เดินทางไปถึงหลุมที่ขุดเอาไว้เกือบสองเค่อแต่ไม่ได้ทำให้ทั้งสองพี่น้องเหนื่อยเลยเพราะได้น้ำพุบำรุงร่างกายทุกวันและกินอาหารจานเนื้อทุกมื้อ จึงทำให้มีน้ำมีนวลให้เห็นบ้างแล้ว ซึ่งแตกต่างจากที่ยังไม่แยกบ้านที่ทั่งสองพี่น้องนั่งผอมแห้งมากเพราะได้กินเพียงเศษน้ำข้าวต้ม
ถึงแล้วมาลุ้นกันดีกว่าว่าจะได้หมูป่ามาไหมนางให้พี่ชายนำหน้าไปดูในหลุมก่อนและรอลุ้นว่าจะได้หมูป่ากันหรือเปล่าหลุมแรก ที่จริงนางจะยิงเลยก็ได้แต่อยากลองวิธีนี้ดูก่อนเพื่อจะได้หมูไม่ตายลงไปเลี้ยงด้วยนั้นเอง เซียวอี้เหอที่ชะโงกหน้าลงไปดูหมูในหลุมถึงกับตกใจที่มันมีหมูตัวใหญ่ถึงสองตัวยังไม่ตายพวกมันคงวิ่งจนเหนื่อยจึงนอนในหลุมหลับไป !!!! ไม่อยากจะเชื่อเลยวิธีของน้องเล็กมันดีจริงๆเลยแต่จะทำยังยังดีละถ้ามันไม่ตายพี่ชายคิดหนักทันที "โอ้ะพี่ใหญ่มีหมูป่าตกลงไปตั้งสองตัวเลยเจ้าค่ะดวงของพวกเราดีจริงๆด้วยละ" นางพูดเองเออเองคนเดียว "เยว่เอ๋อร์แล้วเราจะทำยังไรละถ้าหมูมันยังไม่ตายจะจับมันขึ้นมาจากหลุมได้เช่นไร" พี่ชายทำน่าหนักอกหนักใจมากหัวคิ้วขมวดชนกันเลย "พี่ใหญ่อย่าคิดมากนี้น้องสาวคนนี้ของพี่คือใครลูกรักของท่านตาเทพเลยนะ ข้าเตรียมยาสลบเอาไว้ให้พวกมันแล้วแต่ลืมบอกพี่ใหญ่นะเจ้าค่ะอิอิ" เย่วเย่วหัวเราะอย่างถูกใจที่ได้แกล้งพี่ชาย "โอ้ะเย่วเอ๊อร์น้องแกล้งพี่ใหญ่เหรอพี่นะหลงคิดไปไกลเลยละว่าจะเอาหมูที่ยังไม่ตายขึ้นจากหลุมได้อย่างไร" เซียวอี้เหอเอามือยี่ผมน้องสาวทำโทษที่ทำให้พี่ชายคิดหนัก "เอ้าพี่ใหญ่คนละดอกข้าจะยิงตัวนั้นพี่ใหญ่ก็ยิงอีกตัวก็แล้วกัน ยาของข้าแม้แต่ช้างตัวใหญ่ก็ล้มได้เจ้าค่ะแต่ข้าให้พอดีสำหรับสัตว์แต่ละตัวแล้ว" เย่วเย่วบอกพี่ชายก่อนจะยกธนูขึ้นเล็งและให้สัญญาณมือกับพี่ชายให้ยิงพร้อมกัน 4 3 2 1 ฉึก เสียงธนูแหวกทะลุเข้าที่คอหมูและมันก็ลุกขึ้นวิ่งวนไปรอบหลุมเพราะตกใจที่โดนยิงสักพักจึงล้มลงสลบไปเย่วเย่วจึงกวาดเข้ามิติเลยก่อนจะหันมาชวนพี่ชายเดินลงเขาแต่ไม่ลืมกลบหลุมสัตว์ก่อนเพราะไม่รู้ว่าจะได้ขึ้นมาหรือเปล่าพรุ่งนี้ เกือบยามเซินนางกับพี่ชายก็ลงมาใกล้จะถึงตรงที่นัดกันกับพวกผู้ใหญ่เอาไว้ เย่วเย่วนำหมูป่าออกมามัดใส่ไม้ไผ่ที่ทำเป็นที่ลาก เอาเถาวัลย์ดึงสองคนกับพี่ชายลงมาตามทางเดินนางเอาน้ำราดให้ชุ่มๆตัวเองกับพี่ชายเหมือนจะเหนื่อยมากเพราะน้ำหนักหมูเกือบสามร้อยชั่งเลยนางเลือกเอาตัวใหญ่ที่สุดเพื่อจะได้เพียงพอต่อทุกคนที่มาช่วยงานที่บ้านของพวกนางนั้นเอง พวกไก่ป่านางเก็บเข้ามิติเรียบร้อยเหลือแค่ตระกร้าคนละอันที่สะพายหลังมีผักป่าเห็ดป่าที่ใส่ลงไปพอกินกับครอบครัวคนละเกือบเต็มตระกร้ากันเลยทีเดียว นางจึงแกล้งส่งเสียงเรียกลุงๆทั้งหลายที่นัดเอาไว้ "ท่านลุงเจ้าคะพวกท่านมาถึงกันหรือยังช่วยพวกข้าลากหมูด้วยเจ้าค่ะ" นางเอามือป้องปากแล้วตะโกนลงไปตามลม พี่ชายของนางถึงกับส่ายหัวให้กับความเจ้าเล่ห์ของน้องสาว พอได้ยินของเย่วเย่วพวกผู้ชายที่พึ่งจะเดินขึ้นมาได้เกือบสองเค่อก็รีบลุกขึ้นยืนทันที บางคนก็หาผักป่ารอใกล้ๆพอได้ยินเสียงก็พากันรีบเดินไปตามเสียงเรียกทันที "นังหนูพวกข้ากำลังจะไปช่วยแล้วพวกเจ้าส่งแค่เสียงก็พอ" เสียงตะโกนตอบกลับมาเย่วเย่วจึงหยุดและส่งเสียงบอกตำแหน่งว่าพวกตนอยู่จุดไหนรอไม่ถึงเค่อเสียงวิ่งตามกันมาเกือบสิบคนได้ก็มาถึงนางกับพี่ชายแกล้งนอนราบไปด้านหลังเหมือนเหนื่อยมากๆนั้นเอง "เพ่ย!เจ้าเด็กสองคนนี้เป็นลูกรักของท่านเทพจริงด้วยดูสิได้หมูป่าตัวใหญ่มากขนาดนี้ ตัวนี้คงน้ำหนักสามร้อยชั่งได้กระมังพวกเอ็งว่าไหม" พวกเขาพูดกันด้วยความดีใจที่จะได้ส่วนแบ่งจากหมูป่าตัวใหญ่จากบ้านของเจ้าเด็กสองคนที่นอนแผ่ไปกับพื้นอย่างเหนื่อย "โถ่พวกเอ็งคงจะเหนื่อยมามาให้เป็นหน้าที่ของพวกข้าที่ลากหมูลงไปที่บ้านของพวกเอ็งเอง ป่านนี้คนที่ขุดบ่อน้ำคงจะเสร็จแล้วกระมัง ตอนที่พวกข้าขึ้นมาก็เหลือไม่มากแล้ว" ชายที่มีอายุมากกว่าทุกคนพูดแล้วก็ช่วยกันลากหมูลงเขาเข้าหมู่บ้านไป สองพี่น้องเพียงแค่เดินตามหลังพวกเขาไปเท่านั้น อีกทั้งตระกร้ายังมีคนใจดีช่วยถือให้เรียบรอยนางขยิบตาให้้พี่ชายด้วยความทะเล้นเซียวอี้เหอนั้นยิ้มและส่ายหัวกับน้องสาวที่เจ้าแผนการยิ่งนัก พอมาถึงตีนเขาใกล้กันกับบ้านของพวกนางมองลงไปเห็นรั้วที่สูงสามเมตรตามที่นางต้องการป้องกันทั้งคนกับสัตว์ ประตูที่แข็งแรงมากหลังคาก็ได้ไม้ใหม่ทั้งหมดเปลี่ยนแถมยังนำเอาไม้ไผ่ลำใหญ่แต่เหมือนแพซ้อนกันทำเป็นหลังคาแทนส่วนที่ผุพังเกือบจะทั้งหลัง ชาวบ้านใจดีนางจึงตอบแทนพวกเขาด้วยอาหารจากเนื้อทุกวัน มองไปที่ดินที่เมื่อก่อนรกร้างน่าดูแต่ตอนนี้ตัดหญ้าทิ้งหมดแถมพลิกหน้าดินขุดร่องน้ำ ขุดบอน้ำ อีกแลกกับหมูสามตัวอาหารจานเนื้ออีกทุกวัน บ้านในฝันของเย่วเย่วเลยนะนี้ด้านหลังมีลำธารไหลผ่านหล่อเลี้ยงผู้คนทุกชีวิตจริงๆ ธรรมชาติสร้างทุกสิ่งมีแต่คนเท่านั้นละที่ทำลายพวกมัน นางคิดและฮัมเพลงตามหลังพี่ชายลงเขาไปที่บ้านเซียวอี้เหอมองน้องสาวร้องเพลงตามที่นางเคยเปิดอยู่ในมิติก็ยิ้มตามหลังน้องไปติดๆให้ถึงตัวบ้านที่ทุกคนรออยู่ เหมือนเสียงของความวุ่นวายก็ตามมาเพราะเด็กๆที่มากับพ่อแม่วิ่งออกมารอพวกผู้ใหญ่ที่ไปรอสองพี่น้องบ้านเซียวตะโกนด้วยความดีใจ บางคนก็วิ่งมาดูหมูบางคนก็วิ่งไปส่งข่าวให้พวกที่อยู่ในบ้านว่าได้หมูป่าตัวใหญ่กำลังลากมาจะถึงบ้านแล้ว ทุกคนพากันยิ้มด้วยความดีใจ "เซียวอี้หลันเอ๋ยพวกข้าจะมาช่วยปลูกเมล็ดผักช่วยในวันพรุ่งนี้แลกกับหมูตุ๋นแสนอร่อยของนังหนูเย่วเย่วนะข้ายังจะเอาแป้งมาให้นางทำซาลาเปาให้กินอีก ต่อไปครอบครัวของพวกเอ็งคงจะพบแต่ความสุขแล้วละที่ได้ลูกสาวลูกชายที่ดีกตัญญูรู้คุณยิ่งนัก" เมียของหัวหน้าหมู่บ้านพูดขึ้นให้ได้ยินกันทุกคน "ให้พวกข้ามาด้วยนะพวกข้าทุกคนก็ติดใจอาหารของนังหนูเย่วเย่วเข้าแล้วละ ยังอยากกินหมูตุ๋นของนางเหมือนกันทุกคน ถ้าหากว่าทำขายถึงแม้บ้านข้าจะไม่มีตำลึงซื้อข้าก็จะนำสิ่งของมาแลกเปลี่ยนกับนังหนูมันเหมือนกัน" พอคนหนึ่งพูดทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วยเหมือนกัน "ได้สิเจ้าค่ะข้าจะให้เย่วเย่วตุ๋นเครื่องในหมูให้ทุกคนที่มาเพาะปลูกช่วยครอบครัวของข้าเจ้าค่ะ ใครมีแป้งก็นำมาให้นางทำซาลาเปาให้กินได้นะเจ้าคะ เพราะบ้านข้ายังไม่มีแป้งเลยคงจะต้องหาสิ่งของเข้าไปแลกเปลี่ยนกับพวกท่านด้วยเช่นเดียวกัน ข้ามีหน่อไม้ดองกับผักดองพวกท่านต้องการก็นำข้างแป้งมาแลกได้นะเจ้าคะ เย่วเย่วนางหาลงมาให้ข้าทุกวันที่ขึ้นไปบนเขาและแกงให้พวกท่านได้กินกันทุกคนแล้วว่ามันอร่อยขนาดไหน" นางเซียวอี้หลันบอกกับบรรดาป้าๆชาวบ้านไป "ได้สิพรุ่งนี้พวกข้าจะนำมาแลกผักดองกับหน่อไม้ดอกของบ้านเจ้า วิธีทำกินนางก็บอกแล้วว่าทำกินได้หลากหลายเมนูเด็ดจริงไหมพวกเรา" ทุกคนพยักหน้ารับเหมือนไก่จิกก่อนจะพากันเดินไปหลังบ้านเพื่อแบ่งเนื้อหมูกันกลับทำกินกันทุกคนที่มาทำงานบ้านรองเซียวในวันนี้หลังจากแต่งกันกับท่านอ๋องภายในตำหนักในทุกคืนจะมีเสียงครางหวานของคู่สามีข้าวใหม่ปลามันจนนางกำนัลหน้าแดงไปตามๆกัน ท่านอ๋องช่างรักพระชายาเหลือเกินตามใจนางทุกอย่างตลอดที่ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ช่วงก่อนจะถึงวันกลับไปเยี่ยมที่บ้านของพระชายาเขาตักตวงความสุขตั้งแต่ก่อนวันแต่งจนผ่านมาหลายคืนแล้วก็ยังคงหื่นเสมอต้นเสมอปลาย เย่วเย่วคิดในตอนนี้นางนั่งผิงอกแกร่งของพระสวามีกลับหมู่บ้านฉีซานเพื่อจะกลับไปเยี่ยมบ้านเดิมตามประเพณี กว่าจะได้ออกจากห้องแต่ละวันนางนี้ต้องมีนางกำนัลคอยประคองถ้าไม่มีน้ำพุวิเศษนี้นางไม่อย่างจะคิดเลยว่าจะนอนเป็นผักทั้งวันหรือเปล่า"เย่วเอ๋อร์น้องนอนเถอะนะคนดีพอถึงบ้านของพ่อตาแม่ยายพี่จะปลุกน้องเอง"ท่านอ๋องกระชับอ้อมกอดให้ภรรยานั่งพิงอกได้สะดวกตอนกลางวันต้องให้นางนอนพักเอาแรงไว้มากๆหน่อยช่วงกลางคืนคือเวลาของเขา ว่าจะหยุดสักเดือนก่อนจะเดินทางเข้าเมืองหลวงไปหาพี่ชายที่รอจัดงานให้อีกรอบที่ตำหนักอ๋องที่เมืองหลวง แต่จะให้เขาอดใจไหวไม่รังแกภรรยาได้เช่นไรในเมื่อนางน่ารักน่ากินไปทั้งตัว เขาก็ไม่ใช้ผู้หลุดพ้นเสียหน่อย นี้ก็อดทนรอมาตั้งปีเพื่อจะแต่งนางเข้าตำหนักได้แต่ก็ต้องออกศึกไปเป็นปีที่ไ
ท่านอ๋องกว่าจะปลีกตัวจากเหล่าทหารทั้งหลายได้ก็ปาไปเกือบสี่ทุ่มในภพเก่าของนางเย่วเย่วกำลังนั่งหลับพักเอาแรงหลังจากที่มารดามาอวยพรร่ำลากันกลับหมู่บ้านกับบรรดาป้าๆทั้งหลายกลับไปกันจนหมด นางก็อยู่กับนางกำนัลสองคนที่มีอายุสามสิบได้กระมังเย่วเย่วแอบกินนมกับขนมเพราะมีผ้าคลุมหน้านางไม่กลัวนางกำนัลเห็นหรอกนะ คนมันหิวกว่าด้านนอกจะรับแขกและกลับหมดพอดีหิวท้องร้องกันพอดี หยิบของออกมากินจนอิ่มนางก็นั่งหลับไปเลยเอาแรงดีกว่าถ่างตารอไม่ไหวหรอก เพราะเมื่อคืนนี้ท่านอ๋องของรางวัลทั้งคืนถ้านางไม่หลับก่อนคงสว่างคาตาแน่ๆเลย คนอะไรอึดเป็นบ้าขอให้ปล่อยก็ไม่ยอมหยุดจนนางหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ แล้วยังโดนลากมาทำพิธีทั้งวันอีกจนค่ำสองที่พักนอนงีบเอาแรงสักนิดก็ยังดีตัดมาที่ท่านอ๋องที่ตอนนี้กำลังโดนเหล่าทหารคนสนิทมอมเหล้าเพื่อกลั้นแกล้งให้เจ้านายเข้อหอไม่ไหวชนแก้วจอกต่อจอก จนเขาต้องใช้อุบายขอเข้าห้องน้ำพอปลีกตัวออกมาได้ก็เดินตัวปลิวไปที่ห้องหอในตำหนักใหญ่เลยป่านนี้เย่วเย่วคงจะรอแย่แล้ว อ๋องหนุ่มคิดไปยิ้มไปกับความน่ารักของภรรยาหมาดๆที่นางให้รางวัลกับเขาเมื่อคืนนี้จนแทบตายคาอกนาง แต่ใครจะอดใจไหวเล่าภรรยาน่ารักเสียขนาดน
ตอนนี้หัวสมองของสาวน้อยเย่วเย่วขาวโพลนไปหมดกับริมฝีปากหนาของชายคนรักที่ละเลงน้องสาวจนนางครางกระเส่าอย่างไม่อาย ชายหนุ่มนั้นตอนนี้ดูดดึงกุหลาบงามของสาวคนรักอย่างไม่รังเกียจนางสวยไปหมดจนเขาอดใจไม่ไหวอยากกลืนกินทุกอย่างที่เป็นนาง"เย่วเอ๋อร์คนดีร้องดังๆไปเลยพี่ชอบเห็นน้องมีความสุขที่สุุขเสียวไหมที่รัก" ชายหนุ่มเงยหน้ามาพูดกับนางแต่ก็ยังมีนิ้วแทนที่ปากเขาเขี่ยวนตรงปุ่มเสียวของนาง เย่วเย่วยกสะโพกลอยตามนิ้วร้ายของชายหนุ่มที่ละเลงแล้วแหย่เข้าไปที่ละนิ้ว พอถามนางจบเขาไม่คิดจะฟังคำตอบเพราะดูจากการตอบรับของสาวคนรักก็พอใจมากแล้ว ท่านออ๋องหนุ่มก้มหน้าลงฉกชิมกุหลาบงามตรงหน้าต่อจนร่างบอบบางเกร็งกระตุกสุขสมไปก่อนเพื่อเปิดทางให้มังกรตัวเขี่ยงเข้าไปในกุหลาบงาม ชายหนุ่มแยกขาของคู่หมั้นสาวออกจนกว้างก่อนจะชักรูดมังกรตัวเองถูกไถ่ก่อนจะค่อยๆกดเข้าไปทีละน้อย เยว่เยว่หัวขาวโพลนเพราะพึ่งเสร็จสมไปเพราะลิ้นร้ายของท่านอ๋องต้องสะดุ้งเพราะมีสิ่งใหญ่โตกำลังมุดเข้ากุหลาบของนางมาได้แค่ส่วนหัวนางแทบขาดใจทำไมมันใหญ่ขนาดนี้จะเข้าไปในน้องสาวของนางได้จริงๆหรือ"ท่านอ๋องเพคะ" นางเอามือยันหน้าอกแกร่งเอาไว้ก่อน"ท่านพี่เรียก
ตลอดเวลาหนึ่งอาทิตย์มีรถม้ามารับเซียวเย่วเย่วทุกวันในตอนเช้าเพื่อฝึกสาวน้อยที่จะแต่งเข้าตำหนักของท่านอ๋องซงตงหยางในอีกไม่นาน รอเพียงท่านอ๋องเดินทางกลับมาถึงที่อำเภอแห่งนี้ ท่านอ๋องปกครองครอบคลุมไปถึงชายแดนฉีเป่ยที่พึ่งรบจบศึกในตอนนี้นั้นเอง ตลอดเวลาเย่วเย่วก็ตั้งใจเรียนการเดินการนั่งการกินการพูดคุยพิธีการต่างๆที่ชนชั้นสูงต้องมีจนครบสิบวัน นางแทบจะรากเลือดกับสิ่งที่ฝืนกับสิ่งที่ตนเองไม่ถนัดแต่ก็ทำเพื่อหน้าตาของสามีในภายภาคหน้าจะได้ไม่อายใครว่าแต่งชายาบ้านนอกเข้ามาและไม่รู้เรื่องอะไรเลยในตอนค่ำของอีกวันหลังจากที่สามพ่อแม่ลูกกินมื้อค่ำอิ่มแล้วก็เตรียมตัวจะเข้านอนหลังจากที่นั่งย่อยอาหารที่หน้าบ้านเหมือนเช่นทุกวัน จนจะได้เวลาเข้านอนก็ได้ยินเสียงม้าวิ่งมาที่หน้าบ้านพร้อมกับเสียงเคาะประตูหน้าบ้านเสียงดัง"ท่านพ่อท่านแม่ข้ากลับมาแล้วขอรับ" เสียงเรียกที่หน้าบ้านมันเสียงของพี่ชายของนางชัดๆเลย"ท่านพ่อเสียงพี่ใหญ่เจ้าค่ะ" พูดจบนางก็วิ่งลงบ้านไปที่ประตูใหญ่เลยทันที บิดาวิ่งตามลูกสาวไปติดๆหลังจากที่บอกให้ภรรยานั่งรอที่นี้ห้ามวิ่งตามมาสั่งแล้วเขาก็วิ่งตามลูกสาวสาวไปที่หน้าบ้านเหมือนกันเซียวเย่วเย
"เซียวอี้ถังเปิดประตูบ้านเร็วๆเข้า" เสียงลุงผู้ใหญ่บ้านเคาะไม้เรียกเสียงดังลั่นที่ด้านหน้า"ขอรับๆข้ากำลังเปิดอยู่" ส่วนท่านแม่ยืนรอที่หน้าระเบียงบ้านพอเปิดประตูออกก็เห็นคนมากมายเต็มหน้าบ้านของนางไปหมด แม้แต่ท่านนายอำเภอยังมาเลยท่านพ่อกับเย่วเย่วก็ตกใจเหมือนกัน"มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือท่านลุงทำไมคนมาบ้านของข้าเยอะขนาดนี้ละ" เซียวอี้ถังถามด้วยความสงสัยเหมือนกันส่วนเย่วเย่วนั้นนางตั้งสติแล้วรอฟังว่าทุกคนมีอะไรจึงมาหน้าบ้านของนางมากมายขนาดนี้มองคร่าวๆที่ด้านหลังนั้นอีกที่ชาวบ้านเดินตามกันมาจนจะหมดดทั้งหมู่บ้านเลยกระมัง นางคิดและมองดูคนที่แต่งตัวเป็นเหมือนขันทีในวังเหมือนในละครทีวีที่นางดูเป็นประจำทหารอีกเป็นร้อยรวมทั้งรถม้าหลายสิบคันที่จอดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย"มีพระราชโองการจากองค์เหนือหัวถึงคุณหนูเซียวเย่วเย่ว" ทันทีเมื่อคำพูดถึงราชโองการจากผู้เป็นใหญ่เหนือแคว้นเยว่เยว่กับครอบครัวก็รีบคุกเข่ารอรับพระราชโองการทันที ชาวบ้านคนอื่นๆก็รีบยืนสำรวมรอฟัง "เซียวเย่วเย่วรับราชโองการคุณหนูเซียวเย่วเย่วทำความดีส่งเสบียงช่วยเหล่าทหารกล้าที่ไปรบที่ชายแดนกับท่านอ๋องซงตงหยางพระอนุชาของพร
สามพ่อแม่ลูกนั่งคุยกันได้สักพักเสียงร้องของเหยี่ยวที่ท่านอ๋องคอยส่งข่าวก็ร้องขึ้นบริเวณท้องฟ้าเหนือบ้านของนางเสียงดังก่อนที่เจ้าตัวจะบินร่อนลงมาที่หน้าระเบียงบ้านเย่วเย่วร้องตะโกนเสียงดังตั้งแต่ที่ได้ยินเสียงมันร้องตอนยังไม่เห็นตัวลงมาหน้าบ้านด้วยความดีใจ"โอ๊ะเจ้าเหยี่ยวมาแล้วเจ้าค่ะท่านพ่อท่านแม่" ทุกคนยิ้มด้วยความดีใจกับเสียงนกยักษ์ของท่านอ๋องที่มาส่งข่าวหลังจากหายไปนานมันลงมาถึงก็ยกขาให้เย่วเย่วดึงเอาจดหมายที่ผูกมาด้วยเป็นอย่างดีแล้วรับอาหารของตนกินเงียบๆที่ที่ประจำเย่วเย่วเอาจดหมายพี่ชายให้บิดามารดาของนางต่างหากท่านพ่อรีบรับไปอ่านให้ท่านแม่ฟังทันที่'ถึงท่านพ่อท่านแม่น้องเล็กขอโทษที่หายไปนานคงจะทำให้พวกท่านเป็นห่วงตอนนั้นกำลังสู้รบไม่ค่อยมีเวลาตอนนี้ชนะข้าศึกแล้วอีกไม่นานจะได้เดินทางกลับมาบ้านรักและถึงทุกคนขอรับ เซียวอี้เหอ'ท่านแม่ยิ้มแก้มปริพอได้ยินว่าลูกชายกำลังจะกลับมาในอีกไม่ช้า"ท่านพี่ข้าจะไปหาของกินอร่อยๆเอาไว้รอลูกของเราเจ้าค่ะพาข้าไปในห้องเสบียงหน่อยนะเจ้าคะ" นางรีบหันไปหาสามีเพื่อทำอาหารรอบุตรชายที่จากไปนับปี"น้องหญิงอาหารของเร