Share

บทที่ 14

last update Last Updated: 2025-05-15 22:51:50

"ค่ะ" มินตราไม่มีทางเลือก อย่างไรเสียตอนนี้เธอก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงของเขา คงจะต้องชดใช้จนกว่าเขาจะพึงพอใจนั่นแหละภาคินถึงยอมปล่อยไปแต่โดยดี

เธอลุกขึ้นยืนแล้วปลดเปลื้องเสื้อตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างเชื่องช้าด้วยแววตาเหม่อลอย เมื่อเรือนร่างอรชรผิวขาวเนียนดุจน้ำนมยิ่งกว่าหยวกกล้วยได้เปลือยเปล่าต่อสายตาของเขาทุกกระเบียดนิ้วแล้ว อีกฝ่ายก็ยกยิ้มอย่างภูมิใจฉุดกระชากลากถูตัวเธอแล้วโยนทิ้งลงบนโซฟา

ก่อนใช้ฝ่ามือสัมผัสมันทุกสัดส่วนไม่ว่าจะเป็นไหปลาร้า ไหล่ลาดเนียนสวย เต้าอกอวบอิ่ม เอวคอดกิ่ว บั้นสะโพกกลมมน หรือจุดสงวนใจกลางกายซึ่งเคยผ่านมือเขาและปลายลิ้นของเขามาแล้วทั้งสิ้น...

มินตรานอนตัวแข็งทื่อปล่อยอารมณ์ให้ไหลตามเขาในขณะที่น้ำตายังคงหลั่งรินพรั่งพรูลงมาไม่ขาดสาย เกิดภาพเสมือนร่างไร้วิญญาณปล่อยให้เขากระทำชำเราตามอำเภอใจเมื่อเสร็จสรรพแล้วก็ค่อยแยกย้ายเช่นทุกๆครั้งที่ผ่านมา...

"เชี้ย! ถุงแตก" ภาคินสบถด่าด้วยถ้อยคำหยาบโลนอย่างตกใจแล้วรีบดึงความเป็นชายออกมาในสภาพใบหน้าซีดเผือก

แต่เมื่อพลิกดูข้างกล่องถุงยางอนามัยที่เขาพกเป็นแพ็คและหยิบใช้เป็นประจำก็ปรากฏว่ามันได้หมดอายุไปตั้งแต่เมื่อสิบเอ็ดเดือนก่อนหน้านี้... "ฉิบหายแล้วไงไอ้ภาคิน"

"คะ...คุณภาคิน" เมื่อก่อนเธออาจจะมีความคิดโง่ๆอยากปล่อยท้องเพื่อมัดใจภาคินเอาไว้เพราะเคยเห็นมาแล้วนัดต่อนัดว่าลูกสามารถทำให้คนเป็นพ่อเปลี่ยนไปอย่างกับคนละคนได้จริงๆ...

แต่นั่นมันเมื่อก่อนเพราะเธอคิดมาโดยตลอดว่าที่ภาคินดึงเธอเข้าไปในวงจรชีวิตคงจะมีใจรักสักนิด...ไม่เคยรู้ ไม่เคยเอะใจว่าความจริงแล้วในสายตาของเขาพร้อมจะเหยียบย่ำกดเธอให้จมดินและเห็นเป็นแค่เศษฝุ่นเศษขยะพวกเศษสวะเท่านั้น...

ฉะนั้นการปล่อยให้ท้องกับเขาคงเป็นเรื่องสิ้นคิดสำหรับผู้หญิงหน้าโง่! ทั้งไม่ได้รับความรักความเอ็นดูเหมือนครอบครัวแสนสุขซ้ำอาจโดนสาปส่งเฉดหัวทิ้งแล้วไม่ยอมรับทั้งแม่ทั้งลูกปล่อยให้เธอกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวแลลูกตามลำพัง...

ถ้าลูกถามถึงพ่อ เธอจะบอกเขาว่าอย่างไรล่ะ!

