หน้าหลัก / รักโบราณ / พระชายาจำยอม / งานแต่งที่แสนเงียบเหงา (2)

แชร์

งานแต่งที่แสนเงียบเหงา (2)

ผู้เขียน: เหมียวเฟยฉี
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-12 16:58:16

พยายามค้นคว้าวิธีแก้พิษในตำราเล่มแล้วเล่มเล่าช่วยมารดา ทว่ากลับคว้าน้ำเหลวมาตลอด

วันถัดมามีกงกงจากในวังถือราชโองการมาประกาศก้องทั่วจวนตระกูลลู่ ทุกคนในเรือนถูกเรียกมาฟังราชโองการ

“ลู่ผิงถิงรับราชโองการ”

ตระกูลลู่ทั้งหมดคุกเข่าลงพื้น ฟังกงกงกล่าวราชโองการ “บุตรสาวตระกูลลู่เพียบพร้อมนิสัยดี เหมาะสมคู่ควร เราขอพระราชทานสมรสให้แก่ ซินอ๋องเซียวเซ่ออนุชาของเรากับลู่ผิงถิงบุตรสาวคนโตตระกูลลู่ อีกสองวันถัดไปรับเจ้าสาวเข้าจวนอ๋อง จัดพิธีมงคล” กงกงยื่นราชโองการให้แก่ลู่ผิงถิง

“หม่อมฉันลู่ผิงถิงขอบพระทัยฝ่าบาท” ลู่ผิงถิงมองราชโองการในมือนิ่งเงียบ ราชโองการนี้ตอกย้ำนางว่าเรื่องแต่งงานไม่อาจหนีพ้น

แต่ที่น่าประหลาดใจ แค่เอามารดามาขู่ก็มากพอแล้วเหตุใดยังมีราชโองการมาอีก หรือว่า ชินอ๋องเองก็ไม่เต็มใจแต่งกับนาง

วันเวลาผ่านไปจนมาถึงวันมงคล ลู่ผิงถิงนั่งอยู่หน้าคันฉ่อง ชุดสีแดงมงคลขับเน้นให้ร่างอรชรงดงามราวภาพวาด

ผิวเนียนละเอียดขาวผุดผ่อง พวงแก้มอมชมพูระเรื่อ ใบหน้าได้รูปปากนิดจมูกหน่อย สมส่วนไปทุกที่รวมไปถึงทรวดทรงองค์เอว

เสี่ยวซีจัดแต่งทรงผมให้คุณหนู เมื่อสำรวจความเรียบร้อยถึงกับตกตะลึงตาค้าง การประทินโฉมแต่งนิดแต้มหน่อยทำให้คุณหนูดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น อีกทั้งยังงามสง่าราวนางฟ้านางสวรรค์ “คุณหนูงดงามมากเจ้าค่ะ”

หลังจากเสี่ยวซีกล่าวคำนี้ออกมา น้ำตาของนางก็คลอหน่วย คุณหนูของนางกำลังฝืนยิ้มอยู่ หลังจากพ้นวัยปักปิ่นมาสามปี ยังไม่ออกเรือน เพราะต้องดูแลมารดาที่นอนติดเตียงอยู่หนึ่งปี และก่อนหน้านั้นมีฮูหยินผู้เฒ่าลู่คอยให้ท้าย ไม่อยากแต่งก็คือไม่แต่ง วันนี้คุณหนูรู้ความมากกว่าแต่ก่อนเยอะ แต่รู้ความแบบนี้ทรมานจิตใจเสี่ยวซีเหลือเกิน

ภาวนาให้ท่านอ๋องคนนั้นดีกับคุณหนูมากหน่อย น่าเสียดายที่ไม่สามารถช่วยอะไรคุณหนูได้เลย “ให้บ่าวติดตามไปดูแลคุณหนูดีหรือไม่เจ้าคะ”

ลู่ผิงถิงยื่นมือไปจับมือเสี่ยวซีแล้วบีบเบา ๆ “ไม่ต้อง...ข้าไม่เป็นไรสบายมากดูสิข้ามีความสุข” ลู่ผิงถิงแสร้งยิ้มสดใสให้เสี่ยวซี “หากพี่ไปกับข้าใครจะดูแลท่านแม่เล่า...พี่เสี่ยวซีก็ดูแลตัวเองให้ดีด้วย ไว้ข้าจะกลับมาหาบ่อย ๆ”

“เจ้าค่ะ” เสี่ยวซีเช็ดน้ำตาที่หยดลงมาบนแก้ม นางสืบข่าวท่านอ๋องผู้นั้นมาแล้ว รู้สึกเป็นห่วงคุณหนูเป็นอย่างมาก

ท่านอ๋องที่ถูกริบอำนาจเสเพลไปวัน ๆ จะทำให้คุณหนูมีความสุขได้เช่นไรกัน

อีกอย่างงานมงคลวันนี้ ยังจะใช่งานมงคลอยู่หรือ เงียบเหงาเสียจนขนาดนางไม่ใช่เจ้าสาวยังน้อยใจ แล้วคุณหนูของนางเล่าจะรู้สึกอย่างไร เสี่ยวซีเก็บกลืนคำพูดแล้วเดินออกจากห้องไป

นอกห้องไม่มีการเคลื่อนไหวของขบวนเจ้าบ่าว ไม่มีดนตรี ไม่มีงานเลี้ยง ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นยินดี

ลู่ผิงถิงรู้การแต่งงานครั้งนี้ คงมีผลประโยชน์บางอย่างให้ตระกูลลู่ไม่มากก็น้อย ไม่เช่นนั้นบิดาคงไม่ลงทุนบังคับขู่เข็ญนางเพียงนี้

“คุณหนูทานเสียหน่อยเถิดเจ้าค่ะ ไม่รู้ต้องรออีกนานเท่าใด มิสู้คุณหนูพักผ่อนเสียหน่อยดีหรือไม่” เสี่ยวซีถือถาดขนมเข้ามา อดไม่ได้ที่จะบ่นเมื่อเห็นท่าทีเหนื่อยล้าของคุณหนู

“ด้านนอกมีแขกรึไม่”

เสี่ยวซีเม้มปากและส่ายหน้าไปมาแทนคำตอบ

“แล้วท่านพ่อเล่า ไม่มาส่งข้าหรือ”

“นายท่านออกไปนอกเมืองตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่กลับมาเลยเจ้าค่ะ” เสี่ยวซีเสียใจมากที่นายท่านไม่สนใจงานมงคลของคุณหนู “ร้านผ้าที่นอกเมืองมีปัญหานายท่านต้องไปจัดการด้วยตัวเอง “คุณหนูเสียใจรึไม่เจ้าคะ”

“ไม่เป็นไร ข้าจะไปหาท่านแม่ พี่เสี่ยวซีมีสิ่งใดทำก็ไปทำเถิด” ไม่เสียใจอยู่ได้หรือ ไม่มีใครอยู่ร่วมงานมงคลของนางสักคน

“เจ้าค่ะ”

ลู่ผิงถิงเดินไปยังห้องของมารดา ทว่ากลับมีคนมาขวางนางไว้ไม่ให้ก้าวไปข้างหน้าได้

“ท่านพี่งดงามเพียงนี้ น่าเสียดายที่เลือกชีวิตคู่ที่ดีให้ตัวเองไม่ได้” ลู่ไป๋อิงยิ้มเยาะ นางใช้นิ้วกรีดกรายบนอาภรณ์ของพี่สาว “การแต่งงานของท่าน เป็นสะพานให้พี่ชายข้าไต่ขึ้นไปในราชสำนัก พี่สาวท่านรู้หรือไม่คนที่ท่านต้องแต่งงานด้วย ไม่ต่างจากขยะชิ้นหนึ่ง...เหมือนท่าน มีเพียงตำแหน่งจอมปลอม คนเสเพลเช่นนั้นคู่ควรกับท่านเหลือเกิน”

ลู่ผิงถิงจับจ้องลู่ไป๋อิงนิ่ง ๆ มองโดยไม่กล่าวคำใดตอบโต้อยู่แบบนั้น

ท่านพ่อบังคับให้นางแต่งงาน เพียงเพราะหน้าที่การงานของลู่หงปิน

ตระกูลลู่เป็นตระกูลคหบดี ไม่เคยมีลูกหลานรุ่นไหนได้รับใช้ราชสำนัก บิดาจึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก จงใจบีบคั้นนางทุกหนทางเพื่อสิ่งนี้สินะ

ลู่ไป๋อิงเย็นวูบกับสายตานั้นของลู่ผิงถิง หนึ่งปีมานี้ลู่ผิงถิงมองนางและท่านแม่ด้วยสายตาเช่นนี้มาตลอด ถึงจะรู้สึกเย็นยะเยือกแต่ก็ไร้อันตรายมิใช่หรือ คิดได้ดังนั้นนางจึงยิ้มแล้วเอ่ย

“พี่หญิงนี่ก็ยามเซินแล้ว ท่านแม่ให้ข้ามาตามท่านไปที่เรือนใหญ่ ส่วนนี่ยาของท่านแม่ใหญ่” ลู่ไป๋อิงปรายตามองสาวใช้คู่กายนามว่าเถาเถา ให้ก้าวมาเปิดถ้วยยาให้ลู่ผิงถิงดู

“เถาเถาเจ้านำไปให้แม่ใหญ่”

“ไม่ต้อง เอามานี่” ลู่ผิงถิงยื่นมือไปรอรับถ้วยยา

เถาเถาหันไปมองนายของตน เมื่อเห็นอีกฝ่ายพยักหน้าให้ก็ยื่นถ้วยยาให้กับลู่ผิงถิง

“ข้าจะเข้าไปป้อนยาท่านแม่เสียก่อน พวกเจ้ากลับไปก่อนเถิด”

“พี่สาวให้ผู้ใหญ่รอนานคงจะไม่งามกระมั้ง เรียกเสี่ยวซีมา แล้วท่านก็รีบไปกับข้า”

ในห้องโถงใหญ่ของเรือนตระกูลลู่ ฮูหยินรองเจียงเม่ยนั่งด้วยท่าทีสูงส่ง “ถิงเอ๋อร์ มาแล้ว นี่พ่อบ้านจากจวนอ๋อง เขามารับเจ้าเข้าจวน” น้ำเสียงของนางอ่อนหวานเมตตา

ลู่ผิงถิงยอบกายคำนับฮูหยินรองเล็กน้อย แล้วหันไปยิ้มน้อย ๆ ให้พ่อบ้านแห่งจวนอ๋อง

“ท่านอ๋องมอบหมายให้กระหม่อมมารับพระชายา” พ่อบ้านโค้งกายคำนับและผายมือเชิญลู่ผิงถิง “กระหม่อมพ่อบ้านจาง เชิญพระชายาขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวเข้าจวนอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”

ลู่ผิงถิงเดินไปตามคำเชิญ นางเหลียวหลังมองจวนตระกูลลู่ไม่มีผู้ใดแบกนางขึ้นเกี้ยว แม้กระทั่งยืนส่งนางขึ้นเกี้ยวก็ไม่มี ไม่มีสักคน

..........................................

โอ๊ย!!! ไม่ชอบน้องสาวของลูกเลย ปากดี เป็นแม่หน่อยนะจะตบให้เลือดกบปาก หยอก ๆ จงจารน้องลู่

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พระชายาจำยอม   ตอนพิเศษ 3

    ลู่ผิงถิงคร้านจะสนใจเขาตอนนี้ตานางลืมแทบไม่ขึ้นแล้ว “หม่อมฉันง่วงแล้วเพคะ” จมูกโด่งของคนด้านข้างซุกไซร้ซอกคอทว่านางไม่ไหวแล้วจริง ๆ จึงหลับไปอย่างไม่รู้ตัวมู่เซียวเซ่อจุมพิตขมับภรรยาเบา ๆ จากนั้นก็ออกจากห้องไม่เช่นนั้นเขาคงก่อกวนนางจนตื่นแน่ เขาตรงไปยังห้องทรงอักษรเพื่อจัดการฎีกาที่เหลือ เกือบสว่างเขาถึงได้กลับมานอนกอดภรรยาเช้าวันต่อมาฮ่องเต้หนุ่มมู่เซียวเซ่อออกว่าราชการและสั่งการให้ลู่หงปินที่ถูกเลื่อนขั้นเป็นมหาเสนาบดี ไปจัดการช่วยเหลือชาวเมืองทางเหนือที่ถูกน้ำป่าถล่มเสียหายหลายหมู่บ้าน จัดการแจกเสบียงอาหาร เครื่องนุ่งห่มให้ชาวบ้าน ก่อสร้างบ้านเรือนที่เสียหาย และได้วางแผนเปิดการค้ากับต่างแคว้นเพื่อฟื้นฟูท้องพระคลังที่ว่างเปล่าฮ่องเต้ทรงห่วงใยปวงประชา ทรงงานหนักทุกวันเพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี จวบจนเวลาสามปีทุกอย่างที่เฝ้าตั้งใจลงมือทำก็ผลิดอกออกผล ประชาชนอยู่ดีกินดี บ้านเมืองมั่งคั่ง ท้องพระคลังไม่ว่างเปล่าอีกต่อไป“มำหม่ำ”เสียงบุตรชายร้องกินนมอยู่ในอ้อมกอดมารดา จนคนเป็นพ่อแบบเขาบางครั้งก็โมโห ที่ภรรยาสนใจแต่ลูกน้อยไม่สนใจเขาบ

  • พระชายาจำยอม   ตอนพิเศษ 2

    มู่เซียวเซ่อลืมตาขึ้น ถูกยั่วยวนเพียงนี้ใครจะทนได้ อดกลั้นอยู่ตั้งนานเพราะกลัวนางเหนื่อย ได้ยินนางบอกไม่เหนื่อยใครบ้างไม่ยินดี เจ้ามังกรที่เขากำลังกล่อมหลับ จะได้รับการปลอบประโลมแล้ว ดีใจสุด ๆดวงตาดอกท้อมองภรรยาหวานเยิ้ม จากนั้นจับมือของนางถอดสายคาดเอวรวมไปถึงถอดอาภรณ์ของเขาไปพร้อม ๆ กันลู่ผิงถิงเคยปรนนิบัติเขามาแล้วยามที่นางมีฤดูวันนั้น วันนี้นางจึงไม่เอียงอายเท่าไร ลิ้นเล็กเล็มเลียจุดอ่อนไหวของเขา เม็ดบัวทั้งสองข้างเปียกชื้นไปด้วยน้ำลายของนางมู่เซียวเซ่อครางในลำคออย่างเสียวซ่าน เขาแทบคลั่งที่ถูกกระตุ้น และตอนนี้เจ้ามังกรจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ อยู่แล้ว “อ้าส์ ถิงเอ๋อร์เด็กดี ครอบครองมันให้พี่ที”ลู่ผิงถิงยิ้มมุมปากจากนั้นก็กรีดนิ้วไปบนหน้าท้องเขาไล่ไปหามังกรตัวเขื่อง จับรูดขึ้นลงเชื่องช้าแล้วหยุดมือลงกะทันหัน เห็นคิ้วของสามีเลิกขึ้นก็ยิ่งสุขใจ นางอยากกลั่นแกล้งที่เขาทิ้งให้นางรอคอยเพียงลำพังเมื่อครู่ “หม่อมฉันเริ่มเหนื่อยแล้ว นอนกันเถิดเพคะ”มู่เซียวเซ่อจับสตรีที่ยั่วยวนเมื่อครู่นอนลงจากนั้นก็จุมพิตดูดดื่มมาถึงขั้นนี้แล้วใครจะนอน เขาขบกัด

  • พระชายาจำยอม   ตอนพิเศษ 1

    มู่เซียวเซ่อในชุดสีแดงมงคลนั่งสง่าบนหลังม้า อาชาคู่กายที่ปราดเปรื่องในสนามรบ ถูกผูกผ้าสีแดงจนมันพ่นลมหายใจออกมาบ่อยครั้ง เขาได้แต่ปลอบมันด้วยการลูบขนบริเวณคอและเอ่ยติดสินบนมันแผ่วเบา “เสร็จงานจะให้หญ้าหวานของโปรดเจ้ามากหน่อย อย่างอแง” ด้านหลังของเขาเป็นขบวนสินสอดที่ตั้งใจนำมามอบให้ภรรยาชาวบ้านแถบนั้นมามุงดูด้วยความริษยา แสงระยิบระยับที่สะท้อนสายตา เป็นจำพวกเงินทองและเครื่องประดับที่พูนขึ้นมาจากหีบ และที่ปิดฝาไว้อีกมากมายคงจะเป็นผ้าไหมเนื้อดี รวมไปถึงโฉนดที่ดินและอื่น ๆ อีกมากมายชินอ๋องเสเพลเป็นเจ้าของหอเฟิ่งหวงใครก็ต่างเหลือเชื่อ สิ่งที่ทำให้ชาวบ้านเหลือเชื่อยิ่งกว่าคือ เขาแสร้งเสเพลตบตาผู้คน ทว่าทำได้เหมือนจริงราวกับเป็นตัวเขาเองด้านในจวนลู่ บิดามารดาและพี่รองของลู่ผิงถิงอยู่กันพร้อมหน้า เวินหลินช่วยบุตรสาวประทินโฉม ส่วนลู่หงเวินนั่งยิ้มมองภรรยาและบุตร ไม่กล้าพูดคุยกับภรรยา“พระชายา ท่านอ๋องมาแล้วเจ้าค่ะ สินสอดยาวมากน่าจะสองร้อยหาบได้” อาหลี่วิ่งหน้าตาตื่นมาบอก นางตื่นเต้นเมื่อเห็นขบวนรับเจ้าสาวของท่านอ๋อง“ถิงเอ๋อร์” เวินหลินจับมือบุตรสาวอยากร

  • พระชายาจำยอม   บทส่งท้าย เสแสร้งอีกแล้ว (2)

    ลู่ผิงถิงเริ่มโมโห นางร้องไห้ใจแทบขาดทว่าเป็นเลือดไก่ “แล้วที่ท่านหายใจรวยรินเล่า”“ข้าคงเหนื่อยมาก” มู่เซียวเซ่อเริ่มใช้จมูกซุกซน ซอกซอนไปตามลำคอระหง เรียวลิ้นดูดดึงเลาะเล็มตามปลายคางจนมาถึงริมฝีปาก“หยุด”มู่เซียวเซ่อหยุดชะงักตามคำสั่งจากนั้นเลิกคิ้วมองใบหน้าหวานอย่างสงสัย“ท่านป่วยอยู่”“ข้าหายแล้ว” ไม่รอให้อีกฝ่ายปฏิเสธอีก มู่เซียวเซ่อก็จู่โจมจุมพิตเร่าร้อน ปลดเปลื้องอาภรณ์คนตัวเล็กออกอย่างรวดเร็ว นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้ปลดปล่อยฝ่ามือลูบไล้เรือนร่างระหง เรียวลิ้นลากไล้ไปทั่วทุกซอกมุมลู่ผิงถิงอ่อนระทวยไปกับการโลมเล้าของเขา ทว่านางยังไม่ลืมชีวิตน้อย ๆ ในท้อง “อ้าส์...ท่านอ๋องหม่อมฉันตั้งครรภ์อยู่”“ข้าปรึกษาหมอหลวงแล้วว่าได้” มู่เซียวเซ่อกระซิบที่ข้างหูเสียงกระเส่า พร้อมงับติ่งหูเบา ๆ“นี่หมายความว่าไง ท่านไม่ได้ป่วยจริงหรือ” หูของมู่เซียวเซ่อถูกพระชายาดึงราวกับหนังยางยืด“โอ๊ย..จะ..เจ็บ...ถิงเอ๋อร์ปล่อยก่อน ข้าป่วยจริง ๆ นะแต่ดีขึ้นมากแล้ว” สายตาของมู่เซียวเซ่อล่อกแล่กขณะเอ่ยลู่ผิงถิงหรี่ตามองสามีคร

  • พระชายาจำยอม   บทส่งท้าย เสแสร้งอีกแล้ว (1)

    ได้ยินเช่นนั้นใจของลู่ผิงถิงก็ราวกับหล่นไปในเหวลึก ถึงกับดูใจครั้งสุดท้ายเลยหรืออาจเพราะทำงานจนลืมกินข้าว หรืออาจเพราะอ่านฎีกาไม่ยอมพักผ่อน ถึงได้เป็นหนักขนาดนี้ แม้ในใจยังไม่หายโกรธ แต่ความเป็นห่วงทำให้ลู่ผิงถิงรีบร้อนออกจากจวนอ๋องอย่างรวดเร็วบนเตียงกว้างสามีนอนใบหน้าซีดเซียว ริมฝีบางของเขาลอกเป็นขุย “ท่านอ๋อง เหตุใดเป็นอย่างนี้ไปได้” ลู่ผิงถิงน้ำตาไหลเมื่อเห็นสภาพของสามี“ถิงเอ๋อร์ ข้าปวดใจมากที่ต้องโกหกเจ้า” ใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากไอ เลือดสีดำจุดเล็กติดมากับผ้าเช็ดหน้า “วันนั้นเพราะเสด็จพี่ต้องการสังหารข้า ถ้าข้าไม่ตายเจ้าจะไม่ปลอดภัย” พูดไปไอไป“พอแล้วเพคะ ไม่ต้องพูดแล้ว” ลู่ผิงถิงจับมือสามีไว้ หัวใจบีบแน่นที่เห็นสภาพอิดโรยของเขาหมอหลวงนำโอสถเข้ามา “ท่านอ๋องดื่มยาก่อนพ่ะย่ะค่ะ”“ข้าทำเอง เจ้าออกไปเถิด” ลู่ผิงถิงรับยามาเป่าแล้วป้อนให้สามีสายตารู้สึกผิดจับจ้องผู้เป็นภรรยา “ข้าไม่อยากโกหกเจ้าสักนิด ที่กระท่อมหลังนั้นคนของเสด็จพี่จับตามองเราตลอดเวลา ข้าหาโอกาสสารภาพกับเจ้าไม่ได้ ยกโทษให้ข้านะถิงเอ๋อร์”ลู่ผิงถิงเม้มริมฝีปากบาง

  • พระชายาจำยอม   ตามง้อภรรยา (2)

    “ฉึก” ปลายดาบแทงแผ่นหลังทะลุหัวใจของฮ่องเต้หนุ่มมู่เซียวเซ่อดีดลูกโลหะเหล็กก้อนกลมใส่มือผู้เป็นพี่ชาย กระบี่หล่นจากมือตกลงพื้น เขาคว้าข้อมือบางดึงเข้ามาในอ้อมกอดอย่างปลอดภัยลู่ไป๋อิงใช้แรงเฮือกสุดท้ายแทงชายหนุ่มที่ตัวเองรักแล้วกอดเขาจากด้านหลังล้มลงพื้นไปด้วยกัน “ไม่ได้ร่วมผูกผม ก็ร่วมลงหลุมไปด้วยกัน” พูดแผ่วเบากระซิบที่ข้างหูฝ่าบาททำผิดมามากมายได้ทำอะไรเพื่อพี่สาวเป็นครั้งสุดท้ายก็ยังดี ถึงแม้จะทดแทนความผิดที่ผ่านมาไม่ได้ก็ตาม สำหรับพี่ชายใหญ่นางจะตามไปชดใช้ที่ปรโลกไม่นานคนของมู่เซียวเซ่อก็ควบคุมคนของมู่เซียวเหิงได้ณ จวนอ๋องมู่เซียวเซ่อตามง้อภรรยามาสามวันแล้วทว่าไม่เป็นผล นางไม่ยอมมองหน้า ไม่คุยด้วย เสด็จพ่อก็จะให้ขึ้นครองบัลลังก์อย่างเดียว ไม่รู้ถึงความลำบากใจของบุตรชายคนนี้บ้างเลย“เซียวเซ่อ ข้ามาแล้ว” อู่เหยียนเอ่ยทักทายสหาย ความจริงเขาเข้าเมืองมาหลายวันแล้ว แต่พักอยู่ที่หอเฟิ่งหวง ไม่เข้าท้องพระโรงกับพวกจ้าวเฉา ใครจะเอาชีวิตไปเสี่ยงตายเล่า เขาเป็นแค่หมอคนหนึ่ง ไม่ได้มีวิ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status