เข้าสู่ระบบคำถามของพลอยทำให้บรรยากาศในห้องเงียบงัน อันนาไม่รู้จะตอบอย่างไรดี เธอได้แต่นั่งนิ่ง ก้มหน้ามองมือตัวเองที่ประสานกันแน่น พลอยกับสมหญิงมองหน้ากันอย่างเข้าใจ ก่อนที่สมหญิงจะเดินเข้ามานั่งลงข้างๆ อันนา แล้วกอดไหล่เพื่อนเบาๆ
"ไม่เป็นไรหรอกอันนา ถ้าแกไม่รู้ว่าจะตอบยังไง" สมหญิงพูดด้วยน้ำเสียงปลอบโยน "แต่ฉันว่านะ...สิ่งที่แกแสดงออก มันชัดเจนมากเลย" "ใช่" พลอยเสริม "แกไม่เคยยิ้มแบบนี้ให้ใครเห็นนะอันนา ตั้งแต่เจอผู้ชายคนนี้...รอยยิ้มของแกก็กลับมาอีกครั้ง" อันนาเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนทั้งสอง น้ำตาเริ่มคลอเบ้า "ฉัน...ฉันไม่รู้จริงๆ ว่ามันคืออะไร" "มันคือความรักไงอันนา" พลอยตอบอย่างตรงไปตรงมา "แกกำลังตกหลุมรักสามีของแกแล้ว" คำพูดของพลอยเป็นเหมือนกุญแจที่ไขความลับในใจของอันนาออก อันนาไม่สามารถปฏิเสธได้อีกต่อไปว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับมาร์คัส เธอรู้สึกหวั่นไหวทุกครั้งที่เขาเข้าใกล้ รู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่เขาแสดงความห่วงใย และรู้สึกปลอดภัยทุกครั้งที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของเขา "ฉัน...ฉันคิดว่าฉัน...รักเขา" อันนาพูดออกมาเสียงแผ่วเบา แต่ก็หนักแน่นด้วยความรู้สึกที่เต็มเปี่ยม พลอยกับสมหญิงยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ทั้งคู่โผเข้ากอดอันนาแน่น ราวกับร่วมยินดีไปกับความรักที่เพิ่งจะเบ่งบานของเพื่อนรัก "ดีแล้วอันนา" สมหญิงพูด "คนอย่างมาร์คัส...เขาอาจจะดูโหดร้ายในตอนแรก แต่เขาเป็นคนดีนะแก ดูสิ...เขายอมทำทุกอย่างเพื่อแกเลย" "ใช่" พลอยเสริม "ขนาดเรื่องงานของคลอเดีย แกไม่เห็นเหรอว่าเขาจัดการขั้นเด็ดขาดขนาดไหน" คำพูดของเพื่อนทำให้ความกลัวและความไม่มั่นใจในใจของอันนาลดน้อยลงไป เธอเริ่มเชื่อในความรู้สึกของตัวเอง และเชื่อในตัวมาร์คัสว่าเขาจะไม่ทำให้เธอต้องเสียใจ เช้าวันรุ่งขึ้น... มาร์คัสเดินเข้ามาในห้องอาหารใหญ่ เห็นอันนานั่งทานอาหารอยู่กับเพื่อนๆ ของเธอด้วยรอยยิ้มที่สดใส เขายิ้มอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆ อันนา "ทานให้อร่อยนะ" มาร์คัสพูดเสียงนุ่ม แล้วตักอาหารที่อันนาชอบวางลงบนจานของเธอ อันนาเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น เธอไม่จำเป็นต้องพูดอะไร แต่สายตาของเธอก็สื่อความรู้สึกทั้งหมดออกไปให้เขาได้รับรู้ มาร์คัสยิ้มอย่างพอใจ เขาเข้าใจความรู้สึกของเธอได้โดยไม่ต้องใช้คำพูด หลังจากทานอาหารเสร็จ มาร์คัสก็พาอันนาไปส่งที่มหาวิทยาลัยตามปกติ ก่อนจะหันมามองอันนาด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง "เลิกเรียนแล้วโทรหาฉันนะ" มาร์คัสบอก "ฉันจะไปรับ" "ค่ะ" อันนาตอบด้วยรอยยิ้มที่สดใส มาร์คัสขับรถออกไป ทิ้งให้อันนายืนมองตามหลังเขาด้วยหัวใจที่เต้นรัว