โชคชะตา
“คุณธีขา อ๊ะ อ๊า” เสียงครวญครางของหญิงสาวร่างเล็ก ทว่ากลมกลึง โดยเธออยู่ในท่าโก้งโค้งอยู่บนเตียง โดยมีร่างใหญ่เจ้าของชื่อกระแทกกระทั้นเข้าหาอย่างไม่ยั้ง เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องประสานเสียงครวญครางหวานใสและเสียงแหบพร่าของเขา
ซึ่งกิจกรรมบนเตียงที่เริ่มขึ้นมาหลายชั่วโมงก็จบลงในนาทีต่อมา
หญิงสาวนอนตัวสั่นสะท้านพร้อมเสียงหายใจหอบหนัก ส่วนฝ่ายชายเมื่อถอดถอนออกจากตัวหญิงสาว เขารอให้ร่างกายหายเกร็งกระตุก ก็ดึงถุงยางโยนลงขยะข้างเตียง ก่อนจะเดินตัวเปลือยเปล่าเข้าห้องน้ำ
ปล่อยให้หญิงสาวมองตามอย่างขัดใจ เพราะลึกๆ อยากได้สัมผัสที่อ่อนโยนหลังมีเซ็กซ์ เช่นกอด หรือหลับใหลไปด้วยกันบนเตียง
แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะธีธัสก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เริ่มต้นมีความสัมพันธ์กัน ที่มีเงื่อนไขเพียงแค่เซ็กซ์ และเงินหรือข้าวของตอบแทนที่เขามอบให้
ไม่มีความรัก ไม่มีความผูกพัน ไม่มีพันธะต่อกัน สะดวกเมื่อไหร่ก็เจอกันเท่านั้น
ลิลลี่รู้จักกับธีธัสเมื่อสองปีก่อน เขายังใช้ชีวิตอยู่เมืองนอก ตอนนั้นอีกฝ่ายกลับมาเยี่ยมเมืองไทย เจอกันในผับดัง ก่อนสานสัมพันธ์สวาทในทันที จากนั้นแลกเบอร์ติดต่อ ก่อนเขากลับไปใช้ชีวิตเมืองนอกตามปกติ เพราะธีธัสเรียนจบปริญญาโทที่อเมริกา และทำงานที่นั่นมาตลอด แต่เขาก็กลับเมืองไทยทุกปี เวลาที่เธอไปเที่ยวอเมริกา ก็จะแวะไปหาเขา กระทั่งตอนนี้เขากลับมาใช้ชีวิตที่เมืองไทยอย่างถาวรแล้ว
ถึงแม้ลิลลี่จะมีความรู้สึกที่มากกว่านั้นให้กับธีธัส แต่เธอก็ไม่กล้าบอกหรือแสดงออก เพราะกลัวว่าเขาจะตัดเธอออกจากชีวิต ที่สำคัญเขามีผู้หญิงเพื่อสนองความต้องการหลายคน แต่เธอคือเบอร์หนึ่งของเขา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร จะคิดว่าตัวเองสวยกว่าทุกคนก็ไม่ใช่ ด้อยกว่าต่างหาก เพราะคนอื่นๆ เป็นทั้งไฮโซ ดารา นางแบบ หรือแม้แต่วงการนางงาม
เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะรู้สึกพิเศษกับธีธัสมากแค่ไหนก็ต้องเก็บงำไว้ในใจ ยินดีรับเพียงเงินและสิ่งตอบอื่นๆ ที่เขาหยิบยื่นให้ นอกจากข้อตกลงหลักๆ ที่มีต่อกันแล้ว ในระหว่างมีเซ็กซ์ก็ห้ามเรียกร้องในสิ่งที่เขาทำให้ไม่ได้
สิ่งนั้นคือ...ห้ามจูบปาก หรือร้องขอการออรัลเซ็กซ์จากเขา อย่างมากก็นิ้วของเขาที่แทงลึกเข้าไปในตัวเธอ
แม้จะขัดใจอยู่บ้าง แต่ความดุดันในการกระแทกกระทั้นเข้าหาอย่างดิบเถื่อน มันก็ทำให้เธอพึงพอใจในเซ็กซ์ของธีธัส
ชายหนุ่มใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวแค่ครึ่งชั่วโมงก็กลับออกมาด้วยการแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว และบอกสั้นๆ เช่นทุกครั้ง
“ผมกลับก่อนนะ” พร้อมกับวางกล่องเครื่องประดับบนโต๊ะหัวเตียง
“ขอบคุณค่ะ” ลิลลี่รีบหยิบกล่องเครื่องประดับมาเปิด เป็นสร้อยข้อมือจากแบรนด์ดังที่เพิ่งออกใหม่ เธอยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ ลืมความขุ่นมัวในใจเมื่อครู่ แล้วรีบถ่ายรูปลงอวดในอินสตาแกรมทันที เพื่อให้คนที่ยังไม่มี หรือไม่มีปัญญาจะหาคนมาเปย์ อิจฉาเล่น!
