“แปลกคนเสียจริง”
อคิราห์บ่นขณะที่มองตามศศินาเดินออกไปจากห้องทั้งที่ยังคุยกันไม่เข้าใจด้วยซ้ำ แต่ความแปลกของสถานที่ก็ยังคงดึงความสนใจของอคิราห์ให้กวาดตามองไปรอบๆห้องแบบหยุดไม่ได้เช่นกัน พอรู้ว่าศศินาไม่ใช่ผีสางนางไม้ที่ไหนก็เลยพอวางใจลงบ้าง มือหนาลูบที่เตียงไปมาก่อนจะจับผ้าห่มผืนหนาที่ตัวเองนั่งทับอยู่
“อืม นุ่มมาก ถึงว่าหลับสบายซะจนไม่อยากตื่นเลยทีเดียว ต้องไปบอกให้ช่างทำเครื่องเรือนทำให้บ้างเสียแล้ว ว่าแต่กลิ่นหอมนี่มันออกมาจากที่ใดกัน”
อคิราห์หยิบผ้าห่มขึ้นมาสูดดมก่อนจะหลับตาพริ้มด้วยความพอใจ พอนึกได้ว่านี่ไม่ใช่ของตัวเองก็รีบวางลงพร้อมจัดให้เข้าที่เข้าทางแล้วโดดลงจากเตียงทันที
“แม่หญิงนั่น หายไปที่ใดกันนะ”
ร่างสูงค่อยๆเดินไปทางที่ศศินาเดินหายไปเมื่อครู่ ขณะที่สายตาก็สำรวจทุกอย่างไม่หยุดด้วยความสนอกสนใจปนความตื่นเต้น ไม่ว่าจะเป็นของชิ้นไหนที่เห็นก็ไม่มีเหมือนที่เรือนตัวเองสักชิ้นเดียว นอกจากการใช้งานที่เหมือนกันเช่นเตียงเมื่อครู่ กับโต๊ะเก้าอี้ที่เห็นในห้องที่เพิ่งออกมาเจอตอนนี้
“นี่มันคือสิ่งใดอีก ไยถึงประหลาดนัก”
อคิราห์เดินเข้าไปมองจอทีวีติดผนังเครื่องใหญ่ใกล้ๆ เงาสะท้อนจากจอยิ่งทำให้ขมวดคิ้วพลางนึกไปว่านี่คือกระจกที่แปลกที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา
“นี่ต้องเป็นกระจกมนต์ดำแน่ๆ แม่หญิงศศินานั่นไม่รู้หรือว่าแบบนี้ไม่เป็นมงคลเสียเลย”
อคิราห์ว่าพลางจับลูบไปตามขอบทีวีจอยักษ์เพื่อหาสิ่งที่คิดว่าอาจจะเป็นสิ่งอัปมงคลได้ ก่อนจะสะดุ้งร้องโวยวายอย่างตกใจสุดขีดเมื่อบนจอสีดำเมื่อครู่ ปรากฏภาพคนและมีเสียงออกมา
“อ๊ากกก ใครกัน! พวกเจ้าเป็นใครถึงได้ใช้คาถาอาคมแปลกประหลาดเช่นนี้ได้ หยุดเดี๋ยวนี้! ข้าบอกให้หยุดได้ยินหรือไม่!”
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ คุณเป็นอะไร!”
ศศินาที่ได้ยินเสียงรีบวิ่งออกมาจากห้องครัวเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น เธอมองทีวีที่เปิดอยู่ก่อนจะเห็นว่าอคิราห์มุดตัวหลบอยู่ตรงข้างๆโซฟาก็รีบเข้าไปดูใกล้ๆ
“คุณ ใจเย็นๆก่อนเป็นอะไร”
“เจ้า เจ้าเห็นสิ่งนั้นหรือไม่ เจ้าไม่กลัวมันเลยงั้นรึ”
“กลัวเหรอ กลัวอะไรคะ”
ศศินาถามพลางขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ ก่อนจะมองตามนิ้วอีกคนที่ชี้ไปทางทีวีก็เข้าใจได้ในทันที จะกลัวก็ไม่แปลกหรอกนี่มันคงมหัศจรรย์เกินไปสินะพ่อพระเอกหลงยุค
“อ้อ…กลัวทีวีสินะ ไม่ต้องกลัวหรอก นี่เรียกว่าทีวีเอาไว้ดูเฉยๆมันทำอะไรคุณไม่ได้หรอก”
“เอาไว้ดูงั้นรึ เจ้าหมายความว่าอย่างไร ข้าเกิดมายังไม่เคยพบเห็นมาก่อน นี่มันไม่ใช่คาถาอาคมที่ใครทำใส่เรือนเจ้าหรอกหรือแม่หญิง”
“ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่คาถาอาคมหรือสิ่งเหนือธรรมชาติใดๆทั้งสิ้น ตอนนี้เชิญคุณลุกขึ้นมานั่งรอดีๆก่อนได้มั้ยคะฉันหิวข้าวมาก แล้วเดี๋ยวฉันจะมาอธิบายทุกอย่างให้คุณฟังเอง แต่ตอนนี้คุณช่วยนั่งรอเฉยๆก่อนอย่าเพิ่งไปแตะต้องอะไรทำ ได้มั้ยคะ”
ศศินาปิดทีวีแล้วหันมาบอกด้วยความอ่อนใจ เธอคิดว่าวันหยุดยาวนี้ของเธอคงได้เหนื่อยแบบไม่จบไม่สิ้นแน่ ไม่ใช่แค่หาคำตอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่เธอยังต้องคอยดูแลพ่อพระเอกหลงยุคที่ระแวงทุกสิ่งทุกอย่างไปด้วยนี่สิ จะบ้าตายจริงๆ
“ได้สิ ข้าจะรอตรงนี้ก็แล้วกัน”
อคิราห์ที่เพิ่งได้สติก็ลุกขึ้นมานั่งบนโซฟาตัวยาว ก่อนจะกอดอกวางมาดอีกครั้งเพราะเผลอหลุดกิริยาไปไม่น้อย ศศินาพ่นลมหายใจออกมาพลางพยักหน้าปลงๆ ก่อนจะรีบไปจัดการกับมื้อเช้าที่ทำค้างไว้ต่อ ได้แต่ภาวนาให้อคิราห์นั่งนิ่งอย่างที่ว่าจริงๆซะที ไม่งั้นวันนี้ไม่ต้องได้ทำอะไรกันแน่
“นี่คือสำรับเช้าของเจ้างั้นรึ”
อคิราห์ถามเสียงสูงพลางขมวดคิ้วทันทีที่ศศินาวางถาดอาหารเช้าลงบนโต๊ะหน้าทีวี ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมองพลางนิ่วหน้าอย่างไม่วางใจจนศศินามองค้อนด้วยความหมั่นไส้ ไม่บอกก็รู้ว่าพ่อพระเอกหลงยุคนี่กำลังดูถูกข้าวเช้าของเธอ
“ใช่ ทำไมคะคุณมีปัญหาอะไรกับข้าวเช้าที่ฉันอุตส่าห์ทำมาเผื่อคนแปลกหน้าที่บุกรุกห้องแบบคุณงั้นเหรอ”
“ข้าก็แค่ถาม ไยเจ้าประชดประชันเก่งนักเล่าแม่หญิง”
“งั้นก็เลิกถามแล้วกินเถอะค่ะ หิวจะตายอยู่แล้ว”
“เจ้าช่างพูดจาหยาบคายยิ่งนัก หากอยู่ที่เรือนข้า…”
“เกรงว่าตอนนี้คุณอยู่ในเรือนคนอื่นค่ะ จะกินดีๆมั้ยคะ”
ทั้งคำพูดและสายตาที่เต็มไปด้วยความจิกกัดนั่น ทำเอาอคิราห์กลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอและนั่งตัวตรงทันที
“งะ งั้นก็ขอบใจเจ้ามาก แล้วข้าจะตอบแทนให้นะแม่หญิง”
“เชิญเจ้าค่ะ”
“พูดเรื่องจริงไงครับ ผมอยากมีลูกเยอะๆเคยบอกแล้วนี่นา”อคิราห์บอกพลางทำหน้ามุ่ยเหมือนเด็กขัดใจ ศศินาเลยบีบแก้มอีกคนอย่างหมั่นไส้แล้วบ่นออกมาไม่จริงจังนัก“เลี้ยงคนแรกให้รอดก่อนเถอะค่ะพ่อคนขี้เห่อ”“คุณแม่ดุมากต้องจัดการซะแล้ว”อคิราห์บอกด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ ในแบบที่ศศินารู้ทันทีว่าจะโดนเอาเปรียบแต่ก็ไม่เคยทันเพราะอีกคนก้มลงมาปล้นลมหายใจเธอไปด้วยจูบที่หวานล้ำอีกแล้ว“อื้อ…”—-------“ลูกพ่อ ฮึก…”“แสง นี่คุณร้องไห้เหรอคะ”ศศินาเลิกคิ้วถามอย่างไม่อยากเชื่อเมื่อเห็นสามีตัวเองเช็ดน้ำตาป้อยๆจนป้ากชที่ยืนอยู่ห่างๆยังแอบขำออกมา“เปล่าสักหน่อย ผมแค่ดีใจที่ลูกออกมาแล้ว ดูสิครับลูกหน้าเหมือนผมเลยใช่มั้ยที่รัก”อคิราห์ปฏิเสธทั้งที่ตายังเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำสีใส ทำเอาศศินาขำออกมาเบาๆอย่างอดไม่ได้ น่าเอ็นดูซะเหลือเกินคุณพ่อที่เพิ่งได้เห็นหน้าลูกเนี่ย แถมยังเป็นลูกแฝดชายหญิงที่หาได้ยากซะด้วย ไม่รู้เธอโชคดีหรืออคิราห์ร้องขอจากพระจันทร์ทุกคืนกันแน่ คนที่เลือกไม่ได้เพราะอยากได้ทั้งลูกชายลูกสาว ผลสุดท้ายเลยได้มาทั้งคู่อย่างน่าอัศจรรย์แบบนี้“แค่กี่วันเองจะดูออกเลยเหรอคะ คนอะไรขี้เห่อมาก”“ลูกน่ารักตั้งสอง
“อื้อ…”ศศินาที่ไม่ทันได้ทักท้วงถูกอีกคนปล้นจูบไปจนได้ มือเล็กขยุ้มอกเสื้ออีกคน ใบหน้าสวยถูกจับให้เงยรับจูบที่แสนหวาน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นดูดดื่มและเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆจนต้องทุบอกแกร่งแรงๆหลายที อคิราห์เพียงละออกมาให้ภรรยาหอบหายใจแล้วก็ประกบลงไปกลืนกินความหวานจากปากเล็กครั้งแล้วครั้งเล่าเท่าที่คิดถึงมาหลายวัน จนกระทั่งศศินาตัวอ่อนเปลี้ยในอ้อมแขนอีกคน และอคิราห์เองก็เริ่มจะหักห้ามใจไม่ไหวจนกลัวจะเลยเถิดถึงได้หยุดจูบที่ยาวนานนั้นได้“ทำอะไรคะเนี่ย เดี๋ยวป้ากชก็มาเห็นหรอก”ศศินาฟาดไปที่แขนแกร่งแรงๆพลางบ่นออกมาทั้งที่ใบหน้าแดงก่ำ อคิราห์ยิ้มพลางลูบแก้มเนียนที่ขึ้นสีแผ่วเบาแล้วบอกออกมาด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าเพราะกำลังปรับอารมณ์อยู่ การห้ามใจไม่ให้เกินเลยกับภรรยาตัวเองนี่มันทำร้ายกันชัดๆอคิราห์ไม่ชอบเลย“ป้าเค้าไม่ว่างหรอกครับ กำลังทำมื้อเย็นอยู่ในครัวนู่น ว่าแต่คุณแม่ของลูกผมหิวรึยังครับ”“หิวค่ะ”“งั้นก็ไปทานข้าวเย็นกันดีกว่า ผมซื้อของมาฝากเยอะเลยที่รักต้องชอบแน่ๆ”อคิราห์ชวนพลางจับคนตัวเล็กให้ค่อยๆลุกขึ้นมาจากที่นั่งด้วยความระมัดระวัง “น่ารักจังเลยคนนี้”“สามีคุณเองครับ รักผมให้มากๆด้วย”คนต
กล่องดนตรีไม้ถูกจับมาหมุน เสียงดนตรีแสนไพเราะดังขึ้นอีกครั้งท่ามกลางลมหนาวของเดือนธันวาคม เส้นผมยาวสีดำขลับพริ้วไหวคลอเคลียใบหน้าหวาน ดวงตาคู่สวยเหม่อมองไปยังภูเขาที่อยู่ไกลลับตา ราวกับจะมองไปให้ถึงคนที่อยู่ไกลแสนไกล คนที่ทำให้เธอเฝ้าคิดถึงมาหลายวันจนมองอะไรก็น่าเบื่อไปหมด ไม่รู้ว่าป่านนี้จะคิดถึงเธอเหมือนกันหรือเปล่า เพราะกิจการคาเฟ่ของอคิราห์ไปได้ดีกว่าที่คิด เลยมีคนติดต่อขอให้ไปเปิดอีกสาขาที่กรุงเทพ เนื่องจากมีลูกค้าหลายคนติดใจขนมและเครื่องดื่มที่มีขายเฉพาะที่นี่ อคิราห์เองก็ไม่อยากขายสูตรที่คิดขึ้นมาให้คนอื่นไปทำเพราะกลัวว่าจะผิดเพี้ยนไปจากเดิม เลยปรึกษากับศศินามาสักพักจนได้ข้อสรุปว่าเราจะไปเปิดอีกสาขาที่นั่น โดยจ้างคนดูแลและไปตรวจทานด้วยตัวเองบ่อยๆแทน พอได้พื้นที่ที่ต้องการอคิราห์เลยต้องไปดูแลการรีโนเวทร้านขึ้นมาให้เหมือนกับสาขานี้มากที่สุด ถึงแม้จะยกธรรมชาติที่เขาใหญ่ไปนู่นไม่ได้ก็ตาม อย่างน้อยก็สร้างพอให้ได้บรรยากาศเพื่อลูกค้าที่โหยหาธรรมชาติสักนิดก็ยังดี ส่วนเหตุผลที่ศศินามานั่งเหม่อคิดถึงสามีสุดหล่ออยู่ตรงนี้ ก็เพราะอคิราห์ไม่ยอมให้ไปด้วยเพราะกลัวว่าภรรยาจะเหนื่อยเกินไปที่ต
“รู้แล้วครับ ผมจะค่อยๆนึกนะ อืม เรื่องของที่ข้ามมาที่นี่ได้ท่านบอกไว้ว่าเพราะการที่ของโลกนู้นมาโผล่ที่นี่มันไม่แปลกเพราะเป็นของสมัยเก่าที่เคยมีมาแล้ว แต่การที่ของโลกนี้ไปที่นู่นไม่ได้เพราะยังไม่เคยมีสิ่งของพวกนี้มาก่อนครับ”“อย่างนี้นี่เอง ถ้าข้ามไปได้มันจะผิดจากยุคสมัยที่ควรเป็นสินะ”ศศินาพยักหน้าเข้าใจ ถ้าคนเรานำสิ่งของข้ามเวลาไปอดีตได้จริงคงได้วุ่นวายน่าดู เพราะหากใครย้อนเวลาหรือข้ามมิติได้ก็คงอยากเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่างจนโลกวุ่นวายไปหมดแน่ๆ “ส่วนตัวตนของคุณ เพราะโลกนั้นเป็นโลกที่ท่านสร้างขึ้นเองเลยมีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงต้นฉบับทุกอย่าง แต่กับโลกปัจจุบันนี้ท่านไม่มีอำนาจเปลี่ยนแปลงอะไรมากนักนอกจากโชคชะตาจะกำหนดไว้แล้วครับ”“อ้อ นักเขียนคือพระเจ้านี่เองศิก็ลืมไป”“ครับ ท่านบอกผมอย่างนั้นเหมือนกัน ตอนแรกผมก็โมโหมากที่ท่านมาล้อเล่นกับชีวิตคนอื่นแบบนี้ แต่สุดท้ายก็ต้องขอบคุณอยู่ดีไม่งั้นผมคงไม่ได้มาพบคุณ”“งั้นสุดท้าย ทำไมเราสองคนถึงได้ถูกกำหนดให้มาเจอกันทั้งที่อยู่คนละโลกแบบนี้คะ”ศศินาถามอย่างสุดท้ายที่สำคัญมากๆ ถึงจะรู้สึกขอบคุณแต่ก็ยังไม่หายสงสัยอยู่ดีว่าอะไรที่ทำให้เกิดเรื่องรา
บ่ายวันนึงของหน้าร้อนที่คู่แต่งงานใหม่พากันไปนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่หลังบ้าน มองดูสวนผลไม้หลากชนิดและยอดเขาที่เห็นไกลๆ กลิ่นหอมจากดอกไม้รอบบริเวณลอยมากับลมเย็นๆจากธรรมชาติ สร้างความรู้สึกผ่อนคลายให้กับช่วงเวลาที่พระอาทิตย์สว่างจ้าจนแสบตาแบบนี้ได้ไม่น้อย ศศินาเอนตัวลงนอนบนตักของสามีพลางหลับตาพริ้มอย่างอารมณ์ดี ขณะที่อคิราห์ทอดสายตาที่เต็มไปด้วยความรักมองภรรยาคนสวยแล้วลูบผมอีกคนแผ่วเบา ศศินาคว้าเอามือหนาไปกุมไว้แนบแก้มก่อนจะถามเรื่องที่เคยสงสัยมานานตั้งแต่ที่เราได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ถึงจะเคยคุยกันไปแล้วบ้างแต่ด้วยตอนนั้นเกิดเรื่องขึ้นมากมายจนไม่ได้ถามรายละเอียดมากนัก “แสงคะ” “ครับ” “ยังจำตอนที่คุณกลับไปครั้งสุดท้ายได้มั้ย” “ได้ครับ ทำไมเหรอ” “ตอนนั้นคุณบอกว่าไปเจอคุณนักเขียนที่เขียนหนังสือเรื่องนั้นมาใช่มั้ยคะ” “ครับ คนที่คุณตานักปราชญ์เคยบอก แต่มันเหมือนความฝันมากกว่าถึงตอนที่คุยกันจะเป็นจริงก็เถอะ” อคิราห์บอกยิ้มๆ พอนึกถึงภาพตอนนั้นก็รู้สึกเลือนลางขึ้นมาแม้จะจำได้ทุกอย่างแล้วก็ตาม ยังไม่อยากเชื่ออยู่ดีว่าจะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นมาจริงๆ หากไม่มีเสื้อผ้ากับของที่มาจากโลกนู้นอยู่
“อ๊าาา อะ อย่า อื้อ”บั้นท้ายงอนงามยกขึ้นอย่างเสียดเสียวเมื่อถูกลิ้นสากละเลงลงไปบนกลีบบอบบาง ติ่งเสียวที่ไวต่อความรู้สึกถูกดูดดุนจนตัวกระตุกสั่นไปหมด วันนี้อคิราห์ร้อนแรงเป็นพิเศษแบบที่ไม่เคยทำแบบนี้กันมาก่อนเลย ถึงจะเคยทำในห้องน้ำแต่ก็แค่ในอ่างแบบเมื่อกี้หรือยืนอยู่บนพื้นในท่าหันหลังเท่านั้น ไม่เคยถูกพามานั่งบนนี้สักครั้งและศศินาก็เพิ่งรู้ว่าการเปลี่ยนที่มันก็เปลี่ยนความรู้สึกไปด้วยเช่นกัน เหมือนตอนนี้ที่เธอหูอื้อตาลายไปหมด สติเริ่มถูกพรากไปกับความกระสันเสียวที่อีกคนมอบให้ไม่รู้จบ อคิราห์กำลังจะทำให้เธอเป็นบ้า ด้วยปากและลิ้นที่ละเลงใส่เธอไม่หยุด แม้แต่เสียงครางตอนนี้ศศินายังไม่อยากเชื่อว่ามันออกมาจากปากของเธอ มันดูร่านร้อนและยั่วยวนจนน่าอาย แต่เธอควบคุมหรือต่อต้านอะไรไม่ได้เลย ในเมื่อร่างกายมันซ่านเสียวจนโอนอ่อนตามอีกคนไปหมดแบบนี้“ฮึก แสง อ๊าา”ร่างบางกระตุกสั่น ปลดปล่อยออกมาอีกครั้งอย่างง่ายดาย อคิราห์ปาดเลียน้ำรักกลืนกินก่อนจะยืดตัวขึ้นแล้วกดกระแทกตัวตนที่แข็งขืนเข้าไปทันทีจนศศินาครางเสียงหลง“อ๊ะ อ๊าา”แขนเล็กกอดคอหนาเอาไว้แน่น อคิราห์ไม่ได้เว้นให้เธอที่กำลังเสร็จแม้แต่น้อย ร่าง
“อ๊าาา อะ อย่า อื้อ”บั้นท้ายงอนงามยกขึ้นอย่างเสียดเสียวเมื่อถูกลิ้นสากละเลงลงไปบนกลีบบอบบาง ติ่งเสียวที่ไวต่อความรู้สึกถูกดูดดุนจนตัวกระตุกสั่นไปหมด วันนี้อคิราห์ร้อนแรงเป็นพิเศษแบบที่ไม่เคยทำแบบนี้กันมาก่อนเลย ถึงจะเคยทำในห้องน้ำแต่ก็แค่ในอ่างแบบเมื่อกี้หรือยืนอยู่บนพื้นในท่าหันหลังเท่านั้น ไม่เคยถูกพามานั่งบนนี้สักครั้งและศศินาก็เพิ่งรู้ว่าการเปลี่ยนที่มันก็เปลี่ยนความรู้สึกไปด้วยเช่นกัน เหมือนตอนนี้ที่เธอหูอื้อตาลายไปหมด สติเริ่มถูกพรากไปกับความกระสันเสียวที่อีกคนมอบให้ไม่รู้จบ อคิราห์กำลังจะทำให้เธอเป็นบ้า ด้วยปากและลิ้นที่ละเลงใส่เธอไม่หยุด แม้แต่เสียงครางตอนนี้ศศินายังไม่อยากเชื่อว่ามันออกมาจากปากของเธอ มันดูร่านร้อนและยั่วยวนจนน่าอาย แต่เธอควบคุมหรือต่อต้านอะไรไม่ได้เลย ในเมื่อร่างกายมันซ่านเสียวจนโอนอ่อนตามอีกคนไปหมดแบบนี้“ฮึก แสง อ๊าา”ร่างบางกระตุกสั่น ปลดปล่อยออกมาอีกครั้งอย่างง่ายดาย อคิราห์ปาดเลียน้ำรักกลืนกินก่อนจะยืดตัวขึ้นแล้วกดกระแทกตัวตนที่แข็งขืนเข้าไปทันทีจนศศินาครางเสียงหลง“อ๊ะ อ๊าา”แขนเล็กกอดคอหนาเอาไว้แน่น อคิราห์ไม่ได้เว้นให้เธอที่กำลังเสร็จแม้แต่น้อย ร่าง
และตลอดทุกการกระทำนั้น อคิราห์ไม่ได้ละปากออกไปจากเธอแม้แต่นิดเดียว จนตอนนี้ปากอิ่มเริ่มเจ่อบวมเพราะถูกดูดดึงมานาน พอถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ศศินาก็หายใจหอบและต้องแหงนเงยหน้าครางแผ่วอีกครั้ง เมื่ออคิราห์ก้มลงไปดูดกลืนหน้าอกของเธอแทน“อึก อื้อ!”ร่างบางแอ่นอกเข้าหาอย่างซ่านเสียว สองมือจิกขยุ้มที่ผมหนาของอคิราห์อย่างหาที่ระบาย ริมฝีปากอุ่นร้อนที่ขบเม้มดูดดึงยอดอกเธออยู่ทำให้ศศินาไม่อาจต่อต้านความเร่าร้อนของอคิราห์ได้เลย ลิ้นสากที่ลากไล้ละเลงลงไปถี่รัวจนยอดอกชูชันขึ้นมา และถูกดูดกลืนเข้าปากคนตัวโตอย่างมูมมามครั้งแล้วครั้งเล่าจนร่างบางอ่อนระทวย“อา ที่รักครับ ขอใส่เลยนะผมไม่ไหวแล้ว”อคิราห์เงยหน้าถามเสียงพร่า ดวงตาคู่คมเป็นประกายล้ำลึกราวกับจะกลืนกินกันด้วยสายตาจนศศินาใจสั่น ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องถามกันสักนิด แต่ก็ยังจะทำเพราะรู้ว่าเธอจะต้องเขินมากแบบนี้ คนบ้า“อื้อ…”ศศินางึมงำตอบในลำคอพลางซบลงที่ไหล่กว้างด้วยใบหน้าแดงก่ำ ส่วนแข็งขืนที่กำลังทิ่มแทงอยู่ตรงบั้นท้ายเธอยิ่งทำให้ไม่กล้าสบตากับอีกคนยิ่งกว่าเดิมทั้งที่แต่งงานกันมาครบปีแล้ว และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เรามีอะไรกัน แต่อคิราห์ก็ยังทำให้เธอ
“แสง อยู่ไหนคะ” ศศินาเรียกหาคนที่ควรอยู่ในบ้านแต่เดินหาทุกห้องก็ยังไม่เจอ วันนี้เธอออกไปในเมืองตั้งแต่เช้าเพราะมีธุระ ส่วนอคิราห์นั้นติดงานที่ร้านเลยไม่ได้ไปด้วย และวันนี้อคิราห์ก็อาสาจะทำมื้อเย็นเองเพราะเป็นวันครบรอบแต่งงานปีแรกของเรา พอเสร็จธุระศศินาเลยรีบกลับมาเพราะไม่อยากให้อีกคนรอนาน ร่างบางเดินขึ้นบันไดไปชั้นบนเมื่อหาทั่วชั้นล่างแล้วไม่เจอ ได้แต่นึกในใจว่าอาจจะเหนื่อยจนเผลอหลับไปรึเปล่า เลยตรงไปที่ห้องนอนเป็นอันดับแรก พอเปิดประตูเข้าไปไฟที่ติดอยู่ทั้งบ้านก็ดับลง และเพราะตอนนี้มืดแล้วศศินาเลยชะงักเท้าด้วยความตกใจ ก่อนจะต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นแสงสว่างจากเทียนที่จุดไว้หลายที่ในห้อง มันถูกตั้งไว้คู่กับดอกไม้ช่อโตในแจกันทรงสูงและส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั้งห้อง ตั้งแต่ที่ข้างประตู หัวเตียง และริมหน้าต่าง ส่งให้บรรยากาศดูสวยงามและโรแมนติกจนต้องก้าวเดินช้าลงเพื่อเข้าไปมองใกล้ๆ ศศินาก้มลงสูดกลิ่นหอมของดอกไม้หลากชนิดในแจกัน หลักๆคือกุหลาบสีชมพูอ่อนและสีขาวที่เธอชอบ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าทั้งหมดนี่คือฝีมือของอคิราห์ ใบหน้าสวยยิ้มออกมากับความน่ารักที่ถูกจัดเตรียมไว้รอ ก่อนจะสะดุ้งตกใจอีกครั้งเม