Beranda / รักโบราณ / พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ / หานชิงหลินผู้อ่อนแอ 2

Share

หานชิงหลินผู้อ่อนแอ 2

Penulis: LiHong
last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-02 16:19:18

หญิงสาวรีบจัดเสื้อผ้าของตนด้วยมืออันสั่นเทา ท่าทางตื่นกลัว ลอบมองหน้าของชายคนรัก ในใจคิดเพียงว่า นางชอบใบหน้าหล่อเหลาของคู่หมั้นเป็นอย่างมาก ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งชอบ เพียงแต่นางยังไม่พร้อม ความมั่นใจใดๆ ก็ไม่มี หน้าอกหรือก็ยังไม่ใหญ่เท่าใด กลิ่นกายก็ไม่แน่ว่าจะหมดความหอมไปนานแล้ว มันน่าอายเกินไปจริงๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้รู้สึกขลาดเขลาไม่น้อย

เดิมทีชิงหลินมักจะนัดพบกับจางฉวนในศาลากลางสวนที่ไร้ซึ่งกำแพงปิดกั้นสายตาทั้งยังเปิดเผยรอบทิศ มิอาจทำการล่วงล้ำเกินเลยอันใดต่อกันแม้แต่น้อย

ทว่าวันนี้ยามเดินทอดน่องกลับคุยกันเพลิดเพลินมากนัก  รู้ตัวอีกทีก็เข้ามานั่งในห้องรับรองของเรือนตัวเอง

ถัดจากห้องนี้ไม่ไกลก็คือห้องนอน หากนางไม่อาจยับยั้งเกรงว่าคงทำผิดประเพณีอย่างมหันต์แล้ว

หญิงสาวถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งอย่างตระหนก  ตบอกตนเองเบาๆ ให้หัวใจเต้นช้าลง สีหน้าเอียงอายมากล้น   พวงแก้มทั้งสองแดงก่ำ ท่าทางกล้าๆ กลัวๆ ช้อนสายตาขึ้นมองคู่หมั้นอย่างเชื่องช้า เก็บกดความรู้สึกเสียดายเอาไว้ให้ลึกสุดใจ

ทว่ากลับเห็นเขาลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วคล้ายโกรธกรุ่น พริบตานั้นจางฉวนก็หันมาก้มหน้ามองด้วยสายตาที่ดูไม่ออกว่ากำลังคิดอะไร เขาคลี่ยิ้มมุมปากไม่แน่ชัดว่าอยู่ในอารมณ์ใด                       ก่อนเอ่ยเสียงทุ้มนุ่มน่าฟังว่า

“วันนี้ ข้าต้องกลับก่อน แล้วจะมาหาเจ้าใหม่”

จบคำก็เดินจากไปอย่างเฉยเมย ไม่มองคนรักอีกเลย

ชั่วขณะนั้น ใบหน้าชิงหลินพลันซีดเผือด มองจางฉวนอย่างรู้สึกผิดทันที

ในห้องที่เคยมีเสียงคุยหยอกล้อก่อนหน้านี้พลันเงียบงัน คงเหลือสตรีผู้หนึ่งนั่งโง่งม

ครู่ใหญ่ชิงหลินจึงคิดได้ว่าควรไปขอโทษจางฉวน นางรีบลุกขึ้นอย่างร้อนรนแล้ววิ่งออกจากเรือนอย่างเร็ว ในใจยังคิดว่าควรเร่งรัดเรื่องการแต่งงานเสียที ปีนี้อายุนางก็ใกล้สิบหกปีแล้ว

เมื่อปลายเท้าวิ่งมาหยุดอยู่กลางลานหน้าเรือน หญิงสาวมองไปจนทั่ว กลับไม่เห็นชายคนรัก ชิงหลินให้รู้สึกเจ็บปวดใจนัก

นางไม่ควรปฏิเสธเขา

หลังจากเหตุการณ์นั้นก็ผ่านมานานถึงหนึ่งเดือนเต็มแล้ว

หากนับตามจริง อารมณ์โกรธเคืองควรหมดสิ้นภายในสามวัน หรือไม่ควรเกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ จะอย่างไรเสียก็คนรักกัน