ก้าวขาเข้ามาในเพนต์เฮ้าท์ไม่กี่นาที เสียงโทรศัพท์มือก็ดังขึ้น เป็นสายจากคนเดิม ที่เขาไม่ได้รับมาหลายชั่วโมง เพราะปิดเสียงไว้ตั้งแต่ก้าวเข้าไปในห้องพักของลิลลี่
เขาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาในมุมนั่งเล่น ก่อนจะกดรับสาย ยังไม่ทันจะพูดอะไร ปลายสายก็โวยวายใส่ จนเขาต้องขยับเครื่องห่างจากใบหู
[ฉันนึกว่าแกตายห่าคาอกยัยลิลลี่ไปแล้วนะโว้ย กว่าจะรับสายได้]
พอได้ยินแบบนั้นแล้วธีธัสก็แทบอยากจะวิ่งไปเตะไอ้เพื่อนรักของเขา ดันปากโป้งบอกพี่ชายว่าเขาอยู่ไหนเมื่อหลายชั่วโมงก่อน อติรุจคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าเขากำลังอยู่กับลิลลี่ เพราะก่อนที่จะมาหาลิลลี่ เขาอยู่กับอีกฝ่ายในผับแห่งหนึ่ง
“พี่ก็รู้นี่ว่าผมไม่ว่าง ยังกระหน่ำโทร. หาไม่หยุด”
[ส่วนแกก็กระหน่ำเสียบยัยลิลลี่ไม่สนสี่สนแปดอะไรใช่ไหม!]
“งั้นพี่ว่าธุระของพี่มาเลยดีกว่า” เขาตัดบท เพราะไม่อยากฟังอีกฝ่ายพล่ามยาว
[ยังจะมีหน้ามาถาม ก็รู้อยู่ว่าเรื่องอะไร]
“ก็ผมบอกแล้วไงว่าเดือนหน้า”
[แกมาอาทิตย์หน้าเลยไอ้ธี ใจคอจะให้ฉันทำงานอยู่คนเดียวหรือไง โห กลับมาจะเดือนแล้ว พักผ่อนพอแล้วไหม ให้ฉันได้ไปพักมั้งเหอะ นี่หนิงจะทิ้งฉันอยู่แล้วเนี่ย]
ปลายสายร้อนรน กระหน่ำโทร. หาน้องชายไม่หยุด เพราะหลายเดือนมานี้เขาต้องมาดูแลรีสอร์ตที่เชียงใหม่ จนแฟนสาวบ่นน้อยใจ และขู่จะเลิกหากเขาไม่แบ่งเวลาให้เธอ
“ก็บอกแล้วไง...”
[หุบปากเลยไอ้ธี พ่อยกรีสอร์ตให้แกนะโว้ย ลืมไปแล้วหรือไง]
“ก็ผมยังไม่พร้อม”
[งั้นแกก็ขายทิ้งไปเลยไหม เพราะฉันก็จะกลับไปดูแลโรงแรมแล้ว]
พอได้ยินแบบนั้นธีธัสก็เลี่ยงอีกต่อไปไม่ได้
“โอเค อาทิตย์หน้าผมไป”
[เออ ก็แค่นี้แหละ ทำไมต้องให้ฉันโมโหก่อนวะ]
อีกฝ่ายตัดสายไปแล้ว ธีธัสได้แต่นั่งเงียบๆ ถอนหายใจยาว พร้อมกับเรื่องราวเก่าๆ ที่ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือ
เขาเป็นเพียงลูกเมียน้อยของนักธุรกิจชื่อดังที่มีฐานะร่ำรวยอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ในวันที่พ่อของเขาเหลือเวลาบนโลกนี้เพียงแค่สองเดือนเท่านั้น
"""""""""""""""'''
