ด้านพราวมุก
ร่างอรชรในชุดนักศึกษาเสื้อรัดรูปจนเห็นหน้าอกหน้าใจที่นูนเด่นขึ้นมาเกินขนาดตัวที่บอบบางของหญิงสาว ผมยาวสลวยถูกปล่อยลงมาคลอเคลียกับแผ่นหลังแบบบาง
หญิงสาวกำลังก้าวเดินย่างกรายเข้ามาในมหาวิทยาลัยอย่างช้าๆ สายตาหลายคู่ทั้งเหล่าชายหญิงต่างจับจ้องมาที่เธอทั้งด้วยความชื่นชม อิจฉาริษยา และหื่นกระหาย
พราวมุกชินกับสายตาพวกนี้ไปแล้ว เธอจึงไม่ค่อยได้สนใจคนรอบข้างมากเท่าไหร่นัก หญิงสาวรีบตรงดิ่งไปยังตึกคณะของตัวเองอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าในจังหวะนั้นเองก็มีเสียงของหญิงสาวตะโกนเรียกเธอเสียงดัง
“มุก!!”
พราวมุกชะงักหยุดเดินพร้อมกับหันหลังกลับไปมองตามเสียงเรียกนั้นทันที
“นินิว..เพิ่งมาถึงเหมือนกันเหรอเนี่ย” พราวมุกเอ่ยกับเพื่อนสนิทอย่างนินิวที่เป็นเพื่อนคนแรกและคนเดียวของเธอ
นินิวเป็นสาวไทยแท้หน้าตาสะสวยคมเข้ม ครอบครัวของเธอค่อนข้างจะมีฐานะทำธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมความงามและเครื่องสำอาง
“เมื่อคืนปาร์ตี้หนักไปหน่อยนะสิ ดีนะเนี่ยที่ฉันตื่นมาเรียนไหว” นินิวเดินมากอดเรียวแขนเล็กของพราวมุกเอาไว้
“แกก็ดื่มเบาๆ หน่อยสินินิว”
“บ่นอีกแล้วคุณแม่คนที่สอง ไปเข้าเรียนกันเถอะเดี๋ยวสาย”
นินิวเปลี่ยนเรื่องทันทีเพื่อไม่ให้พราวมุกบ่นเธอต่อพร้อมกับดึงรั้งเรียวแขนเล็กให้เดินไปที่คณะอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นทั้งสองสาวก็เข้าเรียนตามปกติ พราวมุกตั้งใจเรียนอย่างขยันขันแข็งส่วนเพื่อนรักของเธออย่างนินิวนั่นก็หลับๆ ตื่นๆ อยู่ทั้งคาบจวบจนหมดเวลาของคาบเรียนนั้น
“เลิกเรียนแล้วจะไปไหนกันดีวันนี้” นินิวเอ่ยถามเพื่อนรักในขณะที่พวกเธอกำลังซื้อน้ำปั่นกินกันอยู่ตรงร้านน้ำหน้าคณะนิเทศศาสตร์
“ไปโรงหนังไหม” พราวมุกตอบกลับ
“เอาสิ ฉันก็ไม่ได้เข้าโรงหนังนานแล้วเหมือนกัน”
“งั้นไปกันน”
หลังจากพวกเธอได้น้ำปั่นจากแม่ค้ามาคนละแก้ว พวกเธอก็เตรียมตัวจะเดินไปหน้ามหาลัยเพื่อขึ้นแท็กซี่ไปยังห้างสรรพสินค้าแต่ทว่าเสียงโทรศัพท์ของพราวมุกก็เสียงดังขึ้นมาเสียก่อน
ครืดด ครืดด
“นินิว ฉันฝากถือแก้วน้ำแป๊บหนึ่งนะ” พราวมุกถือข้าวของพะรุงพะรังทั้งหนังสือและแก้วน้ำ เธอไม่มีมือว่างหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าจึงฝากให้เพื่อนรักถือแก้วน้ำปั่นให้เธอก่อน
“เอามาเลย”
“ขอบใจจ้ะ”