นี่เป็นครั้งแรกที่อันนารู้สึกว่าเธอมีความรักและมีความสุขกับความรักในครั้งนี้จริงๆ อันนาเดินเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยด้วยรอยยิ้มที่สดใสอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอรู้สึกถึงความสุขและความมั่นใจที่แผ่ออกมาจากข้างใน หัวใจที่เคยเป็นกังวลเมื่อสัปดาห์ก่อน ตอนนี้กลับพองโตด้วยความรักที่มีต่อมาร์คัส "แหมๆ ยิ้มแก้มจะแตกแล้วนะคุณนาย" เสียงของ สมหญิง ดังขึ้นเมื่อเห็นอันนาเดินเข้ามา "โทรศัพท์เครื่องใหม่เป็นไงบ้าง ได้คุยกับคุณสามีสุดหล่อบ้างหรือยัง" "บ้า!" อันนาตีแขนเพื่อนเบาๆ "ก็ดีน่ะสิ เขาน่ารักมากเลย" ทั้งสามสาวพากันหัวเราะอย่างมีความสุข ก่อนจะเดินเข้าห้องเรียนไปด้วยกัน แต่ก็มีบางสิ่งที่พวกเธอไม่รู้... ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย คลอเดียนั่งอยู่ในรถคันหรูของเธอด้วยใบหน้าบึ้งตึง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยไฟแค้นหลังจากถูกมาร์คัสสั่งแบนงานทุกอย่าง ชีวิตของเธอที่เคยรุ่งโรจน์ในวงการนางแบบตอนนี้กลับพังทลายลงไม่เป็นท่า เธอไม่สามารถติดต่อใครได้ ไม่มีงาน ไม่มีเงิน และทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะยัยเด็กนั่น...อันนา "แก...อันนา! แกต้องชดใช้ให้ฉัน!" คลอเดียกำมือแน่นจนเล็บจิกลงไปในเนื้อ "ฉันจะทำให้แกไม่มีที่ยืนในสังคมอีกต่อไป!" คลอเดียหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดโทรหาใครบางคนด้วยใบหน้าที่มุ่งร้าย "สวัสดีค่ะคุณเดวิด..." เธอใช้เวลาพูดคุยกับ เดวิด ชายหนุ่มที่เคยถูกมาร์คัสสั่งแบนไปจากวงการอย่างละเอียดถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น เดวิดเองก็รู้สึกแค้นเคืองมาร์คัสอยู่แล้ว เมื่อได้รับข้อเสนอจากคลอเดียที่จะร่วมมือกันทำลายชื่อเสียงของมาร์คัสและอันนา เขาก็รับปากทันที "กูจะทำให้ชีวิตของพวกมึงทั้งสองคนพินาศ!" เดวิดพูดด้วยน้ำเสียงอาฆาต คลอเดียยิ้มออกมาอย่างสะใจ "ดี! ฉันมีแผนการแล้ว...เราจะเริ่มจากยัยเด็กนั่นก่อน" แผนร้ายของคลอเดียเริ่มต้นขึ้นในวันนั้นเอง โดยการใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับอันนา และใส่ร้ายเธอด้วยคำพูดที่รุนแรง "ฮัลโหลพี่เลย์คลอเดียมีเรื่องให้ช่วย" คลอเดียเธอได้โทรหาสื่อที่เธอรู้จักและได้ส่งเรื่องราวต่างๆของอันนาให้กับเลย์นักข่าวในสำนักพิมพ์ชื่อดังแห่งหนึ่ง คลอเดียสร้างบัญชีปลอมขึ้นมามากมาย แล้วโพสต์ภาพของอันนาที่ถ่ายจากระยะไกลพร้อมกับเขียนคำบรรยายที่บิดเบือนความจริง €€ "นี่ไง ยัยอันนาเมียเก็บของมาร์คัส! เรียนก็ไม่ตั้งใจเรียน วันๆ เอาแต่เกาะผู้ชายรวยๆ!" €€ "เคยเป็นเด็กขายข้าวแกงแถวมหาวิทยาลัย! ตอนนี้ได้ผัวรวยก็ลืมกำพืด!" ข่าวลือเริ่มแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วราวกับไฟป่าในโลกโซเชียลมีเดีย และมันก็ถึงหูของนักศึกษามหาวิทยาลัยของอันนาด้วยเช่นกัน อันนาจะรับมือกับข่าวลือที่บิดเบือนความจริงได้อย่างไร ข่าวลือที่คลอเดียปล่อยออกมาแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วราวกับไฟลามทุ่งในโลกโซเชียลมีเดีย อันนากับเพื่อนๆ ไม่ได้รู้เรื่องนี้เลยจนกระทั่งมีเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งเดินมาบอกด้วยท่าทีลังเลในตอนบ่าย "อันนา..." เพื่อนคนนั้นเรียกชื่อเธอเสียงเบา "แก...