ตอนพิเศษ : ครอบครัวของเรา สี่ปีต่อมา...“พ่อจ๋า หนูจะเตะบอลกับพี่ดรีม” เด็กหญิงดาริธัส ที่เพิ่งอายุครบสามขวบเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาบอกผู้เป็นพ่อ ขณะเดินเล่นในสวนด้วยกัน ส่วนพี่ชายวัยเก้าขวบกว่านั้นกำลังเตะฟุตบอลกับเพื่อนๆ อย่างสนุกสนานวันนี้เป็นวันเสาร์ ลูกทั้งสองเรียนเปียโนในช่วงสายถึงเที่ยง ตอนบ่ายเลยได้เล่นสนุกกันได้อย่างเต็มที่ ซึ่งลูกชายคนโตนั้นได้ชวนเพื่อนๆ ร่วมชั้นเรียนมาเตะบอลด้วยกันที่สนามหญ้าข้างบ้าน โดยมีน้องสาวคนเดียวนั่งเชียร์อยู่ริมสนามกับผู้เป็นพ่อ พอเห็นพี่เล่นกันสนุกสนาน เจ้าตัวก็นึกอยากเล่นบ้าง“ไม่ได้หรอกลูก พี่ๆ จะชนหนูล้ม หรือไม่บอลจะโดนหนูแรงๆ ไว้ให้พี่เขาเล่นกับเพื่อนๆ เสร็จแล้ว หนูค่อยเล่นกับพ่อนะ”ตัวเล็กทำหน้าผิดหวัง แต่ก็พยักหน้ารับ ธีธัสหอมแก้มยุ้ยที่แดงปลั่งนั้นด้วยความเอ็นดูลูกสาวของเขาหน้าตาถอดแบบมาจากคุณแม่ราวกับแฝด รวมทั้งผิวพรรณขาวเนียน ใบหน้าเล็กๆ กับผมสองจุกยิ่งทำให้เจ้าตัวดูเหมือนตุ๊กตา โดยเฉพาะดวงตากลมโตเหมือนลูกแก้วตอนนี้เด็กหญิงดาริธัส เรียนอยู่อนุบาลหนึ่ง ชอบไปโรงเรียนมาก เพราะชอบเล่นกับเพื่อนๆเมื่อเด็กผู้ชายเลิกเล่นฟุตบอล และพากันไปกินของ
แล้วเขาก็เปลี่ยนท่าไปเรื่อยๆ กระทั่งมาหยุดอยู่ที่ท่าวูแมนออนท็อป ดาริณขย่มลงบนท่อนเนื้อเขาอย่างเร่าร้อน ขณะที่มือใหญ่ก็เคล้นคลึงทรวงอวบที่เด้งขึ้นลงตามจังหวะขย่มของเธอผมยาวของเธอสะบัดไปมา ใบหน้าบิดเบ้ ปากครางเสียงดังลั่น ร้องเรียกชื่อผู้เป็นสามีไม่หยุดธีธัสชอบดาริณในทุกอย่างที่เป็นเธอ ยามปกติเธอก็น่ารัก อ่อนหวาน ยามรักก็ร้อนแรงและไม่มีเหนียมอาย ทั้งการกระทำและคำพูดปลุกเร้าเขาได้อย่างดี ดาริณไม่เคยบ่นกับบทรักของเขาที่บางครั้งก็อ่อนโยน บางเวลาก็ร้อนแรงถึงขั้นดิบเถื่อน แต่แน่นอนไม่ถึงขั้นเจ็บหรือมีบาดแผล นอกจากร่องรอยของสัมผัสที่มีอยู่บนร่างกายบทสุดท้ายก่อนถึงปลายทาง ธีธัสอุ้มร่างกลมกลึงไปวางบนโต๊ะมุมห้อง จับขาชันเป็นรูปตัวเอ็ม ก้มลงดูดกลีบอวบอูมอีกครั้ง เพื่อให้เธอเร่าร้อนจนแทบคลั่ง ก่อนสอดแท่งร้อนเข้าหา กระแทกสะโพกใส่อย่างดิบเถื่อน เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังต่อเนื่อง ประสานกับเสียงครวญครางหวานหวิวและเสียงคำรามแหบพร่าของธีธัส กระทั่งเสร็จสมในเวลาเกือบพร้อมๆ กันจากนั้นเขาก็อุ้มเธอไปวางบนเตียง กอดคลอเคลียพร่ำคำรักอย่างอ่อนโยน กระทั่งหลับใหลไปด้วยกันทั้งคู่สามเดือนต่อมาคำว่าสวยงามเหมือน