หญิงสาวเอ่ยก่อนจะส่งแก้วน้ำให้กับนินิว มือบางคว้านหาโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายสีดำสนิทอยู่ชั่วครู่ เธอยกขึ้นมาดูก็พบว่ามันคือเบอร์แปลกจึงกดรับสายทันทีเพราะอาจจะเป็นบริษัทที่เธอไปส่งวิดีโอไปแคสติ้งงานถ่ายแบบเอาไว้ก็ได้
“สวัสดีค่ะ พราวมุกพูดสายค่ะ”
‘สวัสดีค่ะน้องพราวมุก เจ๊ชื่อเชอร์รี่นะ โทรมาจากเคเคโมเดลลิ่งนะจ๊ะ’
“ค่ะ”
ร่างบางยิ้มกว้างด้วยความดีใจเมื่อปลายสายที่โทรมาเป็นบริษัทที่เธอรออย่างใจจดใจจ่อมาหลายวัน
‘คือเจ๊ดูวิดีโอแนะนำตัวของน้องแล้วนะ แล้วเจ๊ก็ชอบสไตล์ของน้องมากเลย หน้าหวานๆ แต่หุ่นแซ่บแบบนี้..คุณน้องสะดวกเข้ามาแคสติ้งลองถ่ายโปรไฟล์กับพี่ที่บริษัทไหมคะ’
“วันไหนคะพี่”
‘เป็นพรุ่งนี้ค่ะคุณน้อง ช่วงบ่ายสองโมงนะ’
“ได้เลยค่ะ ขอบคุณมากๆ เลยนะคะพี่”
‘จ้า..แค่นี้ก่อนนะจ๊ะ’
“สวัสดีค่ะ”
‘สวัสดีจ้า’
สิ้นเสียงปลายสายก็กดวางสายไปทันที พราวมุกยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีอกดีใจ
“มีอะไรไหมมุก” นินิวเอ่ยถาม
“ฉันส่งโปรไฟล์ไปแคสติ้งถ่ายแบบมานะสิ แล้วพี่เขาก็โทรหาฉันให้เข้าไปคุยที่บริษัทพรุ่งนี้ด้วยแหละ”
“จริงเหรอ..ดีใจด้วยนะเพื่อน”
นินิวส่งยิ้มอบอุ่นให้เพื่อนสาว เธอรู้ดีว่าพราวมุกพยายามกับการจะได้เป็นนางแบบมามากแค่ไหน พราวมุกพยายามส่งโปรไฟล์ไปหลายที่แล้ว ทุกบริษัทตอบรับเธอหมดแต่พอพราวมุกไปขออนุญาตพ่อแม่บุญธรรมของเขา พวกท่านก็ตรวจสอบอย่างละเอียดจนรู้ว่าส่วนใหญ่เป็นโมเดลลิ่งที่มีข่าวเสียๆ หายๆ หรือเอารัดเอาเปรียบเด็กในสังกัด อีกทั้งยังมีหลอกให้เด็กไปถ่ายภาพโป๊เปลือยอีกด้วย
“ขอบใจนะนินิว”
“ว่าแต่พ่อแม่เธออนุญาตแล้วเหรอ”
“ใช่จ้ะ พวกท่านให้คนตรวจสอบที่นี่อย่างละเอียดแล้วก่อนที่ฉันจะส่งโปรไฟล์ไปอีก”
จริงๆ แล้วมาร์คอสกับดารินทร์ยังจะโทรไปฝากฝังกับบริษัทโมเดลลิ่งให้เธอเองเลยเสียด้วยซ้ำ แต่พราวมุกห้ามเอาไว้ก่อนเพราะเธออยากทำมันด้วยความสามารถของเธอเอง ไม่ใช่ใช้เส้นสายเพื่อให้เติบโตในวงการนี้
“แบบนี้ต้องฉลอง ชาบู..ปิ้งย่าง..กินอะไรดี” นินิวเอ่ยถาม
“ปิ้งย่างก็ดีนะ” พราวมุกตอบกลับด้วยน้ำเสียงสดใส
“งั้นไปกินปิ้งย่างกัน”
“ไปจ๊ะๆ”
พูดจบพราวมุกก็เอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำผลไม้ปั่นจากมือของเพื่อนสาวกลับมา แต่ทว่าในจังหวะนั่นเองก็มีลูกบอลลอยมาหาพราวมุกอย่างรวดเร็วพร้อมกับร่างกำยำของใครบางคนพุ่งมาบดบังร่างเล็กเอาไว้ แต่เนื่องจากแรงกระแทกของลูกบอลทำให้ร่างกำยำกระแทกกับแก้วน้ำแตงโมปั่นในมือของหญิงสาวจนมันกระเด็นเลอะเสื้อนักศึกษาสีขาวของพราวมุกจนเปื้อนเป็นสีแดงเต็มเสื้อไปหมด
ฟิ้วว! ตุบ! พลั่ก!
