“อีบ้า แล้วเรียกฉันมาฟังทำไม” พัชราบ่นอุบก่อนจะก้มลงทำงานในไอแพคต่อ
“ ก็อยากมาแชร์ความรู้สึก ได้ไหม แกแชร์ได้ไหม”
พัชราเงยหน้ายิ้ม อ่อนโยน “ได้สิ ตกลงเขาให้แกไปพบเขาอีกเมื่อไหร่”
“พรุ่งนี้ คอยดูฉันจะออกบ้านตั้งแต่ ตีห้า “
“ขนาดนั้นเชียว”
“ฉันจะทำให้เขาเห็นว่า ผู้หญิงประเภทสองอย่างฉันก็จริงจังเว้ย “
กอหญ้า พยักหน้าก่อนยกมือหัวแม่โป้งสองนิ้ว “ เยี่ยม “
“สรุปแกก็ไม่ได้งานอะไรเลย เจ๊ไข่ไม่แม้งแกเหรอ” พัชราเอ่ยถาม
“ได้สิ ออกจากห้องคุณสร ฉันมาเจอคุณอดิศวรที่หน้าลิฟท์ เขาน่ารักต่างจากพี่ชายเค้ามาก เขาก็ชวนฉันไปดื่มกาแฟแล้วฉันก็ได้คุยงานและวัดตัวเขาไปด้วย สิบห้านาที เสร็จแล้ว ตอนนี้ฉันเหลือแต่ส่วนของคุณสร “
“ พี่สร กับพี่ศวร เป็นฝาแฝดที่แตกต่างกันมาก “
“ แล้วทำไมแก ไม่รักคุณอดิศวรล่ะ น่าจะเวริ์คกว่า น่ารักกว่าด้วย”พัชราเอ่ยถามอย่างสงสัย
“ไม่รู้สิ มันคือโชคชะตามั้ง “
“สรุปแกก็ยังรักเขา ทั้งๆที่เขาด่าแก ฉอดๆๆๆ”
“อืม”
“เฮ้อ บ้าหรือดีเนี่ย”
“ไอ้พัช แกยังไม่เคยมีความรัก ถ้าแกเคยรักใครสักคน แกจะไม่พูดแบบนี้ แกจะขอแค่ได้รัก เห็นเค้ามีความสุข แกก็สุขด้วย “
“น้ำเน่าหรือเปล่าเนี่ย ไม่ใช่ละครหลังข่าวนะ สำหรับฉัน ความรักไม่อยู่ในสมอง
ความรักคือภาพลวงตาสำหรับฉัน งานต่างหากที่เป็นชีวิตของฉัน”
“ เครียด ไปไหมเนี่ยพัช”
“จริงนะญ่า “
“แล้วไอ้หนุ่มๆที่มาขายขนมแกเป็นสิบแหละ พัช ไม่มีสักคนที่สอบผ่านเหรอ นั่นไง คุณภพ อะไรนั่นก็ดีนี่ เห็นตามแกมาสองปีแล้ว”
“ บอกพวกแกไว้เลย ผู้ชาย ฉันก็มองนะ มองว่าคนนี้หล่อ คนนี้ดี แต่ให้คบเป็นแฟน
เชื่อมะ ไม่มีในความคิด มันไม่สปาร์คหว่ะ ไม่รู้ทำไม ฉันเคยถามตัวเองเหมือนกันว่าฉันผิด
ปกติไหม”
“ เพราะแกมัวแต่ไปคิดถึงเรื่องในอดีตหรือไง ทำให้แกเกลียดผู้ชายทุกคน”
“ อืม อาจมีส่วน ฉันต้องไปพบจิตแพทย์ไหมเนี่ย”
เพื่อนรักทั้งสามหัวเราะกันเสียงดัง ต่อจากนั้นก็เป็นบรรยากาศของการดื่ม แอลกฮอล์ตบท้าย ยิ่งทำให้บรรยากาศคึกครื้นในคืนวันเสาร์
ตีหนึ่ง เมื่อพัชรา เดินออกมาพร้อมกับ กอหญ้า ที่ลานจอดรถ “ ไหวไหมพัช เรานั่งแท็กซี่
กันก็ได้นะ”
“ กระจอก “
“ แล้วไม่กลัวตำรวจจับ เมาแล้วขับนะเพื่อน”
“ เมื่อกี้ฉันดื่มกาแฟไปแล้ว ไปกันช้าๆ แล้วกัน “
“ ฉันขอไปนอนคอนโดฯ แกนะ”
พัชราขมวดคิ้ว ก่อนถาม” ญ่า ช่วงนี้แกเป็นไร ที่บ้านมีอะไรหรือเปล่า เมื่อก่อนฉันชวนแกค้างบ่อยๆ แกก็บอกไม่ชอบนอนนอกบ้าน เดี๋ยวนี้ทำไม แกมาค้างกับฉันบ่อยนักว่ะ
ที่บ้านมีอะไรหรือเปล่า “
กอหญ้า นิ่งเงียบ ก่อนตอบ “ ไม่มีหรอก แค่มึนๆ แล้วกลัวโดนคุณย่าดุ “
พัชรายิ้มออก “ อ๋อ อย่างงี้นี่เอง ไปกันเถอะดึกแล้ว”
กอหญ้ายิ้ม ก่อนนึกกังวลเมื่อต้องเผชิญหน้ากับชายหนุ่มอีกครั้ง
บ้านพิพัฒนพงค์
กริชชัยมองไปที่ประตูรั้ว ก่อนจะเดินไปมาบนระเบียง ชั้นสาม ด้วยความหงุดหงิด
เมื่อหัวค่ำ ชายหนุ่มให้ คนรับใช้คนสนิทไปตามหญิงสาวที่เรือนหลังเล็ก แต่ก็ได้รับฟังคำตอบ ที่ทำให้ชายหนุ่ม หงุดหงิดตลอด จนถึงเดี๋ยวนี้
“ซ่าส์ นักนะ ยัยแม่มด ปั่นหัวฉันทั้งวัน คอยดูเจอหน้า จะจัดการให้หนัก”
กริชชัยกัดฟันพูด
พัชราขมวดคิ้วเมื่อเห็นกอหญ้าอ่านหนังสือบนเตียงท่าทางยังไม่รีบร้อนจะกลับบ้านเฉกเช่นปกติเคยปฏิบัติมา
“เห้ย ญ่า ยังไม่กลับบ้านเหรอ “ พัชราถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นท่าทางไม่ทุกข์ร้อนของเพื่อนสาว
“ยัง บ่ายนี้มีแฟชั่นโชว์ ที่เซ็นทรัล เจ๊โทรมาจิกแต่เช้า “
“ อ๋อ ..นึกว่าญ่าหลบหน้าใครที่บ้าน”
กอหญ้าสะอึก ก่อนส่ายศีรษะไปมาอย่างน่ารัก “ ไม่ จะหนีใครล่ะ “
“นั่นสิ พฤติกรรมเหมือนหนีอะไรสักอย่าง “ พัชรากล่าวพร้อมกับเดินไปทำอาหารเช้าให้เพื่อนสาวรับประทาน
กริชชัยเดินหงุดหงิดภายในห้อง เมื่อได้รับรายงานจากคนสนิทว่า หญิงสาวไม่กลับบ้านทั้งคืน และจนป่านนี้ก็ยังไม่กลับบ้าน
“ นี่เธอคิดว่าจะหนีฉันพ้นเหรอ ยัยกระปุกตั้งฉ่าย หนีดีนัก ฉันจะหาทางให้เธอได้อยู่ใกล้ ชนิดที่เป่ารดต้นคอทีเดียว เธอยังไม่รู้จักกริชชัย “ ชายหนุ่มพูดพลางเดินไปที่ระเบียง อย่างต้องการผ่อนคลาย
ชายหนุ่มเห็น คุณหญิงมณีจันทร์เดินคุม คนสวนตัดตกแต่งต้นไม้แล้วยิ้มออก
แววตาเป็นประกาย
กริชชัยเดินลงสวนทางกับ ธมกานต์ตรงบันได ชายหนุ่มชะงัก เมื่อบิดาพูดขึ้น
“ เลขาแกบอกหรือเปล่า ว่าพ่อสั่งให้ไปงานที่ห้างเซ็นทรัลบ่ายนี้”
“ บอกสิครับ แต่มันยังไม่ถึงเวลานี่ บอกตรงๆ นะพ่อ งานแบบนี้พ่อน่าจะให้ไอ้ตาลมันไป ผมไม่ชอบงานที่มันมีคนมากมาย พ่อก็รู้ผมไม่ชอบเข้างานสังคม”
