หน้าหลัก / รักโบราณ / พระชายาจำยอม / งานแต่งที่แสนเงียบเหงา (1)

แชร์

พระชายาจำยอม
พระชายาจำยอม
ผู้แต่ง: เหมียวเฟยฉี

งานแต่งที่แสนเงียบเหงา (1)

ผู้เขียน: เหมียวเฟยฉี
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-12 16:57:23

มือเรียวบางบิดผ้าในอ่างสัมฤทธิ์จนหมาด แล้วเช็ดทำความสะอาดเนื้อตัวมารดาที่นอนไร้สติบนเตียงเก่า รอบห้องเต็มไปด้วยกลิ่นอับชื้น ผนังผุพัง กระทั่งหลังคาก็เริ่มมีรอยรั่ว

ที่นี่คือเรือนท้ายจวนของตระกูลลู่ เป็นสถานที่ไว้ลงโทษคนกระทำความผิด

เสียงประตูเปิดออกอย่างแผ่วเบา ลู่ผิงถิงหันไปมองเห็นบุรุษวัยกลางคนผู้หนึ่งหยุดยืนอยู่หน้าประตู

หัวคิ้วทั้งสองของบุรุษผู้นั้นย่นเข้าหากัน ผ่านไปครู่ใหญ่จึงก้าวขาเข้ามาในห้อง แล้วหยุดฝีเท้าลงตรงกลางห้องที่เก่าและทรุดโทรมแห่งนี้

เขามองไปยังสตรีที่นอนอยู่บนเตียงด้วยสีหน้ายากจะคาดเดาความรู้สึก

ลู่ผิงถิงหรี่ตาลงเล็กน้อย มองบิดาที่หยุดอยู่กับที่ด้วยความรู้สึกหลากหลาย หนึ่งปีมานี้บิดาไม่เคยมาเหยียบเรือนท้ายจวนเลย วันนี้เขามาได้ถือเป็นสัญญาณที่ดี?

ความดีใจทำให้มุมปากของลู่ผิงถิงยกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว นัยน์ตาแวววับทอประกายด้วยความสุข “ท่านพ่อมาเยี่ยมท่านแม่รึเจ้าคะ”

“....” ลู่หงเวินยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย วันนี้ที่เขามาที่นี่ไม่ได้คิดจะมาเยี่ยมเยียนฮูหยิน ที่ประพฤติตัวให้เขาผิดหวังอย่างยิ่งคนนั้น

เมื่อบุตรสาวเอ่ยปากถามคำถามนี้ขึ้นมา เขาก็ยิ่งรู้สึกเสียใจและย้อนคิดไปถึงเหตุการณ์นั้น เหตุใดนางถึงใจร้ายทำร้ายบุตรชายคนเล็กของเขากับฮูหยินรองได้ลงคอ

ลู่หงเวินถอนหายใจเบา ๆ แล้วเอ่ยในสิ่งที่ตนต้องการกับบุตรสาว “ถิงเอ๋อร์อีกสามวันเจ้าต้องเข้าพิธีแต่งงาน” เป็นบุตรชายคนรองลู่หงปินที่มาขอร้องเขาหว่านล้อมบุตรสาว

ความตื่นเต้นดีใจเมื่อครู่ถูกคำพูดของบิดาเหยียบย่ำจมดิน มือที่กำลังเช็ดแขนให้มารดาหยุดชะงัก ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันช้อนตาขึ้นมองบิดา

“ท่านพ่อ…ข้ายังไม่อยากออกเรือนหากข้าไปแล้วใครจะดูแล...”

“แต่ข้าตกลงกับทางนั้นไปแล้ว จะกลับคำคงไม่ได้เจ้าจะขัดคำสั่งข้ารึไง” ไม่รอให้บุตรสาวเอ่ยจบ ลู่หงเวินก็เอ่ยแทรกด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด ลมหายใจของเขาหนักหน่วงจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง ยกมือชี้หน้าบุตรสาวนิ้วสั่นระริก

สายตาของบุตรสาวมองมาอย่างเย็นชา เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจะไม่ยินยอมทำตามโดยง่าย ลู่หงเวินจึงปรับอารมณ์ที่ฉุนเฉียวให้เบาลง ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้ว เขาจึงคิดหาวิธีให้บุตรสาวยอมตอบรับแต่โดยดี และมีทางเดียวที่นางจะยอมทำตามโดยไม่ปริปาก

ลู่หงเวินกระตุกมุมปากเอ่ยด้วยน้ำเสียงของคนที่เหนือกว่า “ถิงเอ๋อร์เจ้าคิดดูให้ดี...หากเจ้าตกลง พ่อจะให้หมอเก่ง ๆ มารักษาอาการป่วยของแม่เจ้า แต่ถ้าเจ้าไม่ตกลงแม่ของเจ้าก็คงถูกส่งให้ทางการ นางป่วยมานานขนาดนี้คงทนการสอบสวนจากทางการไม่ไหวแน่”

ป่วยหรือ? ท่านแม่ถูกพิษท่านพ่อเองก็รู้ นี่จะบีบคั้นกันเกินไปแล้ว คนผู้นี้ยังเป็นบิดาของนางอยู่จริงหรือ

หัวใจของลู่ผิงถิงบีบแน่น ความรู้สึกตอนนี้อัดอั้นจนอยากระเบิดอารมณ์ออกมา ตั้งแต่มารดาล้มป่วย บ่อยครั้งนักที่ถูกบิดาลงโทษโดยไร้ความผิด ซึ่งเขาไม่เคยสอบถามที่มาที่ไป หูเบาเชื่อฮูหยินรองของตนเสมอ

วันนี้หากนางดื้อรั้นคงมิพ้นต้องถูกกักบริเวณอย่างเข้มงวด

ในห้องเงียบเชียบจนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน ดวงตากลมโตปราดมองใบหน้าซีดเซียวของมารดา ด้วยแววตาอ่อนโยน ก่อนจะตวัดสายตาคู่งามมาสบประสานเข้ากับสายตาดุดันของผู้เป็นบิดา

หัวใจลู่ผิงถิงหนาวสะท้านกับแววตาแบบนั้นของบิดา นางถอนสายตากลับอย่างรวดเร็ว มิเช่นนั้นหัวใจนางคงเจ็บปวดไร้ที่สิ้นสุด สายตาที่บิดามองมากดดันข่มขู่ ราวกับกำลังบอกนางว่า ถ้าเจ้าไม่ตอบตกลงอย่าหวังว่าแม่ของเจ้าจะได้มีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกต่อไป

ใช่ แววตาท่านพ่อหมายความว่าอย่างนั้น

ลู่ผิงถิงกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ ปลายมือที่กำผ้าผืนบางเย็นยะเยือกจับจิต หัวใจราวกับมีแผลเหวอะหวะมันเหน็บหนาวราวถูกเกล็ดหิมะกัดกร่อนมานาน

รู้ดีว่าครั้งนี้ไม่อาจปฏิเสธได้ เพราะถ้าไม่ยอมทำตามคำสั่ง สุดท้ายบิดาก็จะไม่ใช้ไม้อ่อนอย่างการพูดคุยแบบนี้อีก

เขาคงจะส่งมารดาไปให้ทางการ และถ้าเป็นเช่นนั้นมารดาอาจจะไม่มีชีวิตรอดกลับมา และไม่มีวันทวงความยุติธรรมให้ตัวเองได้อีก

ดังนั้นต้องยอมตกลงแต่งไปก่อน แล้วค่อยหาทางออกอีกครั้งในวันข้างหน้า เพื่อมารดาแล้วนางยอมแต่ง

สักวันหนึ่งนางจะหาหลักฐานมาคืนความยุติธรรมให้มารดา รวมไปถึงสาเหตุการตายของพี่ชายใหญ่ด้วย

ลู่ผิงถิงยิ้มน้อย ๆ แล้วเอ่ยอย่างถ่อมตน “ท่านพ่อจะรับปากลูกได้รึไม่…ว่าท่านแม่ต้องหายดี”

“ย่อมได้อยู่แล้ว เพียงเจ้ายอมแต่งงาน พ่อรับปากเจ้าได้ทุกอย่าง”

ผ้าสีขาวในมือถูกกำแน่น ลู่ผิงถิงหลุบตาลงต่ำ ซ่อนน้ำตาแห่งความน้อยเนื้อต่ำใจไว้

ก่อนหน้านี้เป็นคุณหนูที่แสนจะสุขสบาย เสื้อผ้าอาภรณ์ถูกประเคนมาให้เลือกก่อนใคร สิ่งใดอยากได้ไม่อยากได้พูดคำเดียว ท่านย่าไม่เคยขัดใจ พี่น้องรักใคร่กลมเกลียวช่วยเหลือกัน ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้ง

ใครจะคิดทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดหลังจากท่านย่าจากโลกนี้ไปไม่ถึงปี พี่ชายใหญ่ก็เสียชีวิต ท่านแม่ยังจะมาถูกพิษอีก

คุณหนูที่แสนจะสุขสบายมาทั้งชีวิต ต้องย้ายมาดูแลมารดาในเรือนที่เก่าซอมซ่อเพียงลำพัง

ลู่ผิงถิงสูดหายใจเข้าลึก สบสายตาข่มขู่ของบิดา แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงมั่นคงแต่สั่นเครือ “เช่นนั้นลูกก็ตกลงเจ้าค่ะ แต่สินเดิมของท่านแม่ ท่านพ่อต้องยกให้เป็นสินเดิมของลูกทั้งหมด”

“ดี...ดีเหลือเกิน เรื่องพวกนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว ของแม่เจ้าก็คือของเจ้า” ลู่หงเวินหัวเราะออกมาเสียงดัง หลังได้คำตอบที่พอใจก็หมุนตัวเดินออกไปจากเรือนหลังเล็กท้ายจวนทันที

เสียงหัวเราะของบิดาดังสะท้อนก้องอยู่ในหู น้ำตาที่ทำท่าจะไหลออกมาถูกเก็บกลืนอัดแน่นฝังใจ

มือบางยื่นไปจับมือมารดามากุมไว้ “ท่านแม่เจ้าคะลูกจะหาหลักฐานมาลบล้างความผิดท่านให้ได้ ลูกมั่นใจว่าท่านไม่ได้สังหารหงอี้” นางออกแรงบีบที่มือมารดาเล็กน้อย

มือเรียวเล็กกุมมือมารดาราวสองก้านธูป จากนั้นก็ทอดถอนใจ นางรอให้มารดาฟื้นมานานถึงหนึ่งปีเต็ม แต่ก็ยังไม่มีวี่แววนั้นให้เห็นเลย

มารดายังนอนนิ่งไร้สติ มีเพียงลมหายใจสม่ำเสมอนั้น ที่ทำให้อุ่นใจ และทำให้รู้ว่ามารดายังอยู่กับนาง

ลู่ผิงถิงห่มผ้าให้มารดาจนมิดคอ ก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะหนังสือริมหน้าต่าง เปิดตำราแพทย์ออกมาอ่าน

อาการของมารดาเกิดจากพิษเหมันต์หลับใหล นางแอบพาหมอชรามาตรวจให้จึงรู้

ทุกคนในจวนบอกว่า ท่านแม่ดื่มยาพิษนี้ฆ่าตัวตายแต่นางไม่เชื่อ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พระชายาจำยอม   ตอนพิเศษ 3

    ลู่ผิงถิงคร้านจะสนใจเขาตอนนี้ตานางลืมแทบไม่ขึ้นแล้ว “หม่อมฉันง่วงแล้วเพคะ” จมูกโด่งของคนด้านข้างซุกไซร้ซอกคอทว่านางไม่ไหวแล้วจริง ๆ จึงหลับไปอย่างไม่รู้ตัวมู่เซียวเซ่อจุมพิตขมับภรรยาเบา ๆ จากนั้นก็ออกจากห้องไม่เช่นนั้นเขาคงก่อกวนนางจนตื่นแน่ เขาตรงไปยังห้องทรงอักษรเพื่อจัดการฎีกาที่เหลือ เกือบสว่างเขาถึงได้กลับมานอนกอดภรรยาเช้าวันต่อมาฮ่องเต้หนุ่มมู่เซียวเซ่อออกว่าราชการและสั่งการให้ลู่หงปินที่ถูกเลื่อนขั้นเป็นมหาเสนาบดี ไปจัดการช่วยเหลือชาวเมืองทางเหนือที่ถูกน้ำป่าถล่มเสียหายหลายหมู่บ้าน จัดการแจกเสบียงอาหาร เครื่องนุ่งห่มให้ชาวบ้าน ก่อสร้างบ้านเรือนที่เสียหาย และได้วางแผนเปิดการค้ากับต่างแคว้นเพื่อฟื้นฟูท้องพระคลังที่ว่างเปล่าฮ่องเต้ทรงห่วงใยปวงประชา ทรงงานหนักทุกวันเพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี จวบจนเวลาสามปีทุกอย่างที่เฝ้าตั้งใจลงมือทำก็ผลิดอกออกผล ประชาชนอยู่ดีกินดี บ้านเมืองมั่งคั่ง ท้องพระคลังไม่ว่างเปล่าอีกต่อไป“มำหม่ำ”เสียงบุตรชายร้องกินนมอยู่ในอ้อมกอดมารดา จนคนเป็นพ่อแบบเขาบางครั้งก็โมโห ที่ภรรยาสนใจแต่ลูกน้อยไม่สนใจเขาบ

  • พระชายาจำยอม   ตอนพิเศษ 2

    มู่เซียวเซ่อลืมตาขึ้น ถูกยั่วยวนเพียงนี้ใครจะทนได้ อดกลั้นอยู่ตั้งนานเพราะกลัวนางเหนื่อย ได้ยินนางบอกไม่เหนื่อยใครบ้างไม่ยินดี เจ้ามังกรที่เขากำลังกล่อมหลับ จะได้รับการปลอบประโลมแล้ว ดีใจสุด ๆดวงตาดอกท้อมองภรรยาหวานเยิ้ม จากนั้นจับมือของนางถอดสายคาดเอวรวมไปถึงถอดอาภรณ์ของเขาไปพร้อม ๆ กันลู่ผิงถิงเคยปรนนิบัติเขามาแล้วยามที่นางมีฤดูวันนั้น วันนี้นางจึงไม่เอียงอายเท่าไร ลิ้นเล็กเล็มเลียจุดอ่อนไหวของเขา เม็ดบัวทั้งสองข้างเปียกชื้นไปด้วยน้ำลายของนางมู่เซียวเซ่อครางในลำคออย่างเสียวซ่าน เขาแทบคลั่งที่ถูกกระตุ้น และตอนนี้เจ้ามังกรจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ อยู่แล้ว “อ้าส์ ถิงเอ๋อร์เด็กดี ครอบครองมันให้พี่ที”ลู่ผิงถิงยิ้มมุมปากจากนั้นก็กรีดนิ้วไปบนหน้าท้องเขาไล่ไปหามังกรตัวเขื่อง จับรูดขึ้นลงเชื่องช้าแล้วหยุดมือลงกะทันหัน เห็นคิ้วของสามีเลิกขึ้นก็ยิ่งสุขใจ นางอยากกลั่นแกล้งที่เขาทิ้งให้นางรอคอยเพียงลำพังเมื่อครู่ “หม่อมฉันเริ่มเหนื่อยแล้ว นอนกันเถิดเพคะ”มู่เซียวเซ่อจับสตรีที่ยั่วยวนเมื่อครู่นอนลงจากนั้นก็จุมพิตดูดดื่มมาถึงขั้นนี้แล้วใครจะนอน เขาขบกัด

  • พระชายาจำยอม   ตอนพิเศษ 1

    มู่เซียวเซ่อในชุดสีแดงมงคลนั่งสง่าบนหลังม้า อาชาคู่กายที่ปราดเปรื่องในสนามรบ ถูกผูกผ้าสีแดงจนมันพ่นลมหายใจออกมาบ่อยครั้ง เขาได้แต่ปลอบมันด้วยการลูบขนบริเวณคอและเอ่ยติดสินบนมันแผ่วเบา “เสร็จงานจะให้หญ้าหวานของโปรดเจ้ามากหน่อย อย่างอแง” ด้านหลังของเขาเป็นขบวนสินสอดที่ตั้งใจนำมามอบให้ภรรยาชาวบ้านแถบนั้นมามุงดูด้วยความริษยา แสงระยิบระยับที่สะท้อนสายตา เป็นจำพวกเงินทองและเครื่องประดับที่พูนขึ้นมาจากหีบ และที่ปิดฝาไว้อีกมากมายคงจะเป็นผ้าไหมเนื้อดี รวมไปถึงโฉนดที่ดินและอื่น ๆ อีกมากมายชินอ๋องเสเพลเป็นเจ้าของหอเฟิ่งหวงใครก็ต่างเหลือเชื่อ สิ่งที่ทำให้ชาวบ้านเหลือเชื่อยิ่งกว่าคือ เขาแสร้งเสเพลตบตาผู้คน ทว่าทำได้เหมือนจริงราวกับเป็นตัวเขาเองด้านในจวนลู่ บิดามารดาและพี่รองของลู่ผิงถิงอยู่กันพร้อมหน้า เวินหลินช่วยบุตรสาวประทินโฉม ส่วนลู่หงเวินนั่งยิ้มมองภรรยาและบุตร ไม่กล้าพูดคุยกับภรรยา“พระชายา ท่านอ๋องมาแล้วเจ้าค่ะ สินสอดยาวมากน่าจะสองร้อยหาบได้” อาหลี่วิ่งหน้าตาตื่นมาบอก นางตื่นเต้นเมื่อเห็นขบวนรับเจ้าสาวของท่านอ๋อง“ถิงเอ๋อร์” เวินหลินจับมือบุตรสาวอยากร

  • พระชายาจำยอม   บทส่งท้าย เสแสร้งอีกแล้ว (2)

    ลู่ผิงถิงเริ่มโมโห นางร้องไห้ใจแทบขาดทว่าเป็นเลือดไก่ “แล้วที่ท่านหายใจรวยรินเล่า”“ข้าคงเหนื่อยมาก” มู่เซียวเซ่อเริ่มใช้จมูกซุกซน ซอกซอนไปตามลำคอระหง เรียวลิ้นดูดดึงเลาะเล็มตามปลายคางจนมาถึงริมฝีปาก“หยุด”มู่เซียวเซ่อหยุดชะงักตามคำสั่งจากนั้นเลิกคิ้วมองใบหน้าหวานอย่างสงสัย“ท่านป่วยอยู่”“ข้าหายแล้ว” ไม่รอให้อีกฝ่ายปฏิเสธอีก มู่เซียวเซ่อก็จู่โจมจุมพิตเร่าร้อน ปลดเปลื้องอาภรณ์คนตัวเล็กออกอย่างรวดเร็ว นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้ปลดปล่อยฝ่ามือลูบไล้เรือนร่างระหง เรียวลิ้นลากไล้ไปทั่วทุกซอกมุมลู่ผิงถิงอ่อนระทวยไปกับการโลมเล้าของเขา ทว่านางยังไม่ลืมชีวิตน้อย ๆ ในท้อง “อ้าส์...ท่านอ๋องหม่อมฉันตั้งครรภ์อยู่”“ข้าปรึกษาหมอหลวงแล้วว่าได้” มู่เซียวเซ่อกระซิบที่ข้างหูเสียงกระเส่า พร้อมงับติ่งหูเบา ๆ“นี่หมายความว่าไง ท่านไม่ได้ป่วยจริงหรือ” หูของมู่เซียวเซ่อถูกพระชายาดึงราวกับหนังยางยืด“โอ๊ย..จะ..เจ็บ...ถิงเอ๋อร์ปล่อยก่อน ข้าป่วยจริง ๆ นะแต่ดีขึ้นมากแล้ว” สายตาของมู่เซียวเซ่อล่อกแล่กขณะเอ่ยลู่ผิงถิงหรี่ตามองสามีคร

  • พระชายาจำยอม   บทส่งท้าย เสแสร้งอีกแล้ว (1)

    ได้ยินเช่นนั้นใจของลู่ผิงถิงก็ราวกับหล่นไปในเหวลึก ถึงกับดูใจครั้งสุดท้ายเลยหรืออาจเพราะทำงานจนลืมกินข้าว หรืออาจเพราะอ่านฎีกาไม่ยอมพักผ่อน ถึงได้เป็นหนักขนาดนี้ แม้ในใจยังไม่หายโกรธ แต่ความเป็นห่วงทำให้ลู่ผิงถิงรีบร้อนออกจากจวนอ๋องอย่างรวดเร็วบนเตียงกว้างสามีนอนใบหน้าซีดเซียว ริมฝีบางของเขาลอกเป็นขุย “ท่านอ๋อง เหตุใดเป็นอย่างนี้ไปได้” ลู่ผิงถิงน้ำตาไหลเมื่อเห็นสภาพของสามี“ถิงเอ๋อร์ ข้าปวดใจมากที่ต้องโกหกเจ้า” ใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากไอ เลือดสีดำจุดเล็กติดมากับผ้าเช็ดหน้า “วันนั้นเพราะเสด็จพี่ต้องการสังหารข้า ถ้าข้าไม่ตายเจ้าจะไม่ปลอดภัย” พูดไปไอไป“พอแล้วเพคะ ไม่ต้องพูดแล้ว” ลู่ผิงถิงจับมือสามีไว้ หัวใจบีบแน่นที่เห็นสภาพอิดโรยของเขาหมอหลวงนำโอสถเข้ามา “ท่านอ๋องดื่มยาก่อนพ่ะย่ะค่ะ”“ข้าทำเอง เจ้าออกไปเถิด” ลู่ผิงถิงรับยามาเป่าแล้วป้อนให้สามีสายตารู้สึกผิดจับจ้องผู้เป็นภรรยา “ข้าไม่อยากโกหกเจ้าสักนิด ที่กระท่อมหลังนั้นคนของเสด็จพี่จับตามองเราตลอดเวลา ข้าหาโอกาสสารภาพกับเจ้าไม่ได้ ยกโทษให้ข้านะถิงเอ๋อร์”ลู่ผิงถิงเม้มริมฝีปากบาง

  • พระชายาจำยอม   ตามง้อภรรยา (2)

    “ฉึก” ปลายดาบแทงแผ่นหลังทะลุหัวใจของฮ่องเต้หนุ่มมู่เซียวเซ่อดีดลูกโลหะเหล็กก้อนกลมใส่มือผู้เป็นพี่ชาย กระบี่หล่นจากมือตกลงพื้น เขาคว้าข้อมือบางดึงเข้ามาในอ้อมกอดอย่างปลอดภัยลู่ไป๋อิงใช้แรงเฮือกสุดท้ายแทงชายหนุ่มที่ตัวเองรักแล้วกอดเขาจากด้านหลังล้มลงพื้นไปด้วยกัน “ไม่ได้ร่วมผูกผม ก็ร่วมลงหลุมไปด้วยกัน” พูดแผ่วเบากระซิบที่ข้างหูฝ่าบาททำผิดมามากมายได้ทำอะไรเพื่อพี่สาวเป็นครั้งสุดท้ายก็ยังดี ถึงแม้จะทดแทนความผิดที่ผ่านมาไม่ได้ก็ตาม สำหรับพี่ชายใหญ่นางจะตามไปชดใช้ที่ปรโลกไม่นานคนของมู่เซียวเซ่อก็ควบคุมคนของมู่เซียวเหิงได้ณ จวนอ๋องมู่เซียวเซ่อตามง้อภรรยามาสามวันแล้วทว่าไม่เป็นผล นางไม่ยอมมองหน้า ไม่คุยด้วย เสด็จพ่อก็จะให้ขึ้นครองบัลลังก์อย่างเดียว ไม่รู้ถึงความลำบากใจของบุตรชายคนนี้บ้างเลย“เซียวเซ่อ ข้ามาแล้ว” อู่เหยียนเอ่ยทักทายสหาย ความจริงเขาเข้าเมืองมาหลายวันแล้ว แต่พักอยู่ที่หอเฟิ่งหวง ไม่เข้าท้องพระโรงกับพวกจ้าวเฉา ใครจะเอาชีวิตไปเสี่ยงตายเล่า เขาเป็นแค่หมอคนหนึ่ง ไม่ได้มีวิ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status