"ช่างแม่ง ต่อเถอะ" ภาคินยังคงหยิบถุงยางอนามัยกล่องที่หมดอายุสวมใส่เป็นเกราะป้องกันแล้วดันเข้าไปในช่องทางคับแคบอีกคราวเสมือนดั่งไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"ไม่ได้นะคะคุณภาคิน" นี่คงเป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่ภาคินเลี้ยงดูมินตรามาแล้วเธอออกปากร้องห้ามขัดความต้องการเขาเช่นนี้...เพราะทุกครั้งเธอจะเป็นฝ่ายสมยอมปล่อยตัวไหลไปตามน้ำให้เขาเสร็จสม...

"อย่ามาสั่งฉัน เธอเป็นใครฉันเป็นใคร ช่วยสำเหนียกตัวเองด้วยเพราะผู้หญิงอย่างเธอไม่ได้มีค่าพอที่ฃฉันต้องฟังคำสั่งและทำตาม" แปลก...พักหลังมานี้เมื่อเขาเจอเธอกับคุณลุงดำเกิงนั่งพูดคุยอยู่ในห้องด้วยความสนิทสนมสองต่อสองเขาก็มักจะพ่นประโยคหยาบโลนประโยคแทงใจดำกระแนะกระแหนสารพัดสาดใส่เข้ามาไม่ยั้ง...

"ไม่ได้นะคะคุณภาคิน" เธอพูดซ้ำสองทำให้เขาเริ่มหงุดหงิดหัวเสียที่ดันแทรกกลางเข้ามาขัดจังหวะในตอนที่เข้าด้ายเข้าเข็มและเสพสุขอยู่กับเรือนร่างอันแสนบอบช้ำซึ่งมีรอยจ้ำแดงๆกลมกลืนกับม่วงคล้ำหลายจุดประทับอยู่บนผิวเนื้อขาวเนียนดุจดั่งไข่มุก "ถ้ามินท้องขึ้นมา...คุณภาคินจะรับผิดชอบหรอคะ"

"แน่นอนว่าไม่ เพราะฉันไม่มั่นใจว่าเด็กในท้องเป็นลูกของฉันหรือเปล่า ไม่แน่ไอ้เด็กนั่นอาจจะเป็นลูกของคุณพ่อ น้องชายต่างแม่ของฉันหรือพวกเสี่ยพุงโตๆที่เธอเกาะยังไงล่ะ" มินตรากำหมัดแน่น นี่เธอต้องกล้ำกลืนฝืนแสร้งยิ้มมีใบหน้าสดใสน้อมรับคำพูดจาถากถางทำร้ายน้ำใจสารพัดจากเขาไปถึงไหนกันนะ

"แต่มินมีอะไรกับคุณแค่คนเดียว มินไม่ได้เป็นสำส่อนมักง่ายเหมือนที่คุณคิด!" มินตราตะคอกกลับไป

"เหรอ?" ภาคินขยับสะโพกกระทุ้งเข้าไปอัดใหญ่ๆคล้ายบทลงโทษสั่นสอนที่เธอกล้าปากดีตะคอกใส่เขา จนร่างบางรู้สึกหน่วงบริเวณช่องท้อง ทั้งจุก ทั้งแน่นอย่างบอกไม่ถูก "ฉันว่าแค่นั้นมันยังน้อยไปซะอีกนะมินตรา ผู้หญิงอย่างเธอมันหน้าเงิน ทำได้ทุกอย่างเพื่อเงินกระทั่งเอาตัวเข้าแลกยังไงล่ะ"

"คุณภาคิน..."

"และที่สำคัญ...ถ้าเกิดเธอท้องขึ้นมาจริงๆ ฉันคงคิดอื่นไกลไม่ได้นอกจากเธออยากจะใช้ไอ้เด็กมารหัวขนนั่นมันจับฉันเพื่อหวังใช้เป็นบันไดไต่เต้าขึ้นไปเสวยสุขอยู่บนกองเงินกองทอง และฉันขอบอกเธอไว้ก่อนเลยนะมินตราว่ามันไม่มีทางได้ผล มันใช้ไม่ได้สำหรับฉัน เพราะคนที่จะมาเป็นทายาทของตระกูลเดชาบวรสกุล ลูกของฉันต้องเกิดจากผู้หญิงเพียบพร้อมไม่ใช่ผู้หญิงพรรค์เธอที่เน่าเละส่งกลิ่นคาวเหม็นโฉ่ออกมาอย่างเธอ!" นี่คือสิ่งที่ภาคินคิดมาโดยตลอด...เขาจะไม่มีวันปล่อยให้ลูกของตัวเองต้องตกอยู่ในสภาพเดียวกับตนเด็ดขาด!!

เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะกระทำได้นั่นก็คือผู้หญิงที่จะมายืนเคียงข้างเขาและรับบทเป็นแม่ของลูกต้องเป็นผู้หญิงมีสกุลรุนชาติฐานะเท่าเทียมกัน ไม่ต้องมาอับอายขายขี้หน้าเวลาควงไปเดินในแวดวงสังคมไฮโซว่านี่น่ะหรือเมียของรองประธานที่กำลังจะได้รับตำแหน่งใหญ่ คือCEOบริษัทในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ผู้หญิงอย่างมินตราเป็นได้อย่างมากก็แค่คู่นอน นางบำเรอชั่วครั้งชั่วคราวที่ใช้บำบัดความใคร่ยามที่เขากระหายและไม่มีหนทางเป็นอื่นไปได้ หากจะมักใหญ่ใฝ่สูงไต่เต้าขึ้นมาเป็นสะใภ้ก็คงแค่ฝันกลางวันน่ะเพราะมันคงไม่มีวันนั้นเด็ดขาด!

"ค่ะ"

"เสร็จแล้วก็รีบไปซื้อยามากินซะ อย่าปล่อยให้มันป่องออกมาประจานความใคร่ของแม่ว่าแม่มันเห็นแก่เงินปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนกระทั่งท้องไม่มีพ่อ" ภาคินก็ชักจะรู้เหมือนกันว่ามินตราจะจงใจปล่อยท้องกับเขาหรือไม่

จะ...ให้เขามั่นใจได้อย่างไรว่าเด็กในท้องคือลูกของเขา ในเมื่อตัวแม่มันมั่วสำส่อนว่าควงผู้ชายไม่ซ้ำหน้า! เผลอๆเด็กนั่นอาจจะเป็นน้องชายต่างมารดาของเขาก็เป็นได้

แม้อายุอานามรุ่นพ่ออาจน้ำยาเหือดหายไม่สามารถสูบฉีดน้ำเชื้อมีลูกสืบทอดทายาทได้...แต่พ่อของเขาก็แก่เพียงอายุทว่ายังดูแลสุขภาพร่างกายเข้าฟิตเนสอย่างดี!

"ค่ะ" มินตรายกแขนเรียวบางขึ้นเช็ดรอยความอ่อนแอจากคราบน้ำตาที่แปดเปื้อนอยู่บนใบหน้า ต้องการเศษเสี้ยวความสงสาร ความเห็นใจของเขา แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความเย้ยหยันและความดูถูกดูแคลนที่มันย้อนกลับมาสมเพชตัวเองทว่าก็ยังไม่สามารถก้าวขาออกไปจากโคจรนรกนี้ได้เสียที

ที่ผ่านมาเธอพยายามอดทนกล้ำกลืนมาโดยตลอดเพราะยังคงแอบหวังลึกๆสักเสี้ยวเปอร์เซ็นต์หนึ่งว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงและทำให้เขารักเธอได้...แต่เปล่าเลย...วันนี้เขาทำให้เธอได้รู้ว่าความพยายามของเธอต่อให้จะลงทุนลงแรงไปสักเท่าไรค่าก็ยังคงเป็นศูนย์เช่นเดิม มันไม่เคยมีประโยชน์เพราะเขาไม่เคยเล็งเห็นคุณค่าของเธอ

