Share

บทที่ 4 บังเอิญหรือตั้งใจ (3/4)

last update Last Updated: 2025-08-29 23:00:00

        “ซีเยว่ เจ้าอย่าได้คิดทำตัวเป็นแม่สื่อให้พี่สาวเจ้า หากบุรุษสตรีไม่มีใจตรงกัน อย่าได้ฝืน” ฮูหยินอวี้กล่าวตักเตือนบุตรสาว

            “พ่อเห็นด้วย หากต้องแต่งกันเพราะถูกบังคับมิแคล้วจะต้องทนทุกข์ เพราะเป็นเช่นนั้นพ่อกับแม่เจ้าจึงอยากให้ลูกทั้งสามคนได้แต่งกับคนที่พึงใจ” ท่านเจ้ากรมพิธีการกล่าว เขากับฮูหยินตกลงกันแล้วว่าจะไม่บังคับบุตรทั้งสาม

            ‘จวนอวี้ช่างน่าอยู่ หากข้าแต่งเข้าจวนนี้ คงพบเจอแต่ความสุขชั่วชีวิต’ บุรุษที่แสร้งกล่าวว่ากินต้นหอมได้แล้วครุ่นคิดพลางใช้ตะเกียบโกยข้าวให้ขึ้นมาอยู่ด้านบนซ่อนต้นหอมไว้ก้นชามอย่างแนบเนียน

            “เจ้าค่ะท่านพ่อท่านแม่” อวี้ซีเยว่ตอบรับก่อนจะก้มหน้าคีบข้าวเข้าปากเพื่อซ่อนสายตาเจ้าเล่ห์เอาไว้ ซึ่งคนเป็นพี่สาวลอบมองอย่างรู้ทัน

            ‘หากผู้ตรวจการโจวมีใจให้พี่มากพอ พี่ก็จะยอมรับเขามาเป็นพี่เขยเจ้า’ อวี้ลู่เสียนคิด บุรุษผู้นั้นก็ไม่ได้แย่เท่าใดนัก การพูดจาของเขาแม้จะเป็นกันเองกับนางแต่ก็ให้เกียรติ ทั้งเขายังเป็นบุรุษที่ดีไม่น้อย

            “แม่ว่าจะถามพวกเจ้าว่าอีกเจ็ดวันข้างหน้าพวกเจ้าสามคนพี่น้องจะไปงานเลี้ยงฉลองย้ายเข้าจวนกับแม่หรือไม่”

            “จวนของผู้ใดหรือขอรับ”

            “จวนข้างๆ เรานี่แหละ เขาเพิ่งส่งเทียบเชิญมาแต่ไม่ได้บอกว่าเป็นจวนของตระกูลใด”

            “สร้างเสร็จแล้วหรือเจ้าคะ ช่างรวดเร็วเสียจริง” คงเป็นตระกูลที่ร่ำรวยไม่น้อย

            หากจวนนี้มีบุตรชายวัยพร้อมแต่งงานข้าไปเกี้ยวบุรุษดีหรือไม่ แต่งเข้าจวนข้างๆ มีอะไรก็วิ่งกลับจวนตัวเองได้ ช่างดีไม่น้อย

            “คงเป็นตระกูลคหบดีที่ร่ำรวยมากขอรับ ถึงได้สร้างจวนเสร็จเร็ว” อวี้ลู่หมิงกล่าวพลางปรายตามองสหาย

            “พวกเจ้ายังไม่ได้ตอบแม่ว่าจะไปด้วยหรือไม่”

            “ไปสิเจ้าคะ พวกเราทั้งสามคนจะไปกับท่านแม่เจ้าค่ะ” อวี้ซีเยว่ตอบรับตาเป็นประกาย

            “เจ้าช่างกระตือรือร้นแปลกๆ” อวี้ลู่เสียนหันมามองนาง

            “ข้าแค่อยากทำความรู้จักเรือนข้างเคียง เผื่อมีอันใดให้ช่วยเหลือเจ้าค่ะ” บุตรสาวคนเล็กตอบพลางคีบอาหารส่งเข้าปาก

