แชร์

บทที่ 1057

ผู้เขียน: โม่เสียวชี่
อวี๋วั่นซูถอยไปทันที รองแม่ทัพตู้ก็รีบเอ่ยขึ้นว่า “ท่านอ๋องโปรดทอดพระเนตรเถิดพ่ะย่ะค่ะ เห็นได้ชัดว่าแม่ทัพเซียวเป็นเพราะจมอยู่ในเรื่องรัก จึงหุนหันพลันแล่นและฉุนเฉียว เขาไม่มีคุณสมบัติที่จะนำทัพเราอีกต่อไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

เซียวเหิงถูกองครักษ์พยัคฆ์ขวางไว้

ฉู่จืออี้จึงหันไปมองเฉียวเนี่ยน

เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้ว มองไปทางเซียวเหิงครั้งหนึ่ง ชั่วขณะนั้นก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี

หากเป็นหลินเนี่ยนวัยสิบห้าที่ได้ยินคำพูดของอวี๋วั่นซู คงดีใจจนกระโดดโลดเต้น

แต่ตอนนี้ นางได้ยินถ้อยคำเหล่านี้แล้วกลับไม่มีความรู้สึกใดๆ เกิดขึ้นเลย

ฉู่จืออี้จึงละสายตากลับมา ยกมือโบกนิดหนึ่ง “ออกไปให้หมด เซียวเหิงอยู่ก่อน”

เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนต่างก็ทำความเคารพแล้วขานรับ

แม้แต่เฉียวเนี่ยนก็ออกไปด้วย

นางไม่อยากอยู่ต่อจริงๆ

จนกระทั่งทุกคนออกไปหมด ภายในกระโจมก็เหลือเพียงฉู่จืออี้กับเซียวเหิง

เห็นสีหน้าโกรธเคืองของเซียวเหิงยังไม่คลาย ฉู่จืออี้จึงเอ่ยเสียงต่ำว่า “นั่ง”

น้ำเสียงฟังไม่ออกว่าดีหรือร้าย

เซียวเหิงมองฉู่จืออี้ครั้งหนึ่ง จึงนั่งลง

ดาบในมือถูกเก็บไป เซียวเหิงไม่เอ่ยคำใดเลย

แต่ไม่คาดคิดว่าฉู่จืออี้กลับ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
LiYi Tk
ขอให้เซียวเหิงคิดได้ไงไว เสียดายความฉลาด
goodnovel comment avatar
LiYi Tk
เซียวเหิงเก่งใช่ย่อยนะเนี้ย
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1058

    ดังนั้น ทหารกว่าพันแปดร้อยนายจึงมิได้สละชีพไปโดยเปล่าประโยชน์พวกเขาใช้ชีวิตของตนเองชิงเอาผังการป้องกันนี้กลับคืนมา รักษาชีวิตชาวเมืองอู้เอาไว้ทั้งเมืองฉู่จืออี้ถอนหายใจเบาๆ เก็บผังการป้องกันไว้ แล้วจึงมองไปที่เซียวเหิง “แต่ที่เจ้าหุนหันพลันแล่น ก็เป็นเรื่องจริงเช่นกัน”ได้ฟังดังนั้น สีหน้าของเซียวเหิงก็เปลี่ยนไป “ท่านหมายความว่าอย่างไร?”ฉู่จืออี้ค่อยๆ ลุกขึ้น ดวงตาลึกซึ้งทอดมองไปยังมุมหนึ่งของม่านกระโจม ก่อนจะหันกลับมาทางเซียวเหิง “อ๋องผู้นี้เห็นว่า เจ้าไม่เหมาะสมจะเป็นผู้บัญชาการทหารรักษาป้อมปราการแห่งเมืองอู้อีกต่อไป ตั้งแต่บัดนี้ อำนาจการบังคับบัญชาทหารในมือเจ้าจะอยู่ในความดูแลของอ๋องผู้นี้”“ฉู่จืออี้!” เซียวเหิงโกรธเกรี้ยว “เจ้าคิดจะแย่งชิงอำนาจของแม่ทัพเช่นข้าหรือ?!”ฉู่จืออี้สีหน้าเย็นชา แค่นหัวเราะเบาๆ “ทำไม? อ๋องผู้นี้จักแย่งชิงไม่ได้หรือ?”เซียวเหิงถูกยั่วยุจนโกรธถึงขีดสุด รีบดึงดาบยาวออกมาฟาดใส่ฉู่จืออี้ทันทีดีที่ฉู่จืออี้เตรียมระวังไว้ก่อนแล้ว จึงหยิบดาบขึ้นมาขวางรับได้ทันภายในกระโจม เสียงอาวุธกระทบกันดังแหลมก้องกังวานด้านนอกมีคนกรูกันเข้ามาอย่างรวดเร็ว“โอ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1057

    อวี๋วั่นซูถอยไปทันที รองแม่ทัพตู้ก็รีบเอ่ยขึ้นว่า “ท่านอ๋องโปรดทอดพระเนตรเถิดพ่ะย่ะค่ะ เห็นได้ชัดว่าแม่ทัพเซียวเป็นเพราะจมอยู่ในเรื่องรัก จึงหุนหันพลันแล่นและฉุนเฉียว เขาไม่มีคุณสมบัติที่จะนำทัพเราอีกต่อไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวเหิงถูกองครักษ์พยัคฆ์ขวางไว้ฉู่จืออี้จึงหันไปมองเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนขมวดคิ้ว มองไปทางเซียวเหิงครั้งหนึ่ง ชั่วขณะนั้นก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดีหากเป็นหลินเนี่ยนวัยสิบห้าที่ได้ยินคำพูดของอวี๋วั่นซู คงดีใจจนกระโดดโลดเต้นแต่ตอนนี้ นางได้ยินถ้อยคำเหล่านี้แล้วกลับไม่มีความรู้สึกใดๆ เกิดขึ้นเลยฉู่จืออี้จึงละสายตากลับมา ยกมือโบกนิดหนึ่ง “ออกไปให้หมด เซียวเหิงอยู่ก่อน”เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนต่างก็ทำความเคารพแล้วขานรับแม้แต่เฉียวเนี่ยนก็ออกไปด้วยนางไม่อยากอยู่ต่อจริงๆจนกระทั่งทุกคนออกไปหมด ภายในกระโจมก็เหลือเพียงฉู่จืออี้กับเซียวเหิงเห็นสีหน้าโกรธเคืองของเซียวเหิงยังไม่คลาย ฉู่จืออี้จึงเอ่ยเสียงต่ำว่า “นั่ง”น้ำเสียงฟังไม่ออกว่าดีหรือร้ายเซียวเหิงมองฉู่จืออี้ครั้งหนึ่ง จึงนั่งลงดาบในมือถูกเก็บไป เซียวเหิงไม่เอ่ยคำใดเลยแต่ไม่คาดคิดว่าฉู่จืออี้กลับ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1056

    ขณะกำลังคิดอยู่ ฉู่จืออี้ก็เอ่ยเสียงทุ้มต่ำ “เข้าไปข้างในค่อยพูด”เซียวเหิงไม่ได้ขานรับ แต่ก็หลีกทางให้ฉู่จืออี้จึงพาเฉียวเนี่ยนเดินเข้าไปข้างในตอนที่เดินผ่านข้างกายเซียวเหิง สายตาของเขาหยุดลงบนมือที่ฉู่จืออี้กุมมือเฉียวเนี่ยนไว้แน่น ดวงตาก็พลันร้อนระอุ จนกระทั่งฉู่จืออี้กับเฉียวเนี่ยนเข้าไปในกระโจมทหารแล้ว เขาถึงได้บังคับตัวเองให้ละสายตากลับมามีเพียงฟ้าดินที่รู้ เพียงชั่วพริบตาเมื่อครู่นั้น เขาอยากจะตัดมือของฉู่จืออี้ทิ้งเพียงใดพยายามสูดลมหายใจลึกหลายครั้ง กดความหุนหันพลันแล่นในใจลงไปได้ เซียวเหิงถึงได้ก้าวตามเข้าไปในกระโจมทหารภายในกระโจม อวี๋วั่นซูกับรองแม่ทัพตู้ก็อยู่ด้วยการมาครั้งนี้ของฉู่จืออี้ก็เพื่อสอบถามเรื่องที่ก่อนหน้านี้เซียวเหิงหุนหันพลันแล่น ออกคำสั่งมั่วไป ดังนั้นเวลานี้เขาจึงไม่ได้พูดคุยทักทาย แต่เปิดประเด็นตรงๆ “ว่ามาเถอะ เรื่องมันเป็นอย่างไร”อวี๋วั่นซูเหลือบมองไปทางเซียวเหิง เห็นว่าเขาไม่มีท่าทีจะเอ่ยปาก จึงก้าวออกมาโค้งคำนับ “กราบทูลท่านอ๋อง หนึ่งเดือนก่อน แคว้นถังจู่ๆ ก็เปิดศึกบุกเมืองอู้ แม่ทัพเซียวเป็นผู้นำพวกกระหม่อมป้องกันเมือง ชนะศึกอย่างเห็นได้ชั

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1055

    มีความเป็นไปได้สูง ว่าก็คือเพื่อสมบัติล้ำค่าอะไรนั่นเฉียวเนี่ยนในใจก็พอจะเดาได้แล้ว เพียงแต่ไม่ได้แสดงออกมานางเพียงหันไปถามมู่หงเสวี่ยอีกว่า "แล้วครั้งนี้ท่านพี่ตั้งใจส่งรถม้ามาให้ แถมยังมอบแผนที่เส้นทางลัดมาให้อีก เพื่อให้พวกเราสามารถรีบไปถึงเมืองอู้ได้โดยเร็ว นี่ก็เพื่อสิ่งใดกันเล่า? ในเมื่อแคว้นจิ้งกับแคว้นถังตอนนี้กำลังทำสงครามกันอยู่ ท่านก็รู้อยู่แล้วว่าพวกเรามาเมืองอู้ครั้งนี้เพื่ออะไร เหตุใดถึงยังออกหน้าช่วยเหลือ?"มู่หงเสวี่ยเพียงยิ้มบาง "ก็แน่นอนว่าย่อมอยากให้เนี่ยนเนี่ยนจำได้ถึงคุณความดีของตระกูลมู่ เช่นนี้แล้ว เมื่อถึงคราวตระกูลมู่เดือดร้อน เจ้าถึงจะยื่นมือเข้าช่วยบ้าง"ว่ากันตามจริง เหตุผลนี้ก็ฟังขึ้นอยู่เพียงแต่เฉียวเนี่ยนยังคงรู้สึกว่ามู่หงเสวี่ยไม่ได้พูดความจริงทั้งหมดอย่างไรก็ตาม แผนที่เส้นทางที่เขาให้มา กลับเป็นของจริงเส้นทางลับหลายเส้นที่คนทั่วไปไม่คุ้นเคย รถม้าก็ยังสามารถวิ่งผ่านได้พอดี ส่งผลให้เวลาเดินทางจริงนั้น สั้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึงราวห้าวันเมื่อไปถึงเมืองอู้ ก็เป็นเวลาเย็นย่ำพอดีรถม้าเพิ่งจอดลงตรงนอกค่ายทหาร เซียวเหิงที่ได้รับข่าวก็ก้าวออกมาอย

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1054

    มู่หงเสวี่ยไม่เคยคิดเลยว่าเฉียวเนี่ยนจะเป็นฝ่ายพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาก่อนเขาคิดว่านางไม่เต็มใจ จึงจะเมินเฉย ไม่พูดถึง ทำราวกับว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นดังนั้น เมื่อเฉียวเนี่ยนพูดขึ้นมาในเวลานี้ เขากลับชะงักไปเพียงเห็นเฉียวเนี่ยนยิ้มตาพริ้ม “ท่านพี่อุตส่าห์ส่งรถม้ามาให้ ไม่ใช่เพื่อเรื่องสมบัติหรือเจ้าคะ?”มู่หงเสวี่ยมองเฉียวเนี่ยน กะพริบตาอยู่พักหนึ่งจึงหัวเราะเบาๆ อย่างจนใจพัดพับในมือดัง “ฟึ่บ” เปิดออกในทันทีมู่หงเสวี่ยส่ายพัดไปมาอยู่สองครั้งจึงเอ่ยขึ้น “ข้ารู้ เรื่องนี้สำหรับเจ้าแล้ว มันไม่ง่ายเลย...”“ข้าอยากรู้ความจริงเจ้าค่ะ” เฉียวเนี่ยนเอ่ยเสียงขรึม ถึงแม้บนใบหน้ายังแต้มยิ้ม แต่ดวงตากลับเย็นชานักมู่หงเสวี่ยจึงได้ตระหนักว่า ที่แท้เขาก็ไม่ได้เข้าใจเฉียวเนี่ยนเลยจริงอยู่ เรื่องของเฉียวเนี่ยนเขาสืบจนกระจ่างแล้ว แต่เขาเคยคิดว่านางเป็นคนอ่อนโยนไหนเลย แม้ถูกตระกูลจวนโหวปฏิบัติถึงเพียงนั้น นางยังไม่เคยตอบโต้ดูราวกับว่านางเป็นเพียงฝ่ายถูกกระทำตลอดมาถูกกลั่นแกล้งถึงขั้นนั้นแล้ว...แต่บัดนี้ เมื่อสบดวงตาคู่นั้น เขากลับรู้ว่าตนคิดผิดนางเหมือนมีความคิดเป็นของตนเองมาโดย

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1053

    “แต่ว่าคุณชายรองตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยลำบากเช่นนี้มาก่อน วันนี้ยังไม่รู้ว่าจะได้พักเมื่อใด บ่าวกลัวว่าคุณชายรองจะทนไม่ไหว”“พวกเขายังทนได้ ทำไมคุณชายของเจ้าจะอดทนไม่ได้?” มู่หงเสวี่ยคล้ายไม่พอใจนัก เหลือบตามองฉู่จืออี้กับองครักษ์พยัคฆ์ที่อยู่ไม่ไกลเด็กรับใช้เอ่ยด้วยความเป็นห่วง “คุณชายรองจะเหมือนพวกเขาได้อย่างไร? พวกเขาล้วนเป็นพวกหยาบกร้านที่คุ้นชินกับสนามรบ ส่วนท่านคือสุภาพบุรุษผู้สูงศักดิ์ที่เติบโตมาอย่างสุขสบาย หากทนไม่ไหวล้มป่วยลงมาจะทำเช่นไรเล่าขอรับ?”มู่หงเสวี่ยมีท่าทีหงุดหงิดเล็กน้อย “แล้วเจ้าว่าควรทำเช่นไร? จะไปหารถม้าอีกคันมาให้ข้าหรือ?”“เอ่อ...” เด็กรับใช้ลำบากใจขึ้นมาแม้ตระกูลมู่จะมีร้านค้าไม่น้อยในแคว้นจิ้ง แต่ก็หาใช่ว่าทุกเมืองจะมีร้านค้าอยู่ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้มีร้านค้า ก็ใช่ว่าทุกร้านจะมีรถม้าใหญ่หรูหราเช่นนี้หามาได้ยากยิ่งนักขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น ผ้าม่านรถม้าข้างๆ ก็ถูกยกขึ้นเฉียวเนี่ยนยิ้มอ่อนโยนต่อมู่หงเสวี่ย “ท่านพี่หากไม่รังเกียจ ก็เข้ามานั่งเถิด”ได้ยินดังนั้น เด็กรับใช้ดีใจนัก รีบหันมองมู่หงเสวี่ยเห็นมู่หงเสวี่ยเผยสีหน้ายินดีอยู่บ้าง แต่กลับเห

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status