เมื่อพิสูจน์แล้วว่าเธอไม่เคยมีคุณค่าสำหรับเขาเลยสักนิด เธอก็จะค่อยๆตีตัวออกหากแล้วเลือนหายจางกลับเข้าไปในความทรงจำที่ไม่มีตัวตนเช่นเดิม...ในส่วนที่เขาให้เธอมาตลอดระยะเวลา 1 ปีเต็มงั้นก็ถือเสียว่าเป็นเงินค่าตัวก็แล้วกัน เพราะอย่างไรเสียในสายตาเขาเธอก็ไม่ได้มีคุณค่าน่าเชิดชูหรือน่ายกย่องขนาดนั้นอยู่แล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 20

    "ใช่ ข้อนั้นฉันยอมรับว่าส่วนหนึ่งความผิดมันก็มาจากคุณพ่อและคุณแม่ อย่างที่นายคิดแม่ของนายไม่ผิดหรอกนะที่เข้ามาเพราะท่านไม่รู้ว่าพ่อของฉันมีเมียมีลูกอยู่แล้ว แล้วแม่ของฉันผิดเหรอที่ไม่พอใจ โมโห โกรธ เจ็บใจที่จู่ๆมารู้ว่าผัวตัวเองแอบไปมีเมียน้อยแถมยังมีลูกด้วยกันอีกหนึ่งคน ในมุมมองอยู่กินกันมาร่วมหลาย 10 ปีเป็นใครๆก็เสียใจ เป็นใครๆก็โมโหทั้งนั้นแหละ! หรือนายจะเถียง" "..." ภาคินเงียบ "ในตอนแรกแม่ของฉันผิดก็จริง อันนี้ฉันยอมรับ แล้วใครรู้บ้างล่ะว่าตลอดระยะเวลาที่แม่พานายมาเลี้ยง พานายมาอุ้มชู เป็นแม่กาเหว่าที่ให้อุปการะคุณลูกกา แม่ฉันน่ะทั้งรัก ทั้งเอ็นดูและให้ทุกๆอย่างกับนายเทียบเท่ากับฉัน และที่แม่พานายมาจากแม่ของนายก็เพราะอยากให้นายมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อยากให้นายได้ใช้ของดีๆ อยู่ในสังคมที่ดี ตอนแรกฉันก็เคยถามแม่ ท่านบอกว่าก็คิดอยากจะทำให้แม่ของนายเจ็บใจเจ็บช้ำน้ำใจที่โดนพรากลูกออกจากอก เหมือนตนโดนแย่งผัว แต่พอได้เลี้ยงนายเข้าจริงๆ ท่านก็รักนายเหมือนลูกแท้ๆอีกคนหนึ่ง นายเคยรู้บ้างหรือเปล่า!" ภาคีพยายามอธิบายให้น้องชายต่างมารดาได้เข้าใจพ้องต้องกัน "งั้นเหรอ?? ไม่ลำเอียงเลยงั้นเหรอ

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 19

    "ต่อไปนะคะก็จะเป็นบททดสอบแรกในส่วนของคุณภาคินค่ะ ทางคู่ค้าธุรกิจเสนอโครงการด้วยบอกมาว่าข้อเสียของคุณภาคินนั่นก็คือนิ่ง ไม่ค่อยยิ้มแย้มแจ่มใส หน้าตาไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่แต่การเจรจาคุยงานด้วยถือว่าราบรื่นเพราะเป็นคนพูดจาคล่องแคล่ว จริงจังตลอดเวลายามทำงานและที่สำคัญมีเทคนิคมีสกิลในการต่อรองราคาทำให้บริษัทได้เปอร์เซ็นต์ต้นทุนต่ำ กำไรพุ่งสูง ถือได้ว่าส่งผลดีมากๆเลยค่ะ" เลขาสาวคนสวยกล่าวรายงานหากดูจากบททดสอบแรกผู้ชนะก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากภาคิน ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะมีข้อดีและข้อเสียเช่นเดียวกัน แต่ข้อเสียของภาคินก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่องานหรือเปอร์เซ็นต์กำไรบริษัทที่จะต้องจ่ายเป็นจำนวนเงินเท่ากับของภาคี ฉะนั้นหากวางให้การงานรุ่งเรืองกิจการมั่นคงก็คงจะต้องเลือกภาคิน..."มาดูบททดสอบต่อไปกันนะคะ..." หลังจากนั้นเลขาสาวคนสวยก็ใช้รีโมทคอนโทรลเลื่อนสไลด์จอผ่านไปเรื่อยๆร่วมประมาณ 20 นาทีจนมาถึงบทสรุปสุดท้ายนั่นก็คือกำไรไตรมาสของบริษัทที่เพิ่มขึ้นในโครงการของทั้งสองคน "ท้ายสุดนี้ก็จะเป็นกำไรไตรมาสบริษัทสำหรับหัวข้อโครงการทำโฆษณานะคะ หนึ่ง ส่วนของคุณภาคีจะเป็นโฆษณาแบรนด์สบู่ผลรวมทั้งหมด ดูแล้วบริษัท