ทว่าจางฉวนกลับเงียบหายไป ไม่มาหาเพื่อคุยหยอกล้อเหมือนเก่า ในใจของชิงหลินให้รู้สึกกระวนกระวายยากระงับ ใบหน้าเผยความหม่นเศร้า แต่กลับไม่กล้าเอ่ยปากกับผู้ใด               หรือต่อให้ปรึกษามารดา ก็เกรงว่าจะได้รับเพียงคำตำหนิ                  เพราะจางฉวนคือบุตรชายของคู่ค้าบิดา ไม่อาจผิดใจกันได้

บ่ายวันหนึ่ง ชิงหลินเริ่มทนไม่ไหว หัวใจร้อนรนดั่งต้องไฟ นางออกจากบ้านเพื่อเดินทางไปหาจางฉวน หมายมาดบอกกล่าวกับเขาอย่างจริงใจ ว่านางมิได้รังเกียจเขา และนางก็พร้อมจะขอโทษเขาอย่างลึกซึ้ง หากต้องการสิ่งใดนางยอมทั้งนั้น

บ้านของชิงหลินกับจางฉวนห่างกันแค่คนละหัวมุมเมือง บิดาของจางฉวนเป็นสหายต่างถิ่นของบิดาชิงหลิน หลังจากเจรจาร่วมการค้าเสร็จสิ้น จึงซื้อเรือนหลังโตเอาไว้ในหมู่บ้านนี้

มิคาดว่ายังไม่ทันถึงที่หมาย ระหว่างทางผ่านสวนดอกไม้ที่เป็นชายป่า ห่างสายตาผู้คน เบื้องหน้าของชิงหลินในระยะหลายจั้งกลับเห็นแผ่นหลังของจางฉวน

เขากำลังเดินจับมือกับสตรีผู้หนึ่ง

นัยน์ตาสาวน้อยเบิกกว้าง ในใจคิดว่าคงเป็นสหายของคู่หมั้นกระมัง ทว่าท่าทางของพวกเขาสนิทสนมกันเหลือเกิน               

ในใจของชิงหลินบังเกิดความคิดสับสน นางเพียงเลือกหลบเร้นตัวตนลงไปนั่งข้างทางที่มีพุ่มไม้บังตา ความรู้สึกชาหนึบเกาะกินในโพรงอกทันทีที่มองเห็นฝ่ายสตรีชัดเจน

ชิงลี่!

หญิงสาวอุทานในใจ นิ่งค้างอึ้งงันในบัดดล

ชิงลี่คือน้องสาวต่างมารดาของชิงหลิน ซึ่งเกิดจากอนุภรรยาของบิดา อายุห่างกับนางแค่หนึ่งปี

ระยะทางที่จางฉวนเดินจูงมือกับชิงลี่ห่างจากชิงหลินหลังพุ่มไม้ไกลอยู่หลายจั้ง แต่กระนั้นภาพที่เห็นกลับเด่นชัดในครรลองสายตา และกลิ่นอายเฉกเช่นคนรักยิ่งชัดเจนในความรู้สึก

ทว่าชิงหลินกลับปฏิเสธความกระจ่างแจ้งนั้น

หญิงสาวกะพริบตา มองอย่างโง่งม กลีบปากเม้มแน่น ส่ายหน้าเบาๆ

นางไม่เข้าใจว่าเหตุใดจางฉวนกับชิงลี่ถึงมาอยู่ด้วยกันในสวนพฤกษาชายป่าเยี่ยงนี้ ทั้งๆ ที่จางฉวนคือคู่หมั้นของนาง                และชิงลี่ก็คือน้องสาวของนาง

นับแต่ท่านพ่อหมั้นหมายนางกับเขา ชิงลี่แสดงความยินดีมาโดยตลอด ทั้งยังสนับสนุนให้นางได้เจอกับจางฉวนบ่อยๆ จะได้รักใคร่สมัครสมานต่อกัน

ชิงหลินครุ่นคิดด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง หรือว่าที่ผ่านมาชิงลี่ต้องการเจอหน้าจางฉวนจึงคะยั้นคะยอให้นางนัดเขามาที่บ้าน

คิดไปคิดมาท้ายที่สุดหญิงสาวก็โคลงศีรษะถอนหายใจแล้วสรุปในแง่ดี

จะเป็นไปได้อย่างไร?

