หน้าหลัก / โรแมนติก / พี่ชายเพื่อน / บทที่ 9 รอยยิ้มกับแสงตะวัน (1)

แชร์

บทที่ 9 รอยยิ้มกับแสงตะวัน (1)

ผู้เขียน: กวินทร์แก้ว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-11-19 10:25:34

บทที่ 9

รอยยิ้มกับแสงตะวัน

เสียงคลื่นกระทบฝั่งเป็นระลอกในยามสายของวันให้บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบายหลังฝนเทกระหน่ำลงมาเมื่อคืน เซนนิก้าก้าวเดินออกมาในระยะห่างที่มากพอจะไม่ให้คนในวิลลาออกมาได้ยิน เมื่อสายทางไกลติดต่อมาในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยเหมาะสมเสียเท่าไรสำหรับชายหนุ่ม แม้เขาจะรู้ว่าไม่นานเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้น เพียงแต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นรวดเร็วแบบนี้ หากเมื่อก่อนยังไม่พบกับเชอเอม ก็คงมองว่ามันก็ช้าไปอยู่ดีกับเรื่องที่สักวันหนึ่งเขาจะต้องกลับไปจัดการในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวตระกูล

ปาเนสบากาเรซ

แววตาคมกริบมองชื่อของบุคคลที่ต่อสายเข้ามาด้วยเบอร์ต่างประเทศอย่างชั่งใจชั่วครู่ ก่อนจะกดรับสายในที่สุด ทว่ายังไม่ยอมกรอกเสียงออกไป จนคนปลายสายต้องเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอยู่ในที

“แกจะกลับเมื่อไร”

น้ำเสียงแหบพร่าไปตามวัยที่ชราขึ้นส่งเสียงเข้มถาม เมื่อคนที่เป็นหลานชายคนโตดื้อดึงที่จะไม่ยอมกลับไปรับช่วงต่อกิจการครอบครัว นับตั้งแต่เลิกรากับเอเรียน่า หลานชายคนนี้ก็หนีหายไปจากครอบครัวตามน้องของตัวเอง แค่เรื่องที่ยอมช่วยน้องชายให้ยกเลิกงานแต่งได้ก็มากพอแล้ว ตนยังไม่หายโกรธเลยแม้จะผ่านมาหลายปีก็ตาม

ตั้งแต่พ่อแม่ของหลานทั้งสองคนเลือกที่จะไปเที่ยวรอบโลกหลังทำงานจนเหนื่อยและอยากพัก หวังจะให้ลูกชายทั้งสองรับช่วงต่อ แต่ไม่คิดเลยว่าลูกทั้งสองจะไม่ยอมเชื่อฟังผู้เป็นปู่ที่ได้กลับมารับตำแหน่งตั้งแต่ลูกชายคนโตเลือกที่จะสละตำแหน่งผู้กุมอำนาจสูงสุดของตระกูล จึงเลือกที่จะปล่อยให้ปู่จัดการครอบครัวรวมถึงเซนนิก้าและซิกก้า แต่ไม่คิดเลยว่าหลานชายทั้งสองจะเลือกไม่สนใจครอบครัวตัวเองเช่นนี้ ผู้เป็นปู่จึงต้องจัดการด้วยตัวเอง

ทั้งที่ก่อนหน้านี้ส่งลูกน้องไปตามหลานทั้งสองคนก็ถูกส่งกลับมาด้วยสภาพดูไม่ได้สักคน ไม่แขนขาหักก็นอนหยอดน้ำข้าวต้ม บางคนถูกส่งเข้าเรือนจำที่ไทย ครั้นจะเข้าไปช่วยลูกน้องในเรือนจำก็ไม่คุ้มกับเงินที่จะเสีย

ครานี้ตนจะต้องลงมือด้วยตัวเอง ถึงได้ตัดสินใจต่อสายโดยตรงมาถึงหลานคนโต เมื่อหลานคนเล็กติดต่อไม่ได้คล้ายจะเป็นบุคคลสูญหายอย่างไรอย่างนั้น แต่ก็พบว่าหลานคนเล็กก็คอยไปมาหาสู่กับหลานชายคนโต แม้จะไม่บ่อย แต่ตนก็รู้ว่าเซนนิก้าทราบดีว่าซิกก้าอยู่ที่ไหน

“ฉันถามว่าแกจะกลับเมื่อไร”

