เนื่องจากค่ำคืนที่ผ่านมาห้องอาบน้ำของเรือนพักส่วนพระองค์ถูกคนร้ายบุกรุกอย่างเหิมเกริมเหี้ยมหาญเหตุการณ์รุนแรงนี้ยังผลให้หน้ากากเงินอักขระโบราณของถังไห่เฉิงที่ถูกถอดแล้ววางเอาไว้ข้างถังอาบน้ำโดนอาวุธสังหารไม่ทราบชนิดทำลายจนแตกหักเป็นสองท่อนกระทั่งไม่อาจนำมาสวมใส่ได้อีกรุ่ยอ๋องยามนี้จึงต้องเผยโฉมเปลือยใบหน้าดุจเทพเซียนอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงส่งผลให้วันนี้การฝึกซ้อมของบรรดาทหารหญิงเต็มไปด้วยความคึกคักกระปรี้กระเปร่าเป็นพิเศษพวกนางฝึกดาบวาดกระบวนท่าด้วยหัวใจเต้นระส่ำเร่าๆ อยู่ในอกไม่หยุดหย่อนยามอ๋องหนุ่มพาร่างสูงสง่าในอาภรณ์สีดำสนิทเดินผ่าน ยิ่งทำให้เหล่าทหารหญิงแทบยืนไม่ไหว เรือนร่างสิ้นไร้เรี่ยวแรงอย่างไม่น่าเป็นไปได้ อ่อนระทวยกันไปหมดบางคนถึงขนาดแกล้งเจ็บล้มลงบนพื้นดินกลิ้งไปกลิ้งมาหมายเรียกร้องความสนใจ ซ้ำร้ายยิ่งกว่านั้นพวกนางถึงขั้นวางดาบทิ้งกระบี่เพื่อไปหลบอยู่หลังพุ่มไม้หมายแอบมอง ไม่สนใจเสียงครูฝึกที่แหกปากคำรามก้องร้องเรียกให้กลับไปแต่อย่างใดมิใช่เรื่องง่ายที่จักได้ยลโฉมเอกบุรุษยามปลดหน้ากาก เมื่อมีโอกาสต่อให้ถูกโบยจนล้มป่วยเพราะละเลยการฝึกหนักก็ยอมแล้ววันนี้จึงเป็นวันวุ
แสงสว่างสาดส่องทั่วนภา สกุณาขับขานออกหาอาหาร บ่งบอกยามเวลารุ่งอรุณมาเยือนลี่เซียนสะลึมสะลือตื่นขึ้นมากลับพบว่ามีตำราถูกวางเอาไว้ที่ข้างหมอน ทั้งน้ำมันหอมและตลับขี้ผึ้งล้วนครบถ้วนครั้นมองไปที่ปลายเตียงมุมห้องจึงได้เห็นหญิงงามผู้หนึ่งกำลังนั่งหมอบตัวฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะทรงสูง“พี่เย่เสีย”เมื่อถูกเรียกขาน สาวงามพลันสะดุ้ง“โอ๊ะ! เจ้าตื่นแล้วหรือ?”ลี่เซียนพยักหน้าเบาๆ ยิ้มน้อยๆ พลางหยัดกายลุกขึ้นนั่ง ยังผลให้ผ้าห่มร่นลงต่ำผ่านช่วงไหล่มนลงไป จนเห็นร่างงามเปลือยเปล่า เผยผิวขาวเนียนเรียบผุดผ่องดุจหยกสลักหายากเย่เสียเห็นเช่นนั้นพลันยิ้มกว้าง เอ่ยอย่างตื่นเต้น“เมื่อคืนเกิดเหตุวุ่นวายร้ายแรงปานนั้นเจ้ายังได้ปรนนิบัติท่านอ๋องอีกหรือ? โอ้! พระองค์ช่างไม่หวั่นต่อศึกรักแม้วันที่ต้องเจอศึกรบมิได้นัดหมาย”สตรีบนเตียงได้ฟังเพียงเอียงหน้าฉงน ศึกรักศึกรบอันใด?ในใจลี่เซียนคิดว่าอีกฝ่ายคล้ายปรนนิบัตินางมากกว่านะ ทั้งเช็ดตัวทั้งนวดคลึง สบายตัวยิ่งลี่เซียนลุกขึ้นจากเตียงนอน ยืนบิดซ้ายบิดขวา ไล่สำรวจเนื้อตัวของตน เพื่อมองหาบาดแผลมากมายที่ถูกทำร้ายเมื่อคืน พบว่าริ้วรอยแผลทั้งหมดจางหายไปแล้วจนสิ้นเพราะ
