"มีเรื่องอะไรมาพบน้องสาวข้า คนอย่างท่านคงไม่ได้มาดีแน่ๆนี่ท่านลุงเหลียนทางเข้าหมู่บ้านที่ท่านเพิ่งจะเข้ามามันใช้เป็นทางออกได้ด้วยนะเผื่อท่านไม่รู้ เชิญกลับได้แล้วไม่ส่งนะข้าไม่ว่าง"
"หลี่ ไฉ่ เหยียน เจ้าต้องหาเรื่องข้าให้ได้เลยใช่หรือไม่ฮะ"
เหลียนจางหมิ่นกำลังจะหมดความอดทนกับเด็กผู้หญิงตรงหน้าแล้ว ตั้งแต่ครึ่งปีก่อนที่ม้าของเขาเกิดพยศวิ่งเฉี่ยวเพื่อนของนางจนสลบ เด็กคนนี้ก็เกลียดเขามาโดยตลอด
เขาไม่ได้ตั้งใจมันเป็นเรื่องที่เขาก็ไม่ได้อยากให้เกิด แต่เด็กคนนี้กลับไม่จบไม่สิ้นจงเกลียดจงชังเขาอยู่ได้ ก่อนจะมีเสียงหวานของสตรีปลูกสติของเขา
"ใต้เท้า ท่านมาหาข้าน้อยด้วยเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ"
เหลียนจางหมิ่นหันไปตามเสียงก็พบสตรีใส่ชุดสีเขียวอ่อน ใบหน้างดงามยิ่งนัก เขามองจนตะลึงที่นี่มีสตรีงามเช่นนี้ด้วยหรือ จนกระทั่งหลี่ไฉ่เหยียนเดินมาขวางหน้าเขา นางเท้าเอวจ้องหน้าเขาเหมือนแม่เสือหวงลูกน้อย
"เอ่อ ท่านคือแม่นางหลี่ผู้นั้นหรอกหรือ ข้าได้รับคำแนะนำมาจากเถ้าแก่สวีนางบอกว่าให้ข้าเดินทางมาหาท่านที่นี่ น้องสาวของข้ากำลังจะแต่งงาน แต่ว่าชุดแต่งงานที่ส่งมานั้นนางไม่พอใจสักชุด ใกล้วันงานมาแล้ว แม่นางหลี่ข้าเชื่อใจเถ้าแก่สวีจึงเดินทางมาหาท่าน"
"ใต้เท้าเหลียน คุยที่นี่ไม่เหมาะกระมังเจ้าคะ เอาเป็นว่าไปคุยที่เรือนข้าเถอะ พี่ไฉ่เหยียนท่านไปกับข้าด้วยเถอะกันผู้คนครหา"
"อืม ข้าเองก็ไม่ไว้ใจเช่นกัน คนบางคนดีแต่หน้าตา"
จากนั้นหลี่ว่านถิงก็เอ่ยกับชาวบ้านที่ยืนจับกลุ่มกันอยู่
"ทุกท่าน หัวมันนั่นเดี๋ยวตอนเย็นข้าจะมาบอกวิธีปลูกนะเจ้าคะ อ้อตอนนี้เม็ดพันธุ์ที่ท่านตานำมาข้าเพาะได้หลายแปลงแล้วล้วนงอกงามดี เดี๋ยวพรุ่งนี้จะให้ทุกคนไปขุด แบ่งกันปลูกนะเจ้าคะ บ้านละแปลงสองแปลงพอได้ผลิตผลพวกท่านก็ค่อยเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้เพาะปลูกฤดูต่อไป"
"ได้ๆๆ แม่เจ้าแฝดพวกเรารอเจ้าได้ รีบไปทำธุระของท่านนายอำเภอเถอะ"
ชาวบ้านไม่มีใครรังเกียจนางที่เป็นหม้ายสักนิด เห็นใจในโชคชะตาด้วยซ้ำ นางมาอยู่ที่นี่ได้สามเดือนก็คลอดบุตรสาวออกมาเป็นฝาแฝดหน้าตาน่ารักยิ่งนัก