“กรี๊ดดด”
เป็นเสียงของนินิวที่กรีดร้องขึ้นมาเสียงดังลั่น แต่พราวมุกกลับยืนนิ่งมองน้ำที่กระเด็นมาโดนเสื้อผ้าของตัวเองสลับกับมองหน้าชายหนุ่มที่เข้ามาขวางลูกบอลเอาไว้ ไม่งั้นเธอคงโดนลูกบอลกระแทกเข้าหน้าอย่างจังไปแล้วละ
“คะ..คุณเจ็บไหมคะ” เสียงหวานของพราวมุกเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย
“ไม่ครับ น้องเป็นอะไรไหม” เสียงทุ้มเอ่ยถาม
“เอ่อออ..” พราวมุกก้มหน้าลงมองเสื้อผ้าตัวเองก็ถึงกับต้องรีบเอามือบางยกขึ้นมาปิดหน้าอกอวบอิ่มเอาไว้ เพราะเสื้อสีขาวมันเปียกเลยทำให้มันมองทะลุเห็นไปถึงเนื้อในของเธอแล้ว
ชายหนุ่มเมื่อเห็นสีหน้าที่ดูอึดอัดใจเช่นกันของหญิงสาวเขาจึงรีบถอดเสื้อคลุมฮู้ดที่เขาใส่คลุมมาแขนยาวสีดำตัวใหญ่ออกแล้วเอามาคลุมร่างเล็กไว้ทันที
“คลุมเอาไว้ก่อนนะ” ชายหนุ่มเอ่ยกับพราวมุกเสียงนุ่มนวลก่อนจะหันไปตะโกนด่าพวกรุ่นน้องต่อเสียงดังลั่น
“เฮ้ย!! พวกมึงมาเล่นบอลอะไรกันแถวนี้ สนามบอลมีทำไมไม่ไปเตะกันวะ!”