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 18

    วันประกาศผลการแข่งขัน..."ไม่ว่าวันนี้ผลมันจะออกมารูปแบบใด แม่ขอให้ภาคินอย่าโกรธ อย่าเกลียดพ่อเขาเลยนะลูก เพราะพ่อเขารักลูกเท่ากันทุกคน ไม่ได้ลำเอียงรักใครมากกว่ากัน ผลการแข่งขันมันก็ต้องออกมาตามหน้างานที่ปรากฏให้เห็นว่าคนไหนเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งผู้ประธานบริหารมากกว่า" นี่คือสิ่งที่คุณอรุณีกลัวมากที่สุดนั่นก็คือลูกชายจงเกลียดจงชังพ่อตัวเอง! หล่อนไม่อยากให้ภาคินเป็นแบบนี้เลยด้วยซ้ำ พยายามพูด พยายามเกลี้ยกล่อม พยายามหว่านล้อมสักเท่าไหร่ก็ไม่สามารถทำลายกำแพงที่กั้นอยู่ในใจของภาคินให้พังลงได้... ภาคินปลูกฝังและเห็นภาพจำซ้ำๆมาโดยตลอดว่าแม่ของเขาถูกกระทำย่ำยีจากคนบ้านนั้นอย่างไร แม่ของเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม ตกเป็นตุ๊กตาเริงระบำทั้งๆที่อยากจะหนีไปใจจะขาดแต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะลูก คุณดำเกิงใช้ลูกเข้ามาเป็นข้ออ้างในการรั้งอรุณี กักขังหล่อนเอาไว้ในบ้านหลังมอซอเล็กเท่ารูหนูหลังนี้ และในทางกลับกันคุณดำเกิงก็มัดตัวบีบบังคับ ชี้นิ้วสั่งขีดกรอบให้ภาคินทำตามที่เขานิมิตหมายเอาไว้ในหัวโดยใช้แม่ของเขามาเป็นข้ออ้างเช่นเดียวกัน... มันจึงทำให้ภาคินเข้าใจผิดว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคุณดำเกิงเห็นเขาแ

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 17

    ภาคินสั่งลูกน้องคนสนิทให้ช่วยกระจายข่าวและติดต่อนักสืบค้นหาตัวมินตรา ไม่ว่าจะต้องพลิกแผ่นดินหรือมุดน้ำข้ามทะเล ข้ามภูเขาสุดสีทันดรอย่างไรเขาก็จะทำ มันไม่ใช่เขารักหรือรู้สึกพิศวาสในตัวของมินตราจนกระทั่งยอมลงทุนเงินและอยากจะไขว่คว้าตัวเธอกลับมาหรอกนะ แต่มันเป็นเพราะความรู้สึกอยากเอาชนะที่โดนเธอหักหน้าและเป็นฝ่ายทิ้งเขาก่อนต่างหาก! "คิดว่าจะหนีพ้นฉันงั้นเหรอมินตรา!" ตอนนี้มินตราเป็นผู้หญิงของเขา เขาซื้อมินตรามาด้วยเงินก้อนใหญ่จำนวนหนึ่ง แล้วไหนจะค่าน้ำ ค่าไฟ เงินที่ใช้สอยในแต่ละเดือน รถสปอร์ตที่ให้เธอขับทุกๆวันและบ้านหลังนี้ที่ใช้อยู่อาศัยตลอดระยะเวลาเกือบ 1 ปีอีก...ถ้าเทียบกับตัวเธอที่เขาเคยระบายความเงี่ยนลงครั้งแล้วครั้งเล่ามันยังไม่ได้เศษเสี้ยวสักนิดที่เขาเสียไปด้วยซ้ำ ฉะนั้นมินตราจะต้องกลับมาชดใช้ให้เขาอย่างสาสม จนกว่าเขาจะรู้สึกพึงพอใจและไม่รู้สึกว่าโดนเอาเปรียบคดโกงระหว่างเงินจำนวนหลักล้านที่เสียไปและเรือนร่างของเธอ ... @ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง รุ่งเช้าวันถัดมาอันแสนเบื่อหน่าย ภาคินต้องแสร้งตีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเป็นสุภาพบุรุษในคราบของพญามารผู้ยิ่งใหญ่ยโสโอหังขับรถสปอร์ตคันหรูที