“ ก็แค่ไปเป็นเกียรติให้เขา สักชั่วโมงแกก็ขอตัวกลับ พ่อก็ไม่ว่า”
“ โอเค เดี๋ยวผมจะไปชวนพวกไอ้สิทธิ์ ไอ้ณัฐ ไปเป็นเพื่อน “
“ตามใจแก “ ธมกานต์พูดจบก็เดินจากไป
ห้องสรรพสินค้า เซ็นทรัล ภายในห้องแต่งตัวที่คราคล่ำไปด้วย นางแบบหลายสิบชีวิต
ดีไซเนอร์ ช่างแต่งหน้าทำผม คนคุมคิว เสียงตะโกนโหวกเวก คนวิ่งตัดกันไปมา
“ เอา เร่งมือกันหน่อย เวลางวดเข้ามาแล้ว “ เจ๊ตุ๊ดตู่ จีบปากสั่ง
เอลี่ กำลังแต่งหน้าให้เพื่อนรัก อย่างบรรจงให้สวยงาม
“ เดี๋ยวเสร็จจากงานนี้ฉันต้องไปเจอกับสุดที่เลิฟของฉัน”
“อ้าว ไหนแกว่าจะไปตีห้า “
“ เขาให้เลขามาเลื่อน บอกว่าต้องไปสิงคโปร์กระทันหัน ให้ฉันไปพบเย็นนี้
เขาจะเลี้ยงข้าวฉัน กริ๊ด แก ฉันจะได้กินข้าวกับที่รักของฉัน”กระเทยสาวพูดนัยน์ตาเพ้อฝัน
กอหญ้าส่ายหน้าอย่างระอาเพื่อนสาวก่อนพูดปนขำ
“ ตกลงเขาเป็น ที่รักของแกตอนไหน เขายอมรับแกแล้วเหรอ เอลี่”
“ ไม่รู้ล่ะ ฉันสมมุติเอาเองอ่ะ “ เอลี่หัวเราะก่อนจะมองไปทาง ประตู
“ มาแล้วเหรอค่ะน้องลิลลี่ “ เจ๊ตุ๊ดตู่ ปรี่เข้าไปหา นางแบบกิติมศักดิ์ ลูกสาวนายตำรวจใหญ่และคุณหญิง พวงแข
เจ๊ตุ๊ดตู่ อึดอัดเมื่อได้รับการขอร้องจากเจ้าของงานว่าจะเอาลูกสาวของเพื่อนมาร่วมเดินแบบ
“ถือว่าผมขอร้องนะ คุณตุ๊ดตู่ ผมขัดเพื่อนไม่ได้ “
“ แหม จริงๆ ตู่ไม่ชอบเลยนะคะ ระบบเด็กเส้นเนี่ย แล้วน้องเขามีประสบการณ์การเดินแบบหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“ เขาเคยไปเดินการกุศลสองสามงาน”
“ งั้นก็ดีค่ะ มีพื้นฐานก็ยังดี”
เจ๊ตุ๊ดตู่ ปรบมือ “ เอาเด็ก ๆ รู้จักไว้นะ นี่น้องใหม่ คุณลิลลี่ จะมาร่วมเดินแบบกับพวกเรางานนี้”
ทุกคนในห้องหันไปมอง ลิลลี่ เชิดหน้ากอดอก ก่อนหรี่ตามอง นางแบบภายในห้อง
ด้วยอาการหยิ่งยะโส
“นี่คุณตุ๊ดตู่ คงจะไม่ให้ลิลลี่ใช้ห้องรวมหรอกนะคะ ลิลลี่ต้องการห้องพิเศษค่ะ
ขอใช้คนเดียวนะคะ “
“ คงไม่ได้หรอกค่ะ คุณลิลลี่ เราไม่มีงบพิเศษค่ะ “
“ไม่เป็นไร ลิลลี่จ่ายเอง “
เจ๊ตู๊ดตู่ อึ้งก่อนพยักหน้าอย่างเสียมิได้
ภายในงาน กริชชัย ยืนอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่เรียนจบจากอเมริกาพร้อมๆกัน สิทธิโชคและณัฐพงค์ ชายหนุ่มมีสีหน้าเบื่อหน่าย