“ขอโทษครับพี่/ขอโทษครับ” เหล่าบรรดารุ่นน้องต่างพากันยกมือไหว้ขอโทษขอโพยรุ่นพี่กันยกใหญ่
“ขอบคุณนะคะ” พราวมุกเอ่ยขอบคุณชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“ไม่เป็นไรครับ เจ็บตรงไหนไหมเรา”
“ไม่ค่ะ พี่ล่ะคะ โดนบอลอัดเข้ากลางหลังเลย เจ็บไหมคะ” หญิงสาวมองสำรวจไปทั่วร่างกำยำของชายหนุ่ม
“ไม่ครับ..เราเอาเสื้อพี่ไปใส่ก่อนแล้วกันนะ”
“งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ มุกซักให้แล้วเอามาคืนนะคะ”
“ครับ งั้นพี่ไปก่อนนะ พี่มีเรียนต่อ”
“ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ”
ชายหนุ่มยิ้มให้หญิงสาวหนึ่งครั้งก่อนจะตั้งท่าเดินออกไปจากตรงนี้ พราวมุกนึกขึ้นได้พอดีจึงเอ่ยถามชายหนุ่มเสียงดัง
“พี่คะ..ว่าแต่พี่ชื่ออะไรอยู่คณะไหนคะ มุกจะได้เอาไปคืนถูก”
“พี่ชื่อติณณ์ อยู่คณะวิศวะ” ชายหนุ่มหันกลับมาตอบหญิงสาว
“อ๋อ..โอเคค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ”
“ครับ พี่ไปนะ”
“ค่ะ”
สิ้นเสียงของหญิงสาว ชายหนุ่มก็รีบเดินไปทันที พราวมุกมองตามหลังชายหนุ่มด้วยสีหน้านิ่งเรียบ
“ยัยมุก นี่แกไม่รู้จักเขาจริงๆ ใช่ไหม” นินิวเอ่ยถามเพื่อนสาวด้วยท่าทางตื่นเต้น
“ไม่รู้จัก แกรู้จักเขาหรือไงล่ะ” พราวมุกตอบกลับไปตามความจริง
“ไม่มีใครที่จะไม่รู้จักเขาจ๊ะ นั่นมันรุ่นพี่ปีสี่หนุ่มฮอตประจำคณะวิศวะแถมยังเป็นลูกชายของผู้อำนวยการมหาลัยด้วยนะแก”
“ฉันไม่เห็นจะรู้เรื่องพวกนี้เลย”
“แกก็หัดสนใจคนรอบข้างบ้างสิคะคุณเพื่อน”
“ช่างเถอะ ไปห้องน้ำกันก่อนได้ไหม ฉันจะไปถอดเสื้อนักศึกษาออกก่อนอะ เหนียวไปหมดทั้งตัวแล้ว”
“ได้ๆ”
หลังจากนั้นทั้งสองสาวก็รีบตรงดิ่งไปยังห้องน้ำใกล้ๆ คณะทันที พราวมุกเข้าไปในห้องน้ำและถอดเสื้อคลุมสีดำที่ชายหนุ่มแปลกหน้าสวมให้เธอและตามมาด้วยเสื้อขาวที่เลอะน้ำแตงโมปั่นเป็นวงกว้างออก
พราวมุกใส่เสื้อฮู้ดแขนยาวตัวใหญ่สีดำพร้อมกับรูดซิปขึ้นมาจนสุด จากนั้นเธอก็ออกมาจากห้องน้ำทันที
“น่าจะซักไม่ออกนะมุก” นินิวมองไปที่เสื้อนักศึกษาในมือของเพื่อนสาว
“ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละ แต่เดี๋ยวลองไปซักดูก่อนแล้วกัน”
“แล้วยังจะไปห้างอยู่ไหม”
“ไปสิ”
“แล้วจะใส่เสื้อตัวนี้ไปเหรอ”
“ใช่ ไม่เป็นไรหรอก ไม่ได้น่าเกลียดสักหน่อย” พราวมุกเอ่ย
ปกติเธอก็ไม่ใช่คนที่จะแคร์สายตาคนอยู่แล้ว ก็แค่ใส่เสื้อคลุมตัวใหญ่ที่คลุมไปจนถึงกระโปรงทรงเอสั้นของเธอจนเกือบจะมองไม่เห็นชายกระโปรงแล้วก็เถอะ
“โอเค”
