Home / วาย / พิศวาสลวงบ่วงมาร / บทที่ 6 สั่นไหว

Share

บทที่ 6 สั่นไหว

Author: Luffy.g
last update Last Updated: 2025-08-19 11:13:28

บทที่ 6 สั่นไหว

         เฟิ่งอวี้ถอนหายใจแผ่วเบา “ข้าเพียงคิดว่า...หากปราศจากความรู้สึกใดๆ แล้ว ชีวิตจะมีความหมายอันใดเล่า ความสุข ความเศร้า ความรัก ความเกลียดชัง...สิ่งเหล่านี้ล้วนหล่อหลอมให้เราเป็นเรา หากไร้ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ก็ไม่ต่างอะไรจากรูปปั้นหินที่งดงามแต่ไร้ชีวิตจิตใจ”

         คำกล่าวของเฟิ่งอวี้ราวกับสายฟ้าฟาดลงกลางใจของหลี่ซาน เขาจ้องมองเฟิ่งอวี้ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสับสนและความประหลาดใจ ตลอดชีวิตของเขา เขาเชื่อมั่นมาตลอดว่าการไร้ใจคือหนทางสู่ความสมบูรณ์แบบ แต่คำพูดของเด็กหนุ่มผู้นี้กลับสั่นคลอนความเชื่อของเขาอย่างรุนแรง

         เฟิ่งอวี้ยกมือขึ้นช้าๆ แตะลงบนแขนเสื้อของหลี่ซานอย่างแผ่วเบา รอยยิ้มอ่อนโยนประดับบนใบหน้า ทว่าดวงตาคู่สวยกลับฉายแววลึกล้ำเกินกว่าจะคาดเดา “ท่านอาจารย์...ท่านงดงามราวเทพเซียน แต่กลับดูโดดเดี่ยวเหลือเกิน...หากวันหนึ่งท่านมี 'ใจ' ขึ้นมา...ท่านจะรู้สึกว่าโลกใบนี้ไม่ได้ว่างเปล่าอย่างที่ท่านคิด”

         สัมผัสที่แผ่วเบาของเฟิ่งอวี้ ราวกับกระแสไฟฟ้าที่แล่นเข้าสู่ร่างของหลี่ซาน ทำให้เขารู้สึกสั่นสะท้านไปทั่วทั้งกาย ความรู้สึกแปลกประหลาดที่ไม่อาจอธิบายได้ก่อตัวขึ้นในช่องท้อง มันร้อนระอุ และบีบรัดหัวใจของเขาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หลี่ซานพยายามดึงแขนกลับ แต่กลับพบว่าตนเองทำไม่ได้ ราวกับมีบางสิ่งบางอย่างตรึงเขาเอาไว้

         เฟิ่งอวี้ยิ้มกว้างขึ้นเล็กน้อย ดวงตาคู่สวยเปล่งประกายท้าทาย “ราตรีสวัสดิ์ขอรับ...ท่านอาจารย์” เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้พร้อมกล่าวออกมาราวกับเป็นสิ่งปกติ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องพักของตนเอง ทิ้งให้หลี่ซานยืนนิ่งอยู่หน้าประตูราวกับถูกสาป

         หลี่ซานยังคงยืนนิ่งค้างอยู่เช่นนั้นเนิ่นนาน ความรู้สึกร้อนรุ่มในกายไม่ได้หายไปไหน แต่มันกลับทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คำพูดของเฟิ่งอวี้ยังคงก้องอยู่ในโสตประสาท “หากวันหนึ่งท่านมี 'ใจ' ขึ้นมา...”