            บทสนทนาเรื่องเรือนข้างเคียงที่กำลังจะมีคนย้ายเข้ามาอยู่จบลงเพียงเท่านั้นก่อนที่ทุกคนพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในเรื่องอื่นโดยที่สหายของบุตรชายคนโตที่ร่วมโต๊ะด้วยออกความเห็นเสริมเป็นระยะ

            การอ่านหนังสือนิยายรักน้ำเน่าระหว่างบุรุษผู้เพียบพร้อมและหญิงงามผู้แสนดี ทำให้นางหายเบื่อหน่ายไปได้ไม่น้อย จะลอบออกไปจากจวนก็ไม่ได้เพราะทางหมาลอดที่นางใช้มุดออกไปตกปลาที่สวนร้างนอกเมืองถูกซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว

            คิดแล้วก็มีโทสะหากไม่เพราะในวันนั้นระหว่างที่กำลังรับมื้อเย็นกันอยู่ สหายของพี่ใหญ่ไม่กล่าวว่าเห็นสุนัขตัวใหญ่มุดรั้วที่ผุพังเข้ามาในจวน ทำให้มารดาที่กำลังตามหาคนร้ายขโมยเนื้อตากแห้งจากลานตากอาหารที่หลังห้องครัวรู้ถึงการเข้ามาของคนร้าย นำไปสู่การซ่อมแซมและปิดตายทางหนีออกไปเที่ยวเล่นของนาง

            สุดท้ายนางจึงต้องมานั่งอ่านเรื่องราวความรักน้ำเน่าและไม่สามารถวางลงได้ จนปลายยามห้าย 21.00-22.59) นางก็ยังจุดเทียนเพื่ออ่านต่อให้จบ

            “คุณหนูเจ้าคะ หยุดอ่านได้แล้วเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวจะปวดตาเอา”

            “เจ้าไปนอนเถิด อีกประเดี๋ยวข้าก็จะอ่านจบแล้ว”

            “แต่ว่า...”

            “เจียวลู่ ถ้าเจ้ายังชวนข้าสนทนาเช่นนี้ ข้าก็จะเข้านอนช้าไปอีก”

            “เจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าไม่รบกวนคุณหนูแล้ว แต่ถ้าท่านปวดตาขึ้นมาข้าคงต้องรายงานฮูหยินตามจริง” เอาผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดในจวนมาอ้างคุณหนูของนางน่าจะเชื่อฟังบ้าง

            “...”

            “คุณหนู!”

            “...” อวี้ซีเยว่เลิกสนใจสาวใช้แล้วตั้งใจอ่านนิยายตรงหน้าให้จบ

            เมื่อสาวใช้คนสนิทคิดว่าห้ามไปก็ไม่ได้เรื่อง จึงล่าถอยและออกจากห้องไปเอง

            “อย่าอ่านตำราตอนกลางคืน จะทำให้ปวดตารู้หรือไม่” เสียงทุ้มของบุรุษทำให้คนที่กำลังจดจ่ออยู่กับเนื้อหาน้ำเน่าสะดุ้งเฮือก

            “ท่าน! พี่เฟยฉี ท่านเข้ามาในเรือนนอนข้าได้อย่างไร”

            “พี่เห็นหน้าต่างเปิดอยู่ จึงเดินมาดูเห็นเจ้ากำลังนั่งอ่านหนังสือท่ามกลางแสงเทียน จึงเข้ามาทักทาย”

            “ท่านเข้ามาทักทายข้าทางหน้าต่างที่เปิดอยู่?” ลอบเข้าจวนผู้อื่นยามวิกาลจะเรียกทักทายได้หรือ

            “ถูกแล้ว”

            “นี่ท่านปีนเข้าจวนอวี้อีกแล้วหรือเจ้าคะ เหตุใดไม่เดินเข้าทางประตูจวนล่ะเจ้าคะ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พี่ชายเจ้าขา ข้าไม่ใช่นางเอกของท่าน   บทที่ 14 ว่าที่น้องเขยของอวี้ลู่หมิง (5/5)

