Share

5. ฝันกระเจิง

last update Last Updated: 2025-05-21 12:08:28

ทำหัวใจกระเจิง

-------------------

สุธนมองจ้องหน้าคนึงนิจสาวน้อยนัยน์ตาคมขนตาเป็นแพยาว ผิวสีน้ำผึ้งของเธอขับกับรูปใบหน้าเหลี่ยมจมูกมีสันเล็กน้อย แก้มแดงเรื่อๆ องค์ประกอบบนใบหน้าของเธอได้รูปเป็นสาวยุคใหม่ที่สวยสะอาง แต่ตอนนี้สติของเธอไม่ได้เรื่องได้ราวไปเสียแล้ว เขาเกิดความกลัวจนไม่น่าเป็นไปได้ พื้นอารมณ์ที่นิ่งสุขุมของเขาจากอาชีพและอุปนิสัยแต่เดิมนั้น ทำให้เขาไม่เคยหวาดกลัวอะไรมาก่อนเท่านี้ หรือเป็นเพราะเขาเริ่มใกล้ชิดเธอในความสัมพันธ์เพียงแค่สามเดือนที่ผ่านมา

เขาตัดสินใจเขียนข้อความไปในแช็ตถึงน้อยหน่าเพื่อนของเธอ

“ผมอยากขอให้คุณช่วยลางานพักร้อนให้นิจได้ไหมครับ”

“ค่ะ...จะลองถามฝ่ายบุคคลดูก่อนนะคะ”

“พรุ่งนี้จะแจ้งคุณนะคะ”

เขาต้องหาคนมาอยู่เฝ้าเธอ ท่าทางแบบนี้ไม่น่าไว้ใจแล้ว เขาจึงโทรขอให้ป้าที่ทำความสะอาดในสำนักงานช่วยหาคนมาดูแลเธอด่วน

“นิจ...ผมจะหาคนมาเฝ้าคุณนะ” เขาบอกเธอ วันนี้เขาไม่ได้ไปทำงาน สั่งงานทางออนไลน์

“ไม่ต้องค่ะ คุณพ่อ นิจดูแลตัวเองได้ค่ะ” เธอยังรู้สึกว่าเธอไม่ได้เป็นอะไร

“ไม่ได้...ถ้าเป็นอะไรไป ผมแย่เลย”

เขากลัวว่าเธอเกิดเพ้อเจ้อทำร้ายตนเองขึ้นมา เขาจะรู้สึกผิดและไม่แน่ว่าเขาจะมีความผิดพัวพันเข้าไปอีกหรือไม่ เพราะเธอเข้ามาอาศัยอยู่กับเขาโดยไม่ถูกต้องทางนิตินัย

ช่วงบ่ายน้อยหน่าขอลางานออกจากที่ทำงานเพราะลูกของเธอไม่สบายยังไม่หาย เธอจึงถือโอกาสมาเยี่ยมคนึงนิจ เธอตามหาบ้านของสุธนจากโลเคชั่นที่เขาส่งให้

ครั้นน้อยหน่าเปิดประตูรั้วเดินเข้ามาในตัวบ้าน เธอมองเข้ามาเห็นสุธนนั่งอยู่ที่โซฟาตรงมุมรับแขกรอเธออยู่ คนึงนิจอยู่ในห้องปิดประตูเงียบ

“สวัสดีค่ะ...คุณสุธน” น้อยหน่ามองชายหนุ่มกลางคน เธอไม่แน่ใจว่าเป็นญาติกับคนึงนิจหรือไม่

“คุณน้อยหน่า...เชิญ นิจอยู่ในความอุปการะของผมครับ” เขาเริ่มต้นบอกคร่าวๆ

“ค่ะ...ขอเข้าไปเยี่ยมนะคะ อยู่ที่ไหนคะ” เธอไม่เห็นเพื่อนสาว

“อยู่ข้างในห้องนั้นครับ เปิดประตูเข้าไปเลย” เขาชี้ประตูห้องอยู่ตรงข้ามกับโซฟาที่เขานั่งอยู่

น้อยหน่าเคาะประตูแล้วเปิดเข้าไป เธอตกใจทันที

“เฮ้ย...ทำอะไรน่ะ” น้อยหน่าเห็นเธอนั่งจูบตุ๊กตาลูกเทพตัวที่เอามาจากบ้านลุงหมอดูวันนั้น

“เราเห็น...คนนั้นในนี้” เธอยิ้มให้น้อยหน่า

“ใครฮะ...” น้อยหน่าพูดตกใจ

“จะใครล่ะ...ก็หนุ่มในฝันฉันนะสิ”

“บ้าไปหรือเปล่า...” น้อยหน่าเดินเข้ามาเขย่าตัวคนึงนิจ

“ไม่เลย...เธอมาได้ยังไง ฉันอยู่ยุโรปนะ” คำพูดนี้ทำน้อยหน่าตกใจ

“ตายล่ะ...ประสาทหลอนแล้วนะ” สีหน้าของเพื่อนสาววิตกมาก

เธอเดินออกมาหาสุธนทันที ด้วยใบหน้าไม่เชื่อว่าเพื่อนของเธอจะเป็นขนาดนี้

“คุณค่ะ...นิจเป็นขนาดนี้เลยรึคะ”

“ผมรับเธอกลับมาบ้าน ก็บอกว่าเธออยู่ยุโรป” สุธนเอ่ยอย่างกังวลเช่นกัน

“แล้ว...จะไปทำงานได้หรือคะ...” น้อยหน่ากังวลใจกับอาการของเธอ

น้อยหน่าเล่ารายละเอียดที่สุธนสอบถามว่าเธอทำงานในตำแหน่งอะไรในที่ทำงาน จึงได้รู้ว่าเธอมีหน้าที่ประสานงานกับบอสฝรั่งซึ่งเป็นผู้บริหารของบริษัทในเครือทั้งหมด

“ผมไม่เคยรู้ว่านิจทำงานอะไรเลย”

“เหรอคะ...แล้วคุณสุธนเป็นญาติของเธอหรือเปล่า” น้อยหน่าทำหน้าสงสัย เพราะชายหนุ่มดูเป็นผู้ใหญ่น่าเคารพ

“เอ่อ...ผมรับเธอมาอยู่ด้วยครับ” เขาไม่รู้จะพูดยังไงกับเพื่อนของคนึงนิจให้ดูไม่น่าเกลียด

“ในฐานะอะไรคะ...” น้อยหน่าตั้งคำถามที่ทำเขาอึกอัก

“นิจมีปัญหาบางอย่าง ผมเลยรับมาดูแล” เขาตอบให้เธอดูดี ไม่อยากให้เธอถูกนินทาในที่ทำงาน

น้อยหน่านิ่งไม่ถามต่อ แต่ความสงสัยจากคำพูดของเขาทำให้เธอคิดได้ว่า เขาน่าจะเลี้ยงต้อยคนึงนิจอยู่

“น้อยหน่าจะพยายามถามมาร์คุสดูนะคะ ว่าจะให้เธอลางานได้นานเท่าไหร่ จะบอกว่าเธอเป็นอะไรดีคะ”

“พรุ่งนี้ผมจะไปที่โรงพยาบาลให้คุณหมอเขียนใบรับรองให้เธอหยุดงานได้ แต่จะนานเท่าไหร่ ผมก็ไม่ทราบ ไว้ผมจะส่งภาพใบรับรองให้คุณช่วยจัดการให้ด้วยนะครับ”

น้อยหน่ารับคำและเดินเข้าไปหาคนึงนิจอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะลาสุธนออกจากบ้านไป ระหว่างขับรถกลับบ้านเธอปะติดปะต่อเรื่องราวของเพื่อนคนนี้ ไม่เคยรู้ความลับของเธอมาก่อนเลย แต่น้อยหน่าเคยได้ยินคนในบริษัทซุบซิบว่า มาร์คุสไปติดต่องานไม่ว่าจะในหรือนอกพื้นที่ แม้กระทั่งต่างประเทศ เขาจะทำเรื่องให้คนึงนิจไปทำหน้าที่ช่วยจัดการเจรจาและคอยดูแลเรื่องเอกสารต่างๆ ตลอดเวลา ราวกับว่าคนึงนิจเป็นเลขาส่วนตัว แต่น้อยหน่าไม่ได้สนิทกับเธอเพียงแต่ว่าเมื่อเดือนที่แล้วเห็นหญิงสาวสนใจถามเรื่องหมอดู น้อยหน่าเลยชักชวนเธอให้ไปบ้านลุงหมอดูด้วยกัน เธอตัดสินใจเขียนข้อความไปถามในไลน์ของเพื่อนในบริษัทอีกคนที่น่าจะรู้เรื่องของคนึงนิจดี

“หนูนา...นิจมีอะไรกับมาร์คุสไหม” เธอเปิดคำถามตรงๆ

“ไม่รู้นะ...เลขาไม่ใช้ แต่ไปใช้ยัยนิจแทน มันแปลกๆ อยู่นะ ไปสุราษฎร์เมื่อต้นเดือนก่อน ก็หิ้วยัยนิจไป”

“เออ...ฉันไม่สนิทกับนิจมาก่อน เพิ่งจะมารู้จักกันสองสามวันมานี่”

“ทำไมเหรอ”

“เธอไม่สบาย...เรามาเยี่ยมและจะไปทำเรื่องลางานให้เธอยาวเลย” น้อยหน่ารู้สึกหนักใจที่มีส่วนทำให้คนึงนิจเป็นแบบนี้

น้อยหน่าไม่อยากเล่าอะไรให้คนในที่ทำงานฟังเพราะมันจะกลายเป็นข่าวนินทาไปทั่ว เพราะเท่าที่เห็นชีวิตส่วนตัวของสาวคนนี้ไม่ธรรมดา เธอเป็นเด็กของผู้ใหญ่คนนี้และน้อยหน่าก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่จากที่มองหน้าตาและท่าทางเขาน่าจะมีตำแหน่งหน้าที่การงานดีอยู่

หลังจากน้อยหน่าออกไปแล้ว สุธนติดตามเรื่องที่ให้ป้าแววที่สำนักงานหาญาติมาช่วยดูแลคนึงนิจ

นับว่าโชคดี...เขาได้คนมาดูแลช่วงค่ำทันที เมื่อป้าแววแจ้งมาว่าหาญาติซึ่งสามารถมาอยู่ที่บ้านของเขาได้ เขาจึงสั่งคนึงนิจให้ย้ายขึ้นไปอยู่ห้องชั้นบนตั้งแต่คืนนี้

“นิจ...ผมได้คนมาดูแลแล้ว จะให้นอนห้องนี้ หนูต้องย้ายขึ้นไปห้องข้างบน” คนึงนิจมองหน้าของชายหนุ่มอย่างสงสัย

“เหรอคะ...หนูนอนห้องนี้ไม่ได้ใช่ไหมคะ” สุธนยิ่งกังวล เขาจะปล่อยเธอนอนคนเดียวคงไม่ได้

“เพื่อความสบายใจ เอางี้...นอนห้องเดียวกับผม” เขาจ้องหน้าเธอว่าจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ทุกครั้งที่ผ่านมาเธอจะไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้ แต่ครั้งนี้สีหน้าของเธอดูเมินเฉยไร้ความหวาดระแวงใดๆ

“หนูจะนอนตรงไหนในห้องหรือคะ”

“คืนนี้นอนเตียงเดียวกับผมก่อน ไว้พรุ่งนี้ผมจะสั่งเตียงมาอีกเตียงดีไหม” เขากลัวว่าเธอจะไม่ยอมนอนกับเขา

“ได้ค่ะ...แต่หนูนอนดิ้นนะคะ” เธอพูดราวกับคนมีสติดี ทำสุธนสงสัยว่าเธอเป็นอะไรกันแน่

ป้าสมใจมาถึงบ้านของสุธนใกล้ค่ำ จัดแจงเข้าไปย้ายสมบัติเล็กๆ น้อยๆ ของหญิงสาวไปอยู่ห้องที่ติดกับห้องของเขาข้างบน ตุ๊กตาลูกเทพถูกนำไปไว้ที่ห้องนั้นด้วย คนึงนิจนั่งกอดอยู่ตลอดเวลา เหมือนเธอฝันได้ทั้งวันกับตุ๊กตาตัวนี้

“ป้าคะ...อย่าบอกใครนะคะ”

“มีอะไรเหรอ”

“หนูมีแฟนแล้ว...ค่ะ”

“เรื่องธรรมดานะ” ป้าสมใจมองหน้าสาวน้อยอย่างไม่เข้าใจ

“หนูไม่อยากให้คุณพ่อรู้” เธอทำป้าสมใจงง เพราะเท่าที่รู้จากป้าแววญาติเธอ ผู้กำกับคนนี้เลี้ยงต้อยสาวน้อยไว้ที่บ้าน

“คุณพ่อคนไหนคะ” ป้าสมใจถามซื่อๆ

“คุณพ่อที่นั่งอยู่ข้างนอกไงคะ” คำพูดนี้ทำป้าสมใจส่ายหน้า งง กับคำพูดของสาวคนนี้

“เอาล่ะ...จะไม่บอกท่านรองผู้กำกับแน่นอน”

“แล้วแฟนหนู อยู่ที่ไหนกัน” ป้าสมใจถามต่อ

“อยู่โน่นไกลเลยค่ะ...”

“เป็นฝรั่ง...” ป้าสมใจส่ายหน้ามองสาวน้อย คิดในใจว่า มิน่า รองผู้กำกับสุธนจึงให้เธอมาเฝ้า

ป้าสมใจออกจากห้องของคนึงนิจเดินมาหารองผู้กำกับสุธนและถามเขาว่า คืนนี้จะให้เธอขึ้นไปนอนเป็นเพื่อนสาวน้อยคนนี้ด้วยไหม

“ป้าช่วยย้ายข้าวของที่ห้องข้างล่างไปไว้ให้หมดคืนนี้ ผมจะให้เธอนอนห้องผม” เขาพูดแล้วเดินเข้าไปดูเธออีกครั้ง เขาไม่อยากให้คนที่มาใหม่ลำบาก ปล่อยให้ป้าสมใจย้ายข้าวของให้เรียบร้อย

“นิจ...เราไปกินข้าวที่ร้านอาหารใกล้ๆ แถวนี้นะ” เขาจับข้อมือเธอจูงพาออกไปทันที ไม่ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะเธอยังไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าจากที่กลับมาจากโรงพยาบาล

“ค่ะ...กินอาหารยุโรปไหมคะ” เธอพูดเหมือนแกล้งสุธน

“ไม่หรอก...เราอยู่เมืองไทย”

“เราอยู่ยุโรปนะคะ” เธอพูดดูเป็นจริงเป็นจัง

ตอนที่กินข้าวในร้านอาหาร เธอเปิดเมนูสั่งสเต๊กมาหนึ่งจานพร้อมขอดื่มไวน์ สุธนมองหน้าเธออย่างตกใจ เธอทำอะไรแปลกพิสดารอย่างเหลือเชื่อ

“ได้...สั่งเลย”

“เอาไวน์อะไร...”

“ไวน์แดงสิคะ ...กินกับสเต๊กเนื้อ” เธอพูดลอยหน้าทำเป็นผู้เชี่ยวชาญ

“...นี่รู้ดีกว่าผมอีก” ผู้กำกับหนุ่มยิ้มมองหน้าสาวน้อยอย่างตลก

“ถามอะไรหน่อย...เจ้านายคุณเป็นฝรั่งใช่ไหม ชื่ออะไร”

“บอสชื่อ มาร์คุสค่ะ” คำตอบของเธอทำให้เขางง จริงๆ เธอดูปกติดี

“ทำอะไรบ้างในที่ทำงาน”

“ไปช่วยบอส ติดตามงานที่บริษัทในเครือทั้งหมดค่ะ”

“แล้วไปเมืองนอกบ้างไหม ผมรู้แต่ว่าหนูเคยบอกว่าไปต่างจังหวัด”

“ก็นี่ไงคะ หนูอยู่ยุโรปนะคะ คุณพ่อ” เธอพูดดูเป็นจริงเป็นจังมาก

“ฝันไปล่ะ นิจ...เราอยู่เมืองไทย”

“หนูอยู่ที่ลอนดอนนะคะ” เธอพูดทำหน้าเฉยๆ เป็นจริงเป็นจัง จนสุธนถอนหายใจ นึกขำแต่ไม่กล้าหัวเราะกลัวเธอคิดมาก เพราะหมอได้สั่งไว้แล้ว ให้พูดกับเธอบอกความจริงแต่ห้ามไปดุหรือตำหนิเด็ดขาด

“เอาล่ะ...คืนนี้ไปฝันต่อนะ” เขาพูดขึ้นอย่างใจเย็น

“กินข้าวกันเถอะ เมนูที่สั่งมาแล้ว” เขามองเด็กในร้านกำลังเสิร์ฟอาหารที่สั่ง

“พรุ่งนี้หนูจะไปมาดามทุซโซ่” เธอพูดขึ้นทำให้เขาสงสัย

“มันคืออะไร...ผมไม่รู้จัก”

“พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง” คำตอบของเธอทำเขาทึ่งจนต้องกดมือถือเปิดหาในกูเกิ้ล

“โห...ฝันกระเจิงได้ถึงขนาดนี้ ...ถูกต้องอีกนะ” เขาพูดแซวเธอ

“ใครว่าหนูฝัน...พรุ่งนี้หนูจะต้องพาบอสไปเที่ยวหลังจากติดต่องานเสร็จแล้ว” เขานึกในใจ ถ้าเขาเป็นหมอ วันๆ เจอแต่คนไข้แบบนี้ สำหรับเขานี่อีกแบบ...มีแต่คนร้าย

ตกกลางคืนคนึงนิจนอนเตียงเดียวกับสุธน เขานอนก่ายหน้าผากมองเธอหลับอยู่ข้างกาย และไม่เคยคิดว่าเขาต้องกลายมาเป็นคนดูแลสาวน้อยคนนี้ ทั้งที่ตอนแรกเธอสัญญาว่าจะมาอยู่ที่นี่เพื่อดูแลเขา เป็นแม่บ้านคอยทำกับข้าวและช่วยทำความสะอาดดูแลบ้านให้

‘ไอ้กูนี่...ฝันกระเจิดกระเจิง...ไปแล้ว ที่จะให้เธอมาดูแล ตอนนี้ต้องหาคนมาช่วยเฝ้าเธอ คิดถูกหรือผิด’ สุธนไม่เคยคิดเล็กคิดน้อยกับเธอ ถือว่าได้อุปถัมภ์คนที่ทุกข์ยาก เขาคงจะได้บุญกลับมาบ้าง

“ตุ๊กตานั่น...มาดามทุซโซนะ” เสียงละเมอของสาวน้อยดังขึ้น

“ทำไม...”

“มาดามทุซโซ...มีที่รักรออยู่สิคะ” คนึงนิจโผเข้ามากอดเขา

เขาหัวเราะเบาๆ

“ทำผมหัวใจกระเจิง...”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ผู้สาวสายฝอ   31. สานฝัน...ด้วยกัน (อวสาน 2)

    สานฝันด้วยกัน..บนริมฝั่งแอตแลนติก --------------------------------------สุธนเดินทางพร้อมคนึงนิจซึ่งตั้งท้องได้เกือบสามเดือนครึ่ง สาวน้อยท้องแรกแทบมองไม่ออกว่าเธอกำลังมีเด็กอยู่ในครรภ์“เอ้าทำไมไม่ใส่เดรสหลวมๆ” ผู้กำกับหนุ่มใหญ่บ่นเธอเรื่องการแต่งตัว“คุณพ่อคะ...นิจท้องไม่โตเลย เหมือนคนมีหน้าท้องแค่นั้น นี่ยังใส่กางเกงยีนส์หลวมนิดๆ ได้อยู่เลย”------------ณ เมืองไบรตัน ประเทศอังกฤษสุธนหรี่ตามองรูปร่างสาวน้อย เธอเป็นสาวบอบบางมาก ทำให้พรางรูปร่างได้ดี และช่วงระยะแรกเธอไม่มีอาการของคนท้องที่เรียกกันว่า morning sickness“ที่รัก...ไม่ใช่เป็นหาดทราย นี่เป็นหินกรวด เราเอาเสื่อยางไปปูนอนดูดาวริมหาดกัน” เธอถูกเปลี่ยนคำเรียกให้ดูแสนหวาน เขาขอร้องให้เธอเรียกเขาว่า darling หรือสามีที่รัก น่าจะเหมาะสมมากกว่าคำเดิมที่เรียกกันอยู่ทุกวัน“คุณพ่อ...อุ๊ย ขอโทษ...คุณสามีที่รัก นิจไม่ได้เป็นอะไรนะคะ เสื้อผ้าเราก็หนาพอไม่ให้หินตำได้หรอกค่ะ”“น่า...ผมถือไปเอง”ตอนใต้ของอังกฤษอากาศกำลังเย็นสบาย เขาและเธอใส่เสื้อผ้าบางออกมารับลมเย็นพัดจากทะเล เพื่อสูดโอโซนเข้าเต็มปอดทำให้ได้รับอากาศบริสุทธิ์ ซึ่งส่งผลดีต

  • ผู้สาวสายฝอ   30. สานฝัน...ด้วยกัน (อวสาน 1)

    สานฝันด้วยกัน...ท่ามกลางราตรีประดับดาว---------------------------------------------คนึงนิจลาออกจากงานหลังจากกลับมาได้หนึ่งสัปดาห์ด้วยเหตุผลการดูแลครอบครัว น้อยหน่าแจ้งว่าสำนักงานใหญ่ส่งบอสฝรั่งคนใหม่มาแทนมาร์คุส และเสนอให้กลับไปเริ่มทำงานได้อีกครั้งถ้าเธอพร้อมแต่ทว่าเธออยากใช้เวลาทั้งหมดอยู่กับเขา สุธนยังอยู่ในช่วงระยะพักฟื้นที่บ้านของแม่สุภา ย่างเข้าเดือนที่สามสภาพร่างกายของเขาเริ่มคืนกลับมาฟิตเหมือนเดิม ชายหนุ่มขอลาพักราชการเพิ่มอีกหนึ่งเดือน“ขอบใจมาก...ที่ดูแลผมจนหายดี” คนึงนิจสุขใจที่มีส่วนทำให้เขาฟื้นตัวเร็วขึ้น เธอพาเขานั่งรถเข็นชมท้องทุ่งรอบบ้านแม่ของเขาทุกเช้าเย็น มาบัดนี้สภาพร่างกายของเขาแข็งแรงฟิตจนได้ที่...กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ“เดือนหน้า...เราไปอังกฤษกันนะ” เขายังไม่ลืมสัญญา“ไป Brighton ผมชอบทะเล” เขาเคยบอกเธอว่าอยากใช้เวลาโรแมนติกกับท้องทะเล อยากให้ลูกมาเกิดที่นั่น“คุณพ่อคะ...นี่เกือบสามเดือนแล้ว คงหมดสิทธิ์ล่ะค่ะ”“ไม่เป็นไร...ผมทำได้ ไม่ต้องกังวล” เขาอมยิ้มมองหน้าเธอ“คืนนี้ ขอนอนดูดาวตรงระเบียงห้อง บอกทวีให้มายกเตียงเสริมไปวางที” สาวน้อยกุลีกุจอโทรไปบอกญาติผู้

  • ผู้สาวสายฝอ   29. ลุ้นใจแทบขาด

    ใจจะขาดแย่แล้ว ...ขอให้ฟื้นขึ้นมากอดคนที่รออยู่ ---------------------------------------------------ทันทีที่เครื่องบินแลนดิ้งสนามบินช่วงสายของวันใหม่ คนึงนิจรีบเช่ารถพร้อมโชเฟอร์ตรงไปยังโรงพยาบาลในตัวเมืองสุพรรณบุรีสาวน้อยหน้าตายับยู่ทั้งซีดเซียวไร้เครื่องสำอางแต่งแต้มถามอย่างลนลาน ทันทีที่เธอเห็นป้าสำเนียง“ป้าคะ...ผู้กำกับเป็นยังไงบ้างคะ เป็นยังไงบ้างป้า!!!”“อาการยังไม่ดีขึ้น...หลวงตาเพิ่งกลับไป” เธอเดินตามป้าสำเนียงไปยังห้องไอซียูอย่างหวั่นใจน้ำตาของเธอร่วงเป็นสายทันทีที่ป้าสำเนียงพยักหน้าให้ตามเข้าไปดูอาการ หญิงสาวมองไปที่เตียงคนไข้ แม่สุภานั่งฟุบหน้าอยู่ข้างเตียงลูกชาย“แม่คะ...นิจอยู่นี่แล้วค่ะ” เธอเดินเข้าไปกระซิบข้างหูแม่ของสุธนแม่ของชายหนุ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้มากอดหญิงสาว แล้วโน้มตัวลงไปบอกลูกชายเบาๆ“สุธน... หนูนิจ กลับมาแล้วลูก...”“คุณพ่อคะ...นิจปลอดภัยนะคะ ขอบคุณมากค่ะที่ช่วยนิจไว้” เธอก้มลงไปกระซิบบอกเขาข้างหูทั้งสามคนจำต้องเดินออกมาจากห้องคนไข้ พยาบาลกำลังตรวจสอบระบบการรักษาของชายหนุ่มตามแพทย์สั่งอยู่เป็นระยะ เขายังอยู่ในขั้นวิกฤตต้องเฝ้าระวังตลอดเวลา“หลวงตาว่ายังไ

  • ผู้สาวสายฝอ   28. ผลกรรม

    คนที่เคยน่ารัก...กลับกลายเป็นคนร้าย ---------------------------------------มาร์คุสหัวเราะเสียงดังลั่น“Oh…oh amazing! ตื่นเต้นที่สุด ผมนึกว่าจะขอมากกว่านั้น” เขาพูดยังไม่ทันจบ โถมตัวเข้ากอดรัดฟัดสาวน้อยหน้าหวานผิวสีน้ำผึ้ง เธอคนนี้เป็นสเปกสาวเอเชียที่เขาใฝ่ฝันมาตลอด“บอสคะ...ฟังนิจยังไม่ทันจบเลย” เธอดิ้นจนหลุดออกมาจากวงแขนของเขา“ผมให้สองล้านเลย ไม่ต้องพูดมากเสียเวลา ผมอยากให้จบๆ ไป” เขาหรี่ตามองเธออย่างกับเป็นเหยื่อที่กำลังถูกขย้ำ“ไม่ใช่ค่ะ...นิจขอ หนึ่งล้าน...ดอลลาร์!!!” เสียงเน้นคำสุดท้ายทำมาร์คุสตาโตด้วยความโมโหสุดขีด เขาขว้างเสื้อสูทที่กำลังถอดออกใส่หน้าเธออย่างแรง“No patience!!! ความอดทนผมหมดไปแล้ว”เขาเดินเข้ามาใกล้ตรงที่คนึงนิจนั่งรออยู่ กำลังจะโน้มตัวลงมาเพื่ออุ้มเธอเข้าไปห้องนอนด้านใน“บอสคะ นิจขออย่างหนึ่ง จะให้เท่าไหร่ นิจไม่เกี่ยง ขออย่างเดียวให้เกียรติกันหน่อย นิจอยากดื่มไวน์ฉลองกัน อยากเมาก่อน...จะได้ทำใจได้” เธอตัดสินใจเพื่อความสบายใจของฝรั่งคนนี้“ดีมาก ขอผมโทรไปสั่ง room service นิจเข้าไปอาบน้ำรอผมก่อน”คนึงนิจรู้ดีว่าเขาคงอยากมึนๆ ไปกับเธอ บอสของเธอชอบให้เธอฝันไ

  • ผู้สาวสายฝอ   27. เหตุคุกคาม

    คุณค่าของคนไม่ได้ถูกตีราคาด้วยมายาแห่งเงินตรา------------------------คนึงนิจตกใจตื่นขึ้นมาช่วงใกล้สว่าง เธอสังหรณ์ใจสั่นว่าสุธนอาจไม่รอดในครั้งนี้ เธอมีความเชื่อตั้งแต่สมัยยังเด็ก ยายเธอเคยเล่าว่าการเสี่ยงทายถามเรื่องเดือดร้อน ให้เราตั้งจิตอธิษฐานขอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เธอมีสิ่งเดียวที่สามารถนำมาใช้ได้คือ สร้อยคอลูกประคำทำด้วยเม็ดน้ำตาของพระศิวะ ซึ่งหลวงตาที่สุธนเคารพมอบให้มา เพื่อความสบายใจก่อนไปทำงานวันนี้ เธอจึงอยากถามความเป็นความตายของเขาคนึงนิจตั้งจิตกำสร้อยประคำแล้วขอผลลัพธ์การเสี่ยงทาย“หากคุณพ่ออาการดีขึ้น ขอให้เม็ดลูกประคำร้อนขึ้นที่ฝ่ามือ” เธอพร่ำถามคำถามอยู่นานเกือบ 10 นาที เม็ดลูกประคำไม่ตอบสนอง“หากคุณพ่อยังอาการไม่ดีขึ้น ขอให้ฝ่ามือร้อนจากเม็ดลูกประคำ” แค่ไม่ถึงอึดใจ ผลตอบสนองทันที คนึงนิจมือสั่นใจเต้นแรงเป็นห่วงอาการของสุธน เสียงสะอื้นจากกลางอกดังขึ้นทันทีเธอส่งข้อความไปที่แช็ตของเดฟ เขาตอบกลับมาว่าวันนี้เป็นเวรของ ‘เครก’ เดฟเขียนตอบกลับมาอีกว่าหน่วยสืบสวนกลางที่นี่ทราบแล้ว สุธนถูกลอบสังหารด้วยมูลเหตุของการสืบจับคนร้ายในขบวนการมาเฟียออนไลน์ก่อนเตรียมตัวไปทำงานเธอสวด

  • ผู้สาวสายฝอ   26. ถึงคราวเคราะห์ (2)

    ฝ่ายหนึ่งอาการสาหัสปางตาย ฝ่ายหนึ่งถูกคุมคาม------------------------เมื่อเสียงรถบรรทุกดังไกลออกไปแล้ว จ่าแดงจึงรีบวิ่งออกจากแอ่งตมที่เป็นโพรงแคบๆ ใกล้ริมบึงที่มีบัวหลวงขึ้นอยู่เต็ม หากมองไกลๆ ในความมืดเหมือนปลักเลนเป็นหย่อมเป็นหย่อม ทำให้กลุ่มมือสังหารไม่ทันได้สังเกตลูกน้องของสุธนกระโดดข้ามคันนาถลามายังรถกระบะ ก้มมองหาเจ้านายไปรอบคันรถ เขาคิดว่าตอนนี้ชายหนุ่มน่าจะอาการสาหัสจนไม่ได้ยินเสียงเรียกชายกลางคนผู้นี้หน้าตาเต็มไปด้วยโคลนกระวนกระวายใจร้อนรุ่มกลัวว่าสุธนจะถูกลูกกระสุนจนเสียชีวิต เขาโบกมือเป็นสัญญาณให้รถที่กำลังแล่นบนถนนมองเห็น โชคดีว่ารถกระบะคันนี้หยุดข้างทางทันที ชายหนุ่มสองคนกระโจนลงคันนาแล้ววิ่งรี่ตรงมายังรถกระบะที่จ่าแดงกำลังมองหาร่างคนบาดเจ็บ หนุ่มฉกรรจ์ทั้งคู่ช่วยจ่าแดงยกรถเอียงไปด้านหนึ่ง จึงเห็นร่างชายหนุ่มนอนจมโคลนเปื้อนเลือดแดงฉาน ยังโชคดีที่หนึ่งหนุ่มรู้จักเพื่อนอาสาของหน่วยกู้ภัย จึงโทรเข้าไปหาหน่วยที่ใกล้ที่สุดมาช่วยนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลร่างของสุธนถูกส่งเข้าห้องผ่าตัดฉุกเฉินที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด เขาถูกกระสุนปืนอาก้าถึงสิบนัด ลูกกระสุนนัดหนึ่งเข้าจุดสำคัญต

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status