หนึ่งปีต่อมาร่างอรชรของพราวมุกกำลังนั่งอุ้มเด็กทารกเพศหญิงวัยสามเดือนอยู่ในอ้อมแขนบนเตียงนอนใหญ่กลางห้องนอนในคฤหาสน์ส่วนตัวของมาร์วิน โดยมีป้าจันทร์นั่งอยู่ข้างๆ กำลังใช้มือเหี่ยวย่นโยกเปลนอนสีชมพูที่มีทารกเพศหญิงอีกหนึ่งคนที่กำลังหลับสนิทอยู่ในเปล พราวมุกกับจันทรัศม์นั่งมองเด็กทารกแรกเกิดทั้งสองคนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข มือบางของพราวมุกโอบกอดเด็กน้อยในอ้อมแขนที่กำลังดูดนมในขวดกินอย่างเอร็ดอร่อย ดวงตากลมโตใสแป๋วของเด็กทารกมองหน้ามารดาของตัวเองในขณะที่กำลังดูดขวดนมกินอยู่ เหมือนกับว่าเด็กน้อยกำลังเริ่มจดจำใบหน้าของมารดาตัวเอง พราวมุกจับขวดนมให้เด็กทารกดูดขวดนม ส่วนมือบางอีกข้างที่โอบกอดเด็กน้อยอยู่ก็ลูบไล้แขนเล็กขาวเนียนของผิวเด็กอย่างแผ่วเบาด้วยความรักใคร่และหวงแหน“มีญ่า กินนมเก่งมากเลยค่ะป้าจันทร์” พราวมุกเอ่ยขึ้นมาพลางส่งยิ้มให้กับเด็กทารกวัยสามเดือนเพศหญิงมีญ่า เด็กทารกวัยสามเดือนแฝดพี่ที่อยู่ในอ้อมแขนของพราวมุกกำลังดูดนมกินอย่างไม่มีท่าทีว่าจะยอมหยุดกินง่ายๆ“ใช่ค่ะ แต่คุณหนูมีอาไม่ค่อยกินเอาแต่นอน นอนเก่งมากๆ เลยค่ะ” จันทรัศม์ตอบกลับพลางมองไปที่เด็กทารกเพศหญิงแฝดน้องที
สามปีต่อมา@มหาวิทยาลัยร่างอรชรของพราวมุกสวมชุดครุยของนักศึกษาจบใหม่กำลังถ่ายรูปกับเพื่อนๆ และอาจารย์ที่ปรึกษาในคณะกันด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสมีความสุขโดยมีนินิวเพื่อนสนิทของเธอยืนยิ้มหวานอยู่ข้างๆ พราวมุก บรรยากาศภายในมหาวิทยาลัยในตอนนี้เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยเจื้อยแจ้วและเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความสุขกับวันที่ดีของเหล่าบรรดานักศึกษาจบใหม่ที่เพิ่งเข้ารับใบปริญญากันจบพิธีไปหมาดๆ เมื่อสักครู่นี้ หลังจากจบพิธีรับใบประกาศนียบัตร เหล่าบรรดานักศึกษาก็ออกมาถ่ายรูปกันตรงหน้าคณะของตัวเองหรือตามจุดต่างๆ ที่อาจารย์จัดเตรียมไว้ให้เพื่อให้ บัณฑิตและครอบครัวมีมุมถ่ายภาพสวยๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึกใบหน้าหวานของพราวมุกถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางราคาแพงทำให้วันนี้หญิงสาวดูสวยหวานมากกว่าปกติ ส่วนนินิวก็แต่งหน้าสวยเข้มตามสไตล์สาวเปรี้ยวของเธอเองในขณะที่เหล่าบัณฑิตกำลังใช้เวลาร่วมกันอย่างสนุกสนานอยู่นั้นก็มีรุ่นน้องในชุดนักศึกษาคนหนึ่งเดินตรงมาหาพราวมุกพร้อมกับเอ่ยทักทายหญิงสาว“พี่พราวมุกหรือเปล่าคะ”“ใช่จ้ะ” พราวมุกหันหน้าไปมองด้วยความสงสัยก่อนจะตอบกลับไป“พี่ตามหนูมาหน่อยได้ไหมคะ” เด็กสาวเอ่ย“มีอะไ
