หลินยวนจ้องมองฮูหยินหลินด้วยความงุนงงนางไม่รู้ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างนางกับเซียวเหิงเช่นนี้ นางจะให้กำเนิดหลานชายสายตรงคนโตของตระกูลเซียวได้อย่างไรเมื่อเห็นสีหน้าของนาง ฮูหยินหลินก็คิดว่านางช่างไร้เดียงสาเกินไป คงยังไม่เข้าใจ นางจึงหัวเราะเบาๆ "เด็กโง่ บัดนี้เจ้าก็แต่งงานแล้ว เช่นนั้นบางอย่างแม่ก็จะพูดกับเจ้าอย่างตรงไปตรงมาสักหน่อย! ผู้ชายน่ะ หลอกล่อได้ง่ายที่สุด เจ้าเพียงดื่มกับเขาสักสองสามจอก ออดอ้อนสักหน่อย เปิดเผยเนื้อหนังเล็กน้อย เขาย่อมทานทนไม่ไหวเป็นแน่"คำพูดก่อนหน้านั้นยังพอรับได้ แต่เมื่อได้ยินประโยคสุดท้ายว่าให้ "เปิดเผยเนื้อหนัง" แม้ว่าฮูหยินหลินจะกดเสียงให้เบาเพียงใด ใบหน้าของหลินยวนก็ยังแดงก่ำขึ้นมาอยู่ดีเมื่อเห็นดังนั้น ฮูหยินหลินกลับยิ้มกว้างยิ่งขึ้น "ดูเจ้าเถิด แต่งงานแล้วแท้ๆ ยังขี้อายถึงเพียงนี้!"ฮูหยินหลินหาได้คาดคิดไม่ว่าหลินยวนจะยังคงเป็น "สาวพรหมจรรย์" จึงจับมือนางไว้ แล้วพรั่งพรู "ประสบการณ์ชีวิต" ออกมาให้ฟังแม้ว่าหลินยวนจะอับอายจนใบหน้าแดงจัด แต่นางก็ยังจดจำทุกคำพูดเอาไว้เงียบๆเพราะอย่างไร ฮูหยินหลินก็พูดถูก นางจะต้องให้กำเนิดหลานชายสายตรงคนโตแห
จิตใจของหลินยวนพลันดิ่งลงสู่หุบเหว เมื่อคิดถึงท่าทีของเซียวเหิงที่มีต่อนาง ความน้อยใจเอ่อท้นขึ้นมานางอดไม่ได้ที่จะยกม่านรถขึ้น หันกลับไปมองฮูหยินหลินอีกครั้งทว่า นึกไม่ถึงว่าหน้าจวนโหวจะไม่มีเงาของฮูหยินหลินอีกแล้วในพริบตา ความโศกเศร้าอันหนักหน่วงถาโถมเข้าใส่ ดวงตาของหลินยวนพลันคลอด้วยน้ำตา แต่ชั่วขณะถัดมา นางกลับมองเห็นเงาร่างที่คุ้นตาผู้หนึ่งสาวใช้คนนั้น…หนิงซวงงั้นหรือ?นางเห็นหนิงซวงเดินออกมาจากร้านยาแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากจวนโหว มือของนางถือห่อยาอยู่หลายถุงแต่ใกล้ๆ จวนแม่ทัพเองก็มีร้านยาอยู่ไม่น้อย เหตุใดหนิงซวงถึงมาซื้อยาที่ร้านใกล้จวนโหวแทนเล่า?อีกทั้งทิศทางที่นางเดินจากไป ก็มิใช่ทางไปยังเรือนเล็กของเฉียวเนี่ยน เช่นนั้นก็หมายความว่า วันนี้เฉียวเนี่ยนไม่ได้กลับไปที่เรือนเล็กเลยน่ะสิ!เช่นนั้นหนิงซวงกำลังทำอะไรอยู่กันแน่?หลินยวนสงสัยยิ่งนัก แต่ก็รู้ดีว่านางไม่อาจเรียกหนิงซวงมาสอบถามโดยตรงได้ข้อแรก สาวใช้ผู้นั้นมีนิสัยเหมือนเฉียวเนี่ยน คือเจ้าอารมณ์และดุดันนัก ไม่มีทางยอมบอกความจริงออกมาสักครึ่งคำแน่ข้อสอง นางไม่กล้าหาเรื่องเฉียวเนี่ยนอีกแล้ว ไม่ใช่เพียงเพราะก
เมื่อเซียวเหิงกลับมาจากกองทัพ ท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้วเช่นเดียวกับทุกวัน เมื่อเขากลับถึงที่พักแล้วก็เดินตรงไปยังห้องหนังสือ โดยไม่แม้แต่จะปรายตามองหลินยวนเลยสักนิดแต่คิดไม่ถึงว่า ก่อนที่เขาจะถอดอาภรณ์ชั้นนอก หลินยวนกลับเป็นฝ่ายมาเคาะประตูห้องหนังสือของเขาเสียก่อนเมื่อเห็นนางที่ยืนอยู่นอกประตู ภายใต้แสงจันทร์ร่างของนางดูบอบบางและอ่อนแอเซียวเหิงขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว แววตาเต็มไปด้วยความรำคาญ ก่อนถามเสียงเรียบ "มีเรื่องอะไร?"หลินยวนรู้สึกกระวนกระวายใจ จึงก้มหน้าตลอดเวลา ไม่กล้าสบตาเซียวเหิง เกรงว่าเขาจะจับได้ถึงความว้าวุ่นภายในใจของนางนางเพียงเหลือบมองสาวใช้ด้านหลังเล็กน้อย ก่อนเอ่ยขึ้น "ท่านแม่บอกว่าท่านพี่เหิงกลับมาดึก ย่อมต้องเหนื่อยล้า จึงสั่งให้ห้องครัวต้มน้ำแกงไก่เตรียมไว้ให้เจ้าค่ะ"นางเลือกที่จะกล่าวอ้างถึงแม่เซียว เพราะช่วงมื้อเย็น แม่เซียวเอ่ยถึงเรื่องนี้จริง อีกทั้ง หากบอกว่านางเป็นคนจัดเตรียม เซียวเหิงคงไม่มีวันดื่มเป็นแน่และก็เป็นเช่นนั้นจริง เมื่อได้ยินว่าแม่เซียวเป็นคนสั่งให้เตรียม เซียวเหิงก็เพียงเบี่ยงกายเล็กน้อย เปิดทางให้นาง "วางไว้เถอะ"สาวใช้พยักหน้ารับคำอย่
มือทั้งสองของเขาจับแขนของหลินยวนทั้งซ้ายและขวา ก่อนผลักนางออกไปเต็มแรง แววตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ "เจ้าเสียสติไปแล้วหรือ? ใครสั่งสอนเจ้ากัน?"ตลอดชีวิตนี้ หลินยวนไม่เคยถูกใครผลักไสอย่างรุนแรงเช่นนี้มาก่อน ความรู้สึกอัปยศถาโถมเข้ามาทันที อีกทั้งแผนการในวันนี้ล้วนเป็นการเดิมพันครั้งสุดท้าย หากล้มเหลว ทุกสิ่งจะพังทลาย นางมิอาจยอมแพ้ได้ อารมณ์ในใจพลันแตกกระจาย น้ำตาร่วงลงมาเป็นสาย แต่ถึงกระนั้น นางก็ยังคงพยายามพุ่งเข้าหาเซียวเหิงอย่างไม่คิดชีวิต"ท่านพี่เหิง ได้โปรดเมตตาข้าสักครั้งเถิด ข้ามิได้ต้องการสิ่งใด ขอเพียง...ขอเพียงแค่บุตรสักคน!"เซียวเหิงคว้าดาบที่แขวนอยู่บนผนัง ใช้ฝักดาบดันไหล่ของหลินยวนไว้ ไม่ให้นางเข้ามาใกล้กว่านี้เมื่อเห็นหลินยวนมีท่าทีคลุ้มคลั่งคล้ายคนเสียสติ หัวใจของเขาก็เกิดความสงสัย จู่ๆ เหตุใดนางจึงพูดถึงเรื่องบุตรกะทันหัน?แต่คิดไม่ถึงว่าในพริบตา ท้องน้อยของเขาจะพลันร้อนวูบขึ้นมาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนร่างทั้งร่างของเซียวเหิงตึงแข็งขึ้นทันที และในเสี้ยววินาทีนั้น เขาก็เข้าใจทุกอย่างน้ำแกงไก่ถ้วยนั้น!เขาจ้องมองไปที่หลินยวนอย่างรวดเร็ว แววตาเต็มไปด้วยความเหลือเ
ขณะเดียวกัน ภายในเรือนของเซียวเหอ เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดก็ดังขึ้นวันนี้ หลังจากที่หนิงซวงได้ใบสั่งยาจากหมอประจำจวนก็รีบไปซื้อยากลับมาทันที บอกว่าเป็นยาต้มสำหรับแช่เท้าให้เซียวเหอโดยเฉพาะสมุนไพรหลายห่อนั้น ต้องต้มด้วยไฟอ่อนเป็นเวลาถึงสามชั่วยาม และให้เอาเท้าของเซียวเหอลงแช่ในช่วงที่เขากำลังอาการกำเริบแต่ทุกครั้งที่เซียวเหอมีอาการกำเริบ ร่างกายของเขาจะบิดเกร็งด้วยความเจ็บปวด ดิ้นรนอย่างรุนแรง จี้เยว่เพียงคนเดียวมิอาจควบคุมได้ ดังนั้นคืนนี้เฉียวเนี่ยนจึงมาช่วยอีกแรงเฉียวเนี่ยนกับจี้เยว่ช่วยกันจับตัวเขา คนหนึ่งกดไหล่ของเซียวเหอไว้ ไม่ให้เขาดิ้นหลุดจากเก้าอี้ล้ออีกคนกดขาของเซียวเหอไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เขาดิ้นจนถังไม้ล้มทั้งสองช่วยกันกดร่างของเซียวเหอไว้เช่นนี้นานเป็นเวลาหนึ่งก้านธูป แรงดิ้นของเซียวเหอถึงค่อยๆ ลดลงแต่ก่อนที่เฉียวเนี่ยนและจี้เยว่จะทันได้ผ่อนลมหายใจ ประตูห้องกลับถูกผลักออกอย่างแรงเซียวเหิงแทบจะล้มกลิ้งเข้ามาในห้องเมื่อเห็นดังนั้น จี้เยว่ก็ตกใจตะโกนขึ้นทันที "คุณชายรอง!"เมื่อมองเห็นว่าที่ขาของเซียวเหิงยังคงมีเลือดไหล จี้เยว่ก็เหลือบมองเซียวเหอแวบหนึ
โทสะเมื่อครู่เหมือนถูกสายน้ำเย็นชะล้างจนแปรเปลี่ยนเป็นความเย็นยะเยือกนาง...ถึงกับไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย…เซียวเหิงบังคับตนเองให้ละสายตากลับมา หลับตาลงก่อนส่ายศีรษะ "ไม่เป็นไร"จี้เยว่ยังคงเป็นกังวล ทว่า สิ่งที่เขาห่วงยิ่งกว่าก็คือเจ้านายของตนเองในเมื่อเซียวเหิงบอกว่าไม่เป็นไร อีกทั้งบาดแผลที่ขาก็ได้รับการพันแผลเรียบร้อยแล้ว จี้เยว่จึงกล่าวว่า "คุณชายรอง แช่น้ำไปก่อนสักครู่ อีกเดี๋ยวบ่าวจะกลับมารับใช้ท่านอีกที"เมื่อกล่าวจบ เขาก็เดินไปหาเซียวเหอยาแช่เท้าของเซียวเหอต้องแช่ให้ครบเวลาหนึ่งชั่วยามเฉียวเนี่ยนกังวลว่าจี้เยว่จะดูแลคนเดียวไม่ไหว จึงกะจะอยู่รอจนกระทั่งเซียวเหอแช่เท้าเสร็จ แล้วจึงค่อยกลับเรือนของตนคืนนั้นนางหลับสนิทตลอดคืนเช้าวันรุ่งขึ้น สิ่งแรกที่เฉียวเนี่ยนทำก็คือไปดูอาการของเซียวเหอเพราะเมื่อคืนเป็นการรักษาครั้งแรก นางจึงต้องไปตรวจดูให้แน่ใจนางเคาะประตูเบาๆ ก่อนเอ่ยเรียก "ท่านพี่เซียว ข้าเข้าไปได้หรือไม่?"แต่ในห้องกลับไม่มีเสียงตอบรับเฉียวเนี่ยนแอบเงยหน้ามองพระอาทิตย์ เวลานี้แล้ว เซียวเหอไม่น่าจะยังไม่ตื่นเช่นนั้น ไฉนถึงไม่มีเสียงตอบกลับ?หรือว่าหลังจาก
หากเซียวเหิงไม่กล่าวสิ่งนี้ออกมายังดี แต่พอเขาเอ่ยขึ้นมา กลับยิ่งทำให้ความโกรธของเฉียวเนี่ยนปะทุหนักขึ้นไปอีก"เซียวเหิง เจ้าฟังให้ดี ข้าคือพี่สะใภ้ของเจ้า! ข้ากับพี่ชายเจ้าจะแต่งงานกันด้วยความรักหรือไม่ ไม่เกี่ยวกับเจ้า! เจ้าไม่มีสิทธิ์มาสั่งสอนข้า! ถอยไป!"กล่าวจบ นางก็ออกแรงผลักเซียวเหิงสองครั้ง แต่เขากลับไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย!กลับกลายเป็นว่ามือของนางถูกเขากดลงแนบแผงอกตัวเอง ความร้อนจากร่างกายของเขาแผ่ซ่านผ่านอาภรณ์เข้าสู่ฝ่ามือนางมันร้อนราวกับถูกเปลวเพลิงเผาไหม้เฉียวเนี่ยนรีบจะดึงมือกลับมา แต่กลับเป็นว่าแรงกดของเขากลับยิ่งหนักขึ้นกว่าเดิม"เนี่ยนเนี่ยน..."