ยัยตัวเล็กขมวดคิ้วเล็กน้อย
"พี่ปวดหัวเหรอ"
"อื่อ"
"งั้นไปนั่งพักก่อนพี่..เดี๋ยวอัญเอายามาให้"เสียงใสปลอบประโลม
เด็กหญิงรีบไปรินน้ำเย็นมาให้ทันที..สีหน้าเด็กน้อยไม่ค่อยดี..หรือเธอใช้งานคนเป็นพ่อหนักเกินไป? แต่..แค่กวาดห้องถูห้องไม่น่าใช่งานยากนะ..เจ้าหญิงน้อยของบ้านเต็มไปด้วยความไม่สบายใจปนรู้สึกผิด
พอคนตัวโตได้ยาหมอ..สีหน้าเริ่มกลับมามีสีสัน..แต่ชายหนุ่มผู้เคยหล่อเหลาก็หมดสภาพไม่น้อย ผมดำสนิท..ใบหน้ามอมแมมเต็มไปด้วยฝุ่น..เสื้อยืดสีชมพูเปรอะเปื้อน
"ไหวมั้ย..เดี๋ยวอัญสระผมให้..มาพี่"น้ำเสียงคนเป็นเมียปลอบประโลม
"ไม่ต้อง..เดี๋ยวพี่ขึ้นข้างบนไปอาบน้ำสระผมเองได้"เป็นครั้งแรกที่เขากลับมาแทนตัวเองว่า 'พี่' โดยที่ชายหนุ่มเองก็ไม่ทันรู้ตัว
"ให้ม๊ะม๊าสระผมให้เถอะ..ม๊ะม๊าสระผมดีนะ"เด็กหญิงที่เคยเป็นปรปักษ์กับคนเป็นพ่อรีบสนับสนุนคนเป็นแม่
รามิลได้แต่จำใจ..เดินตามแรงจูงมือของคนตัวเล็กไปหลังบ้าน..เธอให้เขานั่งบนเก้าอี้เล็กๆ ทั้งให้ถอดเสื้อที่เต็มไปด้วยฝุ่นออก ก่อนที่แม่ยายจะขนเอายาสระผมกับครีมนวดผมมาให้..สีหน้าคุณนายนกเต็มไปด้วยความเห็นใจปนเอ็นดูไม่ได้
สมัยแต่งงานแรกๆ เธอก็ไม่แทบให้ลูกเขยจับงานบ้านเลย เว้นแต่ทำกับข้าวง่ายๆ กับดูแลหลานเล็ก..จริงๆลูกเขยเธอเลี้ยงเด็กเก่งมาก
เนื้อตัวคนเป็นเมียมีกลิ่นสบู่อ่อนๆผสมกับกลิ่นเหงื่อหน่อยๆ..แต่มันไม่ชวนให้น่ารังเกียจเลยสักนิด..เพราะเขารู้เธอตื่นมาทำทุกอย่างแต่เช้า..ยัยตัวแสบแทบไม่มีเวลาพักเลยสักนิด
"เสื้อผ้าพี่แทบไม่มีเลย..เดี๋ยวบ่ายนี้เราไปเดินห้างกันนะ"เสียงใสใจดีส่งมาพร้อมน้ำเย็นค่อยๆรดลงผม
ยัยตัวเล็กเล่านู้นเล่านี้ให้ฟังไปเรื่อยๆ..ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของคนในหมู่บ้าน..หรือเรื่องราวตลกๆที่เธอไปเจอมา
มือน้อยของเธอน้ำหนักพอดีมาก..ค่อยไล่ๆจากบ่าขึ้นศีรษะ..พอนวดที่หัว..ความรู้สึกปวดที่เป็นอยู่..กลับหายเป็นปลิดทิ้ง..มันสบายจนเขาไม่อยากให้เธอหยุดมือ..เธอชโลมยาสระผมทั้งสางหยากไย่ที่ติดออกไปด้วย..น้ำสะอาดถูกชะล้างฟองที่ติดอยู่..เธอทำแบบนี้อยู่สองรอบ..ก่อนจะลงครีมนวดผม..ระหว่างที่รอ..มือแน่งน้อยก็กลับมาไล่นวดบ่า..ไล่ขึ้นขมับ..มันทั้งสบาย..และผ่อนคลาย
เขาเข้าใจแล้ว..ทำไมลูกสาวถึงบอกว่า 'ม๊ะม๊าสระผมดี' คนตัวโตที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังทำตัวเป็นเด็ก..ถูกมือเล็กจูงเข้าไปในบ้าน..เธอใช้ไดร์เป่าผมให้แห้ง..อันธิยาดูแลสามีราวเด็กเล็กที่กำลังเดินหลงทาง
"เดี๋ยวพี่มิลไปอาบน้ำก่อนนะ..จะได้สบายตัว..ไม่ต้องเครียดนะพี่..อัญอยู่ตรงนี้..หนูจะปกป้องพี่เอง"น้ำเสียงคนตัวเล็กเต็มไปด้วยความจริงใจ
ถ้าเป็นทุกทีเขาคงจะถามเธอว่า..ใครจะปกป้องใครกันแน่..ตัวเธอก็กระเปี๊ยกเดียว..แต่เพราะรอยห่วงใยในแววตา มีผลให้เขาทำตามอย่างว่าง่าย
ตอนที่ชายหนุ่มอาบน้ำเสร็จ..สวมเสื้อสะอาดเรียบร้อยแล้ว..มื้อกลางวันก็ถูกตั้งเตรียมไว้แล้ว
บนโต๊ะมีน้ำพริกอะไรสักอย่างที่เขาไม่รู้จัก..ไข่เจียวร้อนๆ หมูทอดติดมันน่ากิน..และแกงสีเหลืองที่หน้าตาประหลาด
"มานั่งกินข้าวก่อนตามิล..มาๆ"แม่ยายเรียก ชายหนุ่มเลือกจะนั่งลงข้างตัวเล็ก..เจ้าหญิงของบ้านรินน้ำ..ทั้งตักข้าวส่งมาให้..ดวงตาคมสบกับลูกสาว..ฝั่งนั้นไม่ได้พูดแซะอะไร..จนเขาคิดว่า'ผิดปกติ'เป็นอย่างมาก
"ดีขึ้นมั้ยพี่"เสียงใสของคนเป็นเมียถาม
"อื่อ..หายปวดหัวขึ้นบ้างแล้ว"
"หายก็ดีแล้ว..กินเยอะๆนะลูก"'แม่ยายไม่พูดเปล่า..ยังตัดแกงเหลืองหน้าตาประหลาดมาไว้บนจาน..รามิลทำได้เพียงแต่ส่งยิ้มแหยๆ
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เขาคงไม่คิดแม้จะตักชิม..แต่อาจเพราะวันนี้..รูปในห้องเก็บของ..เขาไม่อยากให้คนในครอบครัวน้อยๆแห่งนี้เสียใจ
"เห้ย แม่..พี่มิลกินเผ็ดไม่ได้!"ยัยตัวเล็กร้องทักทันที..แต่ไม่ทันซะแล้ว..คนตัวโตกินเข้าไปแล้ว..หญิงสาวรีบยื่นแก้วน้ำให้ทันที..แต่ปฏิกิริยาผู้ชายคนเดียวของบ้านกับเป็นตรงกันข้าม
"อร่อย!!!"
"อร่อย..จริงๆเหรอพี่"ดวงตาสีน้ำตาลคู่โตเริ่มคลอไปด้วยน้ำตา..ไอ้ต้าวพี่ชายข้างบ้านตาเป็นประกาย..ราวกับไม่เคยกิน 'แกงไตปลา' มาก่อนในชีวิต เขาตักเอาๆ จนเธอน้ำตาไหล
"ฮือ ๆๆๆ สิบปีที่ผ่านมาพี่ใช้ชีวิตลำบาก..ฮึก..ขนาดไหนกันนะ..ถึงขนาดเปลี่ยนมากินเผ็ดได้..มันคงต้องลำบากแน่เลย..ไม่ต้องห่วงนะ..ต่อไปนี้ฉันจะไม่..ฮึก..ให้พี่อด..จะหาของกินอร่อยๆมาเลี้ยงพี่ทุกวัน ฮืออออ"
ไอ้ต้าวตัวเล็กหลงผัว..ยังพร่ำพรรณนาไม่เลิก..ทำคนบนโต๊ะถึงกับอึ้งกันไป..โดยเฉพาะเจ้าหญิงของบ้านที่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน..ม๊ะม๊าเธอเลี้ยงสามีราวกับลูก
ณ ศาลาทรงจีน หลังตึกเป่ยวันนั้นเป็นเสาร์เช้าเด็กหญิงดารินนั่งมองดูบ่อบัวที่กำลังบานสะพรั่ง มีผีเสื้อตัวน้อยบินวนรอบ...ในมือมีจดหมายที่คนเป็นทวดเขียนให้..ตั้งแต่วันที่ได้รับมันมา..เธอเองกลับเป็นฝ่ายที่ไม่กล้าจะเปิดมันขึ้นมาอ่าน..ส่วนหนึ่งเธอไม่อยากจะยอมรับว่า หนึ่งในบุคคลที่เธอเคารพรักมากที่สุดในชีวิต..ท่านได้เสียไปแล้วมือน้อยขาวผ่องสั่นเล็กน้อย..เธอสูดหายใจเข้าเพื่อรวบรวมความกล้า ก่อนจะตัดสินใจแกะซองจดหมายออกมาอ่าน‘ถึง จินเยว่..จินจินน้อยของเหล่ากงวันที่จินจินน้อยได้รับจดหมายฉบับนี้ เหล่ากงคงไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว..เหล่ากงรู้ว่าจินจินเองก็คงจะเสียใจไม่น้อย แต่เหล่ากงอยากจะบอกจินจินว่าการลาจากอาจเป็นเรื่องที่ยาก แต่ทุกคนล้วนหนีมันไม่พ้น เหมือนที่จินจินเองสูญเสียพ่อตั้งแต่อายุยังน้อยแต่เหล่ากงก็ยังเชื่ออย่างหนึ่งว่า..เหลนของเหล่ากงเป็นเด็กที่เข้มแข็ง จินจินจะต้องผ่านมันไปได้อย่างแน่นอนถ้าจะมีเรื่องไหนที่เหล่ากงเสียดายมากที่สุด ก็คงเป็นเพราะเราได้ใช้เวลาด้วยกันน้อยเกินไป มันมีหลายสิ่งที่เหล่ากงอยากเล่าให้หนูฟัง อยากดูการเติบโตของหนู อยากอยู่ถึงวันที่หนูมีคู่ชีวิต มีลูก แต่ไม้ใกล้ฝ
ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน..กลางทะเลระหว่างหมู่เกาะกับผืนแผ่นดินใหญ่ร่างผอมสูงค่อยๆ จมลงไปในน้ำทะเล มันทั้งมืดลึก และหนาวเหน็บ เสียงพายุพัดรุนแรงค่อยๆ เลือนหายไปจากโสตประสาท จิตใต้สำนึกพยายามบอกตัวเองให้ว่ายขึ้นไปเหนือน้ำให้ได้ ‘เมียกับลูกน้อย’ยังรอเขาอยู่..แต่..ถึงแม้จะว่ายน้ำเก่งตามประสาลูกทะเลมากแค่ไหนก็ตาม.. ณ เวลานี้...ตอนนี้ เรี่ยวแรงกับค่อยๆ หายไป..และพรากลมหายใจของการดิ้นรนครั้งสุดท้ายไปพร้อมกันด้วยรามิลมารู้สึกตัวอีกที ตอนที่พระอาทิตย์ขึ้นเรียบร้อยแล้ว...ท้องฟ้าดำมืดเมื่อคืนเปลี่ยนเป็นสว่างจ้าฉายแสงสดใส ชายหนุ่มถอนหายใจโล่งอก...โชคดีเขารอดมาได้‘ให้มาตายตอนอายุแค่ยี่สิบสองมันจะใจร้ายไปหน่อยมั้ย!!’ไอ้ต้าวอดีตเดือนเกษตรคิดอย่างอารมณ์ดี แต่พอคิดได้ว่า..เมื่อวานวันเกิดยัยตัวเล็ก..เขากลับบ้านไม่ทัน..แม่เสือตัวจ้อยคงโกรธเขาเป็นแน่ แถมลูกสาวตัวน้อยถ้าไม่ใช่เขากล่อมนอน..ไม่รู้ว่ายัยหนูน้อยจะยอมนอนมั้ยนะคิดได้ดังนั้น ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืน พร้อมสะบัดทรายที่อยู่ตามขากางเกงออกดวงตาคมคู่สวยหันซ้ายแลขวา..สำรวจรอบๆ ไม่รู้ว่าน้ำทะเลพัดเขามาถึงไหน..หมู่บ้านที่อยู่ตรงหน้าเองก็ไม่คุ้นเคยเอาเ
ปิดเทอมฤดูร้อนวนมาอีกครั้ง รอบนี้ครอบครัวเล็กๆ ของอันธิยานัดกันไปเที่ยวทะเลทางใต้ โดยภากรเป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดหาที่พัก เรือยอชต์สุดหรู นอกจากนี้ยังมีสมาชิกคนใหม่อยู่ในพุงยัยแบนสะท้านโลก..ตอนชายหนุ่มเห็นผลตรวจครั้งแรก...ความรู้สึกอิ่มเอมฟองฟูขึ้นเต็มหัวใจ..ดวงตาคมมองหน้าท้องแบนราบของไอ้ต้าวตัวเล็ก..เขานึกประหลาดใจเหลือเกินว่าข้างในพุงเล็กๆ นั้นจะมีเด็กน้อยอาศัยอยู่ ขณะเดียวกันเด็กหญิงดารินยิ้มแก้มบานแทบทั้งวัน เธอลากป๊ะป๋ากับม๊ะม๊า ไปหาซื้อเสื้อผ้า..ข้าวของเครื่องใช้..ของเล่นให้น้องน้อยตั้งแต่ยังไม่รู้เพศ ทั้งยังลงมือจัดห้องนอนเล็กให้น้องเอง เพราะห้องเดิมที่คนเป็นแม่ตั้งใจแต่งให้ลูกคนที่สอง กลับยกให้เด็กชายคีรีตัวแสบไปนานแล้ว เด็กหญิงเลือกโทนสีเขียว ซึ่งเป็นสีกลาง ทั้งยังขอห้องด้านล่างที่แต่เดิมเป็นห้องว่างไว้ทำ kid room เพิ่มอีกต่างหากแต่พอทำไปทำมา ก็พึ่งนึกได้...ถ้ามีน้องตอนนี้ เธอกับเด็กน้อยอายุจะห่างเกินหนึ่งรอบ...น้องสุดที่รักของเธอจะเหงา เหมือนที่เธอเคยเหงาในสมัยวัยเยาว์มั้ยนะ? เมื่อสมองของคนเป็นพี่สาวคนโตคิดได้..ใบหน้าสวยหวานแฝงแววเจ้าเล่ห์..วิธีที่เธอนึกออกคงต้องกดดันให้ป๊ะ
พอผ่านเรื่องราวทั้งหมดผ่านพ้นไป ชีวิตของครอบครัวเล็กๆ ก็กลับกลายมามีความสุขเหมือนดั่งเก่า เพิ่มเติมคงจะเป็นการหวงแหนช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันมากยิ่งขึ้น..สิ่งที่ดีที่สุดของเรื่องคราวนี้ คือภากรไม่ต้องทำงานหนัก..เขามีความสุขกับการมีเวลาให้กับครอบครัวมากยิ่งขึ้น..ส่วนใหญ่ชายหนุ่มเลือกจะทำงานที่บ้าน เด็กชายคีรียังคงตามติดเด็กหญิงดารินไม่เปลี่ยน ส่วนเด็กหญิงดารินกลับชอบหนีไปเล่นกับแก๊งพี่ไค พี่ปาลมากกว่า ไม่ว่าจะพูด หรือแกล้งทำตัวใจร้ายไอ้ต้าวเพื่อนชายก็ยังคงติดหนึบราวกับว่ากลัวเธอจะหายไป เล่นเอาจินจินน้อยของเหล่ากงแทบกุมขมับทุกวันในขณะที่คนเป็นแม่กำลังวางแผนกับลูกชายกำมะลอสุดที่รัก ว่าจะไปเรียกร้องพ่อแม่ฝ่ายชายให้มารับผิดชอบ 'หมั้นหมาย' กันไว้ก่อนดีมั้ย? ผู้ชายดีๆ ถ้าไม่รีบจับจองตั้งแต่ต้นๆ เด็กผู้หญิงคนอื่นก็จ้องจะคาบไปกินนะซิ ซึ่งเด็กชายคีรีย่อมเห็นด้วย แววตาสองชั้นดีใจจนปิดไม่มิด แต่คนหนึ่งผู้ใหญ่ คนหนึ่งเด็ก...ยังคิดแผนไม่ออกว่าต้องทำอย่างไรดี ในส่วนของฝั่งครอบครัวคีรีนั้นไม่ติดปัญหาอะไร เพราะคุณหมอกินรี มักจะตามใจลูกๆ อยู่แล้ว ขณะพี่ไคเปลี่ยนแฟนเป็นว่าเล่นทุกเดือน แม่ของเขายังไม่ว่าอ
ทนายประจำบ้านยังคงอ่านพินัยกรรมไปเรื่อยๆ สรุปได้ว่า บ้านรองเองก็ได้บริษัทประกันภัย...ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่าใหญ่อันดับสองของตระกูล และถ้าเป็นธุรกิจที่บริหารให้ดีสามารถต่อยอดได้หลายอย่าง ลูกชายคนที่สองมองหน้าคนในครอบครัวด้วยความตกใจไม่แพ้กันส่วนลูกสาวคนสุดท้องได้เงินสดมูลค่าหลายพันล้าน...ชวนให้บรรดาญาติห่างๆ อิจฉาไม่น้อยคฤหาสน์หลังใหญ่มอบให้กับอดิศัยลูกชายคนโต โดยมีหน้าที่ต้องดูแลมารดาจนสิ้นอายุขัย...ส่วนอื่นๆ ในคฤหาสน์ย่อยนั้นถูกเซ็นมอบที่ดินเป็นของลูกๆ หลานๆ นานแล้ว ในขณะที่หลานชายคนโต ที่แต่เดิมคาดว่าจะได้ทรัพย์สมบัติมากที่สุด กับได้เพียงจำนวนหุ้นหลักสิบ ถึงสิบห้าเปอร์เซ็นต์ในธุรกิจต่างๆ กันไป หลายคนส่งรอยยิ้มแสดงความเห็นใจมาให้ แต่ใครจะรู้ว่าภากรดีใจมากแค่...อะไรจะดีเท่ากับการไม่ต้องทำอะไรเลย แต่ได้ส่วนแบ่งกันเล่า!!!ถ้าจะมีคนรู้ทัน ก็คงมีแต่ลูกสาวคนสวยที่เธอหันมายิ้มมุมปาก พร้อมทั้งยั่กคิ้วให้หนึ่งที แน่ละ...ป๊ะป๋าต้องขอบคุณเธอ เพราะเธอเป็นหนึ่งในคนที่เกลี้ยกล่อมเหล่ากง....ในเครือบริษัทมหาชนนั้น เดิมมีการวางรากฐานที่ดีอยู่แล้ว ถ้าไม่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ หรือผู้บริหารโง่เง่า อีโ
คุณวันชายหัวหน้าทนายประจำตระกูลอยู่ในชุดสูทสีเทา บุคลิกเคร่งขรึม..เขาอายุราวๆ ห้าสิบกว่า แต่เดิมเขาคือ เด็กในอุปการะของท่านเจ้าสัวธงชัยนั้นเอง ชายวัยเกษียณขยับแว่นตากลมสีใสเล็กน้อย ก่อนจะเดินมายืนด้านหน้า ในมือมีเอกสารพินัยกรรม..ทุกคนในห้องเงียบพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย"ฮะแฮ่ม...ทุกท่านในตระกูลมากันคบทุกคนแล้วใช่มั้ยครับ?"ทนายพูดพร้อมกวาดตา เช็กจำนวนคน ที่มีสิทธิ์ในพินัยกรรมที่ท่านเจ้าสัวได้จัดทำไว้ พอเห็นว่าผู้มีสิทธิ์คบตามจำนวน จึงพยักหน้าก่อนจะอ่านเอกสารในมือต่อ"เอาละครับ วันนี้ผมจะมาประกาศพินัยกรรมที่ท่านเจ้าสัวได้ทำไว้ อย่างแรกผมอยากทำความเข้าใจกับทุกคนว่า..นี้คือวัตถุประสงค์ของผู้ตาย และเป็นความตั้งใจแน่วแน่ ผมก็หวังว่าทุกคนจะเคารพในการตัดสินใจของท่านเจ้าสัว""...""ถ้าพร้อมแล้ว...ผมขอเริ่มเลยนะครับ""...""ข้าพเจ้า นายธงชัย กิตติวรชัยกุล ในขณะทำพินัยกรรมข้าพเจ้าขอยืนยันว่ามีสติสัมปชัญญะปกติดี โดยเมื่อข้าพเจ้าถึงแก่กรรมให้แบ่งทรัพย์สินต่างๆ ของข้าพเจ้าให้บุคคลดังต่อไปนี้ในส่วนของบริษัท..ข้าพเจ้าขอแบ่งแยกบริษัทออกเป็นดังนี้ ธุรกิจในเครือร้านสะดวกซื้อ..หุ้น 60%ที่ข้าพเจ้าถืออย