มาร์วินและพราวมุกคู่หมั้นป้ายแดงเดินในงานเลี้ยงฉลองที่มีแขกเหรื่อกำลังดื่มกินกันอยู่ ชายหญิงเดินจูงมือกันเดินมาเรื่อยๆ จนกระทั่งพวกเขาเดินมาถึงตรงที่พงศ์ดนัยและลูกสาวทั้งสองคนที่ยืนถือแก้วแชมเปญอยู่ข้างๆ บิดา สายตาของพวกเธอดูอ่อนลงไปมากจากครั้งที่แล้วถึงมันจะไม่ได้ดูเป็นมิตรสักเท่าไหร่แต่ก็เหมือนว่าพวกเธอจะเริ่มลดอคติกับพราวมุกลงไปบ้างแล้ว“ขอบคุณนะคะพี่กานพี่ภา ที่สละเวลามางานหมั้นของมุกกับพี่มาร์วิน” พราวมุกเอ่ยขึ้นมาทันทีที่เธอเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของพวกเขา“อือ/อือ” ศิรประภาและศิรกานดายืนเม้มปากแน่นขานรับในลำคอด้วยท่าทางกระอักกระอ่วนไม่รู้จะทำตัวยังไง ส่วนพราวมุกก็ยืนส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรให้กับพวกเธอทั้งสองคนจนศิรกานดาสบตากับพราวมุกก่อนที่เจ้าหล่อนจะเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงละอายใจ“เธอไม่โกรธพวกฉันเลยหรือไง” “ไม่เลยค่ะ” พราวมุกตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“ไว้เจอกันที่โรงพยาบาลนะคะพี่กานพี่ภา” “พราวมุก พวกฉันขอโทษนะที่เคยทำตัวไม่ดีกับเธอมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว” แฝดน้องอย่างศิรประภาเอ่ยต่อด้วยความรู้สึกผิดที่มีต่อพราวมุกอยู่เต็มอก“เรื่องมันผ่านมาแล้วค่ะมุกไม่เคยโกรธเคืองพวกพี่เลยสักนิด ต
หลายวันต่อมามาร์คอสและดารินทร์กลับมาจากต่างประเทศเมื่อวานนี้ สองสามีภรรยาไม่เห็นมาร์วินกับพราวมุกอยู่ที่คฤหาสน์จึงเดาได้ทันทีว่าทั้งสองคนต้องอยู่ที่เพนท์เฮาส์ของมาร์วินอย่างแน่นอน พวกเขาจึงโทรตามให้มาร์วินพาพราวมุกกลับมาที่คฤหาสน์เพราะดารินทร์กับสามีต้องการที่จะคุยกับพวกเขาเรื่องการหมั้นหมายพราวมุกเอาไว้ก่อนและพอหญิงสาวเรียนจบพวกเขาก็จะรีบจัดงานแต่งให้มาร์วินกับพราวมุกทันทีเวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง มาร์วินเดินโอบไหล่แบบบางของพราวมุกเข้ามาภายในห้องโถงใหญ่ที่มีมาร์คอสและดารินทร์นั่งรอพวกเขาอยู่ตรงโซฟาใหญ่กลางห้อง“สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่” พราวมุกยกมือขึ้นมาไหว้มาร์คอสและดารินทร์พลางส่งยิ้มหวานไปให้พวกท่าน“สวัสดีจ้าลูกสาวคนสวยของแม่” มารดาตอบกลับ“มาร์วิน ลูกไม่คิดจะพาน้องกลับมาบ้านบ้างเลยหรือไง” มาร์คอสบ่นอุบ“ไม่ครับ” “ทำไม” บิดาเอ่ยถามต่อ“เอามาบ้านแล้วผมไม่ได้นอนกอดมุกอยู่ดี”“เฮ้ออ เอาล่ะๆ นั่งลงก่อน” สุดท้ายมาร์คอสก็ต้องยอมคนเอาแต่ใจอย่างมาร์วินเพราะเขาไม่อยากที่จะต่อล้อต่อเถียงให้มันมากความมาร์วินรั้งไหล่บางให้เดินมานั่งลงบนโซฟาใหญ่ตรงข้ามกับบิดามารดา “พ่อจะคุยกับมาร์วินเรื่