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 16

    ภาคินกลับมาจากทำงานด้วยสภาพเหนื่อยหน่ายเนื่องด้วยไปเจรจาทุนกับคู่ค้าคนสำคัญเพื่อพิชิตภารกิจสุดท้ายว่าแท้จริงแล้วผู้ใดเหมาะสมจะได้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทเดชาสกุลกรุ๊ป...การตัดสินนั้นไซร้ถูกรวบรัดให้เร็วขึ้นนั่นก็คือ 4 วันข้างหน้า...ไตรมาสกำไรจะถูกหยิบยกมาพูดเจรจากันในห้องประชุมและดูว่าผู้ใดมีสมรรถภาพมากพอในการบริหารให้เดชาบวรสกุลกรุ๊ปคงขึ้นแท่นบริษัทโฆษณาอันดับหนึ่งของเมืองไทยอยู่... ภาคินถอดเสื้อสูทตัวนอกวางพาดบนโซฟาไล่ตามองรอบๆบ้านที่บัดนี้มันถูกปิดมืดสนิทดำเป็นสีประกายนิลคลับคล้ายคลับคลาเหมือนว่าไม่มีคนอยู่แต่เขาสันนิษฐานมินตราอาจจะเพลียและนอนหลับไปแล้วก็เป็นได้...เขาจึงก้าวฉับๆขึ้นชั้นบนของบ้านทว่ากลับเจอเพียงความว่างเปล่า บนเตียงนุ่มนั้นมีหมอน 2 ใบขนาดใหญ่ส่วนผ้านวมผืนนุ่มก็ถูกขึงสี่ทิศให้เนี๊ยบจนเหรียญเด้งคล้ายกับความชำนาญเหมือนพนักงานในโรงแรมหรือรีสอร์ทดังที่ผ่านการร่ำเรียนมาอย่างดี... "ทำไมป่านนี้ยังไม่กลับบ้าน!" ยอมรับว่าเขาค่อนข้างหัวเสียเมื่อกลับมาแล้วไม่เจอมินตราอยู่ที่บ้าน เขาเคยสั่งแล้วสั่งเล่าหลังสองทุ่มเป็นต้นไปเธอจะไม่มีสิทธิ์ออกไปไหนได้อีก น่าแปลกใ