“เห้ย กริช ปกติแกไม่ชอบงานแบบนี้นี่นา ชวนพวกข้ามาทำไม”
“พ่อสั่ง ยืนเป็นเพื่อนกันสักครู่นะ สักครึ่งช.มแล้วเราค่อยหนีกลับ”
“เห้ย นางแบบสวยๆทั้งนั้น ข้าชอบคนนั้นหว่ะ กำลังเดินมาเชียว”
กริชชัยหันไปมองแล้ว เดินสืบเท้าไปด้านหน้าเหมือนละเมอ แววตาดุดัน ริมฝีปากเม้มสนิทเมื่อมองเห็นหญิงสาวที่ทำให้วุ่นวายมาหลายวัน กำลัง เกาะกอดกับนายแบบโพสท่า โดยหญิงสาวไปยืนอิงที่แผงอก โดยนายแบบก็โอบกอดแนบสนิท
ชายหนุ่มกำหมัดแน่น แววตาดุดัน
“น้องคนนั้นสวยหยาดเยิ้ม จนข้าเข่าจะทรุดเลยหว่ะ”
“คนไหนไอ้ณัฐ จะได้รู้ว่าคนเดียวกันไหม “
“ คนเสื้อขาวนั่นไง”
“ว่าไงไอ้กริช แกชอบคนไหน”
“แพศยา ทำไมต้องแอ่นขนาดนั้น แล้วดูสิทำไมต้องกอดซะแน่นขนาดนั้น “
กริชชัยหึงจนหน้ามืดขณะกัดฟันพูด
“เห้ย ไอ้กริช ดูน้องเสื้อดำนั่นสิหว่ะ นั่นยัยลิลลี่ กิ๊กเก่าแกที่ อังกฤษหรือเปล่า ใช่มะ
ใช่สิ ฉันจำน้องเขาได้เพราะเขาชอบฟรีเซ็นต์ตัวเองว่า พ่อกูเนี่ยใหญ่ “เสียงหัวเราะของเพื่อนรักสองหนุ่มทำให้ กริชชัยคลายอารมณ์หงุดหงิดไปบ้าง
“เห้ย แฟนเก่าแกนี่หว่ากริช ไปยืนให้กำลังใจน้องเขาหน่อยไหม”
“ไม่ใช่แฟนข้า” กริชชัยสวนทันควัน
“ข้าจำได้ แกไปออกเดทกับยัยนี่ด้วยนี่ “ ณัฐพงค์ดีดนิ้ว
“ ไปออกเดทไม่ได้หมายถึงว่าเราต้องเป็นแฟนกัน ไอ้บ๊อง”
“ ข้าเห็นพวกแกจูบกันด้วย”
“ ก็แค่จูบเดียว”กริชชัย เขยิบไปยืนด้านหน้า กอดอกและจ้องมองไปที่ กอหญ้าเสมือนจะให้หญิงสาวมองเห็นได้ถนัด
กอหญ้า ยืนโพสท่า กวาดสายตาไปด้านหน้า หญิงสาวชะงักเมื่อสะดุดที่ชายหนุ่มรูปหล่อ ที่ยืนกอดอก สายตาดุดัน หญิงสาวชะงักก่อนจะเมินสายตา ไปที่จุดอื่น เสมือนกริชชัยคืออากาศธาตุ
หญิงสาวพยายามไม่ประสานสายตากับชายหนุ่ม ในขณะที่กริชชัยจ้องร่างหญิงสาวเขม็ง ชายหนุ่มกัดกรามอย่างพยายามระงับอารมณ์พลุ่งพล่าน
“พี่ญ่า พี่ญ่าขา “
“ว่าไง จอย มีอะไร”
“มีคนฝากโน๊ตมาค่ะพี่ บอกให้หนูให้กับมือพี่”
กอหญ้ารับกระดาษสีขาวมาแบบ งง ๆ ก่อนคลี่ออกแล้วใบหน้าที่เปื้อนยิ้มก็เปลี่ยนไป
ฉันมารับกลับบ้าน รอชั้นเก้า ถ้าไม่เชื่อฟังจะเห็นดีกัน กริชชัย
กอหญ้าขยำกระดาษทิ้ง ก่อนคิดในใจ เรื่องอะไรฉันต้องเชื่อคุณ เป็นพ่อก็ไม่ใช่ อยากรอก็รอไป