จากนั้นมือหนาของมาร์วินก็เลื่อนไปกำรอบท่อนเอ็นใหญ่เอาไว้ ชายหนุ่มไม่รอช้า เขาดันท่อนลำลึงค์เข้าไปในร่องสาวเปียกชุ่มจนสุดลำโคนพรวดเดียวจนปลายหัวหยักชนเข้ากับพนังมดลูกด้านในสุด ทำให้หญิงสาวที่กำลังหันหลังกระดกก้นงอนงามให้ชายหนุ่มอยู่ถึงกับสะดุ้งโหยงด้วยความจุกเสียดพรวดดด“อ๊ะ! พี่มาร์วิน! เบาๆ หน่อยได้ไหมคะ” เสียงหวานร้องออกมาเสียงดัง“เจ็บเหรอมุก” มาร์วินเอ่ยถามเสียงนุ่มนวล“จุกค่ะ”“พี่ขอโทษนะ แต่พี่ทนไม่ไหวจริงๆ”สิ้นเสียงของชายหนุ่ม เอวหนาก็ดึงแท่งรักใหญ่ยาวออกมาจนเกือบหลุดและดันกลับเข้าไปจนปลายหัวลำลึงค์ชนเข้ากับมดลูกอีกครั้งหนึ่งตับ! “อึก!”มาร์วินเริ่มขยับเอวสอบเข้าออกอย่างหนักหน่วง เขาไม่รอให้หญิงสาวได้ปรับตัวก่อนเลยสักนิด ชายหนุ่มเลือดร้อนตอกอัดใส่รูเล็กรัวๆ จนร่างบางหัวสั่นหัวคลอนตับ! ตับ! ตับ! “อ๊ะ อ๊ะ อาา”“ซี๊ดด แน่นเหมือนเดิม อืออ”สองร่างครางกระเส่าใส่กันและเสียงเนื้อกระทบกันดังลั่นห้อง ร่องสวาทสาวบีบรัดท่อนเอ็นใหญ่รัวๆ ความเปียกแฉะนุ่มนิ่มภายในกายสาวทำให้ชายหนุ่มแทบจะทนไม่ไหว มือหนาจับตรึงเอวคอดกิ่งเอาไว้แน่น ปลายหัวหยักกระทุ้งมดลูกของหญิงสาวจนพราวมุกรู้สึกจุกเกร็ง
หลังจากที่มาร์วินและพราวมุกทานอาหารกันจนเสร็จเรียบร้อย ชายหนุ่มก็รีบพาหญิงสาวกลับมาที่เพนท์เฮ้าส์อย่างรวดเร็ว เนื่องจากมาร์วินมีงานเอกสารที่ต้องสะสางนิดหน่อยเขาจึงขอตัวแยกไปห้องทำงานก่อน ส่วนพราวมุกก็เข้ามาในห้องนอนและตรงไปอาบน้ำชำระร่างกายทันทีจวบจนเวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง ร่างอรชรสวมชุดนอนผ้าซาตินบางเบาสีดำแขนยาวขายาวก็ก้าวเดินออกจากห้องน้ำมา เป็นจังหวะเดียวกันกับที่มาร์วินเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนสีดำเทาพอดี“เพิ่งอาบน้ำเสร็จเหรอ” มาร์วินก้าวเดินมากอดร่างเล็กไว้จากทางด้านหลัง“ค่ะ” “ตัวหอมจัง…เดี๋ยวพี่รีบไปอาบน้ำก่อนนะ”จุ๊บ!ชายหนุ่มร่างกำยำเอียงใบหน้าหล่อเหลาไปจูบลงบนแก้มขาวเนียนพร้อมกับสูดดมกลิ่นกายของ คนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดด้วยความหลงใหลมาร์วินผละออกจากร่างเล็กและเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว จวบจนเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงร่างกำยำที่มีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวพันเอวสอบเอาไว้ก็เปิดประตูเดินออกมาจากห้องน้ำ เมื่อได้ยินเสียงประตูห้องน้ำถูกเปิดออก พราวมุกที่กำลังนั่งเอนกายอ่านหนังสืออยู่บนเตียงนอนใหญ่สีดำเทาก็หันหน้ามามองร่างกำยำที่กำลังเดินเข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆดวงตากลมโ