LOGINตอนที่ 5 เสียตัวให้คนมีเจ้าของ
สองสาวแต่งตัวสวย และไม่วาบหวิว เนื่องจากอากาศตอนนี้ค่อนข้างเย็น และเธอไม่ได้ไปกันแค่สองคน จึงไม่กล้าจัดเต็มมากนัก ทั้งสองใส่กางเกงยีนส์รัดรูปเอวสูงสีเข้มเหมือนกัน อัญรินทร์สวมเกาะอกสีแดง ด้านนอกสวมทับด้วยเสื้อคลุมสีครีม เอวาสวมเสื้อครอปเอวลอยสีดำ “โห ทำไมผับนี้มันกว้างขวางหรูหราแบบนี้เนี่ย” อัญรินทร์พูดพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบๆผับด้วยท่าทางตื่นเต้น เธอเดินตามหลังพี่ชายเข้าไปในผับหรู เอวาเดินอยู่ข้างๆเพื่อนสาว ร่างสูงเดินนำเข้าไปยังโซนวีไอพี “สวัสดีครับคุณนัส เชิญด้านนี้นะครับ คุณจอห์นเตรียมเครื่องดื่มไว้แล้ว อีกยี่สิบนาที คุณจอห์นจะลงมาครับ” พนักงานชายอายุประมาณยี่สิบปลายๆ บอกกับอานัส เขาพยักหน้าตอบกลับ และเดินตามหลังพนักงานคนดังกล่าวไปยังโต๊ะที่เตรียมไว้ (พรึ่บ) สองสาวนั่งลงโซฟาตัวเดียวกัน อานัสนั่งโซฟาตัวถัดไป “พี่นัส เครื่องดื่มเยอะเลย ผึ้งขอลองได้ป่ะ” อัญรินทร์พูดกับพี่ชายก่อนจะเม้มปากอมยิ้ม “แล้วน้องเอวาดื่มเป็นหรือเปล่า ถ้าดื่มเป็นก็พากันดื่มเลย แค่ไวน์นะ” ที่อานัสต้องถามบอกนั้น เพราะเขาเห็นเอวาท่าทางเรียบร้อยกว่าน้องสาวของเขา “เอวาดื่มเป็นค่ะ” เอวาตอบกลับ “ไม่ใช่แค่ดื่มเป็นนะ ยัยเอวาดื่มเก่งมาก” เอวาถึงกับทำหน้าเจื่อน เมื่อเพื่อนสาวของเธอกำลังพูดความจริงออกมา อานัสไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่น้องสาวพูดสักเท่าไหร่ “งั้นก็ดื่มเลยนะ ถ้าอยากจะเต้นก็ไปเต้นเลย แต่ห้ามให้ผู้ชายมาเข้าใกล้ ตกลงไหม” “ตกลงค่ะ คุณพี่ชาย” อานัสพูดกับน้องสาวแต่สายตาของเขาเอาแต่มองเอวาอยู่ตลอด หญิงสาวพอจะรู้ ว่าพี่ชายของเพื่อนจ้องมองเธอเกินกว่าคนปกติมองกัน “ตกลงไหมครับ น้องเอวา” เขาหมายถึงเรื่องที่เขาบอกว่าไม่ให้เข้าใกล้ผู้ชาย “ตกลงค่ะ พี่นัส” สองสาวยกแก้วขึ้นมาชนกันแล้วกระดูกดื่มน้ำสีแดงจนหมดแก้ว จากนั้นจึงจูงมือกันออกไปเต้น (ครืดครืด) โทรศัพท์ของอานัสที่วางอยู่บนโต๊ะกระจกกำลังสั่นอย่างต่อเนื่อง เขาหยิบขึ้นมากดรับสายทันที “ว่าไงไอ้เสือ” เป็นสรวิชญ์ที่โทรเข้ามาหาอานัส “มึงถึงผับหรือยังวะ กูใกล้จะถึงแล้ว” “กูมาถึงแล้ว อยู่โซนวีไอพี มึงเข้ามาเลยนะ” “โอเค” สองสาววาดลวดลายส่ายสะโพกไปมาตามจังหวะเพลงมันๆ “ผึ้ง คอไปโดนอะไรมาอ่ะ ทำไมแดงแบบนั้น ฉันว่าจะถามเธอตั้งแต่ตอนเย็นแล้ว แต่ไม่กล้าถามเพราะพี่ชายของเธออยู่ด้วยน่ะ” เอวาถามเพื่อนรัก ขณะที่ทั้งสองกำลังเต้นหันหน้าเข้าหากัน “เอ่อ...ฉันแพ้ยาแก้หวัดน่ะ เป็นแบบนี้ประจำนั่นแหละ เมื่อคืนอากาศเย็น น้ำมูกไหล กินยาแก้หวัดด้วย” จะให้พูดความจริงได้อย่างไรว่าเธอถูกผู้ชายแปลกหน้าดูดคอมา “อ๋อ...อืม ฉันก็คิดว่าเธอไปให้แดร็กคูล่าที่ไหนดูดคอ” “จะบ้าเหรอ ไม่มีหรอก” ร่างสูงสวมชุดกางเกงยีนส์สีเข้มและเสื้อเชิ้ตสีดำพับแขนถึงข้อศอก เขาเดินตรงเข้ามาหาเพื่อนที่นั่งอยู่บนโซฟา ในโซนวีไอพี (พรึ่บ) “ไอ้จอห์นอยู่ไหนวะ” สรวิชญ์ถามอานัสทันทีที่เขานั่งลงโซฟาฝั่งตรงข้าม “เดี๋ยวก็มา เออ วันพรุ่งนี้กูจะไปเยี่ยมพ่อกับแม่มึงนะ” อานัสบอกสรวิชญ์ “ไปสิ พ่อกับแม่กูก็อยากเจอมึงเหมือนกัน แล้วนี่แก้วใครวะ” สรวิชญ์มองเห็นแก้ว 2 ใบที่วางอยู่บนโต๊ะ มันมีไวน์อยู่ที่ก้นแก้วทั้ง 2 ใบ “แก้วน้องสาวกูกับเพื่อนน้องสาวน่ะ” “น้องสาวมึงมาลอนดอนเหรอวะ” “ใช่ กำลังเต้นอยู่ตรงโน้น เดี๋ยวก็คงมา” อานัสพยักพเยิดหน้าไปยังทิศทางที่มีกลุ่มคนกำลังเต้นอยู่มากมาย สรวิชญ์ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก “มึงไปให้สาวที่ไหนดูดคอมาวะ ไอ้เสือ” สรวิชญ์ถึงกับสะดุ้ง เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีรอยแดงช้ำจางๆอยู่ที่ข้างซอกคอแกร่ง “มีรอยเหรอวะ” “ก็ใช่สิวะ ถ้าไม่มีกูจะถามมึงเหรอ เปิดกล้องมือถือดูก็ได้” สรวิชญ์รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดกล้องหน้าดูที่ลำคอของตัวเอง เขาถึงได้รู้ว่ามันมีรอยแดงช้ำจางๆอยู่ตรงนั้น “ใครดูดวะ” “ผีดูดคอ” “ไอ้บ้า ไปวันไนท์กับสาวไหนอีกวะ” “ก็บอกว่าเอากับผีไง หึ พูดไปมึงก็ไม่เข้าใจหรอก” “นัสคะ ซาร่าโทรหานัสตั้งหลายครั้ง ทำไมนัสถึงไม่รับสายซาร่าคะ” เสียงของหญิงสาวนางหนึ่งพูดพร้อมกับเดินมานั่งลงโซฟาข้างๆอานัส หญิงสาวเมาจนเซไปมา “เอ่อ...มีอะไรกับผมเหรอซาร่า” อานัสถามหญิงสาว แต่สายตาของเขามองไปยังทิศทางที่อัญรินทร์และเอวากำลังยืนเต้นอยู่ “นัสช่วยไปส่งซาร่าที่ห้องหน่อยสิคะ ซาร่าเมา จำทางกลับห้องไม่ได้” หญิงสาวพยายามออดอ้อนออเซาะอานัส สรวิชญ์ท่าทางงุนงง ปกติเพื่อนของเขาก็ควงกับซาร่าบ่อยๆ ถึงแม้ว่าอานัสจะไม่ได้คบกับซาร่าเป็นแฟน แต่หญิงสาวก็คอยตามตื๊ออานัสอยู่ตลอด และทั้งสองก็เคยมีความสัมพันธ์กันมาแล้ว (คิกๆๆๆๆ) อานัสพิมพ์ข้อความส่งไปในไลน์ของสรวิชญ์ เขาขยิบตาเพื่อส่งสัญญาณให้เพื่อนเปิดอ่านข้อความ นัส : มึงช่วยพาซาร่าไปส่งที่ห้องหน่อยดิวะ เดี๋ยวแผนพัง เสือ : แผนอะไรวะ? นัส : กูกำลังจะจีบเพื่อนน้องสาวว่ะ สรวิชญ์ถึงกับถอนหายใจออกมา เมื่อได้อ่านข้อความจากคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม “ซาร่าจะกลับห้องใช่ไหม” สรวิชญ์ถามหญิงสาวที่เอาแต่นัวเนียเพื่อนรักของเขา หญิงสาวพยักหน้าตอบกลับ “เดี๋ยวผมไปส่ง” “ไม่ ซาร่าจะให้นัสไปส่ง” หญิงสาวมองสรวิชญ์ด้วยหางตา เธอแสดงออกด้วยท่าทางไม่พอใจที่เขามาขัดจังหวะ “ซาร่า ให้ไอ้เสือไปส่งเถอะนะ ซาร่าทำแบบนี้ไม่ดีเลย ผมมากับน้องสาว น้องสาวผมเต้นอยู่ตรงโน้น ถ้าน้องสาวผมมาเห็นซาร่าในสภาพนี้ น้องสาวของผมต้องไปฟ้องพ่อกับแม่ผมแน่ๆ” “ฟ้องแล้วไงคะ” หญิงสาวยังแสดงท่าทางดื้อรั้นและพยายามกอดแขนของอานัส “พ่อกับแม่ของผมเกลียดผู้หญิงขี้เมาครับ ถ้าน้องสาวผมมาเห็นซาร่าในสภาพนี้ แกต้องถ่ายคลิปส่งไปให้พ่อกับแม่ของผม และผมก็ต้องกลับไปเรียนที่ไทย” (พรึ่บ) “งั้นซาร่ากลับแล้วนะคะ ให้เสือไปส่งก็ได้” หญิงสาวลุกขึ้นยืนแทบจะทรงตัวไม่อยู่ สรวิชญ์ต้องลุกขึ้นยืนข้างๆ เขาจำเป็นต้องประคองหญิงสาวให้เดินออกจากผับ ตามคำขอของเพื่อนรัก สองสาวกำลังเต้นด้วยความสนุกสนาน แต่แล้วอัญรินทร์ก็ต้องตกใจ จนหัวใจเต้นแรง “เป็นอะไรผึ้ง” เอวาถามเพื่อนรักทันทีที่เห็นเพื่อนหยุดเต้น และทำหน้าเศร้าเล็กน้อย “เปล่า ไม่มีอะไร ฉันเมา” อัญรินทร์ตอบกลับเพื่อนสาวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ดวงตากลมโตเอาแต่มองผู้ชายที่เธอเพิ่งจะมีความสัมพันธ์กับเขาไปเมื่อคืน เธอไม่คาดคิดว่าจะได้เจอเขาอีกครั้ง และเขากำลังประคองหญิงสาวชาวเอเชียนางหนึ่ง เดินไปตรงทางออกของผับแห่งนั้น “ฉันเสียตัวให้คนมีเจ้าของเหรอวะ บ้าที่สุด” อัญรินทร์พูดพึมพำในลำคอ เธอรู้สึกจุกในอก จนอยากจะดื่มแอลกอฮอล์ให้เมาหนักๆ เธอจะได้ลืมเรื่องทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้น ----------------------------------------- น้องน้ำผึ้งกำลังเข้าใจผิด ส่วนพี่เสือก็คิดว่าน้องเป็นผี ฝากติดตามตอนต่อไปพรุ่งนี้ กดไลค์คอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะตอนที่ 33 ผีสาวสุดที่รัก(ตอนจบ)สามเดือนต่อมา“พี่เสือคิดยังไงถึงอยากจะไปปาร์ตี้วันฮาโลวีนที่ลอนดอนคะ”อัญรินทร์ถามสรวิชญ์ ขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งรอเวลาขึ้นเครื่อง เพื่อที่จะเดินทางไปประเทศอังกฤษ“ก็พี่อยากไปฉลองวันครบรอบสองปีที่พี่ได้เจอน้องผึ้งไงครับ ถึงแม้ว่าเรื่องราวในคืนนั้นจะเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว แต่มันก็มีความหมายสำหรับพี่มาตลอด น้องผึ้งก็ชอบไม่ใช่เหรอครับ”“ใช่ค่ะ ผึ้งชอบเทศกาลฮาโลวีนที่ลอนดอนมาก มันสนุกและตื่นเต้นมาก แต่ผึ้งก็ไม่ได้คิดว่าจะไปที่นั่นอีก เพราะพี่นัสเรียนจบแล้ว แต่ก็ยังดีที่พี่สะใภ้ของผึ้งคือเอวา อย่างน้อยผึ้งก็ต้องได้ไปเที่ยวบ้านคุณพ่อคุณแม่ของเอวา”“ครับ พี่ก็เลยถือโอกาสชวนน้องผึ้งไปลอนดอน เพราะอย่างน้อยเอวากับไอ้นัสก็อยู่ที่ลอนดอนอีกตั้งสองเดือน ไปครั้งนี้ พี่จะพาน้องผึ้งเที่ยวให้ทั่วเลยครับ”“ดีจังเลยค่ะ”อัญรินทร์ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ “ไปขึ้นเครื่องกันเถอะครับ”สรวิชญ์และอัญรินทร์ใช้เวลาอยู่บนเครื่องบินราวๆ 12 ชั่วโมง ทั้งสองเดินทางไปที่บ้านของเอวา และอานัสกับเอวาพร้อมครอบครัวของเธอกำลังรอต้อนรับคนทั้งคู่ที่มาเยือน“ตกลงวันฮาโลวีนที่จะถึงนี้ พวกเราจะไปเท
ตอนที่ 32 ผู้หญิงคนนั้นคือว่าที่ลูกสะใภ้งานแต่งของอานัสและเอวาถูกจัดขึ้นภายในคฤหาสน์หรู แขกที่มาร่วมงานล้วนแล้วแต่เป็นญาติสนิทมิตรสหายของฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาว สรวิชญ์อยู่ช่วยงานเพื่อนรัก และค้างคืนที่บ้านของอานัส แต่เขาก็ไม่ได้เข้าไปในห้องนของอัญรินทร์อีก เพราะเขาให้เกียรติเธอและครอบครัว เขาสารภาพความในใจให้บิดามารดาของเธอรับรู้ ผู้ใหญ่ทั้งสองไม่ได้ห้ามพี่สรวิชญ์และอัญรินทร์คบกัน มารดาของเธอรู้สึกยินดีอีกต่างหาก แต่ทางด้านบิดามารดาของสรวิชญ์ยังไม่รู้ว่าผู้หญิงที่ลูกชายหลงรักคือใครกันแน่“เดินเร็วๆสิคุณ แขกมากันเยอะแล้ว ฉันล่ะตื่นเต้นแทนเจ้านัสกับหนูเอวาจริงๆเลย”นางสุวิภาพูดกับสามี ขณะที่ทั้งสองลงจากรถแทกซี่ และกำลังเดินเข้าไปในงานแต่ง “บ้านอานัสใหญ่มากเลยนะคุณ ใหญ่โตมโหฬารกว่าบ้านเราอีก แขกก็มากันเยอะ ดีแล้วที่เรานั่งรถแท็กซี่มา ถ้าขับรถมาเองคงจะเดินไกลกว่านี้”นายวิทวัสพูดพร้อมกับย่างก้าวตามหลังภรรยาเข้าไปในงาน“เอ๊ะคุณ ผู้หญิงคนนั้นมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”นางสุวิภาพูดกับสามี ขณะที่นางมองไปเห็นอัญรินทร์กำลังยืนต้อนรับแขกอยู่กับบิดามารดาของเธอ “คุณหมายถึงใคร คุณวิภา”นายวิทวัสถามภร
ร่างสูงเดินขึ้นบันไดไปยังห้องนอนของอัญรินทร์ทันทีที่บิดามารดาของเธอขับรถออกจากบ้านไป อานัสเป็นคนนำกุญแจมาเปิดห้องของน้องสาวให้เพื่อนรัก สรวิชญ์ปิดประตูแล้วเดินเข้าไปนั่งตรงขอบเตียง เขาจ้องมองดูคนที่กำลังหลับอยู่“! เข้ามาทำไม ใครอนุญาตให้พี่เสือเข้ามาในห้องผึ้ง ออกไปเลยนะ ผู้ชายหลอกลวง!”ตอนที่ 31 ปรับความเข้าใจอัญรินทร์นอนจ้องหน้าสรวิชญ์อย่างเอาเรื่อง เขาเองก็มองเธอด้วยแววตาเศร้าลงเล็กน้อย“พี่จะมาอธิบายเรื่องทั้งหมด พี่ไม่ขออะไรมาก ขอแค่ได้พูดความจริงให้น้องผึ้งฟังทั้งหมด พอพี่เล่าจบแล้ว ถ้าน้องผึ้งยังอยากจะไล่พี่ไป พี่ก็จะไม่มาให้น้องผึ้งเห็นหน้าอีก พี่จะหนีไปไกลๆแบบไม่ต้องเจอใครเลยสักคน”เขาพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า คนฟังรู้สึกว้าวุ่นขึ้นมาทันที แต่ก็ไม่ใช่ว่าเธอจะยอมอภัยให้เขาง่ายๆ เพราะเธอเองก็อยากจะลองฟังเหตุผลของเขาเหมือนกัน“จะพูดอะไรก็รีบพูดมา ผึ้งจะได้นอน”เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงห้วน“พี่กับทับทิมไม่เคยเป็นอะไรกัน ทับทิมเป็นลูกสาวของเพื่อนแม่พี่ แม่พี่ก็เลยอยากได้ทับทิมมาเป็นลูกสะใภ้ ตอนที่พี่กลับจากลอนดอน แม่พี่ถามว่าพี่มีแฟนหรือยัง ถ้ายังไม่มี แม่พี่ก็อยากให้พี่ทำความรู้จักกับ
ตอนที่ 30 ผู้ชายหลอกลวง!เวลาเลยผ่านมาถึงวันที่อานัสและเอวาใกล้จะเข้าพิธีแต่งงาน ว่าที่เจ้าบ่าวนำโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ขึ้นมาต่อสายหาเพื่อนรัก“ว่าไงไอ้นัส โทรมาตั้งแต่เช้าเลยนะ”สรวิชญ์ถามคนที่โทรเข้ามาด้วยน้ำเสียงงัวเงีย “น้ำผึ้งกลับมาบ้านแล้ว”“ว่าไงนะ!”สรวิชญ์ถามกลับด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เขาดีดตัวลุกขึ้นนั่งด้วยความรู้สึกดีใจ“กูไม่จำเป็นต้องพูดซ้ำ จะมาบ้านกูก็รีบมานะ แค่นี้ล่ะ”ร่างสูงรีบลุกจากที่นอนวิ่งไปเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย สรวิชญ์รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ที่วันนี้เขาจะได้เจออัญรินทร์ หลังจากที่ไม่ได้เจอเธอมาเดือนกว่า“วี้ด~วี้ด”เสียงผิวปากเป็นทำนองเพลงดัง ทำให้นางสุวิภาและนายวิทวัสรู้สึกตกใจพอสมควร ลูกชายสุดที่รักกำลังเดินกำลังเดินลงบันไดมา สีหน้าของเขาเบิกบาน แตกต่างจากทุกวันที่ผ่านมา“สะ...เสือ ทำไมวันนี้ถึงได้แต่งตัวหล่อจังเลยลูก เสือจะไปไหน แล้วทำไมถึงได้อารมณ์ดีขนาดนี้ ไม่สบายหรือเปล่าลูก ให้แม่กับพ่อพาไปหาหมอดีไหม”นางสุวิภาถามลูกชายที่ดินผิวปากอยู่แบบนั้น“ผมจะไปง้อเมียผมครับ”สรวิชญ์พูดพร้อมกับยิ้มอย่างคนมีความสุขสุดๆ“เมีย!...แล้วผู้หญิงคนนั้
“คือ...กู...กูคิดถึงน้องสาวมึง”“คิดถึงน้องกู! มึงจะบ้าหรือเปล่า มึงจะไปคิดถึงน้องสาวกูทำไมวะ”อานัสยังคงแสดงท่าทีงุนงงกับสิ่งที่เพื่อนรักของเขาพูดออกมา“อุบัติเหตุทำให้มึงเสียสติหรือเปล่าวะ ไอ้เสือ”“กูคิดถึงน้องสาวมึง เพราะน้องสาวมึงเป็นเมียกูแล้ว”“ไอ้เชี่ยเสือ!”ตอนที่ 29 ผิดหวังในความรักอานัสจ้องหน้าสรวิชญ์อย่างเอาเรื่อง เขารู้สึกโกรธ และอีกความรู้สึกก็คิดว่าเพื่อนรักคงจะสมองฟั่นเฟือนจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น“กูให้มึงพูดอีกครั้ง เมื่อกี้มึงว่าอะไรนะ”“มึงตั้งใจฟังกูนะ และมึงก็ห้ามโวยวาย”“...”อานัสยืนนิ่งเงียบ เอวาต้องลากเก้าอี้อีกตัวมาให้ชายคนรักนั่ง“น้ำผึ้งเป็นเมียกู”“!”แม้ว่าอานัสจะรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ยังนิ่งเงียบเพื่อฟังเพื่อนรักพูดต่อ“ผีสาวที่กูหลงรักมาตลอด คือน้องสาวของมึง”สรวิชญ์ตัดสินใจเล่าเรื่องทุกอย่างให้เพื่อนรักฟังทั้งหมด แม้ว่าอานัสจะรู้สึกโกรธสรวิชญ์ แต่ในเมื่อทุกอย่างมันเป็นไปแบบนี้แล้ว เขาก็ต้องข่มอารมณ์เอาไว้ และตลอดเวลาที่ผ่านมา สรวิชญ์ก็พูดกับเขาเสมอว่าเขาหลงรักผีสาวในค่ำคืนนั้นมาตลอด และเพื่อนของเขาก็ไม่เคยไปยุ่งกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย เขาจึงมั
ร่างสูงเดินออกจากคฤหาสน์หรูด้วยความรู้สึกกลัดกลุ้มในหัวใจ สรวิชญ์ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเขาถึงจะได้คุยกับอัญรินทร์ให้เข้าใจรถสปอร์ตหรู แล่นไปตามถนนใหญ่อย่างไร้จุดหมาย สรวิชญ์เอาแต่ครุ่นคิดและเหม่อลอยขณะขับรถ(บึ๊นนนน!)(เอี๊ยดด!)(โคร่ม!)อยู่ๆรถก็เกิดเสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทาง สรวิชญ์ติดอยู่ในรถหรูที่เกิดอุบัติเหตุ พลเมืองดีผ่านมาเจอตอนเกิดเหตุ และได้ติดต่อให้รถกู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือ แล้วนำร่างของสรวิชญ์ไปส่งที่โรงพยาบาลทันทีตอนที่ 28 น้องสาวมึงเป็นเมียกู“อือ”“ตาเสือลูกแม่!”เสียงครางอู้อี้ดังขึ้นมาในช่วงเช้าของวันใหม่ นางสุวิภาเรียกลูกชายด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูตื่นเต้น เนื่องจากลูกชายคนเดียวของนางเพิ่งจะฟื้นขึ้นมา หลังจากที่เขาหลับไปหลายชั่วโมง“เป็นไงบ้างลูก ปวดตรงไหนหรือเปล่า”นายวิทวัสถามลูกชายที่กำลังกวาดสายตามองรอบๆห้อง และมีท่าทีมึนงง“ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับคุณพ่อ คุณแม่”น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยถามบิดามารดาด้วยความสงสัย“เสือประสบอุบัติเหตุรถคว่ำน่ะลูก โชคดีนะที่เสือไม่เป็นอะไรมาก แค่หัวแตก”“นั่นสิ แม่ตกใจจนแทบจะเป็นลม ตอนเจ้าหน้าที่ทางโรงพยาบาลโทรไปบอก เสือเจ็บตรงไหนไหมลูก”บิดา