เมื่อเซนนิก้าไม่ยอมตอบคนเป็นปู่เสียที ปู่จึงเอ่ยเสียงเข้มถามขึ้นอีกครั้ง ติดจะหงุดหงิดอยู่ในทีไม่น้อย กับสิ่งที่หลานชายคนโตเริ่มดื้ออย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“ปู่ครับ ผมจะกลับ...แต่กลับไปจัดการให้เรียบร้อยแล้วจะกลับมาที่นี่ ส่วนที่นั่น...” เขาเงียบลงอีกครั้ง ก่อนจะพูดออกไปตามตรง “ให้คาซัสดูแลเถอะครับ”

“แกก็รู้ว่าฉันไม่ไว้ใจใครนอกจากครอบครัวแก” ผู้เป็นปู่ตวาดกลับมาอย่างเดือดดาล

“ปู่ครับ ผม...” ชายหนุ่มกำลังจะพูดถึงเรื่องเชอเอมให้ผู้เป็นปู่ทราบ แต่ก็ถูกปู่ขัดเสียก่อนด้วยเรื่องที่เขากำลังจะพูด

“ฉันรู้ว่าแกกำลังจะพูดอะไร...แกจะรักจะชอบใครฉันไม่ห้าม แต่แกต้องกลับมาดูแลที่นี่”

“ครอบครัวอามาคลอสเขาทุ่มเทให้กิจการของปู่มากกว่าพวกผม ยังไงผมคงเลือกแค่กลับไปเคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อย ที่เหลือปู่จัดการให้กับอามาคลอสนะครับ...ผมตัดสินใจแล้ว” เขาให้คำตอบที่ได้ตัดสินใจแล้วอย่างไม่คิดเปลี่ยนใจอีก

“แต่ก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือนแกบอกจะยอมกลับ...แกจริงจังกับลูกเจ้าของบริษัทจิวเวลรีนั่นจริง ๆ หรือเซน” ผู้เป็นปู่เอ่ยถาม แม้ในใจจะรู้ว่าหลานชายคนโตเป็นคนเช่นไร และรู้ว่าหากตัดสินใจอะไรไปแล้วก็ยากที่จะเปลี่ยนใจ หากไม่มีเรื่องที่สำคัญต่อความรู้สึกของเซนนิก้าจนเกิดการเปลี่ยนใจอีกครั้ง

“ครับ” เขาตอบกลับเพียงคำสั้น เพราะรู้ว่าผู้เป็นปู่คงทราบเรื่องของตนมากพอที่จะรู้ว่าเชอเอมเป็นใคร มีพื้นเพครอบครัวเช่นไรแล้ว

“กลับมาที่นี่ให้เร็วที่สุด” ผู้เป็นปู่ออกคำสั่งเด็ดขาดแล้วกดวางสายทันที

เซนนิก้าดึงสมาร์ตโฟนมาอยู่ในระดับสายตาเมื่อถูกผู้เป็นปู่ตัดสาย แสดงให้ชายหนุ่มได้เห็นว่าจะไม่ยอมให้กับพวกเขาอีกต่อไป และบอกให้รู้ว่าเขาจะต้องกลับอิตาลีให้เร็วที่สุด สายตาคมของเขาชำเลืองมองไปที่วิลลา นึกถึงคนที่กำลังนอนหลับสบายในห้องนอนอย่างเป็นกังวลเมื่อ ‘ครอบครัว’ ของเขาที่ทิ้งมานานหลายปีกำลังจะฉุดรั้งเขาให้กลับไป เพราะคำพูดของผู้เป็นปู่คงไม่ยอมปล่อยผ่านเหมือนครั้งในอดีตอย่างเด็ดขาด

เขาจะทำอย่างไรกับครอบครัวนี้

แม้ในคราแรกเขาจะมุ่งมั่นที่จะรับช่วงต่อก็เพื่อเอเรียน่าในตอนที่คบหากัน ทว่าเมื่อยามเลิกรา เขาเสียศูนย์จนพบว่าชีวิตแบบนี้มันดีที่สุดสำหรับเขา มันดีกว่าการที่เขาจะต้องกลับไปที่อิตาลีเป็นแน่ เพราะที่นี่ไม่เคยทำให้เขาเกิดความลังเลที่จะอยู่ต่อหรือกลับไปแม้แต่วันเดียว ทว่าการจะกลับไปกลับเกิดความลังเลมากมายจนยากที่จะตัดสินใจเช่นนี้

ไม่ใช่แค่ห่วงเชอเอม แต่เขากลัวที่จะจากกับหญิงสาว กลัวว่าหากตัวตนของเขาเปิดเผยแล้ว จะทำให้เธอจากไป ไม่รู้หรอกว่าสาวเจ้ารับรู้เรื่องของตนมากน้อยแค่ไหน แต่เขาเชื่อว่าเธอคงรู้จักพื้นเพครอบครัวของเขาอยู่บ้างจากซิกก้าเป็นแน่ ทว่าสิ่งที่เขามั่นใจก็คือเธอคงไม่รู้ลึกไปมากกว่านี้ หากรู้จริงก็คงไม่ตัดสินใจยอมเดินหน้าสร้างความสัมพันธ์กับเขามาร่วมสามเดือนเช่นนี้ และหากว่าเขาเลือกที่จะกลับไป แม้ผู้เป็นปู่จะไม่ได้ห้ามที่จะคบหากับสาวเจ้า แต่เขารู้ว่าสถานที่แห่งนั้นไม่เหมาะสมกับเชอเอม ความรู้สึกกลัวจึงปะทุขึ้นยามที่สายจากผู้เป็นปู่ติดต่อมาเช่นนี้

เขาถึงได้กลัว...กลัวว่าจะเสียเธอไป

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 9 รอยยิ้มกับแสงตะวัน (4)

    มีหรือเธอจะยอมอยู่เฉย แค่ยอมให้เขาป้อนด้วยช้อนของเขายังไม่พอหรอก คิดได้แล้วมือเล็กก็ใช้ช้อนตัวเองตักเนื้อปลากะพงยื่นไปตรงหน้าเขาทันที เขามองสาวเจ้าด้วยรอยยิ้มอย่างไม่คิดอะไร อ้าปากรับเนื้อปลากินทันที ทั้งสองผลัดกันป้อนบ้าง กินข้าวกันเองบ้าง จนอาหารที่สั่งมาหมดเกลี้ยงและพากันออกมาจากร้านอาหารก็เกือบบ่ายโมงแล้วแดดจ้ากำลังพอดี แต่ไอความร้อนก็ทำให้คนที่กำลังเดินไปตามทางถนนเหงื่อตกจนกระทั่งเดินไปเจอกับร้านเล็ก ๆ ของชาวบ้านซึ่งตั้งขายน้ำแข็งใส แต่ทว่าด้านหน้าร้านตั้งป้ายว่า ‘โอ้เอ๋ว’ คิ้วทรงสวยขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย ไม่วายคว้าแขนของชายหนุ่มให้เดินตรงไปยังร้านที่เป็นเป้าหมายทันที ก่อนจะเอ่ยถามเมื่อเดินมาถึงร้าน“โอ้เอ๋วคืออะไรเหรอคะ ไม่ใช่น้ำแข็งใสเหรอคะ” ถามออกไปด้วยความสงสัยเต็มประดา“หม้ายช่าย โอ้เอ๋วคือวุ่น หรอยแรง ลองกินม้าย” คนขายพูดภาษาใต้ตอบกลับมา“ขอสองถ้วยค่ะ” สาวเจ้าตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มแม้จะไม่ค่อยรู้ว่ามันคืออะไร แต่ค่อยกลับไปหาข้อมูลก็ไม่สาย แต่สิ่งหนึ่งที่เธอรู้เรื่องก็เห็นจะเป็นภาษาใต้ที

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 9 รอยยิ้มกับแสงตะวัน (3)

    หลังจากกินไอศกรีมกันจนอิ่มท้อง ทั้งคู่ก็พากันออกไปเดินเล่นตามถนนย่านเมืองเก่า พลางหามุมถ่ายรูป ผลัดกันถ่ายรูปบ้างเซลฟีบ้าง และมันทำให้เขารู้สึกถึงความสุขที่แท้จริงในฐานะของผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่เดินไปทางไหนก็ไม่มีคนรู้จัก มองเขาเป็นเพียงคนแปลกหน้าหรือไม่ก็นักท่องเที่ยว แตกต่างจากที่อิตาลี ที่ไปไหนจะต้องมีลูกน้องเป็นสิบคนเดินตามไปด้วยทุกที่ แม้แต่เข้าห้องน้ำก็ต้องเข้าคนเดียว มีลูกน้องกันเอาไว้ข้างนอก ความเป็นส่วนตัวและการได้เดินเล่นอย่างไม่กังวลเช่นนี้น่ะหรือ...ไม่มีหรอกและยิ่งได้เดินกับคนที่ทำให้หัวใจสั่นไหวด้วยแล้วยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลยแม้สักนิด การได้พบและได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเชอเอมทำให้เซนนิก้าต้องเปลี่ยนแผนชีวิตใหม่ทั้งหมดในความตั้งใจของชายหนุ่ม เพราะหญิงสาวได้กลายมาเป็นคนสำคัญในชีวิตของเขาไปเสียแล้ว และคงมีเรื่องยุ่งยากตามมาอีกไม่นาน เขาจะต้องวางแผนรับมือให้ดีที่สุด หากเขาจะรั้นคำสั่งของผู้เป็นปู่ก็คงไม่มีอะไรราบรื่นเป็นแน่ ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาอีกต่อไปยามที่ได้กลับอิตาลีใช่ อีกไม่นานเขาจะต้องกลับอิตาลี กลับไปเคล

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 9 รอยยิ้มกับแสงตะวัน (2)

    สายฝนที่กระหน่ำตกลงมาในวันที่สองของการมาเที่ยวภูเก็ตทำให้เชอเอมและเซนนิก้าไม่สามารถออกไปเที่ยวไหนได้เลย กระทั่งในวันที่สาย ฝนที่เคยตกก็หายไปราวกับว่าไม่มีมาก่อน ท้องฟ้าแจ่มใสจนคิดว่าเป็นหน้าร้อน แต่สำหรับหญิงสาวแล้ว ถือเป็นวันดีที่ทำให้ไม่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในห้อง และเธอเองก็อยากออกมาเที่ยวในเมืองภูเก็ตมากกว่าจะนั่งมองคลื่นทะเลกระทบโขดหินที่วิวห้อง และสถานที่แรกที่เธอกับเซนนิก้ามาตามแพลนที่ฟ้าครามให้ไว้ก็ไม่พ้นร้านของกิน“อร่อยใช่มั้ยคะ” เชอเอมเอ่ยถามเซนนิก้าเมื่อได้กินไอศกรีมเจ้าดังที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยจนมีแต่คนนำไปขึ้นเว็บไซต์รีวิวอย่างร้าน Torry's Ice Cream ที่ตั้งอยู่บนถนนถลางแห่งย่านเมืองเก่าจังหวัดภูเก็ต หลังจากรอให้ฝนหยุดตกมาหนึ่งวันเต็ม ๆ และมันก็เป็นวันที่ดีสำหรับเธอกับเขากับท้องฟ้าแจ่มใสแดดจ้า ราวเป็นใจให้หญิงสาวและชายหนุ่มได้ออกมาท่องเที่ยวและสำรวจพื้นที่ภูเก็ตไปด้วย“อืม อร่อย”“เอมมาครั้งนี้ก็ครั้งที่สอง ครั้งแรกที่มาก็ตอนแวะเพราะหิว หลังจากนั้นก็ไม่ได้มาอีกเลย” เชอเอมยิ้มกว้าง ภูมิใจกับสิ่งที่

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 9 รอยยิ้มกับแสงตะวัน (1)

    บทที่ 9รอยยิ้มกับแสงตะวันเสียงคลื่นกระทบฝั่งเป็นระลอกในยามสายของวันให้บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบายหลังฝนเทกระหน่ำลงมาเมื่อคืน เซนนิก้าก้าวเดินออกมาในระยะห่างที่มากพอจะไม่ให้คนในวิลลาออกมาได้ยิน เมื่อสายทางไกลติดต่อมาในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยเหมาะสมเสียเท่าไรสำหรับชายหนุ่ม แม้เขาจะรู้ว่าไม่นานเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้น เพียงแต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นรวดเร็วแบบนี้ หากเมื่อก่อนยังไม่พบกับเชอเอม ก็คงมองว่ามันก็ช้าไปอยู่ดีกับเรื่องที่สักวันหนึ่งเขาจะต้องกลับไปจัดการในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวตระกูลปาเนสบากาเรซแววตาคมกริบมองชื่อของบุคคลที่ต่อสายเข้ามาด้วยเบอร์ต่างประเทศอย่างชั่งใจชั่วครู่ ก่อนจะกดรับสายในที่สุด ทว่ายังไม่ยอมกรอกเสียงออกไป จนคนปลายสายต้องเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอยู่ในที“แกจะกลับเมื่อไร”น้ำเสียงแหบพร่าไปตามวัยที่ชราขึ้นส่งเสียงเข้มถาม เมื่อคนที่เป็นหลานชายคนโตดื้อดึงที่จะไม่ยอมกลับไปรับช่วงต่อกิจการครอบครัว นับตั้งแต่เลิกรากับเอเรียน่า หลานชายคนนี้ก็หนีหายไปจากครอบครัวตามน้องของต

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 8 ไม่รู้จะหึงหรือจะเอ็นดูดี (4)

    เพื่อให้ได้เธอกลับไป ให้เธอตายใจก็เป็นได้“พี่โอนเงินยี่สิบล้านยูโรเข้าบัญชีโรงแรมที่นี่เพื่อให้ได้เป็นหุ้นส่วนและที่บาร์ของเอมอีกห้าล้านยูโรกับซิกไปแล้ว...ก็เพราะพี่หวงเอม” เขาตอบกลับหน้าตาเฉยอย่างไม่ยี่หระทว่าคนฟังคำตอบไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาอย่างที่เขาใช้น้ำเสียงโทนปกติ อุทานออกไปด้วยความตกใจอย่างที่สุด“อะไรนะคะ! พี่ต้องได้รับความกระทบกระเทือนที่หัวแน่ ๆ เลย” เธอพูดออกไปพร้อมกับดึงทิชชูออกจากจมูก“ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น พี่แค่อยากให้เอมอยู่ในสายตาพี่ตลอด เวลาเอมจะไปไหน ทำอะไร พี่จะได้รู้ว่ามีใครมาเกาะแกะเอมไหม” เขายังคงตอบกลับมาเสียงเรียบเรื่อยอย่างปกติแต่ทว่าไม่ใช่เรื่องปกติของเชอเอมน่ะสิ“นี่พี่...” เธอพูดไม่ออกจริง ๆ กับความใจป๋าของชายหนุ่ม“พี่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มีความรู้สึก ความต้องการเหมือนซิกก้าที่อยากเลือกความรักเอง แค่เพิ่งรู้ตัวว่าหวั่นไหวกับเอมก็เท่านั้น แปลกตรงไหนที่พี่จะหึงจะหวง” เขายังคนตอบด้วยน้ำเสียงโทนเดิมจนเชอเอมทนไม่ไหว“พี่จะมา

  • พี่ชายเพื่อน   บทที่ 8 ไม่รู้จะหึงหรือจะเอ็นดูดี (3)

    ยกเว้นคราวนี้นะ เธอแค่อยากใช้เวลากับเซนนิก้าเพื่อค้นหาคำตอบให้กับหัวใจตัวเองมากขึ้น ให้มันชัดเจนมากกว่านี้จนแน่ใจว่าตัวเองจะไม่ปฏิเสธและก่อกำแพงขึ้นมาอีก ทว่าเท้าที่กำลังก้าวเดินพ้นเขตวิลลาของตัวเองก็ต้องชะงักเมื่อเสียงของฟ้าครามตะโกนเรียกเอาไว้เสียก่อน สาวเจ้าจึงหันกลับไปมองแล้วส่งยิ้มไปให้“จะไปเอามื้อเช้าเหรอ”“ค่ะ กินมื้อเช้าก็ว่าจะออกไปเที่ยว จริงสิคะ พี่ครามช่วยลิสต์มาให้เอมได้ไหมคะว่ามีที่ไหนแนะนำบ้าง เอมขี้เกียจเสิร์ชดูอ่ะ”เชอเอมพูดออกไปตามตรงพร้อมสีหน้าหยีเมื่อพูดถึงความขี้เกียจของตัวเองให้ฟ้าครามได้หัวเราะออกมาอย่างเอ็นดูกับนิสัยของรุ่นน้องคนนี้ที่เป็นลูกคุณหนูตัวจริง แต่ยังดีที่มีจิตใจดี ไม่เห็นแก่ตัว“ได้สิ เดี๋ยวจะสงเคราะห์ แต่ขอแกล้งเขาอีกสักหน่อยก็แล้วกัน” ฟ้าครามยิ้มหัวเราะตอบออกไป พลางชำเลืองมองเซนนิก้าที่กำลังยืนมองออกมาจากหน้าต่างวิลลาด้วยสายตาข่มขู่ไม่เป็นมิตร ราวกับว่าเขาเป็นศัตรูของเจ้าตัวมานาน“แค้นฝังหุ่นจังเลยนะคะ”“แน่นอน แฟนทั้งคนนะ มาขัดขวางความรักคนอื่นหน้าตา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status