เสียงเรียกแผ่วเบาดังขึ้นจากเหนือศีรษะของนาง แฝงความแหบพร่าและอ่อนล้าแต่ก่อน เขาไม่เคยใช้เสียงเช่นนี้เรียกนางเลยสักครั้งร่างของเฉียวเนี่ยนชะงักไปทันที นางสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนเงยหน้าสบตากับเขาในดวงตาของนาง มีทั้งความโกรธ ดื้อรั้น และประกายแดงเรื่อที่ยากจะคาดเดาแต่เสียงของนางกลับเย็นเยียบ "แม่ทัพเซียว หรือเจ้าต้องการให้ตระกูลเซียวเต็มไปด้วยข่าวลือชั่วช้าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างน้องชายและพี่สะใภ้?"เซียวเหิง
แต่คิดไม่ถึงว่า นางจะพบกับจี้เยว่ที่กำลังเข็นรถพาเซียวเหอกลับมาพอดีเมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนออกมาจากเรือนของตนเอง เซียวเหอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ เขากำลังจะเอ่ยถาม แต่กลับสังเกตเห็นว่าดวงตาของนางขึ้นสีแดงเรื่อสีหน้าของเขาพลันเคร่งขรึมลงทันทีเฉียวเนี่ยนเองก็ไม่คิดว่าจะพบเซียวเหอในเวลานี้ นางสูดลมหายใจลึก พยายามปรับอารมณ์ที่สับสนของตนเอง ก่อนเดินเข้าไปยิ้มแล้วถามว่า "ท่านพี่เซียว ออกไปที่ไหนมาตั้งแต่เช้าหรือ?"ท่าทางทำเหมือนไม่มีอะไรของนาง กลับทำให้หัวใจของเซียวเหอรู้สึกเหมือนถูกบีบสายตาของเขาเหลือบมองไปยังห้องของตนเองประตูเปิดกว้าง ภายในเรือนยังเห็นเงาคนที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่รางๆจนกระทั่งเฉียวเนี่ยนเดินมาหยุดตรงหน้าเขา เซียวเหอจึงเงยหน้าขึ้นมองนาง เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ แฝงด้วยโทสะบางเบาที่แทบสัมผัสไม่ได้ "ถูกรังแกมาหรือ?"เฉียวเนี่ยนชะงัก ก่อนจะตระหนักได้ว่าตนเองยังจัดการอารมณ์ได้ไม่ดีพอ และถูกเซียวเหอมองออกจนได้แต่เพราะไม่อยากให้เซียวเหอกังวล นางจึงรีบส่ายศีรษะ "เปล่า เปล่าสักหน่อย"แต่เซียวเหอไม่เชื่อขณะนั้นเอง เซียวเหิงที่แต่งกายเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมาจากเร
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ!” ท่านโหวหลินตกใจมาก ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วฮูหยินหลินเองก็เบิกตากว้างอย่างกะทันหัน มองหลินเย่ว์ด้วยความไม่เชื่อหลินยวนก็ตกใจมากเช่นกัน ทันใดนั้นก็เข้าใจว่าทำไมหลินเย่ว์ถึงทำตัวผิดปกติเช่นนี้ก่อนหน้านี้ที่แท้ก็เพราะเรื่องนี้หรือ?เพราะเฉียวเนี่ยนตายแล้วรึ?แต่ในขณะนี้ หลินยวนไม่รู้สึกดีใจเลยแม้แต่น้อยสิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงความตื่นตระหนกเท่านั้นเฉียวเนี่ยนตาย แล้วนางจะปัดความรับผิดชอบเรื่องของย่าเฉาได้อย่างไร?นางจะโยนความผิดให้ใคร?ทำเช่นไรดี?หลินยวนรู้สึกหวาดกลัวถึงขีดสุดแต่ไม่คิดว่าหลินเย่ว์จะพุ่งเข้ามาจับคอเสื้อของนาง “เจ้าเป็นใครกันแน่? พูดมา!”หลินยวนตกใจกลัวนางไม่เคยเห็นหลินเย่ว์ดุร้ายเช่นนี้มาก่อนน้ำตาไหลพรากออกมาไม่หยุด แต่ก็ยืนกรานว่าตัวเองเป็นบุตรสาวสายตรงแห่งจวนโหว“พี่ใหญ่ อย่าขู่ข้าเลย... ข้าเป็นน้องสาวของพี่นะ!”“หมอตำแยพูดเองกับปากว่า ข้าถูกนางสลับตัว! นางพูดเองกับปาก!”“ข้าหน้าเหมือนแม่มากเลยนะ พี่ใหญ่ ดูข้าสิ! ข้าจะไม่ใช่ลูกของแม่ได้อย่างไร!”นางปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองไม่ใช่!มิเช่นนั้น ด้วยสภาพของคนในตระกูลหลินยามนี้ พวกเขาจ
คิดไม่ได้แล้ว คิดต่อไม่ได้แล้ว...นางจะทนไม่ไหวแล้ว!ในขณะนั้นเอง มามาหลายคนคนที่พาหลินยวนลงไปก่อนหน้านี้ ในที่สุดก็พาหลินยวนกลับมา "ทูลฮูหยิน เอวของคุณหนูรองไม่มีปานเจ้าค่ะ"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ย่าเฉาจึงรีบเอ่ยว่า "นางไม่ใช่ตั้งแต่แรก จะมีได้อย่างไร!"หลินยวนร้องไห้ตะโกน "ท่านแม่ ไม่ใช่เช่นนั้น! ท่านอย่าฟังคำพูดเหลวไหลของหญิงชั่ว!"ฮูหยินหลินราวกับโดนค้อนหนักทุบจนหัวเริ่มมึนงงนางไม่เคยสงสัยหลินยวนเลย เพียงแต่คนที่นางส่งไปไม่เคยได้เบาะแสอะไรกลับมาเลยก่อนหน้านี้มีช่วงหนึ่งที่นางสงสัยว่ายวนเอ๋อร์กับเนี่ยนเนี่ยนเป็นพี่น้องฝาแฝด และหมอตำแยที่ทำคลอดให้นางขโมยไปคนหนึ่งฉะนั้น นางจึงรักลูกทั้งสองคนและตัดใจจากลูกทั้งสองคนไม่ได้...นางอยากจะเชื่อว่านางคลอดลูกฝาแฝดมากกว่าที่จะสงสัยว่าหลินยวนไม่ใช่ลูกของนาง!หายใจเข้าลึกๆ หลายที ฮูหยินหลินก็ดูเหมือนจะมีแรงกลับมา จึงยกมือขึ้นและเรียกเด็กรับใช้ที่อยู่ไม่ไกลออกไป "ไป ไปตามท่านโหวกลับมา! ตามท่านโหวน้อยกลับมาด้วย!"เรื่องนี้ นางทนรับคนเดียวไม่ไหวจริงๆเด็กรับใช้รีบรับคำและจากไปทันทีแต่หลินยวนยังคงร้องไห้ "ท่านแม่ ท่านไม่ควรเชื่อคำพูดของ
ชาวแคว้นจิ้งเชื่อว่าเด็กๆ เป็นของขวัญจากสวรรค์เหล่านางฟ้าบนสวรรค์เลือกครอบครัวที่เหมาะสม แล้วส่งเด็กๆ ลงมาทีละคนเด็กบางคนซุกซน ไม่ยอมลงมา นางฟ้ากริ้วโกรธ ก็เลยต้องลงมือรอยปานเล็กๆ นั่นต้องเป็นรอยที่นางฟ้าจิ้มแน่นอนส่วนรอยที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย ต้องเป็นรอยที่นางฟ้าหยิกแน่นอนและรอยที่ใหญ่กว่านั้น อืม ต้องเป็นเด็กที่ซุกซนมาก นางฟ้าทนไม่ไหว จึงเตะลงมาฮูหยินหลินรู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่งเมื่อก่อน ยามที่นางดูแม่นมเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เนี่ยนเนี่ยน นางก็เคยพูดว่า เด็กคนนี้ต้องซุกซนมากแน่ๆ ถึงโดนนางฟ้าหยิกที่เอวเนี่ยนเนี่ยนมีปานที่เอวเมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลินก็ค่อยๆ หันไปมองหลินยวน "เจ้ามีปานหรือไม่?"หลินยวนตกใจส่ายหัวไม่หยุด "ท่านแม่ อย่าฟังหญิงคนนี้พูดจาเหลวไหล..."แต่ก่อนที่นางจะพูดจบ ฮูหยินหลินก็ออกคำสั่ง "ใครก็ได้เข้ามาที! พาตัวนางออกไป ถอดเสื้อผ้าออกให้หมดแล้วหาปาน!""เจ้าค่ะ!"มามาคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างตอบรับและพาหลินยวนออกไปหลินยวนไม่ยอมและดิ้นรน แต่นางจะสู้แรงเหล่ามามาได้อย่างไร?ในไม่ช้า ห้องโถงด้านหน้าก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้งฮูหยินหลินแทบจะนั่งไม่ไหวแล้ว แต่ก็ยัง
ขณะนั้น หลินยวนที่ถูกขังอยู่นอกเรือนลั่วเหมยก็เบิกตากว้างทันทีด้วยความไม่เชื่อด้านข้างมีสาวใช้กระซิบว่า "คุณหนู ท่านโหวน้อยเป็นอะไรไป ทำไมถึงดูเหมือนคนบ้าเช่นนี้? เกิดอะไรขึ้นหรือไม่?"หลินยวนขมวดคิ้วนิดๆ นางเองก็ไม่รู้แต่การที่หลินเย่ว์คลุ้มคลั่งขึ้นมาอย่างกะทันหัน กลับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนางโอกาสที่ดีที่จะไปแสดงความน่าสงสารต่อหน้าฮูหยินหลิน เพื่อให้ฮูหยินหลินสงสารนาง!นางรู้ดีว่าแม้ท่านโหวหลินและฮูหยินหลินจะช่วยชีวิตนางไว้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้รักนางเหมือนเมื่อก่อนบางที วันนี้นางอาจใช้โอกาสนี้เพื่อเรียกความรักของพวกเขากลับคืนมาได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น หลินยวนจึงไปหาฮูหยินหลินแต่ได้รับแจ้งว่า ฮูหยินหลินกำลังต้อนรับแขกอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้าเพื่อแสดงความน่าสงสารของตน หลินยวนจึงมาที่ห้องโถงด้านหน้า โดยตั้งใจไม่มองแขกคนนั้นเลย นางเพียงแค่น้ำตาคลอเบ้าเดินไปหาฮูหยินหลินและคุกเข่าลง "ท่านแม่ ได้โปรดให้ความเป็นธรรมแก่ยวนเอ๋อร์ด้วย! ท่านพี่ไม่รู้เป็นอะไร ไล่ยวนเอ๋อร์ออกจากเรือนลั่วเหมย! ฮือๆ ๆ พี่ใหญ่ยังผลักยวนเอ๋อร์ด้วย ข้อเท้าของยวนเอ๋อร์เคล็ดเลยเจ้าค่ะ!"ฮูหยินหลินมองหลินยวนที่คุ
ไม่รู้ว่าตบหน้าตนเองไปนานแค่ไหน หลินเย่ว์ก็เหมือนนึกบางอย่างออก รีบรวบรวมเศษผ้าเหล่านั้นกลับเข้าไปซุกไว้ในอกของตนแล้วลุกขึ้นเปิดประตูออกไปข้างนอกเขาต้องไปหาเนี่ยนเนี่ยนออกจากประตู ก็เห็นต้นหวยขนาดใหญ่วัยเด็ก เนี่ยนเนี่ยนชอบปีนขึ้นไปเล่นบนต้นไม้มากที่สุดโขดหินจำลองที่อยู่ไม่ไกลก็เป็นสถานที่ที่เนี่ยนเนี่ยนชอบเล่นมากที่สุดเช่นกัน ครั้งหนึ่ง นางตกจากโขดหินจำลอง ทำให้เขาตกใจแทบแย่ แต่นางกลับยิ้มร่าเริง ไม่คิดอะไรมากศาลาหลังนั้น เขาเคยเล่นหมากรุกกับนางด้วยกันครั้นที่เด็กน้อยเพิ่งหัดเล่น นางชอบเล่นตุกติกมากที่สุด หมากกระดานหนึ่ง ต้องแก้เกมเป็นสิบๆ ครั้งต้นท้อเหล่านั้น ออกผลทั้งใหญ่และหวานมาก เนี่ยนเนี่ยนจะพาบ่าวรับใช้มาเก็บผลไม้ทุกครั้ง แล้วนำมาทำเป็นขนมหวานอร่อย ยกมาให้เขาที่ห้องหนังสือด้วยตัวเองทางเดินเส้นเล็กนี้ เป็นทางที่เนี่ยนเนี่ยนเดินบ่อยที่สุดเพราะเรือนของนางอยู่ใกล้กับเรือนของเขามากที่สุด ในวัยเด็ก หากนางฝันร้าย นางจะกอดหมอนของตน พาสาวใช้อีกกลุ่มหนึ่ง วิ่งเข้ามาในห้องของเขา แล้วบังคับให้เขาต้องนอนกับนางให้ได้นางพูดว่า: มีพี่ใหญ่อยู่ข้างกาย เนี่ยนเนี่ยนถึงจะวางใจ
ร่างกายของหลินเย่ว์สั่นเทาราวกับว่าเขาสามารถเห็นภาพของเฉียวเนี่ยนเมื่อสามปีก่อนที่ถูกพาตัวไปยังกรมซักล้างและร้องไห้คร่ำครวญนางไม่ยอมจำนน ไม่ยอมอยู่ที่นั่น จึงถูกมามาในกรมซักล้างเฆี่ยนตีครั้งแล้วครั้งเล่าจากนั้น นางก็นอนคว่ำอยู่ในห้องที่มีทั้งลมและฝนรั่วฉีกเสื้อผ้าบนร่างกายที่ขาดหลุดลุ่ยใช้นิ้วจุ่มเลือดจากบาดแผลเขียนทีละตัวอักษรว่า:พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยหัวใจของเขาเจ็บปวดจนหายใจแทบไม่ออกหลินเย่ว์รีบพลิกเศษผ้าเหล่านั้นทีละชิ้นเกือบทุกชิ้นเขียนด้วยเลือดว่า: พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยพี่ใหญ่ รับข้ากลับบ้านด้วยพี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยยยเป็นเวลาสามปีแล้วที่เศษผ้าเปื้อนเลือดเหล่านี้บันทึกทุกครั้งที่นางขอความช่วยเหลือ และทุกครั้งก็เป็นการขอความช่วยเหลือจากเขาหลินเย่ว์เพิ่งตระหนักว่า ในใจของเฉียวเนี่ยน พี่ใหญ่ของเขาสำคัญมากเพียงใดในใจของนาง มีเพียงพี่ใหญ่เท่านั้นที่สามารถช่วยนางได้!แต่เขาทำอะไร?ในขณะที่นางนอนคว่ำอยู่บนเตียงไม้เย็นเฉียบ ขอความช่วยเหลือจากเขาด้วยเลือดสด เขาทำอะไรอยู่?เขาจะเข้าวังขอความเมตตาจากฮ่องเต้ แต่ถูกพ่อขวางไว้ ให้เขายึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลักส่วนรวม.
เขาไม่กล้าคิดต่อได้แต่บังคับตัวเองให้ดึงความคิดอันกระวนกระวายนั้นกลับมาเซียวเหิงใกล้ระเบิดแล้ว เขาจะบ้าตามไม่ได้!ดังนั้น เขาจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ และพยักหน้า “ใช่ ต้องไม่เป็นอะไร”หลินเย่ว์ราวกับได้แรงกลับคืนมา เขาพยักหน้าและหันหลังเดินจากไปใช่ ต้องไม่เป็นอะไรรอให้เขากลับไปพักชั่วครู่ แล้วค่อยกลับมาหาเนี่ยนเนี่ยน...หลินเย่ว์ขี่ม้ากลับไป แต่ในหัวกลับปรากฏแต่ภาพขณะที่เฉียวเนี่ยนตกลงไปในแม่น้ำไกลจากเขามากไกลจนเขาไม่เห็นหน้านางชัดๆ ไกลจนเขาคว้าแม้แต่เงาของนางไว้ไม่ได้!แต่ทำไมพวกเขาถึงห่างกันได้ขนาดนี้?หรือว่าเขาค่อยๆ ผลักไสนางออกไปเอง?“ท่านโหวน้อย!”ทันใดนั้น เสียงหวานนุ่มนวลก็เรียกสติของหลินเย่ว์กลับคืนมาเขาชะงักไปครู่หนึ่ง เงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็ตกใจที่พบว่าตนมาถึงหน้าจวนโหวตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้“ท่านโหวน้อย!”เสียงเรียกดังขึ้นอีกครั้ง หลินเย่ว์จึงสังเกตเห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกลเขาจำนางไม่ได้แต่เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวคนนั้นจำเขาได้ และเมื่อเห็นเขามองมาก็รีบวิ่งมาหาหลินเย่ว์ "คารวะท่านโหวน้อย บ่าวชื่อหลิ่วเหนียง เป็น...สหายของคุณหนูใหญ่ขณะอยู่ในวัง"คำว่าส
"เนี่ยนเนี่ยน!""เนี่ยนเนี่ยน!""ไม่!"เสียงดังสามเสียงดังขึ้นแทบจะในเวลาเดียวกันเซียวเหอและหลินเย่ว์ชักดาบออกมาพร้อมกัน ในขณะที่ชายหนวดเคราและเด็กหนุ่มยังไม่ทันได้ตั้งตัว พวกเขาก็ถูกปาดคอไปแล้วส่วนเซียวเหิงนั้น เขาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นและกระโดดลงไปในแม่น้ำฉางหยางเมื่อเห็นเช่นนั้น เซียวเหอและหลินเย่ว์จึงรีบคว้าตัวเซียวเหิงกลับพร้อมกัน"ปล่อย!" เซียวเหิงตะโกนเสียงทุ้มต่ำและดิ้นรนอย่างสุดกำลัง ดวงตาทั้งสองจ้องมองไปที่ผิวน้ำที่ราบเรียบไร้ระลอกคลื่น พยายามมองหาร่างของเฉียวเนี่ยนเขาพยายามกระโดดลงไปในแม่น้ำอย่างต่อเนื่องแต่สองมือที่อยู่ข้างกายเขาคอยคว้าเขาไว้และดึงเขากลับมาเขาจึงทำได้เพียงปัดมือเหล่านั้นออกเนี่ยนเนี่ยนยังอยู่ในแม่น้ำ เขาต้องไปช่วยเนี่ยนเนี่ยน!“เพียะ!”เสียงตบที่ดังสนั่น ทำให้เซียวเหิงได้สติเซียวเหอกำลังจับคอเสื้อของเซียวเหิงไว้แน่น เสียงแข็งกร้าวเริ่มสั่นคลอน และเอ่ยว่า “เนี่ยนเนี่ยนจะไม่เป็นอะไร! นางว่ายน้ำเป็น! สิ่งที่เจ้าต้องทำในยามนี้คือพาสมุนหานางที่ปลายน้ำ ไม่ใช่กระโดดลงไป!”หากแม้แต่เซียวเหิงก็กระโดดลงไปด้วย แล้วพวกเขาจะช่วยใคร ช่วยเซียวเหิงหรือช
“อย่าหุนหันพลันแล่น!” เซียวเหอลงจากม้าเป็นคนแรก พร้อมตะโกนใส่พวกโจรภูเขาเมื่อเห็นรอยเลือดสีแดงฉานปรากฏบนคอของเฉียวเนี่ยน หัวใจของเขาก็พลันบีบรัดเซียวเหิงและหลินเย่ว์รีบลงจากม้าตามมาติดๆสีหน้าของเซียวเหิงดูมืดมนอย่างยิ่ง และกำหมัดแน่นเขาโกรธตัวเองที่ยามนั้นทำไมไม่กำจัดพวกโจรภูเขาให้หมดสิ้น ปล่อยให้เฉียวเนี่ยนตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ได้ยิ่งโกรธตัวเองที่หลงกลพวกโจรภูเขา!หลินเย่ว์มองเฉียวเนี่ยนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน จิตใจว้าวุ่น เขาตะโกนเสียงดัง "พวกเจ้าต้องการอะไร ข้าให้ได้ทุกอย่าง! ปล่อยน้องสาวข้า!"ดวงตาของเฉียวเนี่ยนหม่นหมองนางนึกไม่ถึงว่าหลินเย่ว์จะมาด้วยแล้วพลันพบว่า แม้ในสถานการณ์เช่นนี้ นางก็ยังไม่อยากเจอหลินเย่ว์ยิ่งไม่อยากได้ยินเขาเรียกนางว่า 'น้องสาว'ตั้งแต่เมื่อใดกันที่นางเกลียดพี่ใหญ่ถึงเพียงนี้?ก่อนที่นางจะครุ่นคิดมากกว่านี้ ก็ได้ยินเสียงของชายที่มีหนวดเคราตะโกนว่า "อยากให้พวกข้าปล่อยคนอย่างนั้นหรือ? ง่ายมาก! เอาหัวของเซียวเหิงมาให้พวกเรา!"เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวเหอและหลินเย่ว์ก็ตกใจแต่ก็นึกไม่ถึงว่าเซียวเหิงจะชักดาบยาวที่เอวออกมาและวางไว้บนคอของตนโด