นั่นคือคู่หมั้นอันเป็นที่รักของนางกับน้องสาวผู้แสนดี พวกเขาคงเจอกันโดยบังเอิญ แล้วทักทายกันตามประสา

เพราะฝ่ายหนึ่งคือว่าที่พี่เขยและอีกฝ่ายคือน้องสาวของว่าที่ภรรยา ทุกคนล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน

หญิงสาวค่อยๆ ลุกขึ้นยืน แล้วเดินออกจากหลังพุ่มไม้ เป้าหมายคือเข้าไปหาชายหญิงทั้งสองที่เดินอยู่ไกลๆ เบื้องหน้า เพื่อถามไถ่อย่างบริสุทธ์ใจ มิให้เคลือบแคลงต่อกัน

ทว่ากลับเห็นสองคนนั้นเดินเลี้ยวไปทางหนึ่ง เมื่อชิงหลินลอบติดตาม นานครู่ใหญ่ที่เพ่งมองก็เห็นเป็นเรือนหลังน้อยตั้งอยู่สุดทาง เรือนนั้นรายล้อมด้วยมวลบุปผาบานสะพรั่ง รอบด้านมีต้นไม้ งดงามมากนัก

ชิงหลินขมวดคิ้ว จำได้ว่าครั้งหนึ่งจางฉวนเคยบอกว่า เขามีเรือนส่วนตัวอยู่ริมชายป่าอันเป็นอาณาเขตบ้านของเขา                  ซึ่งกำลังปลูกสร้าง หากเสร็จแล้วจะพานางมาชม

เรือนนี้คือหนึ่งในหลายเรือนของสองเราในอนาคต

สุดท้าย ...นางกับเขากลับมีปัญหากันเสียก่อน

มือของชิงหลินกำแน่นที่กระโปรง ตัดสินใจแน่วแน่ว่าต้องเข้าไปขอโทษคนรักของตนโดยเร็ว ส่วนเรื่องที่เขาอยู่กับชิงลี่ได้อย่างไรนั้น จำต้องสะกดกลั้นอารมณ์อ่อนไหวเอาไว้ก่อน

ถึงแม้จะยากเย็นมากนักก็ตาม

เมื่อคิดได้เช่นนั้นจึงค่อยๆ เดินตามคนทั้งคู่ที่บัดนี้หายลับเข้าไปในเรือนหลังนั้นแล้ว

หัวใจของชิงหลินชาวาบเนื้อตัวสะบัดร้อนสะบัดหนาวราวกับจะเป็นไข้

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   เทพโอสถ2

    ถังไห่เฉิงไม่อยากเสียเวลาจึงคิดเอ่ยคำโดยไม่อ้อมค้อม ทว่ายังไม่ทันเปิดปาก กลับได้ยินถ้อยวาจาทุ้มนุ่มประดุจเสียงสวดมนต์ที่แฝงความปราณีดังขึ้นก่อน“ข้ารอเจ้าอยู่เป็นนาน”อ๋องหนุ่มเลิกคิ้วเล็กน้อย นึกแปลกใจนัก “ท่านรอข้า?” เขาหรี่ตา “คงมิใช่รอจับข้าไปเป็นนักบวชเพื่อล้างบาปชำระจิตใจ”บางคราบุตรชายมักพลั้งเผลอแสดงนิสัยเฉกเช่นมารดา ถังไห่เฉิงไม่เคยมีความคิดละทางโลกทิ้งครอบครัว“แน่นอนว่ามิใช่เช่นนั้น” ภายใต้กิริยาสำรวมเยือกเย็น เซียงซิ่นค่อยๆ ลืมตาช้าๆ พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งแต่กังวานนุ่มนวล “ข้าแค่ทำตามคำสั่งของอาจารย์เซียนหย่งสือ”การได้พบผู้สูงส่งเหนือเมฆเป็นเรื่องยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร หากแต่การได้พบโดยง่ายย่อมมีนัยลึกลับซับซ้อนถังไห่เฉิงขมวดคิ้วงุนงง ยังไม่เข้าใจ ได้ยินชายชราชุดขาวกล่าวต่อด้วยกระแสเสียงดุจเดิม“เจ้ามีหน้าที่ของเจ้า ส่วนข้าย่อมมีหน้าที่ของข้า”เรียวคิ้วยิ่งผูกปม อ๋องหนุ่มยังคงคาใจอยู่ดี“หน้าที่เราสอง มิน่าเกี่ยวข้องกันกระมัง”ชายชราไม่ตอบ เพียงขยับนิ้วเบาๆ หนึ่งคราชั่ววูบต่อมาพลันเกิดลำแสงสีขาวสบายตาโอบล้อมรอบกายแกร่งของอ๋องหนุ่ม ลี่เซียนค่อยๆ ลอยขึ้นสูงออกจ