“คุณแพม เธอสวยและเซ็กซี่จังนะคะ” เธอพูดในสิ่งที่ยังค้างคาใจ“กำลังรอให้ดาถามเรื่องเขาอยู่เหมือนกันนะ”“ถ้าพี่อยากเล่าอะไรเกี่ยวกับเขาก็เล่าได้ค่ะ ดาพร้อมฟัง”“หึงหรือเปล่าเนี่ย”“ไม่ค่ะ แต่หวงนิดหน่อย”“นิดหน่อยแน่นะ”“ไม่แน่ใจเลยค่ะ เพราะแวบหนึ่งดาก็คิดอยากให้พี่ธีกลับไปเป็นธีธัส ศิวารักษ์เหมือนเดิม เผื่อว่าพี่จะได้ดูด้อยกว่าคุณแพมในเรื่องฐานะ ส่วนหน้าตาก็รู้อยู่ พี่ธีเบ้าหน้าฟ้าประทาน”“อวยผัวตัวเองเกินไปแล้วนะ แต่ฟังแล้วรู้สึกดีกว่าคนอื่นๆ พูด ส่วนเรื่องคุณแพมไม่มีอะไร ก่อนหน้านั้นเขาก็ติดต่อพี่ตามปกติ กระทั่งครั้งล่าสุด พี่ปฏิเสธจะเจอเขา ให้เหตุผลไปแล้วเรื่องดากับลูก เขาก็ยอมรับ แต่ครั้งนี้ที่มาเจอกัน เพราะเขาอยากเจอพี่ครั้งสุดท้าย อยากเห็นดากับลูกเท่านั้นแหละ”“ท่าทางเขาคงชอบพี่มาก”“ก็น่าจะชอบปกติ และไม่ต้องกังวลเรื่องคุณแพมหรอก ไม่ว่าเขาจะชอบพี่มากหรือน้อย แต่เขาก็มีศักดิ์ศรีที่จะไม่ยุ่งกับคนมีครอบครัว ไว้ใจได้”“ฟังพี่ธีพูดแบบนี้แล้ว ดาไม่คิดมากแล้วค่ะ”“แสดงว่าก่อนหน้านี้คิด”“นิดหนึ่ง” แล้วดาริณก็หัวเราะกลบเกลื่อนที่เขารู้ทัน“เมื่อก่อนดาริณคนนี้มั่นใจในตัวพี่มาตลอดนะ ว่าพี่
เมื่อคิดถึงว่าพวกเขาเคยมีเซ็กซ์ที่เร่าร้อนต่อกันมากแค่ไหน สิ่งที่เขากับเธอ ธีธัสจะเคยทำกับผู้หญิงเหล่านั้นบ้างไหม แม้บางอย่างธีธัสบอกว่าทำกับเธอเพียงคนเดียว แต่เมื่อคิดว่าพวกเขากอดตรงนั้น จูบตรงนี้ พอคิดแล้วก็แปลบๆ ดี แต่มันก็ช่วยไม่ได้ เพราะเธอทิ้งเขาก่อน ความรู้สึกของเธอตอนนี้ก็ถือว่าเป็นการชดใช้ก็แล้วกันจากนั้นดาริณก็สูดลมหายใจลึกๆ ปลุกปลอบใจตัวเอง“ดา น้องดรีม มาด้วยรูปด้วยกันที่สระว่ายน้ำเถอะ” ธีรดนย์ร้องเรียก พร้อมกวักมือเรียก ขณะนั่งบนเก้าอี้ริมสระว่ายน้ำบ้านพักตากอากาศของตระกูลอรุณกรนั้น ธีธัสบอกกับดาริณว่า ผู้ที่รับมรดกเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์คือธีรดนย์ ส่วนธีธัสได้กรรมสิทธิ์เป็นเพนส์เฮ้าส์ตากอากาศที่หัวหิน ซึ่งเขาบอกเธอว่ายังไม่เคยมีโอกาสได้ไปพักผ่อน มีแต่ธีรดนย์ที่ใช้ที่นั่นบ่อยครั้งที่หัวหินนั้นก็เป็นอีกหนึ่งความทรงจำระหว่างเธอกับเขาสมัยยังเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน เพราะเขาเคยพาเธอไปเที่ยวหลายครั้ง พอเลิกกันแล้วก็ไม่อยากไปเที่ยวที่นั่นอีกแต่ในเมื่อคืนดีกันแล้ว เขาก็อยากพาเธอกับลูกไปพักผ่อนที่นั่น แต่ครั้งนี้เลือกมาที่ภูเก็ต เพราะเธอยังไม่เคยมีโอกาสมาเที่ยวที่นี่นั่นเอง บ