อีกทั้งยังเอาความรู้จากหลี่ต้วนอดีตซิ่วไฉของหมู่บ้านท่านตาของนางมาสอนเรื่องเกษตรให้กับชาวบ้าน เจอพืชพันธุ์ใหม่ๆบนเขาก็นำมาให้ชาวบ้านเสมอสอนว่าว่าสิ่งใดกินได้สอ่งใดเป็นยา
สอนชาวบ้านให้รู้จักสมุนไพรพื้นฐาน ทำให้ไม่ต้องไปหาหมอหากแค่เป็นหวัดนิดๆหน่อยๆ ท่านหมอเจียงเป็นหมอประจำตำบลซานซาน ชาวบ้านอาศัยความรู้เล็กน้อยที่นางสอนไปหาสมุนไพรไปขายที่ร้านท่านหมอเจียง ได้เงินซื้อข้าวซื้อแป้งมาเลี้ยงครอบครัวตนเองได้บ้างในบางครั้ง
ชาวบ้านพากับเลิกจับกลุ่ม พวกเขาจะมารวมกันอีกทีตอนเย็นรอหลี่ว่านถิงกับหลี่ต้านผู้ใหญ่บ้านอีกทีหลี่ว่านถิงพาเหลียนจางหมิ่นมาถึงบ้านตนเอง
จากนั้นก็เชิญเหลียนจางหมิ่นให้นั่งลงพูดคุย หลี่ว่านถิงชงชาดอกกุหลาบมารับรองเขา ทันทีที่จิบอึกแรกเหลียนจางหมิ่นก็ติดใจ ช่างเป็นชาที่หอมยิ่งนัก ท่านพ่อทำงานหนักชานี้ดื่มแล้วผ่อนคลายท่านพ่อน่าจะชอบ หากวางขายที่ร้านได้น่าจะดี
"เอ่อแม่นางหลี่คือว่าชาถ้วยนี้ของท่านช่างหอมยิ่งนัก ท่านพอจะแบ่งขายได้หรือไม่"
"ข้าพอมีอยู่ หากใต้เท้าต้องการข้าจะแบ่งให้เจ้าค่ะ ชานี้ข้าคั่วเองอีกทั้งเป็นดอกเหมยกุ้นที่ต้องเก็บตอนเช้าก่อนแสงแดดจะส่อง ใต้เท้าท่านอย่าเรียกข้าแม่นางเลยข้ามีบุตรแล้วเจ้าค่ะแต่งงานแล้ว"
"อ้อ ถ้าเช่นนั้นข้าเรียกท่านอาซ้อก็แล้วกัน ว่าแต่สามีท่านไปที่ใดหรือขอรับ"
"จะคุยธุระได้หรือยัง ถามซอกแซกน่ารำคาญ"
"นี่หลี่ไฉ่เหยียน เจ้าจะขัดข้าไปถึงเมื่อไหร่ ท่านผู้ใหญบ้านหลี่ต้านช่างเป็นคนดีอีกทั้งหลี่เต๋อคังบิดาเจ้าก็เป็นคนมีเหตุผล เหตใดให้กำเนิดเด็กอย่างเจ้าออกมาได้ อายุขนาดนี้ยังขายไม่ออก ช่างเป็นคนน่ารำคาญ เจ้าช่างเป็นสตรีด่างพร้อยของตระกูลจริงๆ"
"ไสหัวไปเลยนะเหลียนจางหมิ่นไอ้คนปากเสีย อาถิงไล่เขากลับไปเลยข้าเกลียดขี้หน้าเขา" หลี่ไฉ่เหยียนลุกขึ้นชี้หน้าเหลียนจางหมิ่นทันที เกลียดขี้หน้านักคนไร้มารยาท บนถนนยังควบม้าเสียเร็ยวจนสหายนางเกือนถูกชนตายคากีบเท้าม้าเสียแล้ว หลี่ว่านถิงเห็นทั้งคู่ไม่ยอมลงให้กันจึงต้องไกล่เกลี่ย
"ท่านทั้งสองคนใจเย็นๆเถอะเจ้าค่ะ ใต้เท้าเหลียนท่านอย่าถือพี่สาวข้าเลย นางแค่เป็นห่วงแล้วอยากปกป้องข้าเท่านั้น พี่ไฉ่เหยียนใจเย็นนะเจ้าคะ รีบคุยธุระจะได้ต่างคนต่างไปทำหน้าที่ของตน"
"ช่างเถอะข้าไม่อยากถือสาหาความเด็กป่าเถื่อน เอ่อคือว่าอาซ้อหลี่ข้ามีเรื่องกลุ้มใจยิ่งนัก มารดาข้านางจากไปแล้วน้องสาวจะแต่งงานข้าเองก็ไม่มีความรู้ ชุดแต่งงานกี่ชุดนางก็ไม่ถูกใจสักชุด ร้านฟางเหยีนยังที่มาเปิดใหม่ส่งมากี่แบบนางก็ส่งคืนจนหมด เถ้าแก่สวีกับข้าสนิทกันพอสมควร นางแนะนำท่าน แต่นางบอกว่าท่านไม่ออกหน้า หากท่านรับปากช่วยข้านางยินดีจะตัดเย็บให้เอง"
"อ้อ น้องสาวท่านมีลวดลายพิเศษหรือไม่ ใต้เท้าเหลียนท่านต้องเข้าใจนะ ชุดที่ข้าออกแบบ เฉพาะแบบกระดาษเท่านั้น ราคาต่อแบบอยู่ที่ห้าพันตำลึง หากตัดออกมาร้านเถ้าแก่สวีสามารถทำกำไรจากชุดของข้าได้ถึงแบบละหลายแสนตำลึง เพราะนางไม่ได้ขายแค่ตำบลซานซานหรือเมืองผิงอันเท่านั้น"
"ข้ารู้ดี นางบอกแก่ข้าแล้ว ข้าสัญญาว่าไม่ว่าน้องสาวข้าจะชอบหรือไม่ชอบแบบที่ท่านวาด ข้าจะไม่เรียกร้องเงินทองคืนแม้แต่อีแปะเดียว"
"น้องสาวของท่านรูปร่างใกล้เคียงพี่ไฉ่เหยียนหรือไม่เจ้าคะ"
เหลียนจางหงมิ่นมองมาทางแม่เสือตัวน้อยก่อนจะพยักหน้า แต่เขากลืนน้ำลายอย่างลำบากก่อนจะเอ่ย
"ดูเหมือนจะตัวเท่ากัน เพียงแต่ว่าฉือเย่วนางอกเล็กกว่านิดหน่อยน่ะ" หลี่ไฉ่เหยียนยกมือขึ้นไขว้กันปิดหน้าอกตัวเองทันที คนลามกน่าตาเหลียนจางหมิ่น กล้ามาวิจารณ์ข้าได้อย่างไรกัน
""ถ้าเช่นนั้นท่านรอข้าสักครู่ ข้ามีชุดแต่งงานที่ตัดเสร็จแล้วอยู่สองชุด ให้ท่านเลือกดูเดิมทีตั้งใจจะตัดให้พี่ไฉ่เหยียนน่ะ แต่นางไล่ตะเพิดแม่สื่อไปแล้วคงไม่ได้ใช้เร็วๆนี้หรอก"
หลังจากทุกอย่าางเรียบร้อยก็ถึงเวลาที่เข้าไปหาหลี่ว่านถิงได้แล้ว คู่แฝดใบหน้าคล้ายกับมารดากับบิดาผสมกันมากเหลือเกินจมูกที่รั้นเหมือนมารดา คิ้วที่ดูหนาเจ้าอารมณ์เหมือนบิดา ปากน้อยๆนั่นคนหนึ่งเหมือนหลี่ว่านถิง อีกคนคล้ายซ่างกวนหลิวหยาง พวกเขาได้พ่อกับแม่มาคนละนิดละหน่อย ใบหน้าช่างน่ารักยิ่งนักหลี่ว่านถิงหยิบป้ายหยกของท่านพ่อใส่ห่อผ้าของคนที่จมูกและปากคล้ายนางมากที่สุด ซ่างกวนหลิวหยางรู้ทันทีว่านั้นคือคนเล็ก ป้ายห้อยเอวของเขาจึงถูกใส่ห่อผ้าที่ห่อบุตรชายคนโตเอาไว้ซ่างกวนหลิวหยางแนบหน้าผากของตนกับหน้าผากของนาง ก่อนจะเปิดโอกาสให้บรรดาแม่นมมาเตรียมวามพร้อมในการอยู่เดือนของนางหลังจากพระชายาคลอดบุตรชายชาวเมืองทั้งแปดมณฑลก็ดีใจ ชินอ๋องละเว้นภาษีให้พวกเขาห้าปี โดยภาษีที่ต้องจ่ายให้ราชสำนักทั้งหมด ตำหนักอ๋องจะรับผิดชอบเองห้าเดือนต่อมาได้รับข่าวว่าฮองเฮาเองก็คลอดพระโอรสและพระธิดาในครั้งเดียว หลี่ว่านถิงนึกขำในใจ คงเพราะเป็นกรรมพันธ์ ซ่างกวนหลิวหยางกับฮ่องเต้เป็นคู่แฝดกัน พอมีลูกก็ได้แต่ลูกแฝดซ่างกวนหลิวหยางที่กำลังคลุกเคล้าอยู่กับกลีบดอกไม้แสนหวานของหลี่ว่านถิงนางทำได้แค่เพียงจับศีรษะเขาแน่น
หลังจากประกาศแต่งตั้งฮองเฮาเรียบร้อยแล้ว ซ่างกวนหลิวหยางก็เตรียมออกเดินทางไปยังดินแดนตะวันออก หลี่ว่านถิงกำลังสั่งงานบ่าวไพร่ ป้าสวีเป็นบ่าวในเรือนที่ไม่เคยรังแกนางสักครั้งนับแต่นางแต่งเข้ามาจวนอ๋อง ทั้งๆที่หลายๆคนรังเกียจนางส่วนแม่ครัวหม่าที่มักเอาของเหลือมาโยนให้นางกับเสี่ยวชุ่ยประจำตอนที่ร่างเดิมยังอยู่ที่นี่ถูกหลี่ว่านถิงขายออกไป ตอนนี้บ่าวไพร่กำลังคุกเข่าฟังคำสั่งนาง"ป้าสวี จากนี้ไปท่านรับผิดชอบเรื่องในจวนทั้งหมด มีเรื่องอันใดให้ปรึกษาอาเต๋อ ส่วนป้าจงท่านรับหน้าที่เรื่องในครัว เดิมทีข้าอยากพาทุกคนไปด้วย แต่เนื่องจากทางนั้นยังไม่เรียบร้อย เอาเป็นว่าเมื่อไหร่ที่เข้าที่เข้าทางข้าจะส่งข่าวให้พวกเจ้า""เพคะพระชายา/พ่ะย่ะค่ะพระชายา"บ่าวไพร่รับคำสั่งก่อนที่หลี่ว่านถิงจะลุกขึ้น ซ่างกวนหลิวหยางก้มาถึง เขาช้อนอุ้มนางขึ้นมาจนหลี่ว่านถิงดุเขาเบาๆ"ท่านอ๋อง ต่อหน้าบ่าวไพร่หม่อมฉันเดินเองได้เพคะ""กลัวอะไร พี่รักเจ้าทุกคืนจนพวกเขาชินแล้วแค่อุ้มเจ้าไม่ใช่ปัญหาหรอก""ท่านนี่นะหน้าหนานักเชียว"ซ่างกวนหลิวหยางอุ้มหลี่ว่านถิงมานั่งที่โต๊ะอาหาร จากนั้นก็อุ้มคู่แฝดคนละข้างมานั่งตักก่อนจะป้อนข้าวให
รุ่งเช้าเหล่าทหารต่างตีฆ้องร้องป่าว เพื่อเฉลิมฉลองที่วันนี้จะประกาศราชโองการแต่งตั้งฮองเอาพร้อมกับข่าวดีที่ว่าฮองเฮากำลังทรงพระครรภ์ซ่างกวนหลิวหยางและหลี่ว่านถิงแต่ชุดเข้าเฝ้าเรียบร้อยแล้ว วันนี้คู่แฝดอยู่จวนเพราะว่าเป็นงานราชพิธี อาจจะทำให้เด็กทั้งสองเบื่อหน่าย อาจจะงอแงอีกด้วย เมื่อถึงเวลาทั้งสองก็ออกจากจวนเดินทางเข้าวังหลวง หลี่ว่านถิงไปหาหลี่ไฉ่หงก่อนเพื่อพุดคุย"พี่ว่านถิง ข้าคิดถึงท่านที่สุดเลย เหตุใดท่านมาหาข้าบ่อยๆไม่ได้เล่า""พระสนม ทรงโตแล้วนะเพคะ จะมางอแงไม่ได้อีกหน่อยต้องปกครองวังหลังต้องเข้มแข็งและหนักแน่น อีกเจ็ดวันหม่อมฉันจะไปดินแดนตะวันออกแล้ว ทรงอยู่ทางนี้หากมีเรื่องอันใดก็เรียกหาพี่หลิงหลิงนะเพคะ""แต่ข้าคิดถึงท่านนี่ หรือว่าบอกท่านอาหย่ง เอ่อ บอกฝ่าบาทว่าพี่เขยไม่ต้องไปดินแดนตะวันออกแล้วดีหรือไม่"หลี่ไฉ่หงเริ่มงอแง นางมาที่นี่นอกจากหลี่ว่านถิง ฟ่านหลิงหลิงแล้วนางไม่รู้จักใครเลย ฮ่องเต้กำลังจะเรียกเหลียนจางหมิ่นมารับตำแหน่งที่เมืองหลวง พี่สาวนางหลี่ไฉ่เหยียนจะได้มาด้วย แต่นั่นอีกตั้งหกเดือนฟ่านหลิงหลิงที่ใกล้คลอดเต็มทีพยุงครรภ์ใกล้คลอดเดินมาหาก่อนจะเอ่ย"พระสนม อ
ซ่างกวนหลิวหยางโอบไหล่มนเอาไว้ ก่อนจะจุมพิตหน้าผากนาง"เจ้าไม่โกรธเกลียดนาง อีกทั้งยังให้อภัยน้องหญิงไม่กลัวว่าวันหน้านางจะหันกลับมาทำร้ายเจ้าหรือ""นางไม่ได้เลวร้ายโดยเนื้อแท้ หลังจากที่หม่อมฉันจำทุกอย่างได้ ทั้งจวนมีเพียงนางที่ดีต่อท่านแม่ นางมักแอบเอาของกิน แอบเอาถ่านไม้ หรือผ้าห่มมาให้เสมอ อย่างที่นางบอกนางคิดว่าท่านแม่ทอดทิ้งนาง สกุลโจวให้ความสนใจเพียงโจวจื่อทงเท่านั้น หม่อมฉันกับนางไม่ต่างกันผิดแค่หม่อมฉันมีท่านคอยปกป้อง แต่นางไม่มีใครเลย กลับกันเถอะเพคะวันนี้ต้องเขาวังไปร่วมงานเลี้ยงฉลองที่ไฉ่หงตั้งครรภ์""อืม ไปเถอะ"ซ่างกวนหลิวหยางช้อนอุ้มร่างบางที่ตอนนี้หน้าท้องเริ่มนูนออกมาอย่างเห็นได้ชัดเจน นางตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว ว่างกวนหลิวหยางรับราชโองการไปปกครองดินแดนตะวันออกเรียบร้อยแล้ว คู่แฝดถูกแต่งตั้งเป็นองค์หญิงเพราะเป็นบุตรีคู่แรกที่กำเนิดในราชสกุลซ่างกวนปลายยามโหย่ว รถม้าก็มาถึงวังหลวง งานเลี้ยงกำลังจะเริ่ม มีโคมไฟประดับประดามากมาย ด้านหน้าที่นั่งของเหล่าขุนนางทั้งหลายมีอาหารหลากหลาย บางอย่างล้วนแปลกใหม่ พระชายาชินอ๋องทรงเป็นผู้บุกเบิกอาหารเหล่านั้น ตอนนี้หลายอย่างกำลังนิย
มาถึงเมืองหลวงได้เกือบเดือนแล้ว หลี่ว่านถิงที่ตอนนี้อยู่ที่จวนสกุลโจว บรรดาครอบครัวเดิมของสกุลโจวถูกเนรเทศไปจนหมด แม้กระทั่งบ่าวไพร่ก็เช่นกันถูกขายออกไป คนที่สอบแล้วไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ให้เป็นทาสหลวงหลี่ว่านถิงมองคนงานก่อสร้างกำลังรื้อป้ายจวนออก ต้นไม้บางต้นนางสั่งให้โค่นทิ้ง เรือนเล็กด้านหลังที่หลี่ว่านถิงเคยอยู่นางปรับปรุง ปิดประตูเล็กกั้นออกจากเรือนหลักหลี่ว่าถิงสั่งบ่าวไพร่ที่ตามมาให้ไปจัดการข้าวของในจวน ก่อนที่ตนเองจะเดินไปยังเรือนหลังเล็ก สตรีนางหนึ่งนั่งเหม่ออยู่ที่ศาลาริมน้ำ"เพ่ยเพ่ย ไปเฝ้าด้านหน้าอย่าให้ใครเข้ามา""เพคะพระชายา"สาวใช้คนใหม่รับคำสั่งก่อนจะปิดประตูเชื่อมเรือนหลักลง แล้วยืนเฝ้าที่ประตู หลี่ว่านถิงเดินไปจนถึงร่างผอมบางที่นั่งเหม่อมองไปด้านหน้า บุรุษนึงกำลังเช็ดใบหน้าให้นางอย่างถนอม เขารักนางมากตลอดเวลาแต่นางกลับมองไม่เห็นความรักนั้น ถูกใช้เป็นเครื่องมือจนกลายเป็นเช่นนี้"คุณหนูโจว ไม่พบกันเสียนานระหว่างเรามีหลายเรื่องให้พูดคุย ข้าจะไม่พูดถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้ว แต่จะถามเจ้าว่าอยากอยู่หรืออยากไป"โจวลิ่วผิงหันหน้ามาตามเสียง ก่อนจะเมินไม่ตอบคำถามนาง หลี่ว่านถิงไ
ยามอิ๋นหลี่ว่านถิงตื่นขึ้นมา ยังจำความฝันได้ดี เธอมองหน้าซ่างกวนหลิวหยาง มือบางลูบไล้ใบหน้าของเขา ซ่างกวนหลิวหยางลืมตาจับมือนางเอาไว้มาแนบอก“เป็นอะไรเด็กดีของพี่ นอนไม่หลับหรือ”ซ่างกวนหลิบหยางลูบหลังเบาๆ หลี่ว่านถิงกระเถิบตัวเข้าหาเขาอีก ซ่างกวนหลิวหยางกระขับอ้อมกอด“น้องหญิงเจ้าหนาวหรือ พี่เพิ่มผ้าห่มอีกดีไหม หรือเพิ่มถ่านในเตาอุ่นดี”“พี่หลิวหยาง โจวหว่านถิงนางไปแล้วเพคะ ครั้งนี้นางไปจริงๆ แล้ว”“หืม ฝันเห็นนางหรือ นางมาบอกว่าอย่างไร”“นางบอกขอบคุณที่หม่อมฉันรักท่าน ขอบคุณที่ยอมรับคู่แฝด นางไปเกิดเป็นบุตรสาวของพี่สะใภ้หม่อมฉันเพคะ คุณแม่อยากได้หลานสาวสักคนตอนนี้สมหวังแล้ว เพราะพี่ชายหม่อมฉันมีบุตรชายแล้วสามคน ไม่มีบุตรสาวเลย”“เป็นเช่นนี้ พี่จะได้สบายใจสักที”“จริงสิหม่อมฉันรู้สึกเหมือนทุกคืนท่านนอนไม่ค่อยหลับนะเพคะ”“พี่เคยรักโจวหว่านถิง แต่กลิ่นกายเจ้าแปลกไปตั้งแต่ขึ้นมาจากทะเลสาบ พี่รู้ว่าเจ้าความจำเสื่อมจึงไม่คิดมาก จนกระทั่งพี่หาเจ้าเจอ พี่เอาเปรียบเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่าจนแน่ใจแล้วว่าเจ้าไม่ใช่นางจริงๆ ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะเจ้าจำพี่ไม่ได้แต่เป้นอีกคน จนกระทั่งนางมาเข้าฝันว่านางเ