ได้เห็นข่าวในเพจดังของมหา'ลัยหรือยัง" อันนาส่ายหน้าด้วยความไม่เข้าใจ พลอยกับสมหญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ทำหน้าสงสัยเช่นกัน เพื่อนคนนั้นจึงยื่นโทรศัพท์ให้ดูหน้าจอ ปรากฏภาพของอันนาที่กำลังเดินลงจากรถหรูของมาร์คัสเมื่อเช้า พร้อมกับคำบรรยายที่บิดเบือนความจริงอย่างรุนแรง....เรื่องในคืนนั้นที่ผ่านมาผ่านมาแล้วเกือบสองเดือนกว่า อันนาที่สอบเทอมสุดท้ายจนเสร็จเรียบร้อยก็รอฟังผลว่าเธอจะสอบสำเร็จหรือติดตัวไหนบ้าง ความสัมพันธ์ของอันนากับมาร์คัสมันกลับมาเย็นชาดูเหมือนไร้หัวใจในทุกคืนอันนาแยกห้องนอนกับมาร์คัสนับจากวันที่ลาริสากลับมาและแสดงตัวว่าเป็นรักแรกของมาเทส ลลิสาพยายามปรากฏตัวทุกที่ที่มาคัดไปแม้อันนาจะไม่ได้ตามไปด้วยเธอก็พอรู้ว่าตอนนี้มาร์คัสกำลังพยายามเว้นช่องว่างระหว่างเธอและเขา"คืนนี้เธอนอนก่อนเลยนะไม่ต้องรอฉันแล้วก็กลับไปนอนที่ห้องของเธอได้ฉันอยากนอนคนเดียว" น้ำเสียงทุ้มต่ำเย็นชาถูกพ่นออกมาจากปากหนา มาร์คัสที่พยายามตีตัวออกห่างอันนาเขาอยากใช้เวลาอยู่กับตัวเองให้มากขึ้นเพื่อเคลียร์หัวใจของตัวเอง "ค่ะ" อันนาตอบกลับเสียงเรียบ หลังจากเสร็จภารกิจบนเตียงมาร์คัสก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาใส่เธอ และไล่ให้เธอกลับมานอนที่ห้องและมันเป็นอย่างนี้เสมอมาตลอดสองเดือนกว่า ๆ หัวใจของอันนาเจ็บปวดเกินทนเธอหลับไปพร้อมกับคราบน้ำตาในทุกคืนและเธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่ของของเธอเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะหึงหวงหรือรั้งเขาเอาไว้"อดทนสิอันนา อีกแค่ห้าเดือนสุดท้ายแค่ ห้าเดือนสุดท้ายเท่าน
มาร์คัสที่เห็นอันนาในสภาพที่โอนเอนไปมาอย่างน่าเวทนา หัวใจของเขาก็บีบรัดด้วยความเจ็บปวดและความโกรธที่ผสมปนเปกัน เขากำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนเขากัดฟันแน่นเพื่อระงับอารมณ์โกรธกับคนตรงหน้าที่ไร้สติ ก่อนจะเดินตรงไปหาเธออย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจสายตาของใครก็ตาม"เฮ้ย! นี่คุณเป็นใคร" คริสที่กำลังพูดคุยกับอันนาอยู่เห็นมาร์คัสเดินเข้ามาด้วยสีหน้าคุกคามก็รีบเข้ามาขวางหน้าไว้ "คุณไม่มีสิทธิ์เข้ามาทำแบบนี้ในบาร์ผม"มาร์คัสหยุดยืนอยู่ตรงหน้าคริส แล้วมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชา "หลีกไปซะ ก่อนที่กูจะไม่มีความอดทน" น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำและเต็มไปด้วยอำนาจ จนคริสรู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมา"นี่มันไม่ใช่เรื่องของคุณ" คริสยืนกรานเสียงแข็งที่จะไม่ให้มาร์คัสเข้าใกล้อันนา"นี่คือเมียกู ของกู!" มาร์คัสตะโกนเสียงดังลั่น แล้วผลักคริสออกไปอย่างแรง จนเขาล้มลงไปกองกับพื้น อันนาที่ได้ยินคำว่า "เมีย" ก็ถึงกับน้ำตาไหลอาบแก้ม เธอส่ายหน้าไปมาอย่างเมามายด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์และบวกกับความเสียใจสติของอันนาเธอไม่อยู่กับร่องกับรอย"ฮึก...เมีย...ฮึก...คุณไม่เคยเห็นอันนาเป็น..เมีย..." อันนาพูดพึมพำด้วยความเจ็บปวดคำพูดของอั
เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่มาร์คัส จะรู้ว่าอันนาหายออกไปจากคฤหาสน์ ..ในขณะเดียวกัน ที่คฤหาสน์หรูของมาร์คัส มาร์คัสที่เพิ่งจะกลับจากขับรถเล่นก็รู้สึกถึงความเงียบสงัดที่ผิดปกติป้าสมศรีที่มักจะคอยมารอรับมาร์คัสเป็นปกติทุกวันแต่วันนี้กลับดูมีบางอย่างพิรุธเปลี่ยนไปคือความเงียบสงบที่เงียบจนผิดปกติ"มีอะไรหรือเปล่าป้า อันนาล่ะนอนหรือยัง" มาร์คัสที่มาถึงก็ถามถึงอันนาเป็นคนแรกเพราะเขามีเรื่องให้คิดมากมายจนลืมโทรหาอันนาแต่พอกลับมาได้สติเขาก็รีบกลับมาที่คฤหาสน์เพราะเป็นห่วงร่างบาง"เออคือว่า.." ป้าสมศรีไม่กล้าแม้แต่จะเอื้อนเอ่ยว่าอันนาไม่ได้อยู่ที่คฤหาสน์ตั้งแต่ออกไปเรียนจนถึงเที่ยงคืนตอนนี้ก็ยังไม่ถึงที่คฤหาสน์"ป้ามีอะไรก็รีบพูดมาเถอะอ้ำอึ้งอยู่นั่นแหละฉันอยากไปพักผ่อน" มาร์คัสที่เห็นท่าทีของป้าสมศรีก็รู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย"ฉันถามว่าอันนาอยู่ที่ไหน.!" มาร์คัสเริ่มพูดเสียงเข้มขณะที่นางปูก็อยู่ด้านหลังยืนตัวสั่นพอได้ยินเสียงที่ดุเข้มของมาร์คัส"คุณหนูอันนา ตั้งแต่ออกไปเรียนจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับมาเลยค่ะนายท่าน" ป้าสมศรีก็บอกความจริงออกไปตามตรง"ป้าว่าอะไรนะ.!" มาร์คัสที่ได้ยินว่าอันนาไม่ได้อยู่ท
อันนาในชุดราตรีสีดำที่เผยให้เห็นเรือนร่างเย้ายวนดูโดดเด่นสะดุดตา เธอไม่ได้ตั้งใจจะแต่งตัวให้เซ็กซี่ขนาดนี้ แต่พลอยกับสมหญิงเป็นคนจัดการให้ทั้งหมดตั้งแต่หัวจรดเท้า เมื่อเดินเข้ามาในผับ ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่เธอ อันนารู้สึกอึดอัด แต่ก็พยายามเก็บซ่อนความรู้สึกนั้นไว้ภายใต้ท่าทีที่เย็นชาและไร้อารมณ์"เห็นไหมล่ะยัยอันนา บอกแล้วว่าแกสวย" สมหญิงที่เป็นสาวสอง แต่งตัวจัดเต็มไม่แพ้กันในชุดรัดรูปสีเงินเมทัลลิกวาววับ พูดขึ้นพร้อมกับส่งสายตาให้บรรดาหนุ่มๆ ที่จ้องมองมาอย่างสนุกสนานส่วนพลอยในชุดเดรสสีแดงเพลิงที่ทั้งสวยและร้อนแรง ก็ยิ้มกริ่มอย่างพอใจ "คืนนี้พวกเราต้องเป็นดาวเด่นของงาน!"แต่สำหรับอันนาแล้ว เธอไม่รู้สึกสนุกด้วยเลยสักนิด เธอเดินไปที่บาร์แล้วสั่งเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์แรงที่สุด บาร์เทนเดอร์ส่งแก้วให้พร้อมกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม แต่เธอไม่สนใจ เธอดื่มมันหมดแก้วอย่างรวดเร็วราวกับจะดับไฟในใจที่กำลังลุกโชน"อันนา... พอแล้ว" สมหญิงพยายามจะห้าม แต่ไม่ทัน เธอสั่งแก้วที่สองทันที"อยากให้ฉันลืมความเจ็บปวด ก็ต้องดื่มให้เมาไม่ใช่เหรอ" อันนาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาพลอยกับสมหญิงมองหน้ากันด้วยค