         เขายกมือขึ้นสัมผัสบริเวณแขนเสื้อที่เฟิ่งอวี้แตะต้อง สัมผัสที่แผ่วเบานั้นยังคงติดตรึงอยู่ที่ผิวหนังของเขา ราวกับถูกตราประทับเอาไว้ หลี่ซานรู้สึกสับสนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาไม่เข้าใจว่าความรู้สึกที่กำลังก่อตัวขึ้นในใจของเขาคืออะไร มันไม่ใช่ความโกรธ ไม่ใช่ความรังเกียจ และก็ไม่ใช่ความปรารถนาในแบบที่เขาเคยรู้จัก

         ค่ำคืนนั้น หลี่ซานกลับไปยังห้องบำเพ็ญเพียรของตนเอง แต่จิตใจของเขาไม่สามารถสงบนิ่งได้อีกต่อไป ภาพของเฟิ่งอวี้ รอยยิ้มของเขา คำพูดของเขา รวมถึงสัมผัสที่แผ่วเบาของเขา ยังคงวนเวียนอยู่ในห้วงความคิดของหลี่ซาน เขาพยายามขับไล่ภาพเหล่านั้นออกไปจากความคิด แต่กลับทำไม่ได้ ราวกับเฟิ่งอวี้ได้หยั่งรากลึกเข้าไปในส่วนลึกของจิตวิญญาณเขาแล้ว

         “เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่ เฟิ่งอวี้” หลี่ซานพึมพำกับตัวเอง เสียงของเขาแหบพร่า ดวงตาคมกริบจับจ้องออกไปนอกหน้าต่าง มองดูแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมาต้องยอดไม้ ท่ามกลางความมืดมิดของยามค่ำคืน

         ในขณะที่เฟิ่งอวี้ที่ล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างสบายใจ รอยยิ้มกว้างฉายชัดออกมาบนใบหน้าด้วยความพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง แสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างกระทบใบหน้า ทำให้ดวงตาคู่สวยของเขาทอประกายสีแดงเรื่อๆ ราวกับดวงตาของหมาป่าในยามค่ำคืน

         “หลี่ซาน... ความรู้สึกแรกของท่านที่มีต่อข้า... กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว” เฟิ่งอวี้กระซิบเสียงแผ่วเบา

         ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา การฝึกฝนของเฟิ่งอวี้ก็เข้มข้นขึ้นเป็นทวีคูณ หลี่ซานใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการสอนเขาเป็นการส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นวิชาควบคุมพลังปราณ การต่อสู้ด้วยกระบี่ หรือแม้แต่ศาสตร์การปรุงยาและอักขระโบราณ

         เฟิ่งอวี้แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ที่น่าทึ่ง เขาสามารถเรียนรู้และซึมซับทุกสิ่งได้อย่างรวดเร็ว ราวกับฟองน้ำที่ดูดซับน้ำได้อย่างไร้ขีดจำกัด สิ่งนี้ทำให้หลี่ซานรู้สึกประหลาดใจและพอใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่เคยมีศิษย์คนใดในสำนักเมฆาขาวที่มีความสามารถเช่นนี้มาก่อน

         แต่ภายใต้ความมุ่งมั่นและพรสวรรค์อันเป็นเลิศนั้น เฟิ่งอวี้ยังคงรักษาบทบาทที่ตนเองสร้างได้อย่างไร้ที่ติ เขาจะคอยสังเกตความต้องการของหลี่ซานอย่างเงียบๆ คอยรินชาอุ่นๆ ให้ในยามที่อีกฝ่ายกำลังครุ่นคิด หรือจัดเตรียมตำราที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่กำลังสอนโดยที่หลี่ซานไม่ทันได้เอ่ยปากขอ กิริยาเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ค่อยๆ แทรกซึมเข้าไปในชีวิตประจำวันของหลี่ซานอย่างช้าๆ จนปรมาจารย์ผู้เย็นชาเริ่มคุ้นชินกับการมีอยู่ของเฟิ่งอวี้ราวกับเป็นส่วนหนึ่งของตัวเอง

         เย็นวันหนึ่ง หลังจากการฝึกวิชาดาบอันหนักหน่วง หลี่ซานนั่งพักอยู่ริมบ่อน้ำใสกลางสำนัก เฟิ่งอวี้เดินเข้ามาพร้อมผ้าสะอาดและถ้วยชาสมุนไพรกลิ่นหอมกรุ่น เขานั่งลงข้างๆ หลี่ซานอย่างเงียบเชียบ ก่อนจะยื่นผ้าให้ “ท่านอาจารย์เหน็ดเหนื่อยแล้ว โปรดพักผ่อนก่อนเถิด” เสียงของเฟิ่งอวี้อ่อนโยนราวกับสายลมที่พัดผ่านใบไม้

         หลี่ซานรับผ้ามาเช็ดเหงื่อที่หน้าผากโดยไม่เอ่ยสิ่งใด ดวงตาคมกริบเหลือบมองเฟิ่งอวี้เพียงแวบเดียว ก่อนจะหันกลับไปมองผิวน้ำที่นิ่งสงบ

         “ท่านอาจารย์...ใบหน้าของท่านดูอ่อนล้ายิ่งนัก” เฟิ่งอวี้เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เจือด้วยความกังวลอย่างจริงใจ “ท่านควรพักให้มากหน่อยเถิด”

         หลี่ซานชะงักไปเล็กน้อย คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเพียงเล็กน้อย เขาไม่เคยมีผู้ใดกล้าเอ่ยวิจารณ์เขาเช่นนี้มาก่อน ตลอดชีวิตที่ผ่านมาเขาดูแลตนเองอย่างดีเยี่ยม ไม่เคยมีผู้ใดต้องเป็นห่วงเขา

         “ไม่เป็นไร” หลี่ซานตอบสั้นๆ เสียงของเขายังคงเย็นชาเช่นเคย

         เฟิ่งอวี้ถอนหายใจแผ่วเบา ราวกับไม่สบายใจ “ท่านอาจารย์...โปรดดูแลตนเองให้มากกว่านี้เถิด หากท่านเป็นอะไรไป...แล้วสำนักเมฆาขาวจะพึ่งพาใครได้เล่า” น้ำเสียงของเขานั้นแสดงความห่วงใยอย่างสุดซึ้ง พร้อมกับแววตาที่ฉายแววตัดพ้อเล็กน้อย ราวกับว่าตัวเขานั้นสำคัญกับสำนักและหลี่ซานมากเพียงใด

         หลี่ซานหันไปมองเฟิ่งอวี้ ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยของอีกฝ่าย พยายามค้นหาความจริงใจที่ซ่อนอยู่ และในแววตาของเฟิ่งอวี้ เขากลับเห็นเพียงความห่วงใยที่บริสุทธิ์ ไร้ซึ่งสิ่งเคลือบแฝงใดๆ อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่เขาคิด

         “เจ้าห่วงข้า?” หลี่ซานถามด้วยน้ำเสียงที่หลุดจากความเย็นชาเล็กน้อย มันเป็นน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความแปลกใจ

         เฟิ่งอวี้ยิ้มเศร้าสร้อย “ข้าไร้ญาติขาดมิตร มาพึ่งพาท่าน หากท่านเป็นอะไรไป ข้าจะอยู่ได้อย่างไรเล่า” คำพูดนั้นเรียบง่าย ทว่ากลับกระทบใจของหลี่ซานอย่างรุนแรง เขานึกถึงคำพูดของเฟิ่งอวี้ในวันแรกที่พบกัน ที่ว่าเขาไร้บ้าน ไร้ญาติขาดมิตร ต้องพึ่งพาท่านเพียงผู้เดียว

         หลี่ซานเงียบไปอีกครั้ง ความรู้สึกอบอุ่นแปลกๆ ก่อตัวขึ้นในอกของเขา มันเป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน ความรู้สึกที่คล้ายกับความรับผิดชอบ...และความผูกพัน

         หลี่ซานสลัดความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัว “เจ้าออกไปได้แล้ว ข้าต้องการอยู่เพียงลำพัง” เขาเอ่ยปากไล่เฟิ่งอวี้พร้อมกับหลับตาลงราวกับไม่ต้องการรับรู้การมีตัวตนของชายหนุ่มอีก

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พิศวาสลวงบ่วงมาร   ตอนที่ 55 ภาพฝันที่ไม่เลือนหาย

    ตอนที่ 55 ภาพฝันที่ไม่เลือนหาย วันเวลาผันผ่านไป เดือนแล้วเดือนเล่า ปีแล้วปีเล่า หลี่ซานยังคงใช้ชีวิตอยู่ในถ้ำอันเงียบสงบกลางเทือกเขาสูงใหญ่ ที่ซึ่งเขาปลีกวิเวกจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง ถ้ำแห่งนี้กลายเป็นที่พำนักของความทรงจำและหัวใจที่แตกสลาย ชายหนุ่มนั่งอยู่ริมธารน้ำตกเล็กๆ ภายในถ้ำ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ รับความเย็นบริสุทธิ์ของอากาศยามเช้า ปล่อยให้สายน้ำที่ไหลรินชะล้างความเจ็บปวดในจิตใจ “เฟิ่งอวี้…” หลี่ซานกระซิบชื่อนั้นแผ่วเบา ราวกับจะเรียกหาชายหนุ่มให้กลับมา ความทรงจำถึงเฟิ่งอวี้ยังคงชัดเจนในใจของหลี่ซาน ราวกับว่าชายหนุ่มยังคงอยู่เคียงข้างเขาตลอดเวลา ทุกรอยยิ้ม ทุกสัมผัส ทุกคำพูด ยังคงตรึงอยู่ในห้วงลึกของจิตใจ ภาพของเฟิ่งอวี้ในวันแรกที่พบกัน ความโหดร้าย ความเจ้าเล่ห์ รวมถึงวันที่เขาพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อพิสูจน์ความจริงใจ และวันที่เขาจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ ภาพเหล่านี้ผุดขึ้นมาในความคิดของหลี่ซานไม่เคยว่างเว้น เขาหวนนึกถึงวันที่เขาโอบกอดร่างของเฟิ่งอวี้ที่ไร้วิญญาณไว้แน่น ก่อนจะจากสำนักเมฆาขาวมา ละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง

  • พิศวาสลวงบ่วงมาร   ตอนที่ 54 ความสูญเสีย

    ตอนที่ 54 ความสูญเสีย หลี่ซานโอบกอดร่างที่ไร้วิญญาณของเฟิ่งอวี้ไว้แน่น เสียงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดดังระงมไปทั่วบริเวณ เขาสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ความรู้สึกผิดบาปและความสูญเสียถาโถมเข้าใส่เขาอย่างรุนแรง เขาได้สูญเสียคนที่เขารักไปแล้วจริงๆ แม้ว่าเฟิ่งอวี้จะเป็นมารร้าย แต่ในช่วงเวลาสุดท้าย ชายหนุ่มกลับแสดงความรักที่บริสุทธิ์และจริงใจให้เขาเห็น เสิ่นหยวนและหลันเฟิงยืนนิ่งอยู่ไม่ไกล ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจและสับสน พวกเขาไม่คิดว่าเหตุการณ์จะลงเอยเช่นนี้ พวกเขาตั้งใจจะกำจัดมารร้าย แต่กลับกลายเป็นว่าพวกเขาได้พรากชีวิตของคนที่อาจารย์ของพวกเขารักไปแล้ว “อาจารย์…” เสิ่นหยวนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ หลี่ซานเงยหน้าขึ้นมองเสิ่นหยวน ดวงตาของเขาแดงก่ำไปด้วยน้ำตาและความเจ็บปวด “เจ้า…เจ้าทำอะไรลงไป!” เสียงของเขาเต็มไปด้วยความตัดพ้อและความสิ้นหวัง เสิ่นหยวนรู้สึกผิดอย่างแสนสาหัส เขาไม่เคยเห็นอาจารย์ของเขาอยู่ในสภาพเช่นนี้มาก่อน “ข้า…ข้าไม่คิดว่า…” หลันเฟิงเดินเข้ามาใกล้ เขาคุกเข่าลงข้างๆ หลี่ซาน “อาจารย์…พวกเราเพียงต้องการปกป้องท่าน…”

  • พิศวาสลวงบ่วงมาร   ตอนที่ 53 ความจริงที่ไม่อาจทนรับ

    ตอนที่ 53 ความจริงที่ไม่อาจทนรับ ท่ามกลางความมืดมิดของยามค่ำคืน แม้ด้านนอกของเรือนพักจะเกิดการปะทะอย่างรุนแรง แต่เพราะม่านมนต์ที่หลี่ซานร่ายครอบคลุมเรือนเอาไว้ ทำให้เขามิอาจได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นด้านนอกแม้แต่น้อย หลี่ซานยังคงนอนพลิกตัวไปมาบนเตียงอย่างรู้สึกกระสับกระส่าย ความรู้สึกไม่สบายใจเกาะกินจิตใจของเขาอย่างบอกไม่ถูก ราวกับมีบางสิ่งบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น ลางสังหรณ์อันเฉียบคมของเขา ทำให้เขารู้สึกได้ถึงพลังปราณที่รุนแรงผิดปกติกำลังปะทุขึ้นในบริเวณเรือนพักของเขา หัวใจของเขาเต้นรัวด้วยความกังวลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สัญชาตญาณทำให้เขาต้องรีบก้าวออกมาจากเรือนพักด้วยความเร่งรีบที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพียงก้าวเท้าออกมาจากเรือนพัก ภาพที่ปรากฏต่อหน้าทำให้หลี่ซานถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจสุดขีด เขามองเห็นเสิ่นหยวน ศิษย์เอกของเขากำลังปลดปล่อยพลังปราณสีขาวบริสุทธิ์อันรุนแรงมหาศาลพุ่งเข้าใส่เฟิ่งอวี้อย่างจัง ร่างของเฟิ่งอวี้ที่นั่งนิ่งรับปราณนั้นอย่างไร้การป้องกันตนเอง ดวงตาหลับพริ้มราวกับกำลังรอคอยความตายที่กำลังจะมาถึง “หยุดเดี๋ยวนี้!” หลี่ซานตะ

  • พิศวาสลวงบ่วงมาร   ตอนที่ 52 ความจริงเปิดเผย

    ตอนที่ 52 ความจริงเปิดเผย ในขณะที่หลี่ซานกำลังพยายามข่มใจให้แข็งแกร่ง และยอมปล่อยมือจากเฟิ่งอวี้เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย อีกด้านหนึ่งของสำนักเมฆาขาว เสิ่นหยวนและหลันเฟิง ศิษย์เอกทั้งสองที่เพิ่งเดินทางกลับมาถึงสำนักเมฆาขาว หลังจากที่ออกเดินทางไปประชุมและเยี่ยมเยียนสำนักต่างๆ ตามเทียบเชิญที่ได้รับมานานเกือบปีก็กำลังเผชิญหน้ากับความจริงอันน่าตกตะลึง “หลงจู ระหว่างที่พวกข้าไม่อยู่ มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นในสำนักหรือไม่” เสิ่นหยวนถามออกมาด้วยน้ำเสียงขึงขัง ดวงตาคมกริบของเขากวาดมองไปรอบๆ สำนักอย่างนึกหวาดระแวง เขาสัมผัสได้ถึงพลังปราณบางอย่างที่แปลกไปจากเดิม พลังปราณที่แฝงกลิ่นอายของมาร แม้จะเจือจางลงไปมากก็ตาม มันทำให้เขาอดนึกระแวดระวังขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ หลังจากที่เคยมีประสบการณ์ตรงในการต่อสู้กับเฟิ่งอวี้เมื่อหลายปีก่อน หลงจูรีบเข้ามารายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด ตั้งแต่การมาถึงของเฟิ่งอวี้ ศิษย์คนใหม่ผู้มีพรสวรรค์ การที่เฟิ่งอวี้สามารถเข้าใกล้หลี่ซานได้อย่างผิดปกติ และเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อน รวมถึงการบาดเจ็บของเฟิ่งอวี้โดยไม่ทราบสาเ

  • พิศวาสลวงบ่วงมาร   ตอนที่ 51 จำนน

    ตอนที่ 51 จำนน เช้าวันต่อมา หลี่ซานได้รับจดหมายจากเสิ่นหยวนและหลันเฟิงอีกครั้ง พวกเขาทั้งสองกำลังเดินทางกลับสำนักเมฆาขาว พร้อมกับรายงานเรื่องเบาะแสของเฟิ่งอวี้ที่ถูกพบในบริเวณใกล้สำนัก พวกเขาหมายมั่นอย่างแน่วแน่ที่จะกำจัดเฟิ่งอวี้ให้สำเร็จให้จงได้ “เฟิ่งอวี้ เจ้าไม่อาจอยู่ที่นี่ได้อีกแล้ว หากเสิ่นหยวนและหลันเฟิงกลับมาพบเจ้า ชะตาของเจ้าคงจบสิ้นเป็นแน่” หลี่ซานพ้อออกมาด้วยความรู้สึกเจ็บปวดและจนใจ เขารู้ดีว่าเวลานี้ร่างกายของเฟิ่งอวี้นั้นไม่อาจต้านทานกำลังของศิษย์ทั้งสองได้ และในขณะเดียวกันเขาก็มิอาจลุกขึ้นมาปกป้องชายหนุ่มได้เช่นเดียวกัน ภาระและหน้าที่ที่มีต่อสำนักและยุทธภพทำให้เขามิอาจเลือกเส้นทางได้ตามอำเภอใจ และทางเดียวที่จะปกป้องเฟิ่งอวี้ได้ นั่นคือการยอมปล่อยมือเฟิ่งอวี้ให้จากไปอย่างไม่หวนกลับ บ่ายวันนั้น ขณะที่แสงตะวันเริ่มคล้อยต่ำ หลี่ซานและเฟิ่งอวี้ยืนเผชิญหน้ากันในห้องโถงที่เงียบสงบ หลี่ซานตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์ที่ไม่อาจเป็นไปได้นี้ แม้ว่าเขาจะต้องเจ็บปวดเพียงใดก็ตาม ชายหนุ่มพยายามรวบรวมความเข้มแข็งทั้งหมดที่มี เพื่อกล่าวคำที่บาดลึกหัวใจของตนเอง

  • พิศวาสลวงบ่วงมาร   ตอนที่ 50 ใจอ่อน

    ตอนที่ 50 ใจอ่อน คืนหนึ่งหลี่ซานนั่งอ่านตำราอยู่ในห้องอย่างเงียบๆ ประตูห้องก็ถูกเปิดออกอย่างแผ่วเบา เฟิ่งอวี้เดินเข้ามา เขายังคงซีดเซียวเล็กน้อยจากอาการบาดเจ็บที่ยังไม่หายดี แต่ดวงตาของเขากลับเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่น “หลี่ซาน ข้าทำขนมมาให้ท่าน” เฟิ่งอวี้ยื่นจานขนมเล็กๆ ที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นมาให้ หลี่ซานรับมาโดยไม่พูดอะไร เขาสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากจานขนมที่เฟิ่งอวี้ถือมา “หลี่ซาน…ข้าขออยู่เป็นเพื่อนท่านได้หรือไม่” เฟิ่งอวี้กล่าวเสียงแผ่วเบา พลางนั่งลงบนพื้นข้างๆ หลี่ซานอย่างเงียบๆ เขาไม่ได้พยายามสัมผัสกาย ไม่ได้พยายามพูดจาออดอ้อน เพียงแค่นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างสงบ หลี่ซานอ่านตำราต่อไป แต่ในใจของเขากลับไม่สงบเหมือนเคย เขาเหลือบมองเฟิ่งอวี้เป็นระยะๆ เห็นชายหนุ่มนั่งนิ่ง ดวงตาจับจ้องไปที่ตำราที่เขาอ่านราวกับกำลังสนใจอย่างแท้จริง เวลาผ่านไปช้าๆ ความเงียบในห้องไม่ได้อึดอัดอย่างที่คิดแต่กลับอบอุ่นอย่างประหลาด เฟิ่งอวี้รู้สึกว่าความแข็งกระด้างในใจของหลี่ซานกำลังอ่อนลงทีละน้อย เขาไม่อาจรู้ว่าหลี่ซานจะใจอ่อนอีกนานเท่าใด แต่ในเวลานี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status