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 15

    @สามวันผ่านไป มินตราลาหยุดหนึ่งวันเพื่อออกไปทำธุระเยี่ยมเยือนมารดาซึ่งอยู่ต่างจังหวัดและไล่ตระเวนหางานทำที่มั่นคงพอประทังชีวิตหากโดนเฉดหัวทิ้งจากภาคินไว้บ้าง...โดยใช้เหตุผลอ้างกับเจ้านายว่าเธอรู้สึกปวดหัวไม่ค่อยสบาย แต่เขาน่ะหรือที่จะสนใจคอยมาดูแลประคบประหงมเหมือนหลายๆครั้งที่ผ่านมาเพราะเธอได้รับเพียงประโยคถากถางน้ำใจ กระแนะกระแหน 'เรียกร้องความสนใจ' 'สำออย!' แต่เธอก็กล้ำกลืนฝืนทน...ยิ้มสู้ ปล่อยประโยคของเขาให้กลายเป็นเพียงเศษฝุ่น ทำหูทวนลม เหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและไม่ได้ยิน... มินตราพลิกคว่ำพลิกหงายอยู่บนฟูกเตียงนุ่ม ขณะเวลา 9 นาฬิกา 30 นาที แล้วหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องเก่าที่เก็บเงินสะสมซื้อมาด้วยตัวเองขึ้นเปิดแอพพลิเคชันอากู๋ เพราะเพิ่งจะทราบจากปากของเขาเมื่อวานว่าถุงยางอนามัยที่ใช้มาตลอดระยะสามเดือนหมดอายุแล้วทั้งสิ้นเพราะมันคือแพ็คเดียวกันอยู่ในล็อตเดียวกันซึ่งเขาสั่งมาทั้งหมดเกือบ 20 กล่อง... บ้าชะมัด! ร้านนั่นขายถุงยางหมดอายุได้ยังไง 'ใช้ถุงยางอนามัยที่หมดอายุไปแล้ว 11 เดือนส่งผลอย่างไรบ้าง' ปรากฏว่า...'ข้อที่หนึ่ง อาจทำให้ถุงยางอนามัยปริ แตก ฉีกขาด รั่วซึม ในขณะที่กำลัง

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 14

    "ค่ะ" มินตราไม่มีทางเลือก อย่างไรเสียตอนนี้เธอก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงของเขา คงจะต้องชดใช้จนกว่าเขาจะพึงพอใจนั่นแหละภาคินถึงยอมปล่อยไปแต่โดยดี เธอลุกขึ้นยืนแล้วปลดเปลื้องเสื้อตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างเชื่องช้าด้วยแววตาเหม่อลอย เมื่อเรือนร่างอรชรผิวขาวเนียนดุจน้ำนมยิ่งกว่าหยวกกล้วยได้เปลือยเปล่าต่อสายตาของเขาทุกกระเบียดนิ้วแล้ว อีกฝ่ายก็ยกยิ้มอย่างภูมิใจฉุดกระชากลากถูตัวเธอแล้วโยนทิ้งลงบนโซฟา ก่อนใช้ฝ่ามือสัมผัสมันทุกสัดส่วนไม่ว่าจะเป็นไหปลาร้า ไหล่ลาดเนียนสวย เต้าอกอวบอิ่ม เอวคอดกิ่ว บั้นสะโพกกลมมน หรือจุดสงวนใจกลางกายซึ่งเคยผ่านมือเขาและปลายลิ้นของเขามาแล้วทั้งสิ้น... มินตรานอนตัวแข็งทื่อปล่อยอารมณ์ให้ไหลตามเขาในขณะที่น้ำตายังคงหลั่งรินพรั่งพรูลงมาไม่ขาดสาย เกิดภาพเสมือนร่างไร้วิญญาณปล่อยให้เขากระทำชำเราตามอำเภอใจเมื่อเสร็จสรรพแล้วก็ค่อยแยกย้ายเช่นทุกๆครั้งที่ผ่านมา... "เชี้ย! ถุงแตก" ภาคินสบถด่าด้วยถ้อยคำหยาบโลนอย่างตกใจแล้วรีบดึงความเป็นชายออกมาในสภาพใบหน้าซีดเผือก แต่เมื่อพลิกดูข้างกล่องถุงยางอนามัยที่เขาพกเป็นแพ็คและหยิบใช้เป็นประจำก็ปรากฏว่ามันได้หมดอายุไปตั้งแต่เมื่อสิบเอ็ดเดื

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 13

    "มินขอถามคุณภาคินจริงๆเถอะค่ะ คุณภาคินเคยรักมินบ้างไหมคะ" น้ำเสียงเจือแววสะอึกสะอื้นกล้ำกลืนความชอกช้ำเข้าไปในลำคอเป็นช่วงๆ พร้อมกับหยาดน้ำอุ่นร้อนหลั่งรินลงมาด้วยอาการเจ็บปวดรวดร้าวที่มันกำลังกัดกินก้อนเนื้อหัวใจดวงน้อย..."หัดส่องกระจกชะโงกดูเงาบ้างนะมินตราว่าเธอมีค่าพอหรือเปล่าที่จะให้ฉันลดตัวลงไปรัก" มันเหมือนกับมีมีดปลายแหลมปักเข้ากลางอก เลือดสีแดงสดไหลทะลักอาบเรือนร่างขาวเนียนจนแทบแลไม่เห็นผิวหนังมังสา "ผู้หญิงอย่างเธอมากที่สุดก็เป็นแค่นางบำเรอช่วยปรนเปรอฉัน ตอนที่ฉันอยากก็เท่านั้นแหละ อย่าสำคัญ อย่าสำเหนียกตัวเองมากเกินไปว่าที่ฉันทนอยู่กับเธอมาจนถึงทุกวันนี้เพราะรัก" ยัง...ยังไม่พอหรือไง แค่ประโยคแรกหัวใจของเธอก็ป่นปี้บอบสลายไม่เหลือชิ้นดีอยู่แล้ว แต่นี่เขายังพูดจาถมเถตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าหมายจะให้เนื้อที่เป็นแผลพุพองติดเชื้อเข้ากระแสเลือดจนสาหัสและเจียนตายเลยหรือ? "หากคุณไม่ได้รู้สึกดีด้วย.แล้วคุณจะดึงมินเข้ามาตั้งแต่แรกทำไม!" มินตราทรุดตัวลงนั่งบนพื้นกระเบื้องด้วยความรู้สึกซับซ้อนซ่อนเงื่อนพัวพันกันมั่วไปหมดในสมอง เขาไม่เคยรักเธอเลยสักนิดหรือไง? แล้วตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามัน

  • พันธะร้ายรักเมียเก็บ   บทที่ 12

    "เชิญครับคุณมินตรา นี่ก็ถึงเวลาทำงานแล้ว กรุณาเหน็ดเหนื่อยให้สมกับเงินเดือนที่ทางบริษัทจ่ายไปให้คุณด้วย" ภาคินกดน้ำเสียงต่ำแกมบังคับบีบให้มินตราค่อยๆหลุบลงมองพื้นแล้วถอนตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามบิดาเพื่อกระเถิบตัวตั้งท่าเตรียมรอออกจากห้อง "งั้นหนู...เอ่อ..." มินตราเหลือบขึ้นไปมองสายตาดุ กร้าวของภาคินเมื่อเธอหลุดใช้สรรพนามแทนการเรียกชื่อที่แสนจะคุ้นเคยกับคุณลุงดำเกิง "งั้นดิฉันขอตัวกลับไปทำงานก่อนนะคะท่านประธาน" "ตามสบายเลยจ้ะ" เมื่อเป็นเช่นนั้นมินตราจึงขออนุญาตปลีกตัวออกไปจากห้องประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทเดชาบวรสกุลกรุ๊ปเพื่อประจำยังโต๊ะทำงานของตนซึ่งอยู่บริเวณหน้าห้องของภาคินนั่นเอง @ห้องทำงานภาคิน "เข้าไปคุยกับผมในห้อง" ภาคินพูดในขณะที่กำลังเดินผ่านโต๊ะทำงานของมินตรา แกร๊ก!"ไปเสนอตัวให้พ่อผมถึงห้องเลยเหรอ?" ภาคินรั้งตัวร่างบางกระชากเข้าหากายพร้อมกับใช้ฝ่ามือของเขาบีบแขนเรียวบางของเธอจนเนื้อนุ่มบุ๋มยุบตัว "เงินที่ผมให้ใช้ในแต่ละเดือนมันขาดเหลือจนกระทั่งต้องยอมนอนกับผู้ชายที่มีสามีแล้วงั้นเหรอ?" "คุณภาคินพูดอะไรคะ? มินไม่เห็นจะเข้าใจเลย" มินตราไม่รู้ว่าตนจะต้องแสดงความ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status