LOGINแววตาของชายหนุ่มเข้มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่าย มองออกว่าไอ้อาการที่อัจจิมาเป็นอยู่ตอนนี้เพราะมี ‘ยาปลุกเซ็กซ์’ ไหลเวียนอยู่ในร่างกาย
“ทำไมรถคุณร้อนจัง” เธอคู้ตัวเข้าหากันหวังเพียงว่าความรู้สึกทุรนทุรายเหมือนมีเปลวไฟแผดเผาเนื้อหนังจะบรรเทาลง ต้นขาเรียวเบียดเสียดสีต้องการขจัดความรู้สึกคับข้องตรงพื้นที่ระหว่างกึ่งกลางลำตัว
“ร้อน?” เขาแกล้งถามออกไปแล้วจัดการเร่งแอร์ให้เธอ “หายร้อนหรือยัง”
คนถูกถามส่ายหน้าไปมา ก่อนจะทำการปลดสายเดี่ยวเส้นเล็กของตัวเองลงไปกองกับข้อศอก เนินเนื้ออิ่มนูนปรากฏต่อสายตาของคนข้างๆ ชายหนุ่มบังคับสายตาไปมองถนนทันที แต่ไม่เกี่ยวกับความเป็นสุภาพบุรุษ เขาก็แค่กลัวว่าถ้าปล่อยให้สายตาอยู่กับสิ่งสวยงามนานกว่านี้อาจจะเกิดอุบัติเหตุเอาได้ อีกอย่างเขาก็ไม่ได้ขาดแคลนถึงขนาดจะต้องฉวยโอกาสมองหน้าอกผู้หญิงที่แทบไม่มีสติหลงเหลืออยู่
“ฉันไม่ไหวแล้ว ร้อน…ร้อน…” ใช่ว่าจะไม่รู้ตัวเพียงแต่อัจจิมาไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้ เธอวางมือลงที่ขาของอีกฝ่าย ลูบไล้ขึ้นลงด้วยความทรมานกายก่อนที่มือซุกซนของเธอจะเฉียดเข้าไปใกล้เป้ากางเกง
“ใจเย็นสิ” เขาตะครุบมือเลื้อยเหมือนเถาวัลย์เอาไว้ได้ทัน ไม่ยอมให้เธอลุกล้ำอาณาจักรก่อนจะไปถึงโรงแรม
ไม่ใช่…นี่ไม่ใช่ตัวเธอ
เสี้ยวหนึ่งของจิตใต้สำนึกบอกว่ากำลังเกิดความผิดปกติขึ้นกับเธอแน่ ๆ แต่ไม่ว่าจะพยายามยังไงเธอก็ไม่สามารถควบคุมความต้องการนี้ได้
เธอต้องการใครสักคนที่จะช่วยเธอปลดปล่อย
“ไม่ไหวแล้ว ฉัน…อยากได้” ด้วยฤทธิ์ของอะไรก็ไม่อาจทราบได้ อัจจิมาขยับเข้าไปหาอีกฝ่ายก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวานพร่า มือเล็กวนเวียนอยู่แถวหัวเข็มขัดในขณะเธอพยายามจะจูบเขาให้ได้
เมื่อมองเห็นจุดหมายอยู่ข้างหน้าชายหนุ่มก็หักพวงมาลัยรถ ตอนแรกเขาตั้งใจจะพาเธอไปโรงแรมแต่ดูท่าแล้วเธอไม่น่าจะไหว สุดท้ายเลยต้องเลี้ยวเข้าม่านรูด
แม้จะรู้แก่ใจว่าที่อัจจิมาเป็นแบบนี้เพราะโดนยาปลุกอารมณ์ แต่จะโทษว่าเขาฉวยโอกาสก็ไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะเธอเป็นคนชวนเขาออกมาเอง เขาก็ไม่ใช่คนดีขนาดนั้นด้วยสิ จะได้ปฏิเสธเหยื่ออันโอชะที่วางล่ออยู่ตรงหน้า
เปิดประตูเข้ามาในห้องได้ทั้งสองคนก็แลกจูบกันอย่างดูดดื่ม ไม่ว่าจะเกิดจากการอยากประชดชีวิต ฤทธิ์ของเหล้าหรืออะไรก็ตามแต่ เวลานี้อัจจิมาไม่หลงเหลือสติพอให้คิดทบทวน ขอแค่เขาพาเธอขึ้นสวรรค์ชั้นฟ้าได้เป็นพอ
ขณะจูบดุดันดำเนินอยู่นั้นเชิ้ตเนื้อดีก็ถูกโยนลงพื้น เผยให้เห็นร่างกายกำยำที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้าม แม้ว่าอัจจิมาจะมองไม่ค่อยชัดเพราะฤทธิ์ของเหล้าแต่สิ่งสวยงามตรงหน้ามันก็ทำให้ความร้อนรุ่มในกายแทบระเบิดออกมาข้างนอก
เขาจับมืออัจจิมาไปสัมผัสกับส่วนนั้นของตนเองเพื่อให้เธอเล้าโลม ใบหน้าเธอแดงก่ำขณะที่มือเธอประคองส่วนแข็งขืน ในขณะที่เจ้าของมันขยับท่อนขาแข็งแรงออกเพื่อให้เธอสัมผัสมันอย่างถนัดมือ
“อืมม” เสียงครางต่ำดังขึ้นด้วยความพอใจ อัจจิมาเลื่อนมือลูบไล้ทั่วทั้งลำยาวก่อนจะหยุดอยู่ที่ส่วนหัวแล้วเคล้าคลึงไปพร้อมกับการแลกน้ำลายกันอย่างนัวเนีย
สัมผัสยังไม่ถึงนาทีมือเล็กก็กำส่วนนั้นไม่มิด มันเริ่มขยายขนาดขึ้นจนเธอรู้สึกได้ถึงความดุดัน แต่ยิ่งมันตอบสนองเธอมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งเร่งจังหวะมือเร่าร้อนมากขึ้นเท่านั้น
“อืมมม” เขาคำรามอย่างเป็นสุข เธอคุยโวก่อนหน้าเห็นทีจะไม่ใช่แค่ราคาคุย แต่นี่มันก็แค่เริ่มต้น เขาไม่ปล่อยให้เธอได้ในสิ่งที่ต้องการเร็วขนาดนั้นหรอก
จบความคิดร้ายกาจร่างสูงก็อุ้มเธอขึ้นไปนั่งบนโต๊ะ
อัจจิมาแทบผวาเมื่อมือหนากดแผ่นหลังเธอให้แอ่นอกขึ้นก่อนที่เขาจะก้มลงไปดูดกลืนเอาเม็ดทับทิมบนเนื้อเนินอกให้หายเข้าไปในปาก การจู่โจมรุนแรงทำให้เธอแหงนใบหน้าไปด้านหลัง สองมือน้อยเกาะไหล่กว้างไว้มั่น เรียวขาทั้งสองเหนี่ยวรัดกับสะโพกแน่นหนั่นของอีกฝ่ายไว้เป็นหลักยึด
ไม่คิดว่าเขาจะเร่าร้อนถึงเพียงนี้ เม็ดทับทิมสีหวานของเธอถูกขบเม้มและดูดดึงอย่างรุนแรงจนบางครั้งฟันคมๆ ก็ครูดกับมัน มืออีกข้างบีบขยำหน้าอกเต่งตึงด้วยความเมามัน
“อ๊ะ” ในขณะที่กำลังด่ำดิ่งกับรสสวาทที่อีกฝ่ายมอบให้เธอก็หลุดเสียงครางออกมา ปลายลิ้นร้อนไล้เลียกับหน้าอกโต นิ้วยาวเคล้าคลึงเม็ดทับทิมจนแข็งเป็นตุ่มไต
หญิงสาวรู้สึกเหมือนใจจะขาดอยู่รอนๆ ร่างเล็กหอบหายใจเหมือนกำลังวิ่งขึ้นภูเขา เสียงลมหายใจเธอประสานกับเสียงลมหายใจของอีกฝ่าย ร่างกายสูงใหญ่บดเบียดเข้ากับตัวเธอ มือเรียวยาวเลื่อนลงไปลูบไล้เนินอวบอูมผ่านชุดรัดรูปก่อนจะสอดเข้าไปข้างในเพื่อสัมผัสกับส่วนนั้นของเธอ
“คุณยังไม่มีเจ้าของใช่ไหม” เป็นน้ำเสียงที่แหบพร่า อัจจิมาส่ายหน้าอย่างไม่ลังเล เธอโสดสนิทและถึงแม้จะเพิ่งโสดไม่กี่ชั่วโมงนี้ก็ตาม
ชั่วพริบตาเดียวกางเกงชั้นในตัวบางก็ถูกดึงลงไปข้างล่าง เรียวนิ้วสอดเข้าไปในช่องทางรักของหญิงสาวในทันที อีกมือลูบไล้ไปตามเรือนร่างงดงามก่อนจะหยุดนวดเฟ้นที่อกเต่งตึงเพื่อระบายความต้องการของตนเอง
ดวงตาคมจ้องใบหน้างดงาม ลึกลงไปในดวงตาคู่สวยที่หยาดเยิ้มไปด้วยความต้องการสูงสุด ในใจพลางให้สงสัย
ทำไมคนสวย ๆ อย่างเธอถึงหลุดมาถึงมือเขาได้นะ
แต่ก็ช่างเถอะ ในเมื่อมันก็เป็นแค่ความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืน
พรุ่งนี้เช้าก็กลายเป็นแค่คนแปลกหน้ากันแล้ว
“งั้นก็ดี” จับมือเล็กให้ไปสัมผัสกับส่วนนั้นของตัวเอง
มือของอัจจิมาสร้างความหฤหรรษ์ให้เขาเป็นอย่างมาก เธอรู้จังหวะที่จะขยับมือขึ้นลงและรู้น้ำหนักมือที่จะบีบจะคลายแก่นกายที่กำลังขยายขนาดเต็มที่ เขาแทบคลั่งเมื่อคิดไปว่าถ้าเธอเปลี่ยนจากมือเป็นปาก มันจะขนาดไหน
“อ๊ะอ๊า” เสียงครางดังขึ้นเมื่อน้ำหนักที่ปลายนิ้วเรียวสอดใส่เข้าไปในรูคับแคบของเธอรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ นิ้วที่กำลังหมุนวนอยู่ข้างในความนุ่มกระตุ้นจุดกระสัน ส่งผลให้ร่างกายอัจจิมากระตุกหลายครั้งติดกัน แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บ ราวกับว่าอีกฝ่ายผ่านเรื่องอย่างว่ามาอย่างโชกโชน
“อยากได้ลิ้นหรือตรงนั้นเลย”
ในระหว่างที่สติอันน้อยนิดกระเจิดกระเจิงไปไกล สติเหล่านั้นก็กลับมาได้เพียงเพราะคำถามสั้น ๆ จากเขา
ดีไม่ดี อาจจะมาเพื่อประกาศตัดลูกชายออกจากกองมรดกต่อหน้าทุกคนความเงียบเข้าปกคลุมในงาน บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด แม้แต่เสียงเพลงรักหวานซึ้งของนักร้องชื่อดังยังต้องหยุดเอาไว้เมื่อพ่อกับลูกเผชิญหน้ากันพิธารู้ว่าในใจของอัจจิมาตอนนี้รู้สึกอย่างไร กับการที่พ่อของเขามางานทั้งที่ไม่ยอมรับเธอเป็นสะใภ้ของวงศ์ตระกูล เขาจึงเอื้อมมือไปกุมมือเธอ สายตาสื่อความหมายลึกซึ้งต่อให้จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ เขาก็จะแต่งงานกับเธอและจะไม่ยอมปล่อยมือนี้ไปเด็ดขาดให้ความมั่นใจกับเธอแล้วเขาก็หันไปเผชิญหน้ากับคุณนิพนธ์อีกครั้งผู้ใหญ่ในงานคนหนึ่งซึ่งสนิทกับคุณนิพนธ์พอสมควรตัดสินใจลุกออกจากโต๊ะเพื่อจะเข้าไปช่วยพูดไม่ให้คนเป็นพ่อทำเสียฤกษ์หรือพูดอะไรที่จะเป็นการหักหาญน้ำใจเจ้าบ่าวเจ้าสาวผู้ใหญ่คนดังกล่าวไม่ทันจะได้พูดอะไร อดีตนายแพทย์นิพนธ์ก็ยกมือขึ้นห้าม สายตามองไปยังเวที บรรยากาศตึงเครียดขึ้นมาทันใด“แกแต่งงานแต่ไม่คิดจะเชิญฉัน ยังเห็นฉันเป็นพ่ออยู่ไหม” แม้จะฟังดูเป็นการต่อว่าต่อขาน หากแต่ทุกคนก็มองออกว่าคุณนิพนธ์ไม่ได้จะมาพังงานแต่งลูกชายอย่างที่พากันกังวล หรือกระทำการใดที่บ่งบอกว่าไม่เห็นด้วยกับการแต่งงา
ในที่สุดความอดทนในการเฝ้ารอให้ถึงวันที่เขาจะได้แต่งงานกับอัจจิมาก็จบลง เมื่อฤกษ์มงคลที่ประสิทธิ์ได้มาจากหลวงพ่อวัดดังย่านหนึ่งแล้วก็ขอให้เขารอมาอีกสามเดือน ในที่สุดก็ถึงวันนี้แล้วขณะที่แขกเหรื่อกำลังทยอยกันมาร่วมงาน บ่าวสาวยังอยู่บนห้องรับรอง อัจจิมาที่ตื่นแต่เช้ามืดถูกช่างแต่งหน้าชื่อดังทั้งหมดสามคนรุมแปลงโฉมเป็นเจ้าสาว ด้านเจ้าบ่าวแต่งตัวอยู่อีกห้องหนึ่งชายหนุ่มในชุดสูทสีขาวเรียบหรูยืนรออยู่หน้ากระจกบานใหญ่เกือบเท่าความสูงของชายหนุ่ม สายตาคมปลาบมองสำรวจตัวเองทุกกระเบียดนิ้ว จัดเนกไทเส้นแพงหลายครั้ง ไม่ยอมให้มีจุดไหนบกพร่องเล็ดลอดสายตา เมื่อวันนี้เป็นวันสำคัญที่สุดในชีวิตของเขา“มึงจะดูอะไรนักหนาวะ” เห็นเพื่อนพิถีพิถันกับการแต่งตัวแล้วเคืองลูกกะตาหมอธนาจึงแซวขึ้น พลอยให้ช่างแต่งหน้าสาวสวยมองแล้วยิ้มตาม“มึงไม่เคยแต่งงานมึงไม่รู้หรอก” อยากอ้าปากเถียงให้หายหมั่นไส้ในความขี้อวด แต่หนุ่มมาดเจ้าชู้ก็ดันเถียงไม่ออก เจ้าบ่าวสายเห่อเดินไปหย่อนกายลงบนโซฟาอย่างคนอารมณ์ดี หลังจากตรวจทานความเรียบร้อยของตัวเองจนพอใจแล้ว“เชิญมึงแต่งไปคนเดียวเหอะ ส่วนกูขออยู่เป็นโสดแบบนี้ดีกว่า” คนนั่งไขว่ห้างกร
“เร็วสิ ภิมน้อยมันอยากให้คุณสัมผัสจะแย่แล้ว” ช้อนตามองบอกเสียงนุ่มปนแหบพร่าเมื่อเห็นคนตัวเล็กเอาแต่แกล้งให้เขาทรมาน“แบบนี้ไม่น้อยแล้วค่ะ” อัจจิมาพูดเย้าหยอกหากก็เป็นความจริง ก่อนจะหลุบตาลงมองแผ่นท้องเครียดครัดด้วยมัดกล้ามของคุณหมอเห็นไรขนสีเข้มประปรายเลื้อยต่ำลงไปในขอบกางเกง แล้วจัดการถอดหัวเข็มขัดเส้นแพงออก นิ้วเนียนนุ่มเลื่อนลงไปปลดตะขอทันทีกางเกงเนื้อดีเลื่อนลงจากสะโพกเพรียวตามด้วยบ็อกเซอร์ตัวเล็ก เผยให้เห็นลำเอ็นอวบใหญ่ที่เริ่มจะแข็งขึงขึ้นมาจนน่ากลัวแม้จะยังขยายขนาดไม่เต็มที่เธอลูบไล้เนื้อตัวของเขาโดยปราศจากความเหนียมอาย มือเล็กนุ่มเคลื่อนต่ำลงไปจนถึงกึ่งกลางกาย คว้าจับท่อนเนื้อแข็งร้อนเอาไว้แล้วรูดรึงลำเอ็นขึ้นลงจนมันโป่งพองขยายขนาด รู้สึกได้ถึงเส้นเลือดขรุขระที่ปูดโปนบนลำยาวเขากดไหล่เธอให้นั่งลงบนขอบอ่างด้านหลังโดยที่เขายังอยู่ในท่ายืน มือข้างหนึ่งกุมมือเธอรอบท่อนเนื้ออวบใหญ่ของตนเอง อีกข้างรวบกำเส้นผมยาวสลวย ตรึงเธอไว้ให้มั่น ก่อนที่มือข้างหนึ่งนั้นจะเคลื่อนต่ำลงไปหาจุดอ่อนไหวของเธอนิ้วเรียวยาวเสียดสีกับยอดเกสร ส่งกระแสซาบซ่านไปทั่วร่างกาย หญิงสาวรู้สึกถึงความฉ่ำชื้นที่ซ
หลังจากผลการตรวจแน่ชัดว่าอัจจิมาตั้งครรภ์ พิธาก็ขออนุญาตประสิทธิ์ให้เธอมาอยู่ที่เพ้นท์เฮาส์ในช่วงนี้เพื่อที่เขาจะได้สะดวกในการดูแลเธอเริ่มต้นเดือนแห่งความรักท้องฟ้าแจ่มใสตลอดทั้งวัน อัจจิมาลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกสดชื่นเพราะได้นอนหลับพักผ่อนเต็มที่ตั้งสติอยู่ครู่หนึ่งเธอก็หันไปมองข้างกาย กลับพบแต่ร่องรอยที่บ่งบอกว่าเมื่อคืนนี้มีคนนอนอยู่ด้วยอัจจิมาลุกขึ้นจากเตียงหนานุ่ม เปิดประตูออกไปจากห้อง พลันได้กลิ่นหอมลอยเข้าจมูก ชวนให้คนเพิ่งตื่นนอนรู้สึกหิวขึ้นมาทันที และเมื่อเดินเข้าไปใกล้กับส่วนของเคาน์เตอร์ เธอก็เห็นใครบางคนกำลังง่วนอยู่กับการเตรียมมื้อเช้าพิธาอยู่ในชุดไปรเวทสบาย ๆ หากก็ยังดูดี เขาผูกกันเปื้อนสีน้ำตาลเข้ม ท่าทางดูคล่องแคล่ว เห็นแล้วอัจจิมาก็อดยิ้มไม่ได้กับภาพตรงหน้าเธอไม่นึกไม่ฝันว่าวันหนึ่งเธอจะมีคนตื่นมาทำกับข้าวให้ทาน แถมเขายังตื่นนอนก่อนเธอทุกวันแม้ว่าจะเลิกงานกลับมาดึกดื่น และพิธาก็ปฏิบัติกับเธอแบบนี้ตั้งแต่วันที่สารภาพความรู้สึกอัจจิมาค่อย ๆ ย่องเข้าไปด้านหลังของชายหนุ่ม สวมกอดเขาไว้เพียงหลวม ๆ แหงนหน้าขึ้นไปถามคนตัวสูง “ทำอะไรกินคะ หอมจัง”“ข้าวต้มหมู คุณหิ
สองเดือนต่อมาอัจจิมาไม่ได้ไปทำงานเพราะเธอรู้สึกไม่ค่อยสบาย เมื่อวานที่บริษัทก็หน้ามืดไปครั้งหนึ่ง วันนี้เจ้านายเลยอนุญาตให้เธอหยุดพักผ่อนอยู่บ้าน“ไปหาหมอหน่อยไหม จะได้รู้ว่าเป็นอะไร” ประสิทธิ์เห็นลูกไม่ได้ไปทำงานก็อดเป็นห่วงไม่ได้“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หนูซื้อยามากินแล้ว นอนพักหน่อยเดี๋ยวก็ดีขึ้น” เจ้าของใบหน้าอ่อนเพลียเอ่ยตอบผู้เป็นพ่อก่อนจะนั่งลงทานข้าวต้มร้อน ๆ ที่ประสิทธิ์เพิ่งจะยกออกมาให้“คงไม่ใช่ว่าท้องหรอกนะ” เพ็ญพักตร์พูดขึ้นลอย ๆ แต่มันก็ทำให้เธอฉุกคิด…ช่วงนี้ที่บริษัทงานยุ่ง บางวันอัจจิมาถึงกับต้องเอางานกลับมาทำต่อที่บ้าน เธอจึงลืมไปเสียสนิทว่าเดือนนี้ประจำเดือนยังไม่มา แต่นอกจากอาการหน้ามืดซึ่งเธอคิดว่าเป็นเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอก็ไม่มีอาการอื่นประสิทธิ์มองหน้าหญิงสาว จะว่าไปแล้วสมัยที่บังอรตั้งท้องเธอก็หน้ามืดแบบนี้“ไปโรง’บาลเถอะ เป็นอะไรจะได้รู้”“ไปก็ไปค่ะ แต่วันหลังนะคะ วันนี้หนูไปไม่ไหว”“แล้วทำไมไม่ให้คุณหมอมารับล่ะ” สองสัปดาห์ให้หลังมานี้อัจจิมากลับมานอนที่บ้านทุกวัน อีกทั้งยังไม่เห็นพิธาขับรถมาส่งลูกเหมือนช่วงแรก ๆ ประสิทธิ์จึงถามไถ่ถึงว่าที่ลูกเขย“ช่วงนี้เขางานยุ
ร่างบางในชุดนอนตัวโคร่งขดอยู่ใต้ผ้าห่มกำลังหลับสนิท ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามีคนเข้ามาในห้องกลางดึก ผ้าห่มหนานุ่มถูกดึงเลื่อนลงจากตัวทีละน้อยหญิงสาวขดตัวเข้าหันกันเมื่อผิวเนื้อปะทะกับความเย็นจากเครื่องปรับอากาศ ฝ่ามือเรียวยาวของชายหนุ่มกุมเท้านุ่มนิ่มข้างหนึ่งของเธอเอาไว้ลูบคลำขึ้นมาถึงปลีน่องนวลเนียน ปลายนิ้วลูบโลมสูงขึ้นไปจนถึงด้านในขาอ่อนใต้ร่มผ้า ลากไล้เนินเนื้อที่กึ่งกลางกายสาวผ่านชุดนอน ‘ไม่ได้นอน’ สุดวาบหวิวที่อัจจิมาเพิ่งจะถอยมาวันนี้ทว่าการเคลื่อนไหวนั้นก็ต้องหยุดลงเมื่อคนหลับตาอยู่ส่งเสียงงึมงำออกมา “อื้ออ”“ไหนว่าจะรอผมไง” เสียงทุ้มดังขึ้นที่ริมหู อัจจิมาลืมตาขึ้นในความมืดสลัว มองเห็นใบหน้าอีกฝ่ายไม่ชัดนัก หากก็รู้ว่าเจ้าของมือซุกซนคือเจ้าของหัวใจและร่างกายของเธอ“กี่โมงแล้วคะ”“ตีหนึ่ง” เขากระซิบข้างหูพลางรู้สึกผิดขึ้นมาที่บอกให้เธอรอแต่ตัวเองดันกลับดึกเพราะมีเคสผ่าตัดเร่งด่วนเข้ามา แถมการผ่าตัดใหญ่ยังลากยาวกว่ากำหนด ขนาดว่าเขารีบบึ่งรถกลับมาแล้วอัจจิมายันตัวลุกขึ้นนั่ง พิธาโน้มศีรษะซุกหน้าลงกับเรือนผมสีน้ำตาลประกายทอง กลิ่นโรงพยาบาลคละเคล้ากับกลิ่นโคโลญจน์จากตัวชายหนุ่ม เธ