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   เทพโอสถ1

    เจ้าม้าศึกมีกำลังวังชาเพิ่มขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะไอเซียนที่สัตว์เดรัจฉานสัมผัสได้โดยแท้ถังไห่เฉิงจึงควบม้าคู่ใจพุ่งทะยานปราดเปรียวยิ่งกว่าเดิม ทั้งรวดเร็วราวฟ้าผ่าไม่มีเสียเวลาแม้พักผ่อนเส้นทางแม้คดเคี้ยวและยาวไกลจึงมิใช่อุปสรรคอันใดส่วนปรมาจารย์เซียงซิ่นก็มิใช่ว่าคนเช่นรุ่ยอ๋องจะไม่รู้จักท่านผู้นี้มุ่งบำเพ็ญเพียรสูงส่ง ละทางโลก ใฝ่ทางธรรม ไม่ประสงค์วุ่นวายกับมนุษย์คนใดทั้งนั้น ผู้คนใต้หล้าล้วนรู้กันดีถังไห่เฉิงไม่คิดไม่ฝันว่าตัวเขาที่ฝักใฝ่ด้านมืดใช้ชีวิตกับการเข่นฆ่าล่าสังหารจักต้องเดินทางไปหาปรมาจารย์เซียงซิ่น ผู้ที่มีฉายาเทพโอสถสูงส่งเหนือเมฆาเช่นนี้คนผู้นั้นเปรียบประดุจสีขาวพิสุทธิ์ไร้มลทินอย่างสิ้นเชิง ส่วนตัวเขาคือสีดำอย่างแท้จริง ทั้งแปดเปื้อนความชั่วร้ายขั้นสุด อีกอย่าง...ปรมาจารย์ผู้สูงส่งใช่ว่าอยากพบก็ได้พบเสียเมื่อไหร่อ๋องหนุ่มครุ่นคิดพลางก้มลงมองร่างนุ่มซีดขาวตรงหน้า เรือนกายของนางทอดนิ่งอยู่ในอ้อมแขนเพื่อลี่เซียนแล้ว ไม่ว่าสิ่งใดเขาย่อมพร้อมเสี่ยง ขอเพียงนางฟื้นขึ้นมา มิใช่หลับใหลคล้ายตายจากไปเช่นนี้หลายวันที่เร่งรุดเดินทางไกลทำให้เหนื่อยล้าเป็นธรรมดา ทั้