    “หากเปลี่ยนจากลู่เสียนเป็นซีเยว่เล่า เจ้าจะยินยอมง่ายดายถึงเพียงนี้หรือไม่” คำถามของสหายพี่ชายทำให้อวี้ซีเยว่ที่กำลังยกน้ำชาขึ้นจิบแทบสำลัก “ก็ต้องดูว่าน้องเขยข้าเป็นใคร มีนิสัยเช่นไร เขาดีต่อน้องสาวข้าหรือไม่ และสามารถแต่งเข้าตระกูลข้าได้หรือไม่” การรับปากว่าจะแต่งสตรีเพียงคนเดียวเป็นฮูหยินสำหรับเขาเป็นเรื่องเพ้อฝัน “หากเป็นข้าคุณชายหยางผู้นี้เล่า” “แค่กๆ” คราวนี้อวี้ซีเยว่สำลักน้ำชาจริงๆ “ใจเย็นๆ ซีเยว่” อวี้ลู่เสียนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ช่วยลูบหลังให้น้องน้อย “ขอบ...คุณ เจ้าค่ะ” “ดูเหมือนเป็นซีเยว่เอ

  • พี่ชายเจ้าขา ข้าไม่ใช่นางเอกของท่าน   บทที่ 14 ว่าที่น้องเขยของอวี้ลู่หมิง (4/5)

    “เหตุใดเจ้าถึงถีบพี่ตกเตียงเช่นนี้” ใบหน้าไร้ที่ตินั่นยุ่งเหยิงราวกับกำลังไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกเช่นใดดีระหว่างมึนงงกับไม่พอใจ จะให้เขาพอใจได้อย่างไร ในเมื่อนี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกสตรีถีบตกเตียงเช่นนี้ พระจันทร์แสนซุกซนของเขาช่างไม่เหมือนใครจริงๆ แต่เพราะนางเป็นเช่นนี้ เขาถึงได้หลงใหลมิใช่หรือ “ขออภัยเจ้าค่ะ ข้าเพียงตกใจ ก็ใครใช้ให้ท่านขึ้นมานอนเตียงสตรีที่ยังไม่ได้ปักปิ่นล่ะเจ้าคะ ข้านั้นเป็นเพียงแม่นางน้อยที่ไร้เดียงสาจึงตกใจอยู่บ้างที่มีบุรุษมาอยู่บนเตียง” อวี้ซีเยว่หลุบตาลงเล็กน้อย ริมฝีปากเม้มเข้าหากันราวกับกำลังไม่ได้รับความเป็นธรรม “พี่ขอโทษ ที่ทำเจ้าตกใจ” เขากล่าวพลางลุกยืนขึ้น มือใหญ่ปัดอาภรณ์อย่างลวกๆ ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้นาง “ข้าก็ต้องขอโทษ

  • พี่ชายเจ้าขา ข้าไม่ใช่นางเอกของท่าน   บทที่ 14 ว่าที่น้องเขยของอวี้ลู่หมิง (3/5)

    “ตามแต่ท่านต้องการเจ้าค่ะ แต่ขอยกเว้นชีวิตและเงินทองเจ้าค่ะ ข้าค่อนข้างยากจน ทุกวันนี้อยู่ดีกินดีเพราะบิดามารดา” นางกล่าวจบก็กลับมานั่งตัวตรงพร้อมกับหลุบตาลงเล็กน้อยให้ดูน่าเอ็นดูกึ่งน่าสงสาร “ท่านผู้ตรวจการโจว เย็นนี้ท่านพอจะมีเวลาว่างหรือไม่ขอรับ” เมื่อมีคนเสนอค่าตอบแทนให้ คุณชายหยางเช่นเขามีหรือจะไม่รับไว้ ในเมื่อค่าตอบแทนที่เขาต้องการมันช่างหอมหวานยิ่ง... “ข้าไม่ได้มีงานสำคัญใด ท่านมีอันใดหรือไม่” ขุนนางหนุ่มเอ่ยถามบุรุษผู้ที่มีอายุน้อยกว่า “เย็นนี้ข้าอยากจะเชิญท่านมารับมื้อเย็นที่จวนที่พวกข้าพักอาศัย อาจจะมีการจิบสุราบ้างเล็กน้อยเพื่อสร้างความคุ้นเคยกัน” หยางเฟยฉีกล่าวจบก็เหลือบมองสหายตน&nb

