แชร์

เมาจนได้เรื่อง (1)

ผู้เขียน: เหมียวเฟยฉี
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-15 20:05:44

หอเฟิ่งหวงเนืองแน่นไปด้วยผู้คน ลู่ผิงถิงไปที่ชั้นสองดังเช่นสามวันก่อน นางมองหาผู้ดูแลจากนั้นจึงเข้าไปสอบถาม “ผู้ดูแล วันนี้หมอเทวดาเหยียนจะมายามใด”

“แม่นางอยากรู้ข้อมูลก็ต้องจ่ายเงินขอรับ”

ลู่ผิงถิงไม่อยากจ่ายเงินซ้ำซ้อนนางจึงเอ่ยหลอกล่อเอาข้อมูลจากผู้ดูแล “ข้าเป็นแขกที่หมอเทวดานัดไว้ เจ้าเสียมารยาทกับข้าเช่นนี้ใช้ได้รึ”

ใบหน้างามเชิดขึ้นอย่างถือดี

“ข้าน้อยขออภัยขอรับ เช่นนั้นแม่นางไปรอที่ชั้นสามห้องผกามาศ ข้าน้อยจะนำทางท่านไป”

“ไม่ต้อง...เจ้าทำงานของเจ้าไปเถิด ข้ามีขาเดินไปเองได้” ลู่ผิงถิงแสร้งเปล่งเสียงไม่พอใจออกมา

เมื่อหันหลังให้ผู้ดูแลมุมปากได้รูปก็ยกขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ ครั้งนี้ข้อมูลแน่นโดยไม่ต้องเปลืองเงินสักแดงเดียว

ลู่ผิงถิงขึ้นไปชั้นสามนางนั่งรออยู่ตรงระเบียง ฝั่งตรงข้ามกับห้องผกามาศ รอหมอเทวดาเหยียนมาถึงจะแสร้งวิ่งหนีอะไรบางอย่าง แล้วบังเอิญไปชนเขา พอได้รับบาดเจ็บจากนั้นเขาก็จะพานางไปรักษาในห้อง

เท่านี้ก็สามารถพูดคุยเรื่องการรักษาท่านแม่กับเขาได้แล้ว

สายลมอ่อน ๆ พัดมาพร้อมกลิ่นของดอกหอมหมื่นลี้ ลู่ผิงถิงสูดดมกลิ่นหอมสดชื่นนั้น เนื่องด้วยเมื่อคืนนางอดหลับอดนอนดูแลมารดา เมื่อได้สัมผัสกับบรรยากาศเบาสบาย จึงเผลอหลับไปตื่นขึ้นมาอีกทีในยามอู่ [11:00-12:59] ซึ่งตอนนี้นางไม่รู้เลยว่าหมอเทวดามาถึงหรือยัง

ลู่ผิงถิงนวดขมับตัวเองเบา ๆ ไม่เอาไหนเลยผิงถิงเหตุใดจึงหลับได้ บ่นตัวเอง!

หญิงสาวลุกขึ้นและเดินไปลองเปิดประตูห้องผกามาศ ปรากฏว่าประตูถูกล็อกจากด้านใน แบบนี้เท่ากับว่าหมอเทวดา เหยียนเข้าห้องไปแล้ว

เป็นเช่นนี้แผนการที่นางวางไว้ ก็พังทลายลงไปหมด เหตุเพราะความเผอเรอของนาง

สมองน้อย ๆ ครุ่นคิดหาวิธีเข้าไปในห้องผกามาศ เริ่มแรกนางจะเคาะประตูเอ่ยเรียกหมอเทวดาอย่างตรงไปตรงมา แต่กลัวเขาไม่ต้อนรับ ถ้าเป็นเช่นนั้นวันนี้ก็จะมาเสียเที่ยว

คิดได้ดังนั้นลู่ผิงถิงก็เข้าไปอีกห้องที่อยู่ติดกับห้องผกามาศ แล้วตรงไปที่ระเบียงหลังห้อง ปีนระเบียงจากห้องนี้ไปที่ห้องผกามาศที่หมอเทวดาเข้าพัก