บทส่งท้าย : เป็นความรักเสมอมาริมชายหาด หน้าบ้านพักตากอากาศอรุณกรในจังหวัดภูเก็ต เด็กชายธีรดาเล่นปั้นดินปั้นทรายอยู่กับธีรดนย์อย่างเพลิดเพลิน ในขณะที่พ่อกับแม่ของเด็กชายนั้นกำลังถ่ายรูป“หอมแก้มกันหน่อย” อติรุจบอกคู่รักที่กำลังโอบกอดกันอยู่ริมชายหาด ขณะที่ตัวเขาเองกำลังทำหน้าที่ช่างภาพจำเป็น ด้วยการถือกล้อง DSLR ด้วยท่าทางทะมัดทะแมงธีธัสสนองต่อการเรียกร้องของเพื่อนรักด้วยการหอมแก้มภรรยา แถมจูบให้อีกหนึ่งฟอดใหญ่“พอๆ ให้หอมเฉยๆ ไม่ได้ให้จูบ” อติรุจแซว แต่ก็กดชัตเตอร์รัวๆกระทั่งเด็กชายธีรดาที่เนื้อตัวเปื้อนทรายวิ่งมาหา“ดรีมอยากถ่ายรูปคับ”“มาสิลูก” ธีธัสอุ้มลูกชายไว้ในอ้อมแขน จากนั้นภาพสามคนพ่อแม่ลูกก็ดูเหมือนจะมีมากกว่าภาพคู่ของธีธัสกับดาริณเสียอีก รวมทั้งภาพที่เล่นน้ำทะเลกันด้วย ธีรดนย์เข้ามาแจม ด้วยการแกล้งน้องชาย แทรกกลางระหว่างระหว่างธีธัสกับดาริณ“อะไรของพี่ ผัวเมียเขาจะถ่ายรูปกัน” ธีธัสว่า“อะไรของแก พี่ชายจะถ่ายรูปกับน้องสะใภ้และหลานชายบ้างไง” ธีรดนย์ผลักธีธัสออกจากเฟรม แล้วอุ้มเด็กชายธีรดาไว้ แล้วร้องบอกช่างภาพ“ถ่ายพี่หล่อๆ นะ”“ครับผม” แล้วอติรุจก็กดชัตเตอร์รัวๆ จนธีรดนย์พ
“โสดค่ะ เพิ่งเลิกกับแฟนมาไม่นานนี่เอง”“งั้นเราจะมีโอกาสได้เจอกันอีกไหมคะพี่ดา”“ถ้าว่างก็แวะไปเที่ยวที่อรุณกรรีสอร์ตสิ คุณธีเป็นเจ้าของที่นั่น และพี่ก็ช่วยงานในคาเฟ่ของรีสอร์ต”“อรุณกรรีสอร์ตเหรอคะ!” เพราะนั่นคือรีสอร์ตหรู ราคาห้องพักค่อนข้างแพง เธอก็ได้แต่เล็งๆ ไว้ว่ามีแฟนก็อยากให้ผู้ชายคนนั้นพาไปพักผ่อนที่นั่นบ้าง เพราะอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านนัก“ใช่ค่ะ ว่างก็ไปเที่ยวนะคะ ขอตัวก่อน ได้เวลากินของว่างน้องดรีมแล้ว” จากนั้นดาริณก็หยิบชุดว่ายน้ำ ที่เล็งไว้สามสี่ชุด รวมทั้งเสื้อผ้าสำหรับเดินเล่นชายหาดอีกหลายชุด แล้วเดินไปจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตที่ธีธัสให้ไว้อย่างเชิดๆ ทำให้น้ำรินมองด้วยสายตาริษยาอย่างปิดไม่มิดอยากมีชีวิตดีๆ แบบนี้บ้าง อยากมีผัวรวยๆ นั่นคือเป้าหมายในชีวิตของน้ำริน ส่วนดาริณนั้น เธอมั่นใจว่าข่าวซุบซิบเรื่องเธอกับลูกชายคงต้องเป็นข่าวที่อัปเดตใหม่เร็วๆ นี้แล้วในตอนเย็นเมื่อธีธัสเลิกงานดาริณก็เล่าเรื่องที่เจอน้ำรินให้อีกฝ่ายฟัง“ก็หวังว่าเขาจะได้เรื่องใหม่ไปซุบซิบน่ะ” ดาริณบอกจุดประสงค์ในการบอกเล่าเรื่องราวของตนเองให้น้ำรินรู้“พวกเขาจะนินทาว่าดาท้องแล้วจับผู้ชายคนนั้นน่ะสิ