“ เอ่อ...คือ ”
“ โอเครขอโทษที..ผมเผลอหลับไป...กู้ดไน้ท์นะ" ภวิชลุกขึ้นนั้งติดหัวเตียงเมื่อเห็นท่าทางอ้ำอึ้งของเธอแล้วเขาจึงตัดบทพูดให้เธอแล้วกล่าวราตรีสวัสดิ์กับเธอแทน...
“ อย่าไปเลยนะคะ ” มิ้นตราลุกจากพื้นขึ้นมานั่งบนเตียงบังทางขวางหน้าชายหนุ่มไว้แทน ภวิชคิ้วขมวดเธอขยับมาจับมือเขาไว้แน่น
“ อะไรกันมินคุณจะเอายังไงกันแน่ผมไม่เข้าใจ! ” เขาทำเสียงเข้มขรึมหงุดหงิดโวยวายใส่เธอแต่กลับไม่ยอมดึงมือที่เธอจับเขาไว้ออก ปล่อยมันอยู่นิ่งๆยอมให้เธอจับไว้แน่น เอ๊ะ? มันยังไงกันแน่หล่ะนี่
“ อะไรค่ะที่ว่าจะเอายังไง คืออะไรค่ะ ” หญิงสาวเสตามองพื้นที่เตียงไม่กล้าสบตากับเขาแม้ในใจจะรู้คำตอบก็ตาม
“ มิน ผมคิดว่าคุณน่าจะรู้ว่าผมหมายว่ามันหมายถึงอะไร ในเมื่อคุณปฏิเสธผมก็ไม่บังคับก็ตามใจคุณแล้ว คราวนี้คุณต้องการทรมานอะไรผมอีก ” เขาตีหน้าเข้มขรึมหนักกว่าเดิม
“ มินขอโทษ อย่าโกรธมินเลยนะคะ มินไม่อยากให้คุณเป็นแบบนี้ฮึกๆ ” น้ำตาใสคลอที่หน่วยเมื่อเขาปฏิเสธพยายามทำตัวไกลจากเธอ เสียงสะอื้นออกมาอย่างห้ามไม่ได้ เธอกำมือเขาไว้แน่นก้มมองพื้นเตียง ภวิชใจอ่อนยวบไม่ใช่อะไรหรอกจริงๆเขารู้ตัวตลอดตั้งแต่ที่มินตราก้าวเข้ามาในห้อง ทำแผลให้เขา สัมผัสจุมพิตที่แผลบางเบาทำให้เขาอบอุ่น แต่ถามเธอทีแรกว่าทำอะไรเธอดันทำท่ากระอักกระอ่วนใจจนเขาหมั่นไส้เลยอยากเอาคืนบ้างก็เท่านั้นสรรพนามที่แทนตัวเองด้วยชื่อทั้งที่ก่อนหน้ามันเป็นคำว่าฉัน คิดในใจว่าอย่างน้อยๆ เธอคงพอมีใจให้กับเขาบ้างล่ะน้าทำให้ภวิชรู้สึกถูกใจจนเผลอรอยยิ้มบางๆตรงมุมปากก่อนจะทำหน้าขรึมเช่นเดิมเมื่อจู่ๆเธอก็เงยหน้าขึ้นสบตากับเขา คนเจ้าเล่ห์หุบรอยยิ้มเกือบไม่ทันแถมยังตีหน้าขรึมถามกลับอีกว่า
“ ถ้างั้นคุณจะให้ผมทำยังไงกับคุณดีหืม ใกล้คุณมากไป คุณก็จ้องจะหาว่าผมจะทำร้าย พอผมให้อิสระไม่เข้าไปวุ่นวายคุณก็อยากให้ผมเป็นคนเดิม คุณคิดว่าผม อุ๊บ ” คำพูดภวิชหยุดลงเมื่อมินตรายื่นหน้ามาปิดปากเขาด้วยปากของเธอ ภวิชตกใจในตอนแรกแต่ไม่ได้ทำอะไรกับเธอมากกว่านั้นเพราะเธอถอนริมฝีปากจากเขาเสียก่อน ภวิชสบตาหญิงสาวตรงหน้าต้องการหาคำตอบในสิ่งที่เธอกระทำ แต่แล้วเธอก็กลับหลบสายตาเขาอีกครั้งด้วยใบหน้าสีแดงระเรื่อ
“ มินคุณไม่รู้เลยรึยังไงว่าผมทรมานลืมหรือเปล่าว่าผมก็แค่ผู้ชายคนนึงผมอยากทะนุถนอมทำให้คุณมีความสุขไม่ใช่ใช้แรงบังคับต้องพยายามแค่ไหนที่จะไม่เกินเลย แล้วดูสิ่งที่คุณทำกับผมสิ ”
“ จุ๊ มินบอกแล้วยังไงคะว่าขอโทษ ” มินตราเอามือจุ๊ที่ปากเขาแล้วยิ้มบางๆลูบใบหน้าคมบางเบาไล้สายตามองทั่วหน้าของเขาสบสายตาเว้าวอนตัดพ้อของเขาที่ส่งมาให้เธอก่อนจะพูดประโยคที่ชายหนุ่มคิดไม่ถึงมาก่อน
“ มิน คือ ” หล่อนกัดริมฝีปากของตัวเองจนดูเซ็กซี่ก่อนจะรวบรวมความกล้าไปจูบริมฝีปากหนาอย่างกล้าๆกลัวๆจูบไม่ประสาแต่สร้างความเสียวซ่านกระตุ้นอารมณ์บางอย่างที่ยากต่อการสยบลงได้เขาไม่คิดว่าริมฝีปากบางขบหยอกล้อเขาบางเบาจนภวิชร้องคราง
“ อืม... ” แต่เขาไม่คิดจะจูบตอบเธอ แม่แมวน้อยของเขาจะทำอะไรต่อไปล่ะอยากรู้นัก
“ อ่า คุณวิช...อุ๊ย..” เธอร้องเสียงหวานหวังให้เขาเชยชมแต่ภวิชกลับตวัดร่างของเธอให้เท้าพ้นพื้นมาแนบชิดกับตัวเขามากขึ้นชายหนุ่มพิงหัวเตียงหยัดเท้าอีกข้างให้เท้าสูงขึ้นส่วนอีกข้างปล่อยเหยียดตรง ใช้มือซ้ายรั้งร่างเธอเข้ามากอด
“ ยั่วผมแบบนี้ ผลออกมาคุณแน่ใจแล้วหรอ!ว่าจะไม่เกลียดมัน! ” เขาหอบหายใจด้วยไฟราคะที่กำลังก่อขึ้นอย่างแรงกล้าผลลัพธ์ในที่ว่านี้ก็หมายถึงเพศสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอรสแห่งพิศวาสของเขา เธอแน่ใจหรือเปล่าที่จะยอมให้กับเขาจริงๆ
“ มินทำขนาดนี้แล้วนะ ” เธอเอียงหน้าหลบอย่างเขินอาย สองแขนเท้าแนบหน้าอกของเขา แอ่นหน้าอกเอนเอียงหลบไปหน้าคมที่กระเซ้ากระซิบข้างหูของเธอ
“ เรียกพี่วิชสิครับมิน ” เขาช้อนปลายคางหญิงสาวให้หันมาสบตากับเขาก่อนจะมอบจุมพิตให้เธอแบบที่เรียกว่าจูบจริงๆ มินตรารู้สึกวูบวาบกับสิ่งที่เขารุกเร้าเข้ามาร่างบางถึงกับสั่นสะท้านภวิชที่ตอนแรกกะจะดูท่าทางและการยั่วของเธอ แต่......ไม่ไหวเสียจริงเห็นทีคงต้องสอนกันอีกยาวไว้ลูกศิษย์ฉายา ที่รัก คล่องแล้วเมื่อไหร่ ค่อยปล่อยให้ทดสอบก็คงไม่สายไปกระมั้ง เขาคิดยิ้มแย้มในใจบรรเลงจูบริมฝีปากบางเบาด้วยอารมณ์อ่อนไหวที่แสนหวาน มินตราแทบหมดเรี่ยวแรวเมื่อเขายกตัวเธอขึ้นทับที่หน้าขาของเขาที่ก่อนหน้านั้นมีข้างหนึ่งที่เท้าชันตั้งบัดนี้วางแบนเรียบกับเตียงกว้างเพื่อจัดสรรพื้นที่ให้ร่างกายของเธอ เขายังทำหน้าที่พรมจูบขบติ่งหูเธอเบาๆ
“ พี่วิช อ่า อืม พี่วิชขา ”
“ ครับ คนสวย บอกก่อนนะ ต่อให้เขาช้างมาชุด ก็หยุดพี่ไม่ได้แล้ว ”
เขาขานรับกระซิบชมหญิงสาวหน้าหวานที่หลับตารับรสจูบที่เรียกได้ว่าเกือบสูบวิญญาณของเธอ
“ หึๆ ” มินตราหัวเราะเบาๆกับคำหยอกของเขาที่ดูท่าว่าจะจริง มือแกร่งเริ่มอยู่ไม่สุข ลูบไล้แผ่นหลังจับมือบางวางบนบ่าของเขากระชับลูบไล้บางเบาวนมากอบกุมปทุมถันด้านหน้า
“ อ่า ” เสียงหวานครางจนเขาร้อนเป็นบ้าเกือบคุมแทบไม่ได้
“ อืม มินครับจูบพี่หน่อย ” มินตราที่แนบหน้ากับหัวไหล่ส่ายหน้าเบาๆเสียงตอบอู้อี้แต่เดาได้
“ มินจูบไม่เป็น ”
“ หึๆ ” เสียงหัวเราะในลำคอของภวิชทำให้มินตราสบตาจ้องกับเขาเธอทำแก้มป่องใส่อย่างที่ภวิชอดใจไม่ได้ต้องใช้ฟันสวยขบเบาๆปลายจมูกหล่อนอย่างหมั่นเขี้ยว
“ จูบแบบนี้ไง ” ภวิชบอกแล้วสอนเธอด้วยการขบริมฝีปากล่างเบาๆ หยอกเย้าไปถึงริมฝีบน สร้างเสียงครางหวานส่งออกมาเสียงเรียกชื่อเขาทำให้ภวิชยิ่งเสน่หาในเธอ ชุดสายเดี่ยวเริ่มหลุดเลื่อนลงจากบ่าไปกองอยู่ที่เอว มินตราสติแทบไม่เหลือแล้ว ภวิชไม่รอช้าที่จะส่งเรียวลิ้นกวาดหาสิ่งหอมหวานจากปากของเธอมือหนายังทำหน้าที่บีบคลึงยอดถันที่ชูชันสิเน่หา สะโพกมนถูกคลึงให้ผายริมฝีปากหนานั้นไล้ลงตามเรือนกายขบเม้ม สร้างความเป็นเจ้าของทั้งซอกคอ หัวไหล่ หน้าอกแอ่นรับสัมผัส ภวิชเองก็แทบทนไม่ไหว
“ สวยจังเลยครับมิน เขาดูดเม้มเหมือนทารกขาดนมมารดา
“ พี่วิชขา ”
พายุลูกสุดท้ายพัดกระหน่ำความสุขในบทเพลงพิศวาสไม่จบลงเพียงครั้งเดียวเท่านั้นเขาสร้างความสุขเธอไปเพียงหนึ่งครั้งด้วยเรียวนิ้วเสื้อคลุมสีน้ำเงินล่วงหล่นเพราะมือบางที่ทั้งกำทั้งขยับทั้งปัดด้วยความเสียวซ่านที่เขาส่งมาให้ จนเธอกระตุกปล่อยสายธารให้เขาได้เห็น หน้าบางแดงก่ำหลบตาเขาที่มองเธออย่างหวานเยิ้ม
“ นี่แนะจะมองทำไมนักหนาค่ะ ” มินตราตีที่มือเขาบางเบาเบียดชิดแนบกายเขาแน่นกว่าเดิมเพียงเพราะไม่อยากเห็นสายตาหื่นกระหายของเขาที่สำรวจเรือนร่างของเธอแต่รู้ไหมหน่ะมินตราเธอกำลังคิดผิดเพราะนั่นยิ่งทำให้หน้าอกหญิงสาวเบียดชิดกับกายเขามากยิ่งขึ้นภวิชกัดฟันด้วยความรัญจวนแมวน้อยของเขาร้ายกาจจริงๆ
“ เอ้า ก็มินสวยนี่ครับ ” เขาจูบหัวมนไหล่อีกครั้งมืออีกข้างงัดบางอย่างที่
ขยายตัวอย่างเต็มที่ออกมาเสียดสีปากทางโพลงแห่งเสน่หาสาว....
“ ซี้ด อ่าอืม ” เสียงทั้งสองคนครางประสานกันมินตรากระชับเรียวแขนโอบกอดภวิชแน่นเมื่อสัมผัสความเสียวกระสันจนขนอ่อนลุกชูชันเมื่อสัมผัสถึงความแตกต่างทั้งเขาและเธอได้ ร่างกายมินตราสั่นเทาจนภวิชต้องโอบกอด
“ กลัวรึเปล่าครับ ”
“ อืม ” มินตรากัดริมฝีปากแล้วพยักหน้าเธอไม่เคยรู้เรื่องอย่างว่าแบบนี้มาก่อนเคยแค่ทฤษฏีแต่ปฏิบัตินี้ไม่ผ่าน
“ ไม่ต้องกลัวนะครับพี่สัญญา จะทำให้มินมีความสุขเอง ” เมื่อสัมผัสได้ถึงการพยักหน้าของเธอนิ้วแกร่งก็เริ่มนำทางในขณะที่มินตรายังคงซบหน้ากับบ่ากว้างของเขา
“ อ่าาาอืม~” คนนึงร้องด้วยใกล้ถึงฝั่งเมื่อเขารัวเร็วถี่ขึ้นจนเธอกลั้นเสียงไม่ไหว คนนึงร้องด้วยความเสียวกระสันที่ภายในนุ่มนั้นอ่อนหวานตอดรัดสัมผัสเขาจนแทบคลั่ง
“ อะอ๊า ” เมื่อเธอสุขสมแล้วมินตราแทบจะหมดแรงหอบหายใจแผ่วภวิชจูบหน้าผาก ขมับ ไร้ลงริมฝีปากพลางค่อยๆยกร่างมินตราขึ้นโดยที่เธอแทบไม่หลงเหลือสติด้วยซ้ำเขาหลอกล่อให้เธอหลงใหลเพื่อเธอจะได้ไม่ตกใจกับสิ่งแปลกปลอมที่เขากำลังจะใส่เข้าไปในร่างกายของเธอ
“ กึก โอ้ยยอืม ” มินตราเผลอจิกไหล่กว้างด้วยความตกใจและเผลอกัดปากชายหนุ่มไปและร้องด้วยความเจ็บปวดกับบางอย่างที่เขาใส่เข้ามา สติและอารมณ์หวิวๆ หายไปเป็นปลิดทิ้งหยาดน้ำใสๆคลอที่หน่วยตา ภวิชเองก็แทบจะขาดใจนี้แค่ใส่ไปได้แค่ส่วนปลายมินตราก็มีสีหน้าที่เจ็บปวดได้ถึงเพียงนี้เขาจูบซ้ำที่หางตาเบาๆ
“ ฮือ มะไม่เอาแล้วฮือเจ็บอ่ะ พี่วิชฮือๆหยุดเหอะนะ ”
“ หยุดไม่ได้แล้วมิน พี่มาถึงขั้นนี้แล้ว ”
“ ไม่ฮือเอาออกไปนะ มินเจ็บโอ้ยฮือๆ ” เธอร้องเจ็บปวดอีกครั้งเมื่อภวิชพยายามดันตัวเขามาอีกครั้งช้าๆภวิชกัดกรามดังกรอดสยบอารมณ์ไม่ให้ทำดั่งใจปรารถณา
“ มินขอร้องอย่าขยับไม่งั้นมินจะเจ็บกว่านี้เชื่อพี่สิมันจะดีขึ้น ” เขาพูดเสียงดุสบตากับเธออย่างปรามมินตายอมหยุดอยู่นิ่งเธอไม่อยากเจ็บกว่านี้มันเหมือนร่างโดนมีดผ่าก็ไม่ปาน
“ ไม่ร้องนะครับคนดีมินต้องช่วยพี่ด้วยนะถ้าไม่อยากเจ็บแบบนี้ เข้าใจไหม ”จูบซับน้ำตาให้เธอมือหนาไล้ลูบใช้หัวแม่มือคลึงจุดประสาทสัมผัสที่อ่อนไหวของกายสาวมินตราส่งเสียงครางอีกครั้ง มีเพียงใบหน้าที่พยักเพยิดฟังเขาเท่านั้นแค่มินตาขยับนิดเดียวเขาก็ห่อปากซี้ดแล้ว
“ มินยกตัวขึ้นอ้าขาให้กว้างอีกหน่อยครับ อืม...เก่งมากเลย ” ภวิชเอ่ยชมเมื่อหญิงสาวเริ่มทำตามเขาค่อยๆขยับกายเข้าหาอีกครั้งช้าๆแต่ทุกครั้งที่ขยับออกและขยับเข้าลึกขึ้น มินตราจะผวากอดเขาแน่นจนเขากลั้นใจถอนแกนกายออกมาจนมินตราร้องครางเบาๆแล้วส่งมันกลับทีจะสุดความยาวในครั้งเดียว
“ อร้าย ” มินตราทั้งเจ็บปวดทั้งเสียวซ่านไม่ต่างจากภวิชเขาสัมผัสถึงเยื่อบางๆที่เขาเพิ่งฝ่าฟันผ่ามันมาได้
“ โอ้ววมินจ๋า พี่ขอโทษที่ทำให้มินเจ็บนะ ” เขานิ่งแช่ในร่างกายเธอสักพักพอให้ปรับตัวได้พูดเสียงกระเส่าไปด้วยส่วนล่างก็ค่อยๆขยับเช่นกันความเจ็บปวดแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกโหยหาซึ่งกันและกันอย่างร้องขอทั้งสองกอดเกี่ยวกวัดเสียงครางเสียงหวานแหบพร่า เสียงหอบหายใจคืนนี้ดูท่าไม่จบลงง่ายๆ รางวัลลูกศิษย์สาวเขายังมีไว้ให้อีกเยอะ