“หากมิใช่ฝ่ายฆ่าย่อมเป็นฝ่ายถูกฆ่า”กล่าวพลางดึงผ้าห่มขึ้นปิดเนินเนื้ออวบอิ่มที่บัดนี้ยอดถันสีหวานกำลังชี้หน้าชี้ตาได้อย่างร้ายกาจเขากล่าวอีกว่า “และหากเปลี่ยนเป็นข้าหนึ่งเดียวที่ตาย แต่ผู้ร้ายทั้งหมดหลุดรอดไปได้ ไม่ช้า...สงครามย่อมบังเกิด ประชาราษฎร์นับหมื่นนับแสนต้องสังเวยชีวิต สามแคว้นเชื่อมโยงจะเกิดเภทภัย ความพินาศจากการเข่นฆ่ามิอาจหลีกเลี่ยงได้ บิดามารดาต้องเสียบุตรชาย ผู้เฒ่าคนชราไร้ผู้สืบสกุล เด็กทุกคนจะเป็นกำพร้า ภรรยาเป็นม่ายสามีตาย ภาพอเนจอนาถน่าเวทนาจะเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า เชื่อเถอะ! ไม่ว่านรกหรือสวรรค์ ไม่มีใครช่วยพวกเขาได้ทั้งนั้น”วาจายาวเหยียดทำคนฟังทำได้แค่กะพริบตาปริบๆเนื่องจากต้องการรอให้แผลสมาน คนงามจึงไม่ได้รับอนุญาตให้ใส่เสื้อผ้า นางจึงโผล่ได้แต่หัวออกมาเบิกตาโตเพ่งมองถังไห่เฉิงหยัดกายลุกขึ้นจากเตียงนอน เขายืนตระหง่านเบื้องหน้าลี่เซียน สีหน้าเคร่งขรึม เค้นถามเสียงต่ำ“ฝีมือระดับเจ้า ขนาดกรงศิลาเหล็กหนายังมิอาจคุมขัง จงบอกข้าว่าเจ้าคิดจะทำสิ่งใด? ต้องการอะไรกันแน่?”เมื่อได้ยินคำถาม ลี่เซียนพลันนึกขึ้นได้ถึงสาเหตุที่ต้องการออกจากห้อง จึงตอบกลับด้วยน้ำเสียงน่าสงส
เนื่องจากเรือนนอนส่วนตัวมีเหตุสะเทือนขวัญเกิดขึ้นก่อนหน้าทั้งคราบเลือดยังเปรอะเปื้อนเต็มไปหมด ถังไห่เฉิงจึงสั่งให้พลทหารทำความสะอาดซ่อมแซมทั้งราตรีส่วนรัตติกาลที่เหลือย่อมจำเป็นต้องอาศัยพักผ่อนในเรือนบัญชาการเท่านั้น และเนื่องจากเป็นเรือนสำหรับสั่งงาน เสียงแห่งความโกลาหลวุ่นวายจึงดังระงมโดยรอบบริเวณของเรือนแห่งนี้ไม่ขาดสายทหารหลายนายเดินเข้าเดินออกบริเวณห้องโถงส่วนหน้า เพื่อขอพบรุ่ยอ๋อง หมายรายงานสถานการณ์ไม่มีว่างเว้นแต่กระนั้นเจ้าตัวปัญหาเช่นสตรีปริศนายิ่งไม่ควรปล่อยให้ไกลตา ถังไห่เฉิงจึงให้ทหารทุกนายรออยู่ที่โถงด้านนอก ส่วนตัวเขายังต้องสะสางบางอย่างในห้องพักด้านในบนเตียงอบอุ่น เสียงบุรุษเข้มเครียด“นอนนิ่งๆ”ลี่เซียนขดตัวเป็นก้อนกลมอยู่ในผ้าห่ม เรือนผมแผ่สยายเต็มหมอน กลีบปากเม้มแน่น พวงแก้มแดงเรื่อ ดวงตากลมโตมองดูคล้ายกระต่ายน้อยกำลังพองขนข่มขู่แต่กลับหลบอยู่หลังพงหญ้า มิกล้าสู้หน้านายพรานถังไห่เฉิงเพ่งพิศพินิจคนงามเงียบเชียบ สีหน้าราบเรียบไม่แปรเปลี่ยน ทว่าเรียวคิ้วคมเข้มกลับขมวดเป็นปมจนแน่น ดวงตาคมกริบอันแสนจะเย็นชายิ่งนานยิ่งเครียดขรึมถมึงทึง เห็นนางอยู่ในสภาพเช่นนั้นตัวเ