  • พี่ชายเจ้าขา ข้าไม่ใช่นางเอกของท่าน   บทที่ 14 ว่าที่น้องเขยของอวี้ลู่หมิง (2/5)

    “ใช่ เขากล่าวว่าอย่างไรก็ไม่แต่ง เพราะตัวเขานั้นรักฮูหยินมาก สุดท้ายคนแบกความอับอายจึงเป็นคุณหนูเฟินที่บุรุษหลายคนในงานได้เห็นนางในสภาพเช่นนั้น ทั้งยังถูกบุรุษปฏิเสธไม่รับผิดชอบอีก” “ข้าเพิ่งรู้ว่ามีเรื่องเช่นนี้ด้วย แล้วการที่นางตกน้ำเป็นฝีมือใครหรือเจ้าคะ” เหตุใดนางถึงได้รู้สึกเหมือนว่าเวรกรรมกำลังตามทันสตรีผู้นั้น “ไม่ทราบ คุณหนูเฟินก็บอกไม่ได้ว่าเป็นฝีมือใคร เพราะบริเวณนั้นไม่มีใครอยู่เลยแม้แต่คนเดียว” ‘ก็คงไปสร้างศัตรูเอาไว้มาก เลยมีคนมาเอาคืน’ “เจ้าอยากกินอะไรเพิ่มหรือไม่ พี่จะสั่งให้” สิ้นเสียงของรองเจ้ากรมยุติธรรม ก็มีบุรุษสองคนเปิดประตูห้องส่วนตัวเข้ามา “มิรบกวนท่านรอ

  • พี่ชายเจ้าขา ข้าไม่ใช่นางเอกของท่าน   บทที่ 14 ว่าที่น้องเขยของอวี้ลู่หมิง (1/5)

    14 ว่าที่น้องเขยของอวี้ลู่หมิง ด้านบนของหอขายข่าวมีบุรุษสองคนนั่งมองกลุ่มคนด้านล่างด้วยสายตาเรียบเฉย นิ้วแกร่งหยิบถั่วในจานก่อนจะโยนเข้าปาก หากไม่ได้มาหนานโจวด้วยในคราวนี้ ตนก็คงไม่รู้ว่าแท้จริงนายท่านเฟยเจ้าของหอขายข่าวที่ยิ่งใหญ่และหอประมูลแห่งนั้นคือสหายผู้นี้ แม้จะรับรู้

  • พี่ชายเจ้าขา ข้าไม่ใช่นางเอกของท่าน   บทที่ 13 อยู่หนานโจวก็ยังพบเจอสตรีดอกบัวขาว (5/5)

    “พี่รองน่ะสิเจ้าคะ คะนึงหาพี่เลี่ยงรุ่ยจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ข้าและพี่ใหญ่จึงต้องพากันเดินทางมาที่หนานโจว” “ซีเยว่เจ้าล้อพี่เล่นแล้ว” อวี้ลู่เสียนกล่าวด้วยท่าทีเขินอาย จนบุรุษตระกูลเฟินกำมือแน่น “ข้าพูดความจริงเจ้าค่ะ” “เราไปนั่งคุยกันในเหลาแห่งนั้นดีหรือไม่ จะได้คุยไปกินข้าวไป” ในสายตาอวี้ซีเยว่ตอนนี้ พี่ชายซ่างกวนป๋อช่างรู้ใจนาง กินอาหารเลิศรสไปด้วยคุยกันไปด้วยดีที่สุด “เช่นนั้นข้า...” คุณหนูเฟินตั้งใจจะเอ่ยปากแต่โดนอวี้ลู่เสียนเอ่ยขัดขึ้นเสียก่อน “เช่นนั้นเราสี่คนรีบไปกันเถิดเจ้าค่ะ” คำจำกัดจำนว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status