วันนี้อันนาจึงอยากจะดื่มให้ลืมความทุกข์ที่เธอได้รับชีวิตของเธอมันบัดซบมากพออยู่แล้วเงินที่ มาคัสให้ตลอดสี่เดือนเดือนละแสนมันมากพอสำหรับที่เธอจะตั้งตัวใหม่ได้เลยวันนี้เธอจึงตัดสินใจหยิบบางส่วนออกมาใช้ก็คงไม่ผิด"งั้นวันนี้ฉันเลี้ยงเองนะ" อันนาเผยรอยยิ้มแต่มันก็ยังคงดูเศร้าในสายตาของเพื่อนอยู่ดีสามสาวพากันนั่งรถแท็กซี่กลับไปที่บ้านของพลอยโดยที่อันนาไม่เดินทางกลับคฤหาสน์และมาร์คัสที่มัวแต่ยุ่งกับเรื่องของลลิสา ผู้หญิงที่เป็นคนส่งข้อความปริศนามาให้เขาจนลืมสั่งให้ราเชนทร์ตามติดมาดูอันนาส่วนราเชนก็ยุ่งกับงานใต้ดินของเจ้านายทุกคนต่างพากันลืมอันนาไปหมดมาร์คัสขับรถไปยังสถานที่นัดหมายที่ลลิสาเป็นคนบอกมา มันเป็นร้านกาแฟเล็กๆ ที่เงียบสงบในซอยลึก ที่นี่เป็นสถานที่ที่พวกเขาชอบมานั่งกันบ่อยๆ สมัยยังเรียนมหาวิทยาลัย ภาพความทรงจำเก่าๆ ผุดขึ้นมาในหัวของมาร์คัสอย่างไม่ขาดสายเมื่อเดินเข้าไปในร้าน เขาก็เห็นลลิสานั่งรออยู่ที่โต๊ะมุมสุด เธอสวยเหมือนเดิม...หรืออาจจะสวยกว่าเดิมด้วยซ้ำ ลลิสายิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน"สวัสดีมาร์คัส"ลลิสาในชุดสีแดงเพลิงเหมือนแม่หม้ายกระดังงาลนไฟมาร์คัสเดินไปนั่งลงตรงข้ามเธอ "
เช้าวันนี้ที่คฤหาสน์หรูของมาร์คัส บรรยากาศดูอึมครึมไปหมด อันนาก้มหน้าก้มตาทานอาหารเช้าเหมือนคนอมทุกข์ ตลอดทั้งคืนเธอรู้สึกนอนไม่หลับ เพราะตอนนี้ในชีวิตของเธอเอาหัวใจไปผูกไว้ที่ข้อเท้าของผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าหนี้และสามีตีตราของเธอ“อันนามีอะไรหรือเปล่า” มาร์คัสพยายามพูดให้บรรยากาศทุกอย่างมันดีขึ้น ซึ่งเขาก็รู้ว่า เขาไม่จำเป็นต้องแคร์อันนาก็ได้ แต่ความรู้สึกของเขากลับไม่เป็นอย่างนั้น“ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ” อันนาเงยหน้าขึ้นแล้วฝืนยิ้ม ใบหน้าที่ซีดเผือดเพราะนอนไม่หลับเกือบทั้งคืนจนร้องไห้ตาแดงบวม แม้จะถูกปกปิดด้วยเครื่องสำอาง แต่ก็ยังมองออก“ทำไมตาบวมขนาดนั้นล่ะอันนา” มาร์คัสสังเกตไปที่ดวงตาสวยที่บวมเปล่งแทบจะปิด“สงสัยเมื่อคืนอันนานอนดึกมั้งคะ นอนไม่หลับน่ะ” อันนาพูดออกไปด้วยท่าทีไม่ได้คิดอะไร เพราะในใจตอนนั้นกำลังจมดิ่งกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น“ทำไมนอนไม่หลับล่ะ คิดถึงฉันหรือไง” มาร์คัสพยายามพูดหยอกเย้าให้อันนาอารมณ์ดี“ค่ะ อันนาคิดถึงคุณมาร์คัส” อันนารับสารภาพออกมาตรง ๆ เพราะเธอก็คิดว่าไม่มีอะไรจะเสียหาย ในเมื่อเธอรู้สึกว่าเธอรักมาร์คัสเข้าให้แล้วมาร์คัสที่ได้ยินคำตอบก็ถึงกับไป