“มันคิดจะรังแกเจ้า...”ลี่เซียนส่ายหน้าปฏิเสธ “เขาบอกจะมอบความสุขให้ข้า แต่ว่าสิ่งที่เขางัดออกมา มันน่าเกลียดปานนั้น ไม่เห็นจะสุภาพและสง่างามเหมือนของท่านเลย”“...”รองแม่ทัพกับกลุ่มทหารประมาณสี่คนวิ่งเข้ามาทันได้ยินวาจาล่อแหลมพอดิบพอดี ทุกคนพากันสะดุดเท้าเกือบหัวทิ่มเบื้องหน้าของพวกเขาคือรุ่ยอ๋องกำลังประคองกอดนักโทษหญิงนามลี่เซียน เห็นได้ชัดถึงความสำคัญต่อบุรุษสูงศักดิ์โดยมิต้องอธิบายนางกำลังฟ้องร้องสะอึกสะอื้นงอแง ส่วนคนฟังกลับมีสีหน้าแดงก่ำย่ำแย่แล้วทหารทุกคนมองหน้ากันอย่างลนลาน ไม่รู้ควรทำฉันใด จึงพากันล่าถอยออกไปราววิญญาณสลายกลายเป็นหมอกควันก่อนถูกสายลมพัดพาไม่เหลือร่องรอยห้องขังด้านในปราศจากผู้ใดอีกครา มีเพียงถังไห่เฉิงยืนกอดลี่เซียน และชายกักขฬะนอนบิดตัวเร่าๆ ด้วยความทรมานท่ามกลางเสียงครวญครางโหยหวนของผู้คุมที่ถูกตัดเอ็นสะบั้นความเป็นชาย ถังไห่เฉิงยังคงใจเย็น เขาเอื้อมมือขึ้นจับศีรษะของลี่เซียนให้ฝังเข้าไปในกล้ามเนื้อหน้าอก หมายให้นางหยุดปาก พลางพึมพำเสียงเครียดว่า “เจ้าช่างเปรียบเปรย...”หญิงสาวสะอื้น ตอบกลับว่า “ข้าใคร่ศึกษาเพียงของท่าน ไม่ปรารถนาเห็นของใครทั้งนั้น”บุรุ
เสียงสะอื้นไห้ยังคงดังเป็นระลอกอย่างต่อเนื่องน้ำเสียงเช่นนั้นถังไห่เฉิงล้วนจำได้ ทั้งยังจับทิศทางได้แม่นยำ ไม่รอให้ใครนำทาง ชายหนุ่มก็พุ่งกายเข้าไปแล้วจังหวะเดียวกันพลันได้ยินเสียงแหบต่ำของบุรุษครางลั่น“อ๊าก!”ตามด้วยเสียงดรุณีพร่ำคำละล่ำละลัก “ข้าขอโทษ...”“เจ้า...เจ้า...”“ข้ามิได้ตั้งใจนะ”“อั่ก”เสียงตุ้บดังขึ้นคราหนึ่งแม้ไม่ดังมาก แต่ก็พอฟังออกว่าเป็นเสียงของคนตัวใหญ่ล้มลงกระแทกพื้นด้วยอาการบาดเจ็บสาหัสกำแพงหินของห้องขังปริแตกจนช่องลมขยายใหญ่ขึ้น ยังผลให้แสงจากโคมไฟด้านนอกอีกฝั่งสาดส่องเข้ามากระทั่งแปรเปลี่ยนความสลัวรางภายในให้กลายเป็นสว่างจ้าถังไห่เฉิงพุ่งกายปราดเปรียว พริบตาเดียวก็เข้ามาถึงหน้าห้องขังที่เป็นกรงเหล็กด้านในสุด ทันได้เห็นผู้คุมร่างกำยำกำลังนอนดิ้นพล่าน สองตาแดงก่ำดุจโลหิต ใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวด สองมือกุมท้องน้อยไว้แน่น เลือดไหลนองเต็มเป้ากางเกงชั้นในข้างกายเขาคือท่อนเอ็นสีแดงฉาน ความเป็นชายถูกสะบั้นตัดขาดจนสิ้นส่วนสตรีนามลี่เซียนผู้ถูกพันธนการด้วยเชือกรอบลำตัวและโซ่เหล็กรัดข้อมือไพล่หลังกลับลอยอยู่กลางอากาศเรือนผมดำขลับยุ่งเหยิงแผ่สยาย ปลายเท้าคู