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   สมบัติล้ำค่า2

    ชั่วครู่ต่อมา...ศิษย์พี่ใหญ่ของกลุ่มจึงถูกศิษย์น้องรองและศิษย์น้องเล็กส่งสายตากดดันประหนึ่งเอามีดมาจ่อลำคอว่าเชิญท่านพูดก่อน...ศิษย์พี่ใหญ่จึงกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อกแล้วเริ่มเอ่ยคำ“ทูลท่านอ๋อง สถานที่แห่งนี้นับว่าศักดิ์สิทธิ์อย่างที่สุด เหมาะแก่การฝึกฌานเร่งพลังวัตรเสริมการโคจรลมปราณเพื่อบำเพ็ญตบะ เพียงแต่ยังต้องใช้ระยะเวลาเนิ่นนาน เป็นไปได้ว่าอาจารย์ซุนยวี่ หวังฝึกทางลัดโดยใช้วิชาต้องห้าม”อ๋องหนุ่มแค่นถามเสียงเย็น “วิชาอะไร?”เห็นศิษย์พี่ใหญ่ตัวสั่นปานนั้น ศิษย์น้องเล็กจึงลอบหยิกแขนศิษย์พี่รองพร้อมส่งสายตาสื่อความนัยว่าเชิญท่านพูดต่อศิษย์คนรองผู้นี้ย่อมไม่ทำให้ศิษย์พี่ศิษย์น้องต้องผิดหวัง เขานึกถึงภาพบัดสีก่อนหน้านี้ จึงรีบตอบความจริงโดยพลัน“หนึ่งในวิชาต้องห้ามคือวิชาในคัมภีร์เสพสังวาสพ่ะย่ะค่ะ เพราะต้องใช้หญิงสาวบริสุทธิ์เท่านั้น พรหมจรรย์ช่วยทำให้นักพรตมีอายุยืนนาน ทั้งรูปโฉมหล่อเหลางดงามตลอดกาล หากว่าเป็นหญิงสาวทั่วไปจักเสพสมที่ใดก็ได้ ทว่าอาจารย์กลับเลือกที่นี่กับหญิงงามผู้นี้...”เขากวาดสายตามองไปทางเปลวเพลิงแล้วรีบกล่าวต่อ “ทั้งยังใช้ศาสตราวุธเหนือชั้น มนตราม่านพลัง ค

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   สมบัติล้ำค่า1

    ปราณบริสุทธิ์ที่แผ่ซ่านทั่วกายแกร่งของถังไห่เฉิงเพราะลี่เซียนถ่ายทอดให้เพื่อใช้ปกป้องภยันตรายจากบรรดาภูตผีปีศาจนั้นไม่ผิด ทว่าท้ายที่สุดกลับเป็นการช่วยลี่เซียนให้พ้นภัยในเสี้ยวเวลาเพราะไอเซียนกับปราณบริสุทธิ์ย่อมสื่อถึงกัน ถังไห่เฉิงที่อยู่นอกถ้ำจึงรับรู้ได้ทันทีว่าลี่เซียนกำลังปรากฏกายอยู่ใกล้ๆเสียงกรีดร้องของนางเพียงชั่ววูบเดียวทำเขาเหลียวหลังวิ่งกลับเข้าถ้ำอย่างไม่ต้องคิดอะไร กลไกใดๆ ล้วนมิอาจสกัดกั้นความห่วงหาที่กำลังปะทุเดือดพล่านสัญชาตญาณเป็นสิ่งที่ถังไห่เฉิงเชื่อมั่นเสมอ แม้ไม่เข้าใจว่าเกิดสิ่งใด แต่ทันทีที่เห็นนางผลักเจ้าซุนยวี่จนกระเด็นเช่นนั้น เขาย่อมต้องฆ่ามันก่อนค่อยสอบถามทีหลังเปลวเพลิงยังคงลุกโหม มองเห็นเศษชิ้นส่วนร่างกายของซุนยวี่กำลังถูกไฟเผาผลาญจนมอดไหม้ไม่เหลือซากกลิ่นสาบสางคาวคลุ้ง บรรยากาศรอบกายรู้สึกถึงความวังเวงอย่างประหลาด เมื่อหลับตานิ่งฟังยังได้ยินเสียงร่ำร้องโหยหวนดังเล็ดลอดออกมาจากมีดสั้นสีดำอักขระโบราณมีดสั้นเล่มนี้ผ่านการร่ายคาถาอาคมเหนือชั้นมาอย่างดีโดยปรมาจารย์สูงส่งเหนือเมฆผู้หนึ่ง ซึ่งมารดาของอ๋องหนุ่มเป็นผู้มอบให้อีกที อาวุธร้ายทำลายล้างที่ติดกา

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ตอนที่37 ชั่วช้าสามานย์3

    ทุกคนเบิกตาถลน ถามดังลั่น “อาจารย์ ท่านทำอะไร?”ซุนยวี่ชะงักงันทันใด เสกม่านพลิ้วไหวปกปิดทันที“ออกไป!”คำสั่งนั้นคล้ายสายลมโชยวูบไม่เข้าหูแม้แต่น้อยแม้นม่านคลี่คลุมปิดกั้นจนมิด ทว่าภาพบัดสีที่เห็นเมื่อครู่ทำให้บัดนี้นักพรตน้อยทุกคนขาแข็งไปแล้วก้าวออกไปมิได้สักคน“อาจารย์! ท่าน...”สุ้มเสียงวุ่นวายทำมือที่กำลังปลดกางเกงชะงักงันอีกคราและนั่นคือเสี้ยวเวลาแห่งเหรินเซียนโดยแท้ สตรีผู้มีสติเหลือเพียงน้อยนิดได้มีโอกาสฮึดสู้สุดชีวิตทันทีลี่เซียนปล่อยพลังปราณสายหนึ่งกระแทกซุนยวี่อย่างแรง จนร่างแกร่งของเขาลอยไปกระแทกกับผนังถ้ำดังอั่กนางรู้สึกรังเกียจชายผู้นี้ วงแขนของเขาน่าขยะแขยงสิ้นดีหญิงสาวยกมือสะบัดอีกครา ก่อเกิดม่านพลังพุ่งใส่ซุนยวี่ จนร่างของเขาลอยตัวขึ้นแล้วตกกระแทกพื้นดังอึกหากแต่แค่นี้ไหนเลยจะคณามือนักพรตวิชาแก่กล้าปลายเท้าซุนยวี่ยังคงยืนหยัดมั่นคง สองตาหลุบลงมองพื้นหินที่ถูกพลังปราณครูดเป็นทางยาว เขาเหยียดยิ้มมุมปากอย่างไม่อนาทรร้อนใจ ค่อยๆ เดินกลับไปหาคนงามที่ปล่อยพลังเฮือกสุดท้ายก่อนนอนทอดกายระหงอ่อนนุ่มรอเขาอยู่บนแท่นหินยามนี้ลี่เซียนหมดแรงแล้วจริงๆ เนื่องจากแสงเรืองรองของ

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ตอนที่37 ชั่วช้าสามานย์2

    ซุนยวี่พยักหน้าเบาๆ พลางกล่าวพึมพำหยอกเอิน“อา...ท่านเป็นเซียนสูงส่งหากแต่เยาว์วัยบริสุทธิ์ยิ่งนัก ไฉนจึงฉลาดนักเล่า” เสียงหัวเราะทุ้มแผ่วดังขึ้นเล็กน้อยก่อนกล่าวต่ออย่างมีหลักการ “ข้าย่อมทำตามสัจจะไม่มีผิดศีลทั้งสิ้น และยามนี้ ท่านเป็นของข้า! มาเถิด อย่ามัวหยอกล้อให้เสียเวลา”ลี่เซียนไหนเลยปรารถนาตอบโต้หยอกเย้าตัวนางโง่เขลาไม่ค่อยทันใครเป็นเพียงเด็กหญิงไม่ประสา หากแต่อารมณ์แปรปรวนยิ่ง“ปล่อยข้า”หญิงสาวแม้บริสุทธิ์ดุจกระจกใสไร้ราคีปราศจากซึ่งมลทินหากแต่ความจริงไม่เคยไร้คลื่นอารมณ์ เมื่อโกรธาขึ้นมาพลังทำลายล้างที่ซ่อนเร้นเพราะใช้ไม่เป็นจึงเผยได้เอง ยังผลให้ม่านมนตราค่ายกลเริ่มปริแตกแยกตัวออกทีละน้อยดวงตาซุนยวี่เบิกกว้างชะงักนิ้วที่ปลายคาง หุบยิ้มทันทีค่ายกลกักแดนไร้สีไร้แสงแต่ทรงพลานุภาพต่อเทพเซียนกำลังมีคลื่นสั่นไหวมิอาจตรึงกายาได้อีกต่อไปทว่าซุนยวี่ได้เตรียมการไว้แล้วอย่างดีเยี่ยมยันต์กำราบเซียนซึ่งเขียนและร่ายเวทเอาไว้ถูกนำมาใช้ทันท่วงที ลี่เซียนถูกตรึงพลังอีกครั้ง ทั้งที่ยังไม่ทันได้ขยับไปทางใด นางรู้สึกแสบร้อนจากอิทธิฤทธิ์ของยันต์กำราบเซียน จนขอบตาร้อนผ่าว น้ำตาปริ่มๆ คลอเบ้

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status