ขาเล็ก ๆ สั่นเทายามก้าวขาเลาะขอบระเบียงไปยังห้องผกามาศ มองลงไปด้านล่างใจสั่นระทึก จะสูงอะไรขนาดนี้ หากตกลงไปไม่แหลกไปทั้งร่างหรอกหรือ

ลู่ผิงถิงจับราวระเบียงแน่น รู้สึกแขนขาอ่อนแรงไปหมด พ่นหายใจออกปากสลับกับสูดหายใจเข้าลึก แล้วค่อย ๆ ใช้ปลายเท้าไต่ขอบระเบียงที่มีพื้นที่ให้นางเหยียบเพียงชุ่นเดียว

พอไปถึงห้องผกามาศหญิงสาวก็ก้าวข้ามกรงระเบียงที่สูงประมาณ 2 จั้งไปได้อย่างปลอดภัย

ลู่ผิงถิงย่องเข้าไปในห้อง กลิ่นอาหารหอมอบอวลเต็มห้อง ท้องของหญิงสาวร้องขึ้นมาเสียงดัง ทำให้คนที่นั่งรับประทานอาหารอยู่หันมามอง

“เจ้าเป็นผู้ใด” อู่เหยียนเลิกคิ้วถาม

“ข้า...คือข้าหนีคนร้ายมา ขอหลบที่นี่สักพักได้รึไม่”

อู่เหยียนหันหน้าหนีไปลอบยิ้มไม่ให้อีกฝ่ายเห็น เขาเห็นนางนั่งหลับอยู่ระเบียงฝั่งตรงข้ามห้องของเขาแท้ ๆ นางกลับบอกว่าหนีผู้ร้ายมา น่าสนใจ

อีกอย่างผู้ดูแลบอกเขาว่า คนที่นัดไว้มารอเขาแล้ว ทว่าเขาไม่ได้นัดผู้ใดไว้ คงจะเป็นนางสินะ

รู้แล้วแต่ไม่คิดจะเปิดโปงนาง ดูสิ่ว่าแม่นางคนนี้จะมาไม้ไหนกับเขา อู่เหยียนมั่นใจในเสน่ห์ของตัวเองมาก และเขาคิดว่าสตรีงดงามนางนี้เข้าหาเขาเพราะต้องตาต้องใจเขา

อู่เหยียนกระแอมกลั้นรอยยิ้มแล้วหันกลับมาเอ่ย “เจ้าหิวไม่ใช่รึ นั่งกินด้วยกันสิ”

ลู่ผิงถิงลูบท้องที่ส่งเสียงร้องหลายครั้งอย่างอับอาย นางหิวจริง ๆ นั่นแหละ “เช่นนั้นอาหารมื้อนี้ข้าขอจ่าย ตอบแทนที่ท่านช่วยเหลือข้า” ลู่ผิงถิงเอ่ยพร้อมนั่งลงอย่างไม่เกรงใจ ในเมื่อนางจ่ายเงินเลี้ยงเขาก็ควรจะกินให้เต็มที่

อาหารที่ลู่ผิงถิงคีบยังไม่ทันเข้าปาก ก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของคนตรงหน้าเอ่ยอย่างจริงจัง

“ปีนเข้าห้องบุรุษไม่กลัวว่าข้าจะรังแกเจ้ารึไง”

“.....”

อู่เหยียนทำท่าคุกคามสาวงามตรงหน้า โดยการเดินเข้าไปหาแล้วโน้มตัวลงมากระซิบข้างหู “เข้ามาในห้องบุรุษ โดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนแบบใด เหมือนส่งอ้อยเข้าปากช้างเจ้าว่ารึไม่”

ลู่ผิงถิงส่งอาหารเข้าปากและเคี้ยวช้า ๆ สิ่งที่เขาพูดมาจริงทุกอย่าง นางเถียงเขาไม่ได้ นางแสร้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ตอนนี้นางเริ่มกลัวหมอเทวดาเหยียนเข้าแล้ว

“ข้าวางยาไว้ในอาหาร ในน้ำดื่ม รวมไปถึงสุรา เจ้าว่าวันนี้เจ้าจะรอดออกไปได้ไหม”

อู่เหยียนข่มขู่สตรีตรงหน้า เขาต้องการให้นางรู้ว่าการทำเช่นนี้ไม่ดีกับตัวนางเอง สตรีตรงหน้าวางตะเกียบและคายอาหารออกมาอย่างฉับพลัน

“หมอเทวดาเหยียน ข้าแค่อยากมาขอร้องให้ท่านช่วยไปรักษาท่านแม่ของข้า ท่านอย่า...ท่านอย่าทำอะไรข้าเลย” ลู่ผิงถิงลุกขึ้นยืนและเดินถอยหลังหนีการคุกคามของหมอเทวดาเหยียน

“สตรีงดงามเช่นเจ้าอยู่กับข้าที่เป็นบุรุษสองต่อสองเจ้าว่าข้าควรปล่อยเจ้าไปหรือ”

มืออู่เหยียนเท้ากำแพงกักขังสตรีตัวเล็ก ที่ถอยหลังหนี จนแผ่นหลังชิดกำแพง เขาค่อย ๆ ก้มหน้าลงมาสูดดมความหอมของสตรีตรงหน้า

คงไม่ใช่แบบนี้ใช่ไหม? ลู่ผิงถิงถามตัวเอง นางรู้มาว่าหมอเทวดาเหยียนไม่ชมชอบสตรี เหตุใดเขาจึงคุกคามนางโดยไม่มีท่าทีขยะแขยงดังเช่นข่าวลือกัน

เพราะเรื่องนี้นางจึงมาหาเขาแบบไม่ได้คิดป้องกันตัวเอง แล้วเหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ไปได้

ก่อนจมูกของอู่เหยียนจะแนบมาถึงลำคอ ลู่ผิงถิงที่หลับตาปี๋ ก็เอ่ยขึ้นมาเสียงดังฟังชัด “เพราะท่านไม่ชมชอบสตรีข้าถึงไม่กลัวท่าน” นางเสี่ยงดวงเอาข่าวลือออกมาพูด

.......

โอ๊ะโอ  น้องลู่เนื้อหอม ได้ข้อมูลเท็จมาแล้วมั่ง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พระชายาจำยอม   เมาจนได้เรื่อง (2)

    “ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้านี่น่าสนใจจริง ๆ”อู่เหยียนผละออกจากร่างหอมกรุ่น เล่นสนุกก็ควรเล่นให้พอประมาณ “พูดคุยมานานแล้วข้ายังไม่รู้จักชื่อเจ้าเลย”“ข้าชื่อลู่ผิงถิง เป็นบุตรสาวของ...”“ข้าถามเพียงชื่อเจ้าไม่ได้ถามโคตรเหง้าตระกูลเจ้า”“....”อู่เหยียนเอ็นดูคนตัวเล็กที่มีสีหน้าเหลอหลา “ไปนั่ง กินข้าวแล้วค่อยคุย”“ไม่เป็นไร ท่านหมอเทวดาข้าไม่หิวแล้ว” ลู่ผิงถิงเอ่ยอย่างนอบน้อม หมอเทวดาเหยียนพูดมาเช่นนั้นใครจะกล้ากินลงอีก“เพิ่งนึกได้รึ ว่าไม่ควรกินของคนแปลกหน้า เมื่อครู่ไม่เห็นเจ้าจะกลัวเช่นนี้เลย” อู่เหยียนอดไม่ได้ที่จะเย้าแหย่เขานั่งลงคีบอาหารเข้าปากแล้วเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย ล่อตาล่อใจสตรีตรงหน้า “ไม่กินจริงหรือ อร่อยมากเลยนะ”ลู่ผิงถิงกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ทว่านางไม่อยากผิดคำพูด นางบอกว่าไม่กินก็คือไม่กินแล้ว ถึงแม้ลำไส้ของนางจะเรียกร้องหาอาหารก็เถอะ“หมอเทวดาเหยียน ท่านจะไปรักษาท่านแม่ข้าได้หรือไม่” ลู่ผิงถิงเอ่ยถามเสียงแผ่ว“รักษานะได้อยู่ แต่...วันนี้เจ้ามาร่ำสุราเป็นเพื่อนข้า สักสามไหเป็นไง”“....”ยิ่งเห็นสตรีคนนั้นยืนทื่ออยู่กับที่ไม่ขยับ และไม่ตอบคำถาม ทั้งยังมองมาด้วยความคาดหวัง เขายิ่งนึกส

  • พระชายาจำยอม   เมาจนได้เรื่อง (1)

    หอเฟิ่งหวงเนืองแน่นไปด้วยผู้คน ลู่ผิงถิงไปที่ชั้นสองดังเช่นสามวันก่อน นางมองหาผู้ดูแลจากนั้นจึงเข้าไปสอบถาม “ผู้ดูแล วันนี้หมอเทวดาเหยียนจะมายามใด”“แม่นางอยากรู้ข้อมูลก็ต้องจ่ายเงินขอรับ”ลู่ผิงถิงไม่อยากจ่ายเงินซ้ำซ้อนนางจึงเอ่ยหลอกล่อเอาข้อมูลจากผู้ดูแล “ข้าเป็นแขกที่หมอเทวดานัดไว้ เจ้าเสียมารยาทกับข้าเช่นนี้ใช้ได้รึ”ใบหน้างามเชิดขึ้นอย่างถือดี“ข้าน้อยขออภัยขอรับ เช่นนั้นแม่นางไปรอที่ชั้นสามห้องผกามาศ ข้าน้อยจะนำทางท่านไป”“ไม่ต้อง...เจ้าทำงานของเจ้าไปเถิด ข้ามีขาเดินไปเองได้” ลู่ผิงถิงแสร้งเปล่งเสียงไม่พอใจออกมาเมื่อหันหลังให้ผู้ดูแลมุมปากได้รูปก็ยกขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ ครั้งนี้ข้อมูลแน่นโดยไม่ต้องเปลืองเงินสักแดงเดียวลู่ผิงถิงขึ้นไปชั้นสามนางนั่งรออยู่ตรงระเบียง ฝั่งตรงข้ามกับห้องผกามาศ รอหมอเทวดาเหยียนมาถึงจะแสร้งวิ่งหนีอะไรบางอย่าง แล้วบังเอิญไปชนเขา พอได้รับบาดเจ็บจากนั้นเขาก็จะพานางไปรักษาในห้องเท่านี้ก็สามารถพูดคุยเรื่องการรักษาท่านแม่กับเขาได้แล้วสายลมอ่อน ๆ พัดมาพร้อมกลิ่นของดอกหอมหมื่นลี้ ลู่ผิงถิงสูดดมกลิ่นหอมสดชื่นนั้น เนื่องด้วยเมื่อคืนนางอดหลับอดนอนดูแลมารดา เมื่อไ

  • พระชายาจำยอม   อดีตคนรัก (2)

    ครานี้ผู้ที่มารินสุราเป็นนางกำนัลตัวน้อย ไม่รู้ว่านางประหม่าหรืออย่างไร จึงทำสุราหกราดอาภรณ์ของมู่เซียวเซ่อจนเปียกปอน “ขออภัยท่านอ๋อง หม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจ หม่อมฉันสมควรตายเพคะ ท่านอ๋องโปรดอภัยด้วย”นางคุกเข่าคำนับซ้ำแล้วซ้ำเล่า เซียวเซ่อคร้านจะใส่ใจนางกำนัลตัวเล็กจึงลุกขึ้นยืน “เสด็จพี่ กระหม่อมขอตัวไปเปลี่ยนอาภรณ์”“อืม เราก็จะไปสุขาเช่นกัน” ฮ่องเต้หนุ่มเอ่ยห้องจัดเลี้ยงกว้างขวาง เหลือเพียงจี้ฮองเฮานั่งอยู่ลำพัง จิตใจสั่นไหวเมื่อพบกับมู่เซียวเซ่ออีกครั้ง ความรักที่ถูกกดลึกไว้ในอก และความทรงจำเก่า ๆ ได้เอ่อล้นขึ้นมาวันนั้นนางจำได้ดี เป็นงานเลี้ยงต้อนรับชัยชนะของท่านพ่อ และเป็นวันที่นางพลาดพลั้งอย่างไม่รู้ตัว ตื่นมาอีกทีก็มีฝ่าบาทนอนอยู่ด้านข้าง เราทั้งสองไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ ผู้คนจำนวนมากพบเห็นเรื่องนี้ทำให้จี้ฝู่หลิงไม่มีหน้าไปพบเจออดีตคนรักอีก ยอมอภิเษกกับฝ่าบาททั้งที่ใจไร้รักเริ่มแรกฝ่าบาทเอาอกเอาใจ ทำดีกับจี้ฝู่หลิงทุกอย่าง ทว่า...วันคืนดี ๆ ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เมื่อบิดาของนางถูกสังหารในสนามรบ เขาก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เป็นเหมือนสัตว์ป่าดุร้าย ทรมานนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนนาง

  • พระชายาจำยอม   อดีตคนรัก (1)

    สามวันผ่านไป ลู่ผิงถิงยังดูแลมารดาอยู่จวนตระกูลลู่ พวกบิดายังไม่กลับมาได้ยินว่าพากันออกไปท่องเที่ยวทิศประจิม และดูทำเลการค้าเพื่อขยายกิจการร้านเสื้อผ้าลู่ผิงถิงเดินไปที่เรือนใหญ่พบกับบ่าวที่เฆี่ยนพี่เสี่ยวซีเข้าพอดี จึงเรียกให้เข้ามาช่วยทำความสะอาดในห้องโถง พอบ่าวคนนั้นทำเสร็จออกไป คุณหนูใหญ่อย่างนางก็โวยวายว่าปิ่นปักผมหาย บอกให้บ่าวในเรือนช่วยกันตามหา ปรากฏว่าอยู่ที่ห้องของบ่าวที่เฆี่ยนพี่เสี่ยวซีไม่ได้ใส่ร้ายบ่าวคนนั้น เพียงแต่ใช้ปิ่นราคาหนึ่งร้อยตำลึงล่อตาล่อใจ หากนางไม่หยิบไปลู่ผิงถิงก็ไม่อาจลงโทษได้ แต่ครั้งนี้นางหยิบไปจึงหนีไม่พ้น เฆี่ยนพี่เสี่ยวซีไปกี่ครั้งต้องถูกเอาคืนเป็นสองเท่า ไม่ยอมให้พี่เสี่ยวซีเจ็บปวดคนเดียวแน่ ส่วนลู่ไป๋อิง รอก่อนเถอะจะจับตีให้ก้นลายเลยหนึ่งปีมานี้คงเรียนรู้กับฮูหยินรองมาก จึงเปลี่ยนไปเช่นนี้เมื่อก่อนน่ารักเชื่อฟัง หลังจากนางย้ายมาเรือนท้ายจวนน้องสาวก็เปลี่ยนไป ไม่รู้ว่าที่ผ่านมาน้องสาวเสแสร้ง หรือเป็นแบบนี้มานานแล้วจัดการบ่าวคนนั้นเสร็จก็เข้าไปในห้องบิดา ค้นหาหลักฐานเกี่ยวกับคดีของพี่ชายใหญ่มีอยู่วันหนึ่ง ลู่ผิงถิงบังเอิญได้ยินบิดาคุยกับพี่ชายคนรอ

  • พระชายาจำยอม   อาลัยอาวรณ์ (2)

    คนมาใหม่สวมหน้ากากสีทองพาดเฉียงครึ่งหน้า อาภรณ์สีน้ำเงินโบกสะบัดยามลอยตัวลงมา ฝีเท้าแตะพื้นแผ่วเบาบ่งบอกว่าเป็นยอดฝีมือผู้หนึ่ง“บาดเจ็บตรงไหนรึไม่” เขามองสำรวจเด็กน้อยตรงหน้า เมื่อเห็นว่ามีเพียงร่องรอยฟกช้ำก็ถอนสายตากลับ“นี่ท่าน” ลู่ผิงถิงจำเขาได้ นางเคยพบเจอคนผู้นี้ยามไปเก็บสมุนไพรที่หุบเขาหลังจวน ตอนนั้นเขาบาดเจ็บสาหัสนางช่วยใส่ยาให้เขา และพาเขาไปหลบในที่ปลอดภัย นางดูแลจนเขาฟื้น จำได้ว่าวันนั้นกลับจวนผิดเวลา ถูกบิดากักบริเวณให้อยู่แค่เรือนท้ายจวนถึงครึ่งเดือน“เจอกันอีกแล้วนะเด็กน้อย” ชายหนุ่มที่สวมหน้ากากทักทายสตรีตัวเล็กตรงหน้า “ไปหาที่หลบให้ดี พี่ชายจะโชว์ความร้ายกาจให้เจ้าดู”เขาเริ่มต่อสู้กับคนชั่ว เพียงไม่กี่กระบวนท่าชายที่สวมหน้ากากก็กดบุรุษชุดดำไว้บนพื้น เขาใช้เชือกมัดมือมัดเท้าบุรุษชุดดำ แล้วลากออกไปทิ้งไว้ในห้องเก็บฟืน“ขอบคุณมาก” ลู่ผิงถิงเอ่ยขอบคุณเมื่อพี่ชายหน้ากากทองกลับเข้ามาในห้อง“ขอบคุณเพียงคำพูดจะนับอะไรได้ ไม่สู้เจ้า...ขอบคุณเป็นอย่างอื่น” ชายหนุ่มแย้มยิ้มอย่างมีเลศนัยลู่ผิงถิงไม่สนใจเขา ขอบคุณนางก็ขอบคุณไปแล้ว นางมองร่างไร้วิญญาณของพี่เสี่ยวซี ดวงตากลมโตแดงก่

  • พระชายาจำยอม   อาลัยอาวรณ์ (1)

    ลู่ผิงถิงมีน้ำตาซึมออกมาทางหางตา เสียดายที่ไม่อาจเอาคนผิดที่อยู่เบื้องหลัง การทำร้ายพี่ชายใหญ่มาลงโทษได้ กลับเป็นนางที่ต้องตายก่อนศัตรู ดวงตากลมโตหลับตารอรับความเจ็บปวดจากปลายมีด ทว่านางกลับไม่รับรู้ถึงความเจ็บนั้น ไหล่ทั้งสองถูกสองมือเล็กกำแน่น ลู่ผิงถิงลืมตาขึ้นมา เห็นพี่เสี่ยวซีที่ไม่รู้ว่ามาตอนไหน ยืนบังปลายมีดไว้ให้นาง ร่างของพี่เสี่ยวซีค่อย ๆ ทรุดลงพื้น ยามเสี่ยวซีรู้สึกตัวขึ้นมา ก็เห็นว่าคุณหนูของนางตกอยู่ในอันตรายพอดี จึงพยุงร่างที่เจ็บระบมลุกขึ้นมาอย่างยากลำบาก ตะเกียกตะกายมาขวางปลายมีดสั้น ที่กำลังแทงลงบนผิวหนังคุณหนูไว้ได้ ในวินาทีสุดท้าย นางไม่เสียดายชีวิต ขอเพียงคุณหนูมีชีวิตอยู่ ทำในสิ่งที่คุณหนูอยากทำ นางรู้ตัวเองดีว่าบาดเจ็บครั้งนี้ ตัวเองไม่อาจรอดพ้นความตายได้ จึงใช้ร่างกายที่เหลือลมหายใจสุดท้ายนี้ ช่วยชีวิตคุณหนูของนาง “คุณหนู” เสียงเรียกแผ่วเบาปานกระซิบ ลู่ผิงถิงรู้สึกหัวใจขาดเลือดไหลเวียน นางรีบย่อตัวลงประคองพี่เสี่ยวซีไว้ในอ้อมกอด มือที่ประคองแผ่นหลังเต็มไปด้วยของเหลวสีแดงเข้ม น้ำตาลู่ผิงถิงไหลพราก หัวใจราวกับถูกเข็มทิ่มแทงซ้ำแล้วซ้ำเล่า “พี่เสี่ยวซีข้า.

  • พระชายาจำยอม    หนีไม่พ้นจริงหรือ (2)

    ลู่ผิงถิงลูบไล้กายบุรุษชุดดำด้วยความรังเกียจ ใจของนางเต้นตึกตัก ปฏิเสธไม่ได้ว่ากลัวจนฉี่แทบราด ทว่าต้องสู้เพื่อเอาตัวรอด เป้าหมายของนางคือมีดสั้นที่เอวของเจ้าหน้าเหี้ยมนั่น นิ้วเรียวยาวไล่วนจากแผงอกลงมาหน้าท้อง เมื่อมือนางเข้าใกล้เป้าหมาย บุรุษชุดดำก็คว้าจับไว้อย่างกับรู้ความคิดนาง บุรุษชุดดำหายใจติดขัดวาบหวิว เขาคว้ามือซุกซนของนางมาวางตรงเจ้าโลกของเขา คิดว่าที่นางอ้อยอิ่งอยู่หน้าท้องคงอยากจับ ก็ให้นางได้จับให้หนำใจ “อยากจับตรงนี้หรือข้าอนุญาต และข้าขอจับตรงนั้นของเจ้า” มือหนายื่นไปหวังบีบเคล้นก้อนกลมโตสองก้อน คะเนด้วยตาน่าจะเต็มไม้เต็มมือและนุ่มมาก แค่คิดอาวุธลับของเขาก็ผงาดขึ้น เขากำลังฝันหวานถึงเรือนร่างอ้อนแอ้นหอมหวาน โดยไม่รู้เลยว่ามีดสั้นได้ตกอยู่ในมือของสตรีตัวเล็กแล้ว ลู่ผิงถิงจ้วงมีดสั้นแทงฝ่ามือที่ยื่นมาหวังลวนลาม มีดปักคากลางฝ่ามือ “โอ๊ย” บุรุษชุดดำร้องโอดครวญอย่างเจ็บปวด เผลอเพียงนิดเดียว สตรีผู้นี้ก็แผงฤทธิ์เดชใส่จนเขาต้องเจ็บตัว บุรุษชุดดำโมโหมาก ยกฝ่ามือข้างไม่บาดเจ็บฟาดแก้มนุ่มขาวนวลของสตรีตรงหน้า คนงามล้มลงพื้นมุมปากมีเลือดซึมออกมา ร่างกำยำตามไปคว้าปลายคางมาบี

  • พระชายาจำยอม    หนีไม่พ้นจริงหรือ (1)

    อาหลี่มาถึงจวนตระกูลลู่แล้ว ทว่าประตูกลับปิดเงียบ นางพยายามเคาะหลายครั้งก็ไม่มีคนเปิดลางสังหรณ์ไม่ดีก่อเกิดขึ้นในใจของอาหลี่ พระชายาอยู่ในจวนเพียงลำพัง กลัวก็แต่จะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นในเรือนท้ายจวนอาหลี่เดินอ้อมกำแพงจวนลู่ เพื่อหาวิธีเข้าไปด้านในให้เร็วที่สุด และแล้วก็หาวิธีเข้าจวนลู่ได้ ใบหน้ากลมมนแหงนมอง ดอกกุ้ยฮวาที่บานเต็มต้น กิ่งของมันแผ่เข้าไปในจวนลู่พอดิบพอดี แบบนี้อาหลี่ก็สามารถปีนต้นไม้ แล้วกระโดดลงไปได้ ไม่รอช้ารีบปีนต้นไม้ขึ้นไปบนกำแพงทันทีทางด้านลู่ผิงถิงพลิกกายหลบปลายมีดแหลมคมไว้ได้ จากนั้นรีบวิ่งอ้อมไปหลังเตียงของเสี่ยวซี ทำให้ยามนี้มีเตียงกั้นกลางระหว่างนางกับบุรุษชุดดำผู้นั้น “ใครส่งเจ้ามา”“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้”“เขาจ้างเจ้าเท่าใดข้าให้เจ้าสองเท่า” ลู่ผิงถิงเริ่มหว่านล้อม นางเห็นว่าบุรุษผู้นั้นทำท่าครุ่นคิดก็รีบเอ่ยเสริม “สังหารข้าที่เป็นพระชายาชินอ๋อง เจ้าคิดว่าจะหนีการจับกุมรอดหรือ ไม่สู้รับเงินจากข้าแล้วหนีไป”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ชินอ๋องเสเพลผู้นั้นจะมีปัญญามาทำอะไรข้าได้

  • พระชายาจำยอม   ถูกลอบสังหาร (2)

    อาหลี่เห็นพระชายาไม่เอ่ยคำใดก็ออกมาส่งหมอชาวบ้าน เดินกลับมาในห้องพี่สาวคนนั้น พระชายาก็ยังยืนนิ่งอยู่ท่าเดิม พระชายาต้องเสียพระทัยขั้นไหนจึงได้นิ่งงันไปเช่นนี้“พระชายาเพคะ” อาหลี่เรียกเบา ๆ แล้วเอาเสื้อคลุมไหล่ที่หยิบมาจากรถม้าสวมให้พระชายาอากาศหนาวมากแต่ยังเหน็บหนาวไม่เท่าใจของลู่ผิงถิง เสื้อคลุมที่อาหลี่ห่มให้ไม่ทำให้นางรู้สึกอุ่นขึ้นมาสักนิดพี่เสี่ยวซีเป็นดังพี่สาวที่ปกป้องดูแลนางมาตั้งแต่ยังเยาว์ คอยช่วยปิดบังความผิดยามหนีมารดาไปเที่ยวนอกจวน คอยให้คำปรึกษาแนะนำ หนึ่งปีที่มารดาหมดสติ ก็มีเพียงพี่เสี่ยวซีที่อยู่เป็นเพื่อนพูดคุยพี่ใหญ่จากนางไปคนหนึ่งแล้ว ตอนนี้พี่เสี่ยวซีจะจากนางไปอีกคนหรือไม่จริง ไม่จริง ใช่ มันต้องไม่จริง นางยังมีความหวังพี่เสี่ยวซีต้องไม่ตาย“อาหลี่เจ้าไปต้มยามาให้ข้า” ความมั่นใจเหลือน้อยเต็มทนเมื่อเห็นลมหายใจแผ่วเบาของพี่เสี่ยวซี สั่งการอาหลี่ไปน้ำตาไหลไปอย่างห้ามไม่อยู่“เพคะพระชายา”อาหลี่เห็นพระชายาเศร้าหมองเพราะบ่าวคนหนึ่ง ทำให้นางเศร้าใจตามไปด้วย ตั้งใจต้มยาให้พี่สาวคนนั้นและหวังว่าพี่สาวจะไม่จากพระชายาไปลู่ผิงถิงสั่งให้อาหลี่ดูแลเสี่ยวซี